ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #1 : แพนโดร่า ฮาร์ท ฉบับทดลองแต่ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 333
      1
      5 ธ.ค. 54



    มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีบาปมากที่สุดในโลก

    พวกเขาต่างมัวเมาในตัณหา ความละโมบ และความเห็นแก่ตัว

    แต่ถึงกระนั้นพวกเราก็ยังชื่มชมพวกเขา   อยากมีชีวิตที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเช่นพวกเขา

    อยากจะชื่มชมความปรารถนาอันแรงกล้าของพวกเขา

    ความปรารถนาที่พวกเขายอมแลกซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่มีเพื่อได้มันมา

    ความปรารถนาที่สิ่งมีชีวิตอย่างเรามิอาจเข้าใจได้

     

    ติงติงติง

    เสียงหยดน้ำกระทบกับผืนน้ำสีดำสนิทไพเราะก้องกังวานไปทั่วทั้งห้วงมิติที่มีแต่ความมืดมิดปกคลุมเป็นจังหวะเชื่องช้า   ก่อให้เกิดวงระลอกน้ำแผ่กระจายเป็นรัศมีกว้าง   น่าประหลาดที่วงรัศมีบนผิวน้ำนั้นเรืองแสงออกมาจางๆทั้งยังเปล่งแสงสว่างออกมามากกว่าเดิมยามเมื่อเข้าใกล้กับบางสิ่งบางอย่างที่กำลังลอยคว้างอยู่ใต้ผิวน้ำนั้น

    เส้นผมสีแดงเพลิงนุ่มสลวยราวกับเส้นไหมแผ่สยายอยู่ใต้ผิวน้ำที่กำลังสั่นไหว   สีแดงสดของมันนั้นตัดกับสีดำสนิทของท้องฟ้าและผืนน้ำโดยสิ้นเชิง

                เปลือกตาสีซีดของคนที่ไม่ได้อยู่ใต้แสงแดดมาเป็นเวลานานแสนนานลืมขึ้นอย่างเชื่องช้าราวกับไม่อยากรับรู้ถึงความเป็นไปโดยรอบ   เผยให้เห็นสีฟ้าอมเขียวสุกสกาวดุจน้ำทะเลต้องแดดของแก้วตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกลึกล้ำจนยากจะหยั่งถึง

    ผู้ตื่นจากการหลับใหลกะพริบตาถี่เพื่อปรับการมองเห็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น    แล้วจึงค่อยๆเคลื่อนไหวขึ้นมาจากน้ำและลอยตัวสูงไปยังกลางอากาศที่ว่างเปล่า   นัยน์ตาสีสว่างกวาดมองสำรวจที่ที่ตนอยู่ด้วยสายตาราบเรียบ

    ในอาณาบริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของห้วงมิติที่เงียบสงัดซึ่งมองไปยังทางใดๆก็เห็นเพียงความมืดและผืนน้ำกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด   สิ่งที่ช่วยเติมแต่งที่นี่ให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาในระดับหนึ่งก็มีแค่เพียงเศษซากปรักหักพังของห้องทรงสี่เหลี่ยมและข้าวของต่างๆที่ลอยคว้างไปมาราวกับไร้แรงดึงดูดเท่านั้น   นอกเหนือออกไปก็คือความมืดมิด

    /ตื่นแล้วล่ะ  ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว/

    /เธอคนนั้นลืมตาแล้ว  ต้องเกิดหายนะแน่!/

    /ต้องรีบบอกปณิธานแห่งอาบิส/

    /ต้องบอกให้เร็วที่สุด!/

    ทันใดนั้นเอง   บรรยากาศที่แสนเงียบสงัดในตอนแรกก็พลันถูกทำลายลงด้วยเสียงบอกกล่าวเซ็งแซ่แหลมเล็กและเสียดแทงประสาทหูของเหล่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในห้วงมิติสีดำที่เรียกว่า อาบิส แห่งนี้   ในเงามืดของซากปรักหักพังพลันปรากฏดวงตาสีแดงเรืองรองนับสิบนับร้อยคู่สั่นไหวไปมา   ผู้ถูกกล่าวถึงในบทสนทนานั้นปรายตามองอย่างเงียบงัน

    เงียบๆกันหน่อยสิ”

    สิ้นเสียงนุ่มนวลที่แฝงเอาไว้ด้วยความน่าหวั่นเกรงนั้น    กระแสพลังสีม่วงก็แผ่ออกมาเป็นวงกว้างโดยมีร่างบางนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง   เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานและเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสของเหล่าเชนชั้นต่ำดังขึ้นลั่นยามเมื่อรัศมีประหลาดนั้นสัมผัมถูกตัวของพวกมัน    ไม่นานนักเสียงที่แสนบาดหูนั้นก็เงียบหายไป   แล้วความเงียบงันก็กลับเข้ามาแทนที่อีกครั้งหนึ่งเช่นเดิม

    จ๋อม! จ๋อม! จ๋อม!

    “เชสเซอร์ชอบคุณก็ตรงนี้ล่ะ   ที่คุณมักจะลงมือเด็ดขาดแบบนี้เสมอๆเลย”

    เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง    เรียกให้คนที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำหันไปมองผู้มาเยือนรายใหม่อย่างประหลาดใจ   ก่อนที่รอยยิ้มอ่อนโยนบางๆจะฉาบใบหน้าขาวติดซีดของเด็กสาวให้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น

                 “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเชสเซอร์” 

                 ผู้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วลดระดับลงยืนอยู่บนผิวน้ำเดียวกับชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีแดงสดเพียงข้างเดียวและมีมือทั้งสองข้างเป็นกรงเล็บคมกริบ     เห็นได้ชัดว่าในดวงตาสีฟ้าอมเขียวสว่างนั้นเต็มไปด้วยรอยแห่งความอ่อนโยนผิดกับในตอนแรกโดยสิ้นเชิง    บ่งบอกว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้เป็นคนสำคัญคนหนึ่งของเธอ

    “นานมากๆอลิซกำลังรอคุณอยู่เลย   ตามเชสเซอร์มาสิ”

    พูดแล้วชายหนุ่มก็ออกเดินนำหน้าไป   แต่เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงสดดุจเปลวเพลิงกลับยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน  

    “ฉันไปหาเธอคนนั้นตอนนี้ไม่ได้เชสเซอร์ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากก่อนที่จะพบกับเธอ” เธอเอ่ยเสียงเศร้าพร้อมกับก้าวถอยหลังออกห่างไป

    “แต่ว่าอลิซรอคุณมาตลอดเลยนะ” เขาตัดพ้อเสียงอ่อน   เด็กสาวผมแดงส่ายหน้าช้าๆพร้อมกับยิ้มบางที่มุมปาก

    “ฝากบอกเธอทีว่าฉันขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนี้”

    ในขณะที่พูดนั้นเอง   ห้วงมิติสีดำเบื้องหลังของเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเพลิงยาวระเรี่ยเอวก็พลันบิดเบี้ยวก่อเกิดเป็นรอยแยกสีขาวที่มีแสงสว่างเจิดจ้าลอดออกมา   ร่างบางที่ยืนส่งรอยยิ้มเศร้ามาให้เชสเซอร์นั้นค่อยๆถูกแสงสว่างกลืนหายไปท่ามกลางสายตาตกตะลึงของแมวหนุ่มผู้รับใช้ของปณิธานแห่งอาบิสที่ได้แต่จ้องมองเฉยๆและปล่อยให้คนตรงหน้าหนีหายไป

    “ว้าจับไม่ทันอีกแล้ว   แย่จังเลยนะเชสเซอร์”

    เด็กสาวร่างบอบบางเจ้าของเรือนผมสีขาวพิสุทธ์ในชุดสีเดียวกันเจ้าของน้ำเสียงหวานที่ปรากฏตัวขึ้นในพริบตาด้านหลังของชายหนุ่มก้าวมายังจุดที่ผู้ถูกจองจำในมิติของตนได้หลบหนีหายไปแล้วก็แค่นรอยยิ้มบางๆราวกับจะสมเพชตัวเอง

    “อลิซ” เชสเซอร์ทำหูลู่อย่างรู้สึกผิด   เด็กสาวสีขาวบริสุทธิ์ยิ้มบางแล้วเดินเข้ามาโอบกอดคนตัวสูงกว่าอย่างปลอบโยน

    “อย่าเสียใจไปเลยเชสเซอร์นั่นคือสิ่งที่เดรนาซจำเป็นต้องทำ   เราเพียงต้องรอคอยเธอคนนั้นเท่านั้น”

     

     

     

    สายฝนตกลงมากระทบพื้นดินอย่างไม่หยุดหย่อนยังภายนอกปราสาทซึ่งถูกเมฆสีดำทะมึนปกคลุม    ร่างบางของเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีทองดัดเป็นลอนน้อยๆยาวถึงกลางหลังผู้มีแมวสีขาวและดำสองตัวเดินตามหลังก้าวย่างไปตามระเบียงทางเดินที่มืดมิดอย่างเชื่องช้า   แล้วจึงไปหยุดยังบานหน้าต่างที่แสดงภาพทิวทัศน์มืดครึ้มของคืนที่มีพายุเข้า    นัยน์ตาสีเขียวสดดุจมรกตเนื้อดีฉายแววกังวลขึ้นมาครู่หนึ่ง

    “ฝนตกหนักจังเลย”

    ครืน!!!  เปรี้ยง!!!

    ทันใดนั้นเอง   บนท้องฟ้าที่มืดมิดก็เกิดสายฟ้าสว่างวาบขึ้นพร้อมกับมีเสียงดังสนั่นครั้งใหญ่ตามมา   เด็กสาวในชุดนักเรียนสีขาวเพียงเบิกตากว้างอย่างตกใจในขณะที่ทำได้แต่ยืนขาแข็งอยู่ตรงนั้น

    เมื่อแสงสว่างพลันดับวูบลง   บนพื้นเบื้องหน้าของเธอก็ปรากฏร่างสูงโปร่งนอนนิ่งสงบอยู่ตรงนั้น   เส้นผมสีแดงดุจเปลวเพลิงนั้นแผ่สยายรอบตัวราวกับไฟที่ลุกไหม้ป่า   ตามแขนขาของบุคคลนิรนามนี้เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยบอบช้ำมากมาย    อีกทั้งชุดที่ใส่นั้นยังเป็นผ้าบางแนบเนื้อที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในประเทศนี้อีกด้วย

    เมื่อได้สติขึ้นมา   เด็กสาวผมทองก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาร่างที่นอนนิ่งอยู่อย่างกล้าๆกลัวๆ   และเมื่อวางใจว่าคนคนนี้จะไม่ทำอันตรายกับเธอแล้วก็เอื้อมมือไปปลุกเบาๆ

    “เธอเธอเป็นอะไรรึเปล่า” เด็กสาวผมทองเอ่ยถามเสียงเบา

    ทันใดนั้นเอง  มือบางขาวซีดที่เย็นเฉียบราวกับศพก็ค่อยๆขยับและกำเข้าหากัน   เปลือกตาเผยอขึ้นเผยให้เห็นแก้วตาสีเขียวน้ำทะเลใสกระจ่างบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนคู่หนึ่ง   ร่างที่นอนอยู่ค่อยๆหยัดกายขึ้นจากพื้นแล้วเหลือบสายตามองเด็กสาวร่างบางในชุดสีขาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าด้วยสายตางุนงงเล็กน้อย

    เธอที่นี่” นัยน์ตาสีสวยกวาดสายตามองโถงทางเดินยาวของปราสาทอย่างงุนงง

                 “โรงเรียนแลทวิจน่ะค่ะ   แล้วคุณเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”
    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    มาอัพให้แล้วนะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×