คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 4 - โกรธ
LAST
CHAPTER 4 – โกรธ
“เธอจะมาอยู่กับฉันรึเปล่า?”เอลวินถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน นัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยนั่นอย่างไม่วางตา หวังจะถ่ายทอดความรู้สึกจอมปลอมนี้ให้อีกฝ่ายเชื่อสนิทใจ
ใช่...จอมปลอม...
“นาย...”รีไวล์พึมพำ ในหัวสมองภายใต้เส้นผมดกดำนั้นกำลังประมวลผลบางอย่างอยู่ เขากำลังชั่งน้ำหนักของความเสี่ยงต่อการเอาชีวิตรอด
นัยน์ตาสีเทานิลเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อใจ
เท่าที่เขาพอเค้นความทรงจำออกมาได้ ดูเหมือนว่าเอเลน ประธานบริษัทเยอรมันที่ประมูลตัวเขาจนชนะ จะไม่ถูกกับผู้ชายคนนี้
...นั่นแหละประเด็น...
“ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่านายไม่ได้ตั้งใจจะ ‘ล่อลวง’ฉัน”อะไรบางอย่างกำลังบอกเขาว่านี่เป็นการแข่งขันกันของประธานบริษัทเซ็กส์ทอยสองประเทศ “ทั้งที่จริงแล้ว นายก็แค่พูดจาหว่านล้อมฉันเพราะอยากจะเอาชนะไอ้เด็กนั่น”
เอลวินชะงักไปเมื่อได้ยินคำพูดของร่างเล็ก เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายครู่หนึ่ง ก่อนจะฉายรอยยิ้มหวานดังเดิม
“เธอคงจะเป็นมนุษย์ที่มองโลกในแง่ร้ายสินะ”เอลวินหัวเราะ
“มันก็ไม่เชิง”รีไวล์ดักเสียงหัวเราะของเขา ทำให้ร่างสูงเกิดอาการชะงักอีกครั้ง “ฉันแค่เป็นคนรอบคอบเท่านั้น....อีกอย่าง การอยู่ในสถานการณ์ที่ฉันเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศของหุ่นยนต์....ไม่ว่าฉันจะไปอยู่ที่ไหนก็โดนทำแบบนั้นอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”รีไวล์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง เมื่อพูดถึงประโยคท่อนท้าย เขาก็เผลอกระชับเสื้อของตัวเองให้แนบชิดขึ้น
“มันก็จริง...”เอลวินแผ่วเสียง “แต่ว่า...ฉันมั่นใจได้เลยว่าถ้าเธอมาอยู่กับฉันที่อังกฤษ เธอจะ...”
“เอลวิน สมิธ!!!!!!”แต่ก่อนที่คำหว่านล้อมอาบยาพิษจะพูดเสร็จ เสียงกัมปนาทน่ากลัวก็ดังลั่นห้อง ตัดบทชายผมทองในทันที
รีไวล์สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ต่างจากใบหน้าของเอลวิน ที่ดูจะเบื่อหน่ายกับเสียงนั้น
“เฮ้อ...ตัวยุ่งมาซะแล้ว”ชายหนุ่มพึมพำ พลันละสายตาจากใบหน้าสวยของรีไวล์ ไปมองใบหน้าหมาแยกเขี้ยวของเอเลน “มาสักทีนะ...นายน่ะ”เอลวินส่งยิ้มให้
แต่ใบหน้าที่ดูรื่นรมย์ อารมณ์ดีของเขา ก็ไม่ทำให้เอเลนลดสีหน้าหมาแยกเขี้ยวเลย
“นี่มันอะไรกัน! นายเข้ามาในนี้ได้ยังไง!”เอเลนตวาดลั่น พลางถลึงตามองชายผมทองอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
เมื่อตอนที่เขากำลังประชุมอยู่ที่ชั้นสามสิบ(ซึ่งอยู่ต่ำกว่าชั้นนี้ 320 ชั้น) จู่ๆก็มีคนมาบอกเขาว่าประธานบริษัทจากอังกฤษจะมาหาเขาที่นี้ แต่รอตั้งนานสองนาน รอเป็นชั่วโมง ไอ้คนที่ว่าจะมาก็ยังไม่โผล่หัวให้เห็นสักที เขาก็เลยฉุกคิดขึ้นมา ...
....หรือว่า ไอ้บ้านั่น...
เพียงเท่านั้นแหละเขาก็บึ่งมาที่นี้ด้วยความหัวฟัดหัวเหวี่ยงทันที
เอลวินถอนหายใจ
“แต่ก็ดีไม่ใช่เหรอที่ฉันมาที่นี้น่ะ...”ชายผมทองเอ่ย พลางมุ่ยหน้าไปทางหุ่นยนต์สองตัวที่กำลังร้องโอดครวญอยู่บนพื้นห้องน้ำ “ปล่อยให้ไอ้พวกหมาไม่รักดีสองตัว...เข้ามาจะทำอะไรไม่ดีกับของล้ำค่าที่สุดของนาย”
เอเลนเลิกคิ้วเมื่อได้ยินดังนั้น ก่อนจะมองตามนัยน์ตาสีฟ้าของอีกฝ่ายไป
“นี่มัน....”เขามุ่นคิ้ว พลางมองใบหน้าของลูกน้องแผนกบริการทั้งสองด้วยความงุนงง “...พวกนายเข้ามาชั้นนี้ได้ยังไง....”
“อ๊ะ! ท..ท่านประธาน!!!”เจมส์ที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาร้องอุทานลั่น เขาสลับหน้ามองเอเลนและเอลวินรัวๆหลายที ก่อนจะตัดสินใจก้มลงกราบเท้าขอขมาเจ้านายตัวเอง “ผมขอโทษครับ!!!! ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ!!!! ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!!!!” เขาเอ่ยเสียงดัง ร่างกายสั่นเทา ไม่กล้าเงยหน้ามองใบหน้าของคนเบื้องสูงเลย
“ไอ้สองตัวนี้น่ะ...”เอลวินเดินเข้ามาใกล้เอเลน ก่อนจะประซิบบอกประโยคถัดมา กระจ่างข้อข้องใจให้อีกฝ่ายอย่างแจ่มแจ้ง “ไม่รู้ว่าตั้งใจมาที่นี้เพื่อจุดประสงค์อะไร...แต่ตอนที่ฉันบุกเข้ามา...ก็เห็นพวกมันกำลังกระทำชำเรามนุษย์คนสุดท้ายอยู่”
เพียงเท่านั้นแหละ นัยน์ตาสีเขียวมรกตทั้งคู่ก็เบิกกว้าง
...พลางบางอย่างก็ลุกโชนขึ้นมา...
“อะ-ไร-นะ”เขาเอ่ยคำรามเสียงต่ำ ก่อนจะใช้เท้าข้างหนึ่งกระแทกเข้าใส่ศีรษะของลูกน้องอย่างแรง
“อั่ก!!!”เจมส์กระเด็นไปตามแรงหนักๆนั่น รู้สึกว่าหน้าของตัวเองที่บุบอยู่แล้ว ยิ่งผุพังหนักเข้าไปอีก
“นายมาทำอะไรที่นี้...ไม่สิ...นายเข้ามาในชั้นนี้ได้ยังไง!!!”เอลนตวาดลั่น ใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยความโกรธสุดขีด และไม่ต้องรอคำตอบด้วยซ้ำ ร่างสูงก็เดินไปฉุดเอาร่างของหุ่นยนต์ที่ใกล้จะพังอยู่รอมร่อขึ้น แล้วทุบเข้ากับกำแพงสีขาวด้วยแรงทั้งหมดที่มี
“อั่ก!!!!!”เจมส์เริ่มรู้สึกถึงรอยร้าวที่เกิดขึ้นระหว่างคอ เขาพยายามจะเค้นเสียงออกมาบอกกล่าวความอีกฝ่าย แต่ศีรษะก็โดนกระแทกเข้ากับผนังนับร้อยครั้ง จนไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้ทัน
“เฮ้...นายอยากได้คำตอบไม่ใช่เหรอ”เอลวินกอดอก “หยุดทำแบบนั้น แล้วปล่อยให้มันพูดสิ”
เอเลนยอมทำตามที่ศัตรูบอก แม้นจะยังทำหน้าไม่สบอารมณ์ ราวกับการลงโทษเมื่อกี้ยังไม่สาสมเท่ากับความผิดที่พวกมันก่อ
“ผ...ผม”เจมส์ไอค่อกแค่ก แม้นว่าไม่มีเลือดอะไรออกมาเลยสักนิดเดียว “น...นาฬิ..กา”
“?”เอเลนมุ่นคิ้ว ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองนาฬิกาที่ข้อมือของอีกฝ่าย ก่อนจะกระชากมันออกมา แล้วก้มพิจารณาดู “นายดัดแปลงนาฬิกาให้เจาะรหัสเข้ามาในนี้เหรอ?”
“ม...ไม่ใช่ผมครับ..แค่กๆ”เจมส์ค่อยๆถอนตัวเองออกจากกำแพง “ผมจ้างคนอื่นมาอีกที”
พลันจบประโยค เอเลนและเอลวินก็หันมามองหน้าพร้อมกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ข่าวลือที่ว่าเป็นจริงสินะ...”เอลวินพึมพำ ย้อนความทรงจำไปถึงข่าวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องของหุ่นยนต์ชั้นต่ำตัวหนึ่งที่ใช้นาฬิกาดัดแปลงบุกเข้าไปในห้องเก็บเงินของธนาคารที่ญี่ปุ่น ทีแรกเขาก็คิดว่ามันเป็นแค่ข่าวลวง เพราะระบบรักษาความปลอดภัยของนาฬิกานั้น ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง ไม่มีทางที่ใครเจาะระบบนาฬิกาแล้วรัฐบาลจะไม่รู้
....นอกจากว่าคนแฮ็คระบบจะเคยเป็นคนของรัฐบาล...
“นายมันเป็นหุ่นยนต์ชั้นต่ำไม่ใช่เหรอ? มีเงินมากมายไว้เป็นค่าจ้างดัดแปลงนาฬิกาเหรอไง?”เอเลนเค้นถามอีกฝ่าย
“...คือ”เจมส์ทำสายตาเลิ่กลั่ก ก่อนจะค่อยๆหันไปทางรีไวล์ที่เพิ่งลุกขึ้นยืนมองเขาอยู่ห่างๆ “...อันที่จริงแล้ว...ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจผู้ชายคนนั้นเหมือนกัน แต่เขาบอกว่า เขาจะทำให้ผมฟรีเพราะผมทำงานที่บริษัทที่มีมนุษย์คนสุดท้ายอยู่”
“อะไรนะ?”เอเลนหรี่ตาลง เขาหันไปมองร่างเล็กที่อยู่ห่างออกไปเพียงครู่เดียว ก่อนจะหันมาบีบคอเจมส์อย่างแรง
“อั่ก!!!”
“บอกมา!...บอกมาว่าไอ้เจ้านั่นมันชื่อว่าอะไร!!??”
“อั่ก....เขา..”เขาตะเกียกตะกายมือไปทั่ว พยายามจะหลุดออกจากมือใหญ่น่ากลัวนั่น “เขาไม่ยอมบอก..อั่ก!!!...ให้เรียกสั้นๆว่า M”
“M?”ร่างสูงเลิกคิ้วพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “แล้วสถานที่ที่พบเจอ?”
“ม..มีคนแนะนำผมมาอีกทีครับ...เราเข้าไปเจอกันในเวปสาธารณะธรรมดา..อั่ก!...ส่วนการส่งของ...เขาให้ส่งในที่ต่างกันน่ะครับ
“อืม...รอบคอบดีมาก”เอลวินพยักหน้าเห็นด้วย
“นี่คือเท่าที่นายรู้ใช่มั้ย?”
“....อึก...ครับ”
เอเลนเสยะยิ้มกว้าง
“งั้นก็ขอบใจมาก”เขาเผยอยิ้มหวาน ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดหักคอเหล็กนั้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ!! และเท่านั้นยังไม่พอ หัวที่หล่นลงมากองกับพื้น รองเท้าหนังมันขลับอย่างดีของเขาก็เหยียบเข้าให้กับหัวทุยๆนั่น!!!! “แต่โทษที่นายแตะต้องของของฉัน...มันหนักหนากว่าสิ่งที่นายสารภาพจะลบล้างได้...”
รีไวล์สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเหล็กหนักๆหักเป็นสองซีก เขาจ้องมองใบหน้าหล่อของเด็กหนุ่มที่เคยมีแต่รอยยิ้มเสแสร้ง แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความทะมึนของความโกรธ
...เขามีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?...
...ก็คงใช่...หมอนั่นแลกเขามาด้วยเงินตั้งมหาศาล...
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้
....รู้สึกเจ็บแปลบๆที่หัวใจ...
“นาฬิกานี่...ฉันคงต้องส่งไปให้รัฐบาล”เอเลนหันมามองอริของตัวเอง “พวกแฮคเกอร์ระดับเทพแบบนี้ สักวันต้องสร้างปัญหาให้พวกเราแน่”
“ฉันว่าเขาสร้างไปแล้วนะ”เอลวินว่า พลางหันไปมองรีไวล์ ร่างสูงใช้แขนดึงตัวของร่างบางให้เข้ามาใกล้ แอบหัวเราะนิดๆเมื่อเห็นรอาการสะดุ้งน้อยๆของรีไวล์ กับใบหน้าที่เข้มขึ้นของเอเลน “ซึ่งนั่นทำให้ฉันเห็นว่านายไม่ได้ให้ความสำคัญในการปกป้องมนุษย์ที่มีค่าที่สุดอย่างดีพอ”ว่าแล้วมือใหญ่กว่ามากของเอลวินก็ถือวิสาสะจับลงที่ไหล่เล็กๆ
รีไวล์พยายามสะบัดตัวออก แต่ก็โดนมือใหญ่นั่นกดเข้าหาร่างสูงจนขัดขืนไม่ได้
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าข่าวลือแบบนั้นมันจะเป็นจริง!!!”เอเลนตวาดใส่ สายตาไม่ยอมละจากมือที่กล้าดีแตะต้องไหล่ของสมบัติเขา
....ใช่!!! สมบัติของเขา...
ว่าแล้ว เอเลนก็พุ่งตรงดิ่งไปกระชากตัวร่างบางออกจากการพันธนาการของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มถลึงตามองชายผมทองด้วยสายตาสัตว์ป่ากระหายเลือด
“อย่า ได้...แตะต้อง รีไวล์ อีก”เขาแอ่ยเน้นเสียงทีละคำ และถ้านั่นยังไม่ชัดเจนพอละก็ แขนใหญ่ทั้งสองข้างก็โอบเอวเล็กนั่นให้เข้ามาประชิดตัวแน่นเป็นการตอกย้ำ
“น..นี่!”ร่างเล็กดิ้น แต่ก็โดนกดจนหน้าจำต้องแนบชิดกับแผงอกกำยำ “ไอ้บ้าเอ๊ย!”เขาสบถ แต่ก็ไม่รู้ทำไมใบหน้าต้องแดงเถือกเพราะปฏิกิริยาที่ได้รับจากอีกฝ่าย
....เหมือนหวง....
“นายยังไม่บอกฉันเลยนะ...ว่าใครบอกรหัสนาย”
เอลวินถอนหายใจ
“ก็อาร์มินเพื่อนนายน่ะสิ”เอลวินกอดอก “แต่อย่าไปโกรธเพื่อนคนนั้นของนายเลย ที่เขาทำแบบนั้นเพราะเรื่องที่ฉันบอกแก่ทีมวิจัยบริษัทของนาย เพราะมันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส....เขาก็เลยแนะนำให้ฉันลองมาพูดคุยกับมนุษย์คนสุดท้ายเพื่อเป็นข้อเสนออีกอย่าง”
“ข้อเสนออีกอย่าง?”เอเลนขึ้นเสียงสูง รู้สึกเหมือนโดนเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตทรยศอย่างไม่เหลือชิ้นดี “ข้อเสนอให้มาลักพาตัวของของฉันเนี่ยนะ?!”
“ฉันเปล่าจะลักพาตัว”ร่างสูงผมทองมุ่นคิ้วเมื่อถูกกล่าวหาเช่นนั้น “ฉันแค่มายื่นข้อเสนอแก่เขาเอง ถ้าเขาไม่ตกลงมันก็ช่วยไม่ได้”
“ข้อเสนออะไรครับ?”คราวนี้เด็กหนุ่มหันมาถามคนในอ้อมกอด เขาเผลอกระชับเอวบางให้เข้าตัวมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“เรื่อง...จะให้ฉันไปอยู่กับมัน”รีไวล์ตอบ พลางหันไปชำเลืองมองเอลวินเพียงพริบตาเดียว “ถึงจะน่าเชื่อถือก็เถอะ...แต่ฉันไม่คิดจะไปหรอก...เพราะถึงจะอยู่ที่ไหนมันก็พอๆกัน”เขาว่าตามความเป็นจริง
เอเลนก้มลงมองร่างบางด้วยแววตาแปลกใจนิดๆ
...เขาคลายสัมผัสที่เอวรีไวล์ด้วยความโล่งอก
“นาย...ได้ยินแล้วสินะ”เอเลนยิ้มเยาะ “เขาเลือกจะอยู่กับฉันไม่ใช่นาย”
สิ้นประโยคนั่น รีไวล์ก็ถึงกับอ้าปากหวอ เพราะสิ่งที่ไอ้เด็กนี่พูดมันเหมือนกับเขากำลังอยู่ในสถานการณ์รักสามเส้ายังไงยังงั้น!
“เพราะฉะนั้น ในเมื่อธุระนายหมดแล้ว...ก็ขออัญเชิญออกจากบริษัทนี้...ไม่สิ...จากประเทศนี้เลย”
ถึงแม้จะถูกขับไสไล่ส่งด้วยถ้อยคำเหน็บแหนม เอลวินก็ยังคงยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“ดูเหมือนนายจะลืมประเด็นที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว”เขาว่า
เอเลนมุ่นคิ้ว
“ก็ทำไมอาร์มินถึงได้เสนอให้ฉันมาคุยกับมนุษย์คนสุดท้ายโดยตรงล่ะ?...ทำไมเขาถึงได้หักหลังนายเพื่อให้ฉันมาที่นี้?”ชายผมทองแสยะยิ้มร้าย พลางค่อยๆเดินมาใกล้ๆร่างเล็กในอ้อมกอดของเอเลน “เพราะเขารู้ว่าบางอย่างที่เลวร้ายมากๆกำลังจะเกิดขึ้น...ถ้าฉันไม่ได้ตัวรีไวล์ไป”
“หมายความว่ายังไง”เอเลนแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่าย พลางเอาตัวบังร่างเล็กไว้ ไพล่ให้รีไวล์ไปยืนนิ่งๆอยู่ข้างหลัง
“ก็ลองคิดดูสิ เอเลน...”เอลวินละสายตาจากใบหน้าสวยของรีไวล์ “ว่าอะไรสำคัญกว่า?...ไม่มีมนุษย์คนสุดท้าย แต่ก็ยังมีทีมวิจัยที่แข็งแกร่ง ถึงจะไม่ได้เป็นที่หนึ่งของโลก แต่ก็ไม่ตกอันดับรั้งท้าย....กับ มีมนุษย์คนสุดท้าย...แต่ไม่มีทีมวิจัยผลิตหุ่นยนต์ออกมา”
สิ้นประโยคทุ้มนั่น ก็ราวกับมีเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นอยู่ในหัวจักกรของเอเลน
เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง
“นาย...นายคิดจะซื้อ...”เอเลนแทบพูดไม่ออก “ทีมวิจัยของฉัน....”
“ใช่...จะว่าไปแล้ว เพื่อนๆนายนี่น่าสมเพชดีจังเลยนะ”เอลวินยิ้ม “แค่เสนอจะให้เงินเดือนมากกว่าที่นายให้เป็นเท่าตัว หมาพวกนั้นก็รีบกระโจนรับเศษกระดูกที่ฉันโยนให้เลย”
รีไวล์เม้มปาก นัยน์ตาสีเทานิลเหลือบมองใบหน้าหล่อดุจเจ้าชายด้วยความขยะแขยง
“แล้วนายคิดว่าไงล่ะ หือม์? จะยอมขายมนุษย์คนสุดท้ายให้ฉัน....หรือจะยอมเสียทีมวิจัยคุณภาพดีให้กับอังกฤษ...นายจะเรียกราคาสูงๆก็ได้นะ ฉันยอมจ่ายให้หมด”ว่าแล้วก็แอบไปขยิบตาให้รีไวล์หนึ่งที
ร่างบางกัดฟันกรอด
“ไอ้หมาสกปรก”เขาพึมพำเสียงเบา เผลอใช้มือกำเสื้อสูทของเอเลนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
....เขาต้องถูกขายออกไปแน่ๆ...
..ใช่...ไม่ว่าจะยังไง เอเลนก็ต้องรักษาทีมวิจัยในบริษัทของเขา...
...ต้องถูกขายให้อีกฝ่าย...
ต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต้องการ
แค่คิด หัวใจก็เจ็บแปลบราวกับมีอะไรแหลมๆทิ่มแทง
แต่ก่อนที่ใบหน้าสวยนั่นจะเต็มไปด้วยความรวดร้าว...
...เสียงทุ้มใหญ่ของเอเลนก็ดังขึ้น....
“ฉันไม่ให้”
....................................................................................................................................................
“นายแน่ใจนะ...ที่เลือกแบบนี้?”รีไวล์นั่งเหม่อมองบรรยากาศภายนอกกระจกใสที่เป็นผนังห้อง เขามองเห็นฝนที่ตกโปรยปรายมาด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ได้ยินเอเลนเคยพูดเมื่อตอนเช้าว่า ที่โลกปัจจุบันนี้ ฝนแต่ละเม็ดมีความบริสุทธิ์แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ สะอาดสดชื่นและปลอดสารพิษ
....ไม่เหมือนสมัยมนุษย์ครองโลก...
“ผมไม่รู้”เอเลนตอบสั้นๆ เขานั่งมองฝนสลับกับใบหน้าสวยไปมา “....ฟ้ามืดดีนะครับ...ทั้งๆที่ตอนนี้มันยังบ่ายอยู่”
“....”ร่างเล็กไม่ตอบ นัยน์ตาสีเทานิลยังไม่ยอมละจากเม็ดฝนที่เกาะอยู่ที่หน้าต่าง
เอเลนถอนหายใจเมื่อเห็นดังนั้น
“ผมลองไปถามจากอาร์มิน..เพื่อนของผมมาแล้ว”เขาเปรย ลุกขึ้นเดินมานั่งข้างรีไวล์บนเตียงแข็งๆของตัวเอง “คนที่ถูกซื้อไปมีทั้งหมด 320 จาก510 คน...พวกเขาทั้งหมดจะออกจากบริษัทไปในวันพรุ่งนี้”เขาเปรย “แต่ก็ยังโชคดี...คนในทีมที่มีศักยภาพมากที่สุดหลายๆคน...เขาไม่ยอมรับข้อเสนอของไอ้จิ้งจอกนั่น ถึงจะมีแค่190คน ผมว่าบริษัทเราก็น่าไปรอด...ถึงจะน้อยไปแต่ก็จ้างใหม่เอาก็ได้”เอเลนไม่รู้ว่าอะไรทำให้รีไวล์เงียบงันถึงขนาดนี้...ทั้งที่ความรับผิดชอบของบริษัทเป็นเรื่องของเขา แต่อีกฝ่ายกลับทำเหมือนว่า ความผิดทั้งหมดเป็นของตัวเอง
...ซึ่งมันไม่ใช่เลย...
“นายแน่ใจเหรอ...ที่จะเก็บฉันไว้”คราวนี้ รีไวล์ละสายตาจากบรรยากาศน่าเศร้านั่นมามองใบหน้าหล่อ “ไม่กลัวจะตกชั้นรึไง?...การขายฉันไป อาจจะเป็นทางเลือกที่..”
“ไม่ว่าจะยังไง ผมก็ไม่ขายคุณให้ใครหรอก”เอเลนตัดบท นัยน์ตาสีเขียวจ้องตรงไปที่นัยน์ตาอีกฝ่ายด้วยความจริงจัง “ต่อให้ต้องเสียอะไรไปอีก โดนโกงหรือโดนหักหลังมากกว่านี้...คุณก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดที่ผมต้องรักษาไว้”
รีไวล์ยิ้มเยาะ
....เยาะเย้ยต่อชะตาชีวิตของตัวเอง...
เขาอยากจะนึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูด...คือการพูดว่าเขามีคุณค่า
...ไม่ใช่มีประโยชน์...
“นั่นสินะ...ก็ฉันเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างเซ็กส์ทอยของพวกนายนิ”พูดแล้วก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจ
เอเลนมุ่นคิ้ว เขาทำหน้างงกับน้ำเสียงประชดประชันของอีกฝ่าย
“คุณรีไวล์ครับ?...นี่คุณเป็น..อืม!”
แต่ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค กลีบปากสีชมพูซีดก็ประกบเข้ากับริมฝีปากของอีกฝ่ายทันที
เอเลนเบิกตากว้างกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่แล้วก็ต้องตกตะลึงเข้าไปอีก เมื่อร่างบางพุ่งเข้ามากอดเขา ลิ้นนุ่มๆนั่นดันเข้ามาอยู่ในโพรงปากของเอเลนอย่างง่ายดาย ก่อนจะตวัดสิ่งนั้นเข้าไปกวาดทั่วโพรงปากเย็นๆของหุ่นยนต์
เอเลนรีบพลิกตัวขึ้นบนแล้วกดอีกฝ่ายลงกับเตียง
“คุณ!...คุณทำอะไรของคุณน่ะ!”ใบหน้าหล่อฉายแววงุนงง ใบหน้าหล่อเริ่มขึ้นสีเลือด(แม้นว่าหุ่นยนต์จะไม่มีเลือดแต่มีของเหลวที่ทดแทนกัน)ด้วยความไม่เข้าใจ “คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ? ว่าผมต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนเพื่อห้ามตัวเองไม่ให้เผลอทำแบบนั้น!...แล้วนี่คุณ!...”
“ก็ทำเลยสิ”เสียงหวานเอ่ยพร่า “ไอ้เรื่องท่อนล่างใช้การไม่ได้ ไม่มีความรู้สึกอะไรแบบนั้นน่ะ...ฉันแค่โกหกนาย”ร่างบางสารภาพ เขาจ้องมองนัยน์ตาสีเขียวด้วยความรู้สึกหลายอย่างปะปนกัน
เอเลนจ้องอีกฝ่ายกลับ...พยายามคว้านหาอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วนร่างเล็กของเขาอยู่
..เสียใจ?...เศร้าใจ?...ตัดพ้อ?...
..หรือว่า...?
“รู้แบบนี้แล้วก็ทำเลยสิ!”รีไวล์ร้องตะโกน เขาพยายามดิ้นจากมือใหญ่ที่กดแขนเขาเอาไว้ จนชายเสื้อทีเชิ้ตเลิกขึ้นจนเห็นกล้ามท้องอันแสนยั่วยวนนั่น “แต่ถ้านายไม่คิดจะทำ...ฉันก็จะทำเอง!”ว่าแล้วใบหน้าเล็กก็ยกขึ้น จนกลีบปากสีอ่อนทาบทับเข้ากับอีกฝ่าย ร่างเล็กพยายามชอนไชสิ้นเข้าไปข้างใน แต่ก็ถูกอีกฝ่ายกระชากตัวออก
...รีไวล์มุ่นคิ้วเมื่อเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไป...
นัยน์ตาสีเขียวฉายแววทะมึน
“คุณคิดว่าคุณพร้อมรึไง?”ร่างสูงเอ่ยถาม ใบหน้าหล่อฉายแววจริงจังยิ่งกว่าตอนอยู่ในห้องน้ำเมื่อกี้
“พร้อม ไม่พร้อม...มันไม่สำคัญอยู่แล้วนี่”รีไวล์เอ่ยประชด พลางเสหน้าหลบสายตาอีกฝ่าย
เอเลนคำรามอย่างไม่สบอารมณ์
“ได้...งั้นผมจะค้นหาคำตอบเอง!!!”ว่าแล้วร่างหนักๆที่ทำจากโลหะก็พุ่งกระโจนเข้าใส่ร่างนุ่มๆอย่างแรง เรียกเสียงโอดโอยจากร่างเล็กได้อย่างดี ลิ้นหนาลากไส้ไปทั่วคอเรียวสีขาวอย่างหื่นกระหาย รับรู้ได้ถึงกลิ่นตัวหอมๆปะปนกับสบู่กลิ่นกุหลาบ
มือหยาบทั้งสองไล้วนไปทั่วทั้งหน้าอกสีขาวของอีกฝ่าย
...กลัว...
...ทั้งๆที่ตัดสินใจแล้ว...
..แต่รีไวล์กำลังกลัวทีท่าที่เปลี่ยนไปของเอเลน
....เหมือนกับเขากำลังโกรธ?
“เดี๋ยว!...พอ!”ร่างเล็กอาจจะโง่ไปเองก็ได้ ที่คิดจะทำแบบนี้ รีไวล์พยายามดันร่างสูงออก พยายามดึงเสื้อของตัวเองกลับเข้าที
...แต่เอเลนก็ไม่ฟังคำทักท้วงนั่น...
เขาฉีกกระชากเสื้อของร่างบางออก
................................................................................................................................
เอื้ออออออออออออ >[]<
นานมากกกกกก กว่าจะดึงตัวเองให้กลับมาเขียนนิยายต่อ 5555 ไม่ได้จะทิ้งนะคะ แต่มันติดเม้าส์ปากกาจริงๆ วาดรูปได้ไม่เว้นแต่ละวันเลย 55555
ป.ล.1 ตอนนี้เด็กโหดมากเลยอ่ะค่ะ ///7/// เค้าชอบบบบบ 555+
ป.ล.2 แต่เค้าก็สงสารรีไวล์อ่ะ TAT อย่าประชดประชัน แดกดัน ตัวเองเลยนะ 5555
ป.ล.3 แถมรูปๆๆๆ
>>>>>>>>>>>>>>>>>> ERERI FOREVONG FOREVER 5555+
ความคิดเห็น