คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
The Last man
-Intro-
นี่คือยุคของหุ่นยนต์ครองโลก....
นับตั้งแต่ยุคก้าวหน้าในศตวรรษที่20 นักวิทยาศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลกต่างไม่ยอมหยุดพัฒนาเทคโนโลยีอยู่เพียงแค่ ‘เครื่องอำนวยความสะดวก’ พวกเขาต้องการอะไรที่มากกว่านั้น...เทคโนโลยีชนิดใหม่ที่จะสามารถแทนที่สิ่งมีชีวิตอันแสนงี่เง่าและโสมมเช่นมนุษย์...เทคโนโลยีล้ำหน้าที่จะมาแปรเปลี่ยนทุกอย่างในโลก...
...ใช่แล้ว พวกเขาต้องการสร้างหุ่นยนต์ที่คล้ายมนุษย์ที่สุด...
เริ่มแรก ทุกอย่างไปได้สวย...หุ่นยนต์ตัวแรกถูกสร้างขึ้นที่ญี่ปุ่น ถึงรูปร่างหน้าตาจะไม่คล้ายมนุษย์นัก แต่สมองจักรกลอัจฉริยะของมันก็สร้างความประหลาดใจให้แก่ชาวแดนปลาดิบอยู่ไม่น้อย หลังจากความสำเร็จครั้งนั้น นักวิจัยจากประเทศต่างๆก็เริ่มนำเสนอหุ่นยนต์ที่ตนพัฒนา นำมาอวดโฉมให้คนทั้งโลกได้ตกตะลึงกัน
และแล้ว..ปีค.ศ.2060...หุ่นยนต์ที่คล้ายมนุษย์มากที่สุดก็ได้ถือกำเนิดขึ้น...
‘มัน’เป็นหุ่นยนต์สัญชาติอเมริกันตัวแรก เพศชายผิวขาว วัยประมาณ20ต้นๆ รูปร่างหน้าตาตามมาตราฐานของคนที่นั่น สมองจักรกลของมันถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการรับรู้เทียบเท่ากับเด็ก10ขวบ มันชื่อว่า’คาร์ล’ (ตั้งตามชื่อลูกชายของหัวหน้าทีมผู้สร้าง) เมื่ออเมริกาได้เปิดตัวคาร์ลครั้งแรก กระแสที่พวกเขาได้รับมีทั้งชื่นชมและต่อต้าน บางก็ต้องการพัฒนาศักยภาพของมันให้สูงขึ้น บางก็ต่อต้านอเมริกาอย่างรุนแรง หาว่าการสร้างพวกมันเป็นการตั้งตนเสมอพระเจ้าผู้ซึ่งให้กำเนิดมนุษย์อย่างแท้จริง
...บางคนเริ่มรู้สึกแล้วว่า อีกไม่นาน...หุ่นยนต์จะมาแทนที่มนุษย์
....ลางสังหรณ์ของพวกเขาถูกต้อง...
เพราะหลังจากการถือกำเนิดของคาร์ลเชื้อสายอเมริกา สมองจักรกลที่คาดว่าจะเทียบเท่าได้แค่เด็ก10ขวบกลับเกิดการพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัด มันเกิดกระบวนการคิดอย่างก้าวไกลเกินกว่าจะเรียกว่าอัจฉริยะ มันรู้ว่ามนุษย์คือผู้สร้างมัน ...และเป็นศัตรูของการดำรงอยู่ของมัน...
คาร์ลคิดวางแผนไว้ช้านาน มันรอโอกาสที่จะโจมตีเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลา มันรอให้เหล่าผู้สร้าง... ‘พ่อ’ของมันสร้างหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ขึ้นอีกหลายตัว รอให้คนที่เหมือนมันตัวอื่นๆเตรียมพร้อมกับสงคราม...
20ปีต่อมา การล้างบางมนุษย์ก็เริ่มต้นขึ้น
ดูจากจำนวนคน หุ่นยนต์เพียง500ตัวไม่อาจเทียบได้กับมนุษย์กว่าพันล้านคนทั่วโลก แต่เมื่อดูจากศักยภาพที่มากกว่าคนธรรมดาถึงล้านเท่า...หุ่นยนต์แค่ตัวเดียวก็สามารถจัดการจำนวนประชากรจีนได้อย่างสบาย ทั้งพละกำลังเหนือมนุษย์ สมองกลอันชาญฉลาด และความสามารถในการแทรกซึมเข้าไปในระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ...สงครามครั้งนี้เปรียบเสมือนการปะทะกันของทหารผู้มีศักยภาพพร้อมกับเด็กทารกแบเบาะผู้ไม่สามารถจะทำอะไรได้...แม้แต่จะยืนขึ้นด้วยตัวเอง
เพียง10ปี มนุษย์ก็สูญพันธุ์ลงอย่างง่ายดาย
....โบกมือลามนุษย์ทั้งหลายผู้ซึ่งเคยครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้เลย...
...เพราะดาวสีฟ้าดวงนี้ จะไม่มีซึ่งพวกโง่เง่าพรรค์นั้นอีกต่อไป...
...และผู้ยิ่งใหญ่ของ ‘โลก’ใบนี้....จะมีเพียงหุ่นยนต์อย่างพวกเราเท่านั้น!
..........................................................................................................................
ค.ศ.2764
“ก็ได้แค่มองจากภาพล่ะวะ”เสียงทุ้มกร้าวของชายคนหนึ่งพูดขึ้น เขาบิดขี้เกียจบนโต๊ะทำงานเล็กน้อยก่อนจะจับจ้องสิ่งที่เรียกว่า ‘หนังสือ’ ด้วยแววตาขัดใจ “จะดูจากคลิปวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้ เพราะมันมีมาตั้งกะ700ปีแล้ว โบราณชะมัด” ‘แจน กิลชูไตน์’จักรกลอัจฉริยะเบอร์3104 สัญชาติเยอรมัน วัย17เอ่ยขึ้นพลางมองไปทางเพื่อนผมทองเกรียนข้างๆราวขอความเห็น
“แล้วทำไมจู่ๆนายถึงสนใจจะดู’วิธีการสืบพันธุ์’ของมนุษย์เอาซะตอนนี้ล่ะฟะ” ‘ไรเนอร์ บราวน์’ จักรกลทหารปลดระวางเบอร์211 สัญชาติและอายุเดียวกันตอบเพื่อนหนุ่มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เห็นเขาว่ามันก็เหมือนๆกับวิธีที่เราปฏิบัติกันนี่น่า...แต่แค่ได้อารมณ์กว่า...ล่ะมั้ง?”
“เพราะงั้น ฉันถึงอยากดูไงล่ะ”แจนรีบทำตัวตรง ตีหน้าเคร่งเครียด “ถึงหุ่นยนต์รุ่นเราจะถูกพัฒนาให้มีความรู้สึกก็เถอะ...แต่ไอ้ที่เราทำๆกันอยู่ ฉันไม่เห็นจะรู้สึกดีตรงไหนเลย”แจนทำหน้ามุ่ย “เย็นชืดและแข็งทื่อ ถึงทีมพัฒนาของบริษัทเราจะพยายามทำให้หุ่นยนต์สาวๆรุ่นใหม่ๆมีผิวหนังนุ่มขึ้นก็เถอะ แต่ไอ้ที่เขาลือกันว่าถ้าสัมผัสผิวกายของมนุษย์จะรู้สึกอบอุ่นนุ่มนวล มันก็เปรียบเสมือนความใฝ่ฝันที่ผู้ชายอย่างเราอยากได้เลยนะ”
“เพ้อฝันไปแล้วนาย ไม่เคยสัมผัสมาก่อนแล้วจะรู้ได้ไงว่ามันสุดยอดจริงๆ”ไรเนอร์ส่ายหัวอย่างระอา
“นายก็เหมือนกันแหละ ไม่เคยมาก่อนก็อย่าคิดว่ามันไม่ดีซะแล้วสิฟะ!”ว่าพลางก็หยิบแฟ้มงานใบโตฟาดใส่หัวอีกฝ่ายที่ไม่รู้สึกสะทกสะท้ายเลยแม้แต่นิด
แต่ว่า...ตั้งแต่มีกฎใหม่ให้หุ่นยนต์ทุกตัวอัพโหลดโปรแกรม’ระบบประสาท’ ใส่สมองจักรกลเมื่อ300ปีก่อน ไอ้ความรู้สึกจี๊ดๆก็ทำเอาไรเนอร์ถึงกับเดือด
“เฮ้ยมันเจ็บน่ะว้อยย!”ว่าแล้วก็หยิบแฟ้มบนโต๊ะตัวเองมาขว้างใส่อีกฝ่ายบ้าง
“เจ็บเหรอ!?แต่ได้ข่าวว่าโปรแกรมเส้นประสาทของนายมันรุ่นตั้งแต่G4ไม่ใช่รึไง ของเก่าตั้งแต่200ปีก่อนมันลดความรู้สึกเจ็บจริงๆตั้ง60%เลยไม่ใช่เหรอ!”แล้วก็พยายามหลบของที่ถูกขว้างมาแต่ก็ไม่พ้นโดนเข้าเต็มๆที่จมูก
“แล้วไอ้100%ที่ว่า มันเจ็บแค่ไหน นายรู้รึไง!!!เราไม่ใช่มนุษย์ที่คุณบรรพบุรุษคาร์ลล้างบางไปเมื่อ700ปีก่อนนะโว้ยย!!”แล้วไรเนอร์ก็กระโจนโผนออกจากโต๊ะทำงานเข้าไปหาเรื่องตะลุมบอนกับแจนทันที
แต่ยังไม่ทันที่มือของอดีตจักรกลทหารจะได้ฟาดเข้าที่ใบหน้าหล่อ อีกเสียงทุ้มหนักก็เอ่ยขวางเสียก่อน
“ถ้าพวกนายชกกันจริงๆ ฉันจะไล่พวกนายออก”
ทั้งสองชะงักกึกทันที ไรเนอร์กลืนน้ำลาย(เหมือนมนุษย์มากเลยใช่มั้ยล่ะ)ดังเอื๊อก ขณะที่แจนทำหน้าไม่สบอารมณ์แล้วหันหน้าไปทางต้นเสียง
“เออๆ รู้แล้วน่า”แจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ยิ่งพอเห็นนัยน์ตาสีเขียวที่มองมาทางเขาอย่างคนเหนือกว่า เขาก็ยิ่งไม่พอใจมากเท่านั้น “ตั้งแต่ได้เป็นประธานบริษัทนี่ เอาใหญ่เลยนะ...เอเลน”
‘เอเลน เยเกอร์’ จักรกลอัจฉริยะเบอร์3029 แย้มรอยยิ้มกว้าง เขามองเพื่อนเก่าเพื่อนแก่(หรือศัตรูก็ว่าได้)ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอ่ยโต้ตอบอีกฝ่ายอย่างไม่ทุกข์ร้อนกับคำเหน็บแหนม
“ฉํนต้องทำตัวให้สมกับเป็นประธานบริษัท’Making Dear’หน่อยสิ”เขาว่า “จะให้ทำตัวเละเทะ ชอบชกต่อยเหมือนพวกนายแต่ก่อน มันไม่ได้แล้ว”
‘Making Dear’ เป็นบริษัทผลิตหุ่นยนต์เพื่อวัตถุประสงค์พิเศษ...จะถามว่าผลิตเพื่อจุดประสงค์อะไรน่ะเหรอ?...แน่นอน คำว่าdearแปลว่า ‘ที่รัก’ ในปัจจุบันที่หุ่นยนต์เพศหญิงดั้งเดิมมีน้อยเสียจนน่าใจหาย อัตราเพศหญิงต่อเพศชายประมาณ 1:300 ตัว เมื่อมองจากมุมมองของหุ่นยนต์ธรรมดาๆแล้ว จะเพศหญิงเพศชายก็ไม่สำคัญอะไร เพราะเครื่องจักรกลอย่างเราๆ ไม่มีการสืบพันธุ์ ไม่จำเป็นจะต้องสร้างมาเพิ่มเติม แต่หลังจากการออกกฎใหม่ของรัฐบาลกลางที่อเมริกา ที่ให้หุ่นยนต์ทุกตัวอัพโหลดโปรแกรม ‘ระบบประสาท’เข้าสู่สมองจักรกล ความโหยหาในสิ่งที่เรียกว่า ‘กามารมณ์’ก็แทบทำให้เกิดการจราจลและก่อการร้ายจากหุ่นยนต์เพศชาย เพื่อบรรเทาปัญหาอาชญากรรม รัฐบาลกลางจึงก่อตั้งบริษัทผลิตหุ่นยนต์เพื่อจุดประสงค์พิเศษไว้หลายที่ ทั่วทุกมุมโลก(ปรกติแล้วรัฐบาลกลางเท่านั้นที่มีสิทธิผลิตหุ่นยนต์ เพราะต้องมีการจดทะเบียนไอดีลงระบบออนไลน์ด้วย)
และบริษัทMaking Dear ก็เป็นหนึ่งในนั้น...
พวกเขาก่อตั้งกันอยู่ที่เยอรมัน ที่ๆอัตราส่วนจักรกลเพศหญิงต่อเพศชายเท่ากับ 1:100 ซึ่งถือว่ามีปัญหาน้อยกว่าที่อื่นๆพอสมควร
ทว่า การจะผลิตหุ่นยนต์เพศหญิง ไม่ได้มีความสำคัญอยู่แค่จำนวนเท่านั้น แต่ต้องมีคุณภาพทัดเทียมกันด้วย เพราะเมื่อครั้งมีการผลิตหุ่นยนต์เพศหญิงครั้งแรกๆเพื่อลดปัญหาอาชญากรรม พวกเขาผลิตได้แต่จักรกลจืดชืด ที่ตอบสนองความต้องการจริงไม่ถึง50%ด้วยซ้ำ แถมเมื่อผลิตออกมาแล้วจะทำลายทิ้งก็ไม่ได้ด้วย(มันก็เหมือนๆกับสิทธิในการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์เมื่อ700ปีก่อนโน้นนั่นแหละ) ฉะนั้นการจะผลิตหุ่นยนต์เพศหญิงได้แต่ละตัว จึงต้องมีทีมพัฒนาพวกมันให้สมบูรณ์แบบเสียก่อน ซึ่งผลลัพธ์ของความประณีตนี้ ทำให้บริษัทแต่ละที่ผลิตจักรกลหญิงออกมาได้เพียงปีละไม่กี่ตัวเท่านั้น
“แล้วเมื่อรัฐบาลกลางรู้แล้วว่าการมีโปรแกรมระบบประสาทมันสร้างปัญหาขนาดนี้ ทำไมถึงยังคงไว้ซึ่งกฎบ้าๆพรรค์นี้อีกล่ะ?”
นั่นเป็นคำถามที่หุ่นยนต์จากทั่วทุกมุมโลกเฝ้าหาคำตอบจากรัฐบาลกลาง...
...แต่พวกเขาไม่คิดจะเฉลย....
แต่ถึงไม่ได้รับคำตอบ พวกเขาก็ไม่กล้าหือกับรัฐบาลกลางอยู่ดี เพราะพวกเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคิดจะก่อกบฏ
รัฐบาลจะลบไอดีออนไลน์ของเราทั้งหมด ....เราจะกลายเป็นแค่หุ่นกระป๋องธรรมดาๆ ที่สมองจักรกลไม่ทำงาน เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว ตอนมีเหตุการณ์การก่ออาชกรรมครั้งแรกๆ จำนวนผู้ก่อเหตุไม่น้อยที่ถูกลบไอดีจนกลายเป็นแค่เศษโลหะถูกโละทิ้ง
ไม่มีใครอยากถูก ‘ฆ่า’ หรอก
“หืมม์?”เอเลนครางในลำคอน้อยๆเมื่อรับรู้ถึงอีเมล์ที่เข้ามาในสมองจักรกล เขาใช้นิ้วมือแตะที่หัวเล็กน้อยเพื่อเปิดอ่านเนื้อความ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าที่นัยน์ตาสีเขียวมีข้อความตัวอักษรเล็กๆกำลังวิ่งผ่านไปมา
นี่คือหนึ่งในความสามารถระดับสุดยอดของหุ่นยนต์ในยุคนี้ สมองจักรกลของพวกเขาเชื่อมต่อกับเครือข่ายในอินเทอร์เน็ตทั้งหมด
“มีอะไรเหรอไง?”แจนกล่าวถาม
“อีเมล์จากรัฐบาลกลางน่ะ”เอเลนแย้มยิ้มกว้างเมื่ออ่านเสร็จ “พวกนายยังจำบทความเก่าแก่เรื่องโครงการพิเศษของมนุษย์ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับโครงการพัฒนาบรรพบุรุษคาร์ลได้มั้ย?”
“ได้สิ”ไรเนอร์ว่าขณะจัดชุดสูททำงานของตนให้เข้าที่ “ไอ้โครงการที่ว่า...จะทำการเสมือนแช่แข็งมนุษย์คู่หนึ่งเพื่อส่งทั้งสองมาลืมตาดูโลกในอีก1000ปีข้างหน้าน่ะเหรอ”
“ได้ข่าวว่ามันไม่สำเร็จนี่น่า วิทยาการสมัยนั้นยังทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”แจนกลอกตาอย่างเบื่อๆ เขากลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานเหมือนเดิมก่อนจะเปิดอ่านหนังสือต่อ
เอเลนยิ้มเยาะให้อีกฝ่าย
“อันที่จริง มันสำเร็จ”ว่าแล้วแจนก็รีบหันควับมามองเขาทันที นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้างราวกับจะถามซ้ำว่าจริงหรือ? “ไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์พวกนั้นจะทำสำเร็จจริงๆ”เอเลนลูบคางตัวเอง “และไม่น่าเชื่ออีกนั่นแหละ ว่ารัฐบาลกลางจะไม่รู้ถึงความสำเร็จนี้เลย...อาจเป็นเพราะพวกเขาแอบทำกันอย่างลับๆที่ใต้ดิน...ที่ๆพวกเราแทบไม่เคยสำรวจ”
“เดี๋ยวๆๆๆๆ! เดี๋ยวนะ!!!!”แจนผุดลุกจากที่นั่งอย่างแรง นัยน์ตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง “นายกำลังจะบอกว่า...ยังมีมนุษย์ที่เหลือรอดอยู่อีกตั้งคู่หนึ่งเหรอ!!!!!!”
“อันที่จริง...ต้องบอกว่าคนเดียว”ใบหน้าหล่อของเอเลนฉายแววครุ่นคิด “ในอีเมล์ระบุว่า ระบบที่เสมือนแช่แข็งพวกเขาไว้เกิดทำงานผิดพลาด และทำให้ทั้งสองตื่นขึ้นเร็วกว่าเวลาที่กำหนด...ตอนที่คนของรัฐบาลไปเจอ มีคนหนึ่งเกิดอาการคลุ้มคลั่ง พวกเขาเลยฆ่าไปแล้วหนึ่ง ในรายงานระบุว่าอาจเป็นเพราะผลข้างเคียงจากการใช้ยาระหว่างโครงการ ...ที่น่าเสียดายคือ...มนุษย์ที่ตายเป็นผู้หญิง”
“อะไรนะ!!!!!”ราวกับความหวังที่ฉายแสงเรืองรองได้ดับรัศมีลง แจนเข่าทรุดลงกับพื้นทันที “แล้วอีกคนล่ะ!? ยังมีชีวิตรอดมั้ย? ผู้หญิงรึเปล่า?”
“ใช่ๆ ‘เขา’ยังมีชีวิตรอด”เอเลนหัวเราะอย่างขบขับกับท่าทีโอเวอร์ของแจน
ทีแรกแจนเหมือนจะดีใจ รีบลุกขึ้นยืนทันทีแต่พอมาคิดได้ว่าสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้มันไม่ได้เอาไว้เรียกเพศหญิง เขาก็กลับไปทรุดลงที่เดิม
“แล้วรัฐบาลบอกเรื่องนี้กับนายทำไม?”ไรเนอร์ผู้มีสติเต็มเต็งที่สุดเอ่ยถาม นัยน์ตาฉายแววงุนงงกับข่าวใหม่ที่ได้รับ
เอเลนยิ้มกว้างอีกครั้ง
“เพราะมันเป็นโชคดีของเราไงล่ะ”เขาตอบ “รัฐบาลจะจัดการประมูล ‘มนุษย์คนสุดท้าย’เพื่อการพัฒนาหุ่นยนต์วัตถุประสงค์พิเศษ”
..................................................................................................................................
อีนี่เปิดเรื่องใหม่ค่า>____________________________________< 555
เหตุเกิดจากการดูหนังเก่าๆเรื่องhinokio (มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ยยยยยยย)
ขอบอกว่าเรื่องนี้ เด็กแกเป็นหุ่นยนต์เคอะ 555 หุ่นยนต์ที่แรงเยอะกว่าเตี้ย
ป.ล.รักคนอ่านมากมายค่ะ >/////<
ความคิดเห็น