คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ณ โกดังร้างแห่งหนึ่งในซอยเปลี่ยวย่านการค้าของประเทศจีน แต่ถึงแม้ว่าโกดังร้างแห่งนี้จะตั้งอยู่ในเขตการค้าหากแต่ว่าที่แห่งนี้กลับมีลานหญ้ารกร้างปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณอาจจะเป็นเพราะที่ตั้งของโกดังนี้อยู่ในหลืบซอกซอยกระมังที่ทำให้ไม่ค่อยจะเป็นที่สนใจต่อพวกพ่อค้าแม่ค้า แต่ก็เหมาะที่จะเป็นที่มั่วสุมของพวกเด็กวัยรุ่นหรือไม่ก็เหมาะที่จะเป็นที่เก็บของหนีกฎหมายของพวกมาเฟีย และท่ามกลางความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ยังมีกลุ่มบุคคลปริศนากำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในห้องใต้หลังคาโกดัง
กลิ่นเหม็นอับของโกดังสร้างความสะอิดสะเอียนให้กับผู้ที่อยู่ใกล้ บรรยากาศดูวังเวงและเงียบเชียบเงามืดของรัติกาลเข้าครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่มีเพียงแต่แสงจัทร์เท่านั้นที่เป็นแสงสว่างเดียวที่สะท้อนให้เห็นสิ่งต่างๆภายในห้องร่างสูงปริศนายืนนิ่งอยู่กลางห้องหากแต่สายตากลับเบือนเสออกไปนอกหน้าต่างโกดังอย่างยากที่จะเดาความคิด ใบหน้าถูกบดบังด้วยหน้ากากสีทองสวยสง่า ยืนนิ่งราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง แต่การรอคอยของร่างสูงก็จบลงเมื่อผู้มาใหม่ปรากฏตัว
วูบ สายลมพัดมาเพียงวูบเดียวก่อเกิดเงามืดที่ค่อยๆรวมตัวกันกลายเป็นร่างของหญิงสาว
“King สายของเรารายงานเข้ามาว่าพวกมันมาถึงแล้วนะ”เสียงจากผู้มาใหม่ หญิงสาววัยแรกรุ่นสวมหน้ากากสีนิลซึ่งถึงจะเป็นสีเดียวกับเงามืดที่อยู่โดยรอบตัวแต่ก็มิอาจบดบังให้ร่างกายหญิงสาวกลืนไปกับความมืดได้ กลับกับความมืดพวกนั้นกลับทำให้เธอดูเด่นขึ้นอย่างประหลาดไหนจะเส้นผมยาวสลวยจนถึงจรดข้อเท้าหากแต่เวลานี้ถูกรวบขึ้นสูงทำให้ดูทะมัดทะแมง ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มออกมาด้วยความยินดีก่อนจะหันมาสั่งการกับหญิงสาวผู้มาใหม่
“อือ อัยการทุกคนเตรียมตัวไว้ให้พร้อม ไว้รอพวกมันเริ่มแรกเปลี่ยนของแล้วค่อยจบเกมส์”ร่างสูงกลางห้องหันมาสั่งการ
“....”ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ หญิงสาวย่อตัวลงทำความเคารพชายหนุ่มเป็นการตอบรับคำสั่งก่อนจะเกิดสายลมแรงพัดมา
วูบ
ชั่ววินาทีร่างของหญิงสาวหายไปราวกับว่าไม่เคยยืนอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ต้น ทิ้งไว้แต่ร่างสูงที่อยู่ในห้องที่กลับเข้าสู่ห้วงภวังค์ของตนเองตามเดิม
............................อีกไม่กี่นาทีบานประตูนรกจะเปิดออกอีกครั้ง.................................
เพียงเวลาไม่นานที่ด้านหน้าของโกดังก็กลายเป็นที่ส่องสุมของกลุ่มบุคคลที่มาใหม่2กลุ่ม สินค้าที่ถูกตระเตรียมมาเพื่อการแลกเปลี่ยนถูกเปิดให้อีกฝ่ายตรวจสอบก่อนที่จะเกิดการแลกเปลี่ยนเสียงปืนก็ดังขึ้นก่อนที่จะเกิดเหตุจลาจลขึ้นเมื่อบุคคลมาใหม่ทั้ง2กลุ่มรู้สึกถึงการมีตัวตนของแขกไม่ได้รับเชิญในค่ำคืนนี้ เงามืดเคลื่อนไหวบนหลังคา รวดเร็วและเงียบเชียบอาวุธลับถูกซัดออกมาจากด้านบนหลังคา
ฉึก ฉึก ฉึก ชายร่างใหญ่ล้มลงจากการถูกซัดอาวุธลับมีดสั่นเข้าที่ส่วนต่างๆของร่างกาย สารพิษชนิดพิเศษที่เคลือบใบมีดทำปฏิกิริยากับเลือดเพียงไม่กี่วินาทีร่างไร้วิญญาณก้ล้มลง น้ำลายฟูมปาก ลูกตากลายเป็นสีแดงเนื่องตจากปฏิกิริยาจากสารพิษเส้นเลือดภายในร่างกายแตกออกอย่างฉับพลัน
ปั้ง ปั้ง ปั้ง เสียงปืนกราดยิงไปทั่วบริเวณ กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่วชวนให้รู้สึกสะอิดสะเอียนยิ่งนัก เพียงเวลาไม่กี่นาทีร่างชายฉกรรจ์นับสิบก็ล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นทิ้งไว้แต่เพียงชายแก่ลงพุง2ชีวิตที่ดูท่าว่าจะเป็นหัวหน้าของร่างมากมายที่นอนไร้วิญญาณพวกนั้น
“ฝีมือยังไม่ตกนะNoVa”เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนการปรากฏตัวของบุคคลสวมหน้ากากนิรนาม4คน ทุกคนใส่เสื้อโค้ชหนังสีดำเข้มกลมกลืนกับสีของรัติกาลลายสกรีนสีทองคำว่าZoNeRที่กลางด้านหลังของตัวเสื้อดูมีรัศมีเจิดจ้าอยู่ หากแต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือ หน้ากากที่บุคคลทั้ง4ใส่นั้นคนละสี
“ขอบใจKing ว่าแต่Sanแกจะให้เหลือไอ้แก่2ตัวนี่ไว้เพื่ออะไรเนี่ย ดูดิแทนที่เราจะได้สนุกเต็มที่กลับต้องมานั่งเล็งหัวไอ้พวกบอร์ดี้การ์ดเนี่ย มันไม่สนุกเลยนะ”หญิงสาวสวมหน้ากากน้ำเงินเจ้าของตำแหน่งNoVaหรือชื่อตำแหน่งเต็มๆคือPrincess NoVaบ่นออกมาอย่างหัวเสียพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดปืนคู่ใจอย่างถนุถนอม
“เอาเหอะน่าNoVa ที่SaTaNทำแบบนี้คงมีเหตุผล... ใช่มะ?”หญิงสาวสวมหน้ากากสีม่วงเข้มที่ยืนอยู่ข้างๆNoVaบอกส่วนประโยคสุดท้ายหันไปถามซานหรือยศเต็มๆก็คือSaTaN รองหัวหน้าองค์กรโซเนอร์โดยไม่สนใจชายแก่ผู้ตกเป็นเชลยแก่พวกเขาที่นั่งตัวสั่นอยู่กับพื้น
“หึ แค่อยากเห็นจุดจบของหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ของฮ่องกงน่ะสิ”หญิงสาวพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“เอากับมันสิ แค่อยากเห็น ถามจริงๆเหอะตำแหน่งซาตานของแกของแท้รึเปล่าเนี่ย ทำเป็นไม่เคยเห็นไป....“ก่อนที่หญิงสาวเจ้าของหน้ากากสีม่วงสวยสดจะพูดจบคนมาใหม่อีกคนก็ปรากฏตัวขึ้นมาพูดขัดซะก่อน
“เอ้า เอ้า จะคุยกันไปถึงไหน Rose เหยื่อจะหนีแล้วยังไม่รู้ตัวอีก”ผู้มาใหม่คราวนี้เป็นชายหนุ่มหน้ากากสีขาวบริสุทธิ์
ฉึก อาวุธลับมีดสั้นฝังเข้าบริเวณขาของชายแก่ตัวหัวหน้ารายใหญ่ที่กำลังจะวิ่งหนี ร่างของชายแก่ล้มลงแต่ก็พยายามกระเสือกกระสนหากแต่ยาชาที่ทาเคลือบไว้บนใบมีดออกฤทธิ์เสียแล้ว กว่าร่างตรงหน้าจะรู้ตัวก็โดนเท้าของชายหนุ่มผู้มาใหม่เจ้าของมีดที่ปักอยู่ที่ขาของพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่เตะเสยปลายคาง
พลั่ก ร่างของชายแก่กระเด็นไปติดกำแพง
“อั่ก”เลือดเป็นลิ่มๆไหลออกจากปากหนา แต่เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจคนทำ เท้าแข็งบดขยี้ลงไปบนด้ามมีดให้ปักลึกลงไปอีก ถึงจะเป็นยาชาแต่ก็เป็นแค่ยาที่ออกฤทธิ์อ่อนๆเท่านั้นไม่สามารถกลบความรู้สึกเจ็บปวดไปถึงกระดูกแบบนี้ได้หรอก
“ถ้ามันอยากจะหนีนักก็ปล่อยมันไปสิ ยังไงฉันก็ไม่ปล่อยให้มันรอดอยู่ดี นายก็รู้ DeVa”หญิงสาวเจ้าของมัจุราชอาบยาพิษว่าปลายตามองไปยังเหยื่ออีกคนที่นั่งตัวสั่นเทาอยู่อย่างน่าสมเพช
”ปละ ปล่อยอั๊วะไปเถอะ ถ้าพวกลื้ออยากได้อะไรอั๊วะจะหามาให้หมดเลย นะ นะ.. อย่าฆ่าอั๊วะเลยนะ ถ้าอยากฆ่า ฆะ ฆ่าไอ้แก่นั่นเลยดีกว่า”เสียงอ้อนวอนขอชีวิตจากเจ้าพ่อภายใต้เท้าของชายหนุ่มเจ้าของตำแหน่งDeVaหรือรองหัวหน้าอีกคนขององค์กรโซเนอร์
“เฮ้ย! ได้ยังไงไอ้แก่ ฆ่ามันนั่นแหละ แล้วถ้าพวกเธอต้องการอะไรฉันจะให้ทุกอย่างเลย”ชายอีกคนที่ถูกโบ้ยความตายมาให้พูดพลางคลานเข้าไปเกาะขาของหญิงสาวเพชฌฆาตอย่างประจบประแจงแต่โดนหญิงสาวถีบกลับมาจนล้มไม่เป็นท่า เสื้อสูทอย่างดีที่สวมติดตัวเปื้อนฝุ่นดินและคราบเลือดจากการโจมตีเมื่อสักครู่
“ทั้งชีวิต มีคนมากมายเท่าไหร่แล้วที่ร้องขอชีวิตจากพวกแกแล้วแกได้เคยให้ตามคำขอของพวกเขาบ้างมั้ย!!”หญิงสาวแผดเสียงตะคอกลั่นนักโทษประหารทั้งสองถึงกับเขยิบเข้าหากันด้วยความหวดกลัว มัจุราชสาวก้าวเท้าตามอย่างช้าๆ
“เปล่าเลย.... จริงมั้ย พวกแกไม่เคยให้แม้แต่โอกาส หรือแม้แต่จะเปิดหูรับฟังคำขอนั้นเลย”หญิงสาวยังคนพูดต่อไปแล้วก้าวเท้าตามประชิดตัวผู้ได้ชื่อว่าเป็นเหยื่อของเขาในค่ำคืนนี้ราวกับว่าต้องการจะไล่ต้อนทำให้อีกฝ่ายจนมุมอย่างหมดทางสู้
“จะทำอะไรก็รีบทำเหอะRoseเดี๋ยวตำรวจมาเดี๋ยวจะยุ่ง”เสียงนุ่มดังลอดออกจากริมฝีปากหนาของผู้เป็นหัวหน้า
“Shit! ก็ได้ อ้อ จำไว้อย่างนะ คนอย่างแกน่ะ อย่าได้เรียกร้องอะไรที่เราไม่เคยได้หยิบยื่นสิ่งนั้นให้คนอื่น!!!!”เสียงกล่าวลาประโยคสุดท้ายหลุดออกจากริมฝีปากพร้อมกับสะบัดมืออกไปเพียงครั้งเดียวก็เกิดวงแหวนเวทย์ล้อมรอบร่างทั้ง2ไว้ อัสนีกัมปนาทผ่าลงมาในวงแหวนเวทย์อย่างรวดเร็วและรุนแรง เสียงร้องโหยหวนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
เปรี้ยง
ท้องฟ้าปั่นป่วนชั่วขณะ สายลมรุนแรง เสียงยอดหมายเสียดสีกันราวกับหัวเราะเยาะร่างที่ไหม้เกรียมเป็นตอตะโกเพียงไม่กี่วินาทีต่อมาร่างดำทั้งสองร่างก็เหลือเพียงเถ้าถ่านเศษผงธุลีเท่านั้น
ทุกสรรพสิ่งในบริเวณนั้นกลับมาเงียบสนิทดังเดิม แต่เพียงชั่วครู่เท่านั้นสายลมที่สายลมที่นิ่งอยู่ก็แปรปรวนอย่างรวดเร็วพร้อมกับการปรากฏตัวของบุคคลผู้มาใหม่อีก8คน
ผู้มาใหม่คราวนี้เป็นผู้หญิง2คน คนแรกดูสูงสง่าดูเป็นผู้ใหญ่กว่ามากหากเทียบกับอีกคน ริมฝีปากแดงดั่งเลือดซึ่งเป็นสีเดียวกับหน้ากากที่เธอสวมใส่อยู่หากแต่สีที่เห็นประดับอยู่บนเรียวปากสวยนี้เป็นสีที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติมิได้เกิดจากการแต่งเติมเลยแม้แต่น้อย
ส่วนอีกคนดูว่าน่าจะเรียกว่าเด็กสาวมากกว่าที่จะใช้คำว่าหญิงสาวเพราะว่าดูจากลักษณะแล้วดูเป็นเด็กอย่างไม่น่าเชื่อหน้ากากสีฟ้าอ่อนดูสดใสเหมือนกับรอยยิ้มของเธอที่ประดับอยู่บนใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้นดูไม่เข้ากันกับชุดเสื้อโค้ชหนังที่เจ้าตัวสวมอยู่เลยแม้แต่น้อย
ส่วนฝ่ายชายนั้นดูเหมือนว่าจะมีเหมือนกับเป็นคู่ฝาแฝดอยู่2คู่ด้วยกัน เพราะเนื่องจากการพิจารณาจากสีของหน้ากากแล้วก็น่าจะรู้ได้ เพราะว่าเป็นหน้ากากแบบ2สีเพียงแต่สลับสีซ้ายขวาเท่านั้นที่ทำให้พอจะแยกออกว่าใครเป็นใคร
นอกจากนั้นก็มีเด็กหนุ่มอีก2คนซึ่งลักษณะต่างกันโดยสิ้นเชิง คนแรกเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนสีเดียวกับเรือนผมดูจากรูปร่างแล้วดุบอบบางจนไม่น่าจะเป็นผู้ชาย ผิวขาวเนียลเสียจนผู้หญิงบางคนยังอาย ริมฝีปากแดงระเรื่อดูน่ารักขัดกับอีกคนซึ่งดูร่างกายกำยำ คมเข้มสมชาติชายชาตรีเจ้าของเรือนผมดำสนิทและนัยน์ตาสีนิลอันน่าหลงใหล ผิวสีแทนอันเกิดจากการออกกำลังกายกลางแจ้งนั้นทำให้ดูมาดแมนสุดๆ
“ทางด้านนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วหรอครับ”เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนพูดพลางมองไปยังร่างที่ไร้วิญญาณที่นอนอยู่ที่พื้น อย่างยากจะเดาความคิดไม่สู้ว่าเพราะหน้ากากสีเหลืองนวลที่เจ้าตัวสวมหรือสายตาที่ล้ำลึกของเจ้าตัวกันแน่ที่ทำให้ดูลึกลับน่าค้นหาทั้งๆที่สีของดวงตาหรือหน้ากากเป็นสีสว่างที่ไม่น่าจะมีอะไรดึงดูดให้ค้นหา
“อื้อ แล้วทางด้านโน้นล่ะ”ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยปากถามหากแต่ผู้ตอบไม่ใช่เด็กหนุ่มคนแรกกลับเป็นเด็กหนุ่มผู้มาใหม่อีกคน
“หลักฐานเกี่ยวกับพวกมันผมเอาไปไว้ที่ด้านหน้าโกดังแล้วนะครับ ถ้าพวกตำรวจนั่นไม่โง่เง่าจนเกินไปก็คงเห็นเอง”เด็กหนุ่มสวมหน้ากากขาวดำคนหนึ่งกล่าว ในขณะที่เด็กหนุ่มเจ้าของหน้ากากสีเดียวกันดูท่าว่าจะสนใจร่างไร้วิญาณทั้ง2เป็นพิเศษ
“มีอะไรหรอยูกิ”เสียงเรียกจากหญิงสาวเจ้าของหน้ากากฟ้าถามเรียกความสนใจจากเด็กหนุ่ม
“ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากจะดูบาดแผลน่ะ ดูว่ามีหลักฐานอะไรที่จะส่งมาถึงพวกเราได้มั้ย”เด็กหนุ่มพูดอย่างไม่สนใจก่อนจะใช้ไม้ที่อยู่แถวนั้นเขี่ยร่างไร้วิญญาณร่างหนึ่งเบาๆ
“แล้วผลสรุปว่าไง”เสียงจากชายหนุ่มเจ้าของหน้ากากสีขาวบริสุทธิ์ถามขณะเดินเข้าไปดูเจ้าศพนั่นอย่างสนใจ
“ตายสนิทครับ เขม่าดินปืนก็ไม่มี สรุปได้ว่าตายอย่างเฉียบพลันเพราะกระสุนเจาะเข้าบริเวณจุดตายพอดี ว่าแต่พี่DeVaพี่เอาอะไรคิดเนี่ยปืนที่ยิงแล้วไม่มีเขม่าดินปืนติดอ่ะ”เด็กหนุ่มหันมาถามDeVaหรือผู้ประดิษฐ์คิดค้นบรรดาอาวุธทั้งหลายให้พวกเขาใช้
“หึหึ คนมันเก่งอ่ะนะช่วยไม่ได้ อืมว่าแต่กำลังคนของเราถอนไปหมดรึยัง”ชายหนุ่มรุ่นพี่พูดอย่างอารมณ์ดีก่อนหันมาถามชายหนุ่มอายุไร่เลี่ยกันอีก2คน
“เรียบร้อยแล้วครับตอนนี้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้ว ส่วนพวกหัวหน้าทีมงานแต่ละหน่วยคงทำบันทึกข้อมูลส่งพรุ่งนี้”เสียงเรียบจากชายหนุ่มด้านซ้ายเจ้าของหน้ากากสีแดง ดำกล่าวเรือนผมสีน้ำตาลเคลื่อนไหวไปตามสายลมเอื่อยๆที่พัดมา มันนัยต์ตาคมสีฟ้ามองตรงไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
“ส่วนเรื่องร่องรอยผมก็ให้หน่วยข้อมูลจัดการแล้วครับ”ชายหนุ่มด้านขวาพูดต่อ หน้ากากของชายหนุ่มเป็นสีน้ำเงิน ดำ บวกกับรูปแบบโครงหน้าที่เหมือนราวกับพิมพ์เดียวกันกับชายหนุ่มด้านขวาทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่าเขาเป็นฝาแฝดเพียงแต่สีผมสที่อ่อนกว่าเท่านั้นที่ทำให้พอจะมองออกว่าใครเป็นใคร
“นี่! จะไปกันรึยังเนี่ยหรือจะรอให้ตำรวจมาก่อนคะ 2คนนั้นน่ะ”เสียงเล็กๆจากสาวน้อยหน้ากากฟ้าดึงความสนใจจากทั้งสองไปที่รถ อะไรกันพวกเขาคุยกันยังไม่ถึง5นาที พวกที่เหลือก็ขับรถกันมาแล้วหรอ
“ไปเดี๋ยวนี้ละคร้าบ ไปเหอะยูกิ เดี๋ยวเจ้าหญิงWitchจะว่าเอา”คนตัวสูงหันมาบอกก่อนจะวิ่งไปที่รถของตัวเอง
“NoVa แข่งกันมั้ย ใครถึงบ้านก่อน...”หญิงสาวเจ้าของตำแหน่งดาร์คโรสกล่าวท้าเดิมพันความเร็ว
“คนแพ้ต้องลางจานตลอดอาทิตย์!!!”สองสาวพูดพร้อมกันพลางมองตากันอย่างมั่นใจ
”เจอกันที่บ้านนะทุกคน”เสียงห้าวของคนวางเดิมพันทั้งสองคนก่อนรถมอร์เตอร์ไซค์ของท้างสองจะทะยานโลดแล่นออกไปจากย่านโกดังด้วยความเร็ว
“ถ้าลูกน้องมาเห็นว่าไอ้ปริ๊นเซสทั้งสองของมันเล่นอะไรติ๊งต๊องขนาดนี้ ฉันว่าพวกมันคงหมดศัทธากันไม่เลยล่ะเนี่ย ดูสิ”DeVaชายหนุ่มอารมณ์ดีเจ้าของตำแหน่งรองหัวหน้าองค์กรว่าตาคมมองตามรถ2คันที่แล่นออกไปไกลด้วยความเร็วก่อนจะส่ายหัวด้วยความระอา
“ก็คงพอๆกับรองหัวหน้าอีกคนที่โดดประชุมทุกครั้งที่มีปัญญาโดดนั่นแหละ”KinGหรือตำแหน่งหัวหน้าองค์กรว่าพลางปรายตามองไปยังรองหัวหน้าสาวตัวน้อยที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเบาะหลังของรถ
“55+ ไม่ปวดหัว ปวดท้องก็ ก็เป็นไข้ล่ะนะรายเนี้ยน่ะ”DeVaพูดก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไปจากโกดังเป็นคันสุดท้าย
จุดหมายปลายทางของทั้ง13คนคือคฤหาสน์หลังหนึ่ง ถึงจะดูใหญ่โตเกินกว่าที่จะอยู่กันแค่13คนแต่ก็ไม่เคยทำให้ทั้ง13คนรู้สึกถึงความเหงาได้เลยเพราะมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าเพื่อนคอยอยู่ข้างๆเสมอมาความเปล่าเปลี่ยวและความเหงาที่น่าจะมีอยู่ในนี้มลายหายไปจนสิ้น
“งานนี้เหนื่อยจังเลยอ่ะคิม”เสียงหวานจากหญิงสายตากลมโตเจ้าของเส้นผมยาวสลวยกล่าวทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้โซฟาทำจากผ้าไหมไทยสุดหรู
“ไม่ต้องมาพูดเลย เรางานเยอะกว่าแกอีกเนริ เรายังไม่ว่าอะไรแกเลยซักคำ นั่นยังไม่นับที่แกโดดประชุมคราวก่อนอีกนะ”ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหันไปว่า จมูกโด่งเป็นสัน เรียวปากหนาดูดี เจ้าของผมสีดำไฮไลท์เงิน ผมซอยตั้งๆดูเท่สุดยอดแถมผิวขาวเนียลนุ่มน่าสัมผัสจนไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่พวกตลาดมืดต่างเกรงกลัว คิมหรือKinG หัวหน้าองค์กรพันธมิตรF.B.I.หรืออีกชื่อคือองค์กรZoNeRซึ่งเป็นองค์กรลับใต้ดินที่ไม่มีใครที่เคยเข้ามีส่วนร่วมในตลาดมืดไม่รู้จัก ก่อตั้งโดยเด็กมัธยม13คนซึ่งสมาชิกทั้งหมดล้วนแต่เป็นคนที่คาดไม่ถึงรวมทั้งฝีมืออันร้ายกาจที่ทำให้เป็นที่เกรงกลัวของเจ้าพ่อมาเฟียน้อยใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเคยได้เห็นหน้าของบุคคลทั้ง13แต่แค่ได้ยินชื่อก๊อกสั่นกันเป็นแถว
“เอาน่าคิม แกก็รู้ว่าเนริมันไม่ชอบการประชุมนี่”เต่าหรือDeVadกล่าวอย่างอารมณ์ดีขณะที่ในมือกำลังถือผ้าเช็ดตัวค่อยบรรจงเช็ดผมให้กับเด็กสาวตัวน้อยฟาริหรือ วิช(Witch) น้องสาวแท้ๆของเนริ หากแต่ว่าติดเต๋ามากกว่าเนริซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆมากกว่า
“พี่ฮะ เดี๋ยวผมเช็ดให้ฟาริเองก็ได้ ผมหึง”ฮิคารุหรือเด็กหนุ่มหน้าหวานเจ้าของหน้ากากสีเหลืองอ่อนพูดพลางดึงตัวเด็กสาวหรือแฟนของตัวเองมา
“เต่าแกให้ท้ายเนริมันเกินไปนะ”คิมบ่นอย่างอ่อนใจ ในขณะเดียวกันเฟชรหรือเจ้าของตำแหน่งQueenประจำตัวเขาเดินลงมา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ว่าก้ต้องมารับตำแหน่งคู่กันเนื่องจากในเมื่อมีหัวหน้าผู้ชายแล้วก้สมควรจะมีหัวหน้าผุ้หญิงไว้บ้างเพราะเรื่องบางเรื่องผู้ชายก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้
“ไปเร็ว ฟาริ เครื่องจะออกอีก15นาทีนี่แล้วนะ”เสียงเข้มพูด พวกเธอถูกโอนย้านไปทำภารกิจที่ฝรั่งเศส
“ค่ะ”วิชหรือน้องนุชคนสุดท้องของบ้านรับคำพลางเดินไปหากระเป๋าของตัวเองที่จัดเตรียมไว้
“ไปกี่วันฮะพี่”ฮิคารุหรือหนุ่มน้อยหน้าหวานถาม
“นี่ฮิคารุ พี่ไปทำงานนะไม่ได้ไปเล่นจะได้ไป2-3วันกลับเนี่ย ล่ำลาแฟนซะเดี๋ยวพี่จะออกไปสตาร์ทรถข้างนอก ไปนะทุกคน บาย”ลูกพี่ลูกน้องผู้พี่ว่าก่อนจะสาวเท้าเดินฉับออกจากห้องไปทันทีทิ้งไว้ก็แต่สาวน้อยผู้โดนล้อเลียนให้หน้าแดงเป็นมะเขืออเทศยู่ภายในบ้าน
จึก จึก
“คิม เจ้เขาไปไหนอ่ะ”คำถามเรียกมะเหงกจากเพื่อนรักถูกส่งออกมาจากเรียวปากสวย
โป๊ก!
“โอ๊ย! เจ็บนะทำไมต้องเขกหัวกันด้วย เนริไม่ผิดซะหน่อยงานของเราก็รับผิดชอบงานของเรานะ ”หญิงสาวว่า
“ผิดสิ แกอ่ะผิดเต็มเปาเลย รองหัวหน้าบ้าบออะไรโดดประชุมทุกครั้งที่มีโอกาสจนไม่รู้เรื่องรู้ราวกับใครเขาเลย แล้วพรุ่งนี้ก็อย่าลืมไปขึ้นเครื่องไปประเทศไทยล่ะ ถ้าพรุ่งนี้ฉันโทรมาแกไม่อยู่บนเครื่อง รับรองปลดทั้งหน่วยแน่ ส่วนกำลังเสริมที่แกขอฉันส่งไปเรียบร้อยแล้ว”คิมว่าพลางเดินขึ้นบันไดไปทิ้งไว้แต่หญิงสาวที่นั่งกุมหัวด้วยความเจ็บกับเพื่อนรักอีก1คนพร้อมกับแฝดอีก2 คู่ อ้อ ลืมคู่รักหวานแหววแห่งปีนั่นอีกคู่นึง ส่วนที่เหลือก็พากันหายเข้าวิมานฝันกันเรียบร้อย
กำลังเสริมที่คิมพูดถึงก็คือกำลังเสริมที่จะช่วยพวกเนริทำภารกิจที่เมืองไทยคราวนี้เห็นว่าจะเป็นเกี่ยวกับยาเสพติดระบาดในโรงเรียนหรืออะไรเนี่ยแหละไม่ได้จำ(อ้าว) ถึงจะเห็นอย่างนี้ก็เถอะ องค์กรZoNeRไม่ใช่องกร์เล็กๆนะสมาชิกที่มีทั้งหมดตอนนี้ก็ปาไป2000กว่าคนแล้ว ถึงจะประจำอยู่สาขาต่างๆที่จีน ญี่ปุ่น ไทย เกาหลี และอเมริกาก็เถอะแต่พอรวมกันทีมันก็เยอะพอตัวอยู่
“สมน้ำหน้า ฉันไปนอนก่อนล่ะเดี๋ยวตื่นมาขึ้นเครื่องไม่ทัน เออ แล้วก็โชคดีนะเว้ย งานที่ไทยคราวนี้น่ะอย่าได้โชกเลือดกลับมาล่ะ”ชายหนุ่มพูดอย่างขำขำเมื่อเห็นหญิงสาวที่นั่งหน้าบู้แลบลิ้นใส่อย่างหมั่นไส้
“พวกนั้นขึ้นนอนกันแล้วเราก็อย่าอยู่เลย ไปนอนกันดีกว่านะ ยูกิ อาคิ”เนริพูดพลางหันไปชวนเด็กหนุ่มฝาแฝด2คน ไม่ใช่เพราะชวนรเพราะหวังดีหรอก เพียงแต่ชวนเพราะเธอไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ต่างหาก ทุกๆวันเธอจะต้องไปนอนที่ห้องของยูกิกับอาคิ เพียงเพราะเธอค่อนข้างมีอาการประสาทนิดๆเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่อยากพูดถึง
จึงจำเป็นต้องอยู่กับพวกนี้ตลอด ไม่ใช่แค่ยูกิกับอาคิ แต่ผู้ชายคนอื่นๆในZoNeRก็เช่นกันที่ต้องทำหน้าที่นี้
“ไปนะคาริว คิรุน ฮิคารุก็ด้วยรีบไปนอนได้แล้วเราต้องออกเดินทางกันตอนเช้านะ”หญิงสาวว่าพลางเดินเข้าไปหอมแก้มน้องชายที่เธอรับสืบทอดดูแลต่อจากแม่ของเธออีกที ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่น้องในไส้แต่ก็รักเหมือนกับน้องที่คลานตามกันมาจริงๆ
คาริว กับคีรุน เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเรือนผมสีน้ำตาลหรือตำแหน่งคือPrince MaxMa-Prince Ice เด็กหนุ่มสัญชาติเกาหลีที่เป็นลูกครึ่งอเมริกา-เกาหลีที่แม่ของเนริรับอุปการะไว้ทั้งสองคนเหมือนกันมากจนทำให้คนอื่นๆเข้าในผิดบ่อยๆแต่มีเพียงสมาชิกทั้ง13คนเท่านั้นที่รู้ว่าใครเป็นใคร
----------------------------สนามบิน----------------------------------------------
“เฮ้อ คิมนายไม่เป็นห่วงคนอื่นๆบ้างรึไง เล่นจัดงานแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างนี้อ่า “เต๋าชายหนุ่มอารมณ์ดีถามขึ้นขนาดนั่นรอเวลาขึ้นเครื่อง
“ห่วงสิ แต่แกเข้าใจมั้ย พวกเราอยู่ด้วยกันมากเกินไปแล้วเพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีใครหายไปซักคนก็จะทำอะไรกันไม่ได้ ถ้าในอนาคตเป็นอย่างนี้ อย่าหวังผลักดันให้Zonerขึ้นมาอยู่เป็นองค์กรช่วยเหลือคนเลย ขนาดคนทำยังไม่รอดเลย แกก็เหมือนกันโอ๋เพื่อนมากไป ระวังเหอะถ้าแกเป็นอะไรไปขึ้นมารับรองได้ว่าไอ้เนริมันร้องไห้จนน้ำตาท่วมโลกแน่”ชายหนุ่มทำหน้าเบื่อพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่างสนามบิน
“เฮ้อ จริงสิเนอะ ชั้นจะพยายามไม่โอ๋มันละกัน ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายไปแล้วเว้ย อีก 5 นาที แกก็อย่าลืมขึ้นเครื่องล่ะ”ชายหนุ่มพูดพลางลากประเป๋าเดินออกไป
“บาย” เสียงบอกลาสุดท้ายก่อนเจ้าตัวจะเดินแยกไปขึ้นเครื่องของตนเอง
กาลเวลายังคงเดินต่อไปพวกเค้าก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เรื่องราววันข้างหน้ายังคงไม่มีใครรู้ว่ามันจะเป็นยังไงรู้แค่ว่าตัวเค้าจะต้องแข็งแกร่ง เพราะโลกนี้ไม่มีที่ให้กับคนที่อ่อนแอ นั่นแหละที่เค้ารู้ล่ะ
RaiN BloOd สายฝนสีเลือด
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น