คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter 2
Chapter 2: Aghast
“ ว่าไงน่ะ ! “ อิจิโกะตะลึงทันทีที่ได้ยินหญิงสาวเอ่ยออกมา
“ จะถามอะไรซ้ำซากห๊า
ตามตัวอักษรน่ะแหละ จะบอกอะไรให้น่ะ ต่อให้เจ้ามาทำหน้าเหวอแบบนี้ก็ไม่ช่วยอะไรได้หรอกน่า “ หญิงสาวขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม
“ เอ่อ..รู้แล้ว ว่าแต่ ชั้นจะช่วยอะไรได้บ้าง “ ร่างสูงถามหญิงสาวกลับไป
“ ไม่ล่ะ เจ้าน่ะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ “
“ ทำไมล่ะ ชั้นเองก็เป็นยมทูตน่ะ”
“ อย่ามาทำปากดีหน่อยเลยหน่า “ หญิงสาวตวาดใส่ชายหนุ่มพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างอารมณ์เสีย ไม่แม้แต่จะหันมามองเขา
“ เจ้าน่ะไม่เกี่ยว
ต่อให้พูดอีกหลายครั้งก็ไม่มีทาง “ น้ำเสียงของเธอดูแผ่วเบาลงก่อนจะหันมาทางอิจิโกะด้วยสีหน้าที่แยกแยะไม่ออกว่ารู้สึกยังไง
“ เจ้าน่ะเป็นเพื่อนพ้องคนสำคัญของข้าน่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ขอแค่เจ้าไม่เข้ามาวุ่นวายให้เจ็บตัวแบบทุกครั้ง แค่นี้ข้าก็พอใจแล้ว “
“ งะ
งั้นเหรอ “ ชายหนุ่มก้มหน้าลง สีหน้าดูหดหู่
“ ถ้าเธอคิดแบบนั้น ชั้นก็จะไม่ยุ่ง “ เขารีบลุกขั้นแล้วออกตัววิ่งไปทันทีโดยไม่รอหญิงสาว
“ อะ “ เธอมองตามแผ่นหลังของเขาที่วิ่งออกไปได้ไกลมากแล้วก่อนจะทรุดนั่งอยู่ที่เดิม
“ อิจิโกะ เจ้าจะรู้บ้างไหม ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากน่ะ ยามเจ้าแสดงสีหน้าเฉกเช่นนี้ออกมา รู้ไหม ว่าข้าเจ็บปวดมากแค่ไหน ที่เจ้าเป็นแบบนี้ “
“เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของชั้นเลย
ลูเคีย “
“ทั้งๆที่ชั้นอยากจะช่วยเธอแท้ ๆ“
“อยากจะปกป้องเธอไม่ให้เจอกับเรื่องแบบนี้แล้วแท้ๆ “
“ทำไมเธอไม่รับน้ำใจของชั้นบ้างเลย “
ร่างสูงคิดแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนกระทั้งเขาวิ่งมาได้ไกลแล้วก็ได้หยุดวิ่งแล้วเปลี่ยนเป็นเดินแทน เขาเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย เดินไปไม่มองทาง เขาเดินอย่างเหม่อลอย ทำไมกันน่ะ เขาห่วงเธอมาก กลัวว่าเธอจะต้องไปเสี่ยงตายเพื่อใครต่อใคร ถึงรู้ว่าเธอก็เป็นยมทูต แต่ใจของชายหนุ่มกลับมองว่าลูเคียเป็นเพียงหญิงสาวที่ดูบอบบางเท่านั้นเอง
“ เหนื่อยจริงๆเลย วิ่งมาตั้งไกล “ อิจิโกะบ่นกับตนเองเบาพลางสังเกตไปรอบๆ ที่นี่เป็นที่ๆเขาคุ้นเคยมาก ทั้งตัวตึกที่ตั้งเรียงรายเป็นแถว แถมมีสนามเด็กเล่นอยู่ไม่ไกลอีกด้วย
“ ไปนั่งเล่นก่อนดีกว่า “ เขาเดินไปยังสนามเด็กเล่น พลางมองหาที่นั่งที่พอจะมีได้บ้าง ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจที่จะนั่งตรงชิงช้าที่ว่างอยู่
ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เย็นเข้าไปทุกขณะ ทำให้สถานที่แห่งนี้ที่เขามานั่งได้ไม่นานเริ่มมีเด็กน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่เหลือเด็กเลยสักคน ทิ้งให้ร่างสูงผมส้มนั่งอยู่ที่ชิงช้าตามลำพัง ซึ่งทำให้เขารู้สึกพอใจมากที่จะได้นั่งเงียบและมีความเป็นส่วนตัว
“ ที่นี่
เราจำได้ดีเลย “
ย้อนไปเมื่อสมัยเขาเด็กๆตอนหกขวบเศษ เขายังมีแม่อยู่ แม่ที่ใจดีและน่ารักเหมือนนางฟ้าซ่ะจนคนอื่นๆอิจฉา แต่ก็ทำให้เขามีความสุขไม่น้อยที่ได้มีแม่อย่างนี้ จำได้ว่าหลังจากเลิกเรียนเทควันโดแม่ก็พามาที่นี่ มานั่งที่ชิงช้าตรงนี้ โดยมีเพื่อนเด็กตัวเล็กร่ายล้อมอยู่เต็มไปหมด มันช่างสนุกเหลือเกิน แต่ว่าไม่มีอีกแล้ว รอยยิ้มอันอ่อนโยนของแม่นับจากวันนั้น
อิจิโกะนั่งถอดถอนใจอยู่คนเดียวจนเริ่มจะค่ำ เขาดูไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกไปจากตรงนี้ เขาอยากอยู่ที่นี่นานๆ ไม่อยากกลับไปเจอลูเคียในสภาพแบบนี้ก่อน
“ อิจิโกะ
เจ้างั่ง “ เสียงที่ฟังดูอ่อนหวานป่นเหนื่อยเล็กน้อยดังขึ้นมาในโสนประสาทของเขา ใช่แล้ว เสียงของยัยนั้น
ร่างบางของหญิงสาวผมซอยสีดำวิ่งมาตรงหน้าชายหนุ่ม พลางหอบน้อยๆด้วยความเหนื่อย ก่อนจะเอ่ยต่อว่าเขา
“ เจ้าบ้า..ข้ากลับไปที่บ้านไม่เห็นเจ้า นึกว่าจะหายตัวไปไหนซ่ะแล้ว ที่แท้มาอยู่ที่นี่เอง “ ลูเคียบ่นงุมงำใส่อิจิโกะ
“ แล้วเธอจะตามหาฉันทำไมล่ะ เธอน่าจะกลับบ้านไปนอนได้แล้ว “
“ ถ้าไม่ติดว่าข้าเป็นห่วงเจ้ากลัวว่าเจ้าจะไปทำตนเองเป็นไรไปก่อน ข้าคงไม่ตามหาหรอก “
“ อะ
.เออ ช่างเถอะ วิ่งมาซ่ะไกล นั่งก่อนสิ “ ชายหนุ่มหน้าแดงเล็กน้อยพลางตบที่นั่งข้างๆเพื่อให้หญิงสาวนั่ง
เธอนั่งลงข้างเขาอย่างไม่คิดอะไรมาก พลางมองรอบๆสนามเด็กเล่นเหมือนจะสังเกตอะไรซ่ะอย่าง ก่อนจะเอ่ยถามอิจิโกะที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ นี่ สถานที่นี่ ให้เด็กเข้ามาเล่นกันเหรอ “
“ อืม เด็กๆเขาชอบกันมากเพราะมีของเล่นมากมาย “ เขาตอบกลับไปพลางหันไปมองหน้าเธอ
“ ดีจังเลยน่ะ ข้าสมัยเด็กๆน่ะ ไม่เคยได้เล่นของพวกนี้หรอก ของแบบนี้สมัยใหม่เกิน อย่างข้าน่ะตามไม่ทันหรอก “ หญิงสาวพูดเสียงเบาจนแทบจะกลืนหายไปกลับสายลม
“ อยากจะลองตามทันดูไหม “ เขาเอ่ยถามเธอ ร่างบางหันมามองร่างสูงด้วยความสงสัย จนเขาต้องเอ่ยต่อ “ ชั้นหมายถึง อยากลองเล่นดูไหม “
“ จะบ้าเหรอ
ข้าอายุปูนนี้แล้ว ยังจะมาเล่นของเด็กเล่นอีก “
“ ไม่เห็นเป็นไรเลยนิ งั้นเอาแบบที่คนโตๆเค้าเล่นกันได้ เธอนั่งเล่นชิงช้าก็แล้วกัน
“ แล้วมันเล่นยังไงเล่า “
“ ก็แบบว่า
“ อิจิโกะไม่เอ่ยต่อให้จบ แต่กลับลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมไปด้านหลังหญิงสาวที่กำลังนั่งชิงช้าอยู่ด้วยความงุนงง ก่อนจะค่อยๆจับเชือกขึงแล้วออกแรงแกว่งไปเบาๆ ร่างบางดูลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ เขาสังเกตเห็นเธอว่ามีรอยยิ้มอยู่เล็กๆประดับอยู่
“ ชอบไหม “ เขาถามหญิงสาวสั้นๆง่ายๆได้ใจความ
“ อืม “ เธอไม่ตอบมาก ก่อนจะนั่งอยู่นิ่งๆแล้วจับเชือกไว้ ปล่อยให้เขาแกว่งมันต่อไป ราวกลับจะไม่มีวันสิ้นสุด
จนกระทั่งผ่านไปหลายสิบนาทีเขาก็หยุดลงแล้วมานั่งข้างๆเธอแทน เขาเหลือบมองเธอที่ดูท่าทางตื่นเต้นอย่างมากด้วยความรู้สึกที่ดีใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่สติจะเริ่มเบลอ เขามองหญิงสาวได้ชัดเจนที่สุดมากกว่าวันไหนๆ ใบหน้าของเธอดูเปล่งประกายอย่างมากในยามค่ำคืน ผิวพรรณที่ขาวบวกกับริมฝีปากอวบอิ่มได้รูปขับให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่น่าหลงใหล หัวใจของชายหนุ่มเต้นกระส่ำกระส่ายไม่เป็นจังหวะ ดูเหมือนเธอก็รู้เช่นกันว่าคนข้างกายกำลังมองเธออยู่ ลูเคียหันไปมองร่างสูงอย่างช้า เมื่อสัมผัสได้ว่า เขาเริ่มเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ
ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันอย่างแผ่วเบา หญิงสาวหลับตาพริ้มเหมือนหลงใหลไปกับรสจูบ อิจิโกะดูเหมือนคนที่เริ่มขาดสติ เขาประคองหน้าของเธอไว้ไม่ให้ขยับไปไหน พลางเริ่มลุกไล้ไปในช่องปากของเธอเพื่อดูดดื่มความหวานที่ส่งผ่านออกมา เนิ่นนาน ผ่านไปหลายสิบวินาทีก่อนที่ทั้งสองจะรู้สึกตัว ชายหนุ่มรีบผละออกมาก่อนด้วยใบหน้าที่แดงจัด ลูเคียเองก็ไม่แพ้เช่นกัน ใบหน้าหวานที่เคยขาวนวลเริ่มมีสีแดงผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะหันหน้าไปอีกด้านด้วยไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าของตนเองในเวลานี้
“ ขะ
ขอโทษน่ะ ลูเคีย ทะ
ที่ชั้น “ ชายหนุ่มพูดตะกุกตะกักอย่างจับความหมายของคำพูดเหล่านั้นไม่ได้
“ ขะ..ข้าเองก็
ขอโทษเหมือนกันที่
.”
“ ละ..ลูเคีย เรากลับบ้านกันเถอะ “ เขาไม่รอฟังสิ่งที่หญิงสาวจะพูดต่อ รีบลุกขึ้นจากชิงช้า พลางเอื้อมมือไปให้เธอ เพื่อให้เธอลุกขึ้นโดยไม่หันมามอง
ลูเคียจับมือเขาอย่างช้าๆพลางยันตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนจะออกตัวเดินตามชายหนุ่มเพื่อกลับที่หมาย
ไม่แน่น่ะ บางทีเธอเองก็อาจจะรับรู้สิ่งนั้นจากที่นี่ได้
บางที่ เส้นแบ่งระหว่างยมทูตกับมนุษย์จะหายไปก็ได้น่ะ
ความรักน่ะ ห้ามกันไม่ได้หรอก
To be continued
ขอโทดน่ะคร๊ที่มาอัพช้า
ช่วงนี้ถึงจะปิดเทอมแล้วแต่ก็ขี้เกียจ ( ล้อเล่น )
จะมาอัพให้เร็วที่สุดน่ะค่ะ
เม้นกันด้วยเน้อ ^ ^
ความคิดเห็น