คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เรียนและรู้ 2 (100%)
ตอนนี้ไอโอลีอยู่ในห้องขนาดใหญ่ เหมือนห้องซ้อมกีฬา พื้นห้องเป็นไม้สีน้ำตาลสะอาดตา เพดานก็สูงประมาณตึกสามชั้น ตรงผนังมีอาวุธมากมายหลายชนิดแขวนอยู่ ตั้งแต่ดาบขนาดใหญ่ ขวาน ลูกตุ้ม เรียงไปจนถึงพวกอาวุธลับ พวกดาวกระจาย เข็ม มีดสั้น ทั้งหมดนี้กินบริเวณผนังไปเกือบครึ่ง จะเรียนไปทำไมนะ?
“คุณลุงคะ?ทำไมมีแต่ของน่ากลัวๆทั้งนั้นเลย เราไม่ได้ไปทำร้ายใครใช่ไหมคะ”ไอโอลีถามด้วยความข้องใจ
“คุณปู่บอกว่าทำร้ายคนอื่นเป็นสิ่งไม่ดี” เฟนเดลเลียเห็นด้วย
“ไม่ใช่ๆไม่ได้สอนให้เอาไปทำร้ายใคร ลุงสอนเอาไว้ให้ป้องกันตัวหรือไม่ก็เอาไว้ช่วยคนอื่นเอาล่ะลุงจะเริ่มฝึกพวกเธอให้เอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่งแล้วกัน นอกนั้นก็ไปฝึกเอาเองเข้าใจไหม” เมอร์ดาสพูดกับเด็กทั้งสอง
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปได้สองอาทิตย์ การเรียนรู้ของเด็กทั้งสองคนสูงมากจนน่าตกใจ ศาสตร์ป้องกันตัวแทบจะทุกอย่างถูกสอนให้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะเวทมนต์แขนงต่างๆที่ทั้งสองสนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เช่นมนต์ป้องกัน มนต์โจมตีหรือมนต์รักษา ยิ่งรุดหน้าเร็วกว่าที่คาดคิดไว้แถมยังมีความสามารถในการประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนรู้อย่างเกินคนธรรมดา มีอยู่วันหนึ่งขณะที่เขากำลังสอนมนตราโจมตี ไอโอลีก็ถามขึ้นมาว่า ที่ๆเธอจะไปอยู่นั้นอันตรายขนาดไหน? เขาก็ได้แต่ยิ้มแล้วตอบไปว่ามันก็ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย
“พวกเธอรู้ใช่ไหมว่าพรุ่งนี่ก็ถึงวันกำหนดส่งตัวพวกเธอกลับบ้านแล้ว ลุงขอให้พวกเธอระวังตัวเพราะการใช้ชีวิตที่นั่นคงจะยากลำบากและคงมีคนไม่หวังดีคอยจ้องทำร้ายพวกเธอแน่นอน ลุงขอย้ำอีกครั้งดังที่ได้ย้ำมาตลอดการสอน ห้ามใช้พลังเวทย์ถ้าไม่คับขันและห้ามให้คนอื่นรู้ว่าพวกเธอใช้พลังประจำตระกูลได้ เพราะพลังของคนทั่วไปนั้นจะตื่นเมื่ออายุ 17 ปี เข้าใจไหม”
ไอโอลีและเฟนเดลเลียพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่เฟนเดลเลียจะถามขึ้นว่า “แล้วลุงจะไปอยู่กับพวกหนูด้วยรึปล่าวคะ?”
“ไม่...พวกเธอต้องอยู่กันเองและจงเรียนรู้ให้มากเข้าไว้ วันนี้ไม่มีการสอนพวกเธอก็ไปพักให้สบายเถอะเก็บแรงเอาไว้เยอะๆ สำหรับวันพรุ่งนี้...”
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พวกเธอกินอาหารเช้าแล้ว ลุงเมอร์ดาสก็พาพวกเธอเดินออกจากห้องอาหารหลังกินข้าวเช้าเสร็จ เขาหยุดมองรูปต้นตระกูลเล็กน้อยด้วยแววตาที่ดูแปลกๆ จากนั้นก็พาพวกเธอไปที่ห้องๆหนึ่งที่เพียงแค่ยืนอยู่หน้าประตูไม้สีดำโทรมๆก็รู้สึกถึงอะไรสักอย่างที่เก่าแก่และทรงพลังได้ในทันที เมื่อเปิดประตูกลิ่นไอของอะไรบางอย่างก็ทะลักออกมาอย่างห้ามไม่ได้ พวกเธอเริ่มรู้สึกเกรงกลัวต่อพลังอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ในห้องนี้ซะแล้ว เมอร์ดาสก้มลงมองเด็กๆที่ยืนข้างๆก่อนเอ่ยเสียงเรียบว่า “ตามมา”
ภายในห้องนี้มีเพียงแสงเทียนไม่กี่เล่มถูกจุดไว้ เพียงเมอร์ดาสวาดมือออกไปทั้งห้องก็สว่างไสวด้วยแสงเทียน มองเผินๆแล้วมันเป็นเพียงห้องโล่งๆที่มีเชิงเทียนตั้งอยู่ทั่งห้อง แต่ที่พื้นกลับมีอักขระโบราณวาดอยู่เป็นวงกลมบ้างสามเหลี่ยมบ้างทับซ้อนกันอยู่มากมายแต่เป็นระเบียบ ยิ่งเมื่อมองนานๆก็ทำให้รู้สึกว่ากำลังโดนดูดเข้าไป เมอร์ดาสพาเด็กๆไปยืนที่ตำแหน่งตรงกลางของอักขระ แล้วล้วงจี้หินสีขาวขุ่นออกมาก่อนพึมพำเบาๆ
วาบ แสงสีขาวสาดไปทั่วห้องก่อนดับลง เผยให้เห็นม้าเพศเมียสีเทาตัวหนึ่งยืนอยู่ข้างๆเมอร์ดาส จะไม่เป็นไรเลยถ้ามันเป็นเพียงม้าสีเทาธรรมดา แต่นี่มันมีปีก!!! เด็กทั้งสองได้แต่ตื่นตะลึงกับสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น
“ขอแนะนำ นี่โลล่า ภูตของลุงเอง” เมอร์ดาสเอ่ย โลล่าผงกหัวน้อยๆ ก่อนที่มันจะเอ่ยปากพูด “ยินดีที่ได้รู้จักคุณหนู หวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะ”
ไอโอลีและเฟนเดลเลียได้แต่ยืนทำตาโต พูดได้ด้วย??
“แล้วหนูจะมีภูตบ้าง...ได้....ไหม........ค”ไอโอลียังพูดไม่ทันจบประโยคกลิ่นหอมเหมือนที่พวกเธอเคยได้กลิ่นเมื่ออยู่บนรถก็ลอยมาแตะจมูกอีกครั้ง พวกเธอทรุดฮวบลงกับพื้นและหลับไปในทันที
“มีสิ...พวกเธอจะได้มีภูตแน่นอน”เมอร์ดาสยิ้มบางๆ เขานำเด็กทั้งสองขึ้นขี่หลังโลล่าก่อน ท่องคาถาดังก้องและยาวเหยียด แสงหลากสีพุ่งออกมาจากพื้นเมื่อแสงจางหายไปก็ไม่มีร่องรอยของสิ่งที่เคยอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว....
ท่ามกลางธรรมชาติและท้องฟ้าสีฟ้าใสไร้เมฆบัง ดวงอาทิตย์สาดแสงสีทองอันอบอุ่นมาเคลือบทับโลกเอาไว้ มีโบราณสถานที่ดูเก่าแก่ เสาหินสี่ต้นที่มีเถาวัลย์พันอยู่รอบๆถูกวางไว้บนแผ่นหินสีเทาหม่น และมีกลุ่มบุคคลสองกลุ่มยืนรอคอยอะไรบางอย่างอย่างสงบเงียบไร้เสียงพูดคุย ต่างก็จ้องกันไปมาด้วยแววตาวาววับราวกับจะหาเรื่องได้ทุกเมื่อ วาบ... สงครามประสาททางสายตาหยุดลง แสงหลากสีพุ่งออกมาจากพื้นหินสีเทาที่ดูเก่าแก่นั้นพร้อมกับปรากฏสิ่งที่ทั้งสองกลุ่มรอคอยมานาน เด็กสองคน ภูตหนึ่งตนและชายหนึ่งคน
“เด็กคนไหน ที่เป็นคนของตระกูลดารา?”เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้น
ตาสีเขียวหม่นของเมอร์ดาสสบเข้ากับดวงตาสีม่วงเข้มอย่างจงใจ เขาค่อยๆอุ้มเฟนเดลเลียก่อนเดินไปส่งให้เจ้าของเสียงทรงอำนาจนั้น
“เฟนเดลเลีย คือชื่อของเธอครับท่านเคออส”เมอร์ดาสพูด
เคออสมองเด็กหญิงที่บัดนี้อยู่ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน เขาลงมืออ่านอดีตของเฟนเดลเลียทันทีและมีทีท่าพึงพอใจเมื่อรู้ว่าเฟนเดลเลียยังไม่สามารถใช้พลังใดใดได้ แต่เขาหารู้ไม่ว่าอดีตที่เขาเห็นเป็นอดีตที่ดัดแปลงแล้วโดย จอมปราชญ์มหาเวทย์อันดับหนึ่งของแผ่นดินที่ชื่อว่า เมอร์ดาส เซเรย์ คนนี้!!!
เมอร์ดาสเดินไปหาคนอีกกลุ่มที่ยืนรออยู่ ก่อนจะอุ้มไอโอลีและส่งให้ผู้หญิงคนหนึ่ง
“เธอชื่อไอโอลี ครับท่านมาร่า” เมอร์ดาสเอ่ยกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ข้าต้องขอบคุณท่านมากที่นำตัวเธอมาให้เรา นี่เป็นความผิดพลาดที่ทางเราจะไม่มีวันให้เกิดขึ้นได้อีก” เสียงหวานทรงอำนาจเอ่ยออกมาจากบุคคลที่เมอร์ดาสเรียกว่าท่านมาร่า มาร่าหันหลังกลับและเดินไปขึ้นรถม้าซึ่งจอดรอไว้
ส่วนเมอดาสนั้นก็เดินไปหาเคออสอีกครั้งเพื่อทวงค่าตอบแทน เขายิ้มอย่างสุภาพก่อนเอ่ยปาก
“ข้าหวังว่างานครั้งนี้คงเป็นที่พึงพอใจของท่านนะขอรับ? ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอค่าตอบแทนที่เราได้ตกลงกันไว้ด้วยเถิดขอรับ...”
เคออสพยักหน้าก่อนที่จะหันหน้าเรียกคนเอาของมาให้ “สิ่งของนี้เป็นของล้ำค่าและไม่อาจประเมินราคาได้ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เจ้าต้องการก็จงนำมันไป ข้าจะไม่ถามว่าเจ้าจะเอาไปทำอะไรโปรดรักษามันให้ดี ”
กล่องไม้ยาวขนาดกลางสีน้ำตาลแก่ถูกส่งมอบแก่เขา เมอดาสรับของแล้วโค้งเล็กน้อยเพื่อบอกลา
“เดี๋ยวก่อน เอานี่ไปด้วย ถือซะว่าเป็นค่าที่เจ้าทำงานดี”เคออสเรียกเมอดาสเอาไว้และให้คนมอบถุงเงินจำนวนหนึ่งให้ เคออสทำท่าเหมือนอยากจะถามอะไรต่อแต่เมอดาสกลับชิงพูด
“ขอบคุณท่านมาก”เมอดาสตอบเบาๆก่อนรับถุงไปวางบนกล่องไม้ เขาโค้งให้เคออสอีกรอบก่อนที่จะมีสายลมพัดเอาร่างเขาจางไปในอากาศ
หนึ่งเดือน...คือเวลาที่เขาขอในการทำงานนี้ ถือว่าเป็นเวลาที่พอดีไม่สั้นไม่ยาวในการตามหาตัวเด็กสองคน แต่เขาแน่ใจว่าความสามารถระดับเมอดาสต้องหาเด็กเจอภายในหนึ่งอาทิตย์แน่นอน แล้วอีกสามอาทิตย์ล่ะ?เขาทำอะไรอยู่กันแน่ นี่คือสิ่งที่เคออสกำลังจะเอ่ยปากถามแต่กลับถูกขัดขวาง เขาก้มลงมองเด็กหญิงที่นอนอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขา คงไม่มีอะไรหรอก...
ความคิดเห็น