คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Harry Potter 4
ป๊อบ!
เสียงเบาๆดังขึ้นเมื่อเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลได้หายตัวเข้ามาในห้องครัวของภาคี ใบหน้าของเธอซีดเผือด แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยอากาศที่หนาวจัด เธอปัดหิมะที่เกาะอยู่บนไหล่ออกแล้วยิ้มกว้างเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ากอดเธอ
“เฟเซียร์! หายไปไหนมาตั้งนาน”
“นานซะจนเราเกือบลืมซะแล้วว่าเธอหน้าตาเป็นไงเลยล่ะ” เฟร็ดแทรกขึ้นมา
“ช่ายๆ” จอร์จตอบรับเป็นลูกคู่
“พวกนายสองคนอยากไปทัวร์นรกรึเปล่า ฉันซี้กับฮาเดสนะ ไปฟรีไม่คิดตังส์ด้วยเอ้า!” เด็กสาวยิ้มหวานขณะถอดเสื้อคลุมออกพาดบนพนักเก้าอี้
“เธอขู่จะฆ่าเรารึเปล่าจอร์จ”
“คงงั้นล่ะเฟร็ด”
“ฉันทำจริง โอ๊ะ! วันนี้กับข้าวน่ากินจริงนะ” เฟเซียร์นั่งลงยังที่ว่างตรงกันข้ามกับที่นั่งของสเนปซึ่งไม่มีใครกล้านั่งตรงนั้นเลยแม้แต่คนเดียว
“เธอโหดร้ายชะมัด” สองฝาแฝดนรกพูดขึ้นพร้อมกัน
“ฉันจะถือว่านั่นเป็นคำชมก็แล้วกันนะ”
สีหน้าเจื่อนๆของคู่แฝดกับสีหน้าประดับรอยยิ้มสะใจของสาวน้อยสายเลือดปีศาจหิมะสร้างสีสันบนโต๊ะอาหารได้เป็นอย่างดี แม้แต่สเนปเอง มุมปากของเขาก็ยังยกขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
ปากดี
ไม่เหมือนกับยัยเด็กสำออยที่ใจสลายเมื่อปีที่แล้วเลย
“ได้ยินว่าเธอไปป่วนถึงลิตเติลวิงจิงเลยหรือ หืมม์? แม่สาวน้อย” ซีเรียสถามขึ้น คำถามนั่นเรียกให้นางวีสลีย์ตวัดสายตามองทันควัน
“อ่า
” เฟเซียร์อยู่ในสภาวะน้ำท่วมปากเมื่อสมาชิกระดับอาจารย์ของภาคีจ้องมองเธอเสียแทบเกือบทะลุ ก่อนที่จะก้มหน้าลงอย่างสลด
“ก็นะ
หนูแค่อยากแวะไปเยี่ยมแฮร์รี่ก่อนเดินทางกลับบ้านเองง่า ไม่นึกว่าจะไปเจอผู้คุมวิญญาณเข้า
” เสียงของเธอเบาลงเรื่อยๆ สีหน้าก็หม่นลงเหมือนคนจิตตก เพียงแค่เธอยังไม่ลงไปนั่งจิ้มพื้นที่มุมห้องเท่านั้นเอง
“แล้วเธอเคยคิดถึงผลที่ตามมารึเปล่า! อาจมีพวกนั้นเห็นเธอก็ได้! ยิ่งเธอเป็น
”
จ๋อง~
Feziar up skill เฟเซียร์กลายสภาพเป็นวิญญาณอาฆาตเลื้อยลงไปนั่งกอดเขาอยู่ตรงมุมห้องพลางเอานิ้ววนไปวนมาบนพื้น โดยมีลูกไฟวิญญาณสองสามลูกลอยอยู่บนหัว นับว่าเป็นการติดสกิลที่หลอนได้ใจจริงๆ
“พอเถอะมอลลี่” นายวีสลีย์ปราม “เด็กมันก็เด็กล่ะนะ แต่ก็ไม่มีใครเห็นไม่ใช่เหรอ”
“แต่แกเป็นใครคุณก็น่าจะรู้! ถ้าผู้เสพความตายมาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงนั้นแกจะเป็นยังไง!”
“หนูรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นใครค่ะ!”
ปึง!
เฟเซียร์ทุบโต๊ะเสียงดังลั่น เรียกให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว นัยน์ตาสีประหลาดสั่นระริกเหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังควบคุมอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมาอยู่
“หนูรู้ตัวดี! และหนูก็ไม่ได้หวังด้วยว่าถ้าผู้เสพความตายมาเห็นแล้วจะพาหนูกลับไปส่งพ่อ! ถ้าตัวหนูทำให้ภาคีเดือดร้อนก็เชิญจับหนูเข้าอัซคาบันเลย!”
เด็กสาวสะบัดหน้าหนีแล้วลุกขึ้นเดินลงส้นขึ้นไปยังบันไดด้านบน ระหว่างทางได้ยินเสียงแม่ของซีเรียสกรีดร้องออกมา
“นังเลือดโสมม! นังเลือดผสม! กล้าดียังไงมาเหยียบบ้านของฉัน!!!”
“หุบปากนะยัยแร้งทึ้ง!”
เปรี้ยง!!!
จากนั้นเสียงทุกอย่างก็เงียบหายไป ได้ยินแต่เสียงเดินลงส้นของเด็กสาวดังลงมาแว่วๆแล้วจึงเงียบตามไปในที่สุด พวกแฮร์รี่ต่างทำหน้าเจื่อนไปตามๆกัน
“ท่าทางอีแบบนั้นจะโกรธนาน แล้วก็หายยากซะด้วย” รอนพูด
คำพูดของรอนเป็นความจริงทุกประการ หลายวันเลยที่เฟเซียร์ไม่ลงมาทานข้าวกับพวกเขา จะมีแต่เฮอร์ไมโอนี่ที่เอาอาหารขึ้นไปวางไว้หน้าห้อง ส่วนประตูห้องไม่ว่าจะลองใช้คาถาสะเดาะกลอนยังไงก็ไม่สามารถเปิดออกได้ คาดว่าข้างในเฟเซียร์น่าจะลงมนตราอะไรบางอย่างหรือไม่ก็แช่แข็งประตูเอาไว้
เฟร็ดกับจอร์จใช้เครื่องกลวิเศษที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้นมาพยายามสอดแนมข้างในห้องของเฟเซียร์ที่กลายเป็นห้องแห่งความลับห้องที่สอง แต่ทุกครั้งก็จะพบกับความล้มเหลวเมื่อเธอส่งชิคิงามิลอดผ่านช่องใต้ประตูออกมาจัดการพวกเขาเสียราบคาบจนทั้งสองไม่อยากเดินผ่านห้องนี้อีกเป็นครั้งที่สอง
จนกระทั่งวันที่แฮร์รี่จะต้องไปรับฟังการพิจารณาคดี หัวสีน้ำตาลอ่อนๆก็ยอมโผล่ออกมาให้ทุกคนได้เห็นอีกครั้ง
“ศาสตราจารย์สเนปอยู่ม้ายค้า~
”
เด็กสาวโผล่หน้าออกมาจากทางเข้าด้วยสภาพไม่ต่างจากซอมบี้ในขณะที่ทุกคนกำลังกินข้าวเช้ากันอยู่ ทำเอารอนที่ขวัญอ่อนถึงกับพ่นน้ำออกจากปากเป็นสาย
“เฟ
ไปทำอะไรมาน่ะ!” แฮร์รี่ถาม
“อย่าเพิ่งถามมมม
” เด็กสาวตอบเสียงยานคางแล้วเดินโซเซมาฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยสภาพหมดเรี่ยวแรง
“โหเฮะ! ภาคีเรารับซอมบี้เข้าร่วมด้วยเหรอเนี่ย” คู่แฝดนรกที่เพิ่งเดินลงมาข้างล่างกล่าวทักทาย
“ปายตายซ้า
”
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพย่ำแย่แค่ไหน แต่เฟเซียร์ก็ยังคงเป็นเฟเซียร์คนเดิม ลิ่มน้ำแข็งเล็กๆก่อตัวขึ้นแล้วพุ่งเข้าใส่ทั้งสองคนเป็นชุด
“เรียกฉันหรือคุณแกรนด์โฟล”
สเนปเดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับสมาชิกภาคีคนอื่นๆ ท็องส์กับนางวีสลีย์ถึงกับผงะเมื่อเห็นสภาพของคนที่ไม่ได้โผล่ออกมาให้เห็นอยู่เป็นอาทิตย์นอนฟุบอย่างหมดสภาพอยู่กับโต๊ะกินข้าวโดยมีครุกแชงค์เอาหางปัดๆใส่เพื่อเรียกความสนใจ
เมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์ขี้โมโห เด็กสาวก็โงหัวขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพนั้นทำเอามือปราบมารมือโปรหลายคนที่เดินตามออกมาจากห้องประชุมถึงกับทำหน้าเหวอไปตามๆกัน ไม่ตกใจได้ไงล่ะ สภาพเจ้าหล่อนในตอนนี้ดูอย่างกับผีจูออนในหนังของพวกมักเกิ้ลไม่มีผิด ถึงเป็นผู้เสพความตายก็ต้องร้องกรี๊ดบ้างล่ะ
“รายงานนนนน
”
ม้วนกระดาษถึงยื่นให้กับอาจารย์ด้วยมือที่สั่นเทา เมื่อเสร็จสิ้นงานแล้วเฟเซียร์ก็ค่อยๆลอยละลิ่วอย่างเชื่องช้ากลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองอย่างเงียบกริบ และมีลูกไฟวิญญาณลอยตามไปห่างๆ
“ฉันว่า
เพื่อนเราจะกลายเป็นซอมบี้ในเร็วๆนี้ล่ะถ้าไม่ทำอะไรซักอย่าง” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“พับผ่าเถอะเฮอร์ไมโอนี่ เธออยากให้เราถูกเชือดอีกรึไง” เฟร็ดที่รู้ฤทธิ์ของสาวน้อยคนนั้นเป็นอย่างดีพูดขึ้นมาอย่างแหยงๆ
“ฉันสองคนขอปฏิเสธงานนี้เด็ดขาด” จอร์จตอบรับเป็นลูกคู่
“เกิดเธอนึกคึกสาปเราให้กลายเป็นหนูขึ้นมาแล้วทำไง”
“สมน้ำหน้า” รอนพูด
“เฉยๆ” เฮอร์ไมโอนี่ต่อ
“เอ่อ
ฉันไม่ขอออกความเห็นดีกว่า” สุดท้ายแฮร์รี่ก็วางตัวเป็นกลาง
สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าขึ้นไปเหยียบหน้าห้องของเฟเซียร์อีกเลย ในคืนที่ทุกอย่างในบ้านเงียบสงัด มีเพียงแสงจันทร์และแสงไฟจากถนนด้านนอกลอดเข้ามาภายในบ้าน เฟเซียร์ในสภาพชุดนอนแขนกุดยาวคลุมเข่าเดินลงมาจากห้องนอนพลางเลี้ยวเข้าไปในห้องครัวเพื่อทำอาหารง่ายๆกิน
การสะกดรอยและสังเกตการณ์ผู้เสพความตายทำเอาเธอถึงกับไม่ได้หลับได้นอนหลายต่อหลายคืน เธอใช้ชิคิงามิแอบเข้าไปสอดแนมตามที่ต่างๆ การควบคุมชิคิงามินั้นจะต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก อีกอย่างหนึ่งคือผู้ใช้จะไม่สามารถตัดจิตควบคุมลงไปได้เลย การสะกดรอยจำเป็นต้องตามตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทำให้เธอไม่สามารถปลีกตัวออกไปนอนได้เลย ในเวลานี้เองเธอก็ยังเชื่อมต่อกับชิคิงามิของเธออยู่เช่นกัน
มือบางที่สั่นเทาเพราะไม่มีแรงจากการทำงานหนักยกกาน้ำขึ้นตั้งบนเตา ก่อนที่จะหันไปทำช็อคโกแลตแท่งให้กลายเป็นช็อคโกแลตร้อนสำหรับดื่ม เมื่อเสร็จแล้วก็ยกแก้วออกมานั่งดื่มตามลำพังในห้องนั่งเล่นของบ้านตระกูลแบล็ก
อืมม์ จำได้ว่าตอนที่เดินสำรวจบ้านคร่าวรู้สึกว่าจะมีห้องดนตรีอยู่นี่
เฟเซียร์เกิดปิ๊งไอเดียดีๆขึ้นมา ไม่ได้แตะเปียโนมานานแล้ว ขอทดสอบฝีมือตัวเองหน่อยก็แล้วกัน ไหนๆก็ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว
ในห้องนั้นมีแกรนด์เปียโนหลังใหญ่หลังหนึ่งตั้งอยู่จริงๆ แต่ว่ามีผ้าคลุมอยู่และมีฝุ่นเกาะหนาเป็นนิ้ว เด็กสาวเอามือปิดจมูกขณะดึงผ้าออก ทำเอาฝุ่นตลบเต็มห้องเลยทีเดียว ถ้าเธอไม่สร้างเกราะสายลมขึ้นป้องกันเอาไว้ก่อนคงกลายเป็นภูมิแพ้แน่ๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น