คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SEXYMARK : ONE
SEXY MARK – 1
'มาร์ค'
สถานที่เดิมที่คุ้นเคย...
ร่างบางนั่งอยู่บนผืนหญ้า วิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่คุ้นเคย รอบข้างเต็มไปด้วยดอกหญ้ามากมาย เขาหันไปตามเสียงเรียกชื่อของเขา
และพบกับใบหน้าหนึ่งที่เขาเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี...
'ฉันรักนายนะ'
ไม่จริง...
'รักนายตลอดไป'
ไม่... โกหก...
'มาร์ค'
'อย่าเข้ามา' ร่างบางกระเถิบหนี ร่างนั้นตามเขามา เขาวิ่งหนีมัน แต่เสียงที่ตามมายังคงหลอกหลอน เรียวขาวิ่งจนมาถึงทางตัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและเกลียดชัง เขาปิดหูของตัวเอง
'มาร์ค'
'ออกไป!!'
'ฉันรักนาย'
'ฉันเกลียดแก!! ไอ้นรก!!'
'มาร์ค...'
"ไม่นะ!"
.
.
"ออกไปซะ!!!!"
มาร์คตวาดเสียงลั่น เขาสะดุ้งตื่นจากนิทรา ร่างกายมีเหงื่อผุดพรายขึ้นมา เขาดึงผ้าห่มให้เข้าหาตัวมากที่สุด
แฮ่ก... แฮ่ก..
เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เขาพยายามส่ายหน้าให้ลืมจากฝันร้ายที่ผ่านมานั่น เรื่องราวนี้ก็ผ่านมาเป็นปีแล้วแต่เขายังคงจดจำมันได้ดี ใบหน้าหวานมองไปยังนาฬิกาที่ข้างเตียง
04:31
ตีสี่แล้วเหรอเนี่ย...
"ไม่เอาน่ามาร์ค ลืมสิลืม"
มาร์คสะบัดหัวไล่ความคิดโง่ๆออกไป เขากุมศีรษะของตนเองพลางนวดขมับก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ความฝันนั่นทำให้เขาไม่อยากจะนอนต่อไปอีก
เรียวนิ้วกดโทรศัพท์โทรไปยังเบอร์ที่คุ้นเคยดีที่สุด เขาอาจจะโดนต่อว่าบ้างว่าโทรมาทำไมตอนตีสี่แต่ใครคนนั้นเป็นคนที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของเขาจริงๆ
(ฮัลโหล)
"น้ำเสียงเหมือนยังไม่หลับเลยนะ" พูดหยอกล้อคนที่อยู่ปลายสาย ปลายสายเองก็หัวเราะตอบกลับมาเช่นกัน
(ก็เล่นเกมน่ะ) ปลายสายตอบกลับมา (เป็นอะไรรึเปล่าถึงโทรมา ทุกทีก็น่าจะหลับไปแล้ว)
"ฉันฝันถึงเรื่องเดิมอีกแล้วล่ะเจบี" มาร์คพูดขึ้น เจบีเป็นเพื่อนของเขา หมอนี่มาจากเกาหลีชื่อจริงคืออิมแจบอม เจบีเป็นเพื่อนสนิทของมาร์คตั้งแต่ขึ้นเกรด7และคอยช่วยเหลือเขาตลอดแม้แต่ตอนที่เขาย้ายไฮสคูลจากแคลิฟอร์เนียร์มาตั้งถิ่นฐานในเท็กซัสพร้อมครอบครัวเจ้านั่นก็ตามมาด้วย
เพราะบ้านของหมอนี่มันรวยเลยตามมาได้สบายๆ
เจบีเองก็ชอบทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจเช่นเดียวกับมาร์คแต่ก็ไม่เก็บตัวเงียบ เจบีเข้าสังคมได้ในระดับที่ดี(และมากกว่าเขาแบบสุดๆ)
(นายยังลืมไอ้กร๊วกนั่นไม่ได้อีกเหรอ)
"ฉันอยากที่จะลืมมัน... แต่มันยังหลอกหลอนฉันอยู่น่ะสิ" มาร์คกล่าวเสียงอ่อยตามด้วยเสียงถอนหายใจจากปลายสาย
(แล้วนายจะนอนต่อไหมเนี่ย)
"คงรอให้ถึงเช้าน่ะ" มาร์คตอบ "ฉันไม่อยากจะฝันต่อไปอีกแล้วล่ะ"
(ตามสบายนะ) เจบีตอบ มาร์คทำได้แค่ครางอืมตอบกลับไป (อย่าคิดมากนักล่ะ)
"รู้แล้วน่า"
(ฉันนอนล่ะ ฝันดี)
"อืม ฝันดีนะ"
เฮ้อ...
ถอนหายใจไปก็ไม่ช่วยทำให้ดีขึ้น ถึงแม้เขาจะอยากนอนต่อมากแค่ไหนก็ตามทีเถอะ เขาอยากจะใช้ยานอนหลับให้มันรู้แล้วรู้รอดถ้าไม่ติดว่าจะมีคนมารับเขาตอนเช้านั่นแหละ
“มาร์ค ลืมสิลืม นายต้องลืมมันนะ!”
ขยี้หัวตัวเองและค่อยๆชันเข่าขึ้นมา เขานั่งกอดเข่าอยู่อย่างนั้น ยิ่งเขานึกถึงคนๆนั้นเขายิ่งเจ็บปวด ยิ่งรู้สึกทรมาน ไม่ใช่ว่าเขายึดติด เขาทั้งเกลียดและอยากจะลืมผู้ชายคนนั้นให้ได้
คนสารเลว...
ยิ่งนั่งคิดไปก็ไม่ช่วยอะไร เขานั่งนิ่งทำอะไรเรื่อยเปื่อยจนถึงเช้า เขารู้สึกง่วงนอนอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าเขาต้องหลับในคลาสเรียนแน่ๆ มาร์คเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงจากห้องน้ำ ร่างบางทักทายสมาชิกในครอบครัวด้วยรอยยิ้มบางๆอย่างที่เคยทำ
“หน้าลูกดูโทรมๆนะ” เสียงของชายผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นแต่มาร์คทำเพียงแค่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มเท่านั้นในเชิงว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร ผู้เป็นพ่อแน่นอนว่าต้องรู้สึกว่าลูกของตนต้องมีเรื่องไม่สบายใจแต่มาร์คเองก็ไม่ใช่คนที่พูดมากแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เวลามีปัญหาก็ศึกษาบ้างแต่ไม่มากนักส่วนตัวแล้วมาร์คชอบเก็บปัญหาไว้คนเดียว สู้ด้วยตัวเองคนเดียวเสียมากกว่า
“มีอะไรก็บอกกันบ้างนะ” แทมมี่ พี่สาวของมาร์คพูดขึ้น มาร์คยิ้มรับ เขามักจะรู้สึกอบอุ่นเสมอเวลาอยู่กับครอบครัว ครอบครัวของเขาเข้าใจเขาเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร ทุกคนเคารพการตัดสินใจของเขา
“ขอบคุณนะครับ” มาร์คตอบก่อนจะกินข้าวที่พี่สาวได้ทำไว้ให้ก่อนจะออกไปไฮสคูลเพราะเธอเองก็ต้องออกไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน แต่พอมาร์คทานได้ไม่เท่าไรเท่านั้นแหละ
“...!!”
เสียงแตรรถยนต์ทำเอาผู้คนบนโต๊ะอาหารทั้งหมดสะดุ้งเฮือก แทมมี่ลุกขึ้นเหมือนจะลุกไปดูแต่มาร์คได้ปรามไว้ก่อนเพราะเขาเองก็คิดว่าคงเป็นแขกของเขาเองที่มาถึงที่นี่
“เดี๋ยวผมไปดูเอง” มาร์คว่าก่อนจะเดินออกจากโต๊ะอาหาร เขาเดินมาที่หน้าบ้านก่อนจะพบชายหนุ่มเรือนผมสีบลอนด์ลดกระจกลง ใบหน้าหล่อคมนั่นสวมแว่นดำราคาแพงก่อนจะทำหน้าเหมือนให้ใครอีกคนขึ้นรถมา
“ฉันยังกินข้าวไม่เสร็จ” มาร์คว่าขึ้น ยูคยอมเลิกคิ้วมองเขา “จะ... นายจะเข้ามาในบ้านก่อนไหม”
ยูคยอมยิ้มออกมา
“โอเค ได้สิได้”
หลังจากลงจากรถ ยูคยอมได้เดินมาทักทายพ่อและพี่สาวของมาร์ค คิมยูคยอมดูเหมือนเป็นใครอีกคนไปเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ดูอ่อนน้อมและเป็นเด็กดีกว่าที่คิด(แต่ถ้ารู้ว่าจริงแล้วเป็นยังไงคงอยากจะลบคำว่าเป็นเด็กดีทิ้งไปเลย)
“มารับมาร์คไปโรงเรียนเหรอ” พี่แทมมี่กล่าว เธอดูสนอกสนใจในตัวยูคยอมไม่น้อย มาร์คไม่ได้คบเพื่อนหรือคุยกับใครอย่างจริงจัง ที่เธอเห็นมีแค่เพียงเจบีเท่านั้นแหละที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี
“ครับผม” ยูคยอมตอบก่อนจะยักคิ้วให้กับมาร์ค แต่คนร่างบางก็ยังมีท่าทีที่เรียบเฉย
“แล้วทำไมเราถึงมารับมาร์คได้ล่ะ” เรย์มอนด์ ต้วนผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้น ยูคยอมยิ้มจนตาปิด
“เป็นทางผ่านน่ะครับ ผมเห็นมาร์คบ่อยๆเลยว่าจะรับถึงบ้านเลย” ร่างสูงกล่าวขึ้น มาร์คมองอีกคนก่อนแอบแค่นหัวเราะเล็กน้อยแล้วทำหน้าเหมือนว่า เหรอ อย่างนั้นเหรอ
เขายังจำได้ดี มีวันหนึ่งที่เขาสวมแว่นเนิร์ดเดินไปตามถนนเหมือนเดิม บนถนนเปียกๆมีน้ำขัง คิมยูคยอมกลั่นแกล้งเขาโดยการขับรถมาเร็วๆจนน้ำกระเซ็นมาโดนเสื้อและใบหน้าของเขา
แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะให้อภัยในความแสบของคิมยูคยอมง่ายๆแน่
พอทานข้าวเสร็จ ยูคยอมก็พามาร์คมาขึ้นรถ ทั้งคู่เดินทางมาด้วยความเงียบ แม้ยูคยอมจะชวนคุยบ้างแต่บทสนทนาของพวกเขาสองคนก็ไม่ได้มีมากนักเช่นเคยจนกระทั่งถึงโรงเรียน มาร์คหยิบเจ้าแว่นเนิร์ดมาใส่เช่นเดิม เขาออกจากรถพร้อมกับยูคยอมที่ออกมาเช่นกัน ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้อีกคนก่อนจะดึงมือของมาร์คมากุมไว้
“ทำบ้าอะไรของนาย” คิ้วของคนร่างบางขมวดลงทันที ยูคยอมยักไหล่อย่างไม่สนใจอะไรนัก
“ฉันอยากจะเดินกับนาย”
“ประสาทไปแล้วรึไง” มาร์คพูดเสียงออกจากไรฟัน แต่เจ้าคนตัวใหญ่กว่ากลับยื่นใบหน้าของเขามาเข้าใกล้มากเสียจนเหลือแค่คืบเท่านั้น
“จำไม่ได้เหรอที่บอกไปน่ะว่า ฉัน-ชอบ-นาย เพราะงั้นอย่าถามให้มาก”
พูดเองเออเองเสร็จร่างสูงก็พาร่างบางจูงมือเดิน มาร์คส่ายหน้าก่อนจะแอบหัวเราะออกมาเบาๆในความดื้อรั้นของยูคยอม แน่นอนว่าสายตาส่วนใหญ่จะมองมาที่พวกเขา ก็ใครจะนึกล่ะ นี่คิมยูคยอมนะ! เด็กหนุ่มเอเชียที่ฮอตที่สุดในไฮสคูลเดินกับเด็กเนิร์ดเฉิ่มๆอย่างมาร์คต้วน
แน่นอนว่าสาวๆทั้งหลายขยี้ตากันเป็นแถบ ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น
มาร์คแอบลอบยิ้มเยาะในใจ ไม่นึกว่าผู้หญิงพวกนั้นจะมองเขาด้วยแววตาที่อิจฉาตาร้อนขนาดนั้น พวกเธอคงไม่เคยได้รับการเทคแคร์อย่างดีจากยูคยอมเหมือนกับเขาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ยูคยอมตัวติดอยู่กับเขาเสียเหลือเกิน
“ฉันอยากจะเข้าห้องน้ำน่ะ” มาร์คพูดขึ้น คนร่างสูงมองไปยังคนตัวเล็กก่อนจะพาอีกคนไปที่ห้องน้ำพอดีกับช่วงเวลาที่กริ่งเข้าเรียนดังขึ้นพอดี ทุกคนแยกย้ายกันเข้าห้องเรียนในห้องน้ำเหลือเพียงเขาสองคนเท่านั้น มือบางกดล็อกประตูห้องน้ำด้านนอกสุด
ยูคยอมแลบลิ้นเลียริมฝีปากทันที เขาเริ่มรู้ว่ามาร์คจะเริ่มทำอะไรแต่ไม่นึกว่าจะรีบร้อนทำอะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า มาร์คถอดแว่นเนิร์ดของเขาออกก่อนจะตรงดิ่งมาที่ยูคยอมที่ยืนรออยู่ ร่างบางฉีกยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆไต่นิ้วก่อนตัวไปตามแผงอกของอีกคน
“นายอยากไหม”
CUT
อยู่ที่ไบโอทวิตเตอร์เรานะเธอ
“มีถุงไหม” มาร์คพูดขึ้นด้วยแววตาที่จริงจัง “ไม่มีก็อด”
“เฮ้!” ยูคยอมร้องขึ้น ดูเหมือนว่ามาร์คจะอ่านสายตาของเจ้าร่างยักษ์นั่นออกว่าต้องการเขาอีก
“ฉันทำนายเสร็จแล้วนี่ ถ้าอยากอีกไปหาถุงมา”
“แต่คราวก่อน...”
ยูคยอมต้องเก็บคำพูดไปเมื่ออีกคนทำสายตาเย็นชาใส่
“ไม่เกี่ยวกันน่า คยอมมี่” กล่าวขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นมาใช้ริมฝีปากคลอเคลียกับใบหน้าอีกคน ร่างบางพรมจูบไปตามแนวสันคางของยูคยอม
“ไว้คราวหลังก็ได้” ยูคยอมพูดขึ้น คนร่างบางยิ้มจนตาปิดจนคนร่างสูงนิ่งค้างไปทีเดียว
เขารู้สึกว่ามาร์คต้วนน่ารักเกินไป
น่ารักไปจริงๆ...
“ดีมาก”
ให้ตายเถอะมาร์คต้วน นายจะปั่นหัวฉันไปถึงไหนกัน!
.
.
.
เลิกเรียน
พอหมดคาบพละแน่นอนว่ามาร์คตรงไปที่ล็อกเกอร์ของตัวเองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า พอมาถึงเขาก็ต้องหน้าชาทันทีเมื่อในล็อกเกอร์ของเขามีทั้งรอยขีดเขียนอันไม่พึงประสงค์ คำด่าพอมากมาก รวมถึงเสื้อผ้าและรองเท้าของเขาที่ถูกขโมยไป แคมป์เบลเล่มโปรดของเขาเองก็ถูกฉีกขาด ทุกอย่างของเขาไม่เหลือสภาพที่เป็นชิ้นดี
‘นังร่าน มาร์ค ต้วน!!’
เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ
แน่นอนว่ามาร์คต้วนโกรธมาก ไม่ว่าจะเป็นใครเขาไม่ปล่อยไว้แน่ๆ แท้จริงแล้วเขาไม่ใช่พวกยอมคนหรอกนะแต่คราวนี้มันมากเกินที่เขาจะรับไหว
มีเพียงทางเดียว...
เขาจะแก้เผ็ดคนที่เข้ามาเล่นกับเขา
ให้มันรู้ไปเลยว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร!
talk!!
นางฮอตอีกละ รึเปล่า 5555555555555555555555555555
แง้อยากได้นาง 555555555555555555
มาร์คต้วนเธอนี่มันฟหดาฟหดาฟหวดาฟส่ดฟ
หลังจากนี้จะเริ่มเพิ่มความร้ายของมาร์คต้วนดาวยั่วของเรานะคะ
ขอเปลี่ยนชื่อแท็กเป็น #มาร์คดาวยั่ว โอ้โห 5555555555555
พอต่อไปเริ่มมีเงื่อนงำ เบื้องหลังของมาร์คเป็นยังไงต่อไป ติดตามกันนะคะ
ฝาก #มาร์คดาวยั่ว ของเราด้วยนะคะ 55555555555555555555
ความคิดเห็น