คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : เลโอล่า ซีเธริน
รถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีอย่างช้าๆ แฮร์รี่นั่งอยู่คนเดียวในห้องพลางจ้องออกไปนอกหน้าต่างที่แต่งแต้มด้วยสีเขียวของทุ่งหญ้าและภูเขา ในขณะนั้นเองใบหน้าของเด็กหญิงคนหนึ่งก็โผล่มาตรงประตู
“นายนั่งคนเดียวใช่มั้ย” เธอถามพลางเอียงคอน้อยๆ
“จะนั่งด้วยเหรอ? ตามสบายเลย”
ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นมา เด็กหญิงยิ้มแป้นแล้วเดินเข้ามานั่งยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา แฮร์รี่สังเกตว่าดวงตาของเธอนั้นเป็นสีน้ำเงินครามราวกับมหาสมุทรซึ่งไม่มีมักเกิ้ลคนไหนในโลกที่มีดวงตาแบบนี้แน่ นอกจากดวงตาสีฟ้าใสที่ไม่ได้เข้มขนาดนี้
“สวัสดี ฉันชื่อ เลโอล่า
เลโอล่า ซีเธริน แล้วนายล่ะ”
“แฮร์รี่ พอตเตอร์” แฮร์รี่ตอบโดยลอบสังเกตว่าเธอจะมีปฏิกิริยาเหมือนกับครอบครัวพ่อมดแม่มดที่เขาเจอตรงชานชลาเมื่อกี้หรือเปล่า
แต่น่าประหลาดที่เธอไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย เธอดูจะสนใจกับขนมในกระเป๋าสะพายของเธอมากกว่าเขาเสียอีก
“อ่ะนี่” เลโอล่ายื่นขนมที่คล้ายกับแป้งปั้นเป็นก้อนกลมสีชมพูหวานให้เขา เด็กชายรับไปแล้วมองหน้าคนให้อย่างงงๆ
“นายคงไม่เคยเห็นขนมของประเทศญี่ปุ่นเลยสินะ นี่เรียกว่า ซากุระไดฟุกุ ฉันทำเองสุดฝีมือเลยน้า”
“เลโอล่า ซีเธริน”
ทุกคนต่างหันไปจับจ้องเด็กหญิงที่กำลังก้าวขึ้นไปบนยกพื้น เหล่าคณาจารย์ต่างให้ความสนใจกับเธอคนนี้เสียยิ่งกว่าแฮร์รี่เสียอีก เส้นผมสีดำสนิทยาวจรดเอวและรูปหน้าคมเข้มนั้นทำให้แฮร์รี่นึกถึงใครบางคน เมื่อเขาเหลือบไปมองยังโต๊ะของเหล่าอาจารย์ก็พบว่าอาจารย์วิชาปรุงยาที่จ้องเขาด้วยสายตาน่ากลัวในตอนแรกนั้นเบนความสนใจไปยังเด็กหญิงคนนั้นแล้ว
กลับมายังที่ของเรา เลโอล่ากำลังรู้สึกเกร็งไปหมดทั้งตัวเมื่อก้าวขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้โดยมีสายตานับร้อยคู่จ้องมาเป็นตาเดียว หมวกคัดสรรถูกสวมลงบนหัวของเธอ เด็กหญิงรู้สึกได้ทันทีว่ามันกำลังขยับอยู่
‘ฮืมม์~ ฉลาดแกมโกง แพรวพราวไปด้วยไหวพริบ ฉันควรจะส่งเธอไปที่ไหนดีนะสาวน้อย’
ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่สลิธีริน! เลโอล่าตอบทันควัน
‘แต่มันเหมาะสมกับตัวเธอนะแม่สาวน้อย’
ฉันอยากนอกคอก!
‘ไปแล้วเจ้าจะมีแววรุ่งนา’
ไม่เอาๆๆๆๆๆๆๆ! ยังไงก็ไม่ไปเด็ดขาด!
‘เอาก็เอาวะ! งั้นก็ไสหัวไปอยู่กริฟฟินดอร์เลยยัยเด็กอยากนอกคอก’
หมวกคัดสรรประกาศออกมาด้วยเสียงอันดังให้คนทั้งห้องโถงได้ยิน แวบหนึ่งที่เธอเห็นอาจารย์ใหญ่แอบยิ้มกว้างให้เธอ เช่นเดียวกับอาจารย์คนอื่นๆ แต่เธอเห็นเพียงชั่วครู่หนึ่งเพราะรีบร้อนวิ่งลงไปทันทีแทบไม่ทันหลังจากที่อาจารย์หญิงได้ถอดหมวกออกไปแล้ว
โต๊ะกริฟฟินดอร์ก็ยังคงเป็นโต๊ะที่ส่งเสียงเอะอะโหวกเหวกดังกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเหมือนเคยอย่างที่เลโอล่าคิดเอาไว้ไม่มีผิด แต่เธอก็ชอบบรรยากาศที่ไม่เงียบเหงาเช่นนี้ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่าที่นี่ไม่ได้มีเธออยู่เพียงคนเดียว
“ยินดีต้อนรับ!” รุ่นพี่ปีสองผมแดงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเสียงดัง
“เราไม่ได้มีสาวสวยอยู่บ้านกริฟฟินดอร์มานานแล้ว!” เด็กหนุ่มอีกคนที่มีใบหน้าคล้ายกันขานตอบเป็นลูกคู่
เหตุที่พวกเขาพูดเช่นนี้ก็เพราะว่าบ้านนี้ไม่ค่อยมีนักเรียนหญิงซักเท่าไหร่นัก ก็หอผู้กล้าหัวใจสิงห์นี่เนาะ ส่วนใหญ่ที่นี่ก็จะมีแต่พวกบ้าบิ่น ชอบแหกกฎเป็นชีวิตประจำวันทั้งนั้น แล้วจะมีผู้หญิงที่ไหนกล้าหาญเยี่ยงนั้นเล่า ส่วนใหญ่ก็ไปตกอยู่ที่เรเวนคลอหรือไม่ก็ฮัฟเฟิลพัพกันหมด
ดัมเบิลดอร์ลุกขึ้นกล่าวอารัมภบทอะไรบางอย่างเล็กน้อยก่อนที่จะเชิญให้ทุกคนได้กินข้าวเย็นกันจริงๆ รอน เด็กชายผมแดงหน้าตกกระเป็นคนแรกที่พุ่งเข้าใส่กองน่องไก่อบ ส่วนเธอก็ตักไส้กรอกกินอย่างเงียบๆขณะนั่งฟังเฟร็ดกับจอร์จ สองพี่น้องฝาแฝดที่เป็นพี่ชายของรอนเล่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับโลกเวทมนตร์ให้แฮร์รี่ฟัง
“ว่าแต่แฮร์รี่
นั่นแผลเป็นของนายเหรอ” เลโอล่าถามทั้งๆที่ในปากยังเต็มไปด้วยพายครัมเบิล
“สวรรค์โปรดเลโอล่า” เฮอร์ไมโอนี่กลอกตาขึ้นมองเพดานมนตรา “ช่วยกลืนให้หมดปากก่อนพูดได้มั้ย”
“อือ” เมื่อกลืนพายคำโตลงไปแล้วเด็กหญิงก็หันมาคุยกับแฮร์รี่ต่อ
“นายมีตรงหน้าผาก ฉันเองก็มีเหมือนกัน
”
แขนเสื้อถูกดึงขึ้นไปจนถึงข้อศอก เผยให้เห็นรอยปานแดงรูปงูตัวหนึ่งกำลังพันรอบท่อนแขนของเธอ โดยที่หัวของมันวางอยู่ตรงหลังข้อมือพอดี
“รอยอะไรน่ะเลโอล่า น่ากลัวเป็นบ้าเลย” เชมัส ฟินนิกันที่นั่งอยู่ไม่ห่างไปนักทำหน้าแหยงๆ
“ปานน่ะปาน แม่ฉันบอกว่ามันเป็นเครื่องราง เห็นว่าตอนเด็กๆยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ นานเข้าก็เป็นอย่างที่เห็นล่ะ” เด็กหญิงพูดพลางดึงแขนเสื้อลงมาปิดทับรอยปานประหลาดของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ค่อยชอบรอยนี้เท่าไรนัก
“เธออยู่กับแม่เหรอ” เฟร็ด หนึ่งในคู่แฝดจอมกวนถาม
“ไม่หรอก” เธอส่ายหน้า “พ่อก็อยู่ด้วย แต่เขาไม่ค่อยได้กลับมาบ้านซักเท่าไร ขนาดงานศพแม่ฉัน
เขาก็ยังไม่โผล่หน้ามาเลย”
ปลายเสียงดูสั่นเครือเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเด็กหญิงก็ยังประดับไปด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่ามันจะดูขมขื่นและเศร้าสร้อยเต็มทีแล้วก็ตาม
“สายัณสวัสดิ์ กริฟฟินดอร์น้อยทุกๆคน”
ร่างโปร่งใสของผีตนหนึ่งที่ใส่ชุดมีระบายตรงคอเหมือนอยู่ในยุคกลางก็ปรากฏตัวขึ้นที่โต๊ะ เลโอล่าถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อแขนของเขาสัมผัสโดนแขนของเธอ เย็นเหมือนกับโดนน้ำผสมน้ำแข็งราดเลยล่ะ
“ขอโทษทีสาวน้อย” ผีหันมากล่าวกับเธออย่างใจดี “ฉันคือ เซอร์นิกโคลัส เดอ มิมซี พอร์พิงตัน เป็นผีประจำหอคอยกริฟฟินดอร์”
“ได้ยินว่าคุณคือนิกหัวเกือบขาด หัวเกือบขาดยังไงฮะ” รอนถามขึ้นด้วยความสนใจ
“อย่างนี้ไง”
นิกดึงหัวของตัวเองขึ้น มันจะขาดก็ไม่ขาด ยังมีส่วนเนื้อที่เชื่อมกันอยู่ทำให้หัวของเขายังติดอยู่กับตัว พวกผู้หญิงถึงกับร้องกรี๊ด ส่วนเลโอล่าทำหน้าเจื่อนๆ
“สงสารข้าวในกระเพาะหนูหน่อยเถอะค่ะเซอร์นิก”
หลังจากที่นักเรียนทุกคนรับประทานอาหารเสร็จ จานบนโต๊ะก็หายวับไป ดัมเบิลดอร์ลุกขึ้นกระแอมไอเล็กน้อยให้เสียงในห้องโถงเงียบ แล้วจึงประกาศอะไรบางอย่างซึ่งมันไม่เข้าหัวของเลโอล่าเลยแม้แต่น้อย จิตใจของเธอกำลังล่องลอยไปยังที่ที่ห่างไกล
ไกลออกไปจากฮอกวอตส์
ภาพของสถานที่ที่เธอคุ้นเคยกำลังปรากฏขึ้นมาในหัว หิมะกำลังตกโปรยปรายแต่งแต้มให้พื้นดินกลายเป็นสีขาว ดอกไม้เวทมนตร์ที่ขึ้นในฤดูหนาวกำลังผลิบาน ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีปรากฏขึ้นยังชานบ้านในชุดคลุมยาวของญี่ปุ่นที่เรียกว่า กิโมโน หญิงสาวคนนั้นหันมายิ้มอ่อนโยนให้กับเธอ ริมฝีปากขยับเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แล้วความทรงจำทั้งหมดก็ดับวูบลงไป
ดวงตาสีฟ้าครามที่ถูกสีแดงเข้ากลืนกินเบิกโพลง เพดานมนตราระเบิดขึ้นอีกครั้งตรงหน้า เลโอล่าเห็นใบหน้าของรอน แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ชะโงกอยู่เหนือตัวเธอ เมื่อยันตัวลุกขึ้นก็พบว่าทั้งห้องโถงเงียบกริบและจ้องมองมายังเธอเป็นตาเดียว
“เลโอล่า
ตาเธอ” แฮร์รี่พูดอย่างอึ้งๆ เด็กหญิงยกมือขึ้นลูบตาอย่างลืมตัว มือของเธอกลายเป็นสีขาวซีด เล็บถูกย้อมด้วยสีแดงเข้มและมีเล็บแหลมงอกออกมา
เอาอีกแล้วเหรอ
เธอเพ่งสมาธิเล็กน้อย พลันร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปก็ค่อยๆกลับคืนสู่สภาพเดิม เลโอล่าหันไปโค้งขอโทษอาจารย์ใหญ่ที่ยืนอยู่บนยกพื้นเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นมานั่งตามเดิม
เพอร์ซี่ที่เป็นพรีเฟ็คประจำบ้านนำเด็กปีหนึ่งทุกคนขึ้นไปยังหอคอย มีรูปวาดของหญิงร่างท้วมคนหนึ่งอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“รหัสผ่าน” รูปวาดถาม
“คาร์ปุต ดราโคนิส” เพอร์ซี่ตอบ แล้วรูปภาพก็เหวี่ยงตัวออก เผยให้เห็นช่องที่นำไปสู่ห้องนั่งเล่นของหอคอย
เลโอล่าไม่สนใจใครทั้งสิ้น เธอรีบปีนขึ้นไปยังห้องนอนบนหอพักหญิงที่อยู่ทางซ้ายให้เร็วที่สุด เด็กหญิงได้อยู่ห้องเดียวกับลาเวนเดอร์และเฮอร์ไมโอนี่ ทันทีที่ประตูห้องปิดลงสองสาวก็เริ่มทำการสอบสวนอย่างไม่รอช้า
“เลโอล่า เมื่อตอนที่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์พูดอย่างเธอเป็นอะไรไปน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่คือผู้สอบปากคำหมายเลขหนึ่ง
“ฉันน่ะเหรอ?” เด็กหญิงชี้ตัวเองอย่างงงๆ ทั้งสองคนพยักหน้า
“อยู่ดีๆเธอก็ล้มลงไปเลย สีผมของเธอค่อยๆกลายเป็นสีขาวแล้วเล็บก็ยาวขึ้นด้วย ไม่ใช่ว่าเธอไปโดนคำสาปมาหรอกนะ” เด็กหญิงผมฟูกล่าว
เลโอล่ายิ้มแห้งๆ “จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิงหรอก
ฉันเคยถูกคำสาปแวมไพร์ตอนเด็กๆน่ะ”
“อ๋อ
งั้นเองเหรอ ห๊ะ!!! ว่าไงนะ!!!”
“ยะ
อย่าเสียงดังไปนักซี่พวกเธอ” เลโอล่าปราม
“งั้นหมายความว่า
เธอเป็นแวมไพร์งั้นเหรอ” ลาเวนเดอร์พูดเสียงเบาไม่ต่างกับกระซิบ
“แค่ลูกครึ่งเท่านั้นล่ะ” เลโอล่ายิ้มเศร้า มือยกขึ้นลูบสร้อยคอไพลินรูปจันทร์เสี้ยวบนคออย่างใจลอย
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น