คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Strange data...
4
“อือ…” ผมกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสง ก่อยกมือขึ้นขี้ตาด้วยความเคยชิน …สายป่านนี้แล้วหรอเนี่ย? แล้ววันนี้วันอะไร? วันพุธ? รู้สึกว่าผมจะมีเรียนแค่คาบบ่ายนะ ตื่นสายหน่อยคงไม่เป็นไร…ว่าแล้วก็ขยับตัวกะว่าจะเปลี่ยนท่า… หือ? ทำไมมันหนักๆตรงช่วงเอววะ? ผมก้มมองที่เอวของตัวเองช้าๆ ก่อนจะพบ…แขน…ของใคร? ผมยกแขนทั้งสองข้างของตัวเองขึ้น… อ้าว! ก็ครบนี่!! แล้วนี่มันแขนใครกัน!
ผมหันหน้าไปด้านหลังช้าๆ… นี่มัน โอ เซฮุน!!! ผมกลั้นหายใจไปชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นหายใจอย่างเบาๆแทน… ทำไมผมมานอนกับเด็กนี่ได้ล่ะ?? …คงไม่ใช่ว่าผมเสร็จหมอนี่ไปแล้วหรอกนะ!
“อืม~” เซฮุนครางออกมานิดหน่อยก่อนจะกระชับแขนที่กอดเอวผมให้แน่นขึ้น... ปล่อยมือนะเว้ยไอ้เด็กชานม
“ฮึบ!” ผมพยามแกะมือกาวของคนตัวสูงออกจากเอว แต่มันก็ไม่หลุดออกสักทีจนผมเริ่มเหนื่อย เลยเปลี่ยนมาพลิกตัวนอนหงายให้แขนที่วางอยู่คลายลงนิดนึงแทน
ผมหันหน้าไปมองคนอายุน้อยกว่าที่ยังคงหลับตาพริ้ม ใบหน้าขาวเนียน คิ้วเข้ม จมูกคมสัน ริมฝีปากบางสีสด… ทุกอย่างอยู่ห่างจากหน้าผมไม่กี่เซ็น ใกล้กันมากจนรู้สึกถึงลงหายใจอุ่นๆของร่างสูง ผมไล่สายตาลงมาหยุดที่ริมฝีปากบางที่เคยประทับลงมาที่ริมฝีปากผมครั้งหนึ่ง ตอนนั้น…ผมรู้สึกยังไงนะ? ระหว่างที่ผมกำลังคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ริมฝีปากที่ถูกจ้องอยู่ตอนแรกก็เลื่อนมาปิดริมฝีปากผมอย่างรวดเร็ว ร่างสูงขยับจูบอย่างชำนาญ ทำให้ผมเผลอไปกับสัมผัสที่อบอุ่นนั้นโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เซฮุนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ แล้วเปลี่ยนไปจุ๊บแก้มผมอีกที่ ก่อนจะกระโดดลงจากเตียงไปเนียนๆ
“มอร์นิ่งคิสฮะ” เซฮุนหันมายักคิ้วให้ผมหนึ่งทีก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป… มอร์นิ่งคิส?
“โอ เซฮุน!!!”
ผมนั่งเนือยรอคริสอยู่หน้าตึกคณะบริหาร ระหว่างนั้นก็หยิบข้อมูลของเซฮุนที่เก็บมาอ่านฆ่าเวลา แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เข้าหัวผมสักนิด ในเมื่อตอนนี้ผมยังคงนึกถึงแต่เจ้าของข้อมูลเหล่านี้
“เสี่ยวลู่!” เสียงมินซอกดังมาก่อน แล้วค่อยตามมาด้วยร่างสมบูรณ์ของตัวเอง ในมือเต็มไปด้วยถุงอาหารและของทานเล่นนานาชนิด
“อ้าว! ไม่มีเรียนต่อหรอ” ผมถามพร้อมๆกับมินซอกที่นั่งลงตรงข้ามพอดี
“วันนี้อาจารย์ติดบรรยายนอกสถานที่ว่ะ” มิซอกทำหน้าเหมือนเสียใจเต็มประดาที่ไม่ได้เรียน… แต่เชื่อดิ ถ้าลุกขึ้นกระโดดแล้วแล้วพุงไม่กระเพื่อมมันก็คงทำไปแล้ว “แล้วแกล่ะ มานั่งทำอะไรแต่หัววัน” มินซอกถามไปแกะห่อขนมไป เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว…
“มารอไอ้คริส” ผมเอื้อมมือไปหยิบขนมปังในถุงที่มินซอกซื้อมา หิวอ่ะ! นี่ก็เที่ยงแล้ว ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า
“รอมันทำไม เดี๋ยวตอนเย็นก็เจอกันอยู่ดี” พูดจบไอ้อ้วนหมินก็อ้าปากงับเกี้ยวซ่าเข้าไปคำใหญ่ ใช่แล้วล่ะ! พวกผมนัดเจอกันทุกวันหลังเลิกเรียนอยู่แล้ว
“เอาข้อมูลมาให้มันไง เดี๋ยวตอนเย็นเพื่อมันนึกครึ้มพาชานยอลมาด้วย” ผมพูดเซ็งๆ นี่แหล่ะ ที่ทำให้ผมต้องรีบออกจากบ้านทั้งๆที่มีเรียนตอนบ่ายสามครึ่ง
“เออว่ะ ช่วงนี้ทำไมมันขยันพาชานยอลมาด้วยจังวะ” มินซอกเติมน้ำจิ้มลงไปในเกี๊ยวซ่า
“ไม่รู้เหมือนกัน” ช่วงนี้ผมไม่ได้ตามข่าวสารใครเลยนอกจากเด็กชานมเซฮุนคนเดียว
ปึ้ง!!
หนังสือเล่มหนาบัดซบถูงโยนลงกลางโต๊ะอย่างจงใจ ก่อนที่เจ้าของหนังสือจะนั่งลงตามมาติดๆ ทำเอาผมกับมินซอกยกของกินหลบแทบไม่ทัน คริสที่ปกติหน้าดุอยู่แล้ว วันนี้ดุกว่าเดิมสามเท่า…
“โอ้… ใจเย็นเพื่อน” ผมกลืนน้ำลายเอื้อก ก่อนจะชำเลืองตามองมินซอกที่กำลังเคี้ยวเกี๊ยวซ่าอยู่
“เป็นไรวะ อารมณ์เสียมาเลย” เรื่องถามไม่ดูสถานการณ์นี่ยกให้มินซอกมันเลยครับ ชำนาญมาก… อ้วนเอ้ย~ แกก็น่าจะรอให้มันใจเย็นลงก่อน
“…” เห็นมะ? ไอ้คริสมันก็ไม่ตอบอยู่ดี
“แกทะเลาะกับชานยอลมาป่ะวะ” ไอ้คริสหันควับไปทางคนพูดทันที แต่มินซอกก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบอย่างไม่เกรงกลัว
“…อือ” ไอ้คริสพยักหน้า ก่อนจะถอดแว่นโยนลงบนโต๊ะ แล้วดึงเน็คไทที่คอลงมา
“เฮ้ย! จริงอ่ะ เรื่องอะไรวะ ก่อนหน้านี้ยังดีๆกันอยู่เลยนี่” ผมถามอย่างตกตะลึง วันก่อนยังนั่งคุยกันหนุงหนิงอยู่เลย มาวันนี้ทะเลาะกันซะล่ะ
“…” ไอ้คริสเหม่อมองไปที่หนังสือบนโต๊ะอย่างตัดขาดโลกภายนอก บ๊ะ! ท่าจะเรื่องใหญ่นะเนี่ย ทำไอ้คริสเป็นได้ขนาดนี้น่ะ
“ท่าจะแย่ว่ะ” มินซอกมองเพื่อนหน้าดุเครียดๆ “งั้นวันนี้ไปดื่มแก้เครียดป่ะ”
“อ้าว~ มินซอก แกลืมแล้วหรอวะ ว่าทุกวันนี้ฉันพกตังค์มาแค่วันละยี่สิบ” ผมท้วงทันที
“เออว่ะ งั้นแก…”
“แกได้เอาข้อมูลมาด้วยหรือเปล่า” ไม่ทันที่มินซอกจะได้พูดจบประโยค คริสก็ขัดขึ้นกลางปล้อง
“…เอามา” ผมหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆที่ถูกเย็บติดกันไว้ขึ้นมาก่อนส่งให้คริส ร่างสูงหยิบไปเปิดอ่านพร้อมเอ่ยถามไปด้วย
“เซฮุนเป็นไงบ้าง” ห๊ะ? หมายความว่าไงวะ ให้เล่ารวมๆหรอ? หรือยังไง
“ก็ดี… ฉลาดเป็นกรด จับผิดเก่ง รู้ทัน ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่บางที่ก็กวนตีน” อันที่จริงไม่ใช่บางทีหรอก มันก็ทุกทีอ่ะ
“มีอะไรอีกไหม” คริสยังคงเปิดอ่านข้อมูลทางบริษัทของโอ เซฮุนต่อไป ใบหน้าเรียบเฉยเดาอารมณ์ไม่ออก …ผมล่ะกลัวมันจริงๆเวลานี้
“ก็… ขับรถดี ไม่เร็ว ไม่ช้าไป ไม่หวาดเสียว” วัดจากทั้งสองครั้งที่เคยนั่งมา “เอาใจใส่” ก็ตอนสั่งน้ำปั่งไง “ถ้าได้กินอาหารที่ถูกปากจะกินเยอะ” อาหารจีนวันนั้นหมดไปเยอะเหมือนกันนะ “รักสะอาด” ห้องเขาเรียบร้อยมาก “แล้วก็…” ผมเงยหน้าคิด แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคริสกับมินซอกจ้องผมนิ่ง “อะไร?”
“แกจำได้ไงวะ ปกตินี่ถ้าถามเรื่องของสามชั่วโมงที่แล้ว แกยังสับสนเลยนะ” มินซอกแกดูถูก!!!
“จำได้เว้ย! สามชั่วโมงที่แล้วฉันอยุ่กับเซฮุ…” ผมตะครุบปากตัวเองทันที
“ห๊ะ! อยู่กับใครนะ? เซฮุน?” มินซอกทำหน้าล้อเลียน
“มะ…ไม่ใช่!”
“ไม่เห็นแปลก แฟนกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ” คริสว่าก่อนจะยิ้มแซวอีกคน ถึงผมจะเคยแก้ตัวกับมันไปว่าที่ผมเป็นแฟนเซฮุนก็เพื่อหาข้อมูลให้มันล้วนๆก็เถอะ
“เออๆ เลิกพูดๆ” ผมพูดปัดๆ ก่อนกัดขนมปังแก้เขิน
“อืม…วันนี้ไปดื่มกับพวกฉัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงแกเป็นค่าข้อมูล” คริสพูดเรียบๆ ทำเอาผมแทบกระโดดกอดมัน เฮ้! ได้เที่ยวแล้วโว้ยยยย
ผมนั่งคิดเรื่องที่ลู่หานพูดมาตลอดช่วงบ่าย… ‘ก็… ขับรถดี ไม่เร็ว ไม่ช้าไป ไม่หวาดเสียว’ เซฮุนเป็นคนที่ชอบการแข่งรถมาก ต่อให้เป็นตามท้องถนนทั่วไป เขาก็เหยียบร้อยแปดสิบได้ ‘เอาใจใส่’ หมอนั่นก็เหมือนผม ไม่สนใจใคร ‘ถ้าได้กินอาหารที่ถูกปากจะกินเยอะ’ กับคนที่กินเท่าแมวดมมาตั้งแต่เด็กจนโตน่ะหรอ? ‘รักสะอาด’ เวลาผมไปเยี่ยมที่คอนโดนี่ต้องเอาเท้าเขี่ยหาทางเดินเอาเองเชียวนะ ‘สามชั่วโมงที่แล้วฉันอยู่กับเซฮุ…’ ปกติจะไม่ชอบให้ใครอยู่ใกล้ แต่ทำไม… ข้อมูลที่ผมรู้กับที่ลู่หานรู้มันต่างกัน หรือลู่หานโกหก? ไม่…เสี่ยวลู่เป็นคนโกหกไม่เนียน (มาก) หมอนั่นทำไม่ได้หรอก
“มาแล้ว!!” ลู่หานกระโดดมายืนข้างโต๊ะประจำที่ผมกับมินซอกนั่งอยู่
“มาแล้วหรอ? ป่ะ เก็บของ” มินซอกเก็บงานที่วางแผ่อยู่บนโต๊ะ
“ไปเว้ย! คริส?” เสี่ยว ลู่หาน… คนนี้น่ะหรอ ที่ทำให้โอ เซฮุนเปลี่ยนไป…
“…”
“คริส?” …จะเปลี่ยนหมอนั่นได้จริงๆหรอ?
“…”
“ไอ้คริส อู๋!!”
“หือ?”
“ไปกันได้แล้วเว้ย” อืม อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน… งั้นผมขอรอดูอนาคตของสองคนนี้หน่อยแล้วกัน ว่ามันจะลงเอยแบบไหน
เสียงเพลงจังหวะหนักดังก้องไปทั่วสถานที่ที่แน่นไปด้วยผู้คนมากมาย ผมนั่งโยกอยู่บนเก้าอี้ส่วนเคาท์เตอร์บาร์ ด้านข้างเป็นไอ้คริสที่นั่งหมุนแก้วเหล้าอย่างไร้อารมณ์ ส่วนไอ้อ้วนหมินกระโดดโหยงเหยงอยู่กลางฟลอร์เต้น
“…ไอ้เด็กนั่น มันมาจีบชานยอล” ผมปรับอารมณ์แทบไม่ทัน ที่อยู่ๆไอ้คริสก็พูดขึ้นมา แถมเสียงเพลงนี่ก็ดังอีก
“อะไรนะ?” ผมเขยิบเข้าไปใกล้ แล้วเงี้ยหูฟังใหม่
“แถมยังโพล่หน้ามาให้เห็นแทบทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา” ไอ้คริสยังพูดต่อไปไม่สนใจผม นี่มันจะระบายหรือแค่บ่น หูผมต้องทำงานหนักนะเนี่ย
“เออ” ผมก็เออ ออไปกับมันล่ะครับ
“ฉันเกลียดมัน” คริสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอาฆาตแค้น “ไอ้ฮวง จื้อเทา!!” อะไรนะ? จื้อเทา? ไอ้เด็กปีหนึ่งที่หน้าเหมือนแพนด้าคณะสถาปัตน่ะหรอ? โอ้! จื้อเทามันจีบชานยอลหรอเนี่ย
“ใจเย็นๆ ชานยอลรักแกจะตาย ไม่มีทางไปสนใจไอ้หมีแพนด้านั่นหรอก” ผมก็ได้แต่พูดปลอบใจมันไป หวังว่าสิ่งที่ได้ยินมาขาดๆหายๆนี่ผมจะประมวลผลได้ถูกนะ
พอระบายจบไอ้คริสก็ฟุบหน้าลงบนท่อนแขนแล้วนิ่งไป ผมรู้ว่ามันไม่ได้ร้องไห้ แต่ก็แค่เหนื่อยมากไป เท่านั้น มันทำแบบนี้บ่อยๆเวลาต้องสอบย่อยต่อกันหลายๆวิชา ผมเลยปล่อยให้มันนั่งอยู่กับตัวเองไป แล้วเปลี่ยนมาฟังเพลงมันส์ๆแทน แต่แล้วสายตาผมก็เหลือบไปเห็น…
ชะ…ชานยอล? ปาร์ค ชานยอล? ใช่แน่ๆ สูงขนาดนั้น ผมไม่พลาดหรอก! แล้วนั่นใครที่โอบไหล่ชานยอลอยู่น่ะ เฮ้ย!! จื้อเทา!!! บรรลัยล่ะ ถ้าไอ้คริสเงยหน้าขึ้นมาเจอภาพนี้นี่ผับแตกเลยนะเว้ย เอาไงดี?? เอ่อ… แล้วที่ทยอยเดินเข้ามานั่นใคร เพื่อนชานยอลนี่หว่า บอกว่ามากับเพื่อนก็ได้นี่เนอะ… แต่คริสมันจะเชื่อหรอวะ โอ๊ะ! โอ เซฮุน!! นั่นมันชานมบอยยย !!!…ภาพเหตุการณ์ต่างๆไหลเข้ามาในหัวผมจนแทบระเบิด ไม่ไหวล่ะ คริส…ฟุบด้วยคนเพื่อน
“ลู่หาน? เมาแล้วหรอ” เสียงทุ้มๆของคริสดังขึ้นไม่ไกลหลังจากที่ผมฟุบหน้าลงได้ไม่กี่นาที
“หา? ยังๆ” ผมเด้งหัวขึ้นมาจากแขนตัวเองทันที… เอาไงดีวะ
“มินซอกล่ะ” คริสทำท่าจะหันไปมองที่ฟลอร์เต้นรำ แต่เฮ้ย! อย่านะเว้ย พวกชานยอลนั่งอยู่แถวนั้น!!
“มันวิ่งขึ้นไปเหล่สาวบนชั้นสองแล้วมั้ง” ผมพยามเบนความสนใจคริสออกมา ซึ่งมันก็ได้ผล ไอ้คริสมองขึ้นไปชั้นสองทันที
“หรอ?” ไอ้คริสขานรับเรียบๆ แล้วทำท่าจะลุกขึ้น แต่ผมดึงแขนมันไว้ก่อน
“จะไปไหน”
“ไปห้องน้ำ” ผมหันไปมองทางห้องน้ำ อะหือ~ ทางเข้าห้องน้ำอยู่ติดฟลอร์เต้นรำพอดี ช่างเหมาะเจาะเสียจริง
“เฮ้ย~ เดี๋ยวค่อยไป ตอนนี้ห้องน้ำคนเยอะอยู่” ว่าแล้วก็ดึงแขนคนตัวสูงให้นั่งลง
“อะไรของแก มันก็เยอะอยู่ตลอดนั่นแหล่ะ” คริสขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปทางห้องน้ำ แต่…เจอผมล็อกคอไว้ก่อน
“อะ…เอ้อ! คริส เราไม่ได้ดวลเหล้ากันมานานแล้ว มาสักหน่อยมา!” ผมเรียกบาร์เทนเนอร์ให้มาเสิร์ฟเหล้า…อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาไว้ได้นิดหนึ่งล่ะน่า
“อีกแก้วววววว~” ลู่หานยกหัวแทบไม่ขึ้น แต่ปากก็ยังร้องขอเหล้าเพิ่ม นั่นทำให้คริสที่นั่งมองอยู่ถอนหายใจหน่ายๆ คนที่คออ่อนที่สุดในกลุ่มคือมินซอก ส่วนคนที่คอแข็งที่สุดคือคริส ในกลุ่มที่มีกันแค่สามคน ใครล่ะจะอยู่ตรงกลาง? ก็ต้องเป็นลู่หานอยู่แล้ว
“ไม่ต้องแล้วครับ” ร่างสูงยกมือขึ้นห้ามบาร์เทนเนอร์ที่กำลังจะเติมเหล้า ก่อนจะลุกขึ้นจัดแจงตัวเองเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้คนคออ่อนกว่านอนฟุบไป
“พี่ชานยอล อีกแก้วนะฮะ” เสียงเรียกชื่อของคนที่คริสคุ้นเคย ทำให้ร่างสูงหันไปมอง เท้าที่จะก้าวเข้าห้องน้ำชะงัก
“ชานยอล?” คริสเรียกชื่อคนรักออกมาเบาๆ ชานยอลที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะนิ่งอย่างไร้สติยังคงไม่รู้ตัว ข้างๆกันมีจื้อเทาโอบไว้หลวมๆ เพื่อนของชานยอลกับจื้อเทาที่โดนชวนมาด้วยเริ่มรู้สึกถึงไอสังหารที่แผ่ออกมาจากชายหน้าหล่อที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ เลยขอตัวกลับกันในทันที เหลือไว้เพียงชานยอล จื้อเทา และเซฮุน…
“พี่ฮะ วันนี้ไปนอนค้างบ้านผมนะ” จื้อเทาพูดอย่างอารมณ์ดี มือหนาลูบสีข้างชานยอลไปมา…
ผั้วะ!!!
เสียงหมัดกระทบกับใบหน้าทำให้ชานยอลงัวเงียลุกขึ้น ก่อนจะตื่นเต็มตาเมื่อเห็นว่าจื้อเทาลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นแล้ว
“มานี่!!” คริสกระชากแขนชานยอลเดินออกจากผับไปทันที ท่ามกลางความตื่นตกใจของผู้คน
“พี่คริส!!!” ชานยอลพยามสะบัดมือออก แต่ไม่เป็นผล ร่างบางได้แต่ขืนตัวไว้ชั่วคราวเท่านั้น ก่อนจะโดนคริสลากออกไปจนลับตา
โอ เซฮุนมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะลุกขึ้นลากศพ (?) เพื่อนขึ้นมานอนบนโซฟา ก่อนโทรแจ้งให้ที่บ้านมันรับรู้ ร่างสูงเตรียมตัวกลับ แต่ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้… พี่คริสอยู่ที่นี่ แล้วเสี่ยวลู่ล่ะ?
ตาคมกวาดมองไปยังพื้นที่ต่างๆก่อนจะพบว่าลู่หานนั่งฟุบอยู่ที่เคาท์เตอร์บาร์ ร่างสูงจึงเดินตรงเข้าไปหาทันที
“เสี่ยวลู่?” เซฮุนเขย่าตัวลู่หานเบาๆ แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ
“…”
“เสี่ยวลู่ กลับบ้าน” เซฮุนเขย่าแรงขึ้น ลู่หานจึงยกหัวขึ้นมา
“งือ~ เซฮุนนา~” ลู่หานยิ้มหวานโบกมือให้เซฮุนก่อนจะฟุบต่อ…
“เฮ้อ…พี่นี่ขยันหาเรื่องให้ผมจริงๆ” พูดจบ เซฮุนก็ช้อนตัวลู่หานขึ้น ก่อนจะอุ้มออกจากผับไป คนตัวเล็กซุกหัวไปมาอยู่ที่อกร่างสูง เซฮุนยิ้มบางก่อนจะเอ่ยเบาๆกับตัวเอง “พี่ทำให้ผมลำบากขนาดนี้ คงต้องขอค่าตอบแทนบ้างแล้วล่ะ” หึ~
ปล. ตอนนี้คริสยอลจะออกบ่อยหน่อยนะคะ
ความคิดเห็น