คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : -- ชมรม -- -- องค์กรโซเนอร์ --
-- ชมรม -- -- องค์กรโซเนอร์ --
PIRIN : SAYS
ตอนนี้เป็นเวลาที่ทางร.ร.ปล่อยให้นักเรียนได้เลือกชมรมกันแล้ว เนริโดนพวกรุ่นพี่ทาบทามให้ไปอยู่ชมรมพวกการต่อสู้เพราะได้ยินวีรกรรมเมื่อเช้าเข้าให้ แต่ไอ้เนริมันไม่เอาเลยซักชมรมเล่นเอาพวกพี่ๆเค้าเศร้าเลย 55+ บางคนทำท่าจะหาเรื่องอีกแหนะ แต่เจอสายตาพิฆาตคุณเธอเข้าไป หึหึ ถอยหมด ไอ้ที่ว่าใจกล้ามาจากไหนมันหนีหางจุกตูดซะอย่างนั้น เวลานี่พวกเรา14คน(รวมพวกเคนด้วย) มานั่งพักผ่อนหย่อนใจอยู่ในห้องชมรมดนตรีสากลที่พวกเคนชวนมา ส่วนเรื่องสมัครเต้บอกว่าไม่ต้องห่วงเดี๋ยวบอกรุ่นพี่ให้ รอบๆห้องมีพวกผ็หญิงเต็มไปหมดเลย ดูท่าว่าจะเข้าทางไอ้เวย์มัน ไม่รู้หายหัวไปไหน ตั้งแต่เข้ามาในห้องเนี่ย ยังไม่เห็นหัวมันเลย
“มีพวกผู้หญิงมาสมัครเยอะอย่างนี้ทุกปีเลยหรอเต้” ฉันหันไปถามเต้ที่นั่งปรับเสียงตู้แอมป์อยู่ข้างๆ
“ก็นะ เกือบทุกปี ปีไปหนมีคนหน้าตาดีอยู่เยอะก็จะมากันแบบนี้แหละ”เต้เงยหน้าขึ้นมาตอบ
“อือ แล้วไม่คิดจะทดสอบพวกเราหน่อยหรอ ให้เข้ามานั่งได้อย่างนี้น่ะ”
“ทดสอบสิ แต่ยังไม่ถึงเวลา พี่เค้าทดสอบคนอื่นๆก่อน พวกพีน่ะเดี๋ยวก่อนก็ได้”นัทหันมาตอบ
“เสียงดัง”เนริที่นั่งอยู่บนตักยูกิพูดเบาๆ
“ทนหน่อยครับ เนริปวดหัวมากมั้ย”ยูกิที่นั่งเอาคางเกยไหล่เนริถาม
“ปวด แต่รำคาญมากกว่า”เนริมันตอบกลับมาแล้วหยิบหนังสือเพลงขึ้นมานั่งอ่าน
“ถ้าปวดต้องบอกนะครับ เดี๋ยวเป็นอะไรไปพี่คิมฆ่าผมตายแน่”อาคิพูดติดตลก
“ไม่หรอก ถ้าฆ่า เนริจะฆ่ามันคืนให้”เนริมันเงยหน้าขึ้นมาพูด
“เนริ หนาวมั้ย”คอนเน่ถามเพราะในห้องนี้พวกเราทุกคนไม่ใส่ถุงมือก็ต้องมีผ้าพันคอกันหมด แต่เนริมันนั่งของมันเฉยๆได้ซะอย่างนั้น
“หนาวหรอ”เนริมันถาม ตอนนี้มันใส่แว่นลงเวทย์ไว้ เพราะว่าตอนนี้ตาของมันยังไม่คืนสภาพจากสีแดง มันบอกเอาไว้ก่อนละกัน ขี้เกียจผนึกพลังเวทย์
“ครับ”คอนเน่มันพยักหน้า เนริมันก็ดึงไอ้คอนเน่เข้ามากอด อย่างไม่สนใจสายตาใครเลย พวกผู้หญิงข้างนอกกรี๊ดกันใหญ่ เนริเอ๋ย ฉันอุตส่าห์จะกันให้ มันดั๊นทำแบบนี้อีก ไม่สงสัยเลยว่าทำไมมันถึงมีศัตรูทั่วทิศขนาดนี้ คอนเน่ทำท่าขืนๆไว้
“ทำไม หนาวไม่ใช่หรอ”เนริพูด คอนเน่มันก็เลยยอมให้กอด ปกติเนริมันเป็นพวกชอบทำดีกับคนอื่นๆ ด้วยความที่มันอยู่กับพวกผู้ชายมาตั้งแต่เด็กมันก็เลย ค่อนข้างไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่ บวกกับโตมาที่อังกฤษเรื่องพวกนี้ยิ่งไม่ค่อยอยู่ในหัวมันเลย กับคอนเน่นี่มันเห็นว่าเป็นน้องในองค์กร แถมยังทำงานอยู่ในสายงานมันอีกมันเลยทำอะไรไม่ค่อยคิด
“เนริ กอดผมมั่งสิ ผมก็หนาว”อาคิเริ่มอ้อน เนริคลายกอดแล้วหันมากอดอาคิแทน แน่ะๆมีแอบยักคิ้วกวนๆให้ยูกิด้วยให้ฝาแฝดคู่นี้เล่นเป็นเด็กๆไปได้ ริวหันมามองแล้วยิ้มมุมปากให้ฉันด้วย หล่อชะมัด เอ๊ะ ชมมันทำไมเนี่ย ชักจะเบลอแฮะเรา
“เนริอ่า ผมก็หนาวนะ กอดมั่งกอดมั่ง”ยูกิทนไม่ไหวเข้าไปกอดเนริทับอีกชั้น กลายเป็นก้อนกลมๆเลย ไอ้พวกนี้เล่นอะไรก็ไม่รู้
“ไอ้พวกนี้นิ เนริมาหาฮิจจังดีกว่าครับ พวกนี้เค้าเล่นอะไรกันก็ไม่รู้ มานั่งตักฮิจจังดีกว่า นะครับ ทิ้งไอ้พวกติ๊งต๊องไว้ดีกว่า”ฮิคารุทนไม่ไหวดึงเนริมันเข้ามานั่งตักแทนโดยประโยคสุดท้ายหันไปด่าไอ้คู่ฝาแฝดตัวแสบ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปว่าฮิจจังก็รักเนริ แล้วนิยายเรื่องนี้จะกลายเป็นพวกรักอีลุงตุงนัง เพราะว่าฮิคารุแค่ชอบเนริในฐานะพี่สาวเฉยๆจ้า เพราะว่าเนริเป็นรักแรกแล้วก็จูบแรกของมัน แต่รักปัจจุบันของฮิคารุนะ ฟาริต่างหาก ฮิจจังเค้าเคารพเนริเพราะเนริมีฐานะเป็นพี่สะใภ้และผู้ปกครองเพราะว่าเนริมันรับเลี้ยงฮิคารุต่อจาก หลวงพ่อซาเร็นซาล บาทหลวงที่โบสถ์ที่เนริมันไปประจำ คุณพ่อท่านตายไปเมื่อ5ปีก่อน ตอนนั้นเนริมันอายุได้12ปีมันก็อ้อนแม่ทูนหัวให้รับเลี้ยงเอาไว้ ปัจจุบันสิทธ์ขาดในการดูแลอยู่ที่มันหมดเลย เพราะตอนนี้เนริมันไม่ใช่แค่เด็กเมื่อวานซืนอีกแล้ว เข้าเรื่องต่อดีกว่าเนอะฟังฉันพล่ามเพลินแล้ว
“โห เอาเปรียบอะ”ยูกิโอดครวญ เหอะๆสมน้ำหน้า เล่นดีนักส่วนฮิคารุมันก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เอาคางเกยไหล่เนริยั่วมันอีก
“เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง”รุนดุเบาๆแต่มันก็ไม่สะเทือนเท่าไหร่หรอก รุ่นเดียวกันนี่
“ว่าแต่เวย์ไปไหนล่ะ เราไม่เห็นมันเลยไฮยาโตะด้วย”ฉันถามริว
“เวย์คงไปม่อสาวตามปกติ ไฮยาโตะคงไปเฝ้า”ริวตอบแล้วเอามือดันแว่นขึ้นไปอยู่ที่จมูก นั่นไงไอ้เวย์ ตายยากจริงๆพูดถึงปุ๊บมาปั๊บ ตามมาด้วยไฮยาโตะ
“ไง นี่เราได้เบอร์สาวมาเพียบ”เวย์พูดพลางหยิบเอาถุงมือขึ้นมาใส่ เหอะๆนอกห้องมันไม่หนาวพอเข้าห้องปั๊บพี่แกเค้าเล่นหาถุงมือขึ้นมาใส่ด่วนเลย
“อือ วันนี้เราว่าจะไปผับซะหน่อย แกจะไปมั้ย”ฉันถาม ผับในความหมายของเราก็ก็คือผับที่เป็นที่ประชุมขององค์กร เรียกว่าองค์กรเลยก็ไม่แปลก แต่อยู่กันเยอะขนาดนี้เรียกองค์กรคงได้แตกตื่นแน่
“ไปด้วยดิ ไปเช็คงานซะหน่อย”เวย์พูดแล้วก็เดินไปหยิบขนมมานั่งกิน
“เนริ?”ฉันหันไปถามเนริต่อ
“ไป”มันหันมาตอบแล้วหันไปนั่งมองยูกิกับอาคิเล่นเป่ายิ้งฉุบ
(อนาถจิต เล่นเป่ายิ้งฉุบ/*--*)
“คนอื่นๆล่ะ?”
“ไปหมดแหละ ต้องเข้าไปดูงาน”ริวหันมาบอกแล้วก็หันไปอ่านหนังสือต่อ มันมีอะไรน่าสนใจนักวะ ไอ้หนังสือบ้านั่น พี่แกอ่านได้อ่านดีจริงๆ
“เล่นกัน”เนริมันมือไวเห็นกีตาร์ไฟฟ้าของใครก็ไม่รู้วางอยู่ หยิบมาเล่นเฉยเลย เออกับมันสิ ฮิคารุเดินไปประจำตำแหน่งมือกลอง ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องซ้อมก็จริงแต่มันมีหลายห้องและดูท่าว่าห้องนี้จะโดนพวกเรายึดในอีกไม่ช้านี้
“เพลงไรดี”ริวถามพลางพลิงหนังสือเพลงไปมา
“เอาเพลง Numb Linkin Park แล้วกัน มันส์ดี”ไฮยาโตะเสนอ แล้วก็หันไปสนใจเบสมันต่อ ในวงตอนนี้จะมีฮิคารุทำหน้าที่มือกลอง เนริกับริวเล่นกีตาร์ รุนกับฉันเล่นคีย์บอร์ด คอนเน่มันเอาออแกนของมันออกมาเป่าด้วย ส่วนยูกิกับอาคิมันมีอะไรซักอย่างที่มันดูคล้ายฟรุ๊ต แต่ทำมาจากกระดูกอะไรซักอย่างไม่เคยถามมัน รู้แต่ว่าสามารถควบคุมสะกดจิตคนได้ ส่วนเวย์เล่นเบสกับไฮยาโตะเหอะๆใครๆก็รู้ว่าไฮยาโตะเล่นเบสเพราะอะไร มันเอามาเล่นจีบเวย์มัน เวย์มันก็ซื่อบื้อ ชวนไฮยาโตะมันทะเลาะด้วยเหตุผลที่ว่าแย่งหน้าที่มันซะอย่างนั้น งานนี้ตกลงกันว่าริวกับรุนจะเป็นคนร้อง
“อือ เอาดิ”ริวพูดพลางตั้งสายกีตาร์เสร็จแล้วก็ขึ้นมายืนเตรียมพร้อม เนริก็ลองดีดฟังเสียงอยู่นั่นแหละบ่นนู่นบ่นนี่ตามภาษา ว่าเสียงแปร่งไปบ้างล่ะ สายหย่อนไปบ้างล่ะอะไรของมันก็ไม่รู้
“เอานะ One Two Three”ฮิคารุให้สัญญาณก่อนเสียงคีย์บอร์ดจะเล่นโน้ตท่อนแรกของเพลง
I’m tired of being what you want me to be
feeling so faithless
lost under the surface
I don't know what you're expecting of me
put under the pressure
of walking in your shoes
[caught in the undertow / just caught in the undertow]
every step that I take is another mistake to you
เสียงนุ่มนวลของริวบวกกับเสียงกีตาร์ของเนริประสานกันได้อย่างลงตัว เสียงร้องประสานของรุนยิ่งทำให้ดูเฟอร์เฟ็คยิ่งขึ้น
I’ve
become so numb
I can't feel you there
become so tired
so much more aware
I’m becoming this
all I want to do
is be more like me
and be less like you
ท่วงทำนองจังหวะของกลองดูหนักแน่น โดยมีไฮยาโตะกับเวย์คอยเล่นเบสคลอ โดยเฉพาะท่อนโซโลกีตาร์ ที่เนริกับริวสลับกันโซโล ไฮยาโตะกับเวย์ที่เล่นเข้าขากันได้ดีเยี่ยม ราวกับปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา มันเหมือนมีแรงกดดันในตัวนะ ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่วงเดียวกันแต่กลับเล่นเข้าขากันได้เป็นอย่างดี
can't you see that you're smothering me
holding too tightly
afraid to lose control
cause everything that you thought i would be
has fallen apart right in front of you
[caught in the undertow / just caught in the undertow]
every step that I take is another mistake to you
[caught in the undertow / just caught in the undertow]
and every second I waste is more than I can take
but I know
I may end up failing too
but I know
you were just like me
with someone disappointed in you
จังหวะค่อยๆผ่อนลงเมื่อเล่นมาจนถึงโค้งสุดท้ายของเพลง เสียงคีย์บอร์ดค่อยๆเด่นชัดขึ้นมาเสียงเครื่องคนตรีอื่นๆค่อยอ่อนลง เสียงฟรุ๊ตของยูกิกับอาคิคลอไปกับเสียงของคีย์บอร์ดเบาๆ จนกระทั่งถึงตัวโน้ตสุดท้ายของเพลง
“เยี่ยม”
“เจ๋งเลย” เสียงปรบมือของบุคคลมาใหม่ของห้องดังกระหึ่ม พวกเราค่อยวางมือจากเครื่องดนตรีช้าๆ
“เห็นมั้ยพี่ ฝีมือเพื่อนผม”เต้ที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้พูดอวดเพื่อน
“เออ เชื่อแล้วโว้ย ไอ้นี่”รุ่นพี่คนหนึ่งพูด
“แล้วรับมั้ยอ้ะพี่”เต้หยอกต่อ
“รับเว้ย ไม่รับได้ไง แม่งเล่นเก่งขนาดนี้ กูไม่เอาไว้ก็โง่แล้ว ว่าแต่น้องใช่นักเรียนแลกเปลี่ยนที่เค้าลือกันรึเปล่า” พี่คนนั้นเข้ามาคุย
“ถ้าลือเรื่องต่อยคนปากแตกล่ะก็ไม่ใช่หนูหรอก โน่นคนโน้น ผมยาวๆอ้ะพี่ มันไม่สบายอยู่อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมันนะ พูดเพราะๆด้วยยิ่งดีเดี๋ยวมันฟิวล์ขาด”เวย์พูดกวนพลางชี้ไปที่เนริที่กำลังนั่งจ้องกีตาร์ตัวที่มันหยิบมาเล่นกับตัวที่ริวเล่นสลับกันไปมา
“หา ดูเรียบร้อยขนาดนั้นอ่ะนะ”รุ่นพี่คนนั้นเค้าตกใจ ใช่สิตอนนี้ไอ้เนริมันใส่แว่นอยู่นี่
“เหอะๆ ไม่เชื่อพี่ลองไปกวนมันดูสิ”ฉันพูด เออลองไปกวนดูสิ เมื่อเช้าเลือดกบปาก ตอยเย็นจะขนาดไหนวะ
“ไม่ล่ะ พี่ชื่อเอก เป็นประธานชมรม ไอ้ติ๊งต๊องข้างๆพี่มันชื่อกริช เรียกมันไอ้ติ๊งต๊องก็ได้”พี่เอกแนะนำตัว เออ กูรู้แล้วว่าพี่กริชนี่เค้าติ๊งต๊องจริงๆมองซะตาเยิ้มเลยนะพี่
“มองซะเยิ้มเลยนะคะ พี่กริช”กัดไปซักนิดเผื่อจะเลิกมอง
“ก็คนมันสวยก็ต้องมองนี่คะ”เหอะๆ เล่นคะขาด้วย ขนลุก
“แหะๆ เอ่อ พีขอตัวก่อนนะคะ”ฉันพยายามหลบออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่ถูกรุ่นพี่กริชคว้าเอาไว้ก่อน
“พี่กริชฮะ พี่XXXเรียก”เต้ที่เดินเข้ามาทีหลังบอก พี่กริชหน้าซีดลงทันที
“แต่..”ดูเหมือนพี่กริชพยายามจะแย้งแต่..
“เดี๋ยวนี้ครับ”เต้พูดเสียงแข็ง
“เอ่อ งั้นพี่ไปก่อนนะ”พี่กริชหันมาบอกลาฉันอย่างรวดเร็วแล้วรีบเดินออกไป
“ขอบใจนะเต้ เกือบตายแน่ะ”ฉันพูดติดตลก
“ไม่ต้องหรอก เราเข้าใจพี่เขาก็อย่างนี้ทุกทีนั่นแหละ”เต้หันมายิ้มให้พลางตอบ
“แต่หายากนะที่รุ่นพี่จะกลัวรุ่นน้อง”ริวที่เดินมาจากทางด้านหลังพูด สายตาคมจดจ้องเพื่อนใหม่
“55+ นายคงดูผิดไป พี่กริชเนี่ยนะกลัวรุ่นน้อง”เต้หัวเราะ พลางจ้องตอบอย่างไม่กลัว
“ช่างเถอะ”คาริวพูดก่อนจะเดินไปหาคาริวที่อยู่ในห้องซ้อมอีกห้องและชั่วโมงชมมรมชั่วโมงแรกก็จบลงเพียงเท่านี้
ตอนนี้พวกเรากำลังเดินทางไปที่องค์กรโซเนอร์ในประเทศไทยเป็นตึกสีขาวคล้ายอพาตเม้นท์ แต่คนที่จะอยู่ที่นี่ได้ต้องเฉพาะคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับล่างสุดจนถึงบนสุดมีทั้งหมด7ชั้น(ไม่นับดาดฟ้านะ/*--*) ชั้นล่างสุดเป็นพวก Coffee shop กับผับในตอนกลางคืน ส่วนชั้นสองและครึ่งหนึ่งของชั้นสามเปิดเป็นมูลนิธิรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของเนริมันอ้อนคิมมันจนได้เรื่อง ส่วนที่เหลือของชั้นสามชั้นสี่และชั้นห้าเป็นห้องพักของพวกพนักงาน สมาชิกของโซเนอร์ชั้นหกเป็นห้องทำงานของสมาชิกชั้นเจ็ดเป็นห้องทำงานและห้องนอนของพวกเรา ชั้นดาดฟ้าเป็นลานกว้างสำหรับฝึกการต่อสู้ของสมาชิก หน้าที่ของพวกโซเนอร์คือจัดการลงทะเบียนร้านค้าในละแวกนั้นแล้วส่งพวกสมาชิกไปคอยดูแลทำงานเป็นพนักงานในร้านและป้องกันพวกลักเล็กขโมยน้อย ป้องกันการทะเลาะวิวาท โดยจัดการส่งให้ตำรวจในฐานะของพวกโซเนอร์ ตอนนี้พวกเราใส่ชุดฟอร์มกันหมดละที่ขาดไม่ได้คือ หน้ากาก เพราะคิมบอกว่าคงไม่ดีถ้าจะเดินโทงๆไปไหนมาไหนแบบถอดหน้ากากรวมทั้งองค์กรเราเป็นองค์กรใต้ดิน มันจะเป็นที่สนใจเกินไป อีกอย่างถ้าเปิดเผยตัวเวลาไปติดต่องานรับรองมีหวังได้เล่นปงเล่นปืนก่อนจะได้นั่งพูดกันดีดีแน่ก็เพราะเป็นเด็กนั่นแหละถึงไดทำอะไรได้ยาก
“สวัสดีครับมาสเตอร์”เสียงพร้อมเพรียงดังขึ้น เบื้องหน้ามีพวกสมาชิกโซเนอร์ยืนต้อนรับอยู่สองข้างทางโดยมีแกนนำหลักเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง “แฟนต้า”
แฟนต้า เป็นหัวหน้าหน่วยงานสาขาที่ประเทศไทยฝีมือดี ออกจากF.B.I.มาพร้อมกับพวกเรา ตอนที่รู้ว่าพวกเราโดนแม่เลี้ยงจับไปขายให้ซ่อง แล้วรู้ว่าอาของเค้าแท้ๆเป็นคนเข้าไปซื้อบริการและรับส่วยจากพวกนั้นก็เลยตัดสินใจลาออกมาตั้งองค์กรพันธมิตรF.B.I.องค์กรโซเนอร์ด้วยกัน แถมมีวีรกรรมประทับใจสุดๆของน้องชายที่น่ารักคนนี้คือ วันที่คิมกับเต๋าพาพวกมาถล่มซ่องยังช่วยกันโยนระเบิดใส่พวกนั้นซะกระจุยเล่นเอาเต๋ามันหมดพลังงานไปหลายวันเพราะมันใช้พลังเวทย์สร้างระเบิดขึ้นมา555+
“สวัสดีรับพวกพี่ๆ”แฟนต้าเดินมาแล้วยกมือสวัสดี น่ารักจัง
“ดี”เนริตอบกลับแค่นี้แล้วก็เดินมองรอบๆบริเวณ
“เนริเมาอีกแล้วหรอครับ”แฟนต้าแอบกระซิบถามฉัน
“อือ คราวนี้เป็นหนักหน่อยล่อไปครึ่งขวด”ฉันตอบ
“ซาน มานี่นะครับ พวกลูกน้องเค้ากลัวกันหมดแล้ว”ยูกิรีบไปลากเนริกลับมายืนที่เดิม เจ้าตัวก็ดูจะขืนๆไว้แต่ก็ยอมอยู่ดี
“ดีครับซาน คิดถึงจังเลย”แฟนต้าเข้าไปสวมกอดเนริ
“คิดถึง”เนริพูดแค่นี้แต่ก็เอามือมาลูบหัวแฟนต้าเล่น
“ฮะ คิดถึงมากๆเลย เด็กๆก็คิดถึงซานนะครับ”แฟนต้าพูดแล้วคลายอ้อมกอดออกมา
“อือ พรีตตี้ แองเจิ้ล ไปหาเด็กๆกัน”เนริหันไปพูดกับยูกิและอาคิ ก่อนจะเดินนำหน้าทั้งสองคนไป
“เฮ้อ เราก็ไปกันบ้างเถอะ อีกครึ่งชั่วโมงเรียกประชุมสมาชิกด้วยนะ”เวย์สั่งแล้วก็เดินขึ้นไปข้างบน ตอนนี้พวกเราทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำภารกิจของตัวเอง รุนแยกไปตรวจเครื่องแต่งกายของลูกน้องทั้งหมด ริวก็ไปจัดการเอกสารงบประมาณที่เนริต้องเซ็นที่ห้อง แฟนต้าไปเคลียร์รายงานความคืบหน้าขององค์กรที่จะต้องใช้ในการประชุม เวย์แยกไปดูทางด้านการตรวจท้องที่ คอนเน่แยกไปทำงานอยู่ด้านประสานงาน ฮิคารุอยากไปคุมการฝึกต่อสู้บนดาดฟ้ากับไฮยาโตะ
RaiN BloOd สายฝนสีเลือด
ความคิดเห็น