ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LAST[shingeki no kyojin / Ereri]

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 8 - เรื่องประหลาด

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 57


    LAST

    Chapter 8 – เรื่องประหลาด

     

     

     

    พลั่ก!!!!

    “อั่ก!!!!!

    “วินเซนต์!!!!”ชายหนุ่มร่างยักษ์ร้องเสียงหลง เมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนที่กำลังยึดร่างของมนุษย์คนสุดท้ายอยู่ จู่ๆก็ล้มพับลงไปกับพื้นราวกับมีแรงมหาศาลบางอย่างกระแทกเข้าที่ท้ายทอย

    ส่วนรีไวล์ที่ล้มลงพร้อมกับคนร้าย ก็สะบัดตัวหลุดจากแขนแกร่งของจักรกล พยายามยกตัวถีบร่างอันหนักอึ้งของคนที่ทับตัวเขาอยู่ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

    “บ้าเอ๊ย!”ขาขาวใต้กางเกงแสล็คสีดำพยายามจะถีบคนที่คาดว่าสลบไปแล้วอย่างแรง แต่เมื่อเห็นว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร รีไวล์จึงหันไปมองคนที่คิดจะลักพาตัวเขาอีกคนหนึ่งด้วยความหวาดระแวง

    ...แต่เมื่อนัยน์ตาสีเทาได้เห็นสีหน้าของเขา...

    “เอ๊ะ?”ใบหน้าเทอะทะนั่นกำลังแสดงอารมณ์หวาดกลัวอย่างขีดสุด นัยน์ตาสีขุ่นนั่นกำลังจับจ้องบุคคลปริศนาเบื้องหน้าด้วยแววตาสั่นระริก ขณะที่เหงื่อก็ไหลโซมกาย ดูน่าตกใจในที

    จะว่าไป...ที่จู่ๆหมอนี่ก็ล้มลงไป คงไม่ใช่จู่ๆก็เกิดสะดุดล้มพับไปเองหรอกนะ....

    ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะต้องร้องอุทานตกใจ เมื่อจู่ๆคนที่นอนทับอยู่ก็โดนบุคคลปริศนายกเท้าขึ้นถีบกระเด็นจนกระทบกับกำแพง จนเกิดเสียงการปะทะกันดังน่ากลัว จากนั้นรีไวล์ที่ยังคงมึนอึนกับสถานการณ์ก็โดนมือใหญ่จับร่างทั้งร่างของเขาขึ้นพาดบ่า

    “เฮ้ย!!!”เขาร้องเสียงหลง

    “น...นั่นมัน!...เราหาเจอก่อนนะ!!! นั่นมันของเรานะ!!!”ชายร่างยักษ์โวยวาย ทำท่าเหมือนจะเดินไปคว้าเอาตัวของมนุษย์คนสุดท้าย แต่ขาก็สั่นเทาเกินกว่าจะไปขัดขวางได้

    ....แต่ได้เห็นดวงตาสีดำสนิทน่ากลัวนั่น....

    อย่างที่เคยได้ยินในวงการหุ่นยนต์ชั้นเลว หุ่นยนต์ที่ไม่มีไอดีในระบบ หุ่นยนต์ที่น่ากลัวที่สุดในโลกใบนี้...หุ่นยนต์ที่แม้แต่รัฐบาลกลางยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ

    ...และเขา...มักจะปรากฏตัวพร้อมกับผ้าพันคอสีแดง...

    “นายจะขโมยของของเราไปไม่ได้นะ....มิสเตอร์ M....มิคาสะ แอคเคอร์แมน”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้นกลัว

    “ห...หา มิคาสะ แอคเคอร์แมน?”รีไวล์เลิกคิ้วเมื่อได้ยินชื่อนั้นหลุดออกจากปากของคนร้าย

    นั่น...จะใช่ชื่อที่อยู่ในความทรงจำของเขารึเปล่า?

    ....และแล้ว ภาพของเด็กหญิงตัวเล็ก ผู้เป็นลูกของพี่ชายกับสะใภ้ก็ปรากฏขึ้นมาในหัว...

    ญาติทางสายเลือดวัย5ขวบ ในตอนที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการเสมือนแช่เข็งมนุษย์...เด็กนัยน์ตาสีดำกลมโต กับผิวขาวเหลืองเนียนนุ่ม เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบเขาสักเท่าไร เพราะทุกครั้งที่ไปเยี่ยมบ้านของพี่ชาย หล่อนมักจะไม่เข้าใกล้เขา แถมยังคอยส่งสายตาราวกับรังเกียจใส่อยู่ตลอดเวลา

    แต่ว่า...

    มันไม่ทีทางที่เด็กวัย5ขวบในยุคก่อนหุ่นยนต์ครองโลก จะยังอยู่รอดได้นานถึง700กว่าปี...

    แถมไอ้ท่อนแขนล่ำหนักราวเหล็กกล้าที่กำลังโอบอุ้มเขาอยู่ตอนนี้ มันไม่ได้ให้ความรู้สึกว่านี้เป็นแขนของผู้หญิงเลยสักนิด

    “กล้าพูดได้อีกนะ...”แม้กระทั่งเสียงยังบ่งบอกได้ว่าเป็นผู้ชายทั้งแท่ง “แย่งมาจากคนอื่นอีกที แล้วมาอ้างว่าเป็นเจ้าของ...บัดซบจริงๆเลยนะ นายน่ะ”เสียงทุ้มต่ำเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ขณะที่นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองไปที่หุ่นยนต์ร่างยักษ์ด้วยแววตาดูถูก ดูแคลน...

    ก่อนที่ในเพียงเวลาไม่ถึง 5 วินาที ร่างกายสูงใหญ่ของคนที่ได้ชื่อว่าหุ่นยนต์ที่น่ากลัวที่สุด จะเคลื่อนย้ายตัวด้วยความรวดเร็วแล้วใช้มือของตัวเองสับเข้าที่ท้ายทอยของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นเพราะกลไกของหุ่นยนต์ที่สร้างมาจากต้นแบบของมนุษย์ วิธีทำให้สลบ(และอาจทำให้ถึงตาย)ถึงใช้ได้กับจักรกล

    “อั่ก!!!”เสียงโอดโอยดังเพียงชั่วขณะ ก่อนจะเงียบหายไปพร้อมกับร่างกายใหญ่โตที่ล้มลงไปกับพื้น

    “พวกอ่อนแอ....”เขากระซิบ

    ถึงพวกที่ตั้งใจข่มขืนเขาจะโดนทำร้ายจนสลบไปแล้วก็เถอะ...แต่ไอ้คนที่กำลังจับเขาห้อยอยู่เนี่ย ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ถึงได้ช่วยเขาเอาไว้...หรือจะเป็นแค่คนใจดีที่บังเอิญผ่านมาช่วย?...

    เอ่อ ข้อหลังนี่ ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ

    “น...นาย...เป็นคนของเด็กบ้า...หมายถึง เอเลนเหรอ?”เขาพยายามทำใจดีสู้เสื้อด้วยการถามหยั่งเชิง ถ้าเจ้านี่ไม่ใช่คนที่เขาสาสารถไว้วางใจได้ เพื่อหนีรอดจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทันทีที่ได้ยินคำตอบในด้านลบจากปากของอีกฝ่าย เขาจะรีบดิ้นหนีแล้ววิ่งออกไปในทันที...

    แต่ผ่านไปหลายวินาที ชายหนุ่มผมดำยาวก็ไม่มีทีท่าจะตอบคำถาม มีเพียงเสียงพ่นลมอย่างเหนื่อยอ่อนดังออกมาจากเขาเท่านั้น

    “นี่! ตอบมาสิ...แก!”เพราะถูกไขว่ไว้ด้านหลังจึงไม่เห็นแม้แต่หน้าตาของอีกฝ่าย แต่พอได้รับคำตอบเป็นความเงียบ เขาจึงเลือกที่จะดิ้นหนี แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันเสียก่อน ร่างๆทั้งร่างของรีไวล์จึงถูกแขนจักรกลทั้งสองกระชากมาข้างหน้าเพื่อเปลี่ยนเป็นท่าอุ้มเจ้าสาวแทน “เฮ้ย!!!

    ทำไมเขาต้องโดนผู้ชายจับอุ้มในท่าเจ้าสาวอยู่เรื่อยเนี่ย!

    “ฉันไม่ใช่คนของ...เขาคนนั้นหรอก”ในท่อนที่เอ่ยถึงประธานบริษัทชื่อดังคนนั้น มีชั่วขณะหนึ่งที่นัยน์ตาสีดำแอบไหววูบ โชคดีที่รีไวล์ยังคงวุ่นวายกับท่าทางเงอะงะของตัวเอง เลยไม่ได้สนใจจะดูใบหน้าของบุคคลปริศนา

    จนกระทั่ง...

    เมื่อนัยน์ตาสีขี้เถ้าเลิกขึ้นสบกับนัยน์ของอีกฝ่าย....

     

     

     

     

     

     

    “ม...มิคาสะ!!!รีไวล์ร้องเสียงหลง

    นี่มัน!!! ประหลาดเกินไปแล้ว!!!...

    ทำไมถึงมีหุ่นยนต์ที่หน้าคล้ายกับมิคาสะขนาดนี้!!! ถึงจะไม่ได้เหมือนทุกกระเบียดนิ้ว แต่ทั้งโครงหน้า และแววตาอันเป็นเอกลักษณ์นั่น...

    นี่มัน หลานสาวของเขาชัดๆ...

    “มิคาสะ! ทำไมเธอถึงกลายเป็นหุ่นยนต์ได้ล่ะ! แล้วนั่น ทำไมถึง...เพศชาย?”พอได้เพ่งดูดีๆ ก็จะเห็นว่าใบหน้าหล่อนั่นกร้านแกร่งเกินกว่าจะเป็นผู้หญิงอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้น แม้แต่สรีระร่างกายก็ดูจะเปลี่ยนเป็นอีกเพศอย่างสมบูรณ์แบบ

    มิคาสะที่ได้ยินแบบนั้นก็มุ่นคิ้วด้วยความไม่พอใจนิดๆ

    “ก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ซะหน่อย!...ตาลุงนี่ สมัยก่อนน่ารำคาญยังไง ก็น่ารำคาญอย่างนั้นจริงๆ”พูดเสร็จก็ถุยน้ำลายใส่พื้นด้วยความหงุดหงิด จนคนที่แท้จริงมีศักดิ์เป็นอาต้องแยกเขี้ยวใส่หลานแท้ๆของตัวเอง

    “ดูเหมือนจะเป็นยัยตัวแสบตัวจริงเสียงจริงเลยนะ”รีไวล์เถียงใส่ พลางบังคับให้คนที่เดิมมีอายุน้อยกว่าวางตัวเองลงกับพื้น

    “โห....สูงขึ้นเยอะเลยนะ”เขาเอ่ยพลางชะเง้อมองคนที่เขาสูงถึงได้แค่คอ “แล้วมันเป็นไงมาไง...เธอถึงได้มาเป็นหุ่นยนต์เนี่ย”

    มิคาสะยักไหล่

    “เรื่องมันยาว....เอาเป็นว่าตลอด700กว่าปีที่ผ่านมาน่ะ หนู....ผมต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตไปตั้งมากมาย...เพราะต้องรอคอยการฟื้นคืนของลุงนั่นแหละ”

    รีไวล์เลิกคิ้วเมื่อได้ยินดังนั้น

    “ฉัน?...รอฉันเหรอ?”

    “จริงๆต้องรออีก200ปี แต่เครื่องที่แช่แข็งลุงน่ะเกิดขัดข้องเสียก่อน ก็ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายนะ ที่ลุงดันตื่นขึ้นมาในช่วงที่รัฐบาลยังขจัดปัญหาเรื่องอุบาทว์ๆของหุ่นยนต์ไม่ได้ที”เด็กหนุ่มเท้าสะเอว พลางจ้องมองไปที่กลุ่มหุ่นยนต์มากมายที่กำลังเดินบนทางถนนใหญ่นอกตรอกแคบๆที่พวกเขาอยู่

    “เรื่องอุบาทว์?....อ่อ หมายถึงเรื่องความต้องหารทางเพศบ้าบอน่ะเหรอ...ก็อุบาทว์จริงๆนั่นแหละ”ร่างบางถอนหายใจ ก่อนจะมองตามสายตาของคนเป็นหลาน “แต่เธอก็ยังไม่ตอบคำถามฉันอยู่ดี ว่าทำไมถึงได้กลายเป็นหุ่นยนต์แบบนี้ได้”

    “...เรื่องนั้นเราคุยกันในที่สว่างแบบนี้ไม่ได้...สำหรับพวกหุ่นยนต์ทั่วไปแล้ว...คนแบบพวกเราเป็นสิ่งที่อันตรายสุดๆ เพราะขนาดรัฐบาลก็ไม่อาจทำอะไรเราได้”เขาว่า ก่อนจะดึงข้อมือของอาแล้วลากเข้าไปในส่วนลึกของตรอกมืด จากนั้นก็เริ่มวุ่นวายกับนาฬิกาข้อมือที่น่าจะเป็นนาฬิกาวาร์ปอย่างที่รีไวล์เคยเห็น แม้สภาพของมันจะดูเก่าและซ่อมซ่อกว่าของเอเลนเยอะก็เถอะ

    “พวกเราเหรอ?...นี่อย่าบอกนะ...ว่ายังมีคนที่เหมือนกับเธออีก?”มิคาสะแค่กลอกตากับอาการถามมากของลุงแก่ๆผู้เป็นญาติของตัวเอง เด็กหนุ่มแค่ดึงข้อมือของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้แล้วกดนาฬิกาวาร์ปในขั้นตอนสุดท้าย

     

     

     

     

     

    ...แล้วทันใดนั้น ลำแสงสีฟ้าก็ล้อมรอบตัวพวกเขา....

     

     

     

    ...........................................................................................................................

    “ทีมตามหาที่ฉันสั่ง ออกปฏิบัติการรึยัง!!!เสียงทุ้มกว้างเอ่ยกระชากอย่างอารมณ์เสีย พลางหันไปจ้องเพื่อนสนิทด้วยแววตาที่ปิดความโกรธไม่มิด

    “ฉันเร่งพวกเขาเท่าที่จะทำได้แล้วน่า! แต่ว่า...ถ้าเราทำอะไรใหญ่โตเกินไป พวกหุ่นยนต์ตั้งแต่ชั้นเลวยันระดับประธานบริษัทอย่างไอ้ผู้ดีวิกทองก็จะรู้กันหมดน่ะสิ ว่าเราทำมนุษย์คนสุดท้ายหายไป!!!!”แจนพยายามเข้าสู้ด้วยเหตุผล แต่ดูเหมือนการพูดว่า มนุษย์คนสุดท้ายหายไป จะเป็นการโหมไฟให้ลุกท่วมกว่าเดิม

    “คุณรีไวล์....ไม่รู้ตอนนี้จะตื่นกลัวมากแค่ไหน”เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆ ยิ่งได้จินตนาการถึงมนุษย์ท่ามกลางเหล่าหุ่นยนต์ มันก็ไม่ต่างอะไรจากก้อนเนื้อในหมู่สุนัขหิวโซ

    ...เขาผิดเองที่ดันเสี่ยงพาร่างเล็กไปข้างนอก....

    ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจ ...ว่าโลกภายนอกมองคนคนนี้เป็นของล้ำค่ามากแค่ไหน

    “ถ้าฉันไม่อนุญาตให้เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่แรก.....”เขากัดฟันกรอด ใบหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ชีวิตนี้ไม่เคยทำมาก่อน...

    ปั่ก!!!!!

    แจนสะดุ้งโหยงสุดตัว เมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงทุบกำปั้นลงบนโต๊ะของเอเลน เท่านั้นยังไม่พอ ประธานสุดหล่อที่มักจะวางมาดเนี้ยบต่อหน้าคนอื่นก็ออกอาการอาละวาดใส่ของทุกอย่างบนโต๊ะ ทั้งอุปกรณ์ทันสมัยราคาแพง คอมพิวเตอร์รุ่นลิมิเต็ด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีมูลค่ามากมายมหาศาลแค่ไหน เอเลนก็ไม่คิดจะสนใจมันอีกต่อไป ได้แต่ปัดโยนมันทิ้งลงพื้นจนแตกละเอียดเกือบทุกชิ้น

    ร่างสูงคำรามเสียงต่ำ

    “....ฉันไม่มีวันยกคุณรีไวล์ให้ใครทั้งนั้น...”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ....น้ำเสียงที่น่ากลัวที่สุดที่แจนเคยได้ยินจากเพื่อนสนิทคนนี้... “แจน!

    “อ่า! เออ!”แจนสะดุ้งขานรับอย่างลุกลี้ลุกลน

    “พยายามเร่งทีมตามหาให้เร็วกว่านี้! กระจายคนออกไปมากขึ้น....แต่อย่าทำให้โจ่งแจ้งนัก เดี๋ยวพวกหมาขี้เรื้อนนั่นจะไหวตัวทัน”เอเลนกุมมือแน่น ก่อนจะเดินไปคว้าเสื้อโค้ทสีดำสนิทบนเก้าอี้ประธาน

    แจนที่เห็นดังนั้นก็เลิกคิ้วด้วยความสงสัย

    “นายจะไปไหนน่ะเอเลน...”เขาพยายามเดินไปรั้งเพื่อนชาย “ถึงตัวนายจะไม่ได้โด่งดังระดับโลก...แต่ในเยอรมัน นายก็เป็นที่นิยมพอสมควรเลยนะ ถ้ามีคนเห็นนายออกไปข้างนอกนานๆ ต้องมีคนสงสัย...”

    “ฉันจะระวัง...”เด็กหนุ่มเลือดร้อนตัดบทด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “แต่ถ้าจะบังคับให้ฉันเนั่งรออยู่แบบนี้....มันมีแต่จะทำให้ฉันกังวลใจเปล่าๆ ...อีกอย่าง คนพาเขามาที่นี้ก็คือฉัน การที่เขาหายตัวไปก็เพราะฉันอีก....ฉันที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างของคุณรีไวล์ ก็ต้องออกตามหาเขาด้วยเหมือนกัน...”เอเลนปัดแขนที่กุมตรงไหล่เขาออก ก่อนจะเดินออกจากห้องประธานบริษัทไปด้วยท่าทีรีบร้อน

     

    แจนถอนหายใจเมื่อสังเกตเห็นความแปลกประหลาดของเพื่อนสนิท...

    ...มันเคยเป็นห่วงใครมากมายถึงขนาดนี้เลยเหรอ?....

    คุณรีไวล์คนนั้นน่ะ...มีค่ามากมายขนาดนั้นเชียว?

     

    เพราะเป็นของที่ซื้อมาด้วยราคาแพงมหาศาล?

    เพราะเป็นของที่มิอาจมีได้บนโลกใบนี้อีกแล้ว?

    หรือเพราะเป็นของต้องห้าม ที่ถ้าได้ลิ้มลองครั้งหนึ่ง จะขาดมันไม่ได้อีก?

    แต่ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม...มนุษย์คนสุดท้าย...

    ...คุณรีไวล์คนนั้น...

     

     

     

     

     

     

    ก็ได้เข้ามาปั่นป่วนชีวิตของเอเลนไปแล้ว...

     

     

     

     

     

    “ถึงมันจะเป็นความเชื่อของพวกมนุษย์ผู้โง่เขลาก็เถอะ แต่พระเจ้าครับ...ถ้าคุณมีอยู่จริง...ก็ขอให้คุณรีไวล์ปลอดภัยด้วยเถอะ”

    ............................................................................................................

    “ไม่เอา!”ชายหนุ่มอายุ 30 ทำหน้าบูดบึ้งเต็มสตรีม ก่อนจะหันไปส่งสายตาพิฆาตใส่คนเป็นหลานด้วยความหงุดหงิด

    “อะไรเล่า!”หลานสาวในคราบจักรกลเพศชายตวาดใส่คนเป็นอา ใบหน้าเย็นชานั่นแอบมีแววอารมณ์เสียอย่างปิดไม่มิด ขณะพยายามตกลงกับอาของตัวเองให้นอนในเต็นท์ที่สภาพดีที่สุดในบรรดาเต็นท์ทั้งหมด

    ...เอ่อ...ถึงจะบอกว่าดีที่สุดก็เถอะ แต่ก็แค่มีรอยหนูแทะเล็มและรอยปรุประน้อยกว่าอันอื่นก็เท่านั้น...

    แถมสถานที่โดยรอบที่เขาโดนวาร์ปมา...ไม่ว่าจะดูยังไง ก็เป็นเมืองที่อยู่ใต้ดินชัดๆ ใต้ดินแบบใต้ดินจริงๆเลย สภาพโดยรอบของมันจึงดูไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิดเดียว

    “ลุงเป็นอะไรของลุง...ปกติไม่เคยเรื่องมากขนาดนี้นี่ หรือว่าพอไปอยู่บ้านเศรษฐีก็อยากจะอัพเกรดตัวเอง จนเป็นคนติดหรูไปแล้ว”

    รีไวล์ที่พอถูกหาว่าโดนสปอยล์จนเสียคนก็ออกอาการร้อนตัวสุดตัว ก็อยากจะเถียงนะ แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธข้อกล่าวหาได้เลย เพราะก็รู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองเริ่มมีนิสัยรักสบายมากกว่าแต่ก่อนพอควร

    จะโทษใครได้ล่ะ....นอกจากไอ้หุ่นยนต์บ้ากามนั่น!!!....

    แรกๆก็ไม่เท่าไรหรอก ยังไม่ได้ตามใจสักเท่าไร ก็ยังปฏิบัติกับเขาเหมือนกับที่ทำกับพนักงานทั่วๆไปในบริษัท แต่พอผ่านไปไม่เท่าไร ไอ้ประธานโรคจิตนั่นก็เอาแต่ถามเขาโน่นนี่ว่าอยากได้อะไรบางรึเปล่า พอบอกว่าไม่ต้องการอะไร หมอนั่นก็เอาแต่งอแงง้องแง้ง บ่นระงมว่าเขาไม่ให้ความสำคัญกับมันมากพอ(นี่เขากับมันอยู่ในฐานะอะไรกันแน่เนี่ย?) เลยต้องยอมเลยตามเลยสั่งอะไรก็ได้ที่ตอนนั้นคิดออกเพื่อหยุดเสียงครางหงิงๆของหมาตัวโต อย่างเช่นเตียงที่เขาเคยสั่งให้ทำจนสำเร็จ ก็ถูกพัฒนาอย่างก้าวกระโดด จนตอนนี้ แค่หัวถึงหมอนได้ไม่กี่วินาทีก็สลบเหมือดเหมือนได้ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์จริงๆ

    อย่างที่หลานสาวในคราบจักรกลหนุ่มพูดไว้จริงๆ....

    เขาถูกสปอยล์จนเสียผู้เสียคนไปแล้ว....

    “แล้วตกลงเอาไง”มิคาสะถามเสียงเย็นเฉียบ

    รีไวล์ที่ได้ยินน้ำเสียงที่ติดจะหงุดหงิดของอีกฝ่าย ก็ได้แต่ถอนหายใจเล็กน้อย

    “เออๆ...แค่ให้มีที่ซุกหัวนอนก็พอแล้ว....ฉันควรจะคิดแบบนั้นใช่มั้ย”ถึงจะตอบตกลงไป แต่ก็มิวายแอบจิกกัดอีกฝ่ายตอนทิ้งท้าย

    มิคาสะพ่นลมออกมาทางจมูกแรงๆ

    “ตอนนี้ก็ดึกพอสมควรแล้ว....ลุงนอนพักผ่อนไปก่อนละกัน เพราะคุณพิกซิสนอนหลับไปแล้ว เรื่องที่ค้างคาหรือมีอะไรสงสัย ก็ค่อยถามเอาในวันพรุ่งนี้เช้า”เด็กหนุ่มว่า พลางคว้านหาหมอนใบเล็กๆแข็งๆที่อยู่แถวนั้น มาขว้างใส่เต็มๆที่ใบหน้าเล็กของคุณอา ซึ่งพอรีไวล์หันมาส่งสายตาพิฆาตอันแสนน่ากลัวใส่ เขาก็ทำแค่ยักไหล่ให้สองสามทีอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินออกจากเต็นท์ไปโดยไม่รอคำด่าแสบหูที่คิดว่าน่าจะตามมาทีหลัง หลังถูกเขาเมินใส่

    “บ้าเอ๊ย! หลานสาวอะไรกัน....ไม่น่ารักเอาซะเลย”รีไวล์บ่นอุบยังกับคนแก่

    ....ถ้าเป็นเอเลนล่ะก็ หมอนั่นจะต้องรีบเดินมาประเคนหมอนให้เขาราวกับบ่าวให้ของนายแน่ๆ....

    “....เอเลน”พอนึกถึงเด็กหนุ่มร่างสูง ผู้เป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทที่สุดในยามนี้ ก็พลันทำให้รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา “จะว่าไปแล้ว...หมอนั่นไม่รู้เลยนี่น่า ว่าเรากำลังอยู่กับมิคาสะ”

    คงกำลังตามหาเราให้วุ่นอยู่แน่ๆ....

    ...อ่า...ไม่สิ บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสดีที่เด็กนั่นรอมานานแล้วก็ได้....

    ในเมื่อเขาให้ความช่วยเหลือทีมนักวิจัยเต็มที่จนได้ตุ๊กตาที่เกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว ยังจะมีเหตุผลอะไรให้เขาอยู่ที่บริษัทนั้นอีกล่ะ?

    บางทีหมอนั่นอาจจะไม่ได้สนใจกับการหายตัวไปของเขาเลยด้วยซ้ำ

     

    รีไวล์หลุบนัยน์ตาลงต่ำ

    รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก

    ยิ่งให้คิดถึงสีหน้าของเอเลนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเพราะได้กำจัดส่วนเกินในชีวิตอย่างเขา ก็ยิ่งพาลให้หัวใจเจ็บมากกว่าเดิม...

     

     

    “อย่าไปใส่ใจกับอดีต รีไวล์....”เขาพึมพำเบาๆ ย้ำเตือนตัวเองด้วยคำพูดที่มักพูดเสมอสมัยเด็กๆ “ทิ้งมันไว้เบื้องหลัง....อย่านำมันมาคิดอีกครั้ง....ทิ้งเอเลนไว้ ในซอกมืดของความทรงจำ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    โดยที่เขาไม่รู้เลย...ว่ากำลังทำให้หัวใจของอีกคนปั่นป่วนมากแค่ไหน....

    ......................................................................................................................................

    ม...ม....ไม่เรท.....

    55555 ในที่สุด...ฉากไม่เรทครั้งแรกของฟิคเรื่องนี้ XDDDD

    อยากจะบอกว่า ตอนนี้ไรเตอร์กำลังติ่งมิคาสะ(ชาย) x รีไวล์ (หญิง) อย่างแรงเลยเคอะ ///7///

    บางทีอาจจะลงโดสั้นตอนพิเศษของคู่นี้ อุคริอุคริ แต่ยังไม่ตัดสินใจก่อนว่าจะเอาลงฟิคไหน(เพราะโดมันสายซี -_-;;;; )

     

    อ่ะๆๆๆ ในเมื่อฟิคมันไม่เรท ก็แถมภาพนี้ไปจิ้นเล่นละกัน XDDD

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×