คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : -- เที่ยวทัศนศึกษา -- -- ยิปโซเด็กผู้หญิงผู้เข้มแข็ง --
-- เที่ยวทัศนศึกษา -- -- ยิปโซเด็กผู้หญิงผู้เข้มแข็ง --
3วันก่อน อ.ไพล้อมเข้ามาประกาศว่าจะมีการจัดทัศนศึกษาที่เกาะแถบๆทางภาคใต้อะไรเนี่ยแหละ ฉันไม่ได้ฟัง และวันนี้ก็เป็นวันเดินทางด้วย น่าเบื่อชะมัด ถ้าไม่ติดว่าคิมมันสั่งภารกิจไว้นะฉันขอโดดร่มคนแรกเลย
ไอ้ภารกิจที่ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอกเกี่ยวกับพวกที่ขนสารเสพติดเข้าร.ร.นั่นแหละเพียงแต่ว่างานนี้มันเป็นสาขาซ่องบริการเท่านั้นเอง แล้วซ่องที่ว่านั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทที่พวกฉันมาพักนั่นแหละ คิมบิกว่าถ้าจะมาเองสู้มากับร.ร.ดีกว่า มาเองเปลืองเงินแถมค่าเทอมร.ร.ก็จ่ายมากโขอยู่แล้ว ต้องเอาให้คุ้ม (มันงก)
“เนริ เอากระเป๋าไปเก็บรึยังครับ”เสียงอาคิดังมาก่อนเจ้าตัวจะเดินมาถึงซะอีก อาคิวิ่งเข้ามาพร้อมกับยูกิ คู่นี้เค้าขาดกันไม่ได้ เดี๋ยวลงแดงตาย(เกี่ยวมั้ยเนี่ย?)
“เรียบร้อยแล้วล่ะ แล้วอาคิกับยูกิล่ะ?”ฉันถามกลับ
“แน่นอนครับ เรียบร้อยแล้ว ว่าแต่เสียดายจังที่ไม่ได้นั่งรถคันเดียวกัน แต่ไม่เป็นไร ผมมีวิธี”ยูกิตอบพลางยิมอย่างเจ้าเล่ห์ แสดว่าต้องวางแผนทำอะไรแปลกๆแน่นอนเลยเจ้าพวกนี้
“ยังไง?”ฉันเอียงคอถาม ส่งสายตาบ้องแบ๊วไปให้เผื่อเราตะได้ร่วมแผนการด้วย คงสนุกน่าดู(อ้าวไอ้นี่ นึกว่าจะห้าม จะเล่นด้วยซะอย่างงั้น/*--*)
“งั้นดูนี่ครับ อ.คร้าบบบ อาคิกับผมปวดท้องคร้าบบบ”ยูกิพูดก่อนจะหันไปตะโกนเรียกรน้องความสนใจจากอ.สายสมรที่ยืนอยู่ไม่ไกล รู้แล้ว ว่าจะเล่นอะไรกัน รถฉันมันเป็นรถที่มีเครื่องปฐมพยาบาลแล้วก็ยังเป็นรถที่อ.ห้องพยาบาลนั่งอีกด้วย จะแกล้งป่วยแล้วย้ายรถสินะ เจ้าเล่ห์จริงๆ^--^
หลังจากที่อ.ไล่ต้อนนักเรียนทั้งหมดขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วสรุปว่ายูกิกับอาคิก็ได้ขึ้นมานั่งยิ้มแป้นอยู่ข้างๆฉัน ก่อนขึ้นทำท่าทางเหมือนจะตายแต่พอขึ้นมานั่งได้แล้วยิ้มแป้นจนอ.สายสมรทำหน้าไม่ถูกเลย
“เนริครับ ยูหิวขนม”ยูกิที่นั่งด้านซ้ายข้างๆฉันพูดพลางเอาหัวมาถูๆไถแถวซอกคอฉัน จั๊กกะจี๋นะ
“จ้าจ้า เอ้า ในถุงนี่ หยิบเองเลยนะ”ฉันพูดแล้วหยิบถุงขนมที่ซื้อมาตุนไว้ก่อนรถออกให้กับยูกิ
“ขี้โกง เนริผมอยากกินอ่า”อาคิที่อยู่ด้านขวาก็ไม่ยอมแพ้เอามือมาโอบไหล่ฉันเข้าไปกอด แล้วเอาหัวหนุนตักฉันทันที
“อาคิ นายนั่นแหละขี้โกง นายยึดตักเนริไปเลยนะ”ยูกิว่าอย่างเอาเรื่องก่อนจะพยายามผลักหัวอาคิออกจากตักฉัน
“เอาน่า ยูกิก็นอนซบไหล่เนริก็ได้นะ”ฉันพยายามไกล่เกลี่ย
“แบร่”ยูกิเอนหันซบไหล่ฉันแต่ก็ยังมิวายแลบลิ้นใส่อาคิเป็นระยะระยะ เอากับเค้าสิ อายุ16แล้วนะเล่นเป็นเด็กอนุบาลไปได้
“วุ่นแย่เลยนะ เนริ”นัททักพลางส่งกูลิโกะเข้าปากไป ง่าของโปรดเค้าอ่าT^T
“กินมั่งดิ เค้าอยากกิน”ฉันหันไปอ้อนนัทแทน
“เอาสิ”นัทพูดแล้วยื่นกูลิโกะให้ฉันโดยมีสายตาชิ้งๆของยูกิและอาคิประดังประเดเข้าใส่ราวกับห่าฝน แต่ฉันไม่สน เพราะฉันจะกิน 555+ ฉันยื่นหน้าไปกัดแท่งกูลิโกะโดยอาสัยมือของนัทจับให้ อร่อยจัง
“เนริ!!”ง่าประสานเสียงเขียวส่งมาให้ทันทีเชียว
“ก็ได้ๆ ขอบใจนะนัท”ฉันรับกูลิโกะมาจากมือของนัทโดยไม่ลืมกล่าวขอบคุณ
กรุบ กรุบ กรุบ อร่อยจางงงงงง^^ มันสุดยอดจริงๆ ฉันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับแท่งกูลิโกะในมือโยมีสายตาของทุกคนส่งมาให้
^ -- ^ นี่ของยูกิกับอาคิ
=_=” นี่ของพวกพี
+ -- + นี่ของคนอื่นๆ ประมาณว่า อีนี่มันบ้าไปแล้ว
“คนมันมีความสุข ไม่ต้องมองก็ได้นะ”ฉันหันไปเหน็บไอ้พีที่นั่งอยู่เบาะข้างกับไอ้เวย์
“เออ ช่างหัวแกเหอะ สุดที่รักมาอยู่คุมอย่างนี้ระวังตัวเอาไว้เหอะ”พีมันตอบก่อนจะตัวพิงกับพนักพิงแล้วหลับต่อโดยมีเวย์นั่งคุยโทรศัพท์กับกิ๊กคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของมัน อยากรุ้จังว่าถ้าเครื่องหายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เหอะๆ(โหมดชั่วร้ายครับพี่น้อง)
ตลอดทางจนถึงที่หมายรู้สึกว่าฉันจะได้พูดแค่สองประโยคเอง แต่ซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นแหละ ถ้าไม่
“ยูกิอย่าม้วนผมเนริเล่นสิ เดี๋ยวมันยุ่งหมด”ฉันเอ็ดยูกิที่ไม่ยอมอยู่เฉยเอาผมฉันมาม้วนเล่นซะงั้น
ก็
“อาคิ พี่อยากกินขนมนะ” พูดอยู่สองประโยคเมื่เห็นว่าอาคิทำท่าจะแกะขนมกล่องใหม่ที่ฉันเตรียมมากินเองTT
ซึ่งบัดนี้ขนมกล่องแล้วกล่องเล่าก็ได้อันตธานหายไปจากถุงผ้าของฉันด้วยฝีมือของยูกิและอาคิ ฮือ ฮือ T{}T มันช่างน่าเศร้า
“ถึงที่หมายแล้วล่ะจ้า เด็กๆ ถึงแล้ว รีบไปเอากระเป๋าแล้วก็ไปเข้าแถวตามห้องได้แล้วนะจ๊ะ”อ.สายสมรพูดประโยคสุดท้ายหันมาบอกยูกิกับอาคิ ทั้งสองคนค่อยๆลุกขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง จะอะไรกันนักเนี่ยสองคนนี้ แค่จะแยกไปเข้าแถวทำหน้าอย่างกับจะไปตาย
*****************10นาทีผ่านไป****************
พวกฉันกำลังแยกย้ายกันเข้าไปพักในห้องพักของโรงแรมซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่านี่คงเป็นหนึ่งในอาชีพบังหน้าของพวกมาเฟียค้ายาอีกเหมือนกัน เมื่อคืนก่อนขอให้พี่เรย์หาข้อมูลไว้ให้ และก็เป็นจริงตามคาด ที่นี่เป็นแหล่งค้าประเวณีผิดกฎหมายจริงๆ คิมมันก็เลยก่าให้พวกเราทลายมันด้วยซะเลย เป็นไงงานที่คิมมันมอบหมาย ยากโคตร แถมงานนี้มันบอกให้ลงมือแค่สิบคนอีก ไม่มีกำลังเสริม จะมีมาช่วยก็ตอนตำรวจบุกนั่นแหละ ใจร้ายชะมัดT^T เอาเถอะ อย่างน้อยคิมมันก็ยังให้พกอาวุธมาด้วย แต่งานนี้ไม่มีระเบิดแน่นอน ไม่งั้นมันเอาตายแน่
อ.สายสมรบอกว่าให้เลือกรูมเมทเอาเอง ห้องละ3คนแล้วคุณคิดว่าฉันจะไปอยู่กับใครล่ะ แน่นอนก็ต้องไอ้เวย์กับพีมันสิ ฉันขนกระเป๋าเข้ามาในห้อง กระเป๋าของฉันค่อนข้างหนักเพราะอัดแน่นไปด้วยอาวุธและเครื่องมือในการปลอมตัวอีกนานาสารพัดอย่างซึ่งจะเอามาทำอะไรนั้นขออุบเอาไว้ก่อน แต่เชื่อเถอะ เดี๋ยวคุณก็รู้
ห้องของฉันอยู่ชั้น5 หมายเลข412 เลขโปรดทั้งนั้น ทั้ง2เอย 4เอย 1เอย ลัคกี้นัมเบอร์เลยล่ะ ส่วนพวกยูกิก็พักกัน3คน มีอาคิ ยูกิแล้วก็ฮิคารุ สรุปแล้วห้องนี้รวบรวมคนหน้าหวานเอาไว้หมดเลย มาดูอีกห้อง ริว รุนแล้วก็ไฮยาโตะ ให้ตายเหอะห้องนี้รังสีความมาดแมนเต็ม100ให้1000เลย ห้องของยูกิอยู่ชั้นเดียวกับฉัน อยู่ถัดไปสองห้องคือห้อง414 ส่วนห้องของพวกริวอยู่ชั้น4ห้อง312ซึ่งอยู่ตรงกับห้องของฉันเลยแต่อยู่คนละชั้นกันเท่านั้นเอง ส่วนคอนนเน่หนุ่มน้อยรายนั้นเค้าไปพักอยู่กับรูมเมทหน้าหล่ออีกสองคน รู้สึกว่าจะชื่อโอมกับเนทอะไรนี่แหละมั้ง อยู่ชั้นเดียวกับพวกริวแต่ถัดไป5ห้อง
“เนริ แกจัดของเสร็จรึยัง”พีถามขณะที่ตัวเองนั่งอ่านนิตยสารดูดวงอยู่บนเตียงแหงะล่ะมันไม่จัดกระเป๋าหรอก มันบอกว่าขี้เกียจ ส่วนเวย์ก็ขอตัวไปเช็ครอบๆตัวตึกโรงแรม เพราะฉะนั้นท่านก็ยังไม่ได้จัดเช่นกัน เหลือแต่ฉันนี่แหละที่นั่งบ้าจัดของอยู่คนเดียว
“ใกล้จะเสร็จแล้ว”ฉันตอบก่อนจะเดินเอาแปรงสีฟันและสารพัดสิ่งของที่ใช้ในการอาบน้ำไปวางเรียงไว้หน้ากระจกอ่างล้างมือ
“เรียบร้อยแล้วล่ะ”ฉันหันไปบอกพีที่เริ่มให้ความสนใจกับวิวห้องซะแล้ว
“ที่นี่บรรยากาศดีนะ”พีตอบในขณะที่ตัวเองไปยืนรับลมอยู่ริมระเบียง ถ้าสาวๆแฟนคลับมันมาเห็นคงได้มีหนังสดให้ได้ดูกันแน่ๆเลย ก็ดูคุณเธอเค้าแต่ง เสื้อเชิ้ตสีขาวทรงผู้ชาย แถมรัดสเตรย์เอาไว้ด้วย กางเกงยีนส์สีเข้มขาดๆกับผมซอยสั้นใส่แว่นกันแดดสีชาบดบังนิยต์ตาเอาไว้ ผมซอยสไลด์ที่เคยปล่อยสยายบัดนี้กลับรวบไว้อย่างลวกๆพอเป็นพิธี ดูไปดูมาผู้ชายชัดๆเลย
“จะไปไหน”ฉันถาม
“ก็จะไปดูที่นั่นกันหน่อย ไปป่ะแกอ่ะ”พีหันมาชวนฉัน
“เอาดิ ไปสำรวจกันหน่อยเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยบุกละกัน หาอะไรเล่นไปก่อน”ฉันตอบพลางเอามือแต่ที่ผมแล้วร่ายเวทย์เบาๆ พริบตาเดียวผมที่เคยยาวปล่อยสยายกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นซอยสั้นระต้นคอ นัยต์ตาสีสีน้ำตาลแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างนึกสนุก ฉันเดินไปหยิบสื้อแขนยาวสีเทามีฮู๊ดมาใส่ทับด้วยเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำครึ่งตัวลายหัวกะโหลกไขว้สีขาวขึ้นมาใส่แล้วจัดการเปลี่ยนกางเกงให้เป็นสามส่วนสีขาวสะอาดตา ฉันเดินมายืนหน้ากระจกก่อนจะฉีกยิ้มมหาเสน่ห์ที่ไม่เคยพลาดเป้าใส่กระจก ภาพตรงหน้าคือผู้ชายหน้าหวานคนหนึ่งส่งยิ้มตอบกลับมาให้ แต่ฉันว่ามันยังขาดอะไรอีกอย่าง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรพีมันก็เอามือที่ชโลมเยลมาจักทรงให้ฟูๆกระดกไปมาอย่างชำนาญ
“เรียบร้อยแล้ว”พียิ้ม ถ้าไม่ติดว่าอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กฉันอาจจะเผลอตัวจับมันกดตรงนี้เลยก็ได้
“แล้ว...”ฉันกำลังจะถามแต่ถูกไอ้พีมันชิงตัดหน้าตอบซะก่อน
“เราบอกไอ้เฟลมันแล้ว มันบอกว่าแปรงร่างเรียบร้อยแล้วให้เทเลพอตวาร์ปไปหามันได้เลย”
“อือ”ฉันตอบ พีมันนั่งขีดๆเขียนๆอะไรซักอย่างบนพื้นก่อนจะร่างเวทย์ อ้อ วงเวทย์วาร์ปนี่เอง นึกว่าอะไร ฉันเดินเข้าไปอยู่ตรงกลางวงแหวนเวทย์ก่อนจะร่ายมนต์ในใจ
วาร์ป
พวกเรามาโผล่ที่ซอกตึกโรงแรมที่เต็มไปด้วยถังขยะเต็มไปหมด โดยมีไอ้เวย์มันยืนบีบจมูกอยู่
“เฟล มึงหาที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วรึไง”ไอ้พีแว๊ดใส่ ตราบใดที่เราอยู่ในร่างผู้ชายเราจะใช้ชื่อในกลุ่มเท่านั้น ห้ามเรียกชื่ออื่น
“เอาน่า มันไม่มีที่ไหนเงียบพอที่จะวาดวงเวทย์แล้ว”เวย์พูดก่อนจะเดินนำออกจากซอกตึกไป
“แต่แกก็น่าจะหาที่มันดีดีกว่านี้หน่อยนะ”ฉันแหวใส่
“มึงอย่าบ่นไปเลยไอ้เอล หาได้ก็บุญแล้วเฟ้ย”เวย์หันมาบอก ตรงหน้าของพวกเราคือตึกโรงแรมที่เราเข้ามาพักในฐานะของเด็กนักเรียน แต่ตอนนี้มันกลับกัน พวกเรามาใช้บริการในฐานะของนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเท่านั้น
“เชิญเลยครับ ทางนี้เลยครับ”เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับพนักงานต้อนรับผู้ชายที่เข้ามาทำหน้าที่อย่างแข็งขัน
“จะค้างคืนหรือกี่ชั่วโมงดีครับ”ตามปกติทั่วไปแขกทุกคนก็จะนึกว่าเป็นคำพูดตามปกติแต่ที่นี่มันไม่ใช่
“เอาเป็นคนคนไปละกัน”นั่นคือโค๊ดลับในการซื้อขายบริการทางเพศกัน ดูท่าว่าพนักงานคนนั้นจะเข้าใจ เชิญเราไปอีกทางแทนที่จะเป็นเคาร์เตอร์ของโรงแรม
“งั้นเชิญทางนี้เลยครับ”
เมื่อเดินมาได้ซักพักก็จะเห็นห้องมากมายเรียงรายอยู่กลาดเกลื่อน ห้องสำหรับรับแขกสินะ
“ว่าแต่พวกน้องๆเพิ่งเคยมาที่นี่หรอครับ พี่ไม่เคยเห็นเลย”พนักงานชวนคุย
“ครับ พวกเราเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก เห็นคนรู้จักเค้าแนะนำมาว่าที่นี่น่ะสุดยอดเลย”พีมันรับหน้าที่ตอบคำถามไป(กะล่อนตามน้ำเลยนะ)
“แน่นอนครับ ของของเราสุดยอดทุกอย่างครับ ว่าแต่น้องจะเอาแบบไหนดีล่ะ”พนักงานพูดเข้าข้างฝั่งตัวเองก่อนจะถามรูปแบบที่ต้องการ(ถามเหมือนเลือกซื้อผ้าอนามัยเลย เอาแบบไหน มีปีกอ๊ะเปล่า?)
“อืมม ของผมเอาแบบซิงๆละกันนะ น่ารักๆด้วยล่ะ”เวย์ทำท่านึกเล็กน้อยก่อนจะตอบไป
“เอ่อ...ผมเอาแบบไร้เดียงสา น่าจับกดอ่าพี่”ฉันตอบไปแบบอึกอักก็ปกติฉันไม่พิสวาทที่แบบนี้นักหรอก
“ของผมเอาแบบซิงๆ แล้วก็เอ็กซ์ๆด้วยอ่ามีมั้ย”พีถามพลางทำหน้าตาหื่นนิดๆ(ดูจากคำพูดดูเหมือนไอ้2ตัวนี่มันชำนาณมากเลยนะเนี่ย สงสัยคล่อง)
“มีสิน้อง เอางี้เลยห้องนี้เลยครับ น้องขอมาพี่จัดให้”พนักงานคนนั้นเปิดประตูห้องๆนึงแล้วดันหลังไอ้พีเข้าไป
“แล้วของผมอ่าพี่”เวย์มันประท้วง
“โหน้อง มีหรือพี่จะไม่ให้น้องขอมาพี่จัดให้เลย น่ารักๆ ซิงด้วย นี่เลย5000”พนักงานพูดพร้อมกับผายมือให้ เวย์มันเอาเงินขึ้นมานับเล็กน้อย ก่อนจะยื่นให้พี่พนักงาน 6000
“1000ให้ติ๊บพี่”เวย์มันพูน้ำเสียงทะเล้นก่อนจะผลุบหัวเข้าไปในห้อง
“เอ้า ของน้องทางนี้เลย น้องยิปโซ สวยใส ไร้เดียงสา น่ารักอีกต่างหาก”พนักงานคนเดิมพูดเมื่อเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ดูท่าว่าจะเป็นดาวของที่นี่ล่ะมั้ง
“เท่าไหร่อ่ะพี่”ฉันถาม คงแพงน่าดูชมเลย ดูจากประตูก็รู้แล้ว
“แพงหน่อยนะน้อง แต่นี่ของดีว่ะ 8000”8000 มันเอาไปซื้ออะไรวะเนี่ย ตั้ง8000 อยู่ได้เป็นเดือนเลยนะนั่น
“กี่ชั่วโมง”ฉันถามต่อ เผื่อถ้าเวลาน้อยจะได้ขอคนอื่น ไม่งั้นรีดข้อมูลไม่ครบพอดี
“ไม่กำหนดครับน้อง เอาป่ะเนี่ย”พี่พนักงานจอมขายทำท่าทะเล้น
“เอาดิพี่ ของดี ก็ต้องเอา”ฉันแกล้งทำท่าทะลึ่งตึงตังเล็กน้อยก่อนจะยื่นเงินให้ไป15000 พี่พนักงานทำหน้างงเล็กน้อยทำท่าจะยื่นเงินคืน
“ของไอ้เพื่อนผมอีกคนไงพี่ 5000 ใช่ป่ะ ที่เหลือผมให้”ฉันเฉลยข้อข้องใจ ถือซะว่าเป็นค่าเริ่มงานใหม่ก็แล้วกัน เดี๋ยวมันก็ต้องหางานใหม่รึไม่ก็ต้องไปนอนในตารางอยู่แล้ว ถือว่าทำบุญไปละกัน พนักงานนั่นเดินไปได้ซักพัก ฉันก็เปิดประตูห้องแล้วก้าวเข้าไป ดูท่าว่าจะเป็นห้องสำหรับรับลองพวกกระเป๋าหนัก ตัวห้องเป็นโทนสีฟ้าล่ะมั้งไม่แน่ใจเพราะโดนแสงไฟสีส้มๆกลบไปหมด บนเตียงมีเด็กสาวคาดว่าอายุไม่น่าจะอายุเกิน17นั่งอยู่ หน้าตาสะสวยแต่เสียอย่างเดียวไม่น่ามาทำแบบนี้เลย อนาคตเสียหมด
“สวัสดีค่ะ”เสียงหวานๆเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นฉันรอยยิ้มน่ารักถูกปรุงแต่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ถ้าตะกี๊ตาฉันไม่ฝาดฉันว่าฉันเห็นแววตาเศร้าสร้อยของเด็กคนนั้นนะ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นแหละ
“ชื่ออะไรหรอ เธอน่ะ”ฉันถามชื่อแม้จะรู้มาก่อนแล้วว่าเธอชื่ออะไรก็ตาม แต่นั่นควรถามเพื่อมารยาท
“ชื่อยิปโซค่ะ”ยิปโซตอบพลางเดินเข้ามาโอบคอฉันไว้ และฉันก็ตอบสนองด้วยการเอามือไปโอบรอบเอวเธอไว้
“ชื่อเพราะจัง แต่ผมไม่ได้มาเพื่อตองการทำอย่างนั้นหรอกนะ ผมแค่อยากคลายเครียดเท่านั้น”ฉันพูดพลางแกะมือของยิปโซออก
“เอ๋”เธอทำหน้างงเล็กน้อยพลางเอียงคอมองอย่างสงสัย อย่างนี้ล่ะมั้งที่ทำให้เธอเป็นดาวรุ่งในนี้ นิสัยอย่างนี้นี่เอง
“อย่างที่ผมบอก ผมแค่อยากคลายเครียด แต่ไม่ใช่วิธีอย่างว่าหรอก”ฉันบอกพลางทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ส่วนยิปโซยังคงยืนงงอยู่(ขืนมีอย่างว่า ความลับก็แตกหมดอะดิ)
“มานี่สิ”ฉันตบที่เตียงบริเวณข้างๆตัวซึ่งยิปโซก็ว่าง่ายเดินมานั่งแล้วทิ้งตัวลงนอนหนุนแขนฉัน งานนี้ได้มีเหน็บชาแน่นอนเลย ให้ตายเหอะ เห็นว่าเป็นงานหรอกนะ ถึงได้ทำ
“แปลกจังเลย”ยิปโซพูดเบาๆ แต่ฉันก็ยังได้ยิน
“ยังไง หืม”ฉันถาม
“คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่หวังแต่เรื่องอย่างว่าเท่านั้น แต่คุณไม่เลย ยิปโซก็เลยคิดว่าแปลกน่ะค่ะ”ยิปโซตอบกลับมา
“แล้วคนที่ยิปโซเคยเจอส่วนมากเป็นคนยังไงหรอ บอกผมหน่อยได้มั้ย”ฉันพริกตัวตะแคงแล้วมองหน้าเธอ
“คนที่ยิปโซเคยเจอส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มาเที่ยวเพื่อระบายความใคร่ทั้งนั้น ไม่มีใครเค้าเข้ามาแล้วชวนยิปโซคุยอย่างคุณ...”ยิปโซทำหน้าเหมือนจะนึกชื่อของฉัน แต่ทว่านึกยังไงก็นึกไม่ออกหรอก เพราะตั้งแต่เข้าห้องมาเนี่ย ฉันยังไม่ได้บอกชื่อตัวเองเลยซักคำ
“ราฟาเอลครับเรียกเอลก็ได้”ฉันตอบ
“ค่ะ คุณเอล”ยิปโซพยักหน้าเล้กน้อยเชิงรับรู้
“เอาเถอะ ว่าแต่คุณมาอยู่อย่างนี้นี่มีความสุขหรอครับ”ฉันยิงประโยคเด็ดออกไป
“ก็ไม่หรอกค่ะ คนที่มาอยู่ที่นี่ ถ้าไม่โดนพ่อแม่ขายมาก็จะเป็นพวกใจแตกซะส่วนใหญ่”ยิปโซตอบ ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเธอพยายามที่จะเลี่ยงเรื่องของพวกผู้หญิงที่โดนหลอกมาขายขนาดไหน
“ยิปโซบอกผมได้นะครับ”ฉันเอามือประคองใบหน้าของเธอเอาไว้เพื่อแสดงถึงความสงสารและความน่าไว้ใจเพื่อให้เธอผ่อนคลาย
“ไม่ดีหรอกค่ะ คุณมีเรื่องกลุ้มแล้ว ยิปโซไม่อยากให้คุณมีเรื่องไม่สบายใจอีก”ยิปโซตอบพลางหลบสายตาฉัน เธอช่างเป็นคนดีเสียจริงๆ ยกเว้นเสียแต่ว่ามันผิดเวลานะจ๊ะเด็กน้อย เพราะตอนนี้ฉันกำลังหิวข้อมูล
“เอางั้นก็ได้ แล้วตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่หรอ”ฉันถาม ดูจากท่าทางไม่น่าเกิน17 เพราะฉะนั้นเตรียมขึ้นศาลเยาวชนได้เลยไอ้พวกเชี่ย 555+
“ยิปโซอายุ15ค่ะ”หา15 มันเอามาทำเมียรึเอามาทำลูกล่ะนั่นน่ะ ยังเด็กอยู่เลยนะ
“อืม แล้วยิปโซอยากได้อะไรบ้างมั้ยล่ะ”ฉันถามพลางเอามือเกลี่ยผมที่ปรกหน้าของยิปโซออก
“สิ่งที่ยิปโซอยากได้ เงินมากแค่ไหนก็ซื้อมันไม่ได้หรอกค่ะ”เงินซื้อไม่ได้แต่ถ้าอย่างอื่นอาจจะได้นะ
“งั้นมันอะไรล่ะ เอลแค่อยากรู้ ไม่เอาน่าอย่ามองกันแบบนั้นสิ เอลอยากรู้จริงๆ”ฉันลองเลียบๆเคียงๆถามแต่เมื่อเจอสายตาขี้สงสัยของยิปโซทำให้ต้องเปลี่ยนบทมาเป็นพ่อจอมกะล่อนแทน อนาถจิต เกิดมาไม่เคยวิปริตผิดเพศเช่นนี้มาก่อนเลย ยกเว้น ตอนหาเหยื่อเน้อ(ตอนนั้นหนูจำเป็น)
“ยิปโซอยากออกจากที่นี่ค่ะ ยิปโซอยากเป็นอิสระ”ยิปโซพูดสายตาเลื่อนลอยราวกับว่าตอนนั้นเธอได้ออกไปเดินเล่นข้างนอกจริงๆอย่างนั้นแหละ แต่น่าสงสารน่ะการที่เด็กอายุ15ต้องมาเจออะไรแบบนี้น่ะ มันโหดร้ายเกินไป คนที่ไม่เคยเจอคงไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง
“งั้นเอลจะพาออก เอามั้ย”ฉันก้มลงไปกระซิบที่หูของยิปโซ ฉันตัดสินใจแล้วว่ายังไงฉันก็จะพายิปโซออกจากที่นี่ให้ได้ ต่อให้ตายก็ยอมล่ะ
“จริงๆหรอคะ”ยิปโซถาม นัยต์ตาของเธอเป็นประกาย
“อื้อ ฉันสัญญา”ฉันยื่นนิ้วก้อยให้เธอ ยิปโซกำลังจะเอานิ้วมาเกี่ยวกับนิ้วของฉันแต่ก็ชะงักไป
“แต่..”
“แต่อะไร”ฉันจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวย
“มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ ต่อให้เงินเยอะแค่ไหน ตราบใดที่ฉันยังเป็นตัวทำเงินของที่นี่อยู่พวกเค้าจะไม่ยอมปล่อยฉันไปอย่างแน่นอน”ยิปโซทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ขึ้นมาดื้อๆ
“คืนพรุ่งนี้เอลจะมารับ เอลจะพายิปโซหนีไปด้วยกัน สัญญาด้วยชีวิตเลยครับ”ฉันตอบยิปโซค่อยยื่นมือมาแล้วเกี่ยวนิ้วก้อยของพวกเราเข้าด้วยกัน นี่ฉันไม่ได้น้ำเน่านะ แต่ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณเอลมากจริงๆ ยิปโซจะรอ ยิปโซจะไปอยู่กับคุณ”ยิปโซพูดพลางเอนตัวซบไหล่ฉันไว้ เฮ้อ คงจะเจออะไรมามากสินะ โลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
“อื้อ”ฉันเอามือลูบหัวเธอ กับคนแบบนี้ คนดีดีอย่างนี้ ทำไมฟ้าช่างโหดร้ายกับเธอนักนะ เธอก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆแค่นั้นเอง ทำไมต้องทำร้ายกันขนาดนั้น นี่เป็นบททดสอบของท่านรึไง มันไม่เลวร้ายเกินไปหน่อยรึ
“ยิปโซอยากจจะทำอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า ถ้าได้ออกไปแล้วน่ะ”ฉันถามอย่างน้อยมันก็คงดีกว่านี้ถ้าฉันสามารถพาเค้าออกไปได้เลย เพราะฉะนั้นการพูดคุยเรื่องความฝันมันคงช่วยจุดประกายความหวังของเด็กคนนี้ขึ้นมาได้บ้างล่ะนะ
“ถ้าออกไปแล้ว ยิปโซจะเป็นแม่บ้านที่ดีของเอลค่ะ จะดูแลเอล ทุกๆอย่างที่เป็นของเอล”ยิปโซยิ้มน้อยๆ ถ้าบอกความจริงไปจะทำให้ยิปโซเสียความรู้สึก ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปก่อนละกันนะ คงไม่ผิดใช่มั้ยที่โกหกเพื่อให้คนอื่นมีความสุขน่ะ ไม่ผิดใช่มั้ยคะ พระเจ้า
“เอาสิ ที่บ้านเอลมีเด็กๆเยอะแยะเลยนะ จะดูแลไหวรึเปล่า”ฉันพูดติดตลกนิดๆ จะว่าไปบ้านฉันก็เด็กเยอะจริงๆนั่นแหละ
“ทำไมคะ เด็กๆ ยิปโซออกจะชอบ น่ารัก ไร้เดียงสา ขอแค่เอลต้องการยิปโซก็ไม่เกี่ยงงอนหรอกค่ะ”เธอพูดด้วยสายตามาดมั่น
“ไม่หรอก อย่าพูดเหมือนเอลเป็นเจ้าชีวิตยิปโซเลย เอลก็แค่ทำเพื่อมนุษยธรรมน่ะ ไม่ต้องการให้ยิปโซมาเป็นทาสของเอลซะหน่อย”ฉันพูดพลางอมลมเข้าไปในแก้ม ยิปโซเอานิ้วมาจิ้มเล่น
“คิก คิก”ยิปโซหัวเราะน้อยๆ ถ้างานคืนพรุ่งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดีต่อให้ต้องตายก็พอใจแล้วล่ะ ไม่สิเราต้องมีชีวิตอยู่ไปช่วยพวกคิมมันจัดการพวกมาเฟียเงามืดให้หมดไป อัยการน่ะถ้าขาดไปคนก็ไม่ใช่อัยการแล้ว ต้องมี13คนเท่านั้น จะขาดใครไปไม่ได้ และจะเกินจำนวนนี้ไปก็ไม่ได้เช่นกัน
“หัวเราะเอลหรอ”ฉันพูดก่อนจะเริ่มลงมือจี้จุดจั๊กกะจี๋ยิปโซ คนคนนี้เหมือนกับฟาริ เหมือนมาก ขี้แย ขี้น้อยใจ ต้องการความรักจากทุกคน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ฟาริต้องทำงานพวกเราต่างมีงานที่ต้องทำ ฟาริจะมามัวทำตัวเป็นเด็กไปไม่ได้ถึงแม้ว่าในใจจะร้องไห้หรือต้องการความรักขนาดไหนก็ไม่เคยปริปากบ่นซักคำ ฟาริเป็นเด็กที่น่าสงสาร น่าสงสารมากๆ ความรักจากแม่แท้ๆที่สมควรจะได้ ความรักจากพี่สาวคนนี้ ความรักจากทุกๆคน
ถึงเจ้าตัวจะไม่พูดอะไร แต่ในใจพวกเราทุกคนรู้ดี เพราะฉะนั้นฉันจะพยายามทดแทนส่วนที่ขาดไปให้กับเธอก็แล้วกันนะ ยิปโซ
“เหนื่อยแล้วหรอคะ”ยิปโซถามเมื่อเห็นฉันทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
“อือ”ฉันตอบ ในใจคิดไปถึงฟาริน้องสาวแท้ๆเพียงคนเดียวที่รออยู่ที่บ้าน เฮ้อ
“เป็นอะไรไปคะ ถอนหายใจเฮือกเชียว”ยิปโซถาม
“ฟังอะไรผมหน่อยได้มั้ย ผมแค่อยากระบาย”ฉันถามเชิงขออนุญาต
“แน่นอนสิคะ เอลยังฟังยิปโซเลย”แม้ขนาดเวลานี้เธอก็ยังยิ้มได้อีกเนาะ ^--^
“ผมมีน้องสาวอยู่คนนึง แม่ของผมตายตั้งแต่ฟาริยังแบเบาะอยู่เลย พ่อของพวกเราก็สนใจทำแต่งาน งานแล้วก็งาน ฟาริเป็นเด็กติดผม(มั้ง??) เธอต้องการความรักและความเอาใจใส่มากๆ และเธอไม่ต้องการให้ใครมาสงสารด้วย”
“...”
“พออายุได้13ปี เธอโดนขายเข้าไปในซ่องโดยฝีมือแม่เลี้ยงใจร้ายภรรยาใหม่ของพ่อพร้อมกับผม เพื่อหวังจะฮุบสมบัติของพ่อ เพื่อนๆผมตามเข้าไปช่วยนขณะเดียวกันก็ติดต่อแจ้งความกับตำรวจด้วย”
“เพื่อนของเอลต้องเป็นคนดีมากๆเลยนะคะ”
“ใช่ เค้าเป็นคนดีมากๆเลยล่ะ ตามเข้ามาสมัครเป็นพนักงานต้อนรับหนำซ้ำยังช่วยวางยาแขกที่จะอ๊อฟฟาริด้วย ช่วยอะไรได้มากเลยล่ะ ในขณะที่พ่อแท้ๆของพวกเราก็โดนนังแม่เลี้ยงนั่นวางยาจนตาย”
“...”
“2อาทิตย์ เวลาที่อยู่ในนั้นมันเหมือนตกนรกทั้งเป็น ทั้งโดนซ้อม โดนเคี่ยนตีในห้องอับๆมืดๆที่เต็มไปด้วยหนูและเด็กที่โดนพ่อแม่ขายมาขัดดอกใช้หนี้”
“...”ในขณะที่ฉันพล่ามต่อไป ยิปโซเธอเอามือบางๆมาลูปหน้าฉันราวกับจะปลอบประโลมใจ
“จากนั้นพวกเพื่อนๆก็ได้มาช่วยพวกเราพี่น้องออกมาจากซ่องโดยพาพวกตำรวจมาถล่มที่ซ่องนั่นราบเป็นหน้ากลองเลยล่ะ หึหึ รู้มัย้เกิดอะไรขึ้น คนที่ฉันรักมากๆคนหนึ่งเค้าจากฉันไปจากเหตุการณ์ครั้งนั้น”ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อเรียวนิ้วบางก็แตะลงที่ริมฝีปากของฉัน
“ยิปโซ”
“อย่าพูดเลยค่ะ ถ้ามันทำให้ไม่สบายใจ เก็บมันไว้ในส่วนลึกดีกว่านะเรื่องร้ายๆน่ะค่ะ”ยิปโซยิ้มให้ฉันอย่างจริงใจ
“แต่ผมอยากระบายนะ”ฉันบอก
“ก็ได้ แต่ห้ามพูดว่าใครตายนะคะ”ยิปโซต่อลอง
“อืม”ฉันรับคำ ยิปโซยิ้มให้ฉันก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆฉัน
“น้องสาวของผมตั้งวันนั้นมา พวกเราก็ต้องแยกย้ายกันไปดูแลธุรกิจของคุณพ่อที่ยังเหลืออยู่ ยัยแม่เลี้ยงก็ถูกส่งเข้าไปนอนในมุ้งสายบัว พวกเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าที่ควร ตอนกลางวันฟาริไปเรียน ผมก็ต้องไปทำงาน กลับมาฟาริก็หลับแล้ว ไม่ได้คุยกันเลย “
“....”
“ฟาริค่อยๆกลายเป็นคนที่มีความคิดความอ่านแบบผู้ใหญ่ เกินตัว เพื่อนๆในวัยเดียวกันในวันหยุดก็จะออกไปเที่ยวเล่นแต่ฟาริไม่ เค้าอยู่บ้านอ่านหนังสือ รึไม่ก็หมกตัวอยู่ในห้องคนเดียว”
“...”
“จนสุดท้ายผมทนไม่ไหว ส่งเธอไปหาจิตแพทย์ เค้าบอกว่า ฟาริปิดกั้นตัวเองไม่ยอมเปิดใจเท่าที่ควร นั่นอาจเป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์นั้น ความเอาใจใส่ ความรักนั่นคือยาที่ดีที่สุดสำหรับฟาริ”
“
”
“ฉะนั้นผมเลยตัดสินใจขายกิจการของพ่อทิ้งทั้งหมดเหลือไว้เพียงบ้านและที่ดินต่างๆอีก5-6แห่ง แล้วมาอยู่กับฟาริอย่างเต็มตัว แต่สายไปซะแล้ว พอผมกลับมาเรียนปริญญาเอกต่อก็ต้องทำงานโน้นงานนี้ส่งอ. ฟาริก็เตรียมตัวเรียนปริญญาโทเหมือนกันทางเดินของพวกเรามักจะสวนทางกันอยู่เรื่อยเลย”ฉันหลับตาลง
“ทางเดินมันจะสวนทางกันมั่งก็ไม่แปลกหรอกค่ะเอล”เสียงหวานๆสอดแทรกเข้าไปในโสตประสาท คงงั้นล่ะมั้งจากนั้นเราสองคนก็พูดคุยเรื่องราวต่างๆมากมายโดนฉันพยายามจะถามเกี่ยวกับเรื่องของที่นี่แต่ยิปโซก็พยายามจะบ่ายเบี่ยงทุกครั้งไปจนสุดท้ายฉันต้องใช้ไม้ตายที่ใช้ได้ดีมากที่สุดกับผู้หญิง “ลูกอ้อน”นั่นเอง
“อื้อ เอลต้องไปแล้วล่ะ ได้เวลาแล้ว”ฉันดูนาฬิกาแล้วก็ต้องอุทาน คุยกันไปคุยกันมาเผลอแผล็บเดียวสองชั่วโมงแล้วหรอเนี่ย
“ต้องไปแล้วหรอคะ”ยิปโซพูดเสียงอ่อยๆ
“อือ ต้องไปแล้วล่ะ มันนานมากแล้ว”ป่านนี้ไอ้พีกับไอ้เวย์มันไม่เฉ่งฉันตายเลยรึนั่น
“ยิปโซ”ฉันหันไปเรียกเธอไว้ก่อนออกจากห้อง
“ขา”ดวงหน้าหวานหันมาหาฉันตามเสียงเรียกด้วยความฉงน
“รอฉันนะ”เพียงคำพูดสามคำมันทำให้หัวใจของหญิงสาวในห้องเต้นระรัว ความหวังของเธอถูกจุดขึ้นด้วยฝีมือของผู้ชายคนนึงที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก หัวใจของเธอเบ่งบานอย่างบอกไม่ถูก
“ไอ้เอล เข้าไปซะนานเลยนะเฟ้ย”นั่นไง ว่าแล้วว่าต้องโดนเฉ่ง เวย์เปิดฉากด่าคนแรกเลย
“เอาน่า ไหนๆมันก็ออกมาแล้ว ให้อภัยมันเหอะ”พีพยายามไกล่เกลี่ย เพื่อนรักของฉัน ฉันรักแกว่ะ
“ไม่ต้องมามองหน้าอย่างนั้น เลี้ยงไอติมพวกเราด้วย”พีกันมาบอก แป่ว ไอ้เราก็นึกว่าจะช่วยฟรีๆพี่แกตองการขอตอบแทนนี่เอง คำพูดที่พูดไปตอนแรกขอกลับคำว่ะ ฉันเกลียดแกโคตรเลย
“555+”เสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากไอ้เวย์ดังมาให้เจ็บปวดกระดองใจเล่น ฮึ่ง มันน่านักนะไอ้พวกนี้
“เอาไว้วันหลังเหอะ เรียกรวมพลดีกว่า เราต้องวางแผนกันแล้ว”ฉันพยายามปัดป่ายไปเรื่องอื่นและได้ผลชะงักนักแล
“ก็ได้ฟะ”พีตอบพลางยืนสงบนิ่ง1นาที(??) เอ้ย ยืนรวบรวมสมาธิเพื่อติดต่อกับพวกยูกิ
/เดี๋ยวไปรวมตัวกันที่ห้องของยูกิด่วนเลย ห้ามสาย สายตาย ลาไม่ได้ ลาได้อย่างเดียวคือลาตาย เข้าใจมะ/เสียงไอ้พีดังในหัว บอกแล้วว่าพวกเรามันพวกโทรจิตสื่อสาร
/รัยทราบ!!/เสียงพวกยูกิดังตอบกลับมา
“ไปรวมกันที่ห้องยูกิด้วย ตอนนี้เลย”พีมันหันมาพูด ฉันได้ยินตั้งแต่แกโทรจิตแล้วไม่ต้องย้ำหรอก จากนั้นพวกเราก็เดินเท้ากลับไปที่ซอกตึกถังขยะนั่นอีกครั้งเพื่อใช้เทเลพอตวาร์ปไปที่ห้องของยูกิ
RaiN BloOd สายฝนสีเลือด
ความคิดเห็น