ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DaNGerOuS ZoNe[R]เพื่อนรักพันธุ์อันตราย

    ลำดับตอนที่ #24 : -- เรียกประชุมด่วน -- -- ข้อสันนิษฐานที่ไม่น่าเชื่อ --

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 52


     

    -- เรียกประชุมด่วน -- -- ข้อสันนิษฐานที่ไม่น่าเชื่อ --

     

    NERI : SAYS

    ~ที่รักคะรับโทรศัพท์หน่อย~ ~ที่รักคะรับโทรศัพท์หน่อย~ เสียงเรียกเข้าหวานแหววที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของโทรศัพท์นั้นมีเจ้าของแล้วหรือยัง ใช่แล้วค่ะ นั่นมันเป็นเสียงของฉันที่โดนยูกิบังคับให้พูดแล้วเขาก็อีดเสียงเอามาตั้งเป็นเสียงเรียกเข้านี่แหละ น่าอายมากๆเลย ไอ้เต๋าบ้านั้นก็แกล้วผิวปากล้อเลียนฉันอยู่ข้างๆ นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวหลานฉันที่อยู่ในท้องยิปโซจะไม่มีพ่อนะฉันกระทืบมันไปนานแล้ว ยูกิรับสายขึ้นมาซักพักสีหน้าที่ยิ้มแย้มก็แปรเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่เคร่งเครียดเพิ่งความสงสัยให้กับเราเป็นกอง

    อือ..

    จะรีบกลับ

    รู้แล้วน่า

    อือ..แค่นี้นะ โอเค

    ติ๊ด

    มีอะไรหรอฉันชิงถามอย่างรวดเร็วทันทีที่ยูกิวางสายโทรศัพท์

    อือ เราต้องกลับแล้วล่ะ คิงเรียกประชุมด่วนพวกเราถึงกับชะงักกึกเมื่อได้ยินชื่อตำแหน่งที่ยูกิเรียก งานนี้คงจะซีเรียสจริงๆนั่นแหละถ้าไม่อย่างนั้นยูกิคงไม่เอ่ยชื่อตำแหน่งในที่สาธารณะแบบนี้หรอก

    มีอะไรกันหรอคะยิปโซที่กำลังงงได้ที่กับเรื่องที่พวกเราคุยกันถามขึ้น จริงสินะเธอไม่ได้เป็นคนในองค์กรเรานี่จะสงสัยก็ไม่แปลก

    คือเราคงต้องกลับแล้วล่ะพอดีพวกเรางานเข้าน่ะ ไม่ว่าอะไรใช่มั้ยยิปโซฉันอธิบาย ยิปโซหน้าหมองลงไปพักนึงก่อนจะแปรเปลี่ยนป็นยิ้มหวาน

    ไม่เป็นไรค่ะ ยิปโซไม่ว่าอะไรหรอก เดี๋ยวเรารีบกลับกันเลยดีกว่านะคะ เดี๋ยวคนอื่นจะรอแย่เลยเสียงเล็กๆตอบพร้อมกับโปรยรอยยิ้มมาให้เปรียบเสมือนกับการบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะฉันเข้าใจนะว่าอย่างน้อยยิปโซก็ต้องนึกน้อยใจอยู่บ้างแหละ เต๋าที่ดูเหมือนจะรู้ความคิดก็เลยยกมือขึ้นมโอบเอวร่างบางอย่างหลวมๆ ยิปโซเงยหน้าขึ้นมองเต๋าก่อนจะหลบตาอย่างเขินอาย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อิจฉาอ่ะT^T

    ดูเหมือนยูกิจะรู้ความคิดฉันเลยเลยยกมือขึ้นมาโอบเอวฉันบ้าง

    จะแข่งกันหวานอีกนานมั้ยครับ ถ้ายังอีกนานเดี๋ยวผมก็จูบโชว์มันซะตรงนี้หรอกฮิคารุพูดทะลุขึ้นมากลางปล้อง ไม่ใช่แค่พูดประชดนะแถมเจ้าตัวยังดึงตัวฟาริมาทำท่าเหมือนจะจูบโชว์จริงๆอีกต่างหาก ถ้าไม่ติดว่ายัยตัวเล็กของฉันรีบหยิกฮิคารุทันที

    โอ๊ะ เจ็บนะ ฟาริ โอ๊ย!”ฮิคารุปัดไม้ปัดมือฟาริแทบไม่ทัน

    55+

    เราว่าไปกันเหอะ เดี๋ยวพวกนั้นจะรอซะเปล่าๆ ส่วนพวกแกก็เลิกสวีตได้แล้วถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะบอกคิมว่าพวกแกทำให้เรามาประชุมช้าเต๋าพูดพลางยื่นมือมาตบหัวอาคิ

    เชอะ ไปก็ได้อาคิหันมาแจกค้อนวงใหญ่ให้เต๋าก่อนจะลงมือลากฉันเดินไปที่รถ

    กว่าเราจะมาถึงตึกขององค์กรก็กินเวลาไปเกือบ2ชั่วโมงเนื่องจากการจราจรติดขัดของกรุงเทพบวกประกอบกับถนนสายที่เราไปนั้นมีอุบัติเหตุรถชนกันดังนั้นมันก็เลยทำให้พวกเราสายกันเข้าไปใหญ่

    พอมาถึงห้องที่จะใช้ประชุมแล้วปรากฏว่าเหล่าคณะอัยการทุกคนมาถึงกันหมดแล้วโดยพวกเรามาเป็นพวกสุดท้ายและท้ายสุดเลยอ่ะ

    -_-++ และนี่คือสายตาที่คนทั้งห้องมองมาที่พวกเรา

    เอาล่ะมากันครบแล้วนะ... เข้าเรื่องเลยละกันคิมพูดประโยคแรกก่อนจะเว้นวรรคไปช่วงนึงแล้วค่อยพูดต่อ

    ...

    เมื่อตอนเที่ยงได้มีจดหมายประหลาดกับวิดีโอเทปถูกส่งมาที่ตึกเรา นี่คือจดหมาย และนี่คือวิดีโอเทปที่ว่านั่น ฉันจะไม่เปิดให้ดูนะ เพราะว่าอย่างที่พวกเรารู้ก็คือพวกผู้หญิงยังมีอาการต่อต้านเรื่อง เอ่อ.. เรื่องพวกนั้น(ละไว้ในฐานที่รู้กัน)อยู่ แต่ฉันจะส่งจดหมายไปให้พวกเราดูทีละคนกันคิมยกจดหมายและวิดีโอเทปขึ้นมาให้พวกเราดูก่อนจะส่งจดหมายฉบับนั้นต่อไปให้เต๋าและส่งต่อกันไปเรื่อยๆ จริงๆฉันก็อยากจะดูสิ่งที่อยู่ในวิดีโอเทปม้วนนั้นเหมือนกันแต่ว่าในเมื่อคิมห้ามฉันก็จะทำตาม เพราะคิมเป็น1ในพวกเราที่รู้เกี่ยวกับอาการของพวกเราดีที่สุดเพราะฉะนั้นฉันไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องขัดคำสั่งของมันเหมือนกัน เอาเป็นว่าสรุปง่ายๆฉันเชื่อใจเพื่อนค่ะ จดหมายฉบับนั้นถูกส่งต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงตาฉันที่จะต้องเป็นคนอ่านมันเป็นรายต่อไป ซึ่งฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป

     

     

     

     

    ถึง  เพื่อนทรยศ

     

    จำได้มั้ยว่าคนอย่างแกเคยทำอะไรเอาไว้!!! ไอ้องค์กรช่วยเหลือมนุษย์อะไรกัน พวกแกมันก็แค่เศษสวะที่ต้องการการยอมรับเท่านั้นแหละ  ของที่พวกแกขโมยจากฉันไปน่ะ อีกไม่นานฉันจะมาขอทวงมันคืน

     

                                                                                                                 ลงชื่อ    คนที่พวกแกเคยทรยศ  

     

     

     

     

     

     


    ข้อความในจดหมายประจักรษ์แก่สายตาของฉัน  

    นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกันเนี่ย!!”ฉันตะโกนถามพร้อมกับกวาดสายตาไปทั่วห้อง ตลอด3ปีที่เราทำงานกันมาไม่เคยมีแม้แต่จะขัดแย้งกับใคร พวกเราเป็นองค์กรอิสระที่ขึ้นตรงกับตัวเองและคอยช่วยเหลือคนอื่นมันก็เท่านั้น  ทำไมถึงต้องมาโดนจดหมายเด็กๆนั่นดูหมิ่นด้วย มันเหลวไหลสิ้นดี!! ปกติถึงฉันจะเป็นคนใจเย็น แต่เรื่องหยามศักดิ์ศรีกันฉันไม่ยอม

    ใจเย็นๆก่อนเนริคิมส่งเสียงปราม

    แต่คิม..

    ใจเย็นก่อนคิมส่งเสียงปรามฉันอีกครั้ง

    ในเทปม้วนนั้นมันมีอะไร คิม บอกเรามาพิรินถาม

    ...ความเงียบตรงเข้าปกคลุมห้อง ฉันจ้องหน้าคิมอย่างคาดคั้น ถึงตอนแรกฉันจะบอกว่าจะไม่ขัดคำสั่งของมันแต่ตอนนี้ฉันชักสงสัยขึ้นมาตงิดแล้วว่าไอ้เทปบ้าม้วนนั้นมันมีอะไรกันแน่

    ...มันเป็นภาพของผู้หญิงที่ถูกรุมโทรม ฉันไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับพวกGoDด้วยรึเปล่าเพราะศัตรูของเราตอนนี้มีแต่พวกGoDนั่น  แต่ข้อความในจดหมายมันเหมือนกับว่าพวกเรามีเรื่องมีราวกับมันมานานมากแล้ว..เต๋าซึ่งทนความเงียบไม่ไหวจึงเอ่ยตอบขึ้นมา แต่ไม่ทันที่เต๋าจะพูดจบไฮยาโตะก็พูดขึ้นมาซะก่อน

    ทั้งๆที่พวกเราเพิ่งได้ปะทะกับพวกนั้นเพียง2ครั้ง ซึ่งครั้งแรกคือที่โกดังเก็บของคราวนั้นกับครั้งต่อมาที่ไปถล่มซ่องกันเพียงแค่นั้น แต่ทำไมข้อความมันถึงเขียนเหมือนกับว่าเรารู้จักกันมานานมาก นานเหมือนกับว่าเรารู้จักกันมาก่อนที่จะตั้งองค์กรงั้นแหละ จากคำพูดของไฮยาโตะทำให้ฉันนึกฉุกคิดไปถึงคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเมื่อ3ปีก่อน

    โค้ชดูเหมือนว่าวายองจะคิดเหมือนกับฉันจึงได้พูดชื่อนี้ขึ้นมา

    เป็นไปไม่ได้ โค้ชตายไปแล้ว อย่าพูดอะไรเหลวไหลเลยดีกว่าพิรินแย้งขึ้นมา นั่นสินะ เขาตายแล้วนี่นา จะมาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วยล่ะ แต่ถึงจะมีชีวิตอยู่ก็เถอะฉันเชื่อว่าโค้ชไม่มีทางที่จะเป็นคนร้ายได้หรอกเพราะเราเป็นเพื่อนรักกันนี่ ฉันสรุปความคิดตัวเองอย่างเสร็จสรรพก่อนจะระบายยิ้มเศร้าๆลงบนริมฝีปากแต่พอคิดถึงสาเหตุการตายของเขาฉันก็อดโทษตัวเองไม่ได้ ยูกิยื่นมือมากุมมือฉันไว้เบาๆ น้ำใสๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตาของฉัน ตอนนี้ในห้องมีแต่ความเงียบแล้วก็เงียบ ฉันรู้ว่าทุกคนเสียใจกับการตายของเขามาก แต่ทุกคนพยายามไม่พูดถึงเพราะกลัวว่ามันจะกระทบจิตใจของฉันซึ่งฉันก็เข้าใจ

    แต่ตอนนี้เราคงต้องช่วยกันพยายามนึกว่าใครกันที่ส่งจดหมายฉบับนี้มา และใครที่เป็นตัวจริงของGoD, Angle แล้วก็ไอ้เซราฟิมบ้านั่นเจ้เฟชรพูดอย่างนิ่งๆ พร้อมกับกวาดสายตาไปทั่วห้อง

    งั้นก่อนหน้านั้นเราคงต้องมาจำกัดขอบเขตก่อนละกันนะครับฮิคารุพูดพร้อมกับเปิดจอโปรเจกเตอร์ขึ้นมา(จริงๆแล้วเวลบามีประชุมส่วนใหญ่เราจะใช้เครื่องจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ แต่ในวันนี้เราใช้จอโปรเจกเตอร์แทน)

    อืม

    ก่อนอื่นเลยนะครับ คนพวกนั้นต้องรู้จักกับพวกเรามานานก่อนที่พวกเราจะก่อตั้งZoner ขึ้นฮิคารุพูดพร้อมกับสารพัดตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นบนจอโปรเจกเตอร์

    2.ผมคิดว่ามันอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดหรอก  ...อาจจะเป็นแค่1ในพวกนั้นก็ได้ที่รู้จักเราคาริวเสนอ อื้อ ข้อนี้ฉันเห็นด้วยนะ

    แล้วก็คนที่รู้จักเราในพวกนั้นจะต้องเป็นคนที่กุมอำนาจในนั้นมากพอดูถ้าไม่อย่างนั้นมันคงสั่งให้ลูกน้องมาเล่นงานเราไม่ได้แน่คีรุนเสริม

    เท่าที่ดูมันก็มีเหตุผลนะเต่าพึมพัมเบาๆแต่อย่าลืมสิเราอยู่ในห้องกันแค่13คนนะแถมไม่ได้ทำเสียงดังกันด้วยมีเพียงแต่เสียงกดคีบอร์ดของฮิคารุดัง ต๊อก แต๊ก เพราะฉะนั้นไอ้ที่พึมพำเมื่อกี๊มันก็ได้ยินกันหมดน่ะแหละ

    เอ่อ.. เป็นไปได้มั้ยครับที่คนพวกนั้นจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อ3ปีก่อนนั่นอาคิที่นั่งเงียบมานาเอ่ยขึ้นบ้างเรียกความสนใจจากคนทั้งห้อง

    ถ้าที่นายพูดหมายถึงพวกแม่เลี้ยงที่เป็นคนร้ายในตอนนั้นล่ะก็ไม่ใช่หรอก พอดีฉันเองก็สงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกันก็เลยส่งเรื่องไปที่กรมตำรวจที่เคยดูแลเรื่องนี้ปรากฎว่า3คนนั้นโดนโทษประหารไปแล้วล่ะ ส่วนคนที่เกี่ยวข้องในคดีก็อยู่ในเรือนจำทั้งหมดเลย มันเลยเป็นไปไม่ได้ว่าคนพวกนั้นจะเป็นคนร้ายในตอนนี้เต๋าบอก อ่าฮะใช่ว่าพวกเราจะไม่รู้เรื่องโทษประหารของยัยแม่มด3ตัวนั่นนะ แต่ว่าในบรรดาพวกเรา ยูกิกับอาคิเป็นคนที่มาสมทบกับพวกเราหลังสุดเลยอาจจะไม่รู้เรื่องนี้ก็ได้เนื่องจากตอนนั้นไม่มีใครอยากจะพูดถึงมันซักเท่าไหร่

    แล้วนายแน่ใจได้ยังไงว่าพวกมันตายแล้วก็อยู่ในเรือนจำกันหมดวายองถาม แต่เสียงที่ตอบกลับมากลับไม่ใช่เสียงของเต๋าหากแต่เป็นเสียงของคิม

    แน่ใจสิ ก็วันนั้นฉันเป็นคนเข้าไปส่งยัยแม่เลี้ยงของพวกเนริไปแดนประหารเอง ส่วนไอ้พวกที่เหลือเต๋ามันก็ไปเยี่ยมมันมาหมดแล้วหืม ถึงฉันจะรู้ว่าพวกนั้นมันโดนประหารไปแล้วแต่ฉันก็ไม่เคยรู้เลยนะว่าคิมเป็นคนไปส่งมันที่แดนประหารเองเนี่ย ข่าวสารใหม่!! -_-“!!

    มืดแปดด้านงั้นสิเจ้เฟชรว่า

    จะว่างั้นก็คงได้ฮะฮิคารุพูดพลางกลอกสายตาไปมา

    ผมว่ามันชักจะยังไงๆอยู่นะครับรุนที่นั่งกอร์เทปเล่นกลับไปกลับมาพูดขึ้น (มันเอาไปเปิดตอนไหนล่ะนั่น)

    เจออะไรหรออาคิถามพลางหันหน้าไปสนใจที่จอโปรเจกเตอร์ รุนกอร์กลับไปเล็กน้อยก่อนจะกดเพลย์

    ติ๊ด พอภาพบนจอเล่นไปช่วงนึงแล้วรุนก็กดStopเครื่องไว้

    นี่ไงฮะ ถึงเราจะไม่สามารถกำหนดขอบเขตคนร้ายได้ก็จริง แต่ผมสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้มั้ยครับในการที่จะรวมกลุ่มกันไปรุมโทรมเนี่ย เขาจะต้องนัดกันใส่กางเกงขายาวสีดำรุนว่า จริงด้วย ในภาพทุกคนใส่กางเกงขายาวสีดำทั้งหมดเลย ถึงเสื้อบางคนจะใส่บางคนจะถอดก็เถอะ เพราะเสื้อมันก็เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวที่มีขายทั่วไปนั่นแหละ

    ถึงจะนัดกันมาแค่ไหนแต่มันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องแต่งกางเกงขายาวสีดำเลยนะ แปลกมากพิรินพูด

    อย่างที่พิรินพูดนั่นแหละ ต่อมันจะวางแผนกันดีขนาดไหน มันก็คงไม่วิปริตถึงขนาดนัดกันใส่ชุดแบบเดียวกันหรอก นอกจากเสียแต่ว่า...ริวร่ายยาวโดยคำสุดท้ายลากเสียงยาวเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้แก่ผู้ฟัง

    เสียแต่ว่าอะไรฉันถาม

    นอกจากเสียแต่ว่าชุดที่มันใส่เป็นเครื่องแบบอะไรซักอย่างที่จะต้องใส่ในช่วงเวลานั้นๆน่ะสิเจ้เฟชรตอบ

    ถ้าจะนึกถึงเครื่องแบบ ก็มีอาชีพจำพวก ตำรวจ ทหาร นักดับเพลิง แล้วไหนจะพวกพนักงานบริษัทบางแห่งก็ใช้เครื่องแบบเหมือนกันนะครับอาคิพูดขึ้นมาบ้าง

    อืมฉันครางอย่างใช้ความคิดพลางมองภาพบนจอโปรเจกเตอร์นั่นอย่างพิจารณา ลางสังหรณ์มันบอกฉันว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นแต่ทำไมฉันถึงนึกไม่ออกนะ มันเหมือนกับว่าติดอยู่ที่ริมฝีปากนี่เอง แต่ไม่รู้ว่าอะไร

    ตอนนี้ทุกคนต่างก็ระดมสมองใช้ความคิดกันถ้วนหน้าทำให้ความเงียบเข้าปกคลุมห้อง อืมมมมมมมมม ฉันยังนึกไม่ออกเลยว่าฉันรู้สึกอะไรแปลกๆกับภาพบนจอนั่น  นอกจากผู้หญิงที่ถูกข่มขืนกับผู้ชายอีก7-8คนแล้ว มันคุ้นๆแฮะฉากหลังนั่น

    เอ่อ.. ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันรึเปล่านะแต่เนิว่าฉากหลังนั่นมันคุ้นๆนะฉันตัดสินใจถามออกไป

    ป่าหลังโรงเรียน…”เสียงฟาริโพล่งขึ้นมากลางวงสนทนา อ๊ะใช่สิในบรรดาพวกเราฟาริมีความจำเยี่ยมยอดที่สุด แต่หาริไม่เคยไปที่โรงเรียนนี่นาแล้วรู้ได้ยังไงล่ะเนี่ย

    ฟาริเคยเปิดดูแฟ้มข้อมูลของโรงเรียนแล้วในนันมันมีรูปบริเวณต่างๆของโรงเรียนรวมถึงป่าหลังโรงเรียนนี่ด้วยค่ะเจ้าตัวแก้ข้อข้องใจ

    แน่ใจหรอ ฟาริคิมถามซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าตอบอย่างมั่นใจ

    งั้นแสดงว่าคนร้ายก็คือคนในโรงเรียนงั้นสิฮะฮิคารุถาม เต๋าพยักหน้าตอบ

    แต่ถึงเราจะรู้อย่างนี้แต่เราก็ไม่สามารถจำกัดขอบเขตของคนร้ายได้อยู่ดีนะเพราะคนในนั้นน่ะเป็น1000เชียวพิรินว่า

    ถ้าตัดผู้หญิงออกก็จะเหลือประมาณ2000คน แล้วก็ตัดเอาพวกที่ไม่มีอำนาจชื่อเสียงในร.ร.ออกก็จะเหลือผู้ต้องหาไม่กี่คนนะฉันบอกตามความคิด

    พวกนักสู้ประจำร.ร.ไง พวกนั้นเป็นพวกเดียวที่พวกเราไม่เคยเห็นหน้าและไม่เคยเจอตัวเลยวายองเสนอ

    พวกที่แข่งสตรีท ไฟท์.ใช่มั้ยเจ้เฟชรถาม

    ค่ะ พวกสตรีทไฟท์ฉันตอบ

    งั้นก็น่าจะหาข้อมูลไม่ยากไม่ใช่หรอเจ้เฟชรถามอีก

    ไม่หรอก นั่นแหละปัญหาครับ เพราะว่าพวกเขาเป็นเหมือนนักสู้เงา ก็เลยแทบจะไม่มีข้อมูลอะไรเลยยูกิพูดบ้าง

    ใช่ฮะอย่างที่ยูกิพูด ข้อมูลอะไรก็แทบจะไม่มีเลย ส่วนข้อมูลที่พี่เต๋าส่งมาให้คราวนั้นก็ทบจะไม่ช่วยอะไรเลยเพราะภาพมันลางมาก อีกอย่างแม้แต่คนในร.ร.ยังไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาเป็นใครอาคิบอก

    มันจะเกี่ยวอะไรกับพวกGoDรึเปล่าคะ พวกนักสู้ที่ว่านั่นฟาริเอ่ยขึ้นมา

    ก็อาจจะใช่นะ เพราะว่าถ้าสมมติว่าพวกนั้นรู้จักกันจริงหรือเป็นพวกเดียวกันการขนยาเข้าไปในโรงเรียนก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะมีคนเปิดทางให้คิมพูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่เงียบไปนาน

    ถ้าพวกนั้นไม่ใช่พวกเดียวกันแต่ว่าเป็นคนๆเดียวกันล่ะปากไวกว่าสมองฉันโพล่งความคิดออกไปหมดเลยอ่า ทำเอาคนทั้งห้องหันมาจ้องฉันคนเดียวเลยT^T

    ...

    ฉันแค่คิดง่ะฉันพูดเสียงอ่อย

    ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีทางเป็นไปได้หรอกนะ แต่ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นคนที่เป็นคนบงการจะต้องเป็นพวกนักเรียนในนั้นงั้นสิ แล้วไม่ใช่แค่คนระดับปลายแถวด้วย มันจะต้องเป็นพวกตัวหัวหน้าเลยนะเพราะว่าสามารถทำแบบนั้นได้น่ะเต๋าลองวิเคราะห์

    ช่างหัวพวกนักสู้นั่นก่อนได้มั้ย ตอนนี้ฉันอยากจะรู้ว่านอกจากพวกนั้นแล้วมีใครที่พอจะมีอิทธิพลพอจะสั่งการคนในโรงเรียนได้บ้างคิมว่า

    อืม เท่าที่ดูก็ไม่ค่อยจะมีนะ ถ้าจะพูดให้ถูกคือไม่มีเลยมากกว่าฉันตอบ

    ใครบอกว่าไม่มีล่ะ เนริแกจำยัยแป้งที่เคยมาหาเรื่องแกได้ป่ะ ยัยนั่นล่ะฉันว่าใหญ่น่าดูถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่กล้ามาหาเรื่องแกถึงที่ห้องหรอกวายองเสนอ เออฉันลืมนึกไปเลยว่ายังมียัยนั่นอยู่ เพราะเธอหายตัวไปจากชีวิตฉันมานานมากแล้ว

    แต่นั่นผู้หญิงนะวายองฉันค้าน เพราะคนที่เราต้องการนั่นมันผู้ชายต่างหาก แล้วเธอก็อย่าบอกด้วยว่ายัยนั่นไปผ่าตัดแปลงเพศมาเพราะว่าฉันจำได้เลยว่าตอนเจอกันตอนนั้นคุณเธอเขาสะบึ้มขนาดไหน

    ไม่ใช่หรอก ไอ้เวย์มันไม่ได้หมายถึงแป้งหรอก แต่ฉันว่าเป็นพวกเคนมากกว่าพิรินที่นั่งเงียบอยู่พูดขึ้นมา

    อันนั้นฉันก็คิดอยู่นะ เพราะว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่จะเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับพวกผู้ชายที่มีอิทธิพลน้อยกว่าหรือถ้ามีผู้ชายก็จะต้องเกรงอกเกรงใจฝ่ายหญิงมากพอควรแต่กรณีนี้ฉันว่าแป้งไม่น่าจะใช่คนที่จะเข้าไปยุ่งกับคนที่ต่ำกว่าถึงจะหล่อขนาดนั้นก็เถอะ และเคนก็ไม่มีทีท่าเกรงอกเกรงใจหรือกลัวแป้งเลยซักนิดกลับกันพวกเคนออกจะเฉยชากับแป้งซะมากกว่า แสดงว่าพวกนี้ก็ต้องมีอิทธิพลพอตัวล่ะวายองร่ายยาว

    แต่เท่าที่ดูพวกนี้ก็ออกจะดีนะไม่น่าจะเป็นคนร้ายไปได้นี่คะฟาริที่ฟังอยู่นานพูด

    ฟาริ คนเรามันมองที่หน้าตาหรือสิ่งที่เขาพยายามแสดงออกมาไม่ได้หรอกนะ ดูอย่างตอนนั้นสิคนกันเองแท้ๆไม่น่าจะเลวร้ายได้ขนาดนั้นแต่มันก็เป็นไปได้นะครับเต๋าให้เหตุผลซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับเบาๆ

    แต่เท่าที่ดูเนี่ยคนที่ดูเหมือนว่าเป็นจุดศูนย์กลางของ3คนนั่นก็คือคนที่ชื่อเคนอะไรเนี่ยใช่มั้ยเจ้เฟชรหันมาถาม

    ฉันพยักหน้าตอบทั้งๆที่ในใจยังคงสับสน พวกเคนน่ะหรอคือคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง ตัวตนที่แสดงออกมากับสิ่งที่พวกนั้นทำในวิดีโอนั่นมันต่างกันมากนะ อีกอย่างเราไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวนี่นา แล้วเราจะมีความแค้นอะไรกันได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยรู้จักกัน แล้วก็พวกนั้นเองก็นิสัยดีขนาดนั้น

    งั้นก็มีความเป็นไปได้ที่นายเคนอะไรนั่นจะเป็นตัวการใหญ่เจ้เฟชรสรุป

    จบการประชุมก่อนได้มั้ยฉันโพล่งขึ้นมาเรียกความสนใจจากคนทั้งห้อง

    คือ.. เนริหมายความว่า เราสรุปกันเร็วไปหน่อยมั้ยฉันแก้ตัวเมื่อเห็นสายตาของทุกคนที่ส่งมา

    เฮ้อ.. เอาเหอะ พักก่อนก็ได้ ยังไงพวกเราก็คงจะด่วนสรุปกันเกินไป แต่เนริยังไงแกก็หนีความจริงไม่พ้นนะคิมบอกพลางหันมาพูดประโยคสุดท้ายกับฉันก่อนจะลงมือเก็บของ ทุกๆคนค่อยๆทยอยกันออกไปจากห้อง ตอนนี้เหลือเพียงฉัน ยูกิแล้วก็อาคิที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม

    เนริ ไม่ต้องคิดมากกับคำพูดพี่คิมหรอกนะฮะ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะอาคิพูดปลอบฉัน แต่ไม่รู้ทำไม คำพูดของคิมเมื่อกี๊มันถึงลอยวนเวียนอยู่ในหัวฉันไม่ยอมไปไหน ...หนีความจริงไม่พ้น... นั่นสินะที่ต้องการจะบอก

    มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่พวกเราคิดก็ได้นะครับยูกิลุกขึ้นมานั่งข้างๆพลางเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้

    อื้อ มันคงไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะ คนอื่นเขาออกกันไปหมดแล้วเนี่ย ไปหาอะไรกินกันหิวแล้วล่ะน้ำเสียงแกล้งทำเป็นร่าเริงถูกส่งออกจากริมฝีปากของฉัน อาคิกับยูกิมองหน้าฉันก่อนจะฉีกยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ก่อนจะฉุดฉันลุกขึ้น

    งั้นก็ไปกันเถอะ!!~”อาคิว่า

    ...แต่ จริงๆเลยน้า ทั้งๆที่เพิ่งกินมาเนริก็หิวอีกแล้ว สงสัยงานนี้น้ำหนักขึ้นแน่นอนเลย 55+”ยูกิพูดอย่างอารมณ์ดีทำให้ฉันต้องส่งค้อนไปให้วงใหญ่

    เดี๋ยวเหอะ พูดเรื่องน้ำหนักต่อหน้าหญิงสาวเนี่ยมันเป็นเรื่องต้องห้ามนะยะ ทำไมถ้าอ้วนแล้วจะไม่เลี้ยงหรอฉันว่าอย่างงอนๆ

    ถึงไม่อยากเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงล่ะฮะ ทำไงได้รักไปแล้วนี่ยูกิตอบกลับมาพลางเริ่มออกเดินนำหน้าไปทิ้งฉันที่ยืนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกอยู่กับอาคิ

    555+ เนริหน้าแดงใหญ่เลยล่ะอาคิมองหน้าฉันก่อนจะพูดออกมาแล้วก็เริ่มต้นวิ่งตามยูกิไป เฮ้อ สรุปฉันต้องเป็นฝ่ายตามใช่มั้ย ฉันคิดก่อนจะพูด

    เฮ้  รอด้วยสิ หยุดเดี๋ยวนี้น้า!!!~”

     ขอเวลาที่เราได้ยิ้มได้หัวเราะหยุดอยู่ที่ตรงนี้ได้มั้ยคะ พระเจ้า ขอเวลาให้มันหยุดอยู่แค่ตรงนี้ ตรงที่พวกเรา13คนได้เล่นได้หัวเราะกันอยู่แบบนี้ อย่าให้มันต้องมีอะไรที่ทำให้พวกเราจากกันเกิดขึ้นเลยนะ เนริรู้ว่ามันอาจจะเห็นแก่ตัวเกินไปที่ขอแบบนี้แต่ได้โปรดเถอะ ได้โปรดรับรู้ถึงคำขอของเนริที...

     

    ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง เสียงลั่นไกปืนที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของผู้ยิงได้ดี  อารมณ์ที่ครูกรุ่นถูกกรั่นกรอองออกมาตามปากกระสุน เป้านิ่งที่ใช้สำหรับฝึกซ้อมปรากฏร่องรอยของกระสุนชุดเมื่อกี๊อาจทำให้คนที่ได้มาเห็นรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจไม่ใช่เพียงเพราะกลัวอารมณ์คนตรงหน้าหากแต่กลัวในฝีมือของเขามากกว่าเพราะร่องรอยกระสุนทุกนัดอยู่ที่จุดตายทั้งหมดทั้ง5นัด

    GoDเมื่อไหร่เราจะได้ปะทะกับพวกนั้นอีกล่ะเสียงชายหนุ่มชุดขาวที่กำลังจ้องมองเครื่องดื่มสีเหลืองอะพันที่อยู่ในมือตัวเองด้วยสายตาเรืองโรจน์ภายใต้หน้ากากสีขาวบริสุทธิ์

    ไม่นานหรอก แองเจิ้ล อีกไม่นานพวกเราเดม่อนจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่และการเคลื่อนไหวครั้งนี้มันอาจจะเป็นจุดจบของพวกนั้นก็ได้ ไม่สิฉันจะทำให้วันนั้นเป็นจุดจบของพวกมันเอง และมันจะเป็นจุดจบที่สวยงามด้วย..เสียงนุ่มรอดริมฝีปากหนาออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากแต่ถึงจะมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหากแต่น้ำเสียงที่ถ่ายทอดออกมานั้นกลับเย็นเยียบราวกับจะกรีดลงบนจิตใต้สำนึกของผู้ฟัง แม้จะไม่ได้เห็นใบหน้าเพราะหน้ากากสีทองบดบังอยู่แต่คนที่อยู่ในห้องก็พอจะเดาอารมณ์ของคนตรงหน้าได้

    หึหึ พวกนายก็เอาจริงเอาจังไปได้ ถึงพวกนั้นจะไม่ธรรมดาแต่เราก็มีพลังจากขุมนรกนะ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกนั้นสยบอยู่แทบเท้าเราแล้วล่ะ เสียงจากบุรุษอีกหนึ่งคนที่อยู่ในห้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงตรงข้ามกับคำพูดที่น่าเกรงขาม

    นายประมาทพวกนั้นเกินไปเซราฟิม ถึงเราจะมีพลังจากขุมนรก แต่พวกนั้นก็มีพลังที่สวรรค์ประทานให้เช่นกันและเพราะเป็นแบบนี้ฉันถึงยอมขายวิญญาณของตัวเองให้กับซาตานไงล่ะ เพื่อที่จะครองคู่มันเนริ และเพื่อที่จะกำจัดไอ้พวกนั้นให้พ้นจากตัวเนริ เพื่อที่จะกักขังให้พวกมันชดใช้กับสิ่งที่ตัวเองทำเอาไว้ไงล่ะบุรุษที่ใช้ชื่อว่าGoDเอ่ยขึ้นพลางเดินมาคว้าแก้วเครื่องดื่มค๊อกเทลล์สีฟ้าใสเข้าปาก

    อีกไม่นานสินะ งั้นฉันจะรอส่งไอ้พวกนั้นไปลงนรกด้วยตัวฉันเองฉันจะรอ!!!”

     

     

                                                                                                                             RaiN BloOd สายฝนสีเลือด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×