ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #20 : Harry Potter 4

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 55







    ป๊อบ!

    เสียงเบาๆดังขึ้นเมื่อเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลได้หายตัวเข้ามาในห้องครัวของภาคี    ใบหน้าของเธอซีดเผือด   แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยอากาศที่หนาวจัด   เธอปัดหิมะที่เกาะอยู่บนไหล่ออกแล้วยิ้มกว้างเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ากอดเธอ

    “เฟเซียร์! หายไปไหนมาตั้งนาน”

    “นานซะจนเราเกือบลืมซะแล้วว่าเธอหน้าตาเป็นไงเลยล่ะ” เฟร็ดแทรกขึ้นมา

    “ช่ายๆ” จอร์จตอบรับเป็นลูกคู่

    “พวกนายสองคนอยากไปทัวร์นรกรึเปล่า   ฉันซี้กับฮาเดสนะ   ไปฟรีไม่คิดตังส์ด้วยเอ้า!” เด็กสาวยิ้มหวานขณะถอดเสื้อคลุมออกพาดบนพนักเก้าอี้

    “เธอขู่จะฆ่าเรารึเปล่าจอร์จ”

    “คงงั้นล่ะเฟร็ด”

    “ฉันทำจริง   โอ๊ะ! วันนี้กับข้าวน่ากินจริงนะ” เฟเซียร์นั่งลงยังที่ว่างตรงกันข้ามกับที่นั่งของสเนปซึ่งไม่มีใครกล้านั่งตรงนั้นเลยแม้แต่คนเดียว

    “เธอโหดร้ายชะมัด” สองฝาแฝดนรกพูดขึ้นพร้อมกัน

    “ฉันจะถือว่านั่นเป็นคำชมก็แล้วกันนะ”

    สีหน้าเจื่อนๆของคู่แฝดกับสีหน้าประดับรอยยิ้มสะใจของสาวน้อยสายเลือดปีศาจหิมะสร้างสีสันบนโต๊ะอาหารได้เป็นอย่างดี   แม้แต่สเนปเอง มุมปากของเขาก็ยังยกขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน

    ปากดีไม่เหมือนกับยัยเด็กสำออยที่ใจสลายเมื่อปีที่แล้วเลย

    “ได้ยินว่าเธอไปป่วนถึงลิตเติลวิงจิงเลยหรือ หืมม์? แม่สาวน้อย” ซีเรียสถามขึ้น   คำถามนั่นเรียกให้นางวีสลีย์ตวัดสายตามองทันควัน

    “อ่า” เฟเซียร์อยู่ในสภาวะน้ำท่วมปากเมื่อสมาชิกระดับอาจารย์ของภาคีจ้องมองเธอเสียแทบเกือบทะลุ   ก่อนที่จะก้มหน้าลงอย่างสลด

    “ก็นะหนูแค่อยากแวะไปเยี่ยมแฮร์รี่ก่อนเดินทางกลับบ้านเองง่า   ไม่นึกว่าจะไปเจอผู้คุมวิญญาณเข้า” เสียงของเธอเบาลงเรื่อยๆ   สีหน้าก็หม่นลงเหมือนคนจิตตก   เพียงแค่เธอยังไม่ลงไปนั่งจิ้มพื้นที่มุมห้องเท่านั้นเอง

    “แล้วเธอเคยคิดถึงผลที่ตามมารึเปล่า!   อาจมีพวกนั้นเห็นเธอก็ได้!   ยิ่งเธอเป็น

    จ๋อง~

    Feziar up skill เฟเซียร์กลายสภาพเป็นวิญญาณอาฆาตเลื้อยลงไปนั่งกอดเขาอยู่ตรงมุมห้องพลางเอานิ้ววนไปวนมาบนพื้น   โดยมีลูกไฟวิญญาณสองสามลูกลอยอยู่บนหัว   นับว่าเป็นการติดสกิลที่หลอนได้ใจจริงๆ

    “พอเถอะมอลลี่” นายวีสลีย์ปราม “เด็กมันก็เด็กล่ะนะ   แต่ก็ไม่มีใครเห็นไม่ใช่เหรอ”

    “แต่แกเป็นใครคุณก็น่าจะรู้!   ถ้าผู้เสพความตายมาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงนั้นแกจะเป็นยังไง!

     “หนูรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นใครค่ะ!

    ปึง!

    เฟเซียร์ทุบโต๊ะเสียงดังลั่น   เรียกให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว   นัยน์ตาสีประหลาดสั่นระริกเหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังควบคุมอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมาอยู่

    “หนูรู้ตัวดี!   และหนูก็ไม่ได้หวังด้วยว่าถ้าผู้เสพความตายมาเห็นแล้วจะพาหนูกลับไปส่งพ่อ!   ถ้าตัวหนูทำให้ภาคีเดือดร้อนก็เชิญจับหนูเข้าอัซคาบันเลย!

    เด็กสาวสะบัดหน้าหนีแล้วลุกขึ้นเดินลงส้นขึ้นไปยังบันไดด้านบน   ระหว่างทางได้ยินเสียงแม่ของซีเรียสกรีดร้องออกมา

    “นังเลือดโสมม! นังเลือดผสม! กล้าดียังไงมาเหยียบบ้านของฉัน!!!

    “หุบปากนะยัยแร้งทึ้ง!

    เปรี้ยง!!!

    จากนั้นเสียงทุกอย่างก็เงียบหายไป   ได้ยินแต่เสียงเดินลงส้นของเด็กสาวดังลงมาแว่วๆแล้วจึงเงียบตามไปในที่สุด   พวกแฮร์รี่ต่างทำหน้าเจื่อนไปตามๆกัน

    “ท่าทางอีแบบนั้นจะโกรธนาน   แล้วก็หายยากซะด้วย” รอนพูด

    คำพูดของรอนเป็นความจริงทุกประการ   หลายวันเลยที่เฟเซียร์ไม่ลงมาทานข้าวกับพวกเขา   จะมีแต่เฮอร์ไมโอนี่ที่เอาอาหารขึ้นไปวางไว้หน้าห้อง   ส่วนประตูห้องไม่ว่าจะลองใช้คาถาสะเดาะกลอนยังไงก็ไม่สามารถเปิดออกได้   คาดว่าข้างในเฟเซียร์น่าจะลงมนตราอะไรบางอย่างหรือไม่ก็แช่แข็งประตูเอาไว้

    เฟร็ดกับจอร์จใช้เครื่องกลวิเศษที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้นมาพยายามสอดแนมข้างในห้องของเฟเซียร์ที่กลายเป็นห้องแห่งความลับห้องที่สอง   แต่ทุกครั้งก็จะพบกับความล้มเหลวเมื่อเธอส่งชิคิงามิลอดผ่านช่องใต้ประตูออกมาจัดการพวกเขาเสียราบคาบจนทั้งสองไม่อยากเดินผ่านห้องนี้อีกเป็นครั้งที่สอง

    จนกระทั่งวันที่แฮร์รี่จะต้องไปรับฟังการพิจารณาคดี   หัวสีน้ำตาลอ่อนๆก็ยอมโผล่ออกมาให้ทุกคนได้เห็นอีกครั้ง

    “ศาสตราจารย์สเนปอยู่ม้ายค้า~

    เด็กสาวโผล่หน้าออกมาจากทางเข้าด้วยสภาพไม่ต่างจากซอมบี้ในขณะที่ทุกคนกำลังกินข้าวเช้ากันอยู่   ทำเอารอนที่ขวัญอ่อนถึงกับพ่นน้ำออกจากปากเป็นสาย

    “เฟไปทำอะไรมาน่ะ!” แฮร์รี่ถาม

    “อย่าเพิ่งถามมมม” เด็กสาวตอบเสียงยานคางแล้วเดินโซเซมาฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยสภาพหมดเรี่ยวแรง

    “โหเฮะ! ภาคีเรารับซอมบี้เข้าร่วมด้วยเหรอเนี่ย” คู่แฝดนรกที่เพิ่งเดินลงมาข้างล่างกล่าวทักทาย

    “ปายตายซ้า

    ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพย่ำแย่แค่ไหน   แต่เฟเซียร์ก็ยังคงเป็นเฟเซียร์คนเดิม   ลิ่มน้ำแข็งเล็กๆก่อตัวขึ้นแล้วพุ่งเข้าใส่ทั้งสองคนเป็นชุด

    “เรียกฉันหรือคุณแกรนด์โฟล”

    สเนปเดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับสมาชิกภาคีคนอื่นๆ   ท็องส์กับนางวีสลีย์ถึงกับผงะเมื่อเห็นสภาพของคนที่ไม่ได้โผล่ออกมาให้เห็นอยู่เป็นอาทิตย์นอนฟุบอย่างหมดสภาพอยู่กับโต๊ะกินข้าวโดยมีครุกแชงค์เอาหางปัดๆใส่เพื่อเรียกความสนใจ

    เมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์ขี้โมโห   เด็กสาวก็โงหัวขึ้นมาอย่างช้าๆ   ภาพนั้นทำเอามือปราบมารมือโปรหลายคนที่เดินตามออกมาจากห้องประชุมถึงกับทำหน้าเหวอไปตามๆกัน   ไม่ตกใจได้ไงล่ะ   สภาพเจ้าหล่อนในตอนนี้ดูอย่างกับผีจูออนในหนังของพวกมักเกิ้ลไม่มีผิด   ถึงเป็นผู้เสพความตายก็ต้องร้องกรี๊ดบ้างล่ะ

    “รายงานนนนน

    ม้วนกระดาษถึงยื่นให้กับอาจารย์ด้วยมือที่สั่นเทา   เมื่อเสร็จสิ้นงานแล้วเฟเซียร์ก็ค่อยๆลอยละลิ่วอย่างเชื่องช้ากลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองอย่างเงียบกริบ   และมีลูกไฟวิญญาณลอยตามไปห่างๆ

    “ฉันว่าเพื่อนเราจะกลายเป็นซอมบี้ในเร็วๆนี้ล่ะถ้าไม่ทำอะไรซักอย่าง” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “พับผ่าเถอะเฮอร์ไมโอนี่   เธออยากให้เราถูกเชือดอีกรึไง” เฟร็ดที่รู้ฤทธิ์ของสาวน้อยคนนั้นเป็นอย่างดีพูดขึ้นมาอย่างแหยงๆ

    “ฉันสองคนขอปฏิเสธงานนี้เด็ดขาด” จอร์จตอบรับเป็นลูกคู่

    “เกิดเธอนึกคึกสาปเราให้กลายเป็นหนูขึ้นมาแล้วทำไง”

    “สมน้ำหน้า” รอนพูด

    “เฉยๆ” เฮอร์ไมโอนี่ต่อ

    “เอ่อฉันไม่ขอออกความเห็นดีกว่า” สุดท้ายแฮร์รี่ก็วางตัวเป็นกลาง

    สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าขึ้นไปเหยียบหน้าห้องของเฟเซียร์อีกเลย   ในคืนที่ทุกอย่างในบ้านเงียบสงัด   มีเพียงแสงจันทร์และแสงไฟจากถนนด้านนอกลอดเข้ามาภายในบ้าน   เฟเซียร์ในสภาพชุดนอนแขนกุดยาวคลุมเข่าเดินลงมาจากห้องนอนพลางเลี้ยวเข้าไปในห้องครัวเพื่อทำอาหารง่ายๆกิน

    การสะกดรอยและสังเกตการณ์ผู้เสพความตายทำเอาเธอถึงกับไม่ได้หลับได้นอนหลายต่อหลายคืน   เธอใช้ชิคิงามิแอบเข้าไปสอดแนมตามที่ต่างๆ   การควบคุมชิคิงามินั้นจะต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก   อีกอย่างหนึ่งคือผู้ใช้จะไม่สามารถตัดจิตควบคุมลงไปได้เลย   การสะกดรอยจำเป็นต้องตามตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทำให้เธอไม่สามารถปลีกตัวออกไปนอนได้เลย   ในเวลานี้เองเธอก็ยังเชื่อมต่อกับชิคิงามิของเธออยู่เช่นกัน

    มือบางที่สั่นเทาเพราะไม่มีแรงจากการทำงานหนักยกกาน้ำขึ้นตั้งบนเตา   ก่อนที่จะหันไปทำช็อคโกแลตแท่งให้กลายเป็นช็อคโกแลตร้อนสำหรับดื่ม   เมื่อเสร็จแล้วก็ยกแก้วออกมานั่งดื่มตามลำพังในห้องนั่งเล่นของบ้านตระกูลแบล็ก

    อืมม์   จำได้ว่าตอนที่เดินสำรวจบ้านคร่าวรู้สึกว่าจะมีห้องดนตรีอยู่นี่

    เฟเซียร์เกิดปิ๊งไอเดียดีๆขึ้นมา   ไม่ได้แตะเปียโนมานานแล้ว   ขอทดสอบฝีมือตัวเองหน่อยก็แล้วกัน   ไหนๆก็ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว

    ในห้องนั้นมีแกรนด์เปียโนหลังใหญ่หลังหนึ่งตั้งอยู่จริงๆ   แต่ว่ามีผ้าคลุมอยู่และมีฝุ่นเกาะหนาเป็นนิ้ว   เด็กสาวเอามือปิดจมูกขณะดึงผ้าออก   ทำเอาฝุ่นตลบเต็มห้องเลยทีเดียว   ถ้าเธอไม่สร้างเกราะสายลมขึ้นป้องกันเอาไว้ก่อนคงกลายเป็นภูมิแพ้แน่ๆ

               สภาพของเปียโนหลังนี้เก่าพอสมควร   แต่ก็ไม่ได้เก่าขนาดต้องแบกขึ้นไปโชว์ในพิพิธภัณฑ์   ร่างบางเดินไปนั่งยังเก้าอี้   นิ้วทั้งสิบจรดลงยังคีย์แล้วเริ่มบรรเลงบทเพลงออกมา

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×