คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ฟิค Lotr : My Dearest King
“ฝ่าบาท!!!”
เซเรนเดลร่อนลงบนพื้นดินที่ชุ่มไปด้วยโลหิตแดงฉานของทั้งฝ่ายศัตรูและพรายชาวโนลดอร์ผู้สังเวยชีวิตลง ณ สมรภูมินี้ กระแสลมแรงและเสียงร้องเรียกของเธอทำให้เฟอานอร์ได้สติ เขาค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
เขามองเห็นเส้นผมสีเงินสว่างของอีกฝ่ายปลิวสยายอยู่ด้านหลัง...
ใครกัน?
หัวใจของเขากำลังเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนพร้อมกับความอบอุ่นที่ก่อตัวในข้างในอก...นัยน์ตาสีเทาเข้มสั่นไหวเมื่อหญิงสาววิ่งเข้ามาหาพร้อมจะโกนอย่างสุดเสียง
“ฝ่าบาท! ฝ่าบาท!”
เธอชื่ออะไรกันนะ? ทำไม...ฉันถึงจำเธอไม่ได้...
ดวงตาคมกริบมองเข้าไปในดวงตาสีครามสดใสดุจท้องฟ้าในวันกลางฤดูร้อนแล้วกระซิบขึ้นเบาๆว่า
“เซเรน...เดล”
นี่เขาไม่ได้...ฝันไปใช่ไหม?
เฟอานอร์หลุดเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อที่ติดอยู่ตรงปลายลิ้นมาโดยตลอด เขารู้สึก...สับสนอย่างบอกไม่ถูก แม้จะรู้ดีว่าเธอไม่ใช่แนร์ดาเนล ภรรยาที่เขาสาบานว่าจะรักและซื่อสัตย์ตลอดไป แต่ทำไมเขาถึงได้ดีใจอย่างนี้นะที่ได้พบเธออีกครั้ง ทั้งที่...
ทั้งที่เขาไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเธออยู่แท้ๆ...
หยาดน้ำตาของพรายเจ้าแห่งทิริออนไหลลงอาบแก้มและหยดลงผสมกับแอ่งเลือดที่เจิ่งนองอยู่ใต้ร่าง หญิงสาวผู้มีเกศาสีเงินยวงงดงามกุมมือของเขาเอาไว้พลางกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ “ไม่นะ...ไม่...ฝ่าบาท...” ดวงตาสีครามสวยของเธอสั่นระริกและในที่สุดน้ำตาที่เอ่อคลอก็ไหลล้นออกมาเป็นสาย
“อย่าไปนะ...ขอร้องล่ะ...” หญิงสาวนาม เซเรนเดล สะอื้นอย่างหนักจนไหล่สั่นเทิ้ม
เฟอานอร์ยิ้มและเอื้อมมือขึ้นไปปาดน้ำตาที่ไหลนองใบหน้าของหญิงสาวผู้งดงาม ราวกับความตายของเขาได้ปลดผนึกอะไรบางอย่างออก...บางอย่างซึ่งถูกปิดตายเอาไว้ในส่วนลึกของความทรงจำ
ภาพเก่าๆย้อนกลับมา เขามองเห็นดวงตาสีครามสวยที่มองมา...ดวงตาอันงดงามซึ่งบริสุทธิ์และทอประกายอ่อนโยนตลอดเวลา ทันทีที่ดวงตาทั้งสองคู่สบประสานกัน...เหมือนมีสายใยอันอบอุ่นบางอย่างได้เชื่อมโยงพวกเขาทั้งสองเอาไว้นับตั้งแต่วินาทีนั้น
ร่างโปร่งบางในอาภรณ์สีขาวสะอาดย่อกายทำความเคารพอย่างอ่อนช้อย แล้วเสียงหวานใสดุจระฆังแก้วก็เอ่ยขึ้นว่า ‘ชื่อของหม่อมฉันคือ เซเรนเดล ยินดีที่ได้รู้จักเพคะ...องค์ชายเฟอานอร์’
ทั้งรอยยิ้มอ่อนหวานและเสียงหัวเราะกังวานใสของเธอ..เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ
“ข้าดีใจนะ...ที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง...เซเรนเดล...” เขายิ้มออกมาทั้งน้ำตา ช่าง...งดงามเหลือเกินในสายตาของเธอผู้ถูกทำให้ลืมเลือนไปในอดีต
ราวกับวาลาร์ได้ตอบรับคำวิงวอนของเขา...
เซเรนเดลเม้มริมฝีปากแน่น เธอรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน...เจ็บปวดราวกับมีแท่งเหล็กร้อนๆนับร้อยพันทิ่มแทงหัวใจ อยากจะกรีดร้อง...อยากจะตะโกนออกมา...
อย่าไปนะ...ฝ่าบาทของข้า...ขอร้องล่ะ...
ได้โปรด...ข้าไม่อยากสูญเสียผู้เป็นที่รักไปอีกแล้ว...
ทว่าหญิงสาวกลับทำได้เพียงนิ่งเงียบและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอรู้ดี...ว่าถึงจะพูดอะไรออกไปกษัตริย์ของเธอก็ต้องสิ้นพระชนม์อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง หากจะบินกลับไปยังค่ายของพระองค์ก็ไม่ทัน
...ยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดี
ถ้าหากว่า...เธอเกิดเป็นพราย เธอก็คงจะรักษาฝ่าบาทได้ แต่เพราะเธอไม่ใช่...และไม่มีวันทำเช่นนั้นได้ เธอจึงต้องทุกข์ระทมเช่นนี้...
ได้แต่มองดูทรายในนาฬิกาชีวิตของเขาร่วงหล่นไปช้าๆโดยที่ทำอะไรไม่ได้...
“ข้า...ดีใจ...จริงๆ...เซเรนเดล...” รอยยิ้มของเขาที่มอบให้กับเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนเสมอ...แม้กระทั่งในเวลานี้...
“ฝ่าบาทเฟอานอร์...ราชาที่รักของข้า...อย่าไปเลยนะ...” อย่าทิ้งข้า
นัยน์ตาสีเดียวกับหมอกควันหลับลง “ข้า...ไม่ได้หรอก...เจ้าก็รู้ดี...”
“อย่าทิ้งข้าไปเลย...นะ” เซเรนเดลกระซิบแผ่วเบาถึงความปรารถนาที่อยู่ลึกสุดในหัวใจออกมาพลางมองพรายหนุ่มผมสีดำขลับตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บปวด ภาพของเขาเบลอไปหมดด้วยม่านน้ำตาที่เอ่อคลอไม่หยุด เฟอานอร์เองก็จ้องมองดวงตาสีครามด้วยแววตาปวดร้าวไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เป็นเวลาถึงสองพันปีเลยนะกว่าจะได้มาพบกัน ทั้ง...เขายังถูกทูลกระหม่อมพ่อฟินเวผนึกความทรงจำเอาไว้อีกด้วย กว่าจะรู้ตัว...
...เวลา...ก็ไม่เหลือแล้ว
อยากจะดึงตัวเธอมากอดเอาไว้แน่นๆสักครั้งด้วยมือสองข้างนี้ แต่เขาแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงอีกแล้ว แม้กระทั่งจะขยับปากพูดแต่ละคำก็ยากลำบากเหลือแสน
หญิงสาวอ่านแววตาของคนรักออกจึงโอบกอดร่างกายอันเย็นเฉียบของเขาเอาไว้ ความอบอุ่นจากร่างบางและอ้อมแขนที่แสนคุ้นเคยทำให้เฟอานอร์ขยับยิ้มบางและเอ่ยต่อไปว่า “เซเรนเดล...ใช้ชีวิตที่เหลือ...แทนข้า...ได้ไหม?”
“...ข้าทำไม่ได้...ฝ่าบาท...ขอร้องล่ะ...อย่าตายนะ...”
ข้าจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีท่าน...
“...อย่าร้องไห้เลย...” พรายเจ้าแห่งทิริออนนาบฝ่ามือซึ่งเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของเขาเองกับใบหน้าของเธอ ไล้ปลายนิ้วปาดน้ำตาเบาๆ “ข้า...ไม่อยากเห็น...เจ้าร้องไห้...เซเรนเดล”
“...ฝ่าบาท...”
“...เจ้าน่ะ...ร้องไห้มามาก...มากพอแล้ว...”
เธอกุมมืออันเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งของอีกฝ่ายเอาไว้ แม้เลือดจะเปื้อนก็ช่างแต่เธอไม่สนใจ เพราะสิ่งที่เธอรับรู้มีเพียงคนตรงหน้านี้เท่านั้น...
“ยิ้ม...ได้ไหม?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ขาดห้วงไปพักๆ เวลาของเขากำลังจะหมดลงแล้ว...
“...อา...ฝ่าบาท...” หญิงสาวครางเบาๆขณะที่น้ำตาไหลรินอีกครั้งจนผสมปนเปไปกับหยดเลือดจากฝ่ามือหนาของพรายเจ้า
เธอนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนที่ริมฝีปากบางจะขยับโค้งเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวานที่สุด...
รอยยิ้มเดียวกับที่เขาพบเธอเป็นครั้งแรก...และเขาจะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย...
รอยยิ้มอันงดงามที่เขาจดจำได้เสมอแม้ความทรงจำเกี่ยวกับเธอจะถูกปิดตายเอาไว้ก็ตาม...
“...ข้ารักเจ้า”
และนั่นคือรับสั่งสุดท้ายของกษัตริย์พราย ก่อนที่มือหนาซึ่งถูกกอบกุมเอาไว้จะร่วงลงแนบข้างวรกายสูงสง่าของเขา นัยน์ตาสีเทาเข้มที่มักจะทอประกายอ่อนโยนเสมอยามเมื่อมองเธอปิดสนิท...ไม่มีวันเปิดขึ้นมาอีกครั้ง บนใบหน้าคมคายของพรายหนุ่มประดับรอยยิ้มซึ่งบ่งบอกได้ว่าก่อนหมดสิ้นลมหายใจเขามีความสุขเพียงใด...
ความสุขซึ่งนำพาซึ่งความร้าวระทมชั่วนิรันดร์ของเธอผู้ยังคงมีชีวิตอยู่...
“อา...”
มังกรสาวครางเบาๆขณะที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน เวลานี้ใกล้รุ่งอรุณเต็มที แสงสีทองสาดประกายเหนือขอบฟ้าและทอแสงอ่อนโยนไปบนสนามรบ ปรากฏให้เห็นร่องรอยของความสูญเสียอย่างมหันต์
หยาดน้ำตาหลั่งรินทีละหยด...และกลายเป็นสายธาร เสียงกู่ร้องกังวานด้วยความเจ็บปวดเหลือคณาของผู้พิทักษ์ดินแดนพรายดังก้องไปทั่วทั้งสมรภูมิ เสียงที่ลั่นขึ้นราวกับเป็นความโศกเศร้าที่ส่งไปยังเหล่าวาลาร์เบื้องบน เหล่าโอรสแห่งเฟอานอร์และพี่น้องสกุลฟินเวซึ่งตามมาทีหลังต่างมองภาพนั้นด้วยด้วยใจที่สั่นไหว
แม้จะกรีดร้องสักเท่าไร...
แม้น้ำตาจะหลั่งรินมากมายจนแทบกลายเป็นสายเลือด...
ก็ลบล้างความจริงเบื้องหน้าไม่ได้...
...เฟอานาโรแห่งโนลดอร์สิ้นพระชนม์แล้ว...
เฟอานอร์...ข้ารักท่าน...
รักเหลือเกิน...กษัตริย์ที่รักของข้า...
--------------------------------------------------------------------------
ฝึกแต่งฟิคค่ะ
ถ้ายังไงก็เม้นท์ได้นะคะ
ความคิดเห็น