ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มนตราไอยคุปต์

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 51


             เงียบสงัด วังเวง..  


           
    บรรยากาศยามค่ำคืนจะเป็นแบบนี้แทบทุกสถานที่ นับแต่จักรวาลได้ให้กำเนิดดาวนพเคราะห์นามว่าโลก ขึ้นมา อันเป็นเวลาของทุกสรรพสิ่งควรจะหลับใหล ยกเว้นแต่สิ่งมีชีวิตที่จำต้องดำรงชีพยามราตรี อาจต้องมีเสียงเล็กเสียงน้อยรบกวนชีวิตที่ต้องการพักผ่อน

       
      
          บุรุษผิวคร้าม ร่างสูงยังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์  มือยังคงสาละวนกับคีย์บอร์ดเพิ่มเติมตัดทอนบางส่วนในอีเมล์ 
     ก่อนจะกดส่งออกไป การิมกำลังตอบจดหมายดร.เชลลิสรับข้อเสนอที่ต่างฝ่ายต่างตกลงต่อกัน   

     

                     พรุ่งนี้เราพบกัน ผมจะรอติดต่อดร.

                                                            การิม ไอวาส

     

           เสร็จเสียทีชายหนุ่มยืนยืดตัวตรง เหยียดแขนที่กล้ามเป็นมัดเหนือศรีษะ เหลือบมองเวลาจากนาฬิกาดิจิตอลที่อยู่บนโต๊ะทำงาน เข็มสั้นใกล้เข้าเลขสองแล้ว  นี่เขานั่งตรวจรายงานและอ่านจดหมายเพลินจนลืมเวลาที่ควรพักผ่อน


             
    นอนดีกว่า  ไว้รอพรุ่งนี้ น่าจะได้ความ  เขาบอกกับตนเองแล้วจัดการปิดเจ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว  กดสวิทต์ไฟแล้วเดินออกจากห้องทำงานเพื่อกลับห้องนอน  อุณหภูมิค่อนข้างลดต่ำลงกว่าภายในห้องเล็กน้อย แต่กำลังเย็นสบาย  ระหว่างเดินผ่านประตูกระจกที่มองออกไปเห็นทิวทัศน์ภายนอก  เพียงแวบหนึ่งรู้สึกถึงอาการชาวาบจากสันหลังถึงต้นคอ 


             
    โอยเขาทำเสียงโอดเล็กน้อย มือจับที่ต้นคอ ถ้าจะนั่งทำงานนานเกินไป แต่เอ๊ะแปลก 

         ก็แปลกอย่างความคิดที่บอกมา ทำงานแบบนี้มาตั้งไม่รู้กี่ปี ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่างอายุคนก็มากแล้ว  ร่างกายย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้างเป็นธรรมดา   

      
             
    ใคร!!” เขาตะโกนออกไปในความเงียบ เมื่อสายตาแลเห็นชายผ้าของใครสักคนผ่านจากมุมหนึ่งของบานประตู  


            
    ขโมย   การิมตั้งข้อสงสัยเอาไว้ก่อน    เวลานี้คนงานในบ้านของตนคงไม่มีใครอุตริออกมาเดินเพ่นพ่าน แต่ก็อีกนั่น ทำไมถึงไม่มีใครได้ยินเสียงจากผู้บุกรุกบ้างหรืออย่างไร  เขารีบก้าวพรวดออกไปอย่างรวดเร็ว กระชากเลื่อนเปิดบานประตูแต่ทว่าพบเพียงความว่างเปล่า


            
    อะไรจะตีนไวชะมัดเขาสอดส่ายสายตากวาดหาผู้ไม่ได้รับเชิญ เผื่อบางทีมันอาจจะหลบซ่อนมุมใดมุมหนึ่ง  แล้วเขาก็เห็นร่างหนึ่งเป็นเงาตะคุ่มจากหางตา  เคลื่อนไหวไปทางสระว่ายน้ำ


        
    จับได้น่าดู  คนคิดรีบเดินตามมันไป   แต่พอไปถึงที่นั่น กลับพบเพียงสระน้ำที่ไร้วี่แววว่าจะมีใครอยู่   


          
    ไม่น่าจะหนีไปเร็วแบบนี้ทั้งฉงนและไม่เข้าใจ  เมื่อสักครู่แน่ใจว่าตนไม่ได้ตาฝาด ขณะกำลังใช้ความคิด  หูได้ยินเสียงคล้ายน้ำกระเพื่อมไหว เขาหันขวับมาอีกทาง มองไปยังใจกลางสระว่ายน้ำ ระลอกคลื่นก่อตัวเป็นวงกว้างขึ้นมาได้เอง  ผุดขยายอย่างน่ากลัวเหมือนน้ำในหม้อต้มที่กำลังเดือดพล่าน  การิมถอยหลังครูด ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันไม่ทันตั้งตัว   น้ำใสกลางสระจับตัวเป็นสายยาวหมุนเป็นเกลียวขึ้นสูงแล้วพุ่งตรงมาที่การิม


          
    เฮ้ย อะไรว่ะ  สิ้นเสียงอุทาน  เกลียวน้ำวนพันรอบร่างเขาละม้ายมือใหญ่ยักษ์โอบรัดตัว แล้วร่างของเขาทั้งร่างถูกกระชากลงไปในสระน้ำ การิมแม้ตกใจแต่ยังมีสติ  เขาพยายามพาตัวทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อหาอากาศหายใจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้  ตัวเขากำลังถูกกอดรัดจากสิ่งที่มองไม่เห็นพาตัวดำดิ่งจมลงไปข้างใต้สระ สมองที่ขาดออกซิเจนเริ่มสร้างความเจ็บปวดทุรนทุรายมาให้  นัยตาเหลือกลานด้วยความหวาดกลัว  แล้วเขาก็เห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกว่าความตาย


            
    ..ร่างของมนุษย์ผู้ชายท่อนบนเปลือยเปล่า  จมอยู่ใต้น้ำพร้อมกับเขา อยู่ห่างกันแค่คืบ เพ่งเห็นในความสลัวลาง ๆ มันทั้งนิ่งสนิทและซีดเผือด  แต่สายตาที่มองมายังเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอาฆาต เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรกัน   ระหว่างผีหรือคน..

     

    ช่วยด้วย.. ช่วยด้วย... ใครก็ได้ช่วยที  เขากำลังจะขาดสติไปแล้ว  ปากที่พะงาบๆ ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา เพราะน้ำได้เข้าไปแทนที่จนหมด อีกไม่ช้านานเขาคงหมดลมหายใจ

     

     นายการิม นายการิมเสียงปลุกทำให้ศีรษะที่ฟุบหลับคาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เปิดค้างเอาไว้  ค่อยๆเงยขึ้นมา  การิมงัวเงียลืมตาเห็นอาราก๊อกคนรับใช้ประจำตัวมองผู้เป็นนายอย่างเป็นห่วง  


       
     ฝันร้าย..ฝันร้ายเท่านั้น แต่เหมือนจริงมากจนคิดว่าตนเองจะลืมหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ


       
    ผมเห็นนายไม่อยู่ในห้องนอน จึงมาตาม นายทำงานทั้งคืนหรือครับ


      
    เปล่า ฉัน เอ่อใช่เขาก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน ว่าแต่นี่เวลาอะไร


     
    จะใกล้เวลาอาหารเช้าแล้วครับนาย อาหารตั้งโต๊ะรอนายแล้วครับ


     
    จริงสิ มิน่าถึงรู้สึกหิว  ขอบใจอาราก๊อก  เดี๋ยวฉันอาบน้ำก่อนแล้วจะลงไป


     
    ครับ นายแล้ว จะให้ขนของขึ้นรถไปสนามบินตอนไหน


      
    ประมาณสิบนาฬิกา ให้ทันก่อนขึ้นเครื่อง ทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม


      
    ครับนาย  อาราก็อกก้มหน้ารับไปด้วย ต่อจากนั้นคนรับใช้ของเขาก็ออกไปจากห้อง การิมลุกออกจากโต๊ะทำงานหลังจากปิดเครื่องคอมพิวเตอร์  กำลังจะก้าวออกไปจากห้อง   สายตาไปสะดุดกล่องไม้ที่วางบนโต๊ะกลมตัวเล็กที่ตั้งระหว่างกลางเก้าอี้บุนวม เขาเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมนั่งลงหยิบกล่องมาเปิดดู


             
    เครื่องรางมีลักษณะเป็นรูปกระดูกสันหลัง
    เรียกว่า เจ๊ดเป็นเครื่องรางสัญลักษณ์ของเทพเจ้าโอซิริส เทพเจ้าองค์สำคัญของอียิปต์โบราณ  เขาพอรู้ความหมายมาบ้างจากหนังสือในหอสมุดที่ได้ค้นคว้ามา ซึ่งหมายความถึง "ความมั่นคงแข็งแกร่ง" ขนาดของเจ๊ดที่ทำขึ้นแตกต่างกันไปตามยุคสมัยของฟาโรห์แต่ละพระองค์ที่ปกครองอาณาจักรไอยคุปต์


      
    สิ่งนี้หรือเปล่าที่ทำให้เราฝันประหลาดน่ากลัวเมื่อคืนนี้


      
    เขาปิดกล่อง วางลงที่เดิม  จำได้ว่าตอนที่นำเข้ามาอวดให้อาราก๊อกดู  คนรับใช้ส่วนตัวของเขาถึงกับเข่าอ่อน  เผลอร้องผวาออกมา


             
    นายครับ นายไม่ควรนำสิ่งนี้ออกมาจากหลุมศพมัมมี่  ไม่ควรแตะต้องของทุกชิ้นที่มาที่นั่น จะนำความโชคร้ายมาสู่นายหากมีคำสาป


         
    การิมหัวเราะขันความหัวโบราณของอาราก๊อก ก็แค่เครื่องรางโบราณธรรมดาไม่น่าจะมีอะไร ถ้าหากเป็นพระศพหรือผ้าพันพระศพก็ว่าไปอย่าง


          
    เหลวไหลน่า อาราก๊อก

     

    จวบจนนำมาไว้กับตัวเกือบสองอาทิตย์ ก็ไม่มีวี่แววจะเกิดอะไรกับตัวเขาอย่างที่อาราก๊อกบอกมา จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ ชายหนุ่มทบทวนความฝันที่ทั้งแปลกประหลาดและน่าขนลุกขนพอง

                      หรือจะจริง  ถ้าใช่ ก็ควรอยู่ ที่จะนำไปไว้กับเจ้าของเดิม

     

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×