ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC JJK/Jujutsu Kaisen ; Shadow Twins (OC)

    ลำดับตอนที่ #1 : Ryomen Sukuna I

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 64


    วัตถุต้องสาประดับพิเศษ

    เรียวเมน สุคุนะ I

     

    Peaceful gif ~ Night time Watermill image - Anime Fans of DBolical - Mod DB

     

    “อากาศดีจังเลยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าสวยประดับด้วยรอยยิ้มกว้าง ดวงตากลมหยีปิดโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

    นั่นเป็นใบหน้าของน้องชายฝาแฝดที่ฟุชิงุโระ เมงุมิมักจะเห็นอยู่เสมอ แม้ว่ารอบกายของเจ้าตัวจะถูกรายล้อมไปด้วยพวกคำสาปมากแค่ไหน ฟุชิงุโระ มิโนรุก็ยังคงยิ้มแย้มได้ ตราบเท่าที่พี่ชายของเขายังอยู่ข้างๆ

    “อารมณ์ดีซะจริงนะ นายน่ะ”

    “ก็แหม ได้มาเที่ยวกับเมงุมิก็ต้องอารมณ์ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

    เด็กหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มว่าพร้อมหมุนตัวเดินถอยหลัง ท่าทางร่าเริงของอีกฝ่ายทำให้เมงุมิส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา แต่ถึงจะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่ายมากแค่ไหนมุมปากของเขากลับยกยิ้ม

    “เรามาทำงานต่างหากล่ะ ทำงาน” เมงุมิว่า ขายาวก้าวข้ามรั้วเหล็กต่ำๆ ไม่วายหยุดยืนรออีกคนให้ข้ามตามมาก่อนค่อยก้าวเท้าเดินต่อ

    ไม่นานทั้งสองก็มาถึงตู้วัดอุณหภูมิที่เป็นที่เก็บเป้าหมายของพวกเข้าในภารกิจครั้งนี้

    “ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเก็บไว้ในนี้จริงๆ บ้ากันหมดแล้วหรือไง”

    “หน่าๆเมงุมิ อาจารย์ก็บอกแล้วนี่ว่ามันจะได้เก็บกู้ง่าย” มิโนรุว่าพร้อมกับดันกรอบแว่นที่สวมอยู่เล็กน้อย

    “ดูเหมือนจะไม่มีอะไรป้องกันไว้เลย.. แต่เพื่อความปลอดภัยให้ฉันเป็นคนเปิดดีกว่านะ” เด็กหนุ่มหน้าหวานหันไปมองพี่ชายฝาแฝดราวกับขออนุญาต ทำให้เมงุมิโบกมือปัดๆเป็นเชิงว่า ‘ตามใจนาย’

    เมื่อได้รับคำตอบมิโนรุก็เอื้อมมือไปเปิดตู้ทันที เขาคิดว่าทันทีที่ตู้เปิดออก มันอาจจะมีอาคม หรือว่าคำสาปสักตัวสองตัวอยู่ด้านในนั้น แต่มันกลับไม่ใช่

    “ไม่มี.. อะไรเลย” 

    “…”

    “พี่ครับ! กล่องนี่มันว่างเปล่า! ไม่มีอะไรอยู่ข้างในเลย!!!”

    เมงุมิเบิกตากว้างทันที เขารีบโผเข้าไปดูในกล่องวัดอุณหภูมิด้วยความตกใจ และมันก็เป็นอย่างที่มิโนรุบอก ด้านในนั้นมันไม่มีอะไรเลย

    เขาพยายามหาทั้งด้านล่าง ด้านบน และด้านหลังของตู้ ซ้ำยังมุดหัวเข้าไปหาข้างในอีกรอบ แต่สุดท้ายแล้วก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า

    มือเรียวรีบกดโทรศัพท์หาอาจารย์ของตนอย่างเร่งรีบ มืออีกข้างที่ว่างก็ยกขึ้นเท้าเอว พร้อมกับปลายเท้าเคาะพื้นเป็นจังหวะ ถ้าให้มิโนรุเดาอารมณ์ของพี่ชายฝาแฝดตัวเองในตอนนี้ล่ะก็

    เขาขอบอกเลยว่าเมงุมิกำลังหงุดหงิดพร้อมต่อยสุดๆ

    “ไม่มีนะครับ” เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เมงุมิก็โพลงขึ้นทันที ดูเหมือนว่าเขาจะหงุดหงิดจนลืมเปิดสปีกเกอร์ให้อีกคนฟังด้วย

    มิโนรุที่เห็นอย่างนั้นก็แอบหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วนั่งลงรอให้ทั้งสองคุยกันไปโดยไม่ได้ทักท้วงอะไร

    เพราะยังไงซะไม่ว่าคำตอบของอาจารย์ตัวเองจะเป็นยังไง ก็คงมีความกวนประสาทปนมาจนน่าต่อยอยู่ดี 

     

    ให้เมงุมิคุยคนเดียวนั่นแหละ ดีแล้ว(´ ᵕ `)

     

    [“จริงอะ? อย่างขำเลยเนอะ!”]

    [“ออกไปเดินเล่นตอนกลางคืนรึเปล่านะ?”]

    คิดแล้วเชียว แค่ได้ยินเสียงที่เล็ดลอดออกมาเบาๆ ก็รู้สึกปวดหนึบที่หัวคิ้วแล้ว นับประสาอะไรกับคนที่ถือสายคุยอย่างเมงุมิ

    “เดี๋ยวก็ชกหรอกครับ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบปลายสายเรียบๆ ปฏิกิริยาของเมงุมิไม่ได้ผิดไปจากที่เขาคาดหมายเท่าไหร่นัก

    มิโนรุลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาก้าวขาเข้าไปยืนชิดกับอีกคนที่ดูคล้ายตัวเองแทบทุกอย่าง ความสูง การแต่งตัว ผมและใบหน้า จะมีต่างกันอยู่ก็แค่ตัวของเขาเองที่สวมแว่นอยู่เสมอ

    แขนแกร่งคว้ากอดเข้าที่เอวของเมงุมิ ก่อนจะตามมาด้วยน้ำหนักบนไหล่ขวา มิโนรุส่งยิ้มตาหยีในขณะที่เอียงศีรษะแนบใบหูใกล้กับโทรศัพท์ในมืออีกคน

    [“นั่นน่ะ จนกว่าจะเอากลับมาได้ ห้ามกลับมานะ”] 

    สิ้นเสียงสายก็ตัดไปทันที มิโนรุดึงโทรศัพท์ออกจากมือของเจ้าของ จัดการกดออกจากหน้าจอรายชื่อมาที่หน้าหลักก่อนจะค้นหาอะไรบางอย่างบนอินเทอร์เน็ต

    “คราวนี้ของชกจริงๆสักทีเถอะ”

    “หน่าๆเมงุมิ ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ เนอะ” มิโนรุว่าพร้อมกับชูโทรศัพท์ที่หน้าจอโชว์ชื่อร้านอาหารต่างๆที่อยู่ในระแวงนี้ให้ดู

    “อ่า… ร้านนี้ดีมั้ย?”

    “ฉันตามใจเมงุมิเลย”

     

     

     

    และแล้วเมื่อคืนพวกเราก็ได้ตกลงกันว่าเมงุมิจะไปหาวัตถุต้องสาประดับพิเศษ นิ้วของเรียวเมน สุคุนะต่อ ส่วนเขาก็กลับมาพักที่ห้องพัก พอเช้าก็ค่อยให้อีกคนมาพักแล้วเขาออกไปตามหาต่อแทน

    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คนที่มีไสยเวทอย่างเมงุมิก็หาตำแหน่งยากเพราะมีกลิ่นอายอยู่เต็มไปหมด แถมเจ้าตัวยังบอกว่ามันแรงอีกต่างหาก

    แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ไสยเวทเป็นศูนย์อย่างเขาจะหาเจอกัน ระยะการรับรู้ถึงพวกคำสาปเองก็ไม่ได้กว้างขนาดนั้น แถมถ้าไม่ใส่แว่นนี่ก็มองไม่เห็นพวกมัน แล้วยังอาวุธที่ถูกอาจารย์ขโมยเอาไปปรับปรุงอีก 

     

    ตอนนี้ตัวเขามันไร้ประโยชน์สุดๆไปเลยไม่ใช่รึไง?

     

    "เฮ้อ... อะไรกันละนั่น" นัยน์ตาสีครามจดจ้องไปยังด้านในสนามรักบี้ นิ้วเรียวก็ยกขึ้นมาดันแว่นตาให้กลับเข้าที่

    มีศพฝังอยู่ใต้นั้นรึไง? มิโนรุคิดพลางถอนหายใจออกมาอีกครั้ง 

    พอยืนนิ่งนานไปหน่อยก็ดูเหมือนจะกลายเป็นจุดสนใจของคนในโรงเรียนไปโดยปริยาย พอหันกลับไปทางอาคารเรียน เขาก็สบตาเข้ากับกลุ่มของนักเรียนกลุ่มนึงทันที นั่นไง ผิดจากที่คิดที่ไหนล่ะ?

    มิโนรุยิ้มบางพร้อมผงกหัวให้พวกเขาเล็กน้อย ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ก้าวขาไปยังที่หมายใหม่ตามที่พี่ชายฝาแฝดส่งข้อความมา

    เขาเดินทอดน่องมาเรื่อยๆตามทาง กระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดที่สองก็ถูกปลดออกเพราะรู้สึกร้อนจากการเดินสำรวจมาทั้งวัน

    ไม่นานนัก เขาก็เห็นใครบางคนกำลังเดินขึ้นบันไดมาทั้งที่สายตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์

    ถ้าอยู่ๆสะดุดขั้นบันไดล้มเข้าสักวันเขาจะไม่แปลกใจเลย

    "อ๊ะ! มิโนรุ!" เมงุมิกุมหน้าผากแผดเสียงออกมาด้วยความตกใจ ดวงตาคู่สวยมองค้อนคนตรงหน้า เรียกเสียงหัวเราะให้กับอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

    "ไม่ต้องมามองฉันอย่างนั้นเลย จะขึ้นบันไดหรือเดินไปไหนมาไหนก็ต้องมองทางด้วยสิ ไม่ใช่เล่นแต่โทรศัพท์จนเดินไปชนคนอื่น ยิ่งคนเยอะๆแบบนี้ด้วย"

    "แต่นายตั้งใจมายืนขว้างให้ฉันชนเองไม่ใช่เหรอ"

    "เป็นงั้นหรอ ฮ่ะๆ" 

    หลังจากที่ได้รับการแทงศอกเข้าที่เอว เราสองคนก็เดินมาถึงบริเวณสนามกีฬา สายตามองตามคนอื่นๆที่วิ่งไปที่สนามกีฬา จะว่าสนใจมั้ยก็สนใจอยู่ แต่เพราะเวลาที่มีมันไม่ได้มากพอที่จะให้เรามัวโอ้เอ้อยู่นัก

    แต่พอเมงุมิหยุดยืนดู ขาของเขาก็หยุดตามในทันที

    "สนใจหรอ?"

    "นิดหน่อย"

    มิโนรุหัวเราะหึให้กับคำตอบของอีกคน เขายกมือขึ้นกอดอก ทอดสายตามองไปเรื่อยจนไปตกอยู่ที่คนที่คาดว่าน่าจะเป็นดาวเด่นของเรื่องในตอนนี้

    ถ้าฟังไม่ผิดคนที่วิ่งผ่านพวกเขาไปเมื่อกี้บอกว่าทาคากิชมรมกรีฑาจะแข่งกับอิตาโดริ ยูจิหรืออะไรสักอย่าง

    ผมสีชมพูพีชนั่นดูน่ารักดีแฮะ

    เจ้าของเรือนผมสีชมพูพีชรับลูกเหล็กที่ใช้ในการทุ่มน้ำหนักมาถือไว้ในมือ เขามองมันเล็กน้อยก่อนจะง้างแขนขว้างมันออกไป ลูกน้ำหนักพุ่งชนเข้ากับเสาประตูฟุตบอลอย่างแรงจนมุมของมันยุบลงไป

    แต่ก็ น่ารักแบบแข็งแรงล่ะมั้งนะ

    การแข่งขันจบในทันที ฝ่ายชนะคืออิตาโดริ ยูจิ ผู้คนที่พากันมามุงดูก็เริ่มแยกย้าย รวมถึงพวกเราสองคนด้วยเช่นกัน

    มิโนรุหันหลังเตรียมเดินต่อไป แต่เมงุมิยังคงยืนอยู่ที่เดิม นัยต์ตาสีน้ำเงินเข้มจดจ้องไปยังผู้ชนะ มิโนรุไม่รู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไร แต่เขาก็ไม่ได้เร่งรีบให้เรียกเมงุมิให้ตามมา

    และแล้วเมงุมิก็ละสายตาออกจากอิตาโดริ เขาหันหลังเตรียมจะเดินตามน้องชายฝาแฝดไป แต่ในตอนนั้นเองเจ้าของเรือนผมสีชมพูพีชก็วิ่งผ่านหลังของพวกเขาไป

    กลิ่นอายความน่ากลัวแผ่กระจายมายังพวกเขาทั้งสองคนโดยตรง ราวกับความหวังทั้งหมดได้หายไปจากโลกใบนี้

     

    ไม่ผิดแน่ มันคือวัตถุต้องสาประดับพิเศษที่พวกเขากำลังตามหา !

     

    "ฉันจะตามเจ้านั่นไป นายรออยู่ที่นี่นะ" เมงุมิว่าพร้อมกับสวมใส่เสื้อคลุมเครื่องแบบของโรงเรียนด้วยความเร่งรีบ

    มือเรียววางลงบนไหล่ของมิโนรุ ออกแรงบีบเบาๆราวกับพยายามย้ำเตือนตัวเอง

    "ถ้าเจอคำสาป นายต้องเลี่ยงพวกมันนะ เข้าใจมั้ยมิโนรุ?" เสียงทุ้มเอ่ยเต็มไปด้วยความจริงจัง ตาคู่สวยมองสบกันอยู่ครู่นึง และก็เป็นมิโนรุที่หลุบตาลงแล้วพยักหน้าให้อีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้

    ให้ตายสิ... ถึงคนอื่นที่มองมาต่างคิดว่าเขาเป็นแฝดพี่และเมงุมิเป็นแฝดน้อง เพราะเขามักจะตามใจแล้วก็ดุอีกฝ่ายตอนทำอะไรไม่ระวังบ่อยๆ

    แต่ความจริงแล้วเมงุมิน่ะ เป็นพี่ชาย เป็นพี่ชายที่สุดยอดที่สุด เป็นมาตลอด

    ถ้าไม่มีเมงุมิ เขาก็คงทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

     

     

     

    * hi blue *

    ไม่รู้ว่าจะสั้นไปรึเปล่า การบรรยายอาจจะมีอะไรดูงงๆไปบ้าง อย่างการแทนตัวหรือว่ามุมมองต่างๆ เพราะว่าตัวบลูใช้การบรรยายแบบบุคคลที่สามบวกกับตัวละครนั้นๆ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจกันนะคะ แต่ถ้าไม่ชอบหรือยังไงก็สามารถบอกบลูได้นะคะ

    thanks for reading <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×