คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : -- ระบายความเครียด -- -- เพื่อนที่ไม่ต้องการ --
-- ระบายความเครียด -- -- เพื่อนที่ไม่ต้องการ --
“สวัสดีครับ”ฉันเดินออกมาจากห้องประชุมที่ตึกโซเนอร์ คิมมันเรียกประชุมด่วน เนื่องจากว่าช่วงนี้มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ฉันได้เจอกับไอ้Godบ้านั่นมันก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว (เรื่องที่ฉันได้เจอกับGoDแน่นอนว่าฉันยังไม่ได้บอกใคร) แต่ก็ยังมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแบบไม่ให้พักกันเลย ไม่ว่าจะเป็นสายข่าวของเราหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เอกสารถูกขโมยไปจากห้องเก็บเอกสาร เหมือนกับว่ามีคนนอกเข้าออกที่นี่โดยไม่มีใครสังเกตเห็น กล้องวิดีโอวงจรปิดติดๆดับๆ ถ่ายติดบ้างไม่ติดบ้าง คราวนี้เป็นงานประชุมสรุปลำดับเหตุเฉยๆ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมันยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว มันแปลกมากจริงๆ
“เน่ จะรีบไปมั้ยเนี่ย เดี๋ยวจะเข้าเรียนคาบบ่ายแล้วนะ”เวย์มันตะโกนเรียกในขณะที่มันกำลังสตาร์ทเครื่องชอปเปอร์คันสีม่วงดำที่เจ้าตัวรักนักรักหนาแถมตั้งชื่อให้ด้วยว่า โฮโนโมโน ไม่รู้มันเอามาจากไหน แปลกโคตร แต่ก็นะคนเค้ารักของเค้าเราจะไปห้ามมันคงไม่ได้ คิมมันเรียกประชุมด่วนตอน11โมง20นาที และตอนนี้มันเป็นเวลา13.04น. ยังไม่สาย ห๊ะ 13.04น. ( ^--^ ) (-_-“) ( + -- +) (=_+) (T^T) ( T[]T )
สายแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
“ไอ้เวย์สายแล้ว สายแล้ว Well, Well Well! Well!!(ตาย ตาย ตาย ตาย! ตานแน่!!)”ฉันรีบกระโดดขึ้นคร่อมเจ้าโฮโนซ้อนท้ายไอ้เวย์มันทันที
เพียงเวลา10นาทีไอ้เวย์กับพีสามารถมาถึงร.ร.ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ตายและไม่โดนตำรวจจับ ก็ดูมันสิเหยียบ200/ต่อชม. จะไปตายที่ไหนก็ไม่รู้มัน ผมฉันฟูหมดเลยT^T
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยจริงๆในการทำเวลาวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะไปเข้าเรียนในห้อง ฉันกับเวย์แล้วก็พีรีบวิ่งขึ้นทันทีในขณะที่พวกยูกิต้องอยู่ทำงานต่อที่ตึก แต่พวกเราต้องมาวิ่งเป็นหมาหอบลิ้นห้อยกันอยู่อย่างนี้
ครืด
“ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ อาจารย์”ฉันประสานเสียงเรียกความสนใจจากอาจารย์จูลี่ อาจารย์ชาวต่างชาติสุดเซ็กซี่ ที่วันๆแต่งเอ็กซ์เพื่อยั่วลูกศิษย์หันมามองขวับ
“May I come in?(ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ)”พีพ่นภาษาอังกฤษออกไปคนแรก
“Where have you been?(ไปอยู่ที่ไหนมา)”
“Sorry Teacher(ขอโทษค่ะ คุณครู)”ฉันรีบแทรกก่อนจะมีการปะทะคารมของนางมาร(พี)กับนางแมว(อาจารย์จูลี่นางแมวยั่วสวาท)
“Forget it, Get Lost!(ช่างมันเถอะ พวกเธอจะไปไหนก็ไป)”ยัยอ.จูลี่บอกอย่างไม่สนใจ จะบอกอะไรให้นะ เธอน่ะไม่มีวันที่พวกเคนจะสนใจหรอก ทำแต่งตัวยั่วยวนเค้าทุกวี่ทุกวันไอ้เราล่ะก็เบื่อเนอะ เห็นของตัวเองก็พอใจแล้วไม่ต้องเปิดให้ดูหรอก พวกฉันเดินเข้าไปนั่งที่ตามเดิมโดยมีสายตาแสบๆคันๆจากยัยฝรั่งบ้านั่นคอยจิกกัดเป็นพักๆ
“ไปไหนมาหรอ”เคนเอ่ยปากถามเป็นคนแรกหลังจากที่ฉันนั่งลง
“อ๋อ โดดเรียนน่ะ พีมันไม่อยากเจอกับยัยแมวยั่วสวาทน่ะ”ฉันตอบตามที่เตี๊ยมไว้
“อือ แล้ว.....”ก่อนที่เคนจะได้พูดประโยคต่อมาก็มีเสียงแจ๋นๆของยัยแมวบ้าผู้ชายนั่นแทรกเข้ามาซะก่อน
“คิมเนริ เธอชวนธราธรคุยทำไม เข้าเรียนสายแล้วยังจะคุยกับผู้ชายในห้องเรียนอีกหรอ” ฉันชวนมันคุยตอนไหนเนี่ย
“ยืนขึ้นสิยะ ยังจะนั่งบื้ออยู่ได้”เสียงแจ๋นนั่นแว่วมาอีกที ยืนก็ยืนวะ
“ค่า ยืนแล้วค่า”ฉันพูดอย่างขอไปทีแล้วลุกขึ้นยืน อะไรฟะเพิ่งนั่งได้ไม่ถึงนาทีเลย ยืนอีกแล้ว ไอ้พีมันนั่งพึมพัมบ่นเป็นหมีกินน้ำผึ้งอยู่ด้านหลัง
“ปาร์คพิริน เธอบ่นอะไรน่ะ แอบด่าฉันหรอ”ยัยจูลี่เอ๊ย ไม่รู้ชะตากรรมซะแล้ว
“เออ ด่าอยู่”พีตอบ มันยอมรับแบบง่ายๆอย่างหน้าไม่อาย แต่มันก็ทำให้คนหน้าห้องเต้นแร้งเต้นกาได้ เออ เอากับมันสิพูดแล้วก็เอาตะไบเล็บมานั่งเสริมสวยต่อ
“ยัยเด็กบ้า สถุลมากๆ ยั่วผู้ชายไปวันๆ คงจะโดนไปแล้วสินะ กริยาทรามซะไม่มี”เสียงด่ากราดมาแบบไม่เว้นจังหวะหายใจ โอ้โห นี่หรือครู ทำไมมารยาทมันทรามนักนะ
“สถุลแปลว่าอะไร ยั่วผู้ชายก็พอจะรู้จัก โดนอะไร ไม่บอกแล้วจะรู้มั้ย กริยาทรามเป็นยังไง”พีมันถามออกมาแบบซื่อๆ ซื่อบื้ออ่าดิ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”เสียงแสบแก้วหูดังมาให้ฟังเล่น
“โอ๊ย! จะแหกปากหาพ่อเหรอ เดี๋ยวฝ่ายปกครองก็ถามหาหรอก”ไอ้เวย์มันทนไม่ไหวตะหวาดขึ้นดึงความสนใจจากคนในห้องได้เป็นอย่างดี ส่วนเคนอึ้งไปแล้ว ไม่เคยเจอแม่คุณทูนหัวอาระวาดน่ะสิ
“ต๊าย ยัยพวกหน้าด้าน พวกเธอว่าฉันเหรอ”
“เออสิ”พีมันยังไม่ยอมหยุด ยั่วอารมณ์ให้คลุกกรุ่นขึ้นเป็นทวีคูณ
“ยัยเด็กเวร พวกเธอนี่มันเลวร้ายมากๆ ฉันจะไปบอกคุณครูใหญ่”ยัยจูลี่ทำท่าจะเดินออกจากห้องไปจริงๆแต่ถูกพีดึงแขนไว้ก่อน อ้าว เฮ้ย ไปอยู่นั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ พีเดินเข้าไปกระชากผมฟูฟ่องนั่นจากด้านหลัง
“อย่าเพิ่งไปสิ คุณยังไม่ตอบเลยนะว่าสถุลแปลว่าอะไร โดนในประโยคก่อนหน้านี้คืออะไร กริยาทรามทำยังไงน่ะ”พีมันยิ้มยั่ว ทำไมมันจะไม่รู้ว่าหมายความว่ายังไง ในเมื่อเลือดในตัวมันครึ่งหนึ่งเป็นไทยแท้น่ะ
“นังบ้า แกมันชั่วที่สุด ปล่อยฉันนะ ทำอะไรน่ะ”อ.สาวดิ้นรน เฮ้อ สงสารก็สงสารแต่สะใจมากกว่า(ชั่วจริงๆ)
“จะไปไหน บอกแล้วไงตอบคำถามก่อน”พีพูดเสียงเย็นมือที่กำข้อมือเล็กๆไว้เพิ่มแรงบีบราวกับคีมหนีบยักษ์
“อ๊ะ”เสียงร้องบอกถึงความเจ็บ
“พีปล่อยเค้าเหอะน่า สงสารอ่า”เวย์พูดแต่ท่าทางของมันไม่ยักกะเป็นอย่างที่พูดแฮะ คำพูดแบบนี้กับท่าทางอ่านหนังสือการ์ตูนเล่นแบบนั้นมันไม่เข้ากันเลย ให้ตายสิ
“ช่างหัวแก แต่ฉันสะใจ”พีมันท่าจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆแฮะมันไม่ชอบขี้หน้าครูนี่มานานแล้ว แถมยังด่ามันแบบนั้น =_= บอกได้คำเดียว รอดยากง่ะ
“ยัยบ้า เธอมันบ้าไปแล้ว ปล่อยฉันนะโอ๊ย!”อีกมือของพียกขึ้นบีบกรามยัยนั่นแน่น เฮ้อ ฉันละเบื่อ
“พีเอาเหอะน่า ครูเค้าไม่ตั้งใจน่า”ฉันพยายามไกล่เกลี่ย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีผล ลองคุณเธอเค้าแรงแล้วล่ะก็อะไรก็ฉุดไม่อยู่
“แกไม่เห็นรึไงว่า มันด่าฉันเป็นพวกอย่างว่านะ จะให้พูดขอบคุณค่ะแล้วโปรยยิ้มให้เราไม่เอาด้วยหรอก แกมันใจดีเกินไป”นั่นไง โดนด่ากลับมาด้วยเลย พีหยิบเอามีดพกในกระเป๋าออกมาแกว่งเล่น ส่วนยัยจูลี่นั่นดูท่าว่าประสาทเสียไปแล้ว
“จะ จะทำอะไรน่ะ”คนอวดดีเมื่อครู่ละล่ำละลักถาม
“จะไปยากเย็นอะไร เห็นมีดอยู่นี่ ถ้าไม่เอามากรีดหน้าเธอแล้วจะให้ทำอะไรดีล่ะ หือ”พีมันตอบพลางยื่นมีดเข้าไปใกล้ๆหน้าสวยๆนั่น พวกผู้หญิงร้องวี๊ดว้ายเล็กน้อยแต่ก็ตองเงียบเมื่อเจอสายตาแข็งกร้าวจากคนเลือดเย็น ใบมีดเย็นเฉียบแตะโดนผิวหนังความกลัวแผ่กระจายออกมาอย่างปิดไม่มิด คนอวดดีตัวสั่นพั่บๆ ช่างเป็นภาพที่น่าสงสารจริงๆ
“มันจะไม่เกินไปหน่อยหรอ พี”เต้พยายามจะห้าม ฉันรีบยกมือห้าม
“อย่าเลย ถ้ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ปล่อยมันบ้าไปก่อนเหอะ ช่วงนี้มันเครียดน่ะ”ฉันกระซิบบอก ก่อนจะค่อยๆสาวเท้าเข้าไปใกล้มันช้าๆอย่างระวังตัว เพราะฝีมือมันไม่ใช่ย่อย ถ้าขืนบุ่มบ่ามคนที่จะเจ็บตัวจะเป็นฉันซะมากกว่า
“ไม่ต้องห้ามเลยไอ้เนริ”พีมันหันมาพูดในขณะที่กำลังปาดใบมีดไปตามผิวหน้าของยัยนั่นอย่างสนุกสนาน มันโรคจิตล่ะสิไม่ว่า
“ไม่ได้ห้าม รู้ว่าห้ามก็ไม่สนอยู่แล้ว แต่ขออย่างเดียวอย่าเล่นของมีคม มือเท้าอย่างเดียวก็พอ”ฉันพูดอย่างสบายๆ
“ก็ได้ มือเท้าอย่างเดียวพอ”พีพูดก่อนจะโยนมีดมาให้ฉัน หมับ คว้าได้อย่างงดงาม แต่ไอ้พีถ้ามันบาดฉันขึ้นมาจะทำยังง้ายยยยยย
“แน่ใจนะว่ามือเท้าพอ อย่าลืมดิ ว่ามันเก่งนะเฟ้ย”เวย์มันเดินเข้ามากระซิบถามฉัน แต่ตัวมันก็ไม่ได้ห้ามอะไร หนำซ้ำยังช่วยปิดประตูกันพวกผู้หญิงปากมากที่จะออกไปฟ้องครูซะอีก ส่วนพวกผู้ชายโดนรังสีอำมหิตจากไอ้เวย์ไปแล้วก็ไม่มีหน้าไหนกล้าหือหรอก เคนไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่แล้วก็เลยนั่งเฉยๆไป ส่วนนัทก็นั่งดูอยู่เงียบๆเท่านั้น แต่ก็ดูท่าว่าจะพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเสมอถ้ามีเหตุการณ์อะไรไม่น่าไว้ใจเกิดขึ้น
“เอาเหอะ มันไม่ลืมงานหรอก นั่นมันแค่ระบายอารมณ์ส่วนตัว”ฉันตอบกลับไป ใครเค้าจะอดทนไหว ไหนจะงาน ไหนจะเรื่องวุ่นๆในองค์กรอีก
“ครั้งแรกนี่สำหรับที่ดูถูกฉัน!” เพี๊ยะ ลูกตบครั้งแรกถูกส่งเข้าไปปะทะแก้มขาวด้วยเครื่องสำอางอย่างจัง อู๊ยยย คงเจ็บน่าดูร่างบางเซตามแรงตบเล็กน้อย เลือดไหลออกมาริมมุมปากสีแดงสด เรียกเสียงร้องจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี
“กรี๊ด”
“ครั้งที่สอง แกแกล้งเพื่อนฉัน”อ้าวรอบสองนี่เราไปมีเอี่ยวกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า
เพี๊ยะ ลูกตบครั้งที่สองแรงไม่แพ้ครั้งแรก เรียกรอยช้ำบริเวณมุมปากได้เป็นอย่างดี ฉันยืนมองภาพตรงหน้าอย่างเวทนา ก็นะช่วยไม่ได้นี่ หลายครั้งแล้วที่โดนแกล้งให้ลุกขึ้นยืนหรือโดนทำโทษด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เพี๊ยะ ครั้งที่สามทำเอาร่างผู้ถูกกระทำแทบยืนไม่เป็น ถ้าไม่ติดว่ามีมืออำมหิตคอยจับไว้ล่ะก็ คงกลิ้งโค่โล่ไปแล้ว
“ครั้งที่สาม แกทำให้ฉันหงุดหงิด”เหอะๆ บอกแล้วว่ามันแค่ระบาย
“กลัวละ ละแล้ว”เสียงขอความเมตตตาเอื้อนเอ่ยออกมาจากริมฝีปากช้ำ
“แล้วทีตอนทำไม่ยักกะกลัว จะมากลัวตอนนี้ล่ะก็เสียใจ สายไปแล้ว ครั้งที่สี่นี่ สำหรับที่ทำให้ฉันรำคาญ”ไม่พูดเปล่าพร้อมประทานฝ่ามือพิฆาตให้อีกรอบ น้ำตาคลอเต็มเบ้า ผมฟูยุ่งเหยิงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เลือดกบปากเลยนะนั่น ถ้าไม่นับเจ้เฟชรแล้ว พีมันถือว่าเป็นคนมือหนักมากๆๆๆๆๆเลยล่ะ(แหงสิพี่ท้องท้องเดียวกันนิ)
“ครั้งที่5..”
“พอแล้ว”ฉันรีบคว้ามือพีเอาไว้ก่อนที่มันจะประเคนฝ่ามือพิฆาตอีกระรอก
“ไม่ต้องมายุ่งเลยไอ้เน่ ฉันยังไม่สะใจ”พีมันหันมาพูด เหงื่อที่ผุดออกมาบนใบหน้าบ่งบอกถึงอาการสติหลุดได้เป็นอย่างดี
“เก็บอาการหน่อยดิ”เวย์พูดติดตลก พีเอามือสางผมตัวเองอย่างลวกๆก่อนจะจัดการเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย
“โอเคยัง”พีถามพร้อมกับหมุนตัวให้สำรวจ ส่วนยัยอ.จูลี่ทรุดลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว แถมยังไม่มีแรงพอแม้แต่จะคลานออกจากห้อง
“อือ เอ้า สาวๆ มาพาอ.จูลี่ไปห้องพยาบาลซะสิ ส่วนพวกผู้ชายก็นั่งที่ให้เรียบร้อยได้แล้ว”เวย์พูดพลางเดินไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง พวกผู้หญิงราว2-3คนเดินไปพยุงอ.ออกจากห้องไป ห้องเรียนที่เคยเงียบสงัดเมื่อครู่กลับกลายเป็นตลาดสดอีกครั้ง หัวข้อการสนทนาก็คงไม่พ้นเรื่องของไอ้พีมัน
“จะโดดเรียนนะ”พีพูดเบาๆราวกับว่าอยากจะให้ทุกคนรับรู้ถึงความต้องการของมัน แต่ไม่ได้ผลซักเท่าไหร่
“เราจะโดดเรียน”พีเพิ่มระดับเสียงเล็กน้อย คิ้วสวยขมวดเป็นโบ
“เราจะโดดเรียนโว้ยยย!!!!!”โครม ปัง พีตะโกนพลางเตะโต๊ะที่อยู่ใกล้ตัวล้มลงไประเนระนาดอยู่ที่พื้น ได้ผล ทุกคนหันมามองทันควัน
“เราจะโดดเรียน บอกครูให้ด้วย มีใครไม่พอใจมั้ย”พีกวาดสายตาไปทั่วห้อง สายตาเชือดเฉือนถูกส่งไปให้ทุกคนที่กำลังจะอ้าปากพูด
“ถ้าไม่มีเราจะไปแล้ว”พีตัดบทก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป
ครืด ปัง
.......................................................................
....................................................
...................................
...............
...
PIRIN : SAYS
ฉันเบื่อมากๆเลย ตอนนี้ฉันกำลังมุ่งหน้าไปที่ ฮั่น แน่ คุณคงสงสัยใช่มั้ยว่าจะเป็นที่ทะเลหรือสวนสารธารณะดี เพราะคู่พระนางเวลาเศร้าต้องไป แต่ผิดถนัด ฉันกำลังมุ่งหน้าไปที่ลานซ้อมยิงปืนของกรมตำรวจ เวลาฉันเครียดจะมายิงปืนรึไม่ก็ออกอาละวาดต่อยตีเล่นไปทั่ว
ปัง ปัง ปัง ปัง ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ฉันรัวปืนกลกระหน่ำใส่ป้ายเป้าหมาย ฉันมีใบขออนุญาตใช้ปืนทุกชนิดอ่านะ แต่ยังงงอยู่เลยว่ายิงไปตั้งหลายสินัด ทำไมเป้ามันมีรอยแค่5รูฟะ (พี่แกเค้ายิงเข้าเป้าเดิมหมดโดยไม่รู้ตัว จะเก่งหรือจะโง่กันแน่ฟะเนี่ย)
กริ๊ก ฉันวางปืนกลลงแล้วหยิบM16มาเล่นแทน
ปัง นัดเดียวเข้าที่กลางหน้าผากจุดตาย
ปัง นัดที่สองเข้าที่ตำแหน่งหัวใจ
ปัง นัดที่สามเจาะคอหอย
ปัง นัดที่สี่เข้าที่จุดยุทธศาสตร์ของผู้ชาย
“ง่ายจัง”ฉันพึมพำก่อนจะวางปืน เหลือบสายตาไปเห็นที่ครอบหูกันเสียง เออเนอะ ยิงมาตั้งนานเพิ่งสังเกตเห็นนะเนี่ย มิน่าหูถึงได้อื้อไปหมด ฉันใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งคีบที่ครอบหูสีชมพูแปร๋นนั่นขึ้นมา
“ทำท่าเหมือนรังเกียจเลยนะ ไม่ชอบขนาดนั้นเชียว”เสียงพูดจากทางด้านหลัง เสียงฝีเท้าแบบนี้ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นพี่วินชัวร์
“ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เกลียดมันเลยต่างหาก”ฉันตอบพี่วินอย่างเนือยๆ พี่วินเป็นพี่ที่รู้จักกันในลานซ้อมที่นี่ ค่อนข้าง นิสัยดี คารมเป็นต่อ หน้าตาออกไปทางเข้มๆแบบชายชาติทหาร เจ้าชู้ด้วยล่ะมั้งเห็นคนอื่นๆเค้าพูดๆต่อกันมา
“ปานนั้น”พี่วินแสร้งทำท่าตกใจอย่างกับเจอสิ่งมหัศจรรย์ที่8ของโลกซะอย่างนั้น
“อือ”ฉันตอบก่อนจะวางที่ครอบหูลงบนโต๊ะ
“ไปโกรธใครเค้ามาล่ะ ยิงซะจุดตายงี้ หัวใจงี้ คอหอยงี้”ยังไม่ทันที่จะป่าวประกาศความต่อฉันก็ขัดขึ้นซะก่อน
“พอเลย แค่เครียดเรื่องงานน่ะ มีอะไรกับพีรึเปล่า”
“เปล่าหรอก พี่แค่คิดถึงน้องสาวไม่ได้รึไง”ว่าแล้วก็ส่งสายตาเจ้าชู้มาให้ ยอมรับแล้วว่าข่าวที่คนอื่นๆบอกมาเป็นเรื่องจริง=_=
“ก็ดีที่แค่น้องสาว ถ้าอย่างอื่น พีจะฟ้องพี่แก้ว”ใช่แล้วพี่แก้วเป็นว่าที่ภรรยาของพี่วินนั่นเอง แถมรายนั้นขี้งอนอย่างกับอะไรดี งานนี้มีแต่ตายกับตาย
“โห เล่นของสูงนะเรา ว่าแต่งานอะไรล่ะ ให้พี่ช่วยมั้ย”พี่วินเปลี่ยนท่าทีมาเป็นงานเป็นการ
“ไว้พี่ขอพี่แก้วแต่งงานได้ก่อนจะให้ช่วยละกันแต่คงอีกนานอ่านะ”ฉันสวนกลับไป
“ง่า พี่ก็พยายามอยู่นะอย่าตัดกำลังใจดิ”พี่วินพูดแบบหงอๆ
“เปล่า พีก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”ฉันยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินออกนอกห้องซ้อมโดยมีพี่วินเดินตามหลังมา
“แล้วบอกพี่ได้รึยังว่างานอะไร”พี่วินยังไม่เลิกตื๊อ ถ้าฉันจำไม่ผิดพี่แกถามทุกครั้งที่เจอหน้าฉันเลยนะ คำถามเนี้ยะ
“เกี่ยวกับF.B.Iบอกได้แค่นี้แหละ”ฉันตอบไปอย่างไม่ใส่ใจแต่ดูท่าว่าคนฟังจะออกอาการอึ้งทึ่งแบบฉุดไม่อยู่
“จริงดิ พี่นึกว่าเราเป็นพวกลูกตำรวจ รึไม่ก็พวกนกต่อของตำรวจซะอีก”พี่วินถามอย่างอึ้งๆ
“อดีตสายลับค่ะ ตอนนี้พีกับเพื่อนๆลาออกมาตั้งองค์กรพันธมิตรF.B.Iแล้ว ชื่อว่าโซเนอร์น่ะ คงเคยได้ยิน”ฉันอธิบายอย่างเซ็งๆ
“โซเนอร์ ไอ้ที่มันเป็นแก๊งที่คอยช่วยดูแลคนแถวๆเขต4อ่านะ”พี่วินยังตาโตไม่เลิก ฉันพยักหน้าตอบแล้วหยิบกาแฟที่สั่งไว้ขึ้นมาดื่ม
“แล้วที่บอกว่าออกมาตั้งองค์กรนี่พีเป็นคนบุกเบิกหรอ”พี่วินยังคงซักข้อมูลต่อ
“อือ จะเรียกผู้บุกเบิกก็ไม่ผิด แต่พวกเราโดนเรียกว่าอัยการซะส่วนมากอ่านะ”ฉันตอบกาแฟนี่มันหอมจริงๆ อยู่บ้านกินบ่อยไม่ได้ริวกับเจ้ห้ามออกมาข้างนอกก็ขอนิดนึงละกัน
“หมายความว่ายังไง พวกเรา?”พี่วินเลิกคิ้ว
“หมายความว่ามีมากกว่า1ไง คณะอัยการมีทั้งหมด13คน ทำงานกันเป็นทีม”ฉันอธิบายให้คนขี้สงสัยฟัง
“อื้อ แล้ว..”
“พีมาซ้อมยิงปืนหรือมานั่งให้พี่ซักฟอกผู้ต้องหาเนี่ย”ฉันรีบขัดก่อนที่คำถามน่าปวดหัวจะถูกพ่นออกมาอีกระรอก
“น่าคำถามสุดท้ายแล้ว พีเรียนชั้นไหนแล้วล่ะคณะอัยการทุกคนด้วยนะ”พี่วินยิงคำถามมาก่อนที่จะอนุญาติให้ถามซะอีก
“พีจบป.เอกแล้วด้านฟิสิก-เคมี คนอื่นๆก็จบด้านต่างๆมานั่นแหละ ยังมีบางคนที่กำลังศึกษาป.เอกอยู่อ่ะแหละ แล้วก็นี่คำถามสุดท้ายตอบไปแล้วห้ามถามอีก”ฉันพูดต่อทันทีเมื่อเห็นคนขี้สงสัยกำลังจะอ้าปากถามต่อ
“โห ไม่ถามก็ได้คนอะไรขี้งกเป็นบ้า”พี่วินย่นจมูกเหมือนเด็กโดนขัดใจ
“พอเลย ทำเหมือนเด็กไปได้นะพี่ อายุอานามก็20กว่าๆแล้วนะ”ฉันตอกกลับไปทันที
“แหงะ พี่เพิ่ง20ต้นๆ(ซะที่ไหน)อยู่เลย ว่าพี่แก่ซะแล้ว”หน้าหล่อๆมุ่ยลงทันตาเห็น เหอะๆ ดีนะเนี่ยที่อยู่กับพวกไอ้คิมมันตั้งแต่เด็ก ภูมิคุ้มกันคนหล่อมันเยอะ
“เอาเหอะ พี่ทำไปมันก็ไม่ไประโยชน์อะไร พีมีภูมิคุ้มกันผู้ชายเยอะ”ตั้งแต่คนหล่อยันคนน่ารักเลยล่ะ
“O๐O ง่ะ”
“จริงๆ พีอยู่กับเพื่อนแล้วก็น้องชายมาตั้งแต่เล็ก อย่างพี่น่ะไม่ถึงครึ่งน้องชายไอ้เนริมันด้วยซ้ำ”
“ปานนั้น เลย ไม่พูดและ น้อยใจ คนหล่องอน”พูดแล้วก็ทำท่าสะบัดสะบิ้งงอนเหมือนผู้หญิงมาให้
“เหอะๆ พี่น่ารักตายล่ะ”ฉันว่า
“เอาเหอะๆ พี่ไปแล้วนะเดี๋ยวมีนัดทานข้าวกับแก้วล่ะ”พี่วินพูดก่อนจะเดินไปแต่ยังมิวายส่งสายตาวิบวับมาให้ฉัน มันน่าถ่ายรูปแล้วส่งไปให้พี่แก้วดูจริงๆ
........................................................................
........................................................
........................................
.................
...
กลับมาที่ด้านของเนริ
NERI : SAYS
กริ๊งงงงงงง เสียงออดสวรรค์ดังมาให้ได้ยิน ฉันรีบเก็บกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องทันทีวันนี้ฉันจะไปรับเด็กๆที่โรงเรียนด้วยตัวเองล่ะ เพราะฉะนั้นก็เลยกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษ จะดีกว่านี้ถ้าฉันไม่หันไปเห็นพวกไซเรนยืนอยู่ที่หน้าโรงเรียน คงจะมาหาใครซักคนล่ะมั้ง ช่างเถอะ พวกนั้นไม่รู้จักหน้าตาเรา คงไม่สังเกตหรอก ลองเดินผ่านไปเฉยๆดีกว่า
“ซาน”เสียงตากลมเรียกทำให้ฝีเท้าชะงักไปทันที
“ตะกี๊คุณเรียกใครคะ”ฉันหันไปตีหน้าซื่อแล้วถาม
“เธอนั่นแหละ พวกฉันจะเรียกใครซะอีก”แม่วีนัสจอมหยิ่งพูด
“คุณเป็นใครคะ ฉันไม่รู้จักพวกคุณเลยนะ”ฉันยังคงเล่นละครตีหน้าซื่อต่อไป ออสการ์ปีนี้ฉันคงมีชื่อเข้าชิงนะ^^
“เธอนั่นแหละซาตาน เธอคงไม่คิดว่าฉันจะจำผมของเธอไม่ได้หรอกนะ”โยพูด สายตายังเด็ดเดี่ยวเหมือนเคย แต่อิ๊บอ๋ายลืมไปว่าผมสีดำอมม่วงแถมยาวขนาดนี้เด่นขนาดไหน
“จำได้แล้วไง บอกแล้วไงว่าอย่าทัก เราจะไม่พูดคุยกันอีก”ฉันเริ่มเข้าสู่โหมดเป็นงานเป็นการ
“มันไม่เกี่ยวเลยกับอีแค่เธอเป็นแบบนั้น”โว้ย แค่พวกนายยกพวกมาหาฉันนี่มันก็เด่นแล้วนะ ยังจะพูดอะไรสองแง่สามง่ามอีก นายสายลม
“ฉันเป็นของฉันแบบนี้ และไม่ต้องการที่จะให้พวกนายมายุ่ง เพื่อตัวของพวกนายเอง เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งกับฉันซักที!!”ฉันตะคอกกลับไป ก่อนจะรีบเดินหนี
หมับ มือของโยจับฉันไว้
“ไม่ใช่เพื่อนกันแล้วรึไง”โยพูด สายตาเฉียบคมประสานเข้าสายตาของฉัน
“นายจะคิดอะไรมาก ก็แค่เพื่อนคนนึง นายจะมาสนใจอะไรฉันนัก”ฉันเริ่มหมดความอดทนถามออกไป
“เนริ อ๊ะ พวกคุณ”ยูกิวิ่งเข้ามาหาฉัน ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้มาเยือน
“ไม่มีอะไรหรอก ยูกิ เราไปรับพวกเด็กๆกันเถอะ”ฉันรีบตัดบทแล้วลากยูกิออกจากวง แต่โดนสายลมคว้าแขนเอาไว้ก่อน
“ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ จะไปแล้วหรอ”เสียงจากสายลม
“งั้นผมว่าเราคงต้องเปลี่ยนที่คุยแล้วล่ะ”ยูกิมองมือของสายลมสลับกับฉันไปมาแล้วพูด
..
..
ดาดฟ้าตึกเรียนเวลานี้ปราศจากคนเหมาะแก่การพูดคุยหรือเจรจากัน
“พวกนายมาหาฉันเพื่อเหตุผลอะไร”ฉันเปิดฉากทันทีที่ประตูดาดฟ้าปิดลง
“พวกเราแค่ต้องการจะเป็นเพื่อนแค่นั้น และไม่ต้องการที่จะเห็นเพื่อนมีอันตรายโดยไม่เข้าไปช่วยเหลือด้วย”ไซเรนตอบเสียงเข้ม
“ไม่จำเป็น เราเป็นเพื่อนกันก็จริงแต่อยากจะให้เลิกมาหาฉันหรือไปมาหาสู่กับพวกเรา เพราะนายอ่อนแอเกินไป และฉันก็ไม่มีปัญญาจะช่วยนายด้วย ทุกอย่างมันอันตรายไปหมด นายก็เห็นพวกฉันฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น ตากลม เธอเองก็กลัวฉันไม่ใช่หรอ”ฉันร่ายยาว
“แต่..”ตากลมทำท่าจะแก้ตัวแต่ฉันขัดขึ้นมาซะก่อนเธอจะเอ่ยปากพูดจบประโยค
“สถานการณ์ตอนนี้มันอันตรายมากๆ ถ้าพวกนายเข้ามายุ่งพวกนายอาจจะตายได้ ลำพังพวกฉันมันไม่มีใครอยู่แล้ว แต่พวกนายล่ะ พ่อก็ยังมี แม่ก็ยังคอยห่วงหาอยู่ทุกเวลา แต่พวกฉันไม่มีแล้วนะ จะตายยังไงก็ได้ ไม่มีใครเค้าใส่ใจหรอก”ฉันพูด แม่ของฉันตายไปตั้งแต่ฉันอายุได้2ขวบฟาริก็เพิ่งจะ1ขวบเท่านั้น พ่อฉันก็ตายไปหลังจากที่ฉันโดนขายเข้าไปอยู่ในซ่องไม่นานด้วยฝีมือของผู้หญิงใจร้ายคนนั้น ทิ้งไว้ก็แต่สมบัติมากกมายก่ายกองที่ใช้กี่ชาติก็ไม่หมด
“แล้วไม่คิดบ้างหรอว่าพวกเราเป็นห่วงน่ะ ถ้าเธอเป็นอะไรไปตากลมก็จะร้องไห้ ทุกคนก็จะเศร้ากันทั้งนั้น”โยตอบกลับมา
“แต่ถ้าพวกเราตายเพื่อมอบชีวิตให้กับใครหลายคนล่ะ ฉันก็ยอมทั้งนั้นแหละ”
“แต่พวกเธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น”เพชรแย้ง
“จำเป็นสิ พวกนายน่าจะเลิกยุ่งกับพวกเราได้แล้วนะ”เสียงนุ่มๆจากผู้มาใหม่ดังขึ้นฉุดความสนใจจากทุกคน คิม
“พวกนายไม่เข้าใจหรอก พวกเรามันไม่เหมือนคนอื่นๆเค้า เราไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป”เต๋าสนับสนุน
“ยังไง”ไซเรนถาม ดวงตาหรี่ลงจับจ้องผู้มาใหม่
“นี่ยังไงล่ะ”เต๋าไม่ตอบเพียงแต่เสกไฟฟ้าขึ้นมาในมือ ทำเอาพวกไซเรนอึ้งไปเลย
“เวทมนต์ พวกนาย”สาบลมอุทาน
“ใช่ อย่างที่เห็น บอกแล้วไงว่าพวกเราไม่เหมือนกับคนทั่วไป เห็นภายนอกก็คนทั่วไปแต่ภายในพวกเราคือเครื่องมือฆ่าคนดีดีนี่เอง เพราะฉะนั้นก็คงต้องขอให้อย่ามายุ่งล่ะนะ”เต๋าพูดพร้อมกับโบกมือไปในอากาศเสกควันสีขาวๆขึ้นมา แล้วพวกไซเรนก็สลบไป
“เนริ ฉันเคยเตือนแล้วใช่มั้ยว่าพวกเรามันไม่ปกติอย่าไปยุ่งกับคนพวกนี้มากเกินไป มิตรภาพที่แกยื่นให้มันเป็นดาบสองคมนะ มิตรภาพน่ะมันไม่ผิดหรอก แต่อย่าทำให้พวกเค้าเดือดร้อนเลย”คิมพูดก่อนจะเดินออกจากดาดฟ้าไป
“เนริ แกไม่ผิดหรอก มันไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น ใครจะรู้ว่าพวกเราจะเป็นแบบนั้นจริงมั้ย ไปเถอะ ไปรับเด็กๆแล้วกลับบ้านซะ”เต๋าเดินมาตบไหล่ฉันก่อนจะเดินออกไปอีกคน
“ไปเถอะครับ เนริ ปล่อยเค้าไว้แบบนี้แหละ พี่เต๋าไม่ได้ลบความทรงจำช่วงที่ดีของพี่กับพวกเค้าแค่ผนึกเอาไว้เท่านั้น ความรู้สึกดีดีนั่นอย่าให้มันหายไปดีกว่านะครับ”ยูกิเดินเข้ามาพยุงฉัน ฉันมองหน้ายูกิสลับกับพวกไซเรน ยูกิเดินกุมมือฉันออกมาจากดาดฟ้า
“ไว้จบงานนี้แล้ว เราจะเป็นเพื่อนกันได้นะตากลม”ฉันพึมพำแต่ก็ยังไม่พ้นรัศมีการได้ยินของยูกิ
“ครับ ตากลมต้องรอเนริแน่”ยูกิพูดพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“เราไปรับเด็กๆกันดีกว่านะ ป่านนี้รอแย่แล้ว”ฉันฝืนยิ้มให้กับยูกิ เอาน่า แค่ผ่านงานนี้ไปเท่านั้นแหละ มันไม่ยากหรอก ไม่นานเกินรอ ฉันนึกก่อนจะซุกหน้าลงกับอกของยูกิ แค่นี้ก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
RaiN BloOd สายฝนสีเลือด
ความคิดเห็น