4 Months (one-shot) 4thbeecrisday - 4 Months (one-shot) 4thbeecrisday นิยาย 4 Months (one-shot) 4thbeecrisday : Dek-D.com - Writer

    4 Months (one-shot) 4thbeecrisday

    สี่เดือนแห่ง....ที่ทำให้ชีวิตคนสองคนเปลี่ยน

    ผู้เข้าชมรวม

    1,386

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.38K

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    38
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 เม.ย. 59 / 23:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ......เนื้อหาเรื่อตัวละครเกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน


    Happy 4thbeecrisday!!

    ติ๊ดๆๆ ติ๊ดๆๆ

    ตาเรียวเปิดขึ้นอย่างไม่เต็มใจนักเมื่อถูกรบกวนด้วยเสียงอันดัง

    “บี!....ปิดนาฬิกาปลุกให้หน่อย”เสียงอันแหบแห้งตะโกนเรียกชื่อด้วยความเคยชิน

    ว่างเปล่า.....ที่นอนด้านข้างไม่มีร่องรอยจากสิ่งมีชีวิตใดๆทั้งสิ้น

    คริสลืมนึกไปว่าเธอเองเป็นฝ่าย ไล่ บีให้ไปไกลๆ

     คริสหัวเราะกับตัวเองน้อยๆก่อนจะลุกไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ บีคงแอบมาตอนเธอหลับแน่ๆ

    “อย่าลืมกินข้าวนะ”

    โพสอิทสีหวานแปะอยู่บนกระจกบานใหญ่   เธอเอื้อมมือไปแกะออกมา

    ฮึ! ไม่ต้องทำมาเป็นห่วงเลย

    ข้าวต้มกุ้งที่ยังอุ่นๆตั้งอยู่บนโต๊ะ คริสพยามมองหาคนทำแต่ก็ไม่เจอใคร

    “อย่าลืมกินยาด้วยนะ” โพสอิทสีเดิมแปะอยู่ข้างชามข้าวต้มร้อน รู้หรอกย่ะไม่ต้องสั่งซักเรื่องได้มั้ย

    คริสเก็บจานแล้วเตรียมออกจากบ้านจุดหมายคือห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุง เพราะเธอมีนัดสำคัญกับน้องสาว

    “ห้ามใส่รองเท้าส้นสูงเกินไปนะ คริสซุ่มซ่ามเดี๋ยวเจ็บตัว” ข้อความคล้ายเดิมบนโพสอิทสีเดิมอีกแล้ว คริสส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ

    “ไม่ต้องมาทำตัวแบบนี้เลยนะบี” คริสจงใจหยิบรองเท้าที่มีส้นเล็กน้อยมาใส่เสียดื้อๆ ใครจะยอมทำตามกัน

    ........

    Cris part

    ฉันออกมาเดินเล่นได้พักใหญ่แล้ว ก็พลอยหน่ะสิชอบมาเลทตลอด ฉันไม่ชอบเลยการมาช็อปปิ้งคนเดียวเพราะฉันไม่ชอบถือของเอง

    ความจริงควรจะมีคนมาช่วยถือ ถ้าฉันไม่ไล่เค้าไปไกลๆเสียก่อน 

    น้ำตาทำไมมันถึงไหลง่ายผิดปกตินะช่วงนี้...ฉันยกมือปาดน้ำตาตัวเอง บ้าจริงดันมาร้องไห้กลางห้างซะได้

    “พี่คริส”

    ฉันโบกไม้โบกมือให้ผู้หญิงตัวเล็กที่เดินมา นพลอยน้องสาวหัสแก้วหัวแหวนของฉันเอง

    “พี่คริส....ยูร้องไห้?”

    “เปล่า..ผงเข้าตาหน่ะ” ตอบนางเอกไปมั้ย แต่นั่นแหละ...ฉันไม่รู้จะอ้างเหตุผลอะไร ยังไงน้องสาวตัวแสบก็ต้องจับได้อยู่ดี

    “นางเอกไปอี๊ก...เพราะพี่บีใช่ป่ะ” พูดผิดเสียที่ไหน...แสนรู้กว่าหมาก็พลอยนี่แหละ

    “อื้อ...”

    “งอนอะไรอีกหล่ะ...”

    “ไม่ได้งอน คราวนี้ชั้นซีเรียส”

    “เพราะอะไร...บอกน้องได้มั้ย” ฉันเกลียดสายตาอยากรู้อยากเห็นคู่นั้นจริงๆ ไม่อยากพูดถึงอดีตนั้นเลย เพราะพูดออกมาทีไร น้ำตาเจ้ากรรมมันชอบไหลออกมาทุกทีหน่ะสิ

    “........”

    “ไม่บอกก็ไม่เป็นไร” พลอยไม่ได้เซ้าซี้ฉันต่อ นับเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งไม่ใช่นิสัยปกติของพลอยนัก แต่ช่างเถอะตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ไปจับผิดใครที่ไหนอีกแล้ว

    เราสองคนเดินช็อปปิ้งเรื่อยเปื่อยในห้างจนบ่ายพลอยขอตัวกลับไปก่อนเพราะติดงานที่ร้าน...ลืมบอกไปว่าเราสองคนมีร้านขายเสื้อผ้าชื่อดัง แต่ฉันไม่ค่อยได้เข้าไปดูหรอกนะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดีไซเนอร์คนเก่งอย่างพลอยไปก็แล้วกัน ส่วนฉันมีหน้าที่สั่งจ่ายอย่างเดียว

    ช่างเถอะ ไม่รู้จะพูดเรื่องนั้นไปทำไม เพราะตอนนี้ฉันเดินมาหยุดหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่บีชอบกิน ไม่ได้อยากกินหรอกนะ แต่ขามันก้าวเดินเข้าไปแล้ว

    ฉันเลือกนั่งที่มุมโปรดของเราเหมือนเดิม ต่างกันตรงที่วันนี้ฉันมาคนเดียว เมนูอาหารที่แทบไม่ต้องเปิดเพราะฉันก็สั่งเมนูเดิมที่เคยสั่งกับบีอยู่ดี

    บ่ายสองกว่าแล้ว ฉันเดินกลับมาที่รถ แล้วรู้สึกเหมือนว่ามีคนเดินตามจึงรีบเดินให้เร็วขึ้น

    หมับ! ฉันหลับตาปี๋แขนของฉันถูกใครไม่รู้จับไว้

    แล้ว...แย่งของในมือไปถือจนหมด

    “บอกว่าห้ามถือของหนักๆ ทำไมไม่ฟังบีคะ” น้ำเสียงอันคุ้นหู บีนั่นเองที่ยืนอยู่ตรงหน้า คนตัวสูงยังดูดีไม่เคยเปลี่ยน น้ำเสียงดุๆนั่นด้วย บีคงโกรธฉันมากสินะ

    “ส่งกุญแจรถมา เดี๋ยวบีขับให้” บีพูดกับฉัน ที่ยังคงยืนนิ่ง จนบีต้องคว้าไปจากมือกระแล้วควานกุญแจรถ

    ......

    การจราจรติดขัดบนท้องถนน ภายในรถเงียบเชี่ยบไม่มีใครพูดอะไร จนเมื่อฉันเห็นบีเปลี่ยนเส้นทาง

    “จะไปไหน คริสจะกลับบ้าน”

    “คริสยังกลับบ้านไม่ได้”

    “ทำไม?”

    “หมอนัดไม่ใช่เหรอ....ลืม?” ฉันไม่ตอบ ก็ลืมจริงๆนั่นแหละเพราะเอาแต่คิดเรื่องของบีเลยลืมเรื่องอื่นไปเสียสนิท

    ...........

    หมอใส่เสื้อกราวน์สีขาวถือแผ่นฟิล์มใบเล็กๆทำให้ฉันหวั่นใจไม่น้อย

    .....ถ้าผลออกมาไม่ใช่แบบที่หวังหล่ะ

    บีกุมมือของฉันแน่นมากสายตาละมุนยังคง จับจ้องมาที่ตัวฉันอยู่อ่างนั้น มือเรียวๆอีกข้างก็เข้ามาโอบไหล่ไว้ ฉัไม่มีอารมณ์ที่จะดิ้นหนีหรอกนะ เพราะจิตใจของฉันมันจดจ่ออยู่ที่แผ่นฟิล์มนั้นมากว่าแล้วอีกอย่างฉันก็กลัวบีโกรธด้วย

    “ผลการอัลตร้าซาวด์ออกมาแล้วนะคะ......อายุครรภ์16สัปดาห์ เด็กผู้หญิงแข็งแรงดีคะ” ตัวของฉันแทบจะลอยขึ้นตามบี ที่กระโดดออกมาอย่างลิงโลดแล้วเข้าไปขอบคุณแพทย์หญิงคนนั้น

    “ขอบคุณค่ะหมอ”

    “ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ”

    เรากำลังจะมีลูกสาวสมใจที่ทั้งชั้นและบีอยากให้เป็น ฉันเห็นอาการดีอกดีใจนั่น และอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองใจร้ายกับบีไปหรือเปล่า บางทีเราควรกลับไปอยู่บ้านพร้อมกันสามคน พ่อ แม่ ลูก

    “บี....กลับบ้านกัน”ฉันพูดแล้วเอื้อมมือไปจับมือบีไว้ แล้วดึงออกไปข้างนอก

    ฮะ..แฮ่ม ถ้าคนอ่านหวังว่าฉันจะมีวิธีการง้อแบบหวานๆ แล้วหล่ะก็ คุณคิดผิดเพราะปกติแล้วฉันจะไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องง้อ ถ้าอยากอ่านหวานๆ? เลื่อนลงไปข้างล่างค่ะ

     

     

    Bee part

    “ออกไปเลย คริสไม่อยากเห็นหน้าบี” คำพูดของคริสดังก้องอยู่ในหัวของฉัน ที่ตอนนี้ต้องระหกระเหินตัวเองออกมานอนที่คอนโด แทนบ้านของเรา ด้วยข้อหาที่ชอบดุแล้วบ่นอีกฝ่าย ฉันอยากจะเถียงเหลือเกินว่ามันไม่ใช่การดุ เพียงแต่เป็นความห่วงใยคริสเท่านั้น แต่ก็นั่นแหละ อำนาจคือเมีย เมียมีอำนาจ ฉันเลยต้องหอบเสื้อผ้าออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก

       ฉันไม่ได้โกรธหรือน้อยใจคริสแม้แต่น้อย เพราะมีเหตุผลที่คริสเป็นแบบนั้นหน่ะสิ ใครๆก็รู้ว่าคนท้องอารมณ์จะอ่อนไหวง่ายกว่าปกติ ยิ่งถ้าเป็นคริสที่เป็นเซนสิทีฟอยู่แล้วหล่ะก็ ให้คูณสองจากปกติและคูณสิบจากตอนเป็นประจำเดือนกันเลย

    ฉันตั้งนาฬิกาปลุกไว้เช้ากว่าปกติ เพราะต้องเผื่อเวลาไปทำอาหารเช้าให้คริสกิน

    “ติ๊ดๆๆ”

    เสียงโทรศัพท์คู่ใจของฉันดังขึ้นเมื่อกดดูก็พบว่าเป็นสายจากน้องสะใภ้ของฉันนั่นเอง

    “ฮัลโหลพี่บี”

    “ว่าไงพลอย”

    “ยูกับพี่คริสทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”

    “ฮะๆ..ทำไมถึงรู้”

    “ก็พรุ่งนี้พี่คริสชวนพลอยไปช็อปปิ้ง ปกติเคยเป็นซะที่ไหนหล่ะ จะไปซื้อของก็ไปกับพี่ตลอดไม่ใช่รึไง...แล้วพอพลอยถามถึงพี่นะ พี่คริสนางก็โกรธงอยตุ๊บป่องไปอีก”

    “พลอยก็ไปเป็นเพื่อนคริสหน่อยก็แล้วกัน...อย่าให้ทำอะไรที่มันอันตรายหล่ะ”

    “ค่าๆรู้แล้ว...มิน่าพี่คริสถึงชอบบ่นว่าพี่ชอบดุเค้า”

    “พี่ไม่ได้ดุนะ พี่แค่ห่วงเมียพี่...เอ้อ!พลอยคริสรู้รึเปล่าว่าพรุ่งนี้หมอนัด”

    “ไม่รู้ดิ”

    “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ฉันกดวางสายสนทนาอันยาวนานกับพลอย พลางถอนหายใจ คริสต้องลืมนัดหมอแน่ๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ฉันดุได้ยังไงกัน

    ....

    ร่างบางยังคงหลับอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้สึกรู้สา ฉันค่อยๆแอบทำกิจวัตรประจำวันที่เคยทำให้คริสเสมอ พร้อมเขียนโพสอิทแปะไว้เผื่อคนตัวเล้ไม่ทำตาม

     พลอยกับคริสเดินซื้อของไปทั่วๆห้าง ฉันอยากจะเดินไปลากคริสกลับเสียจริง บอกกี่ครั้งว่าอย่าใส่ร้องเท้ามีส้น แล้วยังของที่พะรุงพะรังนั่นอีก

    ..............

    โรงพยาบาลตอนบ่ายคนไม่เยอะเท่าไหร่นัก

    ที่สำคัญตอนนี้ฉันพาคริสมาทันนัดของหมอ

    “ผลการอัลตร้าซาวด์ออกมาแล้วนะคะ......อายุครรภ์16สัปดาห์ เด็กผู้หญิงแข็งแรงดีค่ะ” คุณหมอสาวพูดพร้อมรอยยิ้ม ทำให้ฉันกระโดดตัวแทบลอย

     “ขอบคุณค่ะหมอ”

    “ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ”

    ลูกสาว...แบบที่ทั้งชั้นและคริสอยากได้   ฉันหันไปมองหน้าคริสก็พบจากรอยยิ้มที่ประดับไว้บนหน้า น่ารักๆนั้น ได้เวลากลับบ้านแล้ว ฉันนึกในใจ

    “บี....กลับบ้านกัน”อยู่คริสก็ดึงมือฉันออกไปจากห้องตรวจ

       ฉันยิ้มแก้มแทบแตกกับวีธีการง้อแบบแปลกๆของคนตัวเล็ก

    น่ารักใช่มั้ย....เมียใครก็ไม่รู้

    ........

    ฉันกับคริสเดินเข้ามาในบ้านอันแสนอบอุ่นหลังจากฝ่าการจราจรอันแสนติดขัดอย่างยาวนาน

    ร่างเล็กนั่งรออาหารมื้อเย็นของตัวเองที่ฉันกำลังงปรุงให้

    เราสองคนกินข้าวกันอย่างเงียบๆ

    “คริสทานยาบำรุงครรภ์ก่อนค่ะ” ฉันเริ่มพูดเมื่อคนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา

    “ไม่เอา..เหนื่อยแล้ว”

    “ไม่ได้ค่ะ...”

    “บีอ่ะ..ชอบบังคับอีกแล้ว” มาอีกแล้วไงเหตุผลที่ทำให้ฉันต้องออกกจากบ้าน

    “บีแค่อยากให้ลูกของเราแข็งแรง...คริสไม่อยากให้ลูกเราแข็งแรงเหรอคะ” เงียบไม่มีคำตอบ คริสก้มหน้าก้มตาเพราะหาเหตุผลมาเอาชนะฉันอย่างที่เคยไม่ได้

    “มาค่ะเดี๋ยวบีป้อน” ยาเม็ดสีต่างๆถูกจัดเตรียมไว้สำหรับการป้อน

    “บีทำไรอ่..” คริสถามเมื่อเห็นฉันกรอกยาทั้งหมดใส่ปากตัวเองแต่ก็พูดไม่ทันจบประโยค เพราะริมฝีปากบางนั่นถูกฉันครอบครองจากส่วนเดียวกัน ยาเม็ดแล้วเม็ดเล่าที่ฉันส่งลงคออีกฝ่ายลงไป

    “อื้อ!”เสียงครางหลุดจากลำคอคริสเบาเมื่อฉันถอนจูบ ใบหน้าแดงกล่ำด้วยความเคอะเขินทำให้ฉันหมั่นเขี้ยวจนอดก้มลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอขาวนวลนั่นไม่ได้

    “เดี๋ยวโดนลูก” คริสร้องท้วงเมื่อมือไม้ของฉันเริ่มซุกซนไปตามร่างกายในขณะที่ฉันก้มหน้าก้มตาจัดการซอกคอขาว

    “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง บีถามหมอแล้ว หมอบอกว่าทำได้”

    “ตอนไหนกัน” ฉันไม่ตอบคำถามคริส เพียงแต่ยกยิ้มมุมปากให้อีกฝ่ายหมั่นไส้เล่นๆแล้วจัดการกับร่างกายของเธอต่อไป

    “บี...ไปข้างบนได้มั้ย”

    .......

    ฉันวางคนตัวเล็กบนเตียงอย่างทะนุถนอมก่อนจะปฏิบัติการทวงคืน ความคิดถึงอีกครั้ง ตอนนี้เสื้อผ้าของคริสลงไปกองกับพื้นเรียบร้อย เรือนร่างของคริสยังสวยงามอยู่เสมอสำหรับฉัน

    กลิ่นหอมติดจมูกขึ้นมาเมื่อฉันแนบจมูกลงไปคลอเคลียกับทรวงอกขาวอวบอิ่มนั่น ก่อนที่คริสจะเชยหน้าฉันขึ้นมา

    “หายโกรธคริสรึยัง” ฉันเริ่มชอบวิธีการง้อแบบนี้ของคริสเหมือนกันนะ

    “ยังไม่รู้ ยังไม่ได้ลอง”

     

    หน้าคริสแดงขึ้นสักสิบเท่าเห็นจะได้

    รู้มั้ยตอนคริสเขินนี่น่ารักสุดๆไปเลย

    แล้วเวลาอยู่บนเตียงแบบนี้ คริสจะเขินได้น่ารักกว่าเดิมสักร้อยเท่าได้

    ฉันเลยชอบ...อยู่บนเตียงกับคริสยังไงหล่ะ

    .............

    Paloy talk

    ฉันโคตรเบื่อพี่สาวกับพี่เขยตัวเองเลย

    คุณผู้อ่านเคยได้ยินสำนวน เจ๊กลากไปไทยลากมามั้ยคะ

    นั่นหล่ะชั้นเลย

    เพราะพี่สาวตัวดีดันโทรมาขอให้ไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อน เลยเดาได้ไม่ยากว่าจะต้องงอนกับพี่เขยสุดหล่ออย่างพี่บีมาแน่ๆ

    ด้วยความเป็นน้องที่ดี ฉันเลยโทรไปถามสารทุกข์สุกดิบพี่เขย ก่อนจะโดนลากให้ไปช่วยดูแลพี่ตัวเองกลางห้าง ทั้งๆที่งานห้องเสื้อกองท่วมหัว แล้วถูกถีบหัวส่งออกมาเพราะพี่บีอยากจะพาเมีย(พี่คริส)สุดที่รักไปหาหมอเอง

     คนเป็นน้องก็แบบนี้แหละถึงจะทะเลาะกันบ้างแต่เราก็อดเป็นห่วงกันไม่ได้

    อย่าลืมกระเป๋า Birkins ของน้องนะคะ ฉันกดส่งข้อความไปยังเบอร์พี่เขยอย่างรวดเร็ว

    เอาหน้าห่วงก็ส่วนห่วง ของฟรีก็ส่วนของฟรีมั้ยหล่ะ!!


    >>>>>>>>>>

    Happy 4thbeecrisday

    สุขสันต์วันบีคริสนะทุกคน 

    4เดือนแล้วที่อยู่ด้วยกันมา มีความสุขมากๆเลย

    ตอนพิเศษมาเลทเหมือนพาลอย โทษทีนะ เพิ่งตัดสินใจได้ว่าต้องแต่ง

    เม้นต์ด้วย!!!!!!!!!!!

    ไม่เม้นต์ไรท์จะงับหัวคนอ่าน

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×