ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุริยัน จันทรา ดารา

    ลำดับตอนที่ #2 : การสูญเสีย (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 53


    Chapter2



                    ชายชราได้นั่งอยู่คนเดียวและครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ถึงแม้ว่าไอโอลีและเฟนเดลเลียจะไม่ใช่หลานแท้ๆแต่เขาก็รักพวกเธอมาก เขาเก็บพวกเธอทั้งสองคนได้เมื่อประมาณ 9 ปีก่อนที่หน้าโรงแรมของเขาเอง

     

    พวกเธอทั้งสองมาในตระกร้าสีน้ำตาลแก่และมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ดูเหมือนกับนิทานปรัมปราเรื่องหนึ่ง และจดหมายวางไว้ด้านบน ภายในจดหมายมีเนื้อหาว่าพวกเธอนั้นแตกจ่างจากเด็กคนอื่นๆโดยสิ้นเชิงและขอร้องให้เขารับเลี้ยงเด็กทั้งสองไว้โดยตั้งชื่อคนที่มีดวงตาสีเขียวว่าไอโอลีอีกคนที่มีดวงตาสีม่วงอ่อนว่า เฟนเดลเลีย

     

    ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อเนื้อความในจดหมายมากเท่าใดนัก แต่เขาก็ตั้งชื่อเด็กทั้งสองว่า     “ไอโอลี”และ “เฟนเดลเลีย”

     

    เมื่อโตขึ้น ไอโอลี แม้ว่ายังเด็กแต่ก็มีดวงหน้าที่งดงามยิ่งนัก เรือนผมสีทองละเอียดเงางามดุจไหมชั้นดีเข้ากันได้ดีกับดวงตาสีมรกตสดใส ผิวเนียนขาวราวหิมะน่าทะนุถนอม เธอเป็นคนที่นิสัยร่าเริงและอ่อนโยนต่อทุกคน

     

     เฟนเดลเลียก็เช่นกันดวงตาสีม่วงเข้มส่องประกายแรงกล้าเข้ากันกับผมหยักศกสีน้ำเงิน ดวงหน้าคมเข้มรับกับผิวสีขาวเนียน เธอเป็นคนที่อ่อนโยนและเรียบร้อย เด็กทั้งสองคนเป็นเด็กที่ฉลาดและเรียนรู้ได้ไวอย่างน่าตกใจ

      เขาได้ทดสอบเรื่องที่ได้บอกไว้ในจดหมายทันทีที่พวกเธออายุได้ สองขวบ เขาทดสอบหลายๆรอบเข้าก็รู้ได้ว่าจดหมายฉบับนั้นไม่ได้โกหก ไอโอลีสามารถมองเห็นอนาคตและเฟนเดลเลียสามารถมองเห็นอดีตได้จริง ดูเหมือนว่าพลังของพวกเธอจะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา

     

    แต่ด้วยความรักและความห่วงใยทำให้เขาไม่คิดจะหาผลประโยชน์ใดๆจากความสามารถพิเศษของพวกเธอและปกป้องพวกเธออย่างเต็มความสามารถไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เขาเฝ้าบอกพวกเธอเสมอว่าอย่าใช้พลังพร่ำเพรื่อให้ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น...

      

    (มาต่อแล้วค่ะ)

       ตัวเขาเองนั้นใช้ชีวิตมีครอบครัวมีลูกหลานแล้ว แต่การที่ได้พบกับเด็กทั้งสองก็ทำให้ชีวิตของเขาไม่เงียบเหงา เปรียบเหมือนได้น้ำหล่อเลี้ยงให้ชุ่มชื่นหัวใจเพราะภรรยาเขาได้ตายจากไปนานแล้ว

     

    เขาเปิดกิจการโรงแรมเล็กๆอยู่ที่ชนบทใกล้ๆ น้ำตกชื่อดังแห่งหนึ่งของโลก โรงแรมของเขาเป็นโรงแรมสองชั้นที่ภายนอกทำด้วยไม้และด้านในตกแต่งแบบเป็นกันเอง ด้านหน้ามีเคาเตอร์เล็กๆไว้ต้อนรับแขก ด้านในเป็นห้องอาหารที่มีขนมปังหอมกรุ่นสูตรพิเศษไว้บริการตลอด รายได้ในแต่ละเดือนก็ไม่มากไม่น้อย แต่ในช่วงเทศกาลงานต่างๆนั้นโรงแรมของเขาก็จะเต็มเป็นที่แรกๆเพราะนักท่องเที่ยวชอบความเป็นกันเองและการบริการแบบเอาใจใส่ลูกค้าเสมอต้นเสมอปลาย ถึงโรงแรมของเขาจะเป็นโรงแรมเล็กๆแต่ก็ได้รับยกย่องว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในแถบนี้ทีเดียว

     

      ลูกๆของเขาเองก็กลับมาช่วยบริหารโรงแรมทันทีที่รู้ว่าเขารับเลี้ยงเด็กหญิงสองคน เขารู้ว่าลูกๆของเขาอิจฉาไอโอลีและเฟนเดลเลียเพราะกลัวเขายกโรงแรมให้เด็กสองคนนั้น เพราะที่ดินตรงบริเวณนี้ถือเป็นทำเลทองที่หายากมาก

     

    เขาเป็นห่วงอนาคตของไอโอลีและเฟนเดลเลียเสียจริงๆเพราะตัวเขาก็เองป่วยหนักมานานแล้วแต่ไม่ได้บอกใครเขาไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้นานเท่าไรแต่ก็คงไม่นาน... และชายชราก็ผลอยหลับไปบนเตียงนอนในห้องของตน

    ................................................................................................................................

     

    .........................................................................................................

     

    ............................................................................

     

    ..................................................

     

    .....................

     

    ........

     

    ..

     

    .

    อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณปู่ ไอโอลีกระซิบที่ข้างหูของคนชราที่นอนอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง วันนี้เธอตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อมาหาคุณปู่ของเธอโดยเฉพาะ อากาศที่เริ่มเย็นลงทำให้เธอเป็นห่วงสุขภาพของคุณปู่ที่แก่แล้ว

     คุณปู่คะ เธอเรียกอีกครั้งพร้อมเอามือเล็กๆแตะไปที่แขนของคนชราเบาๆ แต่ก็ต้องรีบชักมือออกมา

     

    -ทำไมถึงเย็นอย่างนี้-เธอคิดด้วยความตกใจแล้วมองไปที่อนาคตของคุณปู่ทันที

    -ไม่มี!!! ทำไมคุณปู่ไม่มีอนาคต-

    คุณปู่...เป็นอะไรรึปล่าวคะ? เธอเรียกเขาอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้นและเขย่าแขนชายชราแรงๆแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอหารู้ไม่ว่าร่างที่นอนอยู่อย่างสงบนิ่งนั้นไม่เหลือแล้วแม้แต่เศษเสี้ยวของวิญญาณ... คุณปู่ของเธอได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบตลอดกาล...

     

    คุณปู่!”เธอตะโกนเสียงสั่นเครือ

     

    “คุณปู่!!!!





    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ณ ห้องโถงใหญ่ที่มีโต๊ะกลมสำหรับนั่งประชุมกันตั้งอยู่ตรงกลาง มีคนนั่งอยู่เต็มทั้งสองฝั่ง ถึงแม้ว่าดวงอาทิตย์จะคล้อยต่ำลงกว่าตอนแรกมากแล้ว แต่คนสองคนที่กำลังนั่งถกเถียงกันไปมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิก


                    หนึ่งคือสตรีผู้มีรูปลักษณ์งามสง่าดุจนางพญา ผิวสีขาวเนียน ดวงหน้างามคมและนัยน์ตาสีมรกต ผมสีทองยาวถูกเกล้าขึ้นสูงทำให้ยิ่งดูมีอำนาจ ชุดสีครีมที่ยาวคล้ายชุดราตรีถูกสวมไว้ด้านใน ด้านนอกนั้นมีผ้าคลุมไหล่สีขาวบางๆคลุมอยู่


                    อีกหนึ่งคือ บุรุษผู้มีรูปลักษณ์ดุจพญาราชสีห์ น่ายำเกรง...และมีอำนาจในคราเดียวกัน โครงหน้าคมเข้มแสดงเด่นชัดถึงความเป็นบุรุษ รูปร่างที่สมส่วนดูแข็งแรง นัยน์ตาสีม่วงเข้มนั้นราวกับจะสะกดผู้คนให้อยู่ในอำนาจตน ผมสีน้ำเงินเข้มตัดสั้นอย่างเรียบง่าย เครื่องแต่งกายสีกรมท่าคล้ายทหารถูกสวมใส่อย่างบรรจง

     

    “ ท่านคิดว่าเป็นความผิดของใครกันที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้” เสียงหวานทรงอำนาจดังขึ้นในความเงียบ

    “อย่ามากล่าวหากันลอยๆเช่นนี้ ท่านมาร่า”เสียงทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นโต้แย้ง

    “เรื่องใหญ่แบบนี้ ฝ่ายท่านมารู้เอาตอนนี้ คนอื่นเขาจะคิดว่าตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากดวงดาราเช่นพวกท่านหมดน้ำยาแล้วกระมัง” ริมฝีปากของหญิง เจ้าของชื่อมาร่าเหยียดขึ้น

     

    “แล้วฝ่ายท่านเล่า เหตุใดจึงไม่ยับยั้งเรื่องนี้ก่อนมันจะเกิด ดูท่าแล้วก็น่าเห็นกันอยู่ว่าตระกูลที่ได้ชื่อว่าสืบเชื้อสายมาจากจันทราเช่นท่านต่างหากที่ไม่มีความสามารถหยุดยั้งเหตุการณ์อันน่าเศร้าเช่นนี้”เสียงทุ้มเสียงเดิมเอ่ยเถียงก่อนเอ่ยต่อน้ำเสียงที่ไม่อาจคาดเดาความรู้สึก

     

    “แล้วการที่สตรีเพศเยี่ยงท่านได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าตระกูลจันทรานั้น มิใช่ด้วยอำนาจที่แท้จริงหากแต่เป็นเพียงความบังเอิญมิใช่หรือ?”

    “ท่านคาเอล...อำนาจที่แท้จริงอะไรกัน? เมื่อเทียบกันแล้วเด็กคนนั้นในตระกูลของท่านยังมีอำนาจที่ว่ามากกว่าท่านอีกมิใช่รึ...”มาร่าเอ่ยทวนคำอย่างกรุ่นโกรธ

     

    “ท่าน! เอาเถิด...ข้าว่าอย่ามามัวเถียงกันอยู่เลย ข้าเห็นว่าเราควรรีบดำเนินการอย่างเร็วที่สุด จริงไหมท่านมาร่า”       คาเอลขึ้นเสียง ก่อนถอนหายใจพร้อมเอ่ยตัดบทเพราะกลัวจะยืดเยื้อ สงครามฝีปากนี้ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่หยุดก็คงไม่จบง่ายๆเป็นแน่

    “ถ้าเช่นนั้นข้าเห็นว่า ในเมื่อฝ่ายท่านเป็นคนหาตัวพวกเธอเจอก็ควรจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบต่อไป ฝ่ายตระกูลเรานั้นขอเพียงแค่บุคคลที่จะไปรับตัวพวกเธอไม่ใช่คนของตระกูลดาราก็พอ”มาร่าเอ่ย

     

    “หึ ไม่ไว้ใจกันอย่างถึงที่สุดจริงๆ ฝ่ายเราเองก็คิดหาคนเอาไว้แล้ว เอาเป็นจอมปราชญ์มหาเวทย์อันดับหนึ่งคนนั้นดีไหมเล่า?”คาเอลเสนอ

    “หืม...เขาคนนั้น ผู้ที่ไม่ยอมยุ่งเกี่ยวเรื่องของทั้งสองตระกูลมาแต่ไหนแต่ไรจะยอมช่วยเหลือหรือ? แต่ว่าด้านความสามารถและความเป็นกลางนี่ล่ะ ข้าเห็นด้วยยิ่งนัก”มาร่ายอมรับ

     

    “เรื่องการให้ความร่วมมือของเขานั้นทางเราจะเป็นผู้ประสานงานเองท่านอย่าได้เป็นห่วง และเราจะติดต่อไปยังท่านทันทีที่มีความคืบหน้า”คาเอลรับปาก

    “ถ้าเช่นนั้น ฝ่ายเราก็ขอรับข้อเสนอและหวังว่าตระกูลดาราจะไม่ทำให้เราผิดหวังอีกเป็นครั้งที่สอง ข้าในฐานะหัวหน้าตระกูลจันทราและญาติสนิทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเธอ ขอขอบคุณตระกูลดาราจากใจจริง”มาร่าเอ่ยพร้อมก้มหัวเล็กน้อย เป็นการขอบคุณ


                 
    ในที่สุดก็หาพบ...เด็กที่หายไปเมื่อหกปีก่อน ถ้ามีเธออยู่เธอจะสามารถหยุดยั้งเหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้จริงๆน่ะหรือ? คำทำนายโบราณที่ได้กล่าวไว้หมายถึงเธอใช่ไหม บุคคลที่ตระกูลของเราเฝ้าคอยมาตลอด ห้าพันปี... ภาระหนักอึ้งนี้...มันสมควรแล้วหรือที่จะผลักไสไปไว้บนไหล่เล็กๆของเด็กคนนึง... มาร่าคิดในใจ




     อย่าลืมเม้นให้ด้วนนะคะ (ลืมแก้ชื่อตอนค่ะ 100% แล้วค่ะ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×