ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #16 : แบล็กบัทเลอร์

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 55






    เจ้าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของข้า

    ลูกที่รักของข้า

    แต่เจ้าหาใช่สิ่งล้ำค่าของโลกใบนี้ไม่

     

    ท่ามกลางหิมะที่ตกโปรยปรายลงมา   ชายในชุดยาวสีดำคนหนึ่งเดินทอดน่องฝ่าม่านหิมะเหล่านั้นมาตามทางดินลูกรังของชานเมืองโดยไร้อาการหนาวสั่นกับอากาศที่เย็นจัดจนเกือบติดลบ   อากาศแบบนี้คงไม่มีใครออกมาเดินท่อมๆทรมานตัวเองเล่นๆหรอก   ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจที่จะรีบเดินกลับเข้าบ้านไปหาความอบอุ่นจากเตาผิง   แต่กลับยังเดินเล่นอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งผ่านมายังต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง

    เสียงร้องของเด็กทารกที่ดังแผ่วท่ามกลางอากาศเย็นจัดทำให้เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย   ด้วยความอยากรู้นั้นเขาจึงตัดสินใจเดินตามเสียงนั้นไป  และสิ่งที่ได้พบนั้นก็ทำให้ดวงตาสีเขียวเข้มที่ซ่อนอยู่ใต้เงาของหมวกนั้นเบิกกว้างขึ้น

    ทารกเพศหญิงคนหนึ่งกำลังนอนหายใจแผ่วอยู่ภายในตะกร้าสาน   เห็นได้ชัดว่าถึงแม้จะมีผ้าขนสัตว์ห่มคลุมทับอยู่ก็ยังไม่สามารถสกัดกั้นความหนาวเย็นได้   ริมฝีปากของทารกน้อยจึงม่วงคล้ำด้วยอากาศอันเลวร้ายนั้น

    ชายคนนั้นช้อนร่างของทารกน้อยตรงหน้าขึ้นมาอุ้มไว้แนบอก   สัมผัสบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวเด็กคนนี้ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด   ถ้าหากเป็นเด็กคนอื่นเขาคงจะไม่เหลียวแลไปแล้ว   แต่เด็กคนนี้พิเศษออกไปอย่างสิ้นเชิง

    เมื่อได้รับความอบอุ่นจากผู้โอบอุ้ม   ทารกน้อยก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา   ดวงตาของเธอนั้นเป็นเงินเหมือนกับแสงจันทร์   ให้ความรู้สึกทั้งอ่อนโยนและลึกล้ำในเวลาเดียวกัน   ในขณะที่โครงหน้าของเธอช่างคุ้นเคยเหลือเกิน

    ราวกับใบหน้าของเขายามเยาว์วัยไม่มีผิด

    “อะไรกันนี่” เขาพึมพำกับตัวเองด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ   สายตาพลันเหลือบไปเห็นซองจดหมายสีขาวซองหนึ่งแนบเอาไว้กับผ้าคลุมของเด็กน้อย   เขาเปิดอ่านแล้วก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีดอีกครั้ง

    “เป็นไปไม่ได้น่า” เขามองทารกในอ้อมกอดสลับกับเนื้อความในจดหมายไปมาอยู่หลายรอบ   ก่อนที่จะยิ้มบางออกมาอย่างปลงตก

    “ช่วยไม่ได้สินะ   งั้นฉันจะเลี้ยงเธอเองแล้วกัน

    ใบหน้าที่ไร้ริ้วร้อยนอกจากรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่พาดผ่านสันจมูกแนบใบหน้าใสเกลี้ยงของทารกน้อยในอ้อมกอดด้วยความรักใคร่   มือป้อมๆของเด็กน้อยที่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลด้วยความอบอุ่นนั้นเอื้อมมาสัมผัสแผลเป็นของชายหนุ่มราวกับกำลังตอบรับความรู้สึกของเขา

    “ยูซาน่า”

     

     


     

    “เซบาสเตียน!!  ชิเอล!!

    ยูซาน่าที่ยืนอยู่บนเรือลำหนึ่งตะโกนเรียกสองนายน้อยกับพ่อบ้านที่กำลังลอยคออยู่ในทะเลพร้อมกับโยนบ่วงเชือกลงมาให้พวกเขาทั้งสองได้เกาะขึ้นไป   ซาตานหนุ่มลากนายน้อยของเขาขึ้นมาอย่างทุลักทุเลก่อนที่จะเหลือบมองหญิงสาวผู้ช่วยเหลือด้วยความแปลกใจ

    “จำได้ว่าคุณไม่ได้ขึ้นเรือมาด้วยไม่ใช่หรือครับ  เคาท์เตสคราวน์ฟอร์ด”

    นัยน์ตาสีเงินคมกล้าของเคาท์หญิงแห่งองค์ราชินีเปล่งประกายวาบหลังจากได้ยินคำพูดของพ่อบ้านปีศาจตรงหน้า   เธอสบถชิอย่างไม่ชอบใจแล้วใช้ไม้พายพาเรือออกห่างจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

    “ใส่เสื้อฉันซะชิเอล” ยูซาน่าถอดเสื้อโค้ทยาวสีดำที่ใส่มาด้วยให้เด็กหนุ่มผมดำที่นั่งตัวสั่นจากการแช่น้ำเย็นจัดเป็นเวลานาน “เราต้องรีบออกจากที่นี่   ไม่งั้นพวกนั้นได้พาเราจบเห่แน่”

    หญิงสาวกล่าวพร้อมกับปรายตามองไปยังกลุ่มคนที่กำลังพากันว่ายน้ำหนีตายมาทางเรือของพวกเธอด้วยสายตาไร้ความรู้สึก   ในเวลานี้ก็ต้องมีเห็นแก่ตัวบ้างล่ะ   ถ้าช่วยพวกนั้นเอาไว้หมดมีหวังพวกเธอก็คงจะตายเหมือนกัน   ใครๆก็อยากมีชีวิตรอดทั้งนั้นล่ะ   เป็นธรรมดาของมนุษย์

    ”ผมก็เห็นด้วยเหมือนกันครับ” เซบาสเตียนยิ้มแห้งๆ   เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่เป็นอย่างดีเช่นกัน

    ในขณะที่เขากำลังจะโยนตัวเองขึ้นมาบนเรือนั้นเอง   ได้มีมือปริศนาข้างหนึ่งเอื้อมมายุดขาของเขาเอาไว้ก่อนที่จะกัดอย่างแรงจนจมเขี้ยว   เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดราวกับท่อน้ำที่ถูกเจาะจนมีรูรั่ว

    พลั่ก!

    ไม้พายที่อยู่ในมือของยูซาน่าดีๆพาดผัวะเข้าที่หัวของเจ้าศพเดินได้นั่นจมหายลงไปในน้ำทันทีหลังจากที่มันกัดขาของเซบาสเตียนจนเลือดพุ่ง   ชายหนุ่มมองดูซากชิ้นส่วนเล็กน้อยที่ลอยอยู่บนผิวน้ำแล้วก็ยิ้มแห้งๆอีกครั้งหนึ่ง

    “คุณนี่โหดร้ายจังเลยนะครับ   ถึงจะเป็นศพแต่พวกเขาก็เคยเป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอครับ”

    “นายนี่พูดมากจัง   ลืมแล้วเรอะว่าฉันน่ะลูกใคร”

    ฉันเป็นลูกสัปเหร่อเชียวนะ!  เรื่องคนตายนี่ฝังหัวฉันตั้งแต่เด็กแล้วเฟ้ย!!!

    ในเวลานั้นเอง   หญิงสาวก็สะบัดมือขึ้นเหนือหัว   เปลวไฟสีส้มสว่างผุดขึ้นจากฝ่ามือบางแล้วลอยขึ้นสูงในอากาศ   ก่อนที่จะระเบิดออกมาเป็นพลุสัญญาณที่ให้แสงสว่างมากพอที่จะระบุตำแหน่งของพวกเขาให้กับกลุ่มผู้อพยพบนเรือชูชีพลำอื่นๆในบริเวณนั้นได้

    “นั่น!  ชิเอล!!! คุณพ่อบ้าน!!!” เอ็ดเวิร์ดที่สายตาดีที่สุดในกลุ่มตะโกนด้วยความดีใจเมื่อเห็นน้องเขยของเขายังมีชีวิตรอดอยู่หลังจากที่เรือสำราญขาดออกเป็นสองท่อน   แล้วยังมีหญิงสาวผมสีน้ำตาลในชุดสีดำประหลาดโดยสารมาด้วยอีกคนอีกต่างหาก

    ยูซาน่ารับหน้าที่เป็นคนพายเรือพาพ่อบ้านกับนายน้อยที่หมดสภาพจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้มาส่งที่กลุ่มเรือของผู้รอดชีวิต   ก่อนที่ตัวเองจะยืนอยู่บนเรือลำนั้นเพียงลำพัง

    “จะทำอะไรของเธอน่ะยูซาน่า!” ชิเอลร้องเสียงดัง

    “ทำสิ่งที่ควรทำไงล่ะพ่อหนุ่ม” หญิงสาวยิ้มเศร้าๆก่อนที่จะใช้เท้าถีบเรือของตัวเองออกไปยังห้วงน้ำที่ไร้แสงสว่าง   และมีปีศาจกระหายเลือดหลายสิบตัวลอยคออยู่เต็มไปหมด

    ฉันควรจะชดใช้ในสิ่งที่พ่อทำลงไป

    เธอคิดในใจพลางถกแขนเสื้อข้างขวาขึ้นสูงถึงข้อศอก   เผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่ถูกประทับเอาไว้ด้วยตราสัญลักษณ์คล้ายเปลวเพลิงสีดำสนิท   นิ้วเรียวลากผ่านตั้งแต่ข้อมือจรดข้อพับแขน   จากเปลวเพลิงที่เป็นเพียงแค่รอยสักอัปลักษณ์กลับค่อยๆม้วนตัวออกมาจากแขนเรียวบางประดุจควันปีศาจ   ก่อกำเนิดเป็นเคียวเล่มยาวที่มีสีดำปลอดทั้งเล่มอยู่ในมือของเธอ

    เดธไซท์ต้องสาปของเหล่ายมทูตอีฟริท คู่พันธสัญญาของเธอ

    ร่างบางถีบตัวสูงขึ้นไปในอากาศที่มีแต่ความมืดปกคลุม   เคียวเล่มใหญ่ที่น่าจะมีน้ำหนักมหาศาลถูกกวัดแกว่งอย่างง่ายดาย   คมของมันฟาดฟันผิวน้ำพร้อมกับสังหารเหล่าอสูรกายพิสดารไปด้วย   เลือดสดๆพุ่งราวกับน้ำพุ   แต่งแต้มให้ผืนน้ำในบริเวณนั้นเป็นสีแดงฉานราวกับทะเลเพลิง

    ซากศพที่ถูกฟันลอยเกลื่อนเต็มผิวน้ำ   แต่ถึงกระนั้นยูซาน่าก็ยังไม่หยุดมือที่จะลงมือต่อสู้   ทุกครั้งที่เธอวาดอาวุธเข้าหาศัตรู   ไม่มีครั้งใดเลยที่จะพลาดจากเป้าหมาย   ไม่มีครั้งใดเลยที่จะไม่มีการหลั่งเลือด

    ทันทีที่เท้าของเธอแตะกราบเรือทั้งสอง   มือของเจ้ามนุษย์กลายพันธุ์ตัวหนึ่งก็คว้าหมับพร้อมกับลากเธอลงไปในน้ำโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

    ในจังหวะที่ร่างบางกำลังจะถูกแรงมหาศาลลากตกลงไปนั้นเอง   มือหนาก็เอื้อมเข้าคว้าเอวเธอไว้พร้อมกับรั้งเข้าหาตัวเอง   กลิ่นหอมจางๆที่ไม่เหมือนใครนั้นทำให้เธอได้รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของใคร

    “เซบาสเตียน” หญิงสาวกระซิบชื่อของชายหนุ่มที่แนบชิดอยู่

    “นายน้อยสั่งให้ผมกำจัดเจ้าพวกนี้ด้วยน่ะครับ” ชายหนุ่มยิ้มหวานขณะซัดมีดเงินออกไปยังเป้าหมายโดยรอบอย่างแม่นยำ

    “ทำหน้าที่เป็นหมาเฝ้าบ้านได้ดีจริงๆเลยนะพ่อคุณ” ยูซาน่ากล่าวเหน็บแนมพร้อมกับใช้กำปั้นทุบอกคนตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว   มืออีกข้างที่ว่างก็เหวี่ยงเคียวคมกริบในมือกวาดล้างมนุษย์ทดลองซึ่งเป็นผลงานรุ่นลิมิเต็ดของพ่อเธอไปด้วย

    “พักเรื่องนั้นเอาไว้ก่อนได้ไหมครับ   งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มแล้วนะครับ”

    ยิ่งฆ่าไปมากเท่าไร   รอยยิ้มบนใบหน้าของปีศาจทั้งสองก็ยิ่งเบิกบานมากขึ้นราวกับดอกบัวที่ค่อยๆคลี่บานยามต้องแสงอาทิตย์

    “บทบรรเลงสีเลือดกำลังจะเริ่มแล้วล่ะเซบาสจัง” หญิงสาวกระโดดถอยกลับมาตั้งหลักบนเรือพร้อมๆกับพ่อบ้านประจำตระกูลแฟนท่อมไฮฟ์   เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ประเภทกวาดล้างครั้งนี้ยังหนักหนาสาหัสสำหรับทั้งคู่พอสมควร   สังเกตได้จากบาดแผลบนร่างกายที่มีมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่ออกไปต่อสู้

    ยูซาน่าหอบหายใจเล็กน้อย   มือข้างที่ไม่ได้จับอาวุธกุมบาดแผลฉกรรจ์ที่ต้นขาเพื่อกดไม่ให้เลือดไหลออกมามากเกินไป   มีรอยซับเลือดจางๆจากบาดแผลแห่งอื่นที่ไม่สาหัสมากนักอยู่บนเสื้อผ้าที่เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใน

    เซบาสเตียนยิ้มแหยเมื่อได้ยินชื่อใหม่ของเขา “อย่าเรียกผมแบบนั้นเลยครับ   มันทำให้ผมขนลุก”

    ยูซาน่าหลุดหัวเราะออกมา “ทำให้นายนึกถึงรุ่นพี่เกรลล่ะสิ   ช่วยไม่ได้น้าพี่เขาเป็นแบบนั้นตั้งนานแล้วนี่”

    แล้วก็กลายเป็นแบบนั้นเพราะคนที่นายคาดไม่ถึงเสียด้วยเธอแอบคิดต่อในใจ

    “ช่างยมทูตคนนั้นเถอะครับ” ชายหนุ่มหันกายกลับมาหาหญิงสาวที่อิงแผ่นหลังเขาอยู่พร้อมกับยื่นมือขวาไปหาเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุด

    “บทเพลงบรรเลงแล้ว   เต้นรำกับผมนะครับเลดี้”

    งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้น   เลือดแดงฉานที่ชโลมผิวน้ำให้กลายเป็นสีคล้ำคือฟลอร์เต้นรำ   เสียงคมอาวุธดังแหวกอาวุธคือเสียงดนตรีที่ทำให้หนุ่มสาวทั้งสองเต้นเคียงกันท่ามกลางฟลอร์สีเลือดแห่งความตาย   ยิ่งขยับมากเท่าไรบาดแผลก็ยิ่งเพิ่มขึ้นบนร่างกายของทั้งสองคนมากขึ้นเท่านั้น   จนกระทั่งแสงแรกของวันแตะยังขอบฟ้า   แสงสว่างส่องให้เห็นซากศพนับไม่ถ้วนลอยอืดอยู่บนผิวน้ำในสภาพร่างกายถูกทำลายจนย่อยยับ   เกรงว่าถ้าคนที่เพิ่งกินข้าวมาใหม่ๆได้เห็นคงไม่แคล้วได้เอาของในท้องออกมาแน่

    แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

                ยูซาน่าปีนขึ้นมาบนเรือแล้วทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง   เซบาสเตียนเองก็เช่นกัน   ถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาจะเรียบเฉย   แต่ทว่าหน้าและมือกลับซีดและเย็นเนื่องจากเสียเลือดไปเป็นจำนวนมากทั้งในการต่อสู้บนเรือและที่นี่

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------

    Still don't finish
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×