ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LAST[shingeki no kyojin / Ereri]

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 7 - สิ่งที่กำลังจะเกิด

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 57


    LAST

    Chapter 7 – สิ่งที่กำลังจะเกิด

    วันเวลาล่วงเลยผ่านไป ไวเหมือนโกหก....

    ตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะการให้ความช่วยเหลือการวิจัยของรีไวล์ ทำให้การพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อวัตถุประสงค์พิเศษรุดหน้าขึ้นไปเยอะมาก นอกจากนี้แล้ว เพราะการได้พบปะกับหุ่นยนต์มากขึ้น เลยทำให้มุมมองที่เขามีต่อหุ่นยนต์เหล่านี้เปลี่ยนไป...

    พวกนักวิจัยทั้งหมดที่อยู่รายล้อมเธอ...พวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับมนุษย์  เพียงแค่มีรายละเอียดยิบย่อยที่ต่างไปจากมนุษย์ก็เท่านั้น ทั้งนิสัย ท่าทาง ความดีความเลว ทุกอย่างเหมือนกับที่เขาเคยอยู่ในสังคมของโลกมนุษย์

     

    ...แต่นี่มันแค่สังคมเล็กๆ กลุ่มเล็กๆเท่านั้นที่เขารู้จัก....

    ....เขาอยากรู้จักโลกใบนี้ให้มากกว่านี้.....

     

     

     

     

     

    เอเลน ฉันอยากออกไปเดินข้างนอก”ร่างเล็กเอ่ยด้วยสีหน้ามาดมั่น ขณะเท้าสะเอวมองร่างสูงที่กำลังนั่งทำงานอยู่ข้างหลังโต๊ะขนาดใหญ่

    ตลอดช่วงเวลาเกือบเดือนที่เขาได้มาพบกับโลกใหม่ มีเพียงสามสถานที่เท่านั้นที่เขาได้เข้าไปเหยียบ เข้าไปนั่งหายใจเล่น

    หนึ่ง ห้องทดลองขนาดใหญ่ ที่ที่มีแต่หุ่นยนต์ในชุดเสื้อกาวน์สีขาว มานั่งดูนั่งจับตัวเขาแล้วกลับไปทำการทดลองต่อ...แทบจะไม่มีใครมานั่งคุยกับเขาเลย นอกจากพวกหน้าเดิมๆ(เอเลนกับอาร์มิน)

    สอง ห้องทำงานของประธานบริษัท ที่นี้สำหรับเขามีไว้ทำกายภาพบำบัดกับนั่งอ่านหนังสือเล่นเท่านั้น ส่วนไอ้กิจกรรมอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้เช่น การโดนลวนลามทั้งทางการสัมผัสและทางสายตา โดนบังคับให้นั่งนอนบนตักไอ้บ้าตัวหนึ่ง อะไรๆเทือกนี้ มันเป็นความต้องการ(ทางเพศ)ของจักรกลหื่นกามที่ชื่อว่า เอเลน เยเกอร์ ล้วนๆ

    ส่วน สาม ห้องนอนของประธานบริษัท(อีกนั่นแหละ) เป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดแต่ก็สบายที่สุด เพราะเขาจะไม่รู้เลยว่าระหว่างหลับเป็นตายอยู่บนเตียงอันใหม่ที่นุ่มแสนนุ่มจนทำให้เขาหลับสบายทั้งคืนนั้น...จะมีใครแอบมาทำอะไรแปลกๆกับร่างกายของเขารึเปล่า มันเคยเกิดเรื่องประหลาดขึ้น ในเช้าอันสดใสวันหนึ่ง เมื่อเขาตื่นขึ้นจากเตียงอันแสนสุขสบาย...จู่ๆก็พบว่ากางเกงในที่จำได้แม่นยำว่าสวมแล้วเมื่อคืน  กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

    ....มาเจออีกที ก็พบว่ามันซ่อนอยู่ที่ใต้หมอนของเอเลน

    ....มันไปอยู่ที่นั้นได้ยังไงนะ?....

    พอเขาไปถามเจ้าของเตียง สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงนัยน์ตากลมโตสีเขียวใสซื่อ ที่ช้อนมองหน้าเขา(เอเลนนั่งอยู่)ราวกับลูกหมาตัวน้อยๆผู้แสนไร้เดียงสา

    ....ไอ้หมาป่าในคราบแกะเอ๊ย!....

    เขาแอบบ่นในใจ แม้นจะไม่กล้าทำอะไรอีกฝ่ายเพราะเขาค่อนข้างแพ้ทางสีหน้าแบบนั้น(แม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจก็เถอะ)

    แต่ถ้าไม่นับเรื่องถูกหมอนั่นลวนลามจนเปลืองตัวนิดหน่อย...พรหมจรรย์ของเขาก็ยังถูกรักษาไว้อย่างดีเยี่ยม

     

     

    “....จำเป็นเหรอครับ?”เอเลนหรี่ตามองอีกฝ่าย รู้สึกหวาดระแวงว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนหลอกเพื่อจะหนีไปจากเขา

    รีไวล์เดาะลิ้น

    “อะไรของนายกัน! จะต้องให้ฉันย้ำกับนายอีกกี่ครั้งว่า จะไม่หนีแล้วเข้าใจมั้ย! ไม่หนีแล้ว’!!!”ร่างเล็กเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเขาถูกอีกฝ่ายคาดคั้นให้ตอบความจริงเรื่องจะหนีในทุกๆคืนก่อนนอน

    “ก็มัน....”ร่างสูงเบ้ปาก แต่พอเห็นนัยน์ตาสีเทาสวยถลึงตาใส่เขา ปากที่จะเอ่ยปฏิเสธก็หุบลงทันที

    “นายจะขังฉันไว้แต่ในนี้ไม่ได้นะ ต้องพาฉันออกไปข้างนอกบ้าง โอเค๊?”ร่างบางมุ่นคิ้ว กอดอกมองอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย “ให้เอาแต่อุดอู้อยู่แต่ในที่แคบๆ ที่มีแต่หน้าหมาหื่นๆของนายวนเวียนอยู่ตลอดน่ะ มันน่ารำคาญนะ รู้มั้ย!?

    “ง่ะ!”เอเลนเบ้ปากอีกครั้ง ไม่พอใจนิดๆที่อีกฝ่ายเรียกเขาว่าหมาหื่น

    เขาไม่ได้หื่นนะ!!!

    ...เขาก็แค่....

    ....เขาก็แค่มีความต้องการทางเพศมากกว่าคนทั่วไปก็เท่านั้นเอง!!!....

    “...เฮ้อ...ก็ได้ครับ ยังไงเสาร์นี้ก็เป็นวันหยุดของผมพอดี”เขาถอนหายใจ พลางส่ายหน้าน้อยๆ

    ขณะที่รีไวล์เองก็ยืนกอดอกวางมาดอย่างผู้ได้รับชัยชนะ....

     

    ...................................................................................................

    “เหมือนสมัยศตวรรษที่21เลย”ร่างเล็กเบิกตากว้าง พลันมองดูทัศนียภาพรอบๆด้วยความตกตะลึง

    ตึกรามบ้านช่องของที่นี้ ภายนอกดูคล้ายกับบ้านเมืองของมนุษย์ในสมัยก่อนอย่างไม่มีผิดเพี้ยน แต่พอได้ลองเข้ามาดูใกล้ๆ จะสัมผัสได้ว่าวัตถุในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยนั้นแตกต่างจากของมนุษย์ ซึ่งเขาก็พอจะเข้าใจว่าบ้านที่สร้างจากอิฐจากปูน ไม่มีทางจะรับน้ำหนักอันมหาศาลของจักรกลพวกนี้ได้หรอก

    รีไวล์รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้พบกับสิ่งที่แสนคุ้นเคยแบบนี้ ทีแรกเขาก็กลัวเหมือนกัน กลัวว่าสิ่งที่เขาจะได้ประสบจะคล้ายกับหนังหุ่นยนต์ในหนัง ที่ที่บางเรื่องก็บอกว่าโลกจะเต็มไปด้วยบ้านเทคโนโลยีระดับสูง ดูน่าสับสนงุนงง บางเรื่องก็บอกว่าจะมีเพียงขยะและสิ่งปฏิกูลมากมายให้เหยียบย่ำเท่านั้น(ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างหลังละก็ ชีวิตนี้เขาขออยู่แต่ในบริษัทเซ็กส์ทอยบ้าๆนั่นดีกว่า) แต่นี้! นี้มันต่างจากที่เขาคาดไว้เยอะเลย...มันดูกึ่งทันสมัยกึ่งคลาสสิก

    อ่า ดูสิ! ขนาดโบราณสถานของเยอรมันยังถูกรักษาไว้อย่างดี ราวกับไม่มีใครแตะต้องมัน

    “นอกจากโรงละครในอังกฤษที่เราทิ้งให้เป็นอนุสรณ์ของความพ่ายแพ้ของมนุษย์ สถานที่ที่เสียหายจากสงคราม พวกรัฐบาลสั่งให้มีการบูรณะทั้งหมด”เอเลนบอกเขาตอนที่พาเขาวาร์ปไปดูวังเอากุสตุสบวรกเป็นที่แรก ที่นั้นเอเลนบอกว่าจากประวัติที่เคยอ่าน ที่นี้เคยเป็นสถานหลบภัยของชายเยอรมันกลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขาทั้งหมดเป็นพวกงี่เง่าที่คิดฮึดสู้ต่อหุ่นยนต์ จนทำให้วังอันสวยงามแห่งนี้กลายเป็นสมรภูมิรบในห้านาที ก่อนจะตายกันเกลี้ยง...

    เขาว่า ก่อนการบูรณะ วังที่นี้เคยผุพังจนจะทลายอยู่รอมร่อ

    “พวกนายก็มีดีใช้ได้นิ”เขาเอ่ยชม ขณะเดินไปทั่ววัง พอลองก้มลงมองดูพื้นก็พบว่ามันมีการเสริมเหล็กเข้าไปภายในด้วย อาจจะมีการเพิ่มเติมในการบูรณะเพื่อให้หุ่นยนต์สามารถมาเหยียบที่นี้และเยี่ยมชมได้

    พอเที่ยวชมอยู่ได้เป็นชั่วโมง เขาก็โดนเอเลนบังคับวาร์ปไปอีกสถานที่หนึ่ง จนเขาต้องร้องโวยวายออกมาว่าให้เลิกพึงไอ้นาฬิกาอันแสนจะสะดวกสบายเกินไปได้แล้ว

    “...โรงหนังเหรอ? ฉันนึกว่ามันไม่จำเป็นสำหรับหุ่นยนต์อย่างพวกนายแล้วซะอีก”ร่างบางเงยหน้ามองป้ายโรงหนังขนาดใหญ่ที่ดูโอ่อ่า ตื่นตะลึง....และยังคงความเป็นศตวรรษที่21

    “ก็ไม่จำเป็นหรอกครับ”เอเลนยิ้ม “เราดูกันในหัวของตัวเองได้...แต่ก็มีบางเวลาล่ะนะ ที่หุ่นยนต์อย่างเราๆอยากจะทำเรื่องยุ่งยากบ้าง”

    พูดจบ รีไวล์ก็หันมาส่งสายตาใส่เอเลนอย่างจะบอกความนัยว่า นี่คือคำพูดของคนที่เอาแต่พึ่งนาฬิกาวาร์ปเหรอ?

    “ก็บางเวลาไงครับ บางเวลา...แหะๆ”เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ “แล้วคุณอยากดูหนังอะไรมั้ยครับ? มันมีให้เลือกเยอะเลยนะ แถมผมก็เหมาเอาทั้งโรงแล้วด้วย”เขาเอ่ยอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร พลางลากอีกฝ่ายไปดูโปรแกรมหนังมากมายที่พนักงานหญิงหน้าเค้าท์เตอร์ยิ้มแก้มปริให้กับลูกค้ากระเป๋าหนักอย่างเขาอยู่

    ...เป็นคนรวยนี่มันดีจริงๆ...

    รีไวล์มุ่นคิ้ว

    “หือม์?....เฮ้ย...นี่มันหนังสมัยที่ตอนที่ฉันยังอยู่ศตวรรษที่21 นี่!!!”รีไวล์อุทานลั่น จ้องมองรายชื่อหนังที่เขาพอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยดูสมัยยังไม่เข้าโครงการวิทยาศาสตร์

    “ถึงจะเป็นคนกำจัดพวกมนุษย์ แต่ผมก็ว่าหนังสมัยก่อนของพวกเขามันดูสนุกมากเลยนะครับ”

    “อืม....อา อันนี้ฉันยังไม่เคยดูเลยนิ”ว่าแล้วก็ชี้เข้าให้ที่รายชื่อหนังผีที่เคยดูโฆษณาผ่านทีวี

    “หือม์?...Ju-On ภาค 12 เหรอครับ? ผมก็ไม่เคยดูนะ....เผอิญไม่ค่อยถนัดหนังผีน่ะ แหะๆ”พอร่างสูงเห็นว่านัยน์ตาสีเทานั่นพราวระยับไปด้วยความอยากดูสุดๆ ใบหน้าหล่อก็เริ่มซีดเผือด “อ่า...เอ่อ... ดูหนังนี้มั้ยครับ?! ผมว่ามันต้องสนุกแน่ๆเลย!”ว่าแล้วก็ชี้นิ้วไปที่รายชื่อหนังการ์ตูนเรื่อง ‘Frozen’

    “หา?...ดิสนี่ย์เนี่ยนะ”รีไวล์มุ่นคิ้ว ก่อนจะหันมาจ้องหน้าของเอเลนเขม็ง “อย่าบอกนะ....ว่านายกลัวหนังผีน่ะ?”

    “ห๊ะ!?”ร่างสูงแกล้งอุทานเสียงสูง ทั้งๆที่ในใจจริงกลับเต้นระรัวสุดขีดเพราะโดนจับเท็จได้ “ผมเป็นหุ่นยนต์นะครับ!!! จะไปกลัวอะไร๊ กับอีแค่ผี ...อีกอย่าง ผีไม่มีจริงอยู่บนโลกสักหน่อย เหอๆ”แต่ร่างบางก็ยังไม่ยอมเบนสายตาออกห่างจากใบหน้าเขา มิหนำซ้ำยังแอบแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ร่างสูงอีก

    รีไวล์กอดอก

    “ดูเรื่องนี้นะครับ Ju-On ภาค 12 ”เขาหันไปบอกพนักงาน ขณะที่เอเลนก็หันควับมามองใบหน้าเล็กอย่างรวดเร็วคอแทบหัก

    “ม..ไม่เอานะ!”เอเลนรีบร้องห้าม แต่ก็ต้องชะงักเสียงเมื่อรีไวล์ถอนหายใจแล้วส่งสายตาคมกริบมาให้

     

     

     

     

     

    “...ป๊อดเอ๊ย”

    เพียงเท่านั้นแหละ เอเลนก็ยืดอกเดินเข้าโรงไปอย่างผ่าเผย

    ...................................................................................................................................

     

     

    ตอนเดินเข้า...แม่งเดินเข้าไปอย่างเสือ...

    “เอเลน”รีไวล์ถอนหายใจ พลางก้มหน้าลงมองเด็กหนุ่ม

    “ครับ? อะ...อะไรครับ?...มันหายไปแล้วใช่มั้ย ผีมันไปแล้วใช่มั้ยครับ!”เสียงทุ้มเอ่ยระรัวจนฟังเกือบไม่ได้ศัพท์ ร่างใหญ่นั่นสั่นระริกไปทั่ว

    รีไวล์ถอนหายใจอีกครั้ง

    พอมาตอนนี้...ยังกับลูกหมาเปียกน้ำ

    “นี่! ฉันจะดูหนังอย่างสบายๆได้ยังไงกัน ในเมื่อนายเอาแต่กอดฉันแบบนี้อ่ะ!”ร่างบางแว้ดใส่เสียงดัง โล่งใจไปนิดที่ทั้งโรงโดนเหมาจนมีแค่เขากับมัน

    รีไวล์พยายามจะดันร่างหมายักษ์ออกจากตัว แต่มือปลาหมึกที่กอดรัดเอวเขาไว้อยู่ ก็แน่นซะยิ่งกว่ามือปลาหมึก แถมใบหน้าหล่อๆก็ไม่ยอมโผล่ออกมาจากการซบหน้าที่อกของเขาเลยสักนิด แล้วยิ่งพยายามดันอีกฝ่ายให้ออกห่าง เอเลนก็ยิ่งเพิ่มแรงในการพันธนาการอีกฝ่ายเข้าไปอีก

    “ให้ตายสิ!”รีไวล์สบถ “ถ้านายกลัวขนาดนั้นก็หาอย่างอื่นทำสิ! สนใจอะไรอย่างอื่นจะได้ไม่ต้องมาตกอกตกใจอะไรกะอีแค่ฉากผีโผล่”

    “แล้วจะให้ทำอะไรได้ล่ะครับ! พอรู้ว่าผีมันอยู่แค่ตรงหน้านี้ จะทำอะไรก็ไม่ดึงความสนใจผมได้เท่ากับผีหน้าขาวพวกนี้หรอก แงงงงง”ว่าแล้วก็ก้มลงซุกเข้ากับหน้าอกแบบราบของชายหนุ่มต่อ จนรีไวล์ชักอยากจะถีบหน้าไอ้เด็กโตแต่ตัวตงิดๆ

    “ไม่รู้โว้ย!!! แต่แบบนี้มันรบกวนสมาธิฉันนะ เออ ได้!!! จะทำอะไรก็ทำ ฉันจะไม่สนใจนายแล้ว”ว่าแล้วก็เชิดหน้าใส่ แล้วหันไปสนใจหนังของตัวเองต่อโดยไม่สนเสียงร้องประท้วงงี้ดๆของลูกหมายักษ์

    ก็คนมันกลัวนี่น่า....

    เอเลนมุ่นคิ้ว ก่อนจะค่อยๆใช้ความกล้าเหลือบไปมองจอหนังทางหางตา...

    แล้วก็สบเข้ากับหน้าหลอนๆของผีสาวที่จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร

    “เฮือก!”ร่างสูงสะดุ้งโหยง ก่อนจะหันไปซุกไซ้แผ่นอกผ่านเนื้อผ้าสีดำต่อ

    ไม่เอาๆๆๆ ไม่สนใจๆ!!!

    หาอย่างอื่นทำสิ!!!....หาอย่างอื่นมาเบนความสนใจตัวเองสิฟร่ะ!!!

    ...แต่อะไรกันล่ะที่ทำแล้วน่าสนใจจนต้องลืมผี....

    คิดแล้วก็แอบเหลือบไปมองแผ่นอกเล็กๆที่ตัวเองกำลังซุกไซ้อยู่

     

     

     

    ....อืม...อันนี้ก็ใช้ได้อยู่นะ...

    เอเลนแสะยิ้มชั่วร้าย

    และในขณะที่รีไวล์กำลังตื่นเต้นกับหนังที่ใกล้จะถึงจุดไคลแม็กซ์....

    “อ๊ะ!”จู่ๆเขาก็รู้สึกถึงอะไรเย็นๆกำลังสัมผัสกับหน้าอกใต้เสื้อสีดำของตัวเองอยู่ พอก้มลงมองดูว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นแหละ ใบหน้าขาวซีดก็ขึ้นสีแดงแปร๊ดไปทั่วทุกอณูรูขมขน “ท...ทำอะไรน่ะไอ้บ้า!!!

    “ ก็พยายามทำเรื่องอย่างอื่นให้ลืมเรื่องผีไงครับ”เด็กหนุ่มยิ้มร้าย ก่อนจะบรรจงเลียยอดอกสีชมพูผ่านเนื้อผ้าอีกครั้ง

    “ก...แก! ไม่คิดเรื่องหื่นสักวัน มันจะตายมั้ย!!??”รีไวล์ที่บัดนี้ทั้งตัวแทบจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูทั้งผลักทั้งดันหัวของอีกคนให้ออกไปไกลๆ แต่เอเลนก็รู้ทัน รีบใช้แขนที่เคยโอบรัดเอวอีกฝ่ายมาจับหมับที่ข้อมือแล้วจับไขว่ไปด้านหลัง “เฮ้ย! ปล่อยนะเว้ย!

    “ดูหนังไปสิครับ ไหนบอกว่าจะไม่สนใจผมแล้วไง”เด็กหนุ่มหัวเราะหึๆเบาๆ ขณะที่นัยน์ตายังคงจับจ้องอยู่ที่เป้าหมายเดิม ไม่ยอมเงยมามองหน้าคนถูกกระทำแม้แต่น้อย

    “จะทำอะไรมันก็เรื่องของแก! แต่นี่มันร่างกายฉันนะเว้ย!!!”ร่างบางกรีดร้อง พยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ และดูเหมือนแรงดิ้นของรีไวล์จะเยอะกว่าเมื่อก่อนจนเอเลนชักจะรำคาญ จึงผลักร่างทั้งร่างของมนุษย์คนสุดท้ายให้นอนหงายลงกับโซฟา 

    เอเลนเลียริมฝีปากหนึ่งที ก่อนจะก้มลงใช้ปากกัดเสื้อสีดำของเจ้าตัวให้เลิกขึ้นมาจนเกือบสุดคอ เผยให้เห็นร่างกายขาวซีดน่าหลงใหลภายใต้อาภรณ์อันแสนน่ารำคาญ ยอดอกสีชมพูที่ชูชันเพราะฝีมือของเขาเมื่อกี้ มันช่างยั่วยวนให้เขาจินตนาการถึงเรื่องติดเรทมากมาย แต่พอเลิกสายตาขึ้นบนจนสบเข้ากับใบหน้าสวยเท่านั้นแหละ เขาก็ต้องแอบผงะไปด้านหลังในทันที

    ...เมื่อรีไวล์นั้น กำลังถลึงตา จ้องหน้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย แถมยังกัดฟันกรอดด้วยความโมโหสุดขีด

    ง่ะ....ไหงถึงได้โกรธกว่าตอนก่อนๆอีกอ่ะ

    พอรีไวล์กำลังจะง้างปากตะคอกอะไรบางอย่าง เอเลนก็รีบก้มลงมอบจูบอันเร่าร้อนให้แก่อีกฝ่ายทันที

    “อื้อ!!!”ร่างบางพยายามดิ้นใบหน้าสุดชีวิต เพราะรู้ว่าถ้าเมื่อใดที่ลิ้นหยาบของอีกฝ่ายได้รุกล้ำเข้ามาในโพรงปากของเขาล่ะก็ ได้มีหวังแรงอ่อนระทวยจนหมดหนทางจะหนีแน่ๆ!

    หึ่ม....ทำไมครั้งนี้ถึงได้ดิ้นหนีเอาเป็นเอาตายเลยนะเอเลนมุ่นคิ้ว แต่ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่ยอม เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ

    เอเลนยังคงดุนดันริมฝีปากบางให้เผยอเปิดออก จนคนแรงด้อยกว่าต้องยอมเปิดปากให้สิ่งแปลกปลอมก้าวเข้ามาจาบจ้วงความหวานของตนไป

    พวกเขาจูบกันอยู่นาน จนรีไวล์กระเสือกกระสนที่จะหายใจ

    “ฮึก ฮ่า!...ฮ่า...”ร่างบางหอบหายใจนิ่ง พยายามกอบโกยเอาออกซิเจนเข้าปอด ในขณะที่เอเลนเบี่ยงเบนเป้าหมายมาที่ยอกอดสีชมพูหวานดังเดิม “ม...ไม่เอา!

    แต่เสียงร้องห้ามของเขาก็ไม่ได้ทะลุเข้าไปในโสตประสาทของเอเลนเลย ร่างสูงค่อยๆโลมเลียสิ่งนั้นช้าๆแต่หนักหน่วง น้ำลายเย็นๆที่ชโลมไปทั่วยอดสีหวานทำให้ร่างกายของรีไวล์ขนลุกซู่

    “อ...เอเลน...อา!”เขาพยายามร้องเรียก แต่เอเลนก็ยังใจจดใจจ่ออยู่แค่อวัยวะเดิม “ฮึก...อ๊า!...เอเลน เดี๋ยว...ปล...ปล่อยมือฉันเถอะ....นะ

    เอเลนเลิกคิ้ว พลันหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วหันมามองรีไวล์อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

    แต่พอได้เห็นว่าใบหน้าสวยนั่นแดงแปร๊ด และท่าทางยังดูอ่อนระทวยโรยแรง เขาจึงเผลอรอยยิ้มกว้างออกมา

    “ก็ได้ครับ”ก็ทำตัวน่ารักๆเป็นเหมือนกันนิ

    ยิ่งคิดก็ยิ่งยิ้มกว้าง...

    ขณะที่รีไวล์เองพอถูกปลดจากพันธนาการก็ค่อยๆไล้มือไปโอบกอดร่างสูงช้าๆ

    “หะ...เอ๋?”

    ด...เดี๋ยวนะ....

    เอเลนเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ก่อนจะค่อยๆก้มลงดูหัวทุยๆที่ซุกอยู่ที่หน้าอกของตัวเอง

    น...นี่มัน...

     

    อย่าบอกนะว่า...

    ไปตายซะไอ้เศษเหล็กหื่นกาม”รีไวล์เงยหน้าขึ้นมองเอเลนด้วยแววตาอาฆาต ก่อนจะยกเข่าเข้าปะทะกับลูกตุ้มเหล็กด้วยแรงทั้งหมดที่มี

    “อั๊ก!!!!!!!!!!!

    ....................................................................................................................................

     

     

     

    “จ....ใจร้าย!!!”ร่างสูงเอ่ยตัดพ้อ ขณะที่ใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยน้ำตา

    พวกเขาเดินออกมาจากโรงหนังแล้ว....

    ออกมาในท่าที่สุดจะพิสดารเหลือหลาย พิสดารจนพนักงานหญิงเมื่อครู่ยังต้องร้องอุทานดังลั่น

    ....เมื่อพบว่า คุณชายเศรษฐีที่เดินเข้าโรงไปอย่างเจ้าชายสง่างาม...กลับเดินถ่างขาออกมาด้วยท่ากุมไข่อุจาดตา...

    “ก็สมควรแล้วนิ!!! ถ้านายทำตอนอยู่ที่บริษัทฉันจะไม่โมโหสักเท่าไรหรอกนะ!!! แต่นี่มันในโรงหนัง...แล้วนายไม่รู้เหรอว่าเขามีกล้องวงจรปิดอยู่ด้วยน่ะ!!!”ร่างบางตะคอกใส่ แถมยังทำท่าจะเตะฉาดเข้าให้อีกครั้ง จนเอเลนต้องรีบเบี่ยงหลบแล้วร้องขอชีวิต(?)จากอีกฝ่าย

    เอเลนมุ่ยหน้าใส่

    “ก็แหม...คุณเป็นคนผิดเองนะที่ชวนผมดูหนังผีอ่ะ”พูดเสร็จก็โดนอีกฝ่ายหันมาส่งสายตาค้อนขวับ เอเลนพยายามยืดตัวขึ้นเมื่อความเจ็บเริ่มทุเลา “แล้วที่คุณมาทำร้ายจุดยุทธศาสตร์ของผมเนี่ย มันเจ็บมากๆเลยนะครับ...เพราะของผมมันใหญ่ โดนนิดโดนหน่อยก็เกือบตายแล้ว”

    “พ...พูดอะไรออกมาน่ะ ไอ้บ้า!!!”รีไวล์ที่ได้ยินคำพูดล่อแหลมของอีกฝ่ายก็รีบตบเข้าที่แขนของอีกฝ่ายฉาดใหญ่ ในขณะที่พนักงานหญิงผู้ยังยืนอยู่ราวกับอากาศธาตุก็พลันหน้าแดงแปร๊ดเพราะประโยคลามกเมื่อครู่ “อย่ามาทำเป็นอวดสรรพคุณของตัวเองในที่สาธารณะนะ”รีไวล์สั่งสอนด้วยใบหน้าติดชมพู

    เอเลนยิ้มกว้าง

    “ผมไมได้คิดจะอวด แต่ที่พูดน่ะมันเรื่องจริงนะคร...”

    “พอๆๆ พอแล้ว!!!”ร่างบางรีบห้ามเป็นพัลวัน ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าจากเขินอายเป็นโกรธเคืองแทน “นายนี่มัน! มารยาททางสังคมแย่สุดๆ!!! ไอ้เรื่องเหมาโรงนี่ก็เหมือนกัน มีเงินไว้ถลุงเล่นเหรอ!”ใบหน้าสวยเชิดใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเดินนำลิ่วๆไป หมายจะออกจากโรงละครในทันที

    เอเลนที่เห็นดังนั้นก็แอบหัวเราะน้อยๆ

    “ฮะๆๆ รอด้วยสิคร้าบ...อะ โอ๊ย....”ก็รีบวิ่งตามอีกฝ่ายไปด้วยท่ากุมไข่

    เฮ้อ...ทำไมถึงได้หวงเนื้อหวงตัวขนาดนี้นะ? เอเลนทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ

     

     

     

    แต่ว่า...เมื่อกี้ตอนที่อยู่ในโรง...คุณรีไวล์กอดเราด้วย

    นั่นมัน...หมายความว่ายังไงกัน?

     

     

     

     

     

    มีความหมายอะไรแอบแฝงรึเปล่านะ?

     

     

     

     

     “คุณรีไวล์อย่ารีบสิครับ วันนี้มันวันหยุดนะ คนจะออกมาชุมเลย”เอเลนร้องตะโกนเรียก เมื่อออกมาจากโรงหนังแล้วพบว่าแผ่นหลังของร่างเล็กได้หายไปจากวิสัยทัศน์ของตน

    เอเลนมุ่นคิ้ว

    “คุณรีไวล์ครับ!!!”เขาร้องตะโกนอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครสักคนตอบขาน มีเพียงหุ่นยนต์สัญชาติเยอรมันแถวนั้นเท่านั้น ที่หันมามองพฤติกรรมของเขาอย่างงงงวย

    บ้าจริง! คนเยอะชะมัด!!!

    “คุณรีไวล์”เด็กหนุ่มเริ่มใจไม่ดีเมื่อเขามองไปรอบๆก็ยังไม่พบเจ้าของผมสีนิลงามคนนั้น “คุณรีไวล์!!!

     

    และแล้วเพราะความกลัวบางอย่าง ก็ได้สะกิดต่อมความเข้าใจของเขาอีกครั้ง

     

    ...ทำไม...

    ....ทำไมถึงได้ลืมนะ....

     

     

    ว่าคุณรีไวล์น่ะ เป็นมนุษย์คนสุดท้าย!!!

    แล้วถ้ามีใครสังเกตเห็นว่าร่างบางไม่ใช่หุ่นยนต์ล่ะก็

    “ฮึ่ม!!!!” เขาไม่น่าพาเจ้าตัวออกมาข้างนอกเลย!!!!

     

     

     

    “คุณรีไวล์!!!!!!!

    ..............................................................................................................................

    “อึก!!! อื้อ!!!”ร่างบางพยายามจะดิ้นหนีจากมือหยาบใหญ่ที่จับหมับอยู่ตรงปากของเขา แต่แรงมนุษย์ก็ไม่อาจสู้แรงของหุ่นยนต์พวกนี้ได้เลยสักนิด....

    “ไปยังว่ะ”หุ่นยนต์รูปร่างใหญ่โต ผิวดำเกรียมเอ่ยถามอีกหุ่นยนต์ที่กำลังจับตัวรีไวล์ไว้อยู่

    “รออีกสักพักเถอะ”หุ่นยนต์ตัวสูงโย่ง หน้าตาดีเอ่ยตอบ ก่อนจะก้มลงดุคนในอ้อมกอด “เฮ้ย หยุดดิ้นสักทีสิวะ!!!

    “อื้ออ!!!”แต่ร่างเล็กก็เลือกที่จะทำในสิ่งตรงกันข้าม ทั้งพยายามเตะ พยายามกัด พยายามต่อยทุกอวัยวะของคนข้างหลัง แต่ก็โดนอีกฝ่ายจับรัดร่างกายแน่นจนกระดูกแทบหักเป็นเสี่ยงๆ เลยทำให้เขาต้องหยุดดิ้นเมื่อความปวดร้าวแล่นเป็นริ้วๆภานในร่างกาย

    “เอาน่าๆ....แค่น่ารำคาญนิดๆหน่อยๆ อย่าไปถือสาเลย...แต่ไม่อยากเชื่อเลยนะ ว่าโชคจะหล่นทับเราขนาดนี้”ชายผิวดำ ตัวสูงเอ่ยด้วยความหื่นกระหาย พลางใช้มือของตนลูบไล้ไปที่ใบหน้าของรีไวล์ “ผิวก็นุ่มซะยิ่งกว่าเซ็กส์ทอยปัจจุบันเป็นพันเท่า....อ๊า....ฉันไม่อยากจะคิดถึงตอนที่ได้ร่วมรักกับเขาแรงๆเลย”ชายหนุ่มไล่สายตามองรีไวล์ตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับสิงโตกำลังมองเหยื่อ

    และนั่นทำให้ความกลัวก่อบังเกิดในจิตใจของรีไวล์....

    “เดี๋ยว...ฉันเป็นคนเห็นก่อน ก็ต้องได้ก่อน”หนุ่มหน้าตาดีก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูเล็ก ก่อนจะค่อยๆใช้ลิ้นเลียที่แก้มสีขาวนั่นเบาๆ

    “ฮึก!!!”รีไวลพยายามดิ้นแต่ก็โดนพันธนาการจนไม่อาจดิ้นหลุดไปได้

    ไม่นะ!....

    ไม่เอาแบบนี้!!!

    ใครก็ได้ ช่วยด้วย!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เอเลน!!!

    .................................................................................................

    รีดเดอร์ : เอาเครื่องประหารหัวสุนัขมา...

    ไรเตอร์ : ห๊ะ! หา!!!??? เดี๋ยวก่อนจ้ะนายจ๋า ข้าน้อยผิดอะไรรึ พระองค์ถึงได้คิดจะลงโทษกระผมเยี่ยงนี้(ปนมั่วหมดล่ะ)

    รีดเดอร์ :หือม์ เจ้าอยากรู้เหรอ ด้ายยยย ข้าจะสาธยายให้ฟัง ....เจ้ารู้มั้ยว่าวันนี้เป็นวันที่เท่าไร

    ไรเตอร์ :เอ๋?....วันที่?...ก็19ไงท่าน???

    รีดเดอร์ : แล้วเจ้าจำได้มั้ย ว่าตอนก่อนหน้านี้ที่เจ้าอัพนิยายไป เจ้าอัพวันที่เท่าไร???

    ไรเตอร์ :เอ่อ.....วันที่....สาม ครับผม....

    รีดเดอร์ :แล้วเจ้ายังจำได้มั้ยว่าบอกอะไรทิ้งท้ายในฟิคนี้ตอนที่ 5?

    ไรเตอร์ :...เอ่อ....บอกว่าข้าน้อยจะไม่ดองฟิคครัชผม....

    รีดเดอร์:โฮะๆๆๆ ก็นั่นแหละความผิดของเจ้า!!!! กลับคำพูดแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่ดองอีกนะ เจ้ามันไร้คุณสมบัติของนักแต่งฟิคที่ดีจริงๆ!!! เอ้า!!! เอาไปประหารซะ!!!!!!

    ไรเตอร์:ห๊ะ!!! เดี๋ยวๆๆๆ! ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยขอโต้ดดดดดดดด ได้โปรดดดด ท่านรีดเดอร์....อ๊ากกกกกกก..........

     

     

    ...พอเถอะ T^T ......

    ก็ตามนั้นแหละค่า ขอโทษนะคะที่แอบดองไปเกือบครึ่งเดือน ;3; คือไรต์ไม่ได้ตั้งใจนะ แต่งานมันเยอะเหลือเกิน เลยต้องค่อยๆเคลียร์ ก็เลยย้อมใจรีดเดอร์ด้วยการแต่งฟิคมาทีเดียวสองตอนแต่ละเรื่องเลย =w= ฉะนั้น ตัวอย่าโกรธเค้าน้า >3<

     

    คริคริ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×