คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : -- เพื่อนในเงามืด -- -- เจอกันอีกครั้ง --
-- เพื่อนในเงามืด -- -- เจอกันอีกครั้ง --
YAYONG : SAYS
ระหว่างที่พวกเราทั้ง13คน(เต๋ากลับมาแล้ว)กำลังจะไปโรงรียนได้รับรายงานมาว่ามีการทะเลาะวิวาทของนักเรียนสองร.ร.ดังนั้นพวกเราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางจากร.ร.ไปยังโกดังร้างแห่งนึง ตอนนี้พวกฉันใส่ชุดฟร์อมพร้อมกับหน้ากากเรียบร้อยแล้ว เมื่อสามวันก่อนเนริมันได้รับอนุญาตจากหมอเจ้าของไข้ว่าให้กลับบ้านได้ เล่นเอาเจ้าตัวต้นแร้งเต้นกาใหญ่ งานนี้ไอ้เนริมันยืนกรานว่าจะร่วมด้วยให้ได้ท่ามกลางเสียงห้ามปรามของพวกยูกิ
ฉันล่ะไม่เข้าใจทำไมต้องห่วงมันนักวะ มันเป็นผีดูดเลือดไม่ตายง่ายๆหรอก พวกฉันหยิบอาวุธคู่ใจมาไว้ข้างๆตัว ของฉันเป็นดาบซามูไร ของไอ้เนริมันเป็นปืนหน้าไม้แบบประยุกต์เป็นดาบในตัว ของไอ้พีมันเป็นดาบยาวจนน่าหวาดเสียวแต่ตัวดาบเพรียวจนน่าตกใจ ของเจ้เฟชรเป็นโซ่ยาว2เมตรครึ่งและแส้ที่มีมีดซ่อนอยู่ ตรงปลายมีสารพัดของมีคม ส่วนฟาริมันเป็นเคียวคล้ายๆของยมทูต ส่วนพวกผู้ชายเป็นปืนเก็บเสียงทุกรูปแบบตั้งแต่ปืนปากกา ยันปืนพี.พี.เค ยกเว้นของยูกิกับอาคิเป็นโยโย่เส้นลวดเจ้าตัวบอกว่าน่ารักดี พวกเรากำลังจะไปที่โกดังร้าง(อีกแล้ว) ฉันไม่เข้าใจว่าไม่เบื่อกันบ้างรึไงที่มีอะไรก็ไปตีกันที่โกดังร้างไม่ก็ตึกร้าง ตอนนี้รถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าโกดังแล้วพร้อมกับลูกน้องอีก50คนที่ตามมาสมทบ
สภาพโกดังดูทรุดโทรม ข้างในมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นขนาดใหญ่ สองกลุ่มกำลังต่อยตีกันอย่างไม่กลัวพ่อ(ตำรวจ)จะมาพาเข้าบ้านพัก(ตาราง) คิมมันบอกว่ารอถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลค่อยเข้าไปช่วย ส่วนพวกเรา13คนน่ะหรอ นั่งเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะแปะกันอยู่ข้างนกนี่ส่วนพวกลูกน้องก็ยืนตรึงกำลังอยู่รอบนอก ไอ้วิชกับไลท์มันก็กระหนุงกระหนิงกันแบบว่ามดจะกัดฉันตายแน่ๆถ้าเข้าไปใกล้มันในบริเวณภายใน2เมตร = _ =”
ซักประมาณ10นาทีต่อมาก็มีเสียงดังมาจากข้างในโกดัง สงสัยจะเริ่มตีกันแล้วซินะ ระหว่างที่ฉันนั่งเล่นต้นไม้ใบหญ้าแถวนั้น ไฮยาโตะก็เดินมา
“เข้าไปได้แล้วล่ะ คิงให้มาตาม”มาแล้ว เวลาที่ฉันนั่งรออยู่
“อือๆ”ฉันพูดแล้วลุกขึ้นปัดประโปรงก่อนจะเดินนำเข้ามาข้างในโกดัง เหอะๆเล่นมีดเล่นปืนกันด้วยแฮะ ฉันเดินเข้ามาสมทบกับพวกคิม
“พร้อมนะ”คิมหันมาถาม ส่วนพวกเรายืนเตรียมตัวพร้อมแล้ว
“โอเค!”พวกเราตอบกลับ ส่วนพวกนักเลงที่ตีกันก็เริ่มให้ความสนใจพวกเรา โดยการหยุดดูพวกเรา อ๊ะ นั่นยัยตากลมนี่หว่า เอาอีกแล้ว โดนจับมาอีกแล้วล่ะสิ นั่นก็พวกไซเรน หึหึ
“พวกนายเป็นใคร”ไอ้หน้าเหียกคนนึงถามขึ้นมา
“พวกเราคือ โซเนอร์”คิมตอบกลับไป พวกไซเรนก็หันมามองพวกเราอย่างอึ้งๆ ไม่เคยเห็นพวกเราปรากฏตัวพร้อมกันน่ะสิ
“แล้วพวกมึงมายุ่งอะไรกับพวกกู”ไอ้หน้าจิ้งจกตัวนึงมันพูด ถ้าจำไม่ผิด ไอ้หน้าจิ้งจกนี่เป็นคนเดียวกับที่ฉันแกล้งมันไปเมื่อคราวที่แล้วนี่ เหอะๆ เจอเพื่อนเก่าแล้วไง
“กูก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ ถ้ามึงไม่เล่นสกปรกติในถิ่นกูน่ะ”ไอ้เต๋ามันตอบกลับไปพอให้แสบๆคันๆเล่น
“มึงไม่ต้องมายุ่ง นี่มันถิ่นกู พวกมึงไม่เกี่ยว”ได้ข่าวว่าไอ้เต๋าเพิ่งพูดไปนะว่าที่นี่มันถิ่นเราน่ะ?
“อย่ามัวมากเรื่องอยู่เลย เอางี้ เรามาเดิมพันกันหน่อยดีกว่ามั้ย”ควีนแทรกขึ้นมา เจ้จะเล่นอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเจ้เล่นอะไรแล้วมันต้องสนุกทุกงาน
“รึไม่กล้า”ฉันรีบพ่นคำพูดตามไปสมทบเล่นเอาเจ้าหน้าตุ๊กแก(อัพเกรด)มันเลือดขึ้นหน้าเลย
“เอาสิ จะเดิมพันอะไรกันดี”
“งั้นเล่น Street Fight กันมั้ยล่ะ”ไอ้เนริมันเสนอความเห็นพร้อมกับเอาลูกศรหน้าไม้ขึ้นมาชี้หน้ามันอย่างท้าทาย
“ก็ได้ เอาอะไรเป็นเดิมพันล่ะ”ไอ้หน้าตุ๊กแกมันตกหลุมพรางพวกเราแล้ว^^
“พวกนั้น”ฟาริมันพูดแล้วชี้ไปที่พวกไซเรนซึ่งพวกนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร จริงๆตอนแรกลูกน้องนายนั่นโวยเล็กน้อยแต่ไซเรนมันยกมือห้ามไว้
“กับ...”มันลากเสียงอย่างกวนตีน
“กับอะไร?”ริวพูดออกไป
“พวกนายต้องมากราบตีนขอโทษพวกกู”ชักจะมากไปแล้วนะ ฉันถลาจะไปชกหน้ามันแต่โดนไฮยาโตะห้ามไว้
“ได้ ถ้ามึงแพ้ พวกมึงทุกคนต้องใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดรองเท้าพวกกูทุกคน”คิมประกาศ
“ได้”ไอ้หน้าลิงอีกคนตอบรับ หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่นาทีมันจะต้องชะตาขาดแล้ว
“กติกา จับคู่สู้13ครั้ง สลบแพ้ ตายแพ้ อาวุธอะไรก็ได้2อย่าง ชนะ8ครั้งถือว่าชนะเลย”ริวร่ายกติการให้ไอ้พวกนั้นฟัง พวกนั้นมองหน้ากันนิดนึงก่อนไอ้ตัวหัวหน้ามันจะก้าวออกมาข้างหน้าก้าวนึง
“เออ กูรับคำท้า ไอ้เสือมึงก่อน”ไอ้หน้าเหียกมันหันไปสั่งลูกน้องของมันคนหนึ่งไอ้คนที่ชื่อเสือมันเดินออกมาไม่อยากจะบอกว่าไอ้เสือบ้าอะไรนี่หน้าลาวโคตะระลาวเลยจริงๆ สายตาที่มันมองพวกฉันหื่นสุดๆ
ส่วนคิมมันมองหน้าพวกเราทีละคน เชิงถามว่ามีใครจะรับอาสาฆ่ามันมั้ยจนกระทั่งหยุดที่ฟาริ เอาแล้วไง น้องเล็กงานเข้า!
“พี่ ฟาริขยะแขยงมันง่ะ”ฟาริที่เกาะแขนฮิคารุอยู่พูด
“ผมเองดีกว่า”ฮิคารุพูดแล้วก้าวออกมาข้างหน้า สงสัยจะไม่ชอบหน้าไอ้หมอนี่ที่เอาแต่จ้องฟาริก็ได้นะ เหอะๆ รอบแรกก็เจอของแข็งซะแล้ว ไอ้เสือน้อย ถ้ามึงไม่เดี้ยงก็ตายล่ะหว่างานนี้ *--*
ไอ้เสือหื่นนั่นมันเลือกที่จะใช้ปืนกับมีดยาว ส่วนฮิคารุมันเลือกจะใช้มีดสั้นของถนัดของมันกับแส้หนัง แววตาโรคจิตแบบฉุดไม่อยู่ฉายอยู่บนใบหน้าของผู้ชายหน้าสวย ส่วนฟาริก็เดินไปเดินมาอยู่ชิดติดขอบเวทีพวกไซเรนก็มานั่งอยู่ตรงกลางคั่นระหว่างพวกเรากับพวกไอ้หน้าเหียกนั่น ศึกครั้งนี้เริ่มขึ้นโดยมีคอนเน่เป็นกรรมการ เสือเริ่มตั้งการ์ดส่วนฮิคารุเอากิ่งไม้ที่ไหนก็ไม่รู้มาวาดเป็นวงกลมรอบตัวเองทำเอาคอนเน่เหงื่อตก
“ห้ามผิดกฎกติกา เล่นแบบขาวสะอาด หวังว่าจะไม่เกินความสามารถ เอาล่ะเริ่มได้”คอนเน่ประกาศเริ่มการต่อสู้ได้ แล้วรีบถอยออกมาจากเขตอันตรายทันที
ทั้งสองคนต่างก้าวเข้ามาใกล้อีกฝ่ายเพื่อลองเชิงของอีกฝ่าย ไม่สิต้องเรียกว่าฝ่ายนั้นฝ่ายเดียวเพราะฮิคารุแทบจะไม่ก้าวไปไหนเลยด้วยซ้ำนอกจากเดินไปรอบๆวงกลมที่มันเอาไม้วาดไว้เท่านั้น เสือถลาเข้าไปง้างมือขึ้นจะต่อยแต่โดนฮิคารุใช้มือกันไว้ได้ก่อนจะสวนอัปเปอร์คัตเข้าปลายคาง
พลั่ก ร่างของอีกฝ่านกระเด็นออกไปนอกวงกลมแต่ฮิคารุก็ไม่ได้เข้าไปซ้ำ กลับยืนเฉยอยู่ในวงกลมสายตามองไปที่ศัตรูอย่างเจ้าเล่ห์ เรียวปากแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว นี่แหละฮิคารุ เห็นคนล้มแล้วไม่ข้าม แต่กระทืบต่อเลย อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนก่อนจะยกปืนขึ้นเล็ง ฮิคารุก็ยังไม่สะทกสะท้านยังคงยืนมองศัตรูอยู่จากในเขตวงกลม หึหึ ของอย่างนี้ถ้ารู้ความเร็วและความแรงของกระสุน คำนวณทิศทางเท่านั้นก็หลบได้สบายมาก
ปัง ฮิคารุกระโดดหลบ ทิศทางเมื่อกี๊มันเล็งที่หัวใจถ้าพลาดไปแม้แต่นิดเดียวอาจถึงตายได้เลยนะนั่น เรียวปากแสยะยิ้มนิดนึงก่อนจะปามีดเล่มแรกออกไป
เกร๊ง เสียงปืนหล่นออกจากมือของศัตรู ไอ้เสือหื่นนั่นไม่รอช้ารีบวิ่งถลาเข้ามาแล้วชกออกไปไม่ยั้งฮิคารุไม่โต้ตอบแต่ทุกหมัดที่ปล่อยเข้ามาหมายจะทำร้ายเขานั้นมันพลาดหมด ตอนนี้ฮิคารุเริ่มเหงื่อออกเล็กน้อยแต่ฝ่ายเสือนั้นเข้าขั้นยืนหอบเลยทีเดียว ฮิคารุมองหน้าไอ้เสือบ้านั่นก่อนจะเตะเข้าที่ก้านคอ
ตึง ร่างของเสือนับว่าใหญ่พอสมควรถ้าเทียบกับตัวของฮิคารุ ฮิคารุก้าวเข้าไปใกล้ก่อนจะปามีดสั้นเล่มที่สองและสาม ออกไปปักที่ข้างชายโครงทั้งสองข้างของเหยื่อ ตอนนี้พวกไซเรนนั่นอึ้งไปเลยกับความเก่งกาจของบุคคลตรงหน้า
ฉึบ ฮิคารุใช้มีดเล่มที่4ปักไปข้างๆแก้มของอีกฝ่ายเรียกเลือดซิบๆจากแก้มอันโสโครกของอีกฝ่ายได้พอตัว ก่อนจะใช้เล่มที่5ยกขึ้นมาล้าปามันลงไปที่ข้างๆต้นคอของอีกฝ่ายใกล้กับเส้นเลือดใหญ่ที่เลือดไหลรินออกมาจากบาดแผลร่างกายสั่นเทา ฮิคารุค่อยๆยกแส้ขึ้นมาแล้วหวดลงข้างๆตัว
เพี๊ยะ เสียงก้องไปทั่วโกดัง ทุกคนสามารถรับรู้ถึงความน่ากลัวของบุคคลตรงหน้าได้
เพี๊ยะ เสียงแส้หนังกระทบเนื้อของร่างของอีกฝ่าย เสียงครวญครางร้องขอชีวิตอย่างน่าสมเพชดังมาให้ฟังอยู่เนืองๆคนตรงหน้าสติหลุดไปแล้ว เด็กหนุ่มหน้าหวานบัดนี้กลับเหลืออยู่เพียงคราบของผู้ชายโรคจิตละน่ากลัวเท่านั้น
“เอ้า ไลท์”ฮิคารุหันไปรับผลแอปเปิ้ลจากเต๋าที่โยนมาให้ก่อนจะจัดการยัดมันเข้าไปในปากของเหยื่อที่ส่งเสียงร้องขอชีวิตอย่างน่าสงสาร ก่อนจะลงมือหวดแส้ต่อไป ฟารินั่งมองตาแป๋วก่อนจะเอามีดขึ้นมาลูบอย่างนึกสนุก เต๋าดูท่าจะชอบใจกับเกมส์ตรงหน้านี้มาก
ร่างของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยรอยแผล ร่างนั้นยังไม่สลบไป ยังคงส่งเสียงร้องอู้อี้มาให้ฟังเสื้อยืดลยสวยตอนนี้กลับกลายเป็นผ้าขี้ริ้วกองอยู่ข้างๆตัวเจ้าของ ผิวของมันเต็มไปด้วยรอยแผละและเลือดไหลออกมา เกมส์นี้ไม่มีกติกาว่าให้ยอมแพ้ได้ มีแต่ตายกับสลบ ถ้าร่างตรงหน้านี้สลบไปก่อนที่จะตายก็เป็นอันว่ารอด แต่ถ้าไม่ จบเกมส์ชีวิตที่พ่อแม่เลี้ยงมาจวบจนวันนี้ได้หลุดลอยหายไปอย่างแน่นอน ร่างของยมทูตที่คอยทำหน้าที่เคี่ยนตีอย่างไม่หยุดหย่อน เรือนผมที่เคยเรียบร้อยตอนนี้กลาบเป็นฟูตั้งขึ้น เหงื่อที่ไหลย้อยตามใบหหน้าของชายหนุ่มตอนนี้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าอื่นใด
เคร้ง เสียงแส้หนังกระเด็นออกไปกระทบกับตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ร่างเล็กหอบเหนื่อยเนื่องจากการเคี่ยนตีร่างตรงหน้ามาเป็นเวลานาน
อั๊ก ร่างบนพื้นกระอักเลือดออกมาเมื่อรองเท้าหนังราคาสูงเหยียบลงบนอกที่มีแต่รอยแผล ปลายเท้าบดขยี้รอยแผล ยิ่งขยี้เท่าไหร่ ร่างของคนตรงหน้าก็ยิ่งกระอักลิ่มเลือดออกมา ภาพตรงหน้าช่างเป็นภาพที่โหดร้ายทารุณมาก แต่กลับเป็นที่ชินชาของอัยการทั้ง13คน
“หยุดได้แล้ว พอ หยุดได้แล้ว”เสียงไซเรนตะโกนห้ามขึ้นมาเมื่อเห็นร่างที่นอนอยู่กับพื้นไอเป็นลิ่มเลือดออกมานองพื้นทั่วบริเวณ
“ทำไม”เสียงเย็นๆจากคิมตอบออกมา มันสมควรแล้วที่จะได้รับโทษอันนี้
“ไม่เห็นรึไง ว่ามันจะตายอยู่แล้ว นายจะฆ่ามันเลยรึไง”สายลมเถียงกลับมา
“เห็น แต่มันสมควรจะได้รับโทษนี้แล้ว คนแบบมันตายไปก็ไม่เสียหายหรอก หนำซ้ำยังจะทำให้แผ่นดินสูงขึ้นด้วยซ้ำไป”เต๋าพูด ตอนนี้ฮิคารุหยุดการกระทำเอาไว้แล้วหันมามองคิมเชิงถาม
“แต่นี่มันคนนะ คนทุกคนมีค่าเท่ากัน นายมีสิทอะไรไปตัดสินเค้า ให้เค้าตาย”โยตะคอกกลับมา
“แล้วมันมีสิทอะไรมาตัดสินใจให้ผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่ถูกมันจับมาขายบริการ แล้วมันมีสิทอะไรที่พาพวกระยำพวกนี้ไปรุมโทรมเขาล่ะ บอกหน่อยสิมันมีสิทอะไร!!”คิมตอบกลับด้วยคำถามที่อีกฝ่ายต้องสะอึก ในมือมันถือเอกสารที่ให้ลูกน้องไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับไอ้เสือหื่นนั่น ตามข้อมูลเคยติดคุกเพราะขายยา ข่มขืน รุมโทรมและทารุณกรรมทางเพศมาแล้ว2ครั้ง ตอนนี้เป็นเอเย่นใหญ่ในการหาผู้หญิงมาขายให้เสี่ยใหญ่หลายคนในก.ท.ม.
พวกเรนอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงกับที่เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนว่าตากลมจะรับไม่ได้กับความโหดร้ายข้างหน้า ร่างเล็กวิ่งมาหาเนริที่นั่งดูอยู่
“ช่วยเค้าหน่อยสิ นะคะซาน ช่วยเค้า ตากลมไม่อยากให้เค้าตาย”ตากลมวิ่งมาหาซานก่อนจะปล่อยโฮตรงหน้า
“ไม่หรอกตากลม เค้าจะไม่ตาย แต่เค้าจะได้รับบทลงโทษที่สาสม”เนริมันกอดปลอบแล้วพูดกรอกหูซ้ำไปซ้ำมา
ใช่ เราไม่ฆ่ามันหรอก เราจะมอบบทลงโทษให้มันก็แค่นั้น ถึงมันจะดูโหดร้ายในสายตาของคนอื่นไปหน่อยก็ตาม แต่สำหรับเรานั่นคือโทษที่มันสมควรได้รับ ฮิคารุมองร่างตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่สามารถหยั่งรู้ความรู้สึกได้
“ฟังบทลงโทษจาก พวกเรา”คิมมันประกาศออกมาหลังจากอ่านแอฟ้มข้อมูลทั้งหมด ฮิคารุหันมามอง คำพิพากษาสำหรับคนเลวมันก็ต้องใช้คนเลวนี่แหละตัดสิน ใช้กฎของสังคมทั่วไปไม่ได้หรอก
“คนชั่วอย่างมันตายสถานเดียว”คิมพูดแล้วหันหน้าหลบไปทางด้านหลังอย่างเย็นชา ฮิคารุหันมามองร่างที่น่าเวทนาใต้ฝ่าเท้าตัวเองเล็กน้อยก่อนจะ
กร๊อก เสียกระดูกต้นคอหักสะบั้นแหลกเหลวคาฝ่าเท้าที่เหยียบลงมา ดวงตาเหลือกขึ้นลมหายใจสุดท้ายถูกช่วงชิงไป ทุกคนในที่นั้นมองภาพตรงหน้าตาค้าง นับตั้งแต่ลืมตาดูโลกครั้งแรกนับจนทุกวันนี้ยังไม่เคยเห็นใครฆ่าคนได้โหดเหี้ยมขนาดนี้มาก่อน
“โซเนอร์ชนะ”คอนเน่ประกาศ พวกลูกน้องของเราเดินมาลากศพของเสือออกไปทิ้งที่ด้านของไอ้หน้าเหียกนั่น ๆไอ้พวกนั้นมันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก คงรับรู้ถึงความน่ากลัวของพวกเราแล้วสินะ ฮิคารุน่ะเห็นภายนอกอย่างนี้ก็เถอะ บางครั้ง มันก็น่ากลัว น่ากลัวเกินที่จะเอื้อนเอ่ยออกมา ถ้าจะให้สู้กันตัวต่อตัวแล้วฉันยังไม่แน่ใจเลยว่าจะมีโอกาสชนะเกิน10%รึเปล่า แต่อย่าให้ถึงวันนั้นเลย ไม่อยากจริงๆ คิมมันลุกขึ้นแล้วเดินไปหาพวกไอ้หน้าจิ้งจกนั่น
ตึก ตึก เสียงฝีเท้าค่อยๆก้าวเข้าไปหยุดตรงหน้า
“รู้ผลแล้วใช่มั้ยว่าจะต้องทำยังไง”คิมพูดเสียงเย็น
“ระ ระรู้ รู้”ไอ้หมอนั่นมันพูดแล้วรีบเผ่นออกจากโกดังทันทีตามด้วยลูกน้องอีกนับสิบคนรีบวิ่งออกจากโกดังไปเป็นพรวน
“ตากลม ตากลม”เนริมันพยายามจะเดินไปหาตากลมแต่ถูกพวกไซเรนกันไว้อยู่
“ซาน พวกซานฆ่าคน ฆ่าคน ซาน พวกซานฆ่าคน”ตากลมท่องซ้ำไปซ้ำมา นัยน์ตาเลื่อนลอยอยู่ในอ้อมกอดของไซเรนโดยมีวีนัสคอยปลอบอยู่ข้างๆ นี่แหละนะ ผลข้างเคียงของคนที่อ่อนแอเมื่อยามเจอเรื่องที่โหดร้าย
“ได้โปรด อย่ากลัว อย่าเกลียดฉันนะ ตากลม”เนริพูดเสียงเบา
“ ซานฆ่าคน ซานเป็นเพื่อนกับคนเลว”ตากลมยังคงเพ้ออยู่ในอ้อมกอดของไซเรน
“พวกนายไม่ต้องเข้ามาเลย พวกนายทำให้ตากลมกลัว ไป!”สายลมตะคอกใส่เนริ คนอย่างเราใครเค้าก็ไม่อยากคบด้วย นั่นจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่พวกเราต้องใส่หน้ากาก ไม่ต้องมองก็รู้ว่าตอนนี้เนริมันร้องไห้อยู่ ฉันเดินเข้าไปตบไหล่มันเบาๆก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากโกดัง
“แต่...”เนริพยายามจะอธิบายแต่ถูกคิมขัดขึ้นมาก่อน
“ไม่ต้องหรอกซาน ไปเถอะ อย่าไปยุ่งกับเค้าเลย พวกเรามันเป็นพวกอาศัยอยู่ในเงามืด จงอยู่ในเงามืดต่อไปนั่นแหละดีแล้ว อย่าลากคนดีดีอย่างพวกเขาเข้ามาเกี่ยวข้องเลย”คิมพูดแล้วเดินเข้ามาตบไหล่เนริเบาๆก่อนจะเดินออกจากโกดังไป เต๋ามันเดินเข้ามาตบบ่าอีกข้างแล้วเดินตามคิมออกไปอีกคนพวกเราทีละคนเดินผ่านเนริออกมา เวลาแบบนี้สมควรที่จะให้เค้าคุยกันเองมากกว่า
NERI : SAYS
“ไม่ต้องหรอกซาน ไปเถอะ อย่าไปยุ่งกับเค้าเลย พวกเรามันเป็นพวกอาศัยอยู่ในเงามืด จงอยู่ในเงามืดต่อไปนั่นแหละดีแล้ว อย่าลากคนดีดีอย่างพวกเขาเข้ามาเกี่ยวข้องเลย”นั่นสินะ เงามืดอย่างพวกเราอย่าไปฉุดเค้าลงมาอยู่กับพวกเราเลย
“หมายความว่าไง เงามืด ฉุด คนดีอะไรกัน”โยดึงข้อมือฉันไว้แล้วถาม ตั้งแต่ได้รู้จักกันมาโยถือว่าเป็นคนที่ฉลาดและสุขุมมาก
“ถ้าไม่ตอบก็คงไม่ปล่อยฉันใช่มั้ย”
“ใช่”คำตอบหนักแน่นจากปากของเพชร
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจะอธิบายง่ายๆละกันนะ พวกฉันอาศัยอยู่ในเงามืดมานานมากแล้ว นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกฉันถึงต้องใส่หน้ากาก พวกเธอคือคนดีที่พวกฉันไม่ควรเข้ามายุ่งด้วยตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นพวกนายจะถูกความมืดกลืนกินอย่างไม่มีทางจะรอดได้ แต่ขอร้องอย่าเกลียดกัน อย่าร้องไห้ อย่ากลัวฉัน ขอร้อง”ฉันพูด ใช่พวกนายคือแสงสว่าง อย่าเข้ามาเกลือกกลั้วกับคนเลวอย่างพวกเราเลย
“ทำไม เธอถึงพูดเหมือนกับจะจากไปแล้วเราจะไม่เจอกันอีก”ไซเรนถาม นัยน์ตามีแววความสับสนฉายอยู่อย่างปิดไม่มิด
“ใช่ อย่าเจอกันอีกเลย ถ้าเจอฉันอีก อย่าทักกัน ทำเป็นไม่เห็นฉัน เราอยู่กันคนละสังคม พวกนายอยู่สูงเกินไปที่จะมี พะ เพื่อนอย่างฉัน”ทำไมคำว่าเพื่อนมันถึงพูดยากอย่างนี้นะ
“ทำไม ซานจะไปไหน ซานจะไม่เป็นเพื่อนกับพวกเราแล้วหรอ”ตากลมเริ่มได้สติถาม
“ไม่พวกเราจะเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่เราจะทำเหมือนไม่รู้จักกัน ไม่สิ เราจะไม่รู้จักกัน เราไม่รู้จักกัน”ฉันพูด เราจะไม่รู้จักกัน คนอย่างพวกเธอไม่สมควรจะอยู่กับพวกฉัน ฉันค่อยๆก้าวเดินห่างจากพวกนั้นทีละก้าว ทีละก้าว
“เสียใจด้วยนะ ฉันทำตามที่เธอพูดไม่ได้”เสียงไซเรนดังมาจากด้านหลัง
“ทำไม่ได้ก็ต้องทำ เพราะมันจะดีกับตัวพวกนายเอง อย่าเข้ามาใกล้ฉัน เดินออกห่างจากตัวฉัน ออกไป ออกไป!”ฉันพูดทิ้งท้ายแล้วรีบวิ่งออกมาจากบริเวณนั้นทันที น้ำตาทำไมต้องมาไหลเอาตอนนี้นะ ให้ตายเหอะ ฉันปล่อยให้ชีวิตฉันถูกคำว่าเพื่อนครอบงำได้ยังไง ฉันมันอ่อนแอจริงๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ฉันร้องไห้ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เท้าคู่นี้พาฉันมาหยุดอยู่ที่ซอกตึกแห่งนี้ ฉันร้องไห้มานานมากแค่ไหนกัน ฉันจะอ่อนแอไปถึงเมื่อไหร่
“บางครั้งคนเราก็ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดไปหรอกซาตาน”เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลัง ฉันหันกลับไป
ผู้ชายสวมหน้ากากที่ใช้ชื่อว่าก๊อดนั่นยืนอยู่ตรงหน้า หมอนั่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“คนเลวอย่างนายไม่เข้าใจฉันหรอก”ฉันตะคอกกลับไป
“แล้วคนเลวมันไม่ใช่คนหรือไง หรือเธอจะบอกว่าเธอไม่ใช่คน เธอก็คนเลวเหมือนกับฉันนี่”หมอนั่นขยับเข้ามาใกล้ นั่นสินะ คนเลวมันก็คน ขึ้นชื่อว่าคนแล้วย่อมมีอารมณ์ กิเลส ตัณหาในตัวอยู่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่เวลามานั่นคิด จะทำยังไงฉันถึงจะออกจากที่นี่ได้ถ้าสู้ตอนนี้ไม่ไหวแน่ๆฉันยังบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่โกดังอยู่ ต้องหนี ร่างกายไปไวก่อนความคิดเท้าก้าวจะเดินออกจากที่นั่น ถ้าไม่มีมือแกร่งมาจับไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนกัน เธอยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ”
“Leave your hand from me, Now(เอามือสกปรกของแกออกจากตัวฉัน!)”ฉันหันไปตะคอกแล้วพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากมือของหมอนั่น
“จุ๊ๆ อย่าดิ้นไปเลย เธอเห็นพลังของฉันแล้วนี่ ที่โกดังนั่นน่ะ”มันเอานิ้วชี้สกปรกของมันมาแตะที่ริมฝีปากฉัน
“...”
“เธอน่าจะรู้นะว่าฉันมีพลังอะไร”
“...”
“รู้ใช่มั้ยว่าพลังอะไรใช้เข้ากับพลังธาตุว่างเปล่าของฉันได้ดีที่สุด”
“...”
“พลังน้ำไงล่ะธาตุน้ำ ถ้าเธอมาอยู่กับฉัน รับรองได้ว่าเธอจะไม่เดือดร้อนแน่นอน”
“ชักชวนให้เข้าพวกงั้นหรอ ทุเรศสิ้นดี”
“พูดอย่างนี้จะไม่ยอมใช่มั้ยล่ะ หือ”ไอ้หมอนั่นมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ มันน่าขยะแขยงมากๆ
“ถอยออกไปนะ!”ฉันเอามือยันอกมันเอาไว้
“อยากรู้จัง ว่าการได้ลิ้มรสสาวบริสุทธิ์อย่างเธอ”ปากไม่พูดเปล่ายังเอามือมารวบแขนเล็กไว้ทั้งสองข้าง ก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้ ช่องว่างระหว่างเราตอนนี้มันมีไม่ถึง10เซน คุ้น รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด แขนนี้มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด
“รู้ได้ไงว่าฉันบริสุทธิ์”ฉันตัดสินใจถามออกไป
“ไม่ยากเลย เนริ ไม่ยากเลยจริงๆ”มือหนาเอื้อมาลูบหัวฉันเบาๆ
“ปล่อยฉันไป นั่นคือทางเลือกแรกในตอนนี้ของนายอย่าทำให้ฉันโมโหนะ”ฉันขู่ แต่ถ้าจะให้ทำจริงๆคงไม่ไหว ตอนนี้ร่างกายมันยังไม่เข้าที่เข้าทาง ขืนบุ่มบ่ามไปได้เข้าไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มในโรงพยาบาลอีกแน่ๆ
“ถ้านั่นคือทางเลือกแรก งั้นการที่ฉันจะทำอะไรเธอตอนนี้คงเป็นทางเลือกที่สองที่น่าสนใจมากสำหรับฉันตอนนี้”
“ฉันว่าทางเลือกแรกมันดีกว่าเยอะ”ฉันตอบตามความคิด
“ก็ได้ ถ้าเธอขอ ฉันจะไป แต่เราจะได้เจอกันอีกแน่นอน เนริ จำคำฉันไว้ ไม่ว่าเธอจะหนีฉันไปไกลแค่ไหนเราจะได้เจอกันอีกแน่นอน”ร่างสูงทิ้งคำสื่อความหมายไว้ให้ขบคิดก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“อะไรของเค้าเนี่ย”ฉันพึมพำก่อนจะเดินออกจากที่ตรงนั้นแล้วตรงกลับบ้านทันที
..............................................................................
........................................................
....................................
.................
...
“เมื่อไหร่จะกลับมาเนี่ย นานแล้วนะ”ยูกิบ่นพลางเดินกลับไปกลับมาเป็นรอบที่100 ตั้งแต่กลับมาที่บ้านได้ราวๆหนึ่งชั่วโมงเค้าก็เดินไปมาอย่างนี้มาได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว
“พอเถอะ ยูกิ นายเดินอย่างนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”อาคิพูดเตือน เรียวคิ้วขมวดเป็นปมบอกถึงความกังวนและความรำคาญบุคคลตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
“ก็นี่มัน 1 ชั่วโมงแล้วนะ เนริไม่ค่อยไปไหนโดยไม่มีพวกเราไปด้วยเลยนะ อาจจะหลงก็ได้”ยูกิตอบ
“มันไม่เป็นอะไรหรอกน่ะ เรื่องฝีมือมันก็ดี เรื่องการงานมันก็ได้ อย่าไปกังวลกับเนริมันนักเลย”คิมพูดออกมาอย่างเหลืออด
“เอาเหอะคิม น้องมันเป็นห่วงนี่ ช่างมันเหอะ”เต๋าที่นั่งมองอยู่ปรามขึ้น
“แกก็ให้ท้ายน้องมันเกินไป ไอ้เนริมันไม่น่าเป็นห่วงขนาดนั้นหรอก”คิมบ่นก่อนจะหันไปนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนต่อ
**-----------------ในขณะเดียวกัน-----------------**
“ที่นี่มันที่ไหนอ่า”เนรินั่งกุมขมับอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ตอนนี้สาวเจ้าเปลี่ยนชุดไปเป็นชุดไปรเวทธรรมดาเรียบร้อยแล้ว
“ง่า ที่นี่มันที่ไหน”เนรินั่งบ่นพึมพำท่ามกลางเด็กๆที่มาวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นกับพ่อแม่
“พี่จ๋าวก๊ะ”เสียงเล็กเอ่ยขึ้นตรงหน้า เด็กผู้หญิงอายุประมาณ5ขวบยืนกอดตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์สีฟ้าสดใส แก้มยุ้ยๆนั่นมีสีชมพูระเรื่อ กระโปรงสีฟ้าอ่อนๆดูเข้าชุดกัน
“คะ หนูมีอะไรกับพี่หรอคะ”เนริถามออกมา
“ปุยนุ่นม่ายมีเพื่อน ปุยนุ่นอยากมีเพื่อนค่ะ พี่จาวเปงเพื่อนปุยนุ่นนะ”เด็กน้อยตอบแล้วปีนขึ้นเก้าอี้มานั่งข้างๆเนริ หญิงสาวมองเด็กหญิงอย่างประหลาดใจ
“ได้สิคะ พี่เป็นเพื่อนปุยนุ่นได้เสมอ”ถึงปากจะตอบไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับเจ็บแปลบขึ้นมา เพื่อนหรอ
“งั้นไปเล่นชิงช้ากันเถอะก่ะ”ปุยนุ่นกระโดดลงจากม้านั่งก่อนะฉุดมือของเนริไปที่ชิงช้าเด็กเล่น
หญิงสาวมองตามนิ้วอวบไปยังชิงช้าเด็กเล่นสีแดงอันใหญ่ ก่อนจะเดินตามเด็กหญิงไป
“เดี๋ยวปุยนุ่นจานั่งแล้วพี่จ๊าวกวายนะก๊ะ”ปุยนุ่นน้อยหันมาบอกแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนชิงช้าเล่นเอาเนริแทบจะรับไม่ทันเมื่อเด็กน้อยทำท่าจะกลิ้งโค่โล่ลงจากชิงช้า
“ได้จ้า ปุยนุ่นนั่ง พี่สาวเนริจะไกวให้นะคะ”เนริยิ้มก่นจะออกแรงไกวชิงช้าเบาๆ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ตัวเองกำลังถูกสายตาคู่หนึ่งจับจ้องจากบริเวณไม่ไกลจากตรงนั้น เรือนผมสีเงินพลิ้วไหหวไปตามแรงลม นัยต์ตาสีนิลจับจ้องอยู่ที่ร่างของหญิงสาวที่อยู่ไม่ไกล
“เนริ รอนะ ไม่นานเราจะได้อยู่ด้วยกัน จะไม่มีใครมาแยกเราจากกัน เนริต้องรอ ถ้าถึงวันนั้นแล้ว ไอ้บ้าที่ไหนก็มาขัดขวางเราไม่ได้”เรียวปากยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่เพียงแค่วินาทีเดียวก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแห่งความชั่วร้ายขึ้นมาฉายแทน เขาเป็นคนขอให้เด็กน้อยเข้าไปเล่นกับหญิงสาว เข้าไปปลอบโยนแทนเขา เข้าไปทำหน้าที่ที่เป็นของเขา เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนในเวลาที่เธอไม่มีใคร นั่นคือหน้าที่ของเขา แต่ทว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเข้าไปหาเธอได้ อะไรอะไรมันขัดขวางเขาไปหมด แม้กระทั่งเธอ
RaiN BloOd สายฝนสีเลือด
ความคิดเห็น