ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality of death เรียลลิตี้เกมท้าตาย (ปิดรับสมัคร)

    ลำดับตอนที่ #4 : 55%:ตอนที่ 2 ห้องสมุดกับความลับในหนังสือทั้งเจ็ด ...

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 56


     


































    CHAPTER 2

     





     ตอนที่ 2 ห้องสมุดกับความลับในหนังสือทั้งเจ็ด ...









                   “......”

     





     

    “......ยืนยันนะครับ ว่าไม่มีใครสละสิทธิ์?”

     




     

    “......”

     




     

    “......อ่า ไม่มีจริงๆสินะ งั้น ก็ขอเชิญผู้ร่วมเรียลลิตี้ทุกท่านพบกับความน่ากลัวของแดนนรกบนพื้นดิน สถานที่แห่งการแข่งขันเรียลลิตี้ปีที่ 1 แบบเป็นทางการ เรียลลิตี้ เกม ท้า ตาย....”

     




     

    “........”

     






     

    “....1....2...3....เริ่ม”

     






     

    เสียงสัญญาณที่ดังมาจากทั่วสารทิศทำให้ทุกคนตัดสินใจรีบวิ่งอาคารเรียน แต่โบรโอนี่ กลับตัดสินใจวิ่งไปทางพิธีกรที่กำลังรีบขึ้นรถเพื่อออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด เธอใช้มือเรียวรั้งข้อมือขาวของพิธีกรเอาไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจถามอะไรบางอย่างกับพิธีกร...

     





     

    “คำใบ้”

     







     

    “ฮะ?”

     







     

    “คำใบ้นะ มีอะไร บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” เธอตะโกนใส่พิธีกรอย่างเหลืออด เพราะเธอเองก็ต้องการที่จะรีบวิ่งขึ้นไปบนอาคารเช่นเดียวกัน และสาเหตุที่เธอตัดสินใจวิ่งมาเพื่อขอคำใบ้ก็เพราะเธอมั่นใจว่าเธอวิ่งเร็วมาก จึงไม่น่าจะมีผลอะไรนัก และเธอก็ต้องการอะไรบ้าง อย่างน้อยก็ จุดเริ่มต้น...

     







     

    “ปกติเวลาเธอหาข้อมูลที่โรงเรียนจากที่ไหน เธอก็หาที่นั้นแหละ อ้อ ระวังด้วยนะ คำเตือนมีอยู่ทุกห้องที่ทางเข้า ฉันไปก่อนหละ โชคดี”

     






     

    “อืม ขอบใจ”  เธอรีบวิ่งขึ้นอาคารเรียนตามคนอื่นไปด้วยความเร็วสูง เนื่องจากเธอเป็นคนที่วิ่งเร็วเหมือนที่เธอมั่นใจอยู่แล้วจึงสามารถตามคนอื่นๆไปทันได้อย่างไม่อยากมากนัก จึงไม่มีโอกาศที่จะเห็นพิธีกรยิ้มเบาๆ ก่อนจะพึมพัมอะไรบางอย่างที่ได้ยินเพียงตนเอง....

     






     

    “จุดเริ่มต้นมีให้เฉพาะคนที่ใฝ่หาเท่านั้น ถ้าผู้ร่วมเรียลลิตี้คนอื่นโชคดี ยัยนี้ก็อาจจะเอาข้อมูลพวกนี้ไปให้ อาเมน...”

     

     






     

    พิธีกรรีบขึ้นรถก่อนที่ประตูรถคันหรูจะปิดลง รถคันสวยค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากสถานที่โดยเริ่มจากความเร็วทั่วไปสู่ความเร็ว 180 ก.ม./ช.ม. ในขณะที่ไบรโอนี่ที่วิ่งตามเพื่อนๆทันแล้ว รีบตัดสันใจวิ่งไปขวางทางทุกคนไว้  ก่อนที่เธอจะรีบตะโกนเสียงดังเพื่อให้ทุกคนได้ยิน….

     





     

    “....นี่ ทุกคน...”

     









     

    ได้ผล เสียงเรียกของเธอทำให้ทุกคนหยุดการกระทำแล้วหันมามองได้อย่างไม่ยาก ซึ่งนั้นทำให้โบรโอนี่ยิ้มออก เธอกวักมือเรียกให้ทุกคนมารวมกันในจุดที่เธอยืนอยู่ ซึ่งนั้นก็คือบริเวณหน้าบันไดนั้นเอง

     








     

    “ฟังฉันนิดนึงนะ.... ปกติ ที่ๆทุกคนใช้หาข้อมูลในโรงเรียนนะ คือที่ไหนกันเหรอ”

     







     

    ทุกคนสงสัยมากว่าทำไมอยู่ในสถาณการณ์แบบนี้ไบรโอนี่ยังจะมาถามอะไรไร้สาระอยู่  แต่ด้วยความใจดีเป็นทุนเดิมของภพ จึงบอกตามสิ่งที่ตนคิดไป เพราะคิดว่าคงไม่เสียหายอะไรกับข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่เหมือนกับแบบสอบถามวิชา is ...

                   






    “เอิ่ม ถ้าของผมก็คงเป็นห้องคอมพิวเตอร์ครับ”  ภพตอบเสียงดังพลางยิ้มบางๆ

     






     

    “ของฉันก็คงจะเป็น...เอ่อ ที่ห้องเรียนหละมั้งค่ะ”  มีนาตอบเสียงแผ่วเพราะเธอเองไม่ค่อยมั่นใจในคำตอบของตัวเองสักเท่าไหร่

     





     

    “ทำไมฉันถึงคิดว่าเป็นห้องสมุดนะ”  เฮอร์ริน่าผู้มีทักษะการเดาที่ค่อนข้างยอดเยื่ยมพูดออกมาบ้าง ก่อนจะมองภพสลับกับมีนาไปมา เพราะเธอเองก็ไม่ค่อยมั่นใจคำตอบสักเท่าใดนัก

     





     

    “ฉันก็คิดว่าเป็นห้องสมุดเจ้าค่ะ” ยูโกะตอบบ้างก่อนจะหันไปยิ้มให้เฮอร์ริน่าเพื่อให้เฮอร์ริน่าเห็นว่ายังมีเธอที่คิดเหมือนกัน ทำให้เฮอร์ริน่ายิ้มออกมาบางๆ

     






     

    “ว่าแต่เธอนึกยังไงถึงถามคำถามข้อนี้กับพวกเราเหรอ” ฟรีเซียถามขึ้นมาก่อนจะมองโบรโอนี่ไม่วางตา

     






     

    “ไม่มีอะไรหรอก ...ฉันก็แค่คิดว่า พวกเราควรจะไปห้องสมุดนะ...”โบรโอนี่ตอบพลางยิ้มๆ ในขณะที่กานต์หันไปมองโบรโอนี่ก่อนที่จะรี่ตาเบาๆและเริ่มคำถาม

     






     

    “แล้วทำไมฉันถึงจะต้องเชื่อเธอ”

     






     

    “เชื่อฉันเถอะค่ะ คุณพิธีกรบอกฉันมาแบบนั้น”

     






     

    โบรโอนี่ยิ้มอีกครั้งเพื่อแสดงความจริงใจ ในขณะที่กานต์เองก็สถบออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเอ่ยถามต่อด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย

     






     

    “แล้วทำไมพิธีกรถึงบอกเธอ ... ที่สำคัญ แล้วเธอจะมาบอกพวกเราทำไม”

     







     

    “ฉันวิ่งไปถามเขาเองหละค่ะ .... แล้วที่ฉันบอกก็คงเพราะ....ก็ไม่รู้สิคะ ฉันเองก็แค่ไม่อยากเอาเปรียบใคร” โบรโอนี่ตอบตามที่เธอคิด

     






     

    “แม้แต่ในสถานการณ์แบบนี้นะเหรอ”

     







     

    “ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเอาเปรียบนิค่ะ เสียเวลามามากพอแล้ว เรามาหาห้องสมุดกันเถอะ”   โบรโอนี่ปิดบทสนทนาระหว่างเธอกับกานต์ไว้แค่นั้น ก่อนที่จะค่อยเดินขึ้นบนไดไป เพราะค่อนข้างเชื่อใจตัวเองว่าห้องสมุดไม่น่าจะอยู่ชั้นหนึ่ง ซึ่งก็ถือว่าถูก เพราะพอเธอขึ้นบันไดมาถึงชั้นสอง ตรงมุมกว้างๆก็มีห้องกระจกที่ถูกปิดไว้ด้วยม่านสุดหรู มีป้ายหินอ่อนสลักสวยงามวางไว้ด้านหน้าโดยมีตัวอักษรตัวใหญ่เห็นได้ชัดเขียนเอาไว้






     

    ห้องสมุด

     









     

    “เราเจอแล้วหนิ  ห้องสมุด”  มีนาตะโกนด้วยความดีใจ ในขณะที่ทุกคนค่อยๆเดินไปที่ด้านหน้าห้องสมุด ก่อนจะพบว่าด้านหน้าถัดจากป้ายหินอ่อนลงมาอีกนิด มีตัวอักษรอะไรเขียนเอาไว้อยู่ มันเป็นอักษรไทยปัจจุบันที่อ่านได้ไม่อยากนัก และมีความมน สีของมันคลับคล้ายว่าจะเรืองแสงได้ ทำให้ทุกคนไปสนใจที่มันได้ไม่ยากนัก....

     






     

    กฏการใช้ห้องสมุด : ซินเดอร์เลล่า  หนังสือทั้งคนแคระ กับข้อมูลของสิ่งที่หายไป

     








                   “เอ๊ะ นี่มันอะไรนะ” ฟรีเซียค่อนข้างงงไม่น้อยกับกฎแปลกประหลาด ในขณะที่ภพหันไปยิ้มบางๆก่อนที่จะพูดอะไรออกมา

     





     

    “คงเป็นคำใบ้ของกฎอีกทีนะครับ”

     







     

    “เอาเถอะๆ ยังไงเราก็ถึงห้องสมุดกันแล้ว ก็แยกย้ายกันแค่นี้แหละ เดี๋ยวผูกพันธ์กันมากถึงเวลาแย่งกุญแจจะเป็นเรื่อง...” กานต์พูดก่อนที่จะค่อยๆคิดหากฎที่สถานที่นี้ต้องการสื่อ ในขณะที่ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะการผูกพันธ์กันมากเกินไปก็ไม่ดีจริงๆอย่างที่กานต์พูดจริงๆนั้นแหละ...

     














    .
    .
    .





     

    เพราะคงไม่มีใครที่ฆ่าเพื่อนตัวเองได้ลงคอหรอกใช่ไหม?

     

     



     

     

    REALITY OF DEATH 10 %

      























     

    ร่างของภพที่พลันนึกอะไรออกค่อยๆเดินมาที่หน้าห้องสมุด สองมือค่อยๆพลักประตูเบาๆแต่ก็เรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี






    กึก







    เสียงของประตูบานเลื่อนที่ค่อยๆถูกไสล์ดออกช้าๆผิดกับหัวใจของภพที่เต้นเร็วระรัวเป็นจังหวะ ในขณะที่ทุกๆคนละตัวเองออกมาจากห้วงความคิดคอยมองภพแบบไม่ละสายตา ในขณะที่ประตูก็ค่อยๆเคลื่อนออกช้าๆ เผยให้เห็นภายในเป็นห้องสมุดที่ค่อนข้างร่วมกับสมัย มีเครื่องปรับอากาศเย็นๆที่แผ่ไอเบาหวิวตลอดเวลา หน้าต่างกระจกใสถูกปิดกั้นจากโลกภายนอกไว้ทุกบาน ในขณะที่ด้านหน้าริมซ้ายถัดจากประตูไม่มากนักก็มีตัวอักษรคล้ายคลึงกับคำใบ้ด้านหน้าหากแต่เขียนอะไรที่แต่ต่างกันออกไป...







    หายใจเข้าออกเป็นระวิงหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่นี้ไม่มีตัวละครทั้งเจ็ดดั่งสโนไวท์ หากแต่จำนวนหนังสือคนแคระนั้นกลับเป็นเรื่องราวสาวกล้าในเกมของเมืองทั้งสิบสอง บานกระจกจะกลับมาใช้งานอีกครั้งหลังจากไอพิษปกคลุมทุกอณุ AND LAST  ONE... LAST PAGE ’
     







    ภพยืนเกาศีษระมึนๆอยู่สักพัก ในขณะที่มีนาก็ค่อยๆเดินตามเข้ามาในห้อง ตามไปด้วยคนอื่นๆที่เหลืออยู่ และแล้วประตูของห้องสมุดก็ถูกปิดลงอีกครั้งโดยอัตโนมัติ...








    ปึง









    ภพรีบวิ่งไปข้างหลังเพื่อทดสอบประตู แต่บ้าหน่า...








    มันเปิดไม่ได้!











    ...ในขณะที่คนอื่นๆกำลังมองดูคำใบ้ ภพและกานต์เองก็ค่อยๆประติประต่อเรื่องราวออกมาในคนละมุมมอง....ในขณะที่คนอื่นๆก็เริ่มคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง ในขณะนั้นเอง... พวกผู้หญิงก็ค่อยๆเดินไปดูที่มุมหนังสือเจ้าหญิงแห่งดิสนี่ย์...









    พวกเธอคงคิดว่านี้จะอิงโลกของนิยายหละมั้ง แต่ไม่ ...นี้มันน่าจะเลวร้ายกว่านั้น










    กานต์คิดดังนั้นจึงรีบวิ่งไปที่โซนนิยายเก่าแก่ปรัมปรา ในขณะที่ภพยังคงนั่งอยู่ที่เดิม







    หนังสือจำนวนคนแคระงั้นเหรอ? หนังสือน่าจะมีเจ็ดเล่ม แต่ไม่....มันจะไม่ใช่เรื่องราวของสโนไวท์อย่างแน่นอน











    ภพคิดอย่างนั้น ในขณะที่พวกผู้หญิงยังคงค่อยๆหาซินเดอร์เลล่าทั้งที่มันหายากมาก...ยกเว้นก็แค่เพียงเฮอร์รินาที่คิดตั้งแต่แรกแล้วว่าซินเดอร์เล่ลานั้นหมายถึงอะไร?....









    ก็หมายถึงเที่ยงคืนยังไงหละ!












    ดูเหมือนภพเองก็จะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วเหมือน ในขณะที่กานต์ที่ค่อนข้างเอะใจกับภพที่มองอยู่แค่เพียงนาฬิกากับนั่งหลับตาใช้ความคิดนั้นทำไมถึงไม่ยอมเริ่มทำอะไรสักที....








    นาฬิกางั้นเหรอ? ตอนนี้ 16:01... เดี๋ยวนะ? ซินเดอร์เลล่า เราต้องออกไปจากที่นี้ก่อนเที้ยงคืนหรือเปล่า!’










    กานต์สันนิฐานเอาจากภพที่มองอยู่เพียงแค่นาฬิกา ทั้งที่ตอนแรกตนคิดว่าเป็นเรื่องของแม่เลี้ยงใจร้ายของเจ้าหญิงซินเดอร์เลล่า แต่คิดว่าตอนนี้มันคงจะไม่ใช่แล้วหละ...เพราะจากสถาณการณ์ก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวข้องกับแม่เลี้ยงใจร้ายตรงไหน...








    ในขณะนั้นเอง มีนาที่กำลังหาซินเดอร์เลล่าตามคนอื่นๆก็แทบจะร้องดีใจ แน่หละ... ก็ซินเดอร์เลล่ามันกำลังอยู่ที่ด้านหน้าของเธอแล้วในตอนนี้ แต่ทว่า ในขณะที่มือเรียวของเธอกำลังจะหยิบนั้น...







    กฎการเล่นเกมประการแรกที่ควรรู้...ไม่ต้องสนว่าใครมาก่อนมาหลัง









    มีนาที่อยู่ก็นึกถึงกฎข้อนี้ที่ใครสักคนเคยบอกมาก็ต้องแทบจะร้องไห้....เพราะมีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นกับเธอเมื่อสักครู่...








    มีคนหยิบหนังสิอตรงหน้าของเธอไปแล้ว!









    “ฉันไม่สนหรอกนะเจ้าค่ะว่าคุณเห็นก่อนหรือเปล่า แต่ฉันหยิบก่อน ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะเจ้าค่ะ”








    ยูโกะที่หยิบหนังสือตรงหน้าไปกล่าวขอโทษมีนาอยู่ด้วยสีหน้าเจื่อนๆ ในขณะที่มีนาเองก็นึกถึงกฎข้อต่อไปขึ้นมาทันที...








    กฎข้อที่สอง ไม่ว่าใครจะครอบครองสิ่งใดอยู่ แต่ถ้าคิดว่ามันจำเป็น...แย่ง!’










    มีนาที่คิดได้ดังนั้นจึงรีบคว้าข้อมือของยูโกะที่กำลังจะหนีไปอีกทางไว้ก่อนจะหยิบฉวยหนังสือในมือของยูโกะไปทันที ก่อนที่จะวิ่งหลบไปมุมประวัติศาสตร์ด้วยความเร็วสูง ในขณะที่เฮอร์ริน่าที่มองอยู่ตั้งแต่แรกก็ไม่ได้คิดจะช่วยหรือซ้ำเติมอะไร  แต่กับเบือนหน้าหนีไปอีกทางก่อนที่จะหาหนังสือที่น่าจะมีเค้าโครงเป็นไปได้อยู่บ้างอย่าง...สโนไวท์








    ด้านกานต์เองก็กำลังหาสโนไวท์อยู่เช่นเดียวกันหากแต่กลับเลือกที่จะมาในอีกโซน แน่นอนหละ...เพราะสโนไวท์ที่เขากำลังหาอยู่มันจะไม่ใช่เล่มเดียวกับเฮอร์ริน่าอย่างแน่นอน....









    เพราะเฮอร์ริน่ากำลังจะหาในรูปของนิทานก่อนนอน นิทานที่ทั้งแสนหวานและชวนฝัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เนื้อเรื่องนั้นดำเนินมันล้วนเป็นแต่เป็นเรื่องน่าอภิรมย์ยินดี...แต่สำหรับกานต์ เขากำลังหาในรูปแบบของนิทานอันตราย นิทานที่ดุร้ายและป่าเถือน นิทานรสเฝื่อนที่หากคุณได้หลงเข้าไปอ่านมันจะไม่ลืมไปจนวันตาย....









    นิทานเรื่องสโนไวท์รูปแบบของสองพี่น้องตระกูลกริม!









    ในขณะนั้นเอง ฟรีเซียเองที่นึกอะไรได้ก็ปลีกตัวไปอีกทางที่มุมวิทยาศาสตร์ ในขณะที่โบรโอนี่เองเองก็มองยูโกะที่กำลังนั่งหน้าเอือมๆด้วยความสงสาร แต่วินาทีนั้นถ้าเธอเป็นมีนา เธอเองก็คงจะหยิบฉวยไปเหมือนกัน เพียงแค่เธอมาช้าไป...








    เพราะชีวิตสำคัญกว่ามิตรภาพเพียงวันสองวันของพวกเขาเสมอ...







    ผ่านไปหนึ่งช.ม.  //17:00//







    มีนาไล่เปิดอ่านซินเดอร์เลล่าอยู่ซ้ำๆเป็นสิบๆรอบ พลางจับผิดภาพ ในขณะที่ฟรีเซียก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับคนแคระว่ามีลักษณะเป็นแบบนี้เพราะเกิดอะไรในโครโมโซม ในขณะที่กานต์และเฮอร์ริน่าก็พึ่งเจอสโนไวท์ในคนละรูปแบบของตนไปเมื่อสักครู่ ในขณะที่ภพยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นเดิม....







    และโบรโอนี่เองก็นึกอะไรออกเมื่อสักครู่!










    เธอวิ่งไปที่บริเวณสัตว์ในโลกแห่งนิยาย และแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอไปหาสัตว์ชนิดใด....ถ้าไม่ใช่คนแคระ!











    ในขณะที่ยูโกะเองก็ไม่นิ่งเฉย เธอพยายามคิดอะไรที่เกี่ยวกับซินเดอร์เลล่าเพราะยังไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร...และสิ่งที่เธอคิดจะหาข้อมูลต่อไปก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องในซินเดอร์เลล่า เรื่องที่ทำให้เจ้าชาย...ได้พบรักกับเจ้าหญิง...










    ...อย่างเรื่องรองเท้าแก้วยังไงหละ!













    ภพเองที่นั่งมองทุกคนอยู่จากระยะไกลก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ เพราะสิ่งที่ทุกคนหา ถ้าหากไม่ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับคนแคระ สโนไวท์ ก็คงจะเป็นซินเดอร์เลล่า....








    ซึ่งเขารู้ดีว่าไม่ใช่...แต่เขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน ว่าเขาควรจะเริ่มหาอะไร...








    แต่คำใบ้ประเด็นสำคัญ คุณก็รู้ใช่ไหม? ว่ามันคืออะไร ...


























    .........ถ้ามันไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงในเกมแห่งเมืองทั้งสิบสอง!

     







     

    แต่อย่างไรก็ตาม...ดูเหมือนจะยังไม่มีใครพบข้อผิดปกติเกี่ยวกับห้องสมุดแห่งนี้มากเท่าที่ควร....





     

    REALITY OF DEAT 50%



























     

    ผ่านไปอีก 30 นาที ll 17:30 ll เวลาห้องมุด

     

     











     

                    ตอนนี้มีนาผละออกจากซินเดอร์เลล่าเพื่อไปหาเรื่องราวเกี่ยวกับคนแคระในขณะที่ยูโกะเองก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับคนแคระเช่นกัน โดยคนที่เหลือก็พากันอ่านเรื่องราวที่ตนหาซ้ำมาและเริ่มกลับมานั่งคิดทบทวนเกี่ยวกับคำใบ้ใหม่อีกครั้ง ในขณะที่ห้องสมุดที่จากเดิมเงียบเฉียบก็เริ่มมีเสียงจามของแต่ละคนดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปาก พร้อมกับเสียงของท้องร้องที่ดังขึ้นมาเนื่องจากใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว...









                    ว่าแต่...อะไรคือะไรคือสาเหตุของการจามของแต่ละคนกันหละ?










                    ดูเหมือนทุกคนจะข้ามการใส่ใจให้กับคำใบ้หลายๆข้อมากเกินไป....และดูเหมือนจะไม่ใส่ใจสิ่งอื่นนอกเหนือจากคำใบ้พวกนี้ด้วย....จนลืมไปว่า คนเราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากมองโลกเพียงด้านเดียว










                    ตอนนี้ภายนอกพระอาทิตย์ตกดินไปได้นานเกือบช.ม.แล้ว หากแต่เวลาภายในกลับเบี่ยงเบนไปช้ากว่าความจริง  ในขณะที่ทุกคนยังมัวแต่ใส่ใจประเด็นหลักๆจนลืมประเด็นอื่นๆที่สำคัญต่อชีวิตพวกเขามากเช่นกันไป ทำให้ขาดการเรียบเรียงข้อมูล ทั้งจากสิ่งที่ได้รับมา(คำใบ้) และสิ่งที่ต้องไขว่คว้าเอง(ปัจจุบัน : LOADING )










                    ตอนนนี้ประตูกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหากแต่ยังไม่มีใครรับรู้ถึงการกลับมาของมัน เพราะมัวแต่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นเพียงตัวช่วยจนลืมสิ่งสำคัญเบื้องต้นไปหลายๆอย่าง










                    .....ตอนนี้ภพให้ความสนใจกับหนังที่กำลังจะเข้าฉายในช่วงปีนี้หลายๆเรื่อง เช่น the counselor , evidence , catching fire  และ the hobbit 2 เป็นต้น...











                    ถามว่าทำไมนะเหรอ? ก็เพราะตอนนี้มีเรื่องของความน่าจะเป็นหลายเรื่องผุดเข้ามาในหัวสมองของภพเกี่ยวกับหนังเรื่องๆหนึ่งยังไงหละ!










                    ...มาพูดถึง catching fire กันหน่อยดีกว่า มันก็คือสุดยอดหนังเรื่องหนึ่งที่สร้างขึ้นจากนวนิยายแสนสนุก....ซึ่งมันเป็นภาคต่อของเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นตัวแทนของเขตสิบสองที่จะต้องเข้าลงแข่งเกมล่าชีวิตกับเขตที่เหลือตามคำสั่งของเมืองหลวงแทนน้องสาวของตนที่ได้รับเลือก...









                    ตอนนี้คุณนึกอะไรในคำใบ้เพิ่มออกมาหรือเปล่า?









                    แล้วคุณรู้ไหมว่าหนังสือชุดนี้มีกี่เล่ม? แน่นอน ว่ามันจะไม่ใช่จำนวนคนแคระอย่างที่ทุกคนนึกถึง เพราะมันอาจจะมากกว่านั้น หรือน้อยกว่านั้น...








                    แล้วสาเหตุของการจามของแต่ละคนหละ? ถ้าคุณยังนึกไม่ออกละก็  ลองอ่านคำใบ้อีกทีดูสิ  ...บางที เกมที่พวกเขาคิดว่าแค่อยู่ในห้อสมุดเพื่อหาคำใบ้แล้วออกไปก่อนเที่ยงคืนนะ มันไม่ใช่แค่นั้น ...เพราะบางที พิษที่มากับอากาศมันก็เดินเร็วกว่าเวลาเป็นล้านเท่า...








                    ดูเหมือนว่าชะตาชีวิตของพวกเขาคงจะเหลืออีกแค่ไม่ถึงสองชั่วโมงถ้ายังคงจะอยู่ห้องๆนี้ต่อไป...










                    แต่การออกไปจากห้องๆนี้ในยามวิกาลตามเวลาจริงก็ไม่ใช้เรื่องที่คู่ควร...









                    เพราะอาจจะมีอสูรร้าย รอคอยพวกเขาให้รีบหาคำใบ้ให้เร็วที่สุดสำหรับการหาและการสร้างกุญแจ... เพื่อการออกไปจากดินแดนนรกนี้ ก่อนที่จะอดตาย หรือ...โดนอะไรทำให้ตาย

































                    และบางที อาจจะเป็นการ...ฆ่าตัวตาย



     


    REALITY OF DEATH 55 %

     














    TALK : เหมือน 10 % ของไรท์มันสั้นลงเรื่อยๆแปลกๆแหะ =_____=





     

    ทุกคนงงเนื้อเรื่องไหม? ไรท์งง 5555555555555555555555555555




     

    การบรรยายและพล็อตมันแปลกๆแหะ เอาเป็นว่าไว้ลงจนจบแล้วจะลองรีไรท์ (ไม่ดีกว่า ขี้เกียจ 555555555555)

     


     

    .___________. ขอบคุณคอมเม้นท์ของทุกๆท่านมากๆนะคะ

     


     

    เดี๋ยวพอขึ้นตอนที่สองเนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็งงๆคำใบ้กับการเฉลยที่ไม่ค่อยจะเป็นเหตุเป็นผลเท่าไหร่ไปก่อนแล้วกัน (พอดีไรท์ไม่ฉลาด? -_______-)

     


     

    ขอบคุณที่ยังติดตาม มีอะไรติได้นะคะ จะรีบกลับมาแก้ไขอย่างด่วนๆ

     



     

    พรุ่งนี้ไรท์ไปงานหนังสือ ใครไปเดี๋ยวเจอกันค่ะ 555555555555555555555

     





     

    ขอบคุณค่ะ :) XD

     

     

     











     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×