ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #23 : งานเต้นรำของเลโอล่า

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 55







    คืนงานเต้นรำมาถึง   สาวสวยทั้งหลายต่างประทินโฉมกันมาเพื่อนงานนี้อย่างเต็มที่โดยไม่ปล่อยให้น้อยหน้าใคร   ใช่ว่าจะมีแต่สาวๆที่ครึกครื้นต่องานนี้   พวกผู้ชายเองก็แต่งหล่อมาเสียเต็มที่   ก็แหงล่ะได้หม้อสาว เอ๊ย ควงสาว ทั้งที   ใครจะปล่อยให้เป็นตัวขี้เหร่ให้โดนเพื่อนล้อยันลูกบวชเล่า

    แฮร์รี่กับรอนมายืนรอเพื่อนสาวอีกสองคนที่หน้าบันไดห้องโถง   ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว   ยังมีมัลฟอยยืนหลบมุมอยู่อีกด้านหนึ่งด้วย   พ่อหนุ่มเถิกของเราอยู่ในชุดปกตั้งสีแดงเข้มเลือดหมู   ปกติเขาก็ซีดอยู่แล้วพอใส่ชุดนี้ยิ่งดูเหมือนแวมไพร์ไปใหญ่

    “แกมาทำอะไรที่นี่มัลฟอย” รอนเดินเข้าไปด้วยสีหน้าหาเรื่อง

    “ฉันไม่ได้มาหาเรื่องพวกแกซักหน่อย   ฉันมารอคู่เต้นรำของฉันต่าง

    ยังไม่ทันขาดคำ   คนที่กำลังจะเดินเข้าไปในงานต่างชะงักค้างแล้วหันมามองคนที่กำลังเดินลงมาจากบันไดด้วยความตกตะลึง   บ้างก็ส่งเสียงฮือฮา

    “เธอสวยมาก” ปาราวตีพูดขึ้นด้วยความชื่นชม   แฮร์รี่หันไปก็พบว่าเป็นเฮอร์ไมโอนี่นั่นเองที่เดินลงมา

    ผมหยิกหยองของเธอถูกเกล้าขึ้นไปอย่างงดงามแล้วปล่อยปอยลงมาระบ่าให้ดูน่ารัก   ชุดที่เธอสวมเป็นผ้าซาตีนระบายสีชมพูหวาน   ผ้าคล้องไหล่ทั้งสองติดผ้าชีฟองสีเดียวกัน   ตรงเอวคาดเข็มขัดเส้นเล็กๆสีดำ

    แฮร์รี่ยอมรับว่าวันนี้เพื่อนของเขาสวยขึ้นจมเลยทีเดียว   เด็กสาวเดินลงบันไดมา   แล้ววิกเตอร์ ครัม ก็คว้ามือเธอมาจูบเบาๆก่อนที่จะพากันควงไป   เฮอร์ไมโอนี่หันมายิ้มและขยิบตาให้แฮร์รี่เล็กน้อยแล้วเดินจากไปพร้อมกับคู่เต้นรำของเธอ

    “คู่เต้นรำของนายเป็นใครกัน” แฮร์รี่ถามดีๆเพราะไม่อยากมีเรื่อง

    “เดี๋ยวนายก็รู้” มัลฟอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วมองขึ้นไปยังบันไดอย่างรอคอย   ไม่นานนักก็มีคนที่ทำให้ฝูงชนส่งเสียงฮือฮากันอีกรอบ   แถมคราวนี้เสียงดังยิ่งกว่าเฮอร์ไมโอนี่เสียอีก   เด็กกริฟฟินดอร์ปีสาม คอลินด์ ครีฟวีย์ ช่างถ่ายภาพประจำฮอกวอตส์ถึงกับคว้ากล้องถ่ายรูปมากดชัตเตอร์รัวอย่างไม่ยั้งมือ

    “เลโอล่า” เด็กหนุ่มทั้งสองคนที่ยืนรออยู่ด้านล่างเอ่ยชื่อของคนที่ทำให้ฝูงชนส่งเสียงฮือฮาเหมือนเจอดาราอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

    เด็กสาวจอมแก่นในวันวานได้กลายร่างเป็นเด็กสาวผู้สูงสง่าอย่างไม่น่าเชื่อ   ร่างโปร่งอยู่ในชุดราตรีเกาะอกสีดำสนิทปักลายดอกไม้อย่างงดงามด้วยด้ายสีเงินบนหน้าอกด้านซ้าย   ชุดของเธอขับให้ผิวที่ขาวอยู่แล้วดูโดดเด่นขึ้นมามากกว่าเดิม    หัวไหล่มนข้างขวาถูกสักเป็นลวดลายคล้ายกรงเล็บสีดำ   เส้นผมสีเงินในร่างแวมไพร์ถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยง่ายๆแล้วปักปิ่นประดับไพลินสีน้ำเงินเข้มเข้ากับสีตาของเธอให้อยู่ทรง   เธอสวมสร้อยเงินที่หล่อเป็นรูปกรงเล็บเหมือนกับรอยสักตรงหัวไหล่ไม่มีผิด   และสวมถุงมือสีดำขอบขาวยาวจรดข้อศอก

    เลโอล่าก้าวเดินมาหาพวกเขาด้วยท่วงท่าสูงศักดิ์ราวกับพญาหงส์   จริงอย่างที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดเอาไว้จริงๆ   ผู้หญิงทุกคนล้วนมีหงส์ซ่อนอยู่ในตัว   ขนาดผู้หญิงที่แข็งกร้าวเป็นทอมเหมือนลูกเป็ดอัปลักษณ์อย่างเธอยังสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นหงส์งดงามได้เพียงชั่วข้ามคืน

    “ตอนแรกจินนี่จะเกล้าให้สูงกว่านี้แต่ฉันไม่เอา   มันหนักหัว” เลโอล่าหัวเราะแห้งๆ

    “แค่นี้ก็สวยแล้วน่ายัยเถื่อน” มัลฟอยพูด   แฮร์รี่มองเพื่อนของเขาสลับกับคู่อริด้วยความงุนงง

    สวย? อย่างหมอนี่เคยชมใครด้วยเหรอ

    “พูดแบบนี้มาต่อยกันเลยดีกว่ามะ” เด็กสาวผมสีเงินยกกำปั้นขึ้นเตรียมจะวางมวยกันจริงๆ “พูดหมาๆแบบนี้เดี๋ยวก็ปั๊ดเปลี่ยนคู่ซะเลยนี่ไอ้เถิก”

    ยอมรับว่าเลโอล่าเปลี่ยนไปนะ   เฉพาะภายนอกอย่างเดียวเพราะไม่ว่าเมื่อไหร่คุณเธอก็มีปากไว้หาเรื่องเสมอทุกคนในที่นั้นคิดในใจ

    แต่เดี๋ยวก่อนนะเปลี่ยนคู่งั้นเรอะ

    อย่าบอกนะว่า

    “ขอเวลานอก” แฮร์รี่รีบลากเพื่อนสาวมาที่มุมหนึ่งแล้วเริ่มต้นการสอบสวนทันที

    “เธอไปทำอีท่าไหนถึงได้มัลฟอยไปเป็นคู่เต้นรำเนี่ย!

    เด็กสาวยิ้มแห้งๆ “อ่านะอันที่จริงมีผู้ชายหลายคนมาขอฉันอยู่หรอก   แต่ฉันอยากแกล้งอะไรนิดหน่อยก็เลยยอมไปกับหมอนั่นน่ะ   แต่หมอนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหรอก”

    “อย่าบอกนะว่าเธอวางแผนให้พ่อเธอวิ่งมาเจื๋อนหมอนี่กลางงาน” เด็กหนุ่มเริ่มจับเค้าลางบางอย่างได้

    “บิงโก!” ในที่สุดเลโอล่าก็ยิ้มออกมาอย่างสะใจ “อันที่จริงชุดนี้แม่เป็นคนส่งมาให้   สงสัยจะรู้แผนการของฉันมั้ง”

    วาบหวิวเสียขนาดนี้ถ้าเขาเป็นแม่ (?) คงไม่ยอมให้ลูกสาวตัวเองใส่หรอก   สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน   ไอ้เรื่องไม่เป็นเรื่องนี่เก่งกันจริงๆ!

    “งานจะเริ่มแล้ว” มัลฟอยเดินเข้ามาขัดบทสนทนาแล้วลากคู่เต้นรำของตัวเองไปอีกด้านทันที   เขาพาเธอมาหยุดยังมุมๆหนึ่งหลังเสาก่อนที่จะบรรจงสวมสร้อยข้อมือที่ทำจากทองคำขาวซึ่งน่าจะราคาแพงลิบลิ่วพอดูให้อย่างเบามือ   ไพลินสีน้ำเงินเข้มบนดอกไม้นั้นเข้ากับสีของดวงตาเธอเป็นอย่างดี

    “ฉันไม่อยากเห็นคนอื่นดูถูกคู่เต้นของฉันหรอกนะ” เขายิ้มออกมา   นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นผู้ชายคนนี้ยิ้มออกมาจากใจโดยที่ไม่แฝงรอยเจ้าเล่ห์เหมือนทุกครั้ง   ใบหน้างดงามขึ้นสีเรื่อเล็กน้อยก่อนที่จะจางหายไปอย่างรวดเร็ว

    เลโอล่าคลี่รอยยิ้มอ่อนโยนตอบ   รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มแรกที่เธอมอบให้คนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัว   มัลฟอยชะงักเล็กน้อย   ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีแดงยิ่งกว่าเธอเสียอีก   ไม่นานนักเขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นเรียบเฉยเหมือนเดิม   มือหนายื่นออกมา

    “ได้โปรดเป็นคู่เต้นรำให้ผมด้วยนะครับคุณผู้หญิง”

    เธออยากจะหัวเราะออกมาดังๆเมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมเกินเหตุของคนตรงหน้า   เด็กสาวกลั้นยิ้มและยอมวางมือไว้บนมือของเขาแต่โดยดี

    “ถ้าคุณไม่รังเกียจล่ะก็ค่ะ”

    ห้องโถงใหญ่ถูกเนรมิตให้มีน้ำแข็งเกาะเป็นระย้า   ทั่วทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยไอหมอกสีเงินระยิบระยับ   ช่อดอกไม้เถาไอวี่เลื้อยประดับผนังอย่างงดงาม   นักดนตรีเกือบทุกคนใช้เครื่องดนตรีที่ประกอบขึ้นมาจากน้ำแข็ง   มีโต๊ะเล็กๆนับร้อยโต๊ะซึ่งแกะสลักจากน้ำแข็งวางอยู่โดยรอบ   ส่วนพื้นที่ตรงกลางเว้นไว้เป็นฟลอเต้นรำโดยเฉพาะ

    เสียงปรบมือดังกราวขึ้นเมื่อตัวแทนแข่งขันทั้งห้าคู่เดินเรียงกันไปยังฟลอร์ตรงกลาง   เลโอล่ากับเฮอร์ไมโอนี่ทำให้หลายๆคนอ้าปากค้างพะงาบๆเป็นปลาขาดน้ำเลยทีเดียวยกตัวอย่างเช่น รอน เป็นต้น

    เพลงอ่อนหวานเริ่มบรรเลงขึ้น   ตัวแทนทั้งห้าต่างเต้นรำเพื่อเปิดฟลอร์   เลโอล่าทำหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อยเมื่อมัลฟอยจับเอวเธอ   ส่วนสเนปที่ยืนอยู่กับสาวสวยในชุดราตรีสีม่วงเข้มมองเด็กบ้านตัวเองที่กำลังคู่กับลูกสาวสุดรักด้วยตาที่ลุกเป็นไฟ   เลิกงานแล้วมัลฟอยโดนยำเละเป็นโจ๊กแน่

    “เสร็จเปิดงานแล้วนายอยากทำอะไรเซอร์ไพร์มั้ย” เลโอล่าถามขึ้นระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเต้นรำไปรอบๆ

    “เซอร์ไพร์” เขาถามกลับอย่างงงๆ   ดวงตาสีครามเข้มเหลือบมองไปยังเปียโนน้ำแข็งที่ยังว่างไม่มีผู้เล่นอยู่เป็นนัยๆ   มัลฟอยถอนหายใจยาว

    “เสียใจฉันเล่นเป็นแต่ไวโอลิน”

    “งั้นนายก็เล่นอันนั้นไปซะ” เด็กสาวตัดบทฉับและไม่ปล่อยให้เขาได้แก้ตัวอีก

    เมื่อพูดจบเพลงก็หยุดลงพอดี   เลโอล่ารีบลากมัลฟอยไปต่อรองกับอาจารย์ใหญ่และเหล่าคณาจารย์ที่ยืนอยู่บนยกพื้นอีกด้านด้วยดวงตาพราวระยับเสียจนคนโดนลากนั้นนึกเสียวสันหลัง

    เลิกงานเมื่อไหร่เตรียมปฏิบัติการณ์วิ่งหนีอาจารย์สเนปได้เลยเดรโกเอ๋ย

    แสงไฟจนเชิงเทียนค่อยๆมืดดับลง   เหลือแต่เพียงแสงสลัวที่ส่องกระทบหมอกน้ำแข็งเป็นประกายระยับบนเวทีเท่านั้น   ร่างของคนสองคนปรากฏขึ้นบนเวทีก่อนที่ไฟทุกดวงจะสว่างขึ้นตามลำดับ

    “นี่เป็นการแสดงเล็กๆน้อยๆจากพวกเราเจ้าบ้านฮอกวอตส์   ขอเชิญตัวแทนทั้งสองได้เลย” ดัมเบิลดอร์กล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง

    เกิดเสียงฮือฮาขึ้นข้างล่างเมื่อพบว่าตัวแทนแสดงที่ว่านั่นก็คือคู่เต้นรำคนดังที่เพิ่งจบหน้าที่ (จำเป็น) ของตัวเองไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนั่นเอง   ชุดสีดำของฝ่ายหญิงนั้นถูกเปลี่ยนเป็นสีเงิน   เส้นผมสีเงินที่เห็นในคราวแรกถูกสีดำย้อมกลืนราวกับจงใจสลับกัน   เลโอล่าถอนสายบัวส่วนมัลฟอยโค้งคำนับให้กับผู้ชมเบื้องล่าง   ก่อนที่เด็กหนุ่มจะทำหน้าที่สุภาพบุรุษที่ดีด้วยการจูงมือเด็กสาวไปยังแกรนด์เปียโนหลังใหญ่   แล้วตัวเองก็มายืนถือไวโอลินน้ำแข็งอยู่อีกด้าน

    เสียงเปียโนดังขึ้นอย่างอ่อนหวานราวกับเพลงนี้บรรเลงให้กับคนผู้เป็นที่รัก   ขับกล่อมให้ทุกคนบนพื้นเบื้องล่างตกอยู่ในห้วงภวังค์   สเนปที่ดูหนุ่มขึ้นกว่าเดิมกับสาวสวยแปลกหน้าคือคู่แรกที่เดินออกมาเต้นรำกลางฟลอร์   ไม่นานนักก็มีคู่เต้นหลายคู่ทยอยตามมา

    จากนั้นเสียงไวโอลินของมัลฟอยก็บรรเลงสอดประสานเข้าไปกับเสียงเปียโนแสนหวานนั้น   บทเพลงอันแสนไพเราะจบลงอย่างไม่ยาวและไม่สั้นจนเกินไป   ทั้งคู่แสดงความเคารพท่ามกลางเสียงปรบมือเกรียวกราวอย่างชื่นชม   แล้วทั้งคู่ก็ส่งต่อเวทีให้กับวงร็อควงดังของโลกเวทมนตร์

    “เลโอล่าสุดยอดเลย!   ไปแอบเล่นมาตอนไหนเนี่ย” คู่แฝดมหาประลัยเข้าประชิดตัวสาวคนดังทันทีที่ลงจากเวทีแล้ว

    “ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ   ฉันชอบไปแอบหนีออกจากบ้านดูนักดนตรีมักเกิ้ลที่โรงละครประจำ   เขาใจดีก็เลยจับฉันฝึกไปในตัวด้วย” เลโอล่ายิ้มแหยๆตอบรับคำชมนั้น

    โดยไม่ได้ขยายความต่อว่าหลังจากที่หนีไปเสร็จก็โดนแม่จับฝึกโหดยาวเป็นเดือนจนแทบกลายเป็นซอมบี้   อ๊ะๆ ตอนนี้ยังนินทาไม่ได้   แม่เราแอบโดดมางานด้วยนี่นา

    ดวงตาสีครามแอบชำเลืองมองไปยังกลุ่มผู้สูงวัยและศิษย์เก่าทั้งหลายอย่างระมัดระวัง   พบว่าสาวสวยบาดตาในชุดราตรีสุดเซ็กซี่สีม่วงเข้มกำลังยืนคุยกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลและศาสตราจารย์สเปราต์อย่างออกรส

    เลโอล่าใช้โอกาสที่ทุกคนกำลังสนุกอยู่กับเพลงร็อคแอบออกมาเดินรับลมเย็นข้างนอกปราสาท   เพราะว่าปราสาทตั้งอยู่ใจกลางป่าและโอบล้อมไปด้วยทะเลสาบ   ทำให้ดวงดาวบนท้องฟ้าสีดำสนิทเปล่งประกายระยิบระยับสวยงามยิ่งกว่าในเมืองใหญ่   ผืนน้ำอันสงบนิ่งของทะเลสาบสะท้อนเงาของดวงดาวนับล้าน   ดูราวกับว่ามีใครจงใจเอาเพชรล้ำค่ามาโปรยทิ้งเอาไว้บนผืนผ้าสีดำขนาดใหญ่

    เธอนึกถึงช่วงเวลาในอดีตที่เคยอยู่ร่วมกับใครคนหนึ่งที่พยายามเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก   ช่วงเวลาสำคัญที่แสนอบอุ่นในช่วงหนึ่งของชีวิตกับใครซักคนที่ลืมเลือนไปจากความทรงจำแล้ว

    ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งกอดเข่าพลางจ้องมองเงาสะท้อนจากผิวน้ำในทะเลสาบอย่างเงียบงัน   สายลมเย็นยะเยือกที่พัดมากระทบผิวกายเรียกให้เด็กสาวกอดตัวเองโดยอัตโนมัติ

    “รู้งี้แอบจิ๊กเสื้อคลุมของแม่มาด้วยดีกว่า   หนาวชะมัดเลย” เธอบ่นพึมพำขณะใช้ไม้กายสิทธิ์เสกลูกไฟเล็กๆให้ลอยค้างอยู่กลางอากาศเพื่อสร้างความอบอุ่น

    “ไม่น่าใส่เกาะอกเล้ยยัยเลโอล่ากรรมตามสนองจริงๆ”

    “รู้ว่าหนาวแล้วยังออกมาตากลมข้างนอกอีก   อยากตายนักรึไง”

    เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับเสื้อคลุมของใครบางคนโยนลงมาคลุมหัวเธออย่างพอดิบพอดี   เลโอล่าหันไปส่งสายตาจิกกัดให้

    “นายเองก็เหมือนกันนั่นล่ะ   เกิดอยากเป็นมาโซคิสม์ขึ้นมารึไง”

    ปากคุณเธอช่างเจ็บแสบดีแท้มัลฟอยลอบนินทาในใจ

    “มีใครเคยบอกว่าเธอปากจัดมั้ย”

    “มี   แต่ไม่เคยรอดซักราย” เลโอล่ายิ้มเหี้ยม

    “ไม่ใช่ตายเพราะคำพูดของเธอเหรอ   พูดออกมาแต่ละคำช่างเชือดเฉือนสิ้นดี”

    “อ้อขอบคุณที่ชม” รอยยิ้มกวนประสาทยังไม่จางหายไป   มีแต่ทวีความกวนอวัยวะเบื้องล่างมากขึ้นกว่าเดิม

    “สมองเธอถูกอะไรกระทบกระเทือนรึเปล่า”

    “ฉันควรถามนายมากกว่านะมัลฟอย”

    ทั้งคู่เถียงกันไปซักพักก็ต่างคนต่างเงียบไป   สามัคคีกันพักยกสงครามน้ำลายชั่วคราว   เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่พร่างพราวไปด้วยดวงดาวนับล้านแล้วรำพึงออกมาเบาๆ

    “ดาวสวยจังเลยนะ   ฉันเพิ่งสังเกตเห็นล่ะ”

    “สวยใช่มั้ยล่ะ” เธอพูดพลางถอดปิ่นที่ปักผมอยู่ออก “ถ้าคืนไหนฉันนอนไม่หลับฉันจะชอบมานั่งดูดาวแบบนี้ประจำเลย”

    “มิน่าล่ะขอบตาเธอถึงได้ดำ   ที่แท้ชอบนอนดึกนี่เอง” มัลฟอยยิ้มกวน   มือบางจัดการแพ่นกบาลคู่สงครามน้ำลายจนเจ้าตัวถึงกับหน้าทิ่ม

    “อะไรของเธออีกเล่ายัยทอม!!!

    “จำได้ว่าครั้งนี้นายเป็นคนเริ่มก่อนนะ”

    “ครั้งก่อนเธอเริ่มเหมือนกันนั่นแหละ!

    “งั้นเจ๊ากันจบ   พอใจรึยัง”

    เด็กสาวข้างๆเขาหันมาจ้องด้วยสายตาเอาเรื่องแล้วสะบัดหน้ากลับไปดูดาวอย่างเงียบๆเหมือนเดิม   มัลฟอยเหลือบมองดูคู่เต้นรำจำเป็นในคืนนี้แล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาบางๆไม่ได้

    เลโอล่า ซีเธริน ช่างเป็นเด็กสาวที่ประหลาดเหลือเกินในสายตาของเขา   เธอกล้าหาญที่จะทำอะไรที่เธอคิดว่าอยากทำโดยไม่ต้องปรึกษาใคร   ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบไหนเธอก็ยิ้มออกมาเสมอ   เขายอมรับว่าตัวเองได้หลงใหลในรอยยิ้มที่สดใสนั้นไปแล้ว   ดูราวกับแสงอาทิตย์อันเจิดจ้าในฤดูร้อน

    แม้ว่าจะผิดหวังจากสิ่งใดแต่เขาก็ไม่เคยเห็นรอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้านี้ซักครั้ง   ดวงตาสีครามคู่นั้นโปร่งใสราวกับจะสามารถจับความรู้สึกที่อยู่ข้างในได้

    ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะปกป้องเธอให้ถึงที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

                 ขอเป็นคนที่ได้ปกป้องและอยู่กับเธอจนวาระสุดท้าย...

    ---------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×