ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สันติภาพจงมีแด่เรา

    ลำดับตอนที่ #9 : หวัดกับปัญหา

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 48


    คุณเชื่อไหมว่าคนที่ดูแข็งแรงอย่างฉันดัน เป็นหวัด^^; และฉันก็เกลียดมันมากๆเลยด้วย  

    ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าระวังไม่ให้น้ำมูกไหลหยดลงบนกระดาษสมุดที่คุณกำลังบรรจงเขียน>_<  

    การจามโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เลอะเทอะ>o<  รวมถึงการกินอาหารอย่างไม่อร่อยสักนิดT_T  

    ตอนนี้ฉันเริ่มเข้าใจและเห็นใจโจอี้ขึ้นมาทันที



    “ฮัด..ชิ้ว OTO”  การจามของฉันมีพลังมากพอที่จะทำให้กระดาษที่กองเพนินอยู่เติมโต๊ะเรียนกระจายไปทุกทิศทุกทาง



    “ถ้าเธอไม่สบายก็ควรหยุดเรียนนะ”  เสียงที่คล้ายจะนุ่มนวลดังขึ้น  ฉันเน้นแล้วนะว่าคล้ายจะ



    “ไม่เป็นไรค่ะ  หนูเรียนไหว”  ฉันยิ้มตอบไปอย่างเชือดเฉือน  น้ำเสียงอู้อี้จนเกือบฟังไม่รู้เรื่อง



    “ครูไม่สนว่าเธอจะเรียนไหวหรือเปล่า  ครูแค่กลัวว่าเธอจะทำให้เพื่อนไม่สบายตามไปด้วย”

    โอ๊ยคำพูดของครูไลไลช่างบาดลึกเสียจริ๊งง >O<

        

               ในที่สุดฉันจึงต้องยอมจำนนกับคำพูดของครูไลไล ด้วยการหยุดเรียนจนกว่าจะหายจากหวัด  

    แม่ไม่ยอมเข้าใกล้ฉันและยังสั่งไม่ให้ฉันเข้าใกล้เด็กๆ TOT



    “นี่แม่ขา  ไม่ไล่หนูไปกินนอกบ้านเลยล่ะคะ”



    “โถลูกรัก  แม่ไม่ทำอย่างนั้นหรอกลูก” แม่ตอบพร้อมยิ้มกว้างๆให้ฉัน



    “แล้วที่แม่ให้หนูมานั่งตรงนี้ทำไมคะ”  ฉันชี้ลงบนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆที่อยู่ตรงหน้าฉัน  และแม่จัดไว้เป็นที่พิเศษสำหรับฉัน



    “โอ๋ๆ  แม่ทำแบบนี้ไม่นานหรอกลูก แค่จนกว่าลูกจะหายจากหวัดนั่นแหละจ้ะ”

    แม่ใจร้ายฉันคิดอย่างนั้นแล้วรีบโซ๊ยทุกอย่างลงท้อง  เสร็จแล้วฉันก็ขึ้นห้องทันที



    “ฮัด..ชิ้ว  โว้ย เมื่อไหร่จะหายซักที” ฉันแสดงอาหารหงุดหงิดเต็มที่ >^<



    “จึ้ก…จึ้ก  ตายซะหวัดบ้า>=<” ฉันระบายอารมณ์หงุดหงิดโดยการเขียนคำว่าหวัดใส่กระดาษ  แล้วเอาไปแปะเป็นเป้า  ใช้ลูกศรเขวี่ยงใส่

    สนุกไปอีกแบบ



    “ชิเมโจด๊าย..ชิเมโจด๊าย..” เสียงเรียกเข้าที่ไม่พึงประสงค์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยพี่หมา



    “โหล  มีไร -o-” น้ำเสียงอู้อี้ออกจากปากฉันอย่างไม่สบอารมณ์



    “นั่นใครอ่ะ” เสียงจากปลายสายทำให้ฉันยิ่งฉุน



    “นายโทรมาหาใครก็คนนั้นแหละ  คนยิ่งอารมณ์เสียๆอยู่” ฉันพูดใส่โทรศัพท์และวางสายไป

    คนโรคจิต โทรมาทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ใคร



    “ชิเมโจด๊าย..” โทรศัพท์ดังขึ้นโดยเบอร์เดิม

    อารายอีกว้า O_o



    “หาเรื่องหรือไง  ฉันไม่มีอารมณ์เล่นกับนายนะ” ฉันตะคอกใส่ด้วยความโกรธ



    “ทำไมไม่มาโรงเรียน เป็นอะไร”  เสียงปลายสายถามขึ้น

    คนที่จะรู้ต้องเป็นคนในโรงเรียนแน่ๆ



    “เรื่องของฉัน” ฉันตอบพร้อมๆกับนึกอยู่ว่าผู้ชายในโรงเรียนที่รู้จักฉันมีใครบ้าง



    “ฉันพอรู้แล้วว่าเธอเป็นหวัดจากเสียงสูดน้ำมูกฟืดฟาดของเธอ  และที่เธอกวนฉันเมื่อกี้ได้เห็นดีกันแน่” เค้าพูดจบแค่นั้นและวางสายไป  

    ฉันกลัวจะตายเหอๆ



    แต่ที่รู้ตอนนี้ฉันนอนไม่หลับอ่า  หายใจไม่ออก  ฉันกลัวนะว่าถ้าฉันหลับไปแล้วเกิดหายใจไม่ออกตายขึ้นมาจะทำยังไง  

    ฉันไม่อยากตายด้วยโรคหวัดหรอกนะ T^T





              ในที่สุดและในที่สุดความทรมานอันยาวนานก็สิ้นสุดลง  ฉันหายดีเป็นปลิดทิ้ง  

    ฉันเดินบนสนามหญ้าของโรงเรียนอย่างมีความสุข ^O^



    “หนูๆ  เข้ามาทำไมวันนี้หยุดเรียนนะ”  เสียงภารโรงคนหนึ่งทำให้ความสุขที่มีเมื่อครู่หายไป

    อาไรนะหยุดหรอ  หน้าแตกยับเยิน >o<



    “ขอบคุณค่ะ”  ฉันรีบวิ่งทันทีด้วยความอาย



    “ว่าแล้ว เธอต้องมาเก้อในวันนี้” ฉันพยายามคิดว่าชายเมื่อครู่ที่ฉันเดินผ่านเป็นอากาศแล้วเชียว  

    ไม่รู้จะปล่อยคลื่นเสียงออกมาทำไม -_-



    “อะไรอีกล่ะ” ฉันถามเมื่อหันไปพบว่าเป็นนายโทกิ



    “เดี๋ยวนี้ดังแล้วหยิ่งหรอ“  โทกิยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ฉัน



    “ดังบ้าดังบออะไรของนาย”  ฉันไม่ค่อยเข้าใจที่เขาพูดเท่าไหร่นัก  แต่ฉันก็เดินหนีทันที  ฉันไม่ชอบยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้นของเขาเลย

    ชักกลัวขึ้นมาแล้วล่ะสิ>^<

        



               วันต่อมาฉันเริ่มไปโรงเรียนแต่เช้าด้วยความมั่นใจว่าไม่ไปเก้ออีกแน่นอน  

    เด็กในโรงเรียนยังคงร่าเริงเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นการจับกลุ่มคุยกัน  

    ฉันรู้สึกว่าประเด็นเด่นๆที่คนถกเอามาพูดจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ปีก



    “หวัดดี  มิโกะ” ฉันทักขึ้นเพราะเห็นว่าหล่อนจ้องหน้าฉันแปลกๆ



    “ไอคิดยังไงเกี่ยวกับสัตว์ปีก”

    เหยี่ยวข่าวห้องเราใช้ได้เลยแฮะ  ถามเรื่องเด่นประเด็นดังซะด้วย



    “ก็น่ารักดีนี่ “  ฉันตอบสั้นๆแค่นั้น  แค่นั้นจริงๆ  แต่ไม่รู้ทำไมหลายๆคนถึงมองมาที่ฉันนัก -_-



    “ฉันเห็นด้วยกับเธอนะ  จริงๆแล้วเป็ดก็ดูหน้ารักเหมือนกัน”  ยายโทรโข่งเดินมาจับมือและพูดกับฉัน  

    งงโว้ย OoO



    “อ่ะให้  ถ้าผมรู้ว่าไอชอบผมคงซื้อให้ก่อนหน้านี้แล้ว”  นายจอดถือตุ๊กตาตัวใหญ่สีเหลืองอ๋อยส่งมาให้ฉัน  

    ฉันหันตุ๊กตาไปมาถึงรู้ว่าเป็น ตุ๊กตารูปเป็ด  บัดนั้นสายตาทุกคู่จ้องมองมาที่ฉัน

    ช้านนน  อยากจะบ้าตาย  ทุกคนเป็นอะไรกานหมด TOT



    ฉันหันไปเจอคาเอะ  ฉันรู้สึกดีขึ้นมาทีเดียว ฉันรู้ว่าคาเอะต้องเข้าใจฉันมากกว่าใครๆ  

    และคงอธิบายว่านักเรียนหลายๆคนเป็นอะไรกันไปหมด



    “หวัดดี คาเอะ” ฉันเริ่มการสนทนา  คาเอะมองมาที่ฉันด้วยสายตาลุกเป็นประกาย  



    “แหม เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานไม่บอกกันเลยนะว่าชอบเป็ด”

    เหอๆคาเอะก็เป็นไปกะเขาด้วยหรอเนี่ย T^T

        



              และฉันมาเข้าใจเรื่องทั้งหมดเมื่อเห็นกระดาษแผ่นหนึ่ง  ไม่สิ เกือบร้อยแผ่นตามที่ต่างๆในโรงเรียน

    มีใจความว่า –ชิไอ ปี1 ห้อง2  ชอบเป็ด ถึงกับใส่กางเกงในลายเป็ดน้อย -  ฉันอ่านแค่นั้นแล้วแทบเดือด

    ฉันรู้ว่าใครเป็นคนทำและฉันต้องแก้แค้น O^O



    ฉันเดินดุ่มๆไปยังห้องของนายโทกิทันทีด้วยความโมโห



    “ปึง..” เสียงมือของฉันกระแทกลงบนโต๊ะข้างหน้านายโทกิอย่างแรง  จนดึงความสนใจของคนในห้อง  

    โชคดีที่พี่หมาไม่อยู่ ^^;



    “นายจะเอายังไงกับฉัน” หมอนี่ทำให้ฉันรู้สึกอายแทบแทรกแผ่นดินหนีผู้คน



    “ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะต้องเห็นดีกัน”  โทกิตอบอย่างเรียบๆ แทรกรอยยิ้มของผู้ชนะ

    ที่แท้เบอร์โทรศัพท์ปริศนานั่นก็คือนายโทกินี่เอง -_-



    “ก็นายบอกจะเก็บเป็นความลับ และฉันก็คิดว่านายน่าจะรักษาคำพูดได้ดีกว่านี้นี่” ฉันทวงคำพูดเขา  และนั่นก็ทำให้เขาอึ้งไปเล็กน้อย



    “ขอโทดนะที่ทำรุนแรงไป” โทกิพูดคล้ายๆสำนึกผิด



    “ขอโทด..นายคิดว่าแค่นี้เรื่องจะจบหรือไง”  

    ฉันไม่อยากนึกถึงตอนที่โดนใครต่อใครล้อว่าเป็ดน้อยเลยโถ่ ToT



    “งั้นเธอก็แกล้งมาเป็นแฟนฉันสิ  คนน่ะจะสนใจข่าวใหม่และลืมเรื่องเป็ดน้อยไป  พอถึงเวลานั้นค่อยว่ากันอีกที…เผื่อเธอติดใจชอบฉันขึ้นมาจริงๆ”  โทกิพูดอย่างทีเล่นทีจริง  แต่ฉันก็รู้สึกวาบๆอย่างบอกไม่ถูก



    “ไม่มีทาง  ฉันไม่มีทางเป็นแฟนของนายไม่ว่าจะแกล้งหรือจริงก็ตาม” ฉันพยายามตะคอกเสียงเพื่อกลบความอาย  

    แต่รู้สึกจะดังเกินไป เพื่อนของเขาหันมามองเราและหัวเราะกัน



    “เธอทำให้ฉันเสียหน้า” ขณะที่เขาพูดฉันสังเกตเห็นว่าหน้าของเขาแดงผิดปกติ

    สมน้ำหน้า ^o^

    ทันใดนั้นเสียงออดดังขึ้นซึ่งนั่นเป็นสัญญาณว่าฉันจะควรเข้าห้องเรียนได้แล้ว  เมื่อฉันกำลังจะก้าวออกจากห้องของโทกิ  

    ก็มีมือมือหนึ่งดึงแขนฉันไว้…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×