ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #31 : เมืองหมอกแดง

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 57





     

    “หยุดแค่นั้นล่ะครับคุณหนู”
     

    มือที่กำลังจะง้างออกทะลวงหัวใจของคนที่บังอาจมาล้อเล่นกับความตายหยุดชะงักเมื่อถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยโซ่สีเงินเส้นบางทว่าแข็งแกร่งกว่าที่ลาเซลคิดเอาไว้มาก   เด็กหญิงพยายามกระชากมือกลับเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหลุดจากโซ่เส้นนั้นได้เลย
     

    “อย่าดีกว่าครับ   ผมไม่อยากให้คุณมีรอยตำหนิก่อนไปถึงบอสน่ะครับ   เดี๋ยวพวกผมจะซวยเอา”
     

    “บอส?” ดวงตาสีโลหิตทอประกายสงสัยขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง “หมายถึงหัวหน้าของกลุ่มอุโรโบรอสของพวกคุณเหรอคะ?”
     

    ชายกลางคนหรี่ตาลง   เด็กคนนี้รู้เรื่องอุโรโบรอสด้วยหรือ?
     

    “พวกนี้บอกน่ะค่ะ” เด็กหญิงหันไปยังกลุ่มของพวกอัลเวียสที่กำลังกอดกันกลมดิกเป็นลูกบอลพลางดูฉากสังหารโหดอย่างใกล้ชิดโดยไม่กล้าขยับไปไหน
     

    “ถ้าอย่างนั้นผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากสินะ...บอสของเราต้องการพบคุณหนูน่ะ”
     

     
     

    อาณาเขตกลางเมืองแห่งนี้คือถิ่นของมาเฟีย   ชาวเมืองหมอกแดงล้วนรู้ดีอย่างยิ่งไม่ว่าเด็กหรือคนแก่   ศูนย์กลางของเมืองคือตึกสูงสีขาวสะอาดอันเป็นฐานใหญ่ของกลุ่มติดอาวุธอุโรโบรอส กองกำลังต่อต้านสหพันธรัฐเทลซาร์ที่ใหญ่ที่สุดของทวีปตะวันตกแห่งนี้
     

    และเป็นจุดหมายปลายทางของลาเซลซึ่งถูกอัลเลน ชายกลางคนผู้มีรอยบากตรงแก้มขวาพาตัวมา
     

    เด็กหญิงมองสิ่งแปลกใหม่ที่ได้พบเห็นนอกจากต้นหญ้าเรดแฟงก์ซึ่งเธอได้เข้าไปล้างบางพวกมันมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ด้วยดวงตาเป็นประกายทั้งๆที่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย   จนกระทั่งอัลเลนได้พาเธอเข้ามาในห้องห้องหนึ่งซึ่งมีลักษณะลึกและแคบ   สองฝั่งของห้องนั้นมีตู้สีขาวสูงเรียงรายเต็มไปหมดจนกระทั่งไปจบลงยังบานประตูสีขาว
     

    ย้ำชัดๆ ว่ามีแต่สีขาว
     

    ให้ตาย...ถ้าอยู่ที่นี่นานๆตาจะบอดมั้ยเนี่ย
     

    “เสื้อผ้าอยู่ในตู้   ห้องน้ำอยู่สุดท้าย   จัดการให้เรียบร้อย...บอสให้เวลาคุณจัดการตัวเองหนึ่งชั่วโมง” อัลเลนพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป   แถมด้วยการล็อคประตูจากด้านนอกอีกต่างหาก
     

    ต้องการไม่ให้เธอหนีไปจริงๆด้วยสินะ...
     

    ลาเซลหยิบเสื้อผ้าที่เข้าคู่กันมาจากตู้หนึ่งชุดแล้วถือผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา   ประตูถูกเปิดออกโดยชายกลางคนหน้าบากนามอัลเลนเหมือนเคย   แต่ที่ต่างออกไปคือด้านหลังของเขามีบอดี้การ์ดสูทดำขององค์กรยืนเรียงแถวอยู่ราวๆสี่คนด้วย   นอกจากนั้นดาบของเธอยังอยู่ในกระเป๋านิรภัยมิดชิดกับผู้ชายที่ร่างใหญ่ที่สุดในนั้นด้วย
     

    อัลเลนเลิกคิ้วเล็กน้อยกับการแต่งตัวของเด็กหญิง   ลาเซลสวมเสื้อแขนกุดรัดรูปทับด้วยเสื้อโค้ทหนังยาวระดับเข่า   เข้ากับกางเกงยีนส์ขาสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยและรองเท้าบูทยาว   แน่นอนว่าทั้งหมดนั้นเป็นสีดำล้วนทั้งสิ้น
     

    “นี่คุณหนู...เธอมีปมอะไรกับสีดำรึเปล่า” ชายหนุ่มผมแดงที่น่าจะอายุน้อยที่สุดในกลุ่มนั้นถามขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้าง   เมื่อเห็นอีกฝ่ายมองมาด้วยสายตาสงสัยแล้วจึงพูดต่อไปว่า “ขอโทษที่ไม่ได้แนะนำตัวก่อน...ผมชื่อ ทาลอส เป็นบอดี้การ์ดใหม่เมื่อปีที่แล้วครับ”
     

    “ลาเซล...” เด็กหญิงยื่นมือไปจับกับชายหนุ่มคนนั้นด้วยสีหน้าราบเรียบ “ไม่ได้ชอบโดยส่วนตัว   แต่มันทำให้ไม่เห็นคราบเลือด...ก็เท่านั้นเอง”
     

    แล้วก็ติดสตั้นท์กันไปทั้งบาง...
     

    ตลอดทางที่มาไม่มีใครกล้าพูดคุยกับเด็กหญิงอีกเลย   จนกระทั่งทุกคนมาหยุดยังด้านหน้าประตูไม้แกะสลักหรูหราลายมังกรที่มีลักษณะคล้ายงูสองตัวหันหน้าเข้าหากัน   พวกบอดี้การ์ดจึงโค้งให้กับอัลเลนที่น่าจะมียศสูงพอสมควรในองค์กรนี้แล้วก้าวถอยหลังออกไปยืนห่างๆ
     

    ในอาณาเขตของ บอสไม่มีใครสามารถย่างก้าวเข้าไปได้หากไม่ได้รับคำสั่งหรือการอนุญาตจากชายผู้นั้นโดยตรง   โทษทัณฑ์ของผู้ที่ฝ่าฝืนมีเพียงความตายเท่านั้นที่สามารถมอบให้ได้   แม้จะดูโหดเหี้ยมไปหน่อย   ทว่าที่เขาทำอย่างนั้นก็เพื่อให้คนในองค์กรรู้จักที่จะเชื่อฟังคำสั่ง   อีกอย่างค่าตอบแทนของการทำงานในองค์กรนี้ก็สูงลิบลิ่วชนิดที่ว่าสามารถมีกินมีใช้แบบสิ้นเปลืองไปตลอดชีวิตได้สบายๆเลยทีเดียว   เพราะอย่างนั้นทุกคนจึงยำเกรงและยอมสยบอยู่ภายใต้อำนาจของชายผู้นี้อย่างไร้ข้อกังขา
     

    จักรพรรดิไร้บัลลังก์แห่งอุโรโบรอส...
     

    เบื้องหน้าของทั้งสองคือห้องโถงกว้างรูปโดมครึ่งวงกลม   หลังคาโดมเป็นกระจกสีที่เรียงต่อกันเป็นรูปบางอย่างซึ่งลาเซลไม่ทันได้สังเกตให้ชัดๆ   เช่นเดียวกับผนังทั้งหมดซึ่งเป็นกระจกใสหมดทั้งสิ้น   ทำให้สามารถมองเห็นสภาพโดยรอบของเมืองหมอกแดงได้อย่างชัดเจน
     

    เขานั่งอยู่ตรงนั้น   บนเก้าอี้หนังสีดำธรรมดาๆของพนักงานในสำนักงานทั่วไปซึ่งเปรียบกับแท่นบัลลังก์ด้านหลังโต๊ะทำงานซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางของโดมพอดี
     

    “มาตรงเวลาเหมือนเคยเลยนะอัลเลน” เสียงทุ้มนุ่มละมุนของจักรพรรดิแห่งอุโรโบรอสดังขึ้นขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นจากจอภาพโฮโลแกรมมามองหน้าแขกทั้งสอง
     

    เขาเป็นชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบต้นๆ   เส้นผมสีดำขลับดุจขนกาซอยยาวระต้นคอ   ล้อมกรอบใบหน้าหล่อเหลาชนิดที่ว่าผู้หญิงในโลกต้องอ่อนระทวยเมื่อเห็น   รับกับดวงตาสีฟ้าครามเป็นประกายสดใสดุจอัญมณีล้ำค่า   ลาเซลขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยสักประหลาดใต้ดวงตาคู่นั้น   แต่เมื่อกะพริบตาอีกครั้งมันก็หายไป
     

    คงจะตาฝาดล่ะมั้ง? เด็กหญิงสรุปความคิดของตัวเอง
     

    “การมาตรงตามนัดหมายเป็นเรื่องที่สมควรทำครับ” อัลเลนตอบเสียงขรึม   ทว่าใบหน้าของเขากลับดูเจื่อนลง “โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณครับ...บอส”
     

    ชายหนุ่มเอนหลังพิงเก้าอี้ “น่าๆ เลทหน่อยก็ไม่ตายหรอกอัลวิส”
     

    “ผมชื่ออัลเลนครับ”
     

    ลาเซลมองการโต้เถียงของทั้งสองด้วยหัวสมองที่ว่างเปล่า   ผู้ชายคนนี้...เป็นบอสขององค์กรติดอาวุธที่ว่ากล้าต่อกรกับสหพันธรัฐเทลลัสซาร์ซึ่งเป็นสามประเทศมหาอำนาจของทวีปเหนือจริงๆเหรอ
     

    บอสหนุ่มยกมือทั้งสองเป็นการยอมแพ้ “ยอมแล้วคร้าบเออร์เนสตี้   เอาเป็นว่านายช่วยออกไปก่อนได้มั้ย...ฉันจะคุยกับคุณหนูคนนี้เป็นการส่วนตัวนิดหน่อยน่ะ”
     

    “ผมไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งของบอสหรอกครับ   แล้วก็ผมชื่ออัลเลนครับ...ขอตัว”
     

    จากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกไปจากห้อง   สังเกตจากเสียงของฝีเท้าที่ย่ำลงบนพื้นแล้วเขาดูจะหงุดหงิดกับบอสของเขาอยู่ไม่น้อยทีเดียว
     

    “เอาล่ะ” ชายหนุ่มหันมายิ้มให้กับเด็กหญิง “ได้เวลาของเราแล้ว   นั่งลงก่อนสิสาวน้อย”
     

    มือหนาที่สวมทับเอาไว้ด้วยถุงมือสีขาวสะอาดเช่นเดียวกับชุดสูทของเขาผายออก   เผยให้เห็นเก้าอี้นวมสีแดงสดตัวหนึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้นเลย
     

    นัยน์ตาสีแดงเข้มมองเก้าอี้ตัวนั้นอย่างไม่วางใจ “คุณต้องการอะไรจากหนู”
     

    “นั่งลงก่อนสิแล้วฉันจะบอก” นัยน์ตาสีฟ้าสดใสเปล่งประกายพราวระยับ   นั่นทำให้ลาเซลไม่มีทางเลือกนักนอกจากต้องนั่งลงบนเก้าอี้ที่ชายหนุ่มเรียกขึ้นมา   แต่พอนั่งลงไปปั๊บนัยน์ตาสีแดงสวยของเด็กหญิงก็เริ่มมีแววเคลิ้มขึ้นมาเล็กน้อยจากที่เคยราบเรียบมาตลอด
     

    บอสหนุ่มหัวเราะเบาๆในลำคอ “สบายใช่มั้ยล่ะ นี่น่ะเป็นหนึ่งในคอลเล็คชั่นสุดที่รักของฉันเลยนะ”
     

    ลาเซลไม่ตอบแต่กลับหลับตาพริ้มลงเป็นเชิงตอบรับกลายๆกับสิ่งที่คนตรงหน้าพูด  

              
    ฮ้า...มันสบายใจจุงเบย

     

    “ทีนี้เรามาคุยธุระของเรากันต่อนะลาเซลน้อย” บอสหนุ่มประสานมือทั้งสองเอาไว้ข้างหน้า “มีอะไรที่เธออยากจะถามมั้ย”
     

    “คุณเป็นใครกันคะ?” เด็กหญิงเอ่ยถาม
     

    “ฉันชื่อไซน์ทารัล เป็นคนที่เธอกำลังตามหาอยู่ในตอนนี้ล่ะ   อีกนัยหนึ่งก็...เป็นหัวหน้าใหญ่ของกองกำลังอุโรโบรอสนี้ด้วย”
     

    นัยน์ตาสีแดงเข้มเบิกกว้าง “ไซน์ทารัล? คุณน่ะเหรอ ใช่คุณจริงๆใช่ไหม?”
     

    “เธอคงจะมีธุระอะไรบางอย่างกับฉันล่ะสิ” เขาระบายรอยยิ้มอ่อนโยน
     

    เด็กหญิงไม่ตอบ   หากเธอกลับล้วงมือเข้าไปหยิบบางสิ่งบางอย่างออกมาจากห้วงมิติว่างเปล่าที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าและยื่นให้กับไซน์ทารัล

    ---------------------------------------------------------------------------------------------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×