คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 6 - ผู้ชายหวงสาว เอ๊ย! หวงหนุ่ม
LAST
Chapter 6 – ผู้ชายหวงสาว เอ๊ย! หวงหนุ่ม
“ขอบคุณนะครับที่ให้ความช่วยเหลือพวกเราเต็มที่”อาร์มินกล่าวด้วยรอยยิ้ม พลางวางมือลงบนไหล่เล็กๆแล้วบีบมันเบาๆ เบาจนรีไวล์ยังแปลกใจ เผลอคิดว่าอีกฝ่ายไม่ใช่หุ่นยนต์ไปซะแล้ว “แล้วก็เรื่องที่กำราบเจ้านายของพวกเราซะอยู่หมัดด้วย”พูดแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
รีไวล์ที่เห็นว่าอีกฝ่ายดูเป็นมิตรกว่าที่เคยเจอหุ่นยนต์มาทั้งหมด เขาจึงเริ่มผ่อนกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดลง
“ผมชื่อว่าอาร์มิน อัลเรลโต้ะนะครับ เป็นหัวหน้าทีมวิจัยของที่นี้”เขาว่าพลางยิ้มกว้าง ในขณะที่รีไวล์ก็เลิกคิ้วน้อยๆเมื่อรู้สึกคุ้นชื่อของอีกฝ่าย
...อ๋อ....คนที่ไอ้พวกบ้า(เอลวิน+เอเลน)พูดถึงนั่นเอง
“นาย....คงเหนื่อยแย่เลยสินะ ที่มีเจ้านายแบบนี้”ร่างเล็กกว่าบอกด้วยสีหน้าระอา ยามนึกถึงภาพหมาหวงเจ้านายเมื่อกี้ของเด็กหนุ่ม ส่วนอาร์มินที่ยังใจจดใจจ่ออยู่กับการสำรวจผิวต้นขาของรีไวล์ก็เลิกคิ้วอย่างตลกขบขัน
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ...เอเลนน่ะถึงจะมีบางมุมที่นิสัยเหมือนเด็กบ้าๆ ไร้หัวคิด แต่ถ้านับเรื่องความเป็นผู้บริหารที่ดีล่ะก็...ผมถือว่าเขาสอบผ่านด้วยเกรดดีเยี่ยมเลย”อาร์มินผละออกจากการสำรวจผิวอีกฝ่าย ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างตัวรีไวล์
ตอนนี้ดูเหมือนพวกทีมนักวิจัยจะได้ข้อมูลเพียงพอสำหรับขั้นตอนที่1แล้ว
“คุณคงเครียดน่าดูเลยนะครับ ที่ต้องมาเจอสถานที่แปลกใหม่และ...คนพันธุ์ใหม่แบบนี้”
“ตอนแรกมันก็ใช่...”อ่า นั่นสิ....จะว่าไปหลังๆมานี่ เขาก็ชักจะหลงลืมไปแล้วว่าความตั้งใจจริงของตัวเองคือการลอบหนีออกไปจากสถานที่อันตรายสำหรับมนุษย์คนสุดท้ายแบบเขา...
ลืมเพราะอะไรกันนะ?
“แต่ว่า...พวกนายมันก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอย่างที่คิดไว้ไปซะหมด ...ก็คงไม่ต่างอะไรกับการอยู่กับคนหรอกมั้ง”เขาพูด ก่อนจะถอนหายใจออกมา “บางที อาจจะเป็นเพราะฉันรับไม่ได้ที่จะต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นได้แค่คนอ่อนแอเมื่อต้องอยู่ในโลกแห่งนี้ โลกที่เต็มไปพวก...อย่าว่ากันนะ...พวกจักรกลอมนุษย์ พิสดารๆพวกนี้...แต่ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ? ก็คงได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิด...อีกอย่าง มันก็คงอีกไม่นานหรอก ที่มนุษย์แบบฉันจะต้องดับสิ้นอายุขัย แล้วปล่อยให้พวกอมตะแบบพวกนายยังคงคิดว่าฉันเป็นสิ่งวิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกแล้ว”นอกจากว่าจะมีมนุษย์ผู้หญิงหลงเหลืออยู่ที่นี้แหละนะ...เหอะ...
“นั่นสินะครับ....”อาร์มินพยักหน้าน้อยๆอย่างพอจะรับรู้สถานการณ์ของรีไวล์ “อ๊ะ จริงสิ”เด็กหนุ่มเอียงคอเล็กๆ ก่อนจะเดินไปหยิบเอาแก้วน้ำพลาสติก เทใส่ของเหลวใสให้เต็ม แล้วเดินมามอบให้แก่ร่างเล็ก “นี่ครับน้ำ...เผื่อคุณเหนื่อย”
“ขอบใจ”เขาว่าพลางรับแก้วน้ำมาดื่มทันที
“อา...ไหนๆคุณกับเอเลนก็ต้องอยู่ด้วยกันมากขึ้น...”อาร์มินเอ่ยลอยๆ “คุณอยากรู้อะไรๆเกี่ยวกับเอเลนบ้างมั้ยครับ?”
“....เอ๋?”ชายหนุ่มเลิกคิ้ว อุทานหลังดื่มน้ำในแก้วจนหมด “...ก็แล้วแต่นะ นายจะเล่าก็ได้ไม่ว่ากัน”
สิ้นคำตอบที่ฟังดูไม่ใส่ใจ แต่แท้จริงแล้ว ร่างบางนั่นกางหูผึงตั้งแต่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ ซึ่งอาร์มินที่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเริ่มร่ายยาวถึงประวัติของเด็กหนุ่มเยอรมัน
“เอเลนน่ะ ถูกสร้างขึ้นในยุคหลังสงครามเหมือนกับพวกเราส่วนใหญ่นี่แหละครับ เกิดมาได้ตั้งสี่ร้อยกว่าปี อายุ17 และเกิดมาพร้อมกันกับผม”รีไวล์พยักหน้าหงึกหงัก พอจำได้ว่าร่างสูงเคยเล่าประวัติย่อๆให้ตัวเองฟังแล้ว “ตอนที่เพิ่งเกิดใหม่ๆ เอเลนถูกโปรแกรมให้มีนิสัยดื้อรั้น เลือดร้อน และค่อนข้างเอาแต่ใจ นั่นน่ะเป็นนิสัยดังเดิมของเอเลนเลย....แต่ที่คุณเห็นอยู่ตอนนี้ ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นแล้วนะครับ แต่ก่อนแย่กว่านี้อีก”พอมาถึงท่อนนี้ รีไวล์ที่ตอนแรกพยักหน้ารัวๆอย่างเห็นด้วยสุดขีดก็หันมาชะงักอ้าปากหวอ เมื่อพบว่าไอ้เด็กเยเกอร์นิสัยเสียที่เขาเห็นน่ะ ถือว่านิสัยดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ
....เห....สมัยก่อนนิสัยแย่มากเลยเหรอ???
“แย่แค่ไหนอ่ะ?”รีไวล์อ่ยถาม
อาร์มินหัวเราะ
“แย่ถึงขั้นแค่ใครมองหน้าเขาเฉยๆ เอเลนก็พุ่งเข้าไปต่อยแล้วครับ”เขาเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง “ฟังดูเหมือนการกระทำของพวกนักเลง หรือที่เรียกว่าหุ่นยนต์ชั้นต่ำเลยใช่มั้ยครับ?...แต่หลังจากอยู่มาได้เกือบสิบปี ทั้งเอเลนทั้งผมก็ได้พบที่ทางของตัวเอง เราได้เข้ามาฝึกงานกับบริษัท Making dear ถูกฝึกถูกสอนจนได้เลื่อนชั้นวรรณะของจักรกล ...จากนั้นอีกหลายร้อยปี เพราะความทะเยอทะยานของเอเลน ทำให้เขาได้เลื่อนขั้นเป็นประธานบริษัท”อาณ์มินเอ่ยด้วยน้ำเสียงปิติยินดี ใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชมเด็กหนุ่มเพื่อนสนิท
“อืม....ก็ดูน่าสนใจดีนะ”เปล่าเลย รีไวล์รู้สึกว่ามันน่าเบื่อมากเลยตะหาก
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากรู้สักหน่อย
...ที่เขาต้องการนะ...คือเรื่องที่ลึกไปกว่านี้
...ส่วนตัวกว่านี้อีก...
“แล้วหมอนั่นเคยมีแฟนรึเปล่า?”เร็วเท่าความคิด จู่ๆคำถามที่ไม่น่าหลุดออกมาจากปากคนอย่างเขามากที่สุดก็ถูกเอ่ยออกมา ท่ามกลางความตกใจในตัวเองของรีไวล์และความตกตะลึงของอาร์มิน “อ่ะ...เอ่อ...”
“เท่าที่ผมเป็นเพื่อนกับเขามา...เหมือนจะไม่เคยนะครับ อาจจะมีบางที่เข้าไปใช้บริการทางเพศจากพวกหุ่นยนต์หญิงชั้นสอง...แต่โดยรวมแล้ว ก็ไม่เคยเห็นเขาพูดถึงผู้หญิงคนไหนในเชิงชู้สาวเลยสักคน”เขาทำหน้าครุ่นคิด พลางตอบออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก
ใช้บริการจักรกลสาวชั้นสอง?....
ก็นะ...ยังไงหมอนั่นก็เป็นผู้ชาย...
แต่ไม่รู้ทำไมที่เขาได้ยินแบบนั้น เขาถึงได้รู้สึกโกรธไอ้บ้านั่นตงิดๆ...
“อ่อ...จริงสิ! ตอนที่ผมเห็นคุณทำให้เอเลนกลายร่างจากหมาป่าเป็นหมาน้อยได้น่ะ จู่ๆเรื่องๆหนึ่งมันก็แวบเข้าหัวผมมาเลยล่ะ”อาร์มินยิ้มแก้มปริ ก่อนจะหันมามองอีกฝ่ายด้วยแววตาสั่นระริก ราวกับกำลังจะบอกบางอย่างที่น่าตื่นเต้นสุดๆให้แก่รีไวล์ “เข้ามาใกล้ๆสิครับ”
ร่างเล็กหรี่ตาลงครู่หนึ่ง ชั่งใจว่าเรื่องที่กำลังจะได้ยินเป็นเรื่องไม่ไร้สาระเกินกว่าจะรับรู้รึเปล่า?
...เฮ้อ...ช่างเถอะ รู้ไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย
ว่าแล้ว ร่างเล็กก็ยื่นหน้าไปใกล้ดวงหน้าหวานของชายผมทอง
แล้วเสียงกระซิบกระซาบแผ่วเบาก็ดังลอยผ่านหูของมนุษย์คนสุดท้าย
“พวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่นะ?”เอเลนที่ได้แต่มองรีไวล์จากที่ไกลๆด้วยสายตาละห้อย เอ่ยถามแจนผู้โดนบังคับ(จากอาร์มิน)ให้นั่งอยู่เป็นเพื่อนเอเลนแผ่วเบา “หัวเราะด้วยอ่ะ....”
ใช่...หลังอาร์มินกระซิบกระซาบบางอย่างเสร็จ เขาก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง ในขณะที่รีไวล์ลอบยิ้มหวานอย่างที่เอเลนไม่เคยเห็นมาก่อน
ท่าทางมีความสุขดีจังเลย....
“นี่ อย่าบอกนะว่านายอิจฉา?”แจนเลิกคิ้วถามเมื่อสังเกตเห็นว่าเอเลนเริ่มมีสีหน้าบูดบึ้ง “...หรือว่าหึง?”
“ห๊ะ!!!”คนศักดิ์สูงกว่าหันควับมามองเพื่อนชายอย่างไม่อยากเชื่อหู “หึง?....หึงอาร์มินเนี่ยนะ? พูดเป็นเล่น เหอะ”เอเลนหัวเราะ ทำหน้าราวกับว่าการหึงอาร์มินเป็นอะไรที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้
“หมายความว่าไงฟ่ะ! เห็นอย่างนั้นก็เถอะ...แต่อาร์มินถ้าดูดีๆก็เท่ไม่หยอกนะเว้ย!”แจนประท้วง พลางทำเสียงฮึดฮัดในลำคอเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะราวกับการดูถูกแฟนหนุ่มของตัวเอง
“หา?....อะไรของนาย”เอเลนหยุดหัวเราะแล้วหันมาเลิกคิ้วใส่แจน “แล้วนายไม่คิดจะหึงคุณรีไวล์เหรอ? นั่นน่ะ น้องอาร์มินของนายเลยนะ?”เขาหยอกด้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้แจนต้องหันมาค้อนใส่เพื่อนตัวดี
“เห๊อะ! งั้นฉันขอยืมคำพูดของนายล่ะกัน...หึงมนุษย์คนสุดท้ายเหรอ? หึงคุณรีไวล์เนี่ยนะ? หึงผุ้ชายตัวเล็กๆสั้นๆคนนั้นอ่ะนะ? เหอะ!?”แจนยักไหล่ พลันเหลือบสายตาไปมองคนทั้งคู่ที่กำลังอยู่ในบทสนทนาของพวกเขา
“หึ! ถึงจะเตี้ยแต่ก็ไม่ธรรมดานะเฟ้ย! ฉันว่าคุณรีไวล์ของฉันน่ะ มีอะไรที่ดูเท่กว่าอาร์มินเยอะ”เอเลนมุ่นคิ้ว ก่อนจะหันไปมองสองหนุ่มที่อยู่ไกลๆตามแจน
...เฮ้ย....
...คราวนี้หนักกว่าเดิมอีก...
ทั้งรีไวล์ทั้งอาร์มินกำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
ใช่....เอเลนเห็นกับตา และไม่อยากจะเชื่อสายตา...
คุณรีไวล์กำลังหัวเราะ...ย้ำนะ ‘หัวเราะ’ หัวเราะแบบอ้าปากยิ้มกว้างเลยทีเดียวเชียว
“....ฉันไปหาคุณรีไวล์ดีกว่า”เอเลนทำหน้าเข้ม พลันรีบผุดลุกออกจากที่นั่งทันที
“ฉันก็ว่าจะไปหาอาร์มินเหมือนกัน”แจนที่สภาพใบหน้าไม่แตกต่างกันก็รีบรุดหน้าเดินไปพร้อมกับเอเลน ในขณะที่สองสาว เอ๊ย! สองหนุ่มกำลังกระซิบกระซาบกันอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจสายตาอิจฉาตาร้อนของอีกสองหนุ่มหุ่นยนต์
“ไม่อยากเชื่อเลย...เป็นแบบนั้นจริงๆเหรอเนี่ย”รีไวล์ลูบคาง พลางนึกถึงความลับของเอเลนที่อาร์มินเพิ่งบอก “หุ่นยนต์ก็เป็นแบบนั้นได้เหรอ?”
“ก็คงเหมือนกับมนุษย์ล่ะมั้งครับ ก็แค่เอเลนน่ะเป็นหนักกว่าคนอื่นหลายเท่าเลย ฮะๆ”หนุ่มผมทองหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง ก่อนจะต้องชะงักไปเมื่อจู่ๆทัศนียภาพเบื้องหน้าก็ถูกบดบังด้วยร่างใหญ่ๆในชุดสูทสีดำของคนสองคน “หือม์?”ร่างเล็กครางเล็กน้อย พลางเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ทั้งสอง
เอเลนกำลังมองอาร์มินด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด
ส่วนแจนก็จ้องมองรีไวล์อย่างไม่พอใจสักเท่าไร
“อะไร?”ทั้งสองคนเอ่ยถามพร้อมกันอย่างงุนงง เมื่อพบเจอกับสายตาที่ไม่น่าอภิรมย์จากเอเลนและแจน
ทั้งคู่เลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่รีไวล์จะร้องอุทานขึ้น เมื่อจู่ๆมือใหญ่ของประธานบริษัทก็กระชากต้นแขนเขาอย่างแรง
“นี่มันก็เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะครับ คุณรีไวล์”เอเลนว่าด้วยน้ำเสียงกระชากหน่อยๆ ก่อนจะดึงแขนของคนตัวเล็กกว่าให้เดินตามตัวเองไป โดยไม่ลืมที่จะส่งสายตาพิฆาตให้หนุ่มผมทองหนึ่งที
“อาร์มิน นายก็ด้วย ไปกันเถอะ”แจนก็ทำท่าทำทางเหมือนกับเอเลนเด๊ะ เขารีบดึงตัวของหนุ่มร่างบางไปด้วยความฮึดฮัดในลำคอ
...ท่ามกลางความงุนงงของคนโดนกระชากทั้งสอง...
..........................................................................................................................
“เป็นอะไรของนายเนี่ย?”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะหันไปมองคนที่ลากเขาเข้ามาในห้องทำงานประธานบริษัท ที่บัดนี้กำลังมีสีหน้าบูดบึ้งและไม่ยอมแม้แต่จะแตะอาหารในจานของตัวเอง “ทำหน้าแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ...”รีไวล์มุ่นคิ้ว นิ้วเรียวยังคงจับช้อนป้อนของหวาน รายการอาหารสุดท้ายของมื้อเข้าปาก
“ก็แล้วเมื่อกี้คุณคุยอะไรกับอาร์มินอ่ะ”เอเลนเบ้ปาก เผลอทำแก้มป่องราวกับเด็กๆโดยไม่รู้ตัว “แถมมียิ้มมีหัวเราะกันด้วยนะครับ ...ทีกับผมไม่เคยได้เห็นเลยสักครั้ง”ที่เขาเคยเห็นก็มีแต่หน้าบึ้ง โมโห...แล้วก็ร้องไห้
แหม...แต่ละอันนี่ดีๆทั้งนั้นเลยนะ
เอเลนคำรามในลำคอ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้รีไวล์ ใกล้เสียจนอีกฝ่ายต้องเอนหลังหนี ร่างกายถูกบังคับให้แนบกับโซฟาที่ตัวเองนั่ง
“หา?”รีไวล์เลิกคิ้ว พลางใช้มือดันหน้าอกกว้างให้ออกห่างตัว “เรื่องอะไรฉันต้องบอก”พูดแล้วก็พาลคิดถึงเรื่องที่อาร์มินแฉความลับอีกฝ่ายให้ฟัง ทำให้ใบหน้าสวยปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ “ว่าแต่นายเหอะ...ทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย”
เอเลนมุ่นคิ้วเมื่อได้รับคำตอบที่ไม่พอใจ เขาทำเสียงฮึดฮัดในลำคอครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนจมูกชนจมูก
“เฮ้ย!!!”ร่างเล็กเบิกตากว้าง
“นั่นไง! นั่นไง! คุณยิ้มอีกแล้วนะ”เขาร้อง “บอกมาเลยนะว่าคุยเรื่องอะไรกัน คุณรีไวล์!!! ผมขอสั่งให้พูดออกมาเดี๋ยวนี้!!!”
รีไวล์เลิกคิ้ว มองเอเลนอย่างไม่สบอารมณ์ พลางก็นึกถึงไอ้ท่าทางราวกับลูกหมาตัวน้อยที่ทำท่าหวงเจ้านายเมื่อตอนเช้านี้ ทีตอนนั้นร่างสูงยังดูจะเชื่อฟังคำสั่งเขาดี แล้วไหงตอนนี้มาทำท่าวางอำนาจใส่เขากันล่ะ?
เหอะ! ถ้าอยากรู้นักล่ะก็....
...จะไม่ยอมเปิดปากบอกไปชั่วชีวิตเลย คอยดู!...
“หึ!”เขาเชิดใส่ พลางเบนหน้าหนีใบหน้าหล่อ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนถูกเม้มจนแนบสนิท ราวกับจะบอกเป็นความนัยให้อีกฝ่ายรู้ว่า
‘ฝันไปเถอะ! ฉันไม่ยอมพูดง่ายๆหรอก!!!’
“ฮึ่มมมม”เอเลนคำราม “ไม่ยอมบอกใช่มั้ยครับ?”ร่างสูงรู้สึกโมโหมากๆ ยิ่งเห็นท่านอนกอดอก หน้าเชิดขึ้นราวกับราชินีของอีกฝ่าย เอเลนก็ยิ่งปรี๊ดแตก “ก็ได้ครับ...เดี๋ยวผมหาคำตอบเอง”
“หาคำตอบ?...หายังไง อ๊ะ!”ยังไม่สิ้นคำถาม รีไวล์ก็เข้าใจแจ่มแจ้งและคิดได้ในทันทีว่าคำถามที่คิดจะถามเมื่อกี้มันช่างโง่เง่าเหลือเกิน...
...เพราะไอ้เด็กนี่มันทำเป็นแต่เรื่องหื่นๆน่ะสิ!!!!...
“ออกไป...อื้อ!...นะเว้ย!!!”รีไวล์พยายามดันใบหน้าหล่อให้ออกห่างจากซอกคอหอมของตัวเอง แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เพราะทุกครั้งที่ฝ่ามือเรียวยาวพยายามดันหน้าอกกว้าง เอเลนก็จะจงใจกดตัวเองให้แนบชิดกับรีไวล์มากขึ้น “อย่านะโว้ยย!!!”ใบหน้าสวยเริ่มขึ้นสีแดงร้อนๆเมื่อลิ้นหยาบเย็นๆบรรจงเลียผิวของเขาตั้งแต่ท้ายทอยยันใบหู
“จะบอกผมได้รึยังครับ?”ร่างสูงเอ่ยเสียงแผ่ว กลั่นแกล้งอีกฝ่ายด้วยการเป่าลมเย็นๆ(เพราะเป็นหุ่นยนต์)เข้าหูเล็กๆนั่น ทำให้ร่างทั้งร่างของคนข้างใต้ถึงกับขนลุกซู่ไปหมด “หรือว่าผมต้องทำมากกว่านี้ถึงจะยอมปริปากบอกครับ?”ว่าแล้วก็ลองใช้มือลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องที่มีซิกแพ็คขาวๆอยู่
ตัวอุ่นจัง....
เอเลนไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของตัวเองได้ว่าชอบการสัมผัสร่างกายของมนุษย์มากแค่ไหน...ตัวอุ่นจนอยากกอดทุกวัน ผิวก็นุ่มน่าหมั่นเขี้ยว แถมอุณหภูมิของร่างกายมนุษย์ก็ชอบสูงขึ้นเรื่อยๆยาม...
...เขิน....
คิดแล้วก็ลอบมองใบหน้าขาวซีดที่บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ด คิ้วสวยๆนั่นถูกขมวดจนจะผูกเป็นโบว์ นัยน์ตาเรียวสีเทาปิดลงด้วยความอาย ขณะที่ริมฝีปากสีกุหลาบเม้มสนิทเพื่อกลั้นเสียงครางที่อื้ออึงอยู่ในลำคอ
อึก! น่ารัก!!!....
เอเลนรู้สึกได้เลย ว่าตอนนี้ เขาอยากจะลงไปแดดิ้นลงกับพื้นแล้วปล่อยให้เลือดตัวเองไหลโจ๊กๆออกมาจากทางจมูกให้ห้องนี้กลายเป็นทะเลเลือด...
....อ๊ะ ลืมไป...เขาไม่มีเลือดนี่หว่า...
แต่ยิ่งเห็นสีหน้าน่ารักๆแบบนี้ เอเลนก็ยิ่งละโมบอยากเห็นสีหน้าที่ดูยั่วยวนมากกว่านี้...
...สีหน้า...ที่อาร์มินไม่มีวันได้เห็นเหมือนที่เขาเห็น!!!
“ฮ...เฮ้ย!!! หยุดนะ!!!”รีไวล์ร้องโวยวายดังลั่น เมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายเริ่มรุกล้ำมาพรมจูบไปทั่วใบหน้าตัวเอง ถึงจะเคยโดนทำแบบนี้มาแล้ว แต่ยังไงเขาก็ไม่มีวันคุ้นชินกับการถูกป้ายน้ำลายของคนอื่นหรอกนะ!
เอเลนแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเลื่อนจากเป้าหมายรอบนอก พุ่งเป้าเข้าไปที่กลีบปากบางสีชมพูด้วยความรวดเร็ว ไม่เหลือเวลาให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งรับการรุกรานของลิ้นหยาบใหญ่
เริ่มแรกก็เป็นเพียงการสัมผัวแผ่วเบา ก่อนที่ลิ้นของร่าวสูงจะค่อยๆดุนเข้าไปในโพรงปากเล็กๆนั่น
....ที่น่าแปลกคืออีกฝ่ายกลับยอมให้เขารุกล้ำเข้ามาง่ายๆ
“อา....”คราวนี้ รีไวล์ดูเคลิ้มง่ายกว่าปกติจริงๆ อาจเป็นเพราะเริ่มจะคุ้นชินกับสัมผัสเร่าร้อนแบบนี้ หรือไม่ก็เป็นเพราะเอเลนใช้ความอ่อนโยนเข้าแทนที่ความรุนแรงที่เคยใช้ก็เป็นได้....
ลิ้นหยาบใหญ่รุกล้ำเข้าไปในโพรงปากหวานช้าๆ ค่อยๆโลมเลียภายในจนรีไวล์เผลอปล่อยมือที่เคยดุนดันอีกฝ่าย เปลี่ยนมาเป็นการคล้องคอของเด็กหนุ่มให้โน้มตัวลงมามากขึ้น
....ว้าว...
เอเลนตกใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีการตอบแสนองทางบวกจากรีไวล์ และเมื่ออีกฝ่ายเปิดโอกาสให้เขาถึงขนาดนี้แล้ว มีหรือที่เขาจะปฏิเสธมัน
เอเลนโน้มใบหน้าลงใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น เพื่อให้ได้รุกล้ำเข้าไปได้ลึกขึ้น ก่อนที่ร่างสูงจะพยายามไม่ให้มือของตัวเองว่างงานจึงรีบสอดเข้าไปโอบกอดเอวบาง
จูบอันแสนอ่อนโยน ค่อยๆเร่งความรุนแรงและเร่าร้อนมากขึ้น....น้ำลายของทั้งสองผสมปนเปจนหยาดใสๆค่อยๆไหลผ่านกลีบปากบางของรีไวล์
เอเลนรู้สึกถึงรสหวานของวานิลลาที่อีกฝ่ายได้ทานไอศกรีมเข้าไป
...หวาน...
...ไม่ใช่แค่หวานไอศกรีม....
“ฮะ...ฮ่า...ฮ่า”เอเลนถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆ พลันก้มลงมองดูใบหน้าสวยที่กลืนไปด้วยสีชมพูของเลือดที่สูบฉีด กลีบปากที่บวมช้ำเป็นสีแดงเผยอออกเพื่อรับอากาศเข้าไปอย่างไม่ยอมหุบลง(และนั่นทำให้เขามีกความคิดอกุศลผุดขึ้นมา) คิ้วของร่างเล็กยังคงขมวดผูกกันไม่เลิก ราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองได้ยอมโอนอ่อนต่อเด็กหนุ่มอย่างมากมายขนาดนี้
“ว้าว….คุณรีไวล์นี่...เซ็กซี่ดีจ...อั๊ก!!!”ยังไม่ทันจะเอ่ยชมเสร็จก็โดนฝ่ามือเล็กๆทั้งสองฟาดเข้าให้เต็มๆที่ใบหน้า แรงก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงจะไม่เยอะเท่าแรงของหุ่นยนต์ แต่แบบนี้ก็ทำเอาเขาเกือบหงายคอไปแล้ว
“ไอ้บ้า!!! เมื่อกี้...เมื่อกี้แกคิดจะฉวยโอกาสอยู่แล้วใช่มั้ย!!!”เขาทั้งผลักทั้งเตะ พยายามเหลือเกินที่จะให้เด็กหนุ่มอยู่ให้พ้นรัศมีความปลอดภัยของตัวเอง จนสุดท้าย อีกฝ่ายก็ตกลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น ในขณะที่ตัวเองผุดลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา “ถ้าจะเค้นคำตอบจากฉันนะ! ไอ้วิธีที่นายทำน่ะ...เป็นวิธีที่แย่ที่สุด! หยะแหยงที่สุด! และไม่มีวันที่ฉันจะตอบคำถามนายเพราะแค่โดนจูบหรอก!!!”
เอเลนทำตาปริบๆ มองคนที่เคลิ้มไปกับรสจูบของเขาจนระทวยไปทุกสัดส่วนแต่กลับบอกว่ามันน่าขยะแขยงด้วยแววตาใสซื่อ
เด็กหนุ่มแสยะยิ้มชั่วร้าย
“แค่จูบไม่บอก...อ๋อ...งั้นก็ต้องมีสอดใส่เสียบแทงเหรอครับ? ถึงจะบ...แอ๊ก!!!”ก็ไม่พ้นจากการคาดการณ์ของเอเลน ฝ่าเท้างามๆก็บรรจงถีบเข้าให้ที่ใบหน้าหล่ออย่างจัง
“ไอ้เด็กลามก! ในหัวแกคิดได้อยู่แค่นี้ใช่มั้ย?!”รีไวล์ถีบยังไม่พอ เจ้าตัวยังโน้มตัวลงไปตบหัวสีน้ำตาลของอีกฝ่ายทีหนึ่ง(แรงๆ) “ฉันว่านายน่ะ ยิ่งกว่าพวกผู้ชายขายบริการทางเพศอีกนะ!”
“โหยยยย พูดจาได้ร้ายกาจมากครับ”เอเลนมุ่นคิ้ว ก่อนจะจับข้อเท้าเรียวสีขาวของอีกฝ่ายมาลากลิ้นเลียผิวนุ่มๆนั่น
“ฮึ่ย!”ร่างบางรีบสะบัดเท้าหนี แล้วเก็บขาทั้งสองข้างมานั่งพับเพียบอย่างรวดเร็ว “อ..ไอ้บ้า!”เขาท้วงด้วยใบหน้าแดงซ่าน
...พ...พับเพียบ
...ค...โคตรน่ารักเลยเว้ยยยย!!!!!
“....ฮึ่ยยย!!!!!...”เอเลนครางในลำคอพลางใช้มือปิดหน้า ก่อนจะคลานไปกลิ้งๆกับพื้นเพราะต่อมฟินทำงานหนักเกินไป....
ขณะที่รีไวล์จ้องมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยสีหน้างงๆ
..... อะไรวะ?
.....................................................................................................................
“ต้องลักพาตัวมา....”เสียงทุ้มแก่ของชายเกือบชราเอ่ยขึ้น เขาหันไปมองคนข้างๆด้วยแววตาจริงจัง “เขาเป็นกุญแจสำคัญของทุกอย่าง....เป็นคนเดียวที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากโลกสวะใบนี้”หนังมือเหี่ยวยานเอื้อมไปตบที่ไหล่หนาของชายหนุ่ม
“...ครับ...ผมทราบดี”ชายหนุ่มเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะหันไปบอกหุ่นยนต์หญิงสาวที่เดินมาพร้อมกันให้พาชายชรากลับเข้าที่พัก
หญิงสาวหันมามองเขาด้วยแววตาเรียบเฉยครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตามที่อีกฝ่ายสั่ง
“ต้องพามาที่นี้....พามาที่นี้”ผู้สูงวัยยังคงพึมพำเพื่อย้ำเตือนเขา แม้ว่าจะกำลังเดินเข้าไปในที่พักของตัวเอง ชายชราก็ยังคงย้ำคำพูดนั่นและพูดดังขึ้นเรื่อยๆ “พามา...พามาที่นี้....พาเขามาที่นี้ให้ได้!!!!”
ส่วนชายหนุ่มก็มองตามแผ่นหลังที่ค่อมลงเล็กน้อยจนลับสายตาเข้าไปในม่าน... แม้ว่าอีกฝ่ายจะอายุมากแต่ก็ยังเดินได้หน้ายืดหลังตรงแบบคนหนุ่ม...
...มนุษย์คนสุดท้ายเหรอ?...
“รีไวล์ แอคเคอร์แมน....”เขาพึมพำ นัยน์ตาสีดำเหม่อมองมือที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมายของตัวเอง
...เลือดคือสิ่งที่ย้ำเตือนให้รู้ว่ายังคงเป็นมนุษย์...
....ยัง...ยังไม่สมบูรณ์แบบ....
เขายังต้องการปัจจัยสำคัญ...
ต้องการคนคนนั้น....
คนที่จะทำให้เขา ‘สมบูรณ์แบบ’
“อีกไม่นาน....เราจะได้เจอกัน รีไวล์”
..................................................................................................................
ขอโทษเคอะที่ไรต์ห่างหายไปนานกว่าครึ่งเดือน ;3;
ไม่พูดพร่ำทำเพลงค่ะ เชิญเปิดอ่านตอนต่อไปได้เลย =w=
ความคิดเห็น