ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #3 : Hakuouki เรื่องวุ่นๆเมื่อความลับแตก

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 54







    “ข้าแขวนป้ายไว้หน้าห้องน้ำเจ้าไม่มีตารึไงฮะ!!!

    เขาไม่สิเธอคว้ายูกาตะสีขาวที่พาดไว้ริมบ่อน้ำร้อนขึ้นมาสวมแล้วผูกสายรัดที่เอวแบบลวกๆเพื่อปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าก่อนที่จะก้าวออกไปเผชิญหน้ากับพวกที่บังอาจเข้ามาตอนที่กำลังอาบน้ำด้วยสีหน้าปานจะฆ่าคนให้ได้     ใบหน้าที่ในตอนนี้ดูคล้ายผู้หญิงมากกว่าก่อนขึ้นสีจัดด้วยความรู้สึกอายเป็นที่สุด    เฮย์สึเกะกับชินปาจิอ้าปากพเยิบพะยาบเหมือนปลาขาดน้ำเมื่อเจอกับสายตาเย็นเยียบของคนที่พวกเขาคิดมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ชายจ้องเข้าให้

    “เหวอ!!! โยซาคุ!!!” ทั้งสองคนร้องเสียงดังลั่นก่อนที่จะมีเสียงฝีเท้าตึงตังวิ่งตรงมายังที่นี่   เธอสบถคำรามในใจอย่างโกรธจัดว่า เจ้าพวกบ้าเอ๊ย อีกไม่นานเดี๋ยวก็ต้องมีคนวิ่งเข้ามาให้เธอเชือดดับอีกเป็นโขยงแน่ๆ

    “เกิดอะไรขึ้นน่ะ!!!  หวา!!!

    แม้แต่หัวหน้าคอนโดเองก็ยังอ้าปากค้างเมื่อเห็นร่างบอบบางที่ดูบางยิ่งกว่าเดิมเมื่ออยู่ในชุดยูกาตะสีขาวที่เปียกชื้นแนบลู่จนเผยให้เห็นเรือนร่างอรชรของสตรีนั้น    นัยน์ตาสีอำพันถูกเคลือบย้อมด้วยสีแดงสดราวกับเลือดขณะที่รอยยิ้มสยองจะผุดขึ้นมาบนใบหน้างดงาม

    “หึหึหึ...เมื่อเห็นเต็มๆแล้วตายซ้า!!!!!!!!!!!!!!

    ขอไว้อาลัยให้แก่หัวหน้าหน่วยของชินเซ็นงุมินับแต่นี้ไป

     

     

     

    ข้าที่คืนสถานะเป็นหญิงสาวแล้วจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วยชุดฮากามะสีดำสนิทเหมือนเคยก่อนที่จะใช้เชือกฟั่นรวบผมขึ้นเป็นหางม้า   แต่ก็ต้องชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่แห้งดีนัก

    เอาเถอะในเมื่อทุกคนรู้หมดแล้วคงไม่จำเป็นต้องมัดก็ได้มั้ง

    ข้าคิดคำนึงในใจขณะปล่อยให้เส้นผมสีน้ำเงินประหลาดราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนทิ้งตัวสยายเต็มแผ่นหลังแล้วจึงเดินไปยังห้องทานอาหารของหัวหน้าหน่วย

    เป็นไปตามความคาดหมาย   ที่ห้องอาหารนั้นมีสมาชิกหัวหน้าหน่วยทุกคนมารวมตัวกันอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาจริงๆ   แต่ละคนต่างหันหน้าหลบกันไปคนละทางเมื่อเห็นข้าผู้เป็นเจ้าของเรื่องเดินเข้ามาข้างใน   และทุกคนต่างก็มีรอยฟกช้ำบนหัวหรือไม่ก็ร่างกายคนละรอยสองรอยเหมือนกันไม่เว้นแม้กระทั่งหัวหน้าคอนโดหรือฮิจิคาตะ   เป็นพิเศษโดยเฉพาะตัวต้นเรื่องอย่างเฮย์สึเกะและชินปาจิที่โดนหนักกว่าใครเพื่อน

    “คอนโดซัง”

    ทุกคนพร้อมใจกันหันมาทางชายวัยกลางคนเป็นตาเดียวหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ  เขาถึงกับทำหน้าเหลอหลาทันที

    “ท่านเป็นหัวหน้า   ควรจะต้องเป็นผู้นำ” แม้แต่รองอสูรก็ยังร่วมสมทบด้วยเช่นกัน

    หึหึหึหมดหนทางเลี่ยงแล้วสินะคะคอนโดซัง   ข้าแอบยิ้มสะใจนิดๆในใจ

    “พวกเจ้านี่นะ” เขาแอบพึมพำเมื่อหมดทางรอด “อะแฮ่ม ...โยซาคุ   ทำไมเจ้าไม่บอกเราตั้งแต่แรกว่าเจ้าเป็นผู้หญิงน่ะ”

    “ก็ท่านไม่ได้ถามนี่นา” ข้ายักไหล่อย่างไม่แยแส

    “เจ้าไม่เคยบอกข้าเลยว่าเจ้าเป็นผู้หญิง” จิซึรุโอดครวญขึ้นมาบ้าง “ข้าน่ะอยู่กับเจ้ามาหกปีเต็มๆเลยนะ”

    “ขอโทษ   เซ็นเซสั่งไม่ให้ข้าเปิดเผยตัวเองต่อหน้าคนอื่น   ข้าจำเป็นต้องทำแบบนี้” คนมีคดีติดตัวตอบเสียงค่อยอย่างเสียใจ

    “แล้วเจ้าปิดบังเรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้วล่ะ” ไซโต้ถามขึ้น   เรียกให้ทุกคนหันไปมองเขาเป็นตาเดียวทันที
     

    โอ้องค์เทพบิดรซูซาโนโอะท่านเล่นตลกกับผู้ชายแสนสงบปากสงบคำคนนี้หรือเปล่าเจ้าคะ

    “ตั้งแต่ข้าจำความได้เลยล่ะ”
                ข้ากล่าวพลางยิ้มบางเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่แสนจะวุ่นวายในอดีตอันนานแสนนานมาแล้ว “เซ็นเซฝึกให้ข้าใช้ชีวิตแบบเด็กผู้ชายเพื่อให้ข้าสามารถเอาชีวิตรอดได้ในการต่อสู้    ดังนั้นข้าจึงลองจับดาบมาตั้งแต่ยังเด็ก    แต่ท่านแม่ของข้าบังคับให้ข้าทำตัวเรียบร้อยแบบเด็กผู้หญิง   ข้าก็เลยต้องเรียนรู้การทำตัวทั้งสองแบบน่ะ    ตอนที่ข้าตัดสินใจออกเดินทางมาที่นี่ท่านแม่กับเซ็นเซทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายเลยล่ะ   นางเกือบจะหักมือขวาข้าทิ้งเชียวล่ะ”

    พูดแล้วข้าก็อดขนลุกเกรียวและเอื้อมไปจับมือขวาของตัวเองไม่ได้    หน้าตาของท่านแม่ตอนนั้นน่ะสุดจะบรรยายเลยล่ะ     คิดว่าถึงเป็นมังกรมาเห็นสีหน้าโกรธถึงขั้นทะลุขีดจำกัดในตอนนั้นก็คงจะอดขวัญผวาไม่ได้เหมือนกัน

    “เจ้าเด็กครึ่งชายครึ่งหญิง” ฮิจิคาตะระบายลมหายใจพรืด   ข้าแสยะยิ้มที่มุมปากแล้วเถียงกลับไปอย่างไม่ลดราวาศอกเช่นกัน

    “ดีกว่าพวกที่ไม่รู้ว่าเป็นชายอกสามศอกก็แล้วกันล่ะน่า   หน้าตาแบบเจ้าข้านึกว่าเป็นพวกประหลาดบูชิโดซะอีก”

    พรืด!

    ทุกคนต่างพ่นข้าวที่กำลังเคี้ยวอยู่ออกมาจนหมด     คอนโดซังหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายจนแทบลงไปเกลือกกลิ้งกับพื้น    ส่วนคนอื่นนั้นหน้าแดงจัดและพยายามกลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์     ยามาซากิเอามือปิดปากขณะที่หน้าแดงเถือกไม่ต่างจากลูกตำลึงและแอบหลบไปหัวเราะที่ซึโนโกะด้านนอกเพียงคนเดียว   ส่วนคนที่ถูกด่าจนเสียหายนั้นเพียงถลึงตามองอย่างเคียดแค้น   หญิงสาวร้อยเล่ห์หันไปยิ้มหวานตอบสายตานั้นแล้วยั่วโมโหต่อไป

    “อยากประลองกับข้าก็ไม่ว่านะ   ข้าขอสาเกเหยือกนี้นะฮาราดะซัง”

    ยังไงเขาก็ไม่กล้าขัดอยู่แล้วเพราะเข็ดกับการแผลงฤทธิ์เมื่อเวลาไม่นานที่ผ่านมานี้  จึงยอมส่งเหยือกสาเกให้ข้าแต่โดยดี    ข้ายิ้มขอบคุณให้เขาขณะที่รับมาแล้วยกขึ้นซดอย่างไม่เกรงใจด้วย ท่าทางแบบผู้ชายอย่างที่เซ็นเซผู้แสนเคารพรัก (แอบท่านแม่ของข้า) เสี้ยมสอนให้เมื่อนานมาแล้ว   จากนั้นจึงหยิบดาบขึ้นเสียบไว้ที่สายคาดเอวแล้วยกมือขึ้นปาดของเหลวที่ไหลเรี่ยมาตามคางออก

    “ข้าอยากฆ่าเจ้านัก” เขากัดฟันกรอดหลังจากที่ถูกข้ายั่วโมโหแล้วเดินตึงตังออกไปนอกซึโนโกะ

    “ยินดีทุกเวลาเจ้าค่ะฮิจิคาตะซัง”

     

     

    กลับสู่การบรรยายปกติ

    ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์โดยตลอดต่างกลืนน้ำลายด้วยความหวาดเสียว   ฮิจิคาตะ โทชิโซ  น่ะถือว่าเป็นปีศาจหมาป่าแห่งมิบุเชียวนะ    คนที่เพิ่งฝึกดาบมาเพียงไม่กี่เดือนและอยู่แต่กับวิชาทวนอย่างโยซาคุน่ะเหรอจะสู้ไหว    ยิ่งเวลาที่ผู้ชายคนนั้นโมโหแล้วคงจะไม่ไว้หน้ากันแน่ๆ

    “เจ้าเมาแล้ว”

    ไซโต้เดินเข้ามายึดบ่าของหญิงสาวผมยาวเอาไว้พลางขมวดคิ้วเมื่อรับรู้ถึงกลิ่นเหล้าจางๆโชยออกมา    อีกทั้งแก้มของอีกฝ่ายยังมีสีชมพูระเรื่อที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลังอาบน้ำหรือว่าฤทธิ์สุรากันแน่อีกด้วย   แต่ลางสังหรณ์ของเขาคาดว่าน่าจะเป็นข้อหลังมากกว่า

    “เจ้าไม่เชื่อใจข้ารึไงฮาจิเมะจัง” โยซาคุหันไปยิ้มท้าทายให้อีกฝ่าย

    “เจ้าไม่ควรเอาชีวิตมาเสี่ยง   รองหัวหน้ากำลังโมโหอยู่นะ” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเข้ม   ในใจลึกๆแล้วชายหนุ่มก็อดที่จะเป็นห่วงคนตัวเล็กตรงหน้าไม่ได้

    “เจ้ายังไม่เห็นฝีมือที่แท้จริงของข้า”

    นางเอ่ยกระซิบเบาๆที่ข้างหูเขาด้วยความมั่นใจในฝีมือของตนก่อนที่จะผละออกไปประจันหน้ากับชายหนุ่มผู้เป็นดั่งปีศาจในคราบมนุษย์คนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว   โอคิตะส่งเสียงผิวปากออกมาอย่างถูกใจ

    “ให้ได้อย่างนี้สิน้องข้า”

    ส่วนคนอื่นๆก็หน้าแดงพร้อมกับคิดอะไรเตลิดเปิดเปิงกันไปถึงพิภพสวรรค์เรียบร้อยแล้ว   จิซึรุมองการกระทำที่ดูอาจหาญเหลือเกินของเพื่อนสนิทวัยเยาว์คนนี้แล้วก็ส่ายหน้าอย่างระอา

    เหลือเกินจริงๆเลยนะโยซาคุจังมีผู้หญิงที่ไหนกล้าเข้าไปใกล้ชิดกับผู้ชายแบบนั้นเล่าเห็นแล้วข้าอายแทนจริงๆ

    หนึ่งหญิงหนึ่งชายโค้งคำนับให้แก่กันตามประเพณีของการประลองฝีมือ   ในตอนนี้เริ่มมีสมาชิกคนอื่นทยอยเข้ามาชมกันบ้างแล้ว     เนื่องจากคงเป็นเพราะพวกเขาที่สร้างความอึกทึกครึกโครมมากเกินไปก็เลยเรียกทุกคนมาในเวลาไม่นาน     เหล่าหัวหน้าหน่วยทั้งหลายรวมทั้งจิซึรุจึงถือโอกาสใช้สิทธิ์ในฐานะหัวหน้าจับจองพื้นที่ที่ดีที่สุดซึ่งก็คือบริเวณซึโนโกะนั่นเอง   และลูกหน่วยก็ไม่กล้าที่จะบังหัวหน้าตัวเองด้วยจึงทำให้สามารถดูการประลองได้ชัดเจนที่สุด

    ดาบเรียวสีเงินปลาบสองเล่มถูกชักออกจากฝักอย่างเชื่องช้า    จากนั้นจึงเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาทีต่อมา   ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นไปทั่วกองบัญชาการทันที

    “ไม่นึกว่าแขนบางๆของเจ้าหนูขาดสารอาหารจะมีแรงมากกว่าที่ข้าคิดไว้” ชายหนุ่มถือโอกาสเหน็บแนมคืนเสียเลย

    “ข้าจะถือว่านั่นเป็นคำชมแล้วกัน!

    หญิงสาวกัดฟันในประโยคสุดแล้วแล้วออกแรงปัดดาบของคนตรงหน้าออกไปแล้วจึงพลิกข้อมือลงรับดาบที่ฟันมายังสีข้างอย่างคล่องแคล่ว   แน่นอนว่าเธอสามารถใช้มือข้างเดียวจับดาบรับการโจมตีนั้นได้อย่างสบาย

    ก็นะข้าเป็นพวกที่พิเศษกว่ามนุษย์ทั่วไปนี่นา

    ซึ่งการโจมตีแต่ละครั้งนั้นหญิงสาวก็สามารถใช้มือข้างเดียวรับดาบของเขาได้เกือบทุกครั้ง   แต่บางครั้งที่โยซาคุยอมหยวนให้โดยใช้มืออีกข้างหนึ่งช่วยจับดาบด้วย   ไม่ใช่เพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเสียศักดิ์ศรี   แต่เพราะขี้เกียจเป็นด่านหน้าไปรับการโจมตีของข้าศึกต่างหาก

    ต่างฝ่ายต่างใช้กำลังและชิงไหวชิงพริบเข้าประลองกันเป็นเวลานานพอสมควร   ทั้งสองคนถอยกลับมาตั้งหลักคนละด้านพร้อมกับคลี่รอยยิ้มที่ทำให้คนรอบนอกถึงกับขนลุกเกรียวด้วยความเย็นยะเยือกที่แฝงอยู่ในนั้นให้แก่กัน

    “คอนโดซัง   ข้าว่าสองคนนั้นนิสัยเหมือนกันอย่างกับพี่น้องเลยแน่ะ” ชินปาจิเขยิบเข้ามากระซิบกระซาบกับหัวหน้าใหญ่ “สงสัยจะเป็นพี่น้องลับๆแน่เลย”

    “อย่าไปพูดให้สองคนได้ยินเชียวนะชินปาจิ   ไม่งั้นไม่แน่ว่ารายต่อไปจะเป็นเจ้าแน่ๆ” โอคิตะเอ่ยเตือนพลางยิ้มสดใสตามแบบฉบับของเขาเหมือนเคย

    กลับมาที่ผู้ถูกนินทาลับหลังทั้งสองคนกันบ้าง   ทั้งคู่ต่างเปลี่ยนมาจับดาบสองมือเหมือนกันก่อนที่จะพุ่งทะยานเข้าสู้กันเป็นครั้งสุดท้าย

    เคล้ง! ฉึก!

    ดาบของทั้งคู่ต่างกระเด็นหลุดมือและปักลงดินเหมือนกัน    ทำเอาชินเซ็นมุงทั้งหลายถึงกับแตกฮือหลบกันจ้าละหวั่นแทบไม่ทันเพราะกลัวดาบหล่นใส่หัว    โยซาคุผ่อนลมหายใจยาวขณะเดินไปเก็บดาบคู่กายเสียบเก็บเข้าฝักเหมือนเดิม

    “วันนี้ได้พิสูจน์ฝีมือกับรองหัวหน้าผู้เลื่องชื่อ   ถือว่าเป็นเกียรติ”

    “จะมาไม้ไหนอีกน่ะ” ชายหนุ่มผมยาวทำหน้าแสยงสุดฤทธิ์อย่างไม่ไว้ใจ

    “ท่านเห็นข้าเป็นพวกมีอะไรแอบแฝงตั้งแต่เมื่อไรกัน   ข้าง่วงแล้ว   ราตรีสวัสดิ์นะทุกคน”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×