คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Special chapter : "Possession"
Special Chapter!!! >>>> Happy Birthday Eren Jaeger >/////< <<<<<
Possession [AU/SF]
Pairing: Ereri + Eruri
Warning!!!: มันเรทนิดส์นึง 555
เอเลนกับรีไวล์เป็นพี่น้องกัน...
ใช่ๆ ใครๆก็รู้ว่าสองคนนั้นเป็นพี่น้องกัน
เอเลนเป็นพี่ รีไวล์เป็นน้อง
ตอนนี้พวกเขาอายุเท่าไรกันแล้วนะ?
...อ๋อ! ปีนี้เอเลน17แล้ว ส่วนรีไวล์ก็15 วัยกำลังน่ารักเลย!!!
แถมสองคนนี้ยังเป็นที่นิยมกันมากเลยนะ!!!
แล้วยังเป็นพี่น้องที่รักกันม้ากมากกกกอีกด้วย!!!
อ้าว? เธอไม่เชื่อฉันเหรอ???
....
งั้นก็ได้...
งั้นฉันจะแสดงให้เธอเห็นเอง...
...ว่าความรักของพวกเขามันมากมายแค่ไหน...
......................................................................................................
กฎข้อที่หนึ่ง : จูบอรุณสวัสดิ์พี่ชายทุกครั้ง
“ไม่อยากทำ”รีไวล์เอ่ยเสียงแข็ง เขาพยามหลบลูกอ้อนของพี่ชายตัวเองด้วยใบหน้าขึ้นสี แต่นัยน์ตาเป็นประกายสีเขียวทั้งสองลูก ก็ยังตามรบกวนจิตใจของเขาอยู่ดี รีไวล์ขยับแว่นตาตัวเองเล็กน้อยก่อนจะใช้มือปิดนัยน์ตาลูกหมาของเอเลนทันที “ก็บอกว่าไม่ทำไงเล่า”
“ทำไมอ่า!!!”ร่างสูงลากเสียงอย่างงอนๆ เขารีบฉวยโอกาสกอดร่างเล็กไว้ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหนีเขา
แม่ของทั้งสองหันมามองลูกๆด้วยรอยยิ้ม
“น่านะ รีไวล์...หอมแก้มพี่ชายเค้าหน่อยเถอะ”คลาร่าเอ่ยกลั้วหัวเราะ “เด็กคนนี้ติดน้องชายยังกับอะไรดี ถ้าเขาไม่ได้สิ่งที่ต้องการล่ะก็ ได้ร้องไห้งอแงเหมือนเด็กๆเป็นแน่”
จบประโยค เอเลนก็หันมาค้อนใส่แม่ตัวเอง
“แม่อ่ะ!!! ผมโตแล้วนะ”เขาว่า พลางทำแก้มป่องอย่างงอนๆ
คลาร่าหัวเราะร่า พลางพยักเพยิดให้ลูกชายคนเล็กทำตามที่บอก
รีไวล์เห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเสียงดังเฮือก เขาหันมามองใบหน้ากระแดะของพี่ชายด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะตัดสินใจจุ๊บเบาๆที่แก้มสีแทนด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
แต่เพียงแค่นั้น ก็ทำให้เอเลนยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกได้
“เอ้า! รีบไปโรงเรียนกันเถอะ!!!”ร่างสูงกระโดดโลดเต้น ราวกับการหอมแก้มเมื่อครู่คือการเติมพลังชีพตัวเอง เขารีบคว้าข้อมือเล็กของน้องชาย ก่อนจะกระชากอีกฝ่ายให้ออกจากบ้านทันที “ถ้าไปช้าเดี๋ยวโดนครูตีนะเออ!!!”เขากล่าวอย่างร่าเริง
คลาร่ามองตามเด็กหนุ่มทั้งสอง
“...เป็นพี่น้องที่น่ารักกันจริงๆ...”เธอเอ่ยพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
....โดยที่ไม่รู้อะไรเลย...
...ใช่...ไม่รุ้อะไรเลยสักนิด...
พลั่ก!!!
“โอ๊ย!!!”รีไวล์ร้องเสียงหลง เมื่อจู่ๆพี่ชายก็ลากตัวเองเข้ามาในซอยแคบๆ แล้วผลักเขาเข้ากับกำแพงเต็มแรง “เป็นบ้าอะไรของนายน่ะ!!! ไอ้บ้า!!!”เขาเอ่ยอย่างโมโห รู้สึกถึงความเจ็บที่แล่นเป็นริ้วๆทั่วหลัง แต่เมื่อเขาหันไปเผชิญหน้ากับเอเลน ก็ต้องสะดุ้งโหยงสุดตัว เมื่อใบหน้าหล่ออยู่ห่างจากเขาไปไม่กี่เซนต์
“ทำไม...”เอเลนกดเสียงต่ำ สีหน้าที่เดิมทีเคยยิ้มกว้างอย่างร่าเริง บัดนี้กลายเป็นใบหน้าโมโหสุดขีด “ปกติ เราทำกันที่ ‘ปาก’...ทำไมเมื่อเช้าถึงเป็นที่แก้ม”
“ก็ปกติ นายไม่เคยให้ฉันทำต่อหน้าแม่นิ! วันนี้เกิดนึกบ้าอะไรขึ้นมา ถึงได้พูดแบบนั้น ถ้าแม่รู้เรื่องนี้ขึ้นมา แม่จะเสียใจแค่ไหน ไม่รู้หรือไง!”รีไวล์แว้ดใส่ เขาถลึงตามองพี่ชายด้วยความโมโห แต่เขาก็ต้องสะอึกทันที เมื่อเอเลนมองเขากลับด้วยแววตาที่น่ากลัวกว่าเป็นพันเท่า
“ก็ถ้าแม่ค้านเรื่องของเรา...ก็หนีออกจากบ้านกัน”เอเลนยิ้มเสแสร้ง “หรือถ้ามันไม่เวิร์ค...เราก็ฆ่าตัวตายไปพร้อมกันเป็นไง?”คำพูดที่เอ่ยอย่างทีเล่นทีจริงของเขา ทำให้รีไวล์ตัวชาวาบ
ร่างบางรู้สึกได้ ว่าอีกฝ่ายกำลังจริงจังกับทุกประโยคที่พูดออกมา
“น...นาย ไม่กล้าหรอก”ร่างเล็กเอ่ยขัด พลางพยายามดันหน้าอกเอเลนออก เมื่อรูสึกว่าคนเป็นพี่ขยับหน้าเข้าใกล้เขาเกินพอดี
“ฉันพูดจริง...รีไวล์”ลมหายใจอุ่นๆของร่างสูงรดลงที่แก้มขาวซีด จนรีไวล์ถึงกับสะดุ้ง “ฉันยอมตายดีกว่าเห็นนายไปคบกับคนอื่น...”
พลันจบประโยค ริมฝีปากของพี่ชายก็เข้าประกบกลีบปากบางทันที เอเลนโอบเอวเล็ก ก่อนจะดันร่างบางให้เข้าหาตัว เขากระชับอ้อมกอดแน่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายดิ้นหนีไปได้ ลิ้นหนาเริ้มดุนดันเข้าไปในโพรงปากสีหวานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โกบโกยเอาความหวานทั้งหมดของรีไวล์ด้วยความกระหายอยากราวกับว่า ตัวเองไม่ได้แตะต้องกลีบปากหวานนั่นมานานนับปี
...ใช่...น้องชายคนนี้เป็นของเขาคนเดียว...
...ริมฝีปากนี้...ก็เป็นของเขาคนเดียว!!!...
คิดแล้ว เอเลนก็ดุนดันลิ้นเข้าไปให้มากกว่าเดิม เพื่อย้ำเตือนความเป็นเจ้าของริมฝีปากนี้
“ฮึก! อ๊า...”รีไวล์ครางกระเส่า เมื่อมือใหญ่ข้างหนึ่งเลื่อนไปขยำก้นเล็กๆของเขา รีไวล์เกือบจะเคลิ้มไปกับสัมผัสทั้งหมดแล้ว ถ้าเสียงกระดิ่งจากโรงเรียนไม่ดังเสียก่อน “อ...เอเลน”ร่างบางกระซิบแผ่ว เพื่อเรียกสติพี่ชาย “...โรงเรียน”
“รู้แล้ว”เขาว่า ก่อนจะปล่อยพันธนาการออก เอเลนที่เดิมเคยทำสีหน้าเย็นชาน่ากลัว กลับปั้นสีหน้ายิ้มหวานในทันทีที่ออกจากตรอกเล็กๆนั่น “เอ้า! ไปกันเถอะ น้องชาย!!”เขาก้มลงกอดคอร่างเล็ก ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปโรงเรียนพร้อมกัน
กฎข้อที่สอง : ทำเครื่องดื่มพิเศษให้พี่ชาย
“อยากกินน้ำผลไม้ปั่น!!!”เอเลนประกาศก้องลั่นบ้าน(เที่ยงนี้มีเพียงเขากับน้องชายเท่านั้นที่อยู่ เพราะพ่อกับแม่ออกไปทำธุระข้างนอก) “รีไวล์ทำให้หน่อยนะๆๆๆ”ร่างสูงว่า พลางอ้อนเด็กหนุ่มที่กำลังหน้าดำคร่ำเคร่งในการอ่านหนังสือเรียนอยู่
“ไม่ว่าง...อยากกินก็ทำเองสิ”ร่างเล็กพยายามดันแขนที่กำลังเกาะแกะอยู่ที่เอวออก แต่มือปลาหมึกนั่น ก็ช่างมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะเอวเขาซะเหลือเกิน “เห็นมั้ยว่าอ่านหนังสืออยู่ พรุ่งนี้ฉันมีสอบนะ!”เขาเริ่มหันมาแว้ดใส่หูพี่ชาย พลางดิ้นๆออกจากอ้อมกอด
“ก็คนมันอยากกินนี่น่า”เอเลนยังคงใช้ลูกอ้อนต่อไป หวังจะได้กินน้ำผลไม้ฝีมือของคนที่เขารักที่สุดในโลก แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปทำให้เลย
เอเลนหรี่ตาลง
“จำกฎข้อที่สองของเราได้รึเปล่า...รีไวล์?”เอเลนกระซิบแผ่วที่หลังคอเนียน รู้สึกได้ถึงแรงกระตุกของคนในอ้อมกอด “...อาหารพิเศษสำหรับพี่ชายไง...”
เอเลนยิ้มกว้าง เมื่อร่างเล็กของน้องชายสั่นเทาทันทีที่ได้ยินประโยคนั่น
“ถ..ถ้า..”รีไวล์เอ่ย พยายามบังคับไม่ให้เสียงตัวเองสั่นไปมากกว่านี้ “ถ้าฉันยอมทำ...ฉันจะทำแบบธรรมดาได้มั้ย...”
“เอ๋?...อืมมม...ตอนแรกฉันก็กะไว้อย่างนั้นนะ”เอเลนแสร้งทำหน้าครุ่นคิด เขาลอบมองใบหน้าซีดเผือด ที่เริ่มปรากฏเหงื่อผุดพรายด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะหันมากระซิบแผ่วที่ข้างหูอีกฝ่าย “แต่ว่านายไม่ยอมทำให้ฉันตั้งแต่แรกนี่น่า...เอาแบบ ‘พิเศษ’น่ะ ดีแล้ว”
รีไวล์ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เมื่อได้ยินประโยคนั่น
“ต..แต่!”
“ตอนนี้ พ่อแม่ไม่อยู่นะ...กว่าจะกลับมาก็ตั้งหลายชั่วโมง”เอเลนก้มลงจุมพิตที่คอขาวเนียน จนร่างบางสะดุ้งโหยงด้วยความกลัว “อย่าลืมสิ...ว่าฉันสามารถทำอะไรนายได้...นายยังไม่ลืมใช่มั้ย? ตอนที่พี่ทำแบบนั้นตอนนายอายุ 13...มันเจ็บปวดมากเลยไม่ใช่เหรอ? หรือว่าลืมไปแล้ว?”เอเลนกระซิบแผ่ว พลางเริ่มเลื่อนมือไปไล้วนแถวสะโพกของร่างบาง “อยากให้ฉันรื้อฟื้นความทรงจำนั่นให้...ดีมั้ย?”
“ไม่ อย่า!!!”รีไวล์รีบผลักตัวของพี่ชายออกด้วยแรงทั้งหมดทันที ร่างกายบอบบางสั่นเทาไปด้วยความกลัวจากประสบการณ์ที่มิอาจลืมเมื่อครั้งเก่า “ฉันจะทำให้แล้ว!จะทำให้แล้ว”เขาร้องใหญ่ พยายามฝืนกลั้นน้ำตาที่ใกล้จะทะลักออกมา
เอเลนร้องดีใจอย่างร่าเริง
“ว้าวๆ!!! รีไวล์ของพี่ดีใจที่สุดเลย”เขาเอียงคอให้อย่างน่ารัก ก่อนจะเดินตามน้องชายไปนั่งรอที่หน้าเคาท์เตอร์ในห้องครัว
รีไวล์เงียบนิ่งไปครู่หนึ่ง เพื่อหยุดอาการสั่นเทาทั่งร่างกาย เขาเดินไปหยิบสตรอเบอรี่กับน้ำแข็งในช่องแข็งออกมาตั้งบนเคาท์เตอร์ จากนั้นก็เดินไปหยิบน้ำเชื่อมกับเกลือป่น ร่างเล็กหยิบเอาทั้งสี่อย่างลงในเครื่องปั่น เตรียมพร้อมจะปิดฝาเพื่อทำให้มันกลายเป็น ‘น้ำสตรอเบอรี่’
...แต่ก่อนจะปิดฝา...
รีไวล์ก็หยิบมีดออกมาจากในลิ้นชัก
...ก่อนจะบรรจงกรีดมือของตัวเอง...จนเลือดสดๆไหลลงไปในโถปั่น...
ของเหลวสีแดงข้นไหลไปตามผลไม้และน้ำแข็ง สีของมันดูคล้ายกับสีของสตรอเบอรี่เสียจนไม่อาจแยกออกได้
...เอเลนที่นั่งมองทุกกรรมวิธีก็เผยอรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข...
“ฮะ...อึก!”รีไวล์กัดลิ้นตัวเอง เพื่อไม่ให้เผลอร้องออกมา เขาแอบเหลือบไปมองพี่ชายด้วยความเจ็บใจ แต่ก็รู้ดีว่ามิอาจขัดขืนคำสั่งของผู้ชายคนนี้ได้...
“เสร็จแล้วเหรอ?”เอเลนถาม พลางมองสตรอเบอรี่ปั่นในแก้วทรงสูงด้วยความหิวกระหาย ร่างสูงรับมันมาดูดเข้าไปหลายอึก ลิ้นหนารับรสหวานจ๋อยของสตรอเบอรี่ รสเค็มของเกลือ...และความคาวของเลือดน้องชายตัวเอง.. “ว้าว...เลือดของรีไวล์นี่ อร่อยกว่าสตรอเบอรี่อีกนะ...เครื่องดื่มพิเศษสำหรับพี่ชายนี่ สุดยอดไปเลย!!”เขาโห่ร้องด้วยความดีใจ
....โดยไม่สนใจ สีหน้าซีดเผือดของน้องชายเลยแม้แต่น้อย....
กฎข้อที่สาม : น้องชายต้องทำตามทุกคำขอของพี่ชาย
“ดูนี่สิๆๆ!”เอเลนเดินพล่านไปทั่วห้องนั่งเล่น ขณะในมือกำถุงเสื้อผ้าไว้แน่น “แม่ๆๆ!!!ดูดิๆ ‘ชุดเมด’ล่ะ ชุดเมด!”เขาร้องตะโกน พลางเดินไปกอดแม่ด้วยท่าทางน่าเอ็นดู จนคลาร่าหลุดหัวเราะ
“อะไรของลูกเนี่ย...จะให้แม่ใส่ชุดนี้เหรอ?”เธอถามเสียงอ่อนโยน
“หา?”เอเลนทำหน้าเหวอ “แม่พูดอะไรออกมาอ่ะ! แม่อายุไม่น้อยแล้วนะครับ อย่ามาทำเป็นแอ็บเด็กหน่อยเลย”เขาพูดติดตลก ก่อนจะได้รับฝ่ามือพิฆาต ฟาดลงตรงกบาลอย่างจัง “โอ๊ย!!!”
“เรานี่! ปากเสียจริงๆเลย”คลาร่ากอดอก พลางมองชุดคอสเพลย์ไซส์เล็กสุดในมือของเด็กหนุ่มด้วยความประหลาดใจ “ถ้าไม่ได้เอามาให้แม่ แล้วลูกจะเอาไปให้ใครล่ะ หือ? อุตส่าห์เก็บเงินตั้งนานเพื่อซื้อชุดแบบนี้...ทีแรกแม่นึกว่าลูกชายคนโตของแม่จะเบนเข็มแล้วซะอีก บอกตรงๆ แม่เกือบช็อกเลยแหนะ”ว่าแล้วก็หัวเราะออกมายกใหญ่ แต่หล่อนก็เผลอล้อเล่นแรงจนเอเลนทำงอนแก้มป่องทันที
“อะไรอ่า! ผมเป็นผู้ชายทั้งแท่งเลยนะ ชุดนี้อ่ะ ผมซื้อไว้ให้คนพิเศษล่ะ ไม่บอกแม่หรอก”เอเลนแลบลิ้นใส่ ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองทันที
“ลูกคนนี้เนี่ย...”คลาร่าหัวเราะเบาๆ เธอรู้สึกดีใจจริงๆ ที่รู้ว่าลูกชายมีคนที่แอบชอบอยู่ “แต่ดูเหมือนรีไวล์จะยังไม่มีนะ”
พลันพูดถึงลูกชายคนสุดท้อง เธอก็แอบขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อหลายวันก่อน ที่จู่ๆรีไวล์ก็เดินลงมากินข้าว พร้อมกับมือที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล พอเธอซักไซ้ถาม ก็ได้ความว่าลูกชายคนนี้เผลอซุ่มซ่ามไม่ระวัง ขณะทำน้ำผลไม้ปั่นให้พี่ชายจนเผลอทำมีดบาด แต่พอเธอขอดูบาดแผลของเขาหน่อย รีไวล์ก็รีบปฏิเสธเป็นพัลวันแถมยังทำหน้าแปลกๆราวกับกำลังปิดบังบางอย่างอยู่...
“คงไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง...เอเลนก็บอกว่าแผลไม่ใหญ่นิ”เธอถอนหายใจ...
.............................................................................
“รีไวล์?”เอเลนแง้มประตูห้องนอนของน้องชาย ก่อนจะชะเง้อคอเรียกร่างเล็กที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่อีกมุมของห้อง “รีไวล์ๆๆๆ พี่มีเรื่องจะขอร้องแหละ”เขาพูด
รีไวล์แอบเหลือบไปมองพี่ชายตนเองเพียงวินาทีเดียว ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ แล้วกลับมาอ่านหนังสือต่อ
“รีไวล์อ่า”เอเลนร้อง เขาถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องด้วยนัยน์ตาลูกหมาน้อย “ยังโกรธเรื่องเมื่อสี่วันก่อนอีกเหรอ? อย่าโกรธเลยนะ นะๆๆ พี่ชายคนนี้ขอโทษ”เขาว่าพลางเดินไปกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง “พี่ขอโทษนะๆ อภัยให้พี่นะ”เขาว่า พลางเอาหัวทุยๆลูบที่คอขาวเนียนของรีไวล์
“นี่...หยุดนะ เอเลน! มันจั๊กจี้”รีไวล์พยามเบี่ยงหลบ แต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายเขาก็หลุดหัวเราะออกมา ดิ้นหนีจนหล่นจากเก้าอี้ไปกองกับพื้น
“ฮั่นแหน่! หายโกรธแล้วล่ะสิ!”เอเลนยิ้มกว้าง ก่อนจะขึ้นคร่อมน้องชาย “ถ้าอย่างนั้น รีไวล์ช่วยทำอะไรให้พี่หน่อยสิ”ว่าแล้วก็โชว์ชุดคอสเพลย์ให้รีไวล์ดูอย่างตื่นเต้น
...ร่างบางถลึงตามองชุดนั้น...
“ใส่ให้พี่ดูหน่อยสิ”นัยน์ตาสีเขียวเป็นประกาย ยามจินตนาการถึงน้องชายคนสวยในชุดเมดกระโปรงยาว แต่ดูเหมือนรีไวล์จะมีปฏิกิริยาตรงกันข้ามกับเขาอย่างสุดขั้ว
“ไม่”ร่างเล็กเอ่ยเสียงหนักแน่น เขาผลักพี่ชายออกจากตัว ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งที่เก้าอี้เพื่ออ่านหนังสือต่อ
...เอเลนยังคงสีหน้ายิ้มแย้มไว้...
“จะดีเหรอรีไวล์”เขากระซิบข้างหูสวย “ฉันอุตส่าห์เก็บเงินตั้งหลายเดือน กว่าจะได้ชุดนี้มานะ”
แต่รีไวล์ก็ทำหูทวนลม แล้วทำเหมือนพี่ชายของเขาไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนอนเขา
“เนื้อผ้าก็ของดี สั่งตรงมาจากญี่ปุ่น ข้ามน้ำข้ามทะเลตั้งไกล กว่าจะถึงนี่เชียว”
ก็ยังเงียบอยู่
...ร่างสูงหัวเราะ...
“งั้นก็ช่วยไม่ได้เนอะ”เอเลนเปรยเสียงเย็น
ก่อนจะ....
แคว่ก!!!!!!
เสียงผ้าขาดดังสนั่นลั่นห้อง เสียจนรีไวล์ต้องรีบหันไปทางต้นเสียง เขาอ้าปากค้างทันทีที่เห็นร่างสูงกำลังยืนฉีกกระโปรงชุดเมดให้ขาดออก
“ทำอะไรน่ะ!!!”รีไวล์ร้องก่อนจะลุกไปหยุดมือทั้งสองจากการทำลายทันที “ก็ไหนบอกว่ามันแพงมากไง! ทำไมถึงทำแบบนี้!”รีไวล์คว้าเอาชุดสวยๆในมือหยาบนั่นมากอด พลางจ้องมองใบหน้าเย็นชาของพี่ชายด้วยความสงสัย
“ก็มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?”เขาพูด นัยน์ตาจับจ้องมาที่ชุดเมดที่บัดนี้กลายเป็นชุดคนใช้กระโปรงสั้นไปแล้ว “ในเมื่อคนที่อยากให้ใส่ ไม่ยอมใส่...ชุดนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากผ้าขี้ริ้วนั่นแหละ”พูดจบ ก็เอื้อมมือไปคว้าชุดนั่นมา แต่ก็โดนมือบางยื้อเอาไว้ “ปล่อยนะ...ฉันจะเอามันไปเผาทิ้ง! จะเอาไปฉีกทึ้งให้ไม่เหลือซากเลย!”
“พอแล้วๆ!”รีไวล์ยื้อชุดนั่นเข้าหาตัวเองจนสำเร็จ “ก็ได้ๆ ฉันยอมใส่ก็ได้!!!”
เอเลนเลิกคิ้ว
“จริงนะ?”คราวนี้ ใบหน้าหล่อเริ่มเผยอรอยยิ้ม...
“อ...อืม”รีไวล์เริ่มรู้สึกถึงความผิดพลาด ที่เผลอตกลงกับพี่ชายตัวเอง แต่ตอนนี้เขาจะกลับคำพูดไม่ได้อีกแล้ว ยิ่งเห็นสีหน้าจริงจังของเอเลน ก็รู้ได้เลยว่าถ้าปฏิเสธไป ได้มีสิทธิ์ต้องทำ‘เครื่องดื่มพิเศษ’ให้อีกแน่ๆ
“ดีจังเลย...แต่ว้า...จากชุดเมดเรียบๆน่ารัก”เขาว่าพลางหยิบชุดเมดมาสะบัดดู ก็เห็นผ้าที่กระโปรงขาดเลิกไปถึงด้านบน “ถ้าตัดตรงส่วนที่ขาดออก...มันจะกลายเป็นชุดเมดสุดเซ็กซี่ไปเลยนะ”เขายิ้มร่า ก่อนจะคว้ากรรไกรบนโต๊ะเรียนมาตัดอย่างไม่รอช้าทันที....
“มัน...ทุเรศ”ร่างบางเอ่ยพึมพำด้วยใบหน้าแดงซ่าน รู้สึกอับอายเหลือแสนที่ต้องใส่ชุดคอสเพลย์งี่เง่าแบบนี้
“ไม่เลยนะ...สวยมากเลย”เอเลนมองร่างบางตาค้าง เขาหยิบเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปรัวๆอย่างไม่ฟังเสียงห้ามของอีกฝ่าย
ร่างบางยืนม้วนด้วยความอาย เขาอยู่ในชุดเมดปิดคอ เสื้อแขนป่องสีขาวยาวถึงไหล่ กระโปรงที่เคยยาวกว่านี้ถูกตัดออกอย่างลวกๆถึงครึ่งขาอ่อน เผยให้เห็นขาเรียวสวยที่ถูกปิดด้วยถุงเท้ายาวแค่เข่า
รีไวล์พยายามดึงกระโปรงให้ต่ำลง เพื่อปกปิดผิวที่โชว์ออกมามากเกินไป
“ไม่เอาน่า รีไวล์”เอเลนยิ้มกว้างก่อนจะดึงร่างบางนั่นมานั่งบนตัก “ไม่เห็นต้องอายเลย กับพี่นะ”เขากระซิบ
‘ก็เพราะเป็นพี่น่ะสิ เลยต้องระวังเป็นพิเศษ’เขาคิด
“ไม่เอา...ไม่นั่ง...”รีไวล์ค้าน พยายามจะลุกขึ้น แต่ก็โดนมือใหญ่นั่นฉุดให้นั่งลงที่เดิม “เอเลน! กระโปรงมันสั้นนะ ถ้าฉันนั่งมันจะ...”รีไวล์หน้าแดงซ่านเข้าไปใหญ่ ไม่กล้าพูดต่อให้จบเมื่อตัวเองรู้สึกได้ถึงกระโปรงฟู่ฟ่องที่เลิกขึ้นจนเผยให้เห็นกางเกงในแวบๆ
“อย่างงั้นเหรอ”พี่ชายของเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขาไม่อาจปฏิเสธได้เลย ว่าการเห็นน้องชายตัวเองในชุดสุดเซ็กซี่แบบนี้ มันปลุกเร้าอารมณ์มากแค่ไหน “แบบนั้นก็ดีน่ะสิ”ว่าแล้ว ก็เอื้อมมือใหญ่ไปลูบไล้แถวขาอ่อนที่โผล่พ้นชายกระโปรง
“อ๊ะ!”รีไวล์สะดุ้งโหยง เขาหันไปค้อนคนด้านหลังพลางขยับตัวดิ้นหนีจากแขนที่โอบอุ้มเอวเขาไว้ “ปละ..ปล่อยนะเว้ย”พอมือช่ำชองนั่นเริ่มลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่สุดแสนจะส่วนตัว รีไวล์ก็เริ่มรู้สึกถึงเรี่ยวแรงที่กำลังถูกสูบ ร่างเล็กพยายามดึงมือหื่นนั่นออกจากการกอบกุม แต่เหมือนเอเลนจะรู้ทันจึงรีบพลิกตัวรีไวล์ลงไปนอนกับเตียงทันที
...เอเลนขึ้นคร่อมร่างเล็กอีกครั้ง...
“ไม่เอานะ เอเลน!!”รีไวล์พยายามดึงดัน เขาทั้งผลักทั้งเตะต่อย แต่เอเลนก็ใช้สกิลที่สั่งสมมานาน หลบการประทุษร้ายนั่นได้ทุกครั้ง “ลุกไปเดี๋ยวนี้นะ!”เขาตวาดลั่น
เอเลนยิ้มหวาน
“ไม่เอาน่า...”เขากระซิบแผ่ว “พี่ไม่ทำอะไรนายตอนนี้หรอก...แค่อยากขอนอนกอดเฉยๆ”
ทีแรกรีไวล์เหมือนจะปฏิเสธ แต่มือที่เคยรุกล้ำกล่องดวงใจของเขา บัดนี้เลื้อยไปอยู่ใต้กระโปรง นิ้วไปเกี่ยวกับขอบกางเกงในของรีไวล์
“ถ้านายบอกว่า ‘ไม่’ รู้ใช่มั้ย...ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
.....
กฎข้อที่สี่ : น้องชายห้ามสนิทกับใครมากกว่าพี่ชาย
“เป็นกรรมการนักเรียนนี่ ไม่ง่ายเลยเนอะ!”ฮันซี่เอ่ยอย่างร่าเริง แม้นว่าตลอดช่วงเย็นที่นักเรียนคนอื่นๆกลับบ้านไปแล้ว จะเหลือพวกเธอต้องทำงานเอกสารต่อให้เสร็จ
“ก็ต้องมาคอยตรวจคำร้องของพวกนักเรียนนี่น่า”นานาบะเอ่ยเสริม
“อืม”มิเกะที่กำลังจะหลับแหล่มิหลับแหล่ก็ยังอุตส่าห์ตื่นมาพยักเพยิดให้
“อ่า...โทษทีนะที่ใช้งานพวกนายหนักไปหน่อย”เอลวิน สมิธ ผู้เป็นประธานนักเรียนเอ่ยด้วยสีหน้าแหยๆ
“มันเป็นงานของพวกเราอยู่แล้ว เราจะปล่อยให้นายทำงานคนเดียวจนดึกดื่นได้ยังไงกัน”รีไวล์ เด็กม.ต้นเพียงคนเดียวในคณะกรรมการนักเรียนเอ่ยแย้ง เขาดันแว่นตัวเองขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาอ่านเอกสารในมือต่อ
เอลวินยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น
“ขอบใจพวกนายมากเลยนะ...แต่วันนี้พอแค่นี้เถอะ ถ้าดึกกว่านี้เดี๋ยวฉันจะโดนผู้ปกครองของใครบางคนว่าเอาได้”ว่าแล้วก็หันไปส่งวิ้งค์ให้รีไวล์ที่หันมาแยกเขี้ยวใส่เขาทันทีที่พูดเสร็จ เพราะผู้ปกครองที่เอลวินว่าน่ะ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก นอกจากพี่ชายผู้สุดจะบราค่อนของร่างบาง “ยิ่งได้ข่าวว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาคนนั้นแล้วด้วย”
“ฮะๆๆๆ”ฮันซี่หัวเราะพลางเดินมาหยอกเย้ารีไวล์เล่น
รีไวล์ก็กระทุ้งศอกเข้าที่ท้องสาวแว่นทันที จนเจ้าหล่อนถึงกับร้องโอดโอยเสียงดัง
“ถ้าในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันกลับล่ะ”รีไวล์ว่า พลางลุกขึ้นหมายจะเดินออกจากห้องกรรมการนักเรียน แต่ก็ยังมิวายหันมาส่งสายตาพิฆาตให้ฮันซี่หนึ่งที ทว่ายังไม่ทันที่ร่างเล็กจะเดินออกจากห้องไป เอลวินก็เรียกให้เขาต้องหันกลับมาอย่างงงๆ
“เดี๋ยว...รีไวล์ อยู่คุยกับฉันก่อน”ร่างสูงว่า พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้สูงสุดของบรรดานักเรียน
พอกรรมการคนอื่นๆเดินออกจากห้องไปจนหมด เอลวินก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึมทันที
“รีไวล์...นายต้องทำอะไรสักอย่าง....เรื่องพี่ชายของนายแล้วนะ”
......................................................................................................................
“ช้าชะมัด”เอเลนคำรามเสียงต่ำ ขณะก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือด้วยความหงุดหงิด “จะสามทุ่มแล้วนะ! มัวทำอะไรอยู่”ทั้งๆที่ วันนี้เป็นวันเกิดเขาแท้ๆ ทั้งๆที่สัญญากันไว้แล้วว่าจะไปเที่ยวทะเลตอนดึกกัน! เขาคิดอย่างโมโห รู้สึกน้อยใจที่น้องชายไม่ให้ความสำคัญตัวเองเท่ากับที่เขาให้ความสำคัญอีกฝ่าย
ว่าแล้ว ร่างสูงที่ตอนแรกถูกบังคับให้ยืนรออยู่ที่ข้างล่างตึก ก็เดินขึ้นบันไดมาหาทันที
“อ๊ะ อ้าว! พี่ชายของรีไวล์นิ”เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกความสนใจจากเขา “สุขสันต์วันเกิดนะคะ! คุณพี่ชายของรีไวล์”
เอเลนหันหน้าไปมองผู้มาใหม่ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“ดูท่าจะอารมณ์ไม่ดีนะ”นานาบะหันไปกระซิบกับฮันซี่ที่เรียกเอเลน
แต่สาวแว่นก็ไม่ได้สนใจ เธอยังเดินเข้ามาใกล้เอเลน ผู้เป็นรุ่นพี่หนึ่งปีด้วยความร่าเริง
“ถ้าจะหารีไวล์จังล่ะก็ ยังอยู่ที่ห้องคณะกรรมการอยู่เลย”เธอเอ่ย
เอเลนมุ่นคิ้ว
“แล้วทำไมพวกเธอถึงลงมาก่อนเขาล่ะ?”
“อ๋อ! ก็เห็นเอลวินรั้งรีไวล์ให้อยู่คุยก่อนน่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคุยเรื่องอะไร?”เธอทำหน้าครุ่นคิด โดยไม่ไม่ได้รับรู้ถึงรังสีทะมึนที่แผ่ซ่านออกจากจากร่างสูงเลย
‘เอลวิน สมิธ’...เป็นรุ่นพี่ม.6ที่เขาแสนจะเกลียดชัง ไม่ใช่เพราะหมอนั่นหน้าตาดีกว่าหรือบ้านรวยกว่า อะไรหรอกนะ...แต่เพราะเขารู้ว่ามันกำลังสนใจน้องชายของเขาอยู่ต่างหากล่ะ...เขารู้ว่ามันใช้สายตาแบบไหนยามจับจ้องไปที่รีไวล์...เขารู้ว่าความรู้สึกที่มันมีต่อรีไวล์ไม่ได้เป็นเพียงแค่รุ่นพี่รุ่นน้อง...
...แต่รีไวล์ไม่มีทางไปสนใจหมอนั่นหรอก...
....เพราะอะไรน่ะเหรอ?....
ก็เพราะรีไวล์เป็นของเขาคนเดียว!!!!
“ขอบใจนะฮันซี่”เอเลนแสร้งยิ้มหวานให้หญิงสาว เขาพยายามเก็บอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ภายในด้วยความสามารถทั้งหมด ก่อนจะเดินผ่านคนทั้งสามไปยังห้องที่เป็นจุดหมาย
“ว้าวๆ”ฮันซี่ร้อง “พี่ชายของรีไวล์นี่! หล่อจังเลยเนอะ”
“ก็คงงั้น”นานาบะเอ่ยตอบ หญิงสาวหันไปมองแผ่นหลังของเอเลนอย่างครุ่นคิด “...แต่ว่าผู้ชายคนนั้นน่ะ...น่ากลัวจังเลยนะ ติดน้องยังกับอะไรดี”
ฮันซี่เลิกคิ้ว ก่อนจะหันมามองนานาบะอย่างงงๆ
“อ้าว?...จริงเหรอ”ฮันซี่เอียงคอถาม “ฉันเพิ่งรู้น่ะเนี่ย ทีแรกฉันนึกว่าคนที่เป็นบราค่อนคือรีไวล์ซะอีก”
พูดจบ นานาบะก็หันมามองเพื่อนสาวงงๆ
“ทำไมคิดงั้นล่ะ? ใช่ซะที่ไหนกันเล่า”หญิงสาวผมทองหัวเราะ
.............................................................................................................
เอเลนเดินทำหน้าตึงไปอย่างเร่งรีบ เขาไม่รู้หรอกนะว่าสองคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่
....แต่ถ้าไอ้หมอนั่นกล้าแตะต้องน้องชายของเขาล่ะก็....
คิดแล้ว ร่างสูงก็เร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม เขาเดินอย่างรวดเร็วจนมาถึงหน้าประตูห้องคณะกรรมการนักเรียน และในขณะที่มือใหญ่กำลังจะเอื้อมไปที่ลูกบิดประตูนั่นเอง...
“...นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าทุกอย่างมันจะยิ่งแย่!”เสียงทุ้มใหญ่ของผู้ชายที่เป็นศัตรูอันดับหนึ่งของเอเลนตะเบ็งเสียงดัง “นายต้องยุติมันนะ”
“มันไม่ใช่เรื่องที่นายจะต้องยุ่ง..”คราวนี้เป็นน้องชายของเขาที่เอ่ยเสียงเย็นเยียบ ไม่ต้องเห็นหน้าเอเลนก็พอเดาออก ว่าตอนนี้รีไวล์คงกำลังทำหน้าบูดบึ้งสนิทแน่ๆ
“ต้องยุ่งสิ”เอลวินเอ่ยเสียงแผ่วเบา เขาเหม่อมองใบหน้าสวยด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ร่างสูงกว่าเดินเข้าใกล้อีกฝ่ายจนมากเกินไป ก่อนจะใช้มือใหญ่ลูบเบาๆที่แก้มขาว “...เพราะฉันชอบนายนะ...ชอบมากกว่า...อั่ก!!!!”
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยคำหวานจนจบประโยค หมัดลุ่นๆจากใครบางคนก็ปะทะเข้าเต็มใบหน้าหล่ออย่างจัง ร่างยักษ์ของชายวัย18ถูกอัดปลิวไปชนกับโต๊ะประธานเต็มแรง แรงเสียจนเอกสารทั้งหมดหล่นเกลื่อนกลาดไปทั่วห้อง
“เอลวิน!”รีไวล์ร้องเรียก พยายามจะเดินไปช่วยแต่ก็โดนพี่ชายขวางเสียก่อน
“อึก!!!!”เอลวินครางในลำคอ เขาข่มความเจ็บที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายด้วยความโมโห ก่อนจะเงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ “...เอเลน เยเกอร์!”เขาคำรามเสียงต่ำ นัยน์ตาจับจ้องไปที่ชายหนุ่ม สีหน้าที่เคยคงไว้ซึ่งความสงบนิ่ง บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าของความกระหายเลือด
...ไม่ต่างอะไรจากสีหน้าของเอเลน...
“จำไว้ เอลวิน สมิธ”เขาเอ่ยเสียงเข้ม ไม่มีการนับรุ่นพี่รุ่นน้องอีกต่อไป “ของของฉัน...ใครก็ห้ามแตะต้อง!!!!”
พลันจบประโยคคำกร้าวนั่นเอง ร่างสูงก็กระชากน้องชายเข้ามาในอ้อมแขนทันที เขาจงใจบดขยี้กลีบปากสีชมพูนั่นอย่างแรง แรงมากจนรีไวล์เผลอร้องด้วยความเจ็บ ก่อนที่เอเลนจะใช้มือกดท้ายทอยของอีกฝ่ายเพื่อให้ตัวเองสามารถกวาดลิ้นในโพรงหวานได้ลึกขึ้น
“อือ!!!!”รีไวล์ครางประท้วง พยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขนแข็งแกร่ง แต่เขาไม่สามารถต่อกรกับพี่ชายยามโมโหได้เลย จึงได้แต่จำยอมในสิ่งที่เอเลนยัดเยียดให้เขาทำ “อ๊า!!!”ร่างบางครางกระเส่า เผลอรู้สึกดีไปกับมืออีกข้างที่เลื่อนมาลูบไล้ผิวขาวใต้ร่มผ้า “ม...ไม่นะ...เอลวิน อย่ามองนะ...”
...แต่มันสายไปแล้ว....
เอลวินมองตามมือใหญ่ที่ลากไซร้ไปทั่วผิวขาวน่ามองนั่นด้วยความอิจฉา เขากำหมัดแน่นอย่างแค้นเคือง ร่างสูงไม่อาจทนรับต่อสิ่งที่เห็นได้...แต่เขาก็ไม่อาจเบือนหน้าหนีสิ่งที่ทั้งคู่กำลังทำอยู่ได้...
เพราะเขากำลังจินตนาการเอเลนให้เป็นตัวเอง
เขาอยากเป็นคนนั้นเหลือเกิน....
อยากเป็นคนที่มอบจูบร้อนแรงแก่รีไวล์
อยากเป็นคนที่ได้ครอบครองร่างบางนั่นแต่เพียงผู้เดียว...
...อยากเป็นคนรักของรีไวล์แทนหมอนั่น!!!...
“เข้าใจแล้วใช่มั้ย...คุณรุ่นพี่”เอเลนเสยะยิ้มร้าย เขากอดเด็กหนุ่มที่หายใจหอบด้วยใบหน้าแดงซ่านเสียแน่น “...คนที่ทำแบบนี้กับรีไวล์ได้ มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น”
....................................................................................................................
กฎข้อที่ห้า : น้องชายเป็นของพี่ชาย เป็นของพี่ชายแต่เพียงผู้เดียว!
“ปล่อยนะ! เอเลน...จะลากฉันไปไหนน่ะ!”รีไวล์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกอีกฝ่ายกึ่งจูงกึ่งลากไปยังทิศทางที่ไม่ใช่ทางกลับบ้านหรือทางไปทะเลเลยสักนิด ร่างบางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเอาเสียเลย เขาจึงตะโกนถามอีกฝ่ายเสียงดัง “นี่คิดจะพาไปไหนน่ะ!!!”
“หุบปากซะ!!!”เอเลนตวาดลั่น เขาที่เดิมเดินนำโดยไม่หันมามองคนข้างหลังมาตลอด ตอนนี้หันมาถลึงตามองร่างบางด้วยสีหน้าหงุดหงิดถึงขีดสุด เอเลนเลือกที่จะหยุดเดิน เมื่อมาถึงสวนสาธารณะที่ไม่มีคนอยู่สักคน เขาหันมากระชากร่างบางเข้าหาตัวเองอย่างไร้ความปราณี “บอกฉันมานะ! นายคิดยังไงกับหมอนั่น!!!”
รีไวล์มองหน้าเอเลนอย่างงงๆครู่หนึ่ง
...ก่อนจะยิ้มเยาะให้อีกฝ่าย...
“ทำไม?”เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “นายคิดว่าคนอย่างนายจะสู้อะไรรุ่นพี่เอลวินได้เหรอ?”รีไวล์สะบัดข้อมือออกจากการกอบกุมอย่างแรง พลางเดินเข้ามาใกล้พี่ชายด้วยตัวเอง “คนที่เอาแต่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างนายน่ะ!!!...มันก็เหมือนกับเศษสวะดีๆนี่เอง!”เขาเอ่ยราวกับระบายอารมณ์ แอบรู้สึกผิดนิดๆเมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของคนเป็นพี่ชาย
“...ฉันถามว่านายรู้สึกยังไงกับหมอนั่น...ไม่ใช่ฉัน” เอเลนเอ่ยเสียงต่ำ รู้สึกได้ถึงความอดทนที่ใกล้จะหมดลง
“อ๋อ”รีไวล์ขึ้นเสียงสูง “ฉันตอบไม่ตรงคำถามสินะ...อยากรู้หรอ..ได้ จะบอกให้”รีไวล์ดึงคอเสื้อพี่ชายของตัวเองลงอย่างแรง ก่อนจะกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของอีกฝ่าย “เอลวินน่ะนะ....ฉันน่ะ..... ‘รัก’เลยแหละ”
พลั่ก!!!!!
“โอ็ย!!!!”สิ้นประโยคไปไม่ถึงวินาที ร่างทั้งร่างของรีไวล์ก็ถูกกระชากไปนอนลงอยู่ตรงพุ่มหญ้าริมสวนเปลี่ยวทันที เขาครางด้วยความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่เอเลนเต็มเหนี่ยว “ทำบ้าอะไรของนายวะ!!!”
เอเลนยิ้มหวานอย่างเสแสร้ง
“ตอนแรกก็กะจะไปทำที่โรงแรมล่ะนะ”เขาเอ่ยเสียงเย็น ผิดกับสีหน้าร่าเริง “แต่ในเมื่อนายทำให้ฉันโมโหถึงขนาดนี้...แค่พุ่มไม้ก็ดีแค่ไหนแล้ว!”ว่าเสร็จ ร่างสูงก็ขึ้นคร่อมคนตัวเล็กทันที เขาฉีกทึ้งเสื้อผ้านักเรียนของร่างบางออกอย่างไม่ใยดี
....ไม่นะ!!!!....
...หยุด!!!!...
“อย่านะ! ไม่เอา!”รีไวล์พยายามขัดขืน ใบหน้าที่เคยฉายแววเย็นชาตลอดเวลา บัดนี้เปื้อนไปด้วยน้ำตาที่หลั่งรินออกมาอย่างไม่ยอมหยุด “ฮึก! พอแล้ว ไม่เอานะ!”ร่างกายสีขาวนวลไร้อาภรณ์ใดๆสั่นเทาราวกับลูกนก ฝันร้ายที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้กลับหวนคืนมาเป็นจริงอีกครั้ง
เอเลนทำหูทวนลมกับทุกเสียงร้องปฏิเสธของน้องชาย....
...ไม่!...เขาไม่ยอมยกรีไวล์ให้ใครทั้งนั้น...
...รีไวล์จะต้องเป็นของเขาคนเดียว!!!...
...ไม่ว่าจะต้องเกิดมาอีกกี่ชาติ! เขาจะต้องเป็นคนเดียวที่ได้ครอบครองเขา!!!!....
“นายมันไอ้สารเลว!!! คนอย่างนายไม่น่าเกิดมาบนโลกเลย!!!!”นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของรีไวล์
...ก่อนจะมีเพียงเสียงครางกระเส่าเท่านั้น ที่หลุดลอดออกมาจากกลีบปากบาง....
......................................................................................................
กฎข้อที่ศูนย์(พิเศษ) : .......................
รีไวล์ครางด้วยความเจ็บปวดทันทีที่ลืมตาตื่น เขาเอื้อมมือไปนวดสะโพกของตัวเองน้อยๆ รู้สึกได้เลยว่าช่วงล่างของตัวเองถูกใช้งานอย่างหนัก...
“บ้าจริง...ไม่ออมแรงกันบ้างเลย”ร่างบางบ่นพึมพำ ก่อนจะหันไปมองพี่ชายที่ยังนอนหลับพริ้มอยู่ข้างตัว รีไวล์ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้นอนสบายมากขึ้น
...หลังเสร็จกิจกรรมนั่นแล้ว พวกเขาก็ยังคงนอนกันอยู่ที่สวนสาธารณะ...
โชคดี ที่แถวนี้พุ่มไม้เยอะน่าดู แถมยังเปลี่ยวซะอีก ถึงจะนอนตัวเปลือยทั้งคืนก็คงไม่มีใครรู้ใครเห็นกันหรอก
ว่าแล้ว รีไวล์ก็ก้มลงมองเสื้อนอกของเอเลน ที่ไม่รู้ทำไมถึงมาคลุมอยู่ที่ตัวเขาได้ ทั้งๆที่พี่ชายของเขาแทบไม่ห่มอะไรเลยทั้งนั้น....
“...เป็นพี่ชายที่ดีจังเลยนะ”รีไวล์ยิ้มบางๆ....
“รีไวล์...นายต้องทำอะไรสักอย่าง...เรื่องพี่ชายของนายแล้วนะ”เอลวินเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พี่ชายนายติดน้องขั้นรุนแรงมาก ได้ยินว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาชกหน้ารุ่นพี่ม.6ที่มาจีบนายจนต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นเดือนๆ”
รีไวล์ยักไหล่ให้ พลางยิ้มบางๆ
“ก็สมควรแล้วนิ หมอนั่นชอบมาตื้อฉันอยู่เรื่อย โดนซะบ้างไม่เห็นเป็นไร...”
“รีไวล์”เอลวินกดเสียงต่ำ นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววเศร้าสร้อยเมื่อมองใบหน้าสวยของรีไวล์ “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่านายกำลังทำอะไรอยู่”
รีไวล์เลิกคิ้ว
“โอ้...นี่นายดูออกด้วยเหรอ?”เขายิ้มพราย มือเล็กๆนั่นถูกยกมาลูบหน้าตัวเองเบาๆ “นายรู้เหรอ...ว่าจริงๆแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแผนของฉัน?....รู้ด้วยเหรอ ว่าที่เอเลนทั้งรักทั้งหลงฉันขนาดนั้น มันเป็นความต้องการของฉันอยู่แล้ว รู้ด้วยใช่มั้ย ว่าคนที่เป็นฝ่ายตกหลุมรักพี่น้องก่อน...คือฉัน ไม่ใช่เอเลน...”
เอลวินเม้มปาก เมื่อได้ยินทุกอย่าง
“ฉันดูนายไม่ออกหรอก...แต่ฮันซี่ดูนายออก”เขาว่า ได้ยินคำสบถเบาๆจากรีไวล์ “ฮันซี่บอกฉันว่าเขาเห็นตลอดเวลา ว่านายชอบยั่วโมโหเอเลน ...ชอบทำหน้าท่าตีท่าต่อย....แล้วก็ยังชอบ...”เขากลืนน้ำลายลงคอ กระอักกระอ่วนใจนิดหน่อยที่ต้องพูดประโยคถัดมา “ชอบยั่วให้เอเลนมีอารมณ์ทางเพศอยู่เรื่อย”
รีไวล์หัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดอันสุดแสนพยายามจะดัดแปลงให้มันดูสุภาพจากคุณชายสมิธ
“แล้ว?”
“นายต้องหยุดมันนะ...อาการของพี่ชายนายรุนแรงขึ้นทุกวัน ยิ่งนายทำตัวเหมือนไม่สนใจเขา เขาก็ยิ่งก้าวร้าวมากขึ้น”เอลวินเริ่มหัวเสีย “ฉันกลัวว่าเขาจะเผลอ...เผลอทำร้ายนายนะ”
“ทำร้าย?”รีไวล์แสร้งอุทาน “นั่นก็ยิ่งดีน่ะสิ...นายไม่รู้หรอกว่าฉันต้องแกล้งยั่วเขามากแค่ไหน กว่าจะทำให้เขา ‘ทำร้าย’ฉันได้...ตอนฉันอายุ13 ถ้าไม่ยอมหลอกใช้ไอ้งั่งคนหนึ่งว่าเป็นแฟน พี่ชายฉันคงไม่โง่ถึงขนาดมาพรากเวอร์จิ้นฉันตอนกลางวันแสกๆที่โรงเรียนหรอกนะ”เขาว่าพลางยิ้มหวาน รู้สึกดีทุกครั้งที่หวนรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันนั้น พี่ชายกระทำกับเขาอย่างรุนแรง ไม่ปราณี พร้อมทั้งด่าว่าเขาต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็น อีตัว ผู้ชายแพศยา คนเห็นแก่ตัว หรือแม้แต่ผู้ชายร่าน ใจง่าย ก่อนจะตบท้ายด้วยคำบอกรักสุดแสนโรแมนติก...
‘รีไวล์...นายเป็นของฉัน! ของฉันคนเดียว! ถ้าคิดจะไปมีคนอื่นล่ะก็...นายเตรียมตัวรับความเจ็บปวดเหมือนตอนนี้เลย!!!’
“อา...คิดถึงเมื่อไร ก็ทำให้มีความสุขตลอดเลย”รีไวล์ยิ้มกว้าง นัยน์ตาสีเทาเหม่อลอยมองไปที่เพดาน รู้สึกลุขสมเหลือเกินเมื่อถูกกระทำเช่นนั้น
เอลวินกำมือแน่นเมื่อเห็นท่าทางของรีไวล์
“...นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าทุกอย่างมันจะยิ่งแย่! นายต้องยุติมันนะ!!!”..........
“ทำไมฉันต้องยุติมันด้วยล่ะ”รีไวล์ยิ้มกว้าง ก่อนจะหันมานอนซบอกพี่ชายของตัวเอง
...รีไวล์จ้องมองใบหน้าหล่อด้วยความหลงใหล...
“สุขสันต์วันเกิดนะ...เอเลน”รีไวล์ขยับมามอบจุมพิตแผ่วเบาแก่ร่างสูง ขำขันเบาๆเมื่อได้ยินเสียงอู้อี้ของเอเลน
กฎข้อที่ศูนย์ : พี่ชายต้องรักน้องชายตลอดกาล
................................................................................................................
โอ้....มาย.....ก็อด....=[]=!!!!
เขียนเข้าไปได้ยังไง 18หน้าฟร้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
= =^ คือจริงๆแล้ว พล้อตเรื่องของตอนพิเศษนี่ เคยกะจะทำเป็นเรื่องยาวค่ะ แต่ดันลืมเสียก่อน 555 ก็เลยเอามาทำเป็นตอนพิเศษ HBD ให้ไอ้เยเกอร์แทน
ตอนไรต์มานั่งอ่านที่พิมพ์ บ่องตง อีนี่ขนลุกอ่ะค่ะ ความรักของเอเลน-รีไวล์ในฉบับพี่-น้องนี่ น่ากลัวจริงๆเลยเนอะ - -^
สุดท้ายๆ!!!
HBD EREN JAEGER
ขอให้คงความรักกับเฮย์โจวไปนานๆน้า>3< เป็นสามีที่ดี ดูแลภรรยาไม่ให้ตกขาดบกพร่องล่ะ 555
และขอให้แพริ่ง ERERI จง FOREVER ตลอดไป!!!!!!! >/////<
ความคิดเห็น