ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #32 : Au Loki

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 57


     

     

    “ไม่นะ!” เวนเดลล่าร้องลั่นแล้วถลาออกไปเพื่อพยายามที่จะหนีออกจากห้องนั้น   ทว่าชายร่างสูงใหญ่กลับผลักเธอเข้าไปกระแทกกับผนังด้านในห้องเป็นเสียงดังโกร่งกร่างและปิดประตูลงตามหลัง
     

    เธอรู้สึกราวกับประตูนรกได้ปิดลง...
     

    อากาศภายในห้องร้อนขึ้นเรื่อยๆ   เวนเดลล่าเดาได้ไม่ยากว่าเหนือขึ้นไปบนห้องนี้จะต้องเป็นกระถางคบเพลิงภายในท้องพระโรงของพระบิดาเทพโอดินเป็นแน่   เพราะว่าฟืนเริ่มปรากฏขึ้นด้วยเวทมนตร์และทับถมร่างของเธอมากขึ้นเรื่อยๆจนหายใจไม่ออก
     

    เธอกำลังจะถูกเผาทั้งเป็น...
     

    หญิงสาวรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีสร้างเกราะน้ำแข็งขึ้นปกคลุมร่างกายของตัวเองเอาไว้   นั่นทำให้รอยสักสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้นจางๆบนผิวก่อนจะเข้มขึ้นเรื่อยๆตามระดับของพลังที่ถูกใช้  
     

    ถึงแม้ว่าจะถูกเปิดเผยตัวตนก็ไม่เป็นไร...อย่างน้อยก็เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่และได้กลับไปหาท่านพ่อ...
     

    เธอไม่มีวันลืมสัญญาในวันนั้น...
     

    วันที่เธอละทิ้งตัวตนในอดีต ก้าวสู่แอสการ์ดในฐานะทายาทอันชอบธรรมของเทพีแห่งวายุ แรน
     

    ไฟสีทองถูกจุดขึ้นแล้ว   ร่างเล็กขยับขดตัวเข้าหากันที่มุมห้องหนีความร้อนของเปลวเพลิงและเร่งพลังถึงขีดสุดจนกระทั่งผิวของเธอเต็มไปด้วยรอยสักประหลาดสีน้ำเงินตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้า   เวนเดลล่ารู้สึกราวกับผิวถูกแผดเผาแม้ว่าเธอจะไม่สัมผัสต้องเปลวเพลิงนั้นโดยตรง   ความร้อนระอุภายในเตาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนน้ำแข็งที่ห่อหุ้มร่างกายเริ่มละลายและระเหยไป
     

    ควันไฟจากฟืนไม้ทำให้เธอรู้สึกแสบจมูกและลำคอไปหมด   มันทรมาน...ทรมานเสียจนอยากจะตายไปเสียให้พ้นๆ
     

    ภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนลงเรื่อยๆ   ร่างบางที่นั่งกอดเข่าอยู่ในมุมเตาทิ้งตัวลงแนบพื้นโลหะที่ร้อนจนแนบเนื้อเป็นรอยไหม้แดง   บางที...ความตายอาจจะไม่ทรมานก็เป็นได้
     

    ท่านพ่อ ท่านแม่...ข้าคงทำตามสัญญาไม่ได้แล้ว...
     

    ข้ารักพวกท่าน...รักมาก...และจะรักตลอดไป...
     

    ข้าจะยอมรับเจ้าสักครั้งก็ได้
     

    ใบหน้าหล่อเหลาของใครคนหนึ่งปรากฏขึ้นในหัว   เธอยังจำได้ดี...ดวงตาสีเขียวสวยคู่นั้นที่จ้องมองมาด้วยแววตาอ่อนโยนเสมอ
     

    อา...ข้ายังไม่ได้บอกลาท่านเลยสินะ...
     

    “โล...กิ...”

     

     

    “เวนเดลล่า!!!
     

    เสียงทุ้มนุ่มร้องลั่นก่อนที่เปลวเพลิงสีทองจะถูกดับลงด้วยอำนาจของพระบิดาเทพ   โลกิใช้เวทมนตร์โกยฟืนที่ไหม้เป็นถ่านแดงฉานออกมาด้วยความร้อนรน   ทันใดนั้นเองเขาก็พบหญิงสาวร่างเล็กคนนั้นในที่สุด
     

    ดวงตาสีเขียวมรกตไหววูบเมื่อเขาดึงตัวเธอออกมาจากเตาเผาร้อนระอุนั้น   ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลไฟลวกอย่างรุนแรง เหนือสิ่งอื่นใดร่างกายของนางยังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำและมีรอยสักสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้นเต็มไปหมด   หน้าอกของนางขยับขึ้นลงอย่างอ่อนแรง
     

    นางกำลังจะตาย...!
     

    “ตามหน่วยแพทย์มา! เร็วเข้า!” ธอร์ตะโกนสั่ง   ก่อนที่กลุ่มแพทย์หลวงจะวิ่งกรูกันเข้ามาพาร่างอันบอบช้ำและเต็มไปด้วยบาดแผลรุนแรงของเวนเดลล่าออกไปยังห้องเยียวยา
     

    โลกิมองเส้นผมสีขาวเหลือบเงินที่ปลิวสยายทิ้งท้ายก่อนจะหายลับไปในทางเดินปราสาทด้วยแววตาสั่นระริก   ไม่นะเวนเดลล่า...เจ้าจะต้องไม่เป็นไร...

    ---------------------------------------------------------------------------

     

    หลังจากที่บาดแผลทั้งหมดหายดีแล้ว   เวนเดลล่าก็ถูกทหารองครักษ์พาตัวมายังท้องพระโรงแทบจะในทันที   ณ ที่นั้นมีโอดิน ฟริกก้า ธอร์และสหายของเขารออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว...รวมถึงชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของดวงตาสีมรกต อาจารย์ของเธอด้วย
     

    “โลกิได้บอกความจริงกับข้าแล้วส่วนหนึ่ง” ชายชราผู้ประทับอยู่เหนือบัลลังก์ตรัสด้วยสุรเสียงอ่อนโยน “ข้าอยากได้ยินความจริงจากปากของเจ้า”
     

    นัยน์ตาสีแดงสวยหลุบต่ำมองพื้นเล็กน้อย   ก่อนที่จะช้อนขึ้นมามองกษัตริย์แห่งแอสการ์ดด้วยแววตาที่แน่วแน่และมั่นคงกว่าเดิม
     

    “ถ้าหากสิ่งที่องค์ชายโลกิเล่าให้ฝ่าบาทฟังเป็นเรื่องที่หม่อมฉันเล่าให้เขาฟังในห้องรักษา...หม่อมฉันก็ขอยืนยันด้วยตัวหม่อมฉันเองว่าเป็นเรื่องจริงเพคะ”
     

    “หม่อมฉันเป็นเลือดผสม   ไม่ใช่ระหว่างชาวมิดการ์ดแต่เป็นยักษ์น้ำแข็งเพคะ”
     

    คำตอบนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรงตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งโอดิน   แม้ว่าเขาจะรู้จากลูกชายคนเล็กมาก่อนแล้วแต่ก็ไม่คาดคิดว่าสาวน้อยจะกล้าพูดออกมาตรงๆเช่นนี้
     

    “บิดาของข้าเป็นทหารองครักษ์ของราชาลาฟฟี่” ดวงตาสีแดงเข้มอันเป็นลักษณะโดดเด่นของเผ่าพันธุ์ยักษ์น้ำแข็งทอประกายอ่อนลง

                “ท่านพ่อพบกับมารดาข้าตอนที่แอสการ์ดยกทัพไปทำสงครามกับโยธันไฮม์   เขาได้ช่วยเหลือท่านแม่ที่บาดเจ็บเอาไว้   แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็แอบลักลอบมาพบกันเสมอๆจนกระทั่งท่านแม่ให้กำเนิดข้า”

     

    สีหน้าของเด็กสาวแปรเปลี่ยนเป็นสดใสครู่หนึ่งก่อนที่จะกลับมาหมองเศร้าตามเดิม “เมื่อนานวันเข้าทหารคนอื่นๆจึงได้สงสัยและนำความไปทูลราชาลาฟฟี่   ทำให้ครอบครัวของข้าถูกตามล่า   ท่านพ่อไม่อยากให้ข้ากับแม่ถูกจับจึงได้พาข้ากับท่านแม่หนีออกมายังแอสการ์ด   ทำให้เขาถูกจับกลับไป”
     

    “แล้วทำไมเจ้าถึงได้เข้ามาในปราสาทล่ะ?” โอดินตรัสถาม
     

    “ไม่ใช่...น้ำพุแห่งความเยาว์วัยใช่ไหม?” แฟนดรัลเอ่ยขึ้นลอยๆ   แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินพยักหน้ารับจริงๆ
     

    “เจ้าค่ะ...ข้ามาที่นี่เพื่อรับการทดสอบการเป็นเทพ และเพื่อน้ำพุนั่น” เวนเดลล่าเม้มปากเข้าหากัน “เพราะร่างกายของข้านั้นอ่อนแอตั้งแต่เกิดด้วยพลังของยักษ์น้ำแข็งจากท่านพ่อที่ยังไม่สมดุล   น้ำพุแห่งความเยาว์วัยจะช่วยปรับสมดุลในร่างกายข้าเจ้าค่ะ”
     

                ...และทำให้ข้ามีชีวิตยืนยาวนานกว่าที่เป็นอยู่นี้

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×