ตอนที่ 3 : บทที่ 2 100%
บทที่ 2
“เฮ้อกว่าจะจบฉันล่ะเกลียดการปฐมนิเทศจริงๆ”
“ประธานนักเรียนมีสิทธิพูดแบบนั้นด้วยหรอแล้วก็ไม่ต้องมาทำเป็นพูดสุภาพเลยไอ่เหงือก”
“แหมกูพูดนิดพูดหน่อยไม่ได้เลยนะคุณรองประธานบ่นแต่กูมึงเองก็รีบเดินเพื่อจะไปน้องแจจี้มึงเหมือนกันแหละ” ผมยักไหล่ก็จริงอย่างที่ยงกุกพูดผมคิดถึงของผมนี่นา พวกเราห้าคนหลังจากจบพิธีปฐมนิเทศก็ตรงดิ่งกับห้องทันที
“เฮ้ยๆไม่อยู่สองสามชั่วโมงเกิดไรขึ้นวะเนี่ย” ฮิมชานขมวดคิ้มประตูห้องสภาพถูกพังและดูเหมือนคนพังจะพยายามซ่อมให้เหมือนเดิมแต่ก็ยับเยินพอควร ผมไม่รอช้ารีบเขามามองหาคนตัวเล็กแต่ไร้ซึ่งวี่แวว สภาพห้องถูกรื้อค้นเหมือนหาอะไรบางอย่าง ขายาวก้าวไปที่โต๊ะของประธานนักเรียนแบบถือวิสาสะซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไร เปิดโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะแล้วเช็คภาพจากห้องวงจรปิดยองแจของผมที่พึ่งตื่นเดินออกจากห้องไปไม่ถึงห้านาทีก็วิ่งกลับเข้ามาล็อกห้องแล้ววิ่งไปแอบที่ระเบียงไม่นานก็มีชายหนุ่มสองสามคนพังประตูเข้ามาแล้วหาคนตัวเล็กขอผมไปทั่วทุกมุมห้องจนมีคนหนึงไปที่ระเบียงแต่ก็เดินกลับมาตัวเปล่าแล้วบอกว่าไม่เจอ
“ฮิมชาน” ผมหนหลังไปเรียกไอ่ฮิมชานที่ดูภาพอยู่กบผม
“กูรู้แล้ว เจลโล่” มันหันไปเรียกแฟนมันก็จะออกจากห้องไป ผมหันไปมองไอ่ยงกุก
“มึงไม่ต้องสั่งเดี๋ยวกูจัดการเอง” แล้วมันก็ออกจากห้องไปกับจงออบด้วยความคิดที่ว่ากูหรือมันวะที่เป็นประธาน หลังจากมอบหมายงานให้เพื่อนเสร็จผมก็เดินออกมาสำรวจที่ระเบียง ชั้นที่พวกผมอยู่คือชุ้นสามไม่มีทางที่ยองแจจะกระโดดลงไปได้ผมมองสำรวจไปรอบจนไปสะดุดกับรอยนิ้วมือที่ราวจับจงออบเป็นคนรักความสะอาดจึงมักจะให้แม่บ้านมาทำความสะอาดบ่อยๆและปกติแล้วราวจับที่ระเบียงจะไม่มีแม้แต่ฝุ่นมาจับแต่ตอนนี้ปรากฏรอยนิ้วมือสองรอยและผมจำได้แม่นหนึ่งในนั้นเป็นของยองแจแล้วอีกรอยเป็นของใครกันล่ะ
แสงแดดยามบ่ายส่องผ่านพงไม้มายังชายหนุ่มที่กำลังหลับสนิทอยู่ใต้ต้นไม้มือบางยกขึ้นขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น
“อือ..แสบตา”
“อ้าวตื่นแล้วหรอ ตอนนายสลบไปฉันตกใจแทบแย่แหนะ นี่น้ำ” ชายหนุ่มร่างสูงทักทายพร้อมยื่นแก้วน้ำให้ผมรับมาแบบงงๆเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆทบทวนความทรงจำของตัวเอง
“นายกำลังสงสัยหรอว่านายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ครับ”
“ตอนแรกนายอยู่ที่ระเบียงใช่ไหมล่ะ”
“งั้นคุณก็คือคนที่พาผมลงมาจากระเบียงชั้นสามมาที่ระเบียงชั้นสองสินะครับ”
“ถูกต้องตอนนี้เราอยู่ข้างล่างหลังอาคาร อาคารี่ฉันเจอนายอยู่ตรงนู้น” ผมมองตามแล้วเจออาคารที่เขาบอกดูแล้วคงจะเป็นอาคารที่แดฮยอนพาผมเข้าไปล่ะมั้ง
“แล้วคุณ..”
“อ๋อ ฉันชื่อ ชานยอล ปาร์ค ชานยอล ยินดีที่ได้รู้จักนะ” มือขาวซีดยื่นมาตรงหน้าชานยอลยิ้มอย่างเป็นมิตร เขาคงเป็นคนดีล่ะมั้ง(อ้าว)
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันผม ยองแจ ยู ยองแจครับ” ผมเอื้อมไปจับมืออีกฝ่ายพร้อมตอบอย่างสุภาพก่อนจะยกน้ำขึ้นมาดื่ม
“ยองแจ ชื่อเพราะดีนะ” ชานยอลทิ้งตัวลงนอนบนขาของยองแจก่อนจะแย่งแก้วน้ำจากคนตัวเล็กมาดื่ม
“สดชื่น!!!”
“แล้วทำไมต้องนอนบนขาผมด้วยล่ะ”
“ทำไมน่ะหรอ อืม….ไม่ตอบปล่อยให้งง! โอ๊ย!!” ได้ผลทันตาบนหัวชานยอลมีลูกมะนาวงอกขึ้นมาหนึ่งลูกส่วนคนทำนั้นก็ไม่ได้สำนึกผิดแต่อย่างใดยังคงไว้ซึ่งสีหน้าเรียบเฉย
“ย่าห์! นี่นายทำกับคนที่พึ่งรู้จักแบบนี้หรอยองแจ!!!”
“ผมคิดว่าเรารู้จักกันมาได้15นาทีแล้ว ผมถือว่าเรารู้จักกันนานพอที่จะทำแบบนี้ได้ครับ” ชานยอลได้แต่กัดฟันกรอดแต่ผมไม่สนใจหรอกผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนี่ (เอ่อ)
“ตอนแรกมาอย่างกับเทวดาทำไมกลายเป็นปีศาจร้ายไปได้ฟะ”
“แล้วใครบอกว่าผมเป็นเทวดากันล่ะ”
“เอ่อ…ได้ยินหรอ…ครับ” ผมปลายตามองอีกฝ่ายนิ่งๆจริงๆก็ไม่ได้อยากจะก้าวร้าวหรอกนะผมที่เป็นแบบนี้น่ะแดฮยอนยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำไป
“ช่างเถอะ..หืม” ชานยอลสงสัยกับปฏิกิริยาของผมเลยหันไปมองทางด้านหลังเขาชะงักไปเมื่อเห็นว่าใครเดินมาผมว่าผมเห็นแววตาเขาดูเศร้าไปนะ คนที่เดินมาเป็นชายหนุ่มร่างเล็กดูจากชุดที่ใส่แล้วไม่ใช่นักเรียนของที่นี่ในมือถือช่อดอกไม้สีขาวมาหยุดอยู่ตรงต้นไม้แล้วแล้ววางไว้ตรงโคนต้น
“มาอีกแล้วสินะ”
“ฮะ?” ผมหนไปมองชายหนุ่มคนนั้นลุกขึ้นช้าๆแล้วเดินจากไป
“โอ๊ะ!ระวังครับ” ผมพุ่งไปประคองอีกฝ่ายไว้ก่อนที่เขาจะล้มลงไปเพราะสะดุดรากไม้เลยมีฌอกาสได้สำรวจอีกฝ่ายความจริงเขาก็ตัวพอๆกับผมแค่เตี้ยกว่าผมนิดเดียวเอง
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“ไม่เป็นไรครับขอบคุณมาก ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ” ดวงตากลมสีน้ำตาลดูอ่อนโยนมองมาที่ผมพร้อมรอยยิ้มแต่ทั้งๆที่ดวงตาดูอบอุ่นขนาดนั้นแต่มันดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้แต่เรื่องที่สำคัญกว่านั้น
“นี่นายอยู่ใกล้กว่าแท้ๆทำไมไม่เข้ามาช่วย” ผมมองไปที่ชานยอลอย่างคาดโทษแต่อีกฝ่ายกลับมีสีหน้าที่เศร้าจนผมรู้สึกได้เลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
“เอ๋?ยังมีคนอื่นอยู่ตรงนี้หรอครับ”
“เอ๋?” ผมก้มลงมองคนที่ประคองอยู่และกำลังมองหาชานยอลก่อนจะหันไปมองคนอื่นที่ว่า ชานยอลขยับปากพอให้ผมอ่านได้เป็นประโยคประโยคหนึ่ง
‘ฉันเป็นผีล่ะ’
“…” หันมามองคนที่ประคองอยู่แล้วหันไปมองหมอนั้นพร้อมคิดตามหลับความเป็นเหตุและผล
คนมองไม่เห็น+เจ้าตัวยืนยัน=????????
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ห๊ะ?”
“ล้อเล่นน่า”
หมอนี่มัน
.
.
น่าตบสักทีไหมเนี่ย!!!!!
“เอ่อ งั้นผมไม่กวนดีกว่าขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นก้มหัวให้ผมก่อนจะเดินจากไปและแน่นอนผมก็ไม่รอช้าตรงไปหาชานยอลทันที
“เอ่อ..เค้าล้อเล่นน่าตัวเอง อย่าโกรธเค้าสิแค่เล่นด้วยนิด…นิด…หน่อย.หน่อยเอง”
“ปาร์ค ชานยอล” เจ้าของชื่อสะดุ้งแล้วยิ้มเจื่อนๆให้
“ครับ ท่านยู ยองแจ”
“ถ้านายรอดชีวิต…”
“ครับ?”
“ก็ไม่ใช่ฉันแล้ว! นายตาย!!!!!!!!”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
หลังจากนั้น15นาที
“ทำไมนายมือหนักแบบนี้เนี่ยยองแจ ตอนฉันไปช่วยนะนายยังเหมือนกระต่ายน้อยที่ไร้เดียงสาอยู่เลย” ชานยอลนั่งลูบหัวตัวเองหลังจากกินหมัดของร่างบางตรงหน้าไปเต็มๆ
“อ๋อ งั้นหรอครับ ผมจะเป็นแบบนี้เวลาโมโหมากๆน่ะครับ คุณชานยอลเป็นคนแรกเลยนะครับที่ทำผมโมโหได้ขนาดนี้ขนาดคนๆนั้นผมยังไม่เคยโมโหขนาดนี้เลย” ผมยิ้มบางๆส่งไปให้
“ตามอารมณ์นายไม่ทันจริงๆ”
“ว่าแต่ทำไมคนนั้นถึงมองไม่เห็นคุณล่ะครับ”
“เปล่าหรอกจริงๆแล้วเขามองเห็นหน่ะ”
“เอ๋?”
“แต่เขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นยังไงล่ะ” งงครับ ยองแจคนนี้ไม่เข้าใจ
“ทำไมอ่ะ”
ชานยอล บรรยาย
ผมรู้สึกเหมือนไอ่ก้อนเนื้อข้างซ้ายมันเต้นแรงแปลกๆแฮะเพราะความน่ารักที่คนตรงหน้าทำออกมารึเปล่านะ นี่ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย! ไม่ได้ๆ!!!
“ก็นะ เหตุผลส่วนตัว นายอย่ารู้เลย”
“อะไรอ่ะ” ผมล่ะขำกับท่าทีเหมือนเด็กน้อยนี่ซะจริงๆไม่น่าเชื่อว่าที่อาละวาดเมื่อกี้จะกลายร่างกลับมาเป็นกระต่ายเหมือนเดิมแล้ว
“น่าๆ ฉันว่านายควรกลับได้แล้วมั้ง”
“จริงด้วย! หายมานานต้องเป็นห่วงแน่เลย งั้นผมไปก่อนนะ บ้ายบายชานยอลหูกาง!!!!” ยองแจลุกขึ้นอย่างรีบร้อนก่อนจะโบกมือให้ผมแล้ววิ่งออกไปแต่เดี๋ยวนะ
จริงด้วย! หายมานานต้องเป็นห่วงแน่เลย งั้นผมไปก่อนนะ บ้ายบายชานยอลหูกาง
หูกาง…
.
.
.
.
นายมันปีศาจในคราบกระต่ายจริงๆยู ยองแจ!!!!!
ถ้ายังไม่เม้นก็ขอยังไม่ลงตอนต่อปะกันนะครัช
Rasp

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

^^
โปรดนำมาคืนด่วนนนนนนน!!! = =++ รีบมาอัพนะไรท์ ก่อนที่เค้าจะเข้าไปถล่มบ้านไรท์ -..-