ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [IdentityV] Naib x Jack

    ลำดับตอนที่ #6 : อาการประหม่า(แก้ไขคำผิด1)

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 62


    7:05
    ก๊อกๆๆ
    ประตูถูกเปิดแทบจะทันทีที่ผมเคาะ แจ๊คดูเหมือนไม่ได้นอนเลย ให้ตายสิผมไม่ได้บอกเขาซะด้วยว่าเมื่อคืนผมไม่อยู่เพราะต้องไปร่วมเกมบ้านั่นเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะรอดกลับมา หลังออกจากเกมนั่นได้เมื่อคืนผมก็นอนเฝ้ามาร์ธ่าที่โรงพยาบาล แต่ก็ดีที่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดก็ถูกเปลี่ยนเรียบร้อย เขาไม่มีทางรู้แน่นอน
    "ไง"
    "นายหายไปไหนมา?"
    ".....เรื่องส่วนตัว"
    "ทำไมถึงไม่บอกก่อนล่ะว่าจะไม่อยู่"
    "....."
    เมื่อผมไม่ตอบ แจ๊คถอนหายใจก่อนจะดึงผมเข้าบ้าน ก็ดีเหมือนกันที่ไม่ต้องยืนคุยกันหน้าประตู
    "ฉันจะรู้ไม่ได้เลยสินะ"
    "โอเคฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกนาย แต่ไม่มีอะไรที่นายต้องเป็นห่วงหรอก"
    "....ฉันมันน่ารำคาญสินะ"
    "ปะ...เปล่า"
    ผมรีบปฏิเสธก่อนจะทำให้คนตรงหน้ารู้สึกแย่ไปมากกว่านี้
    "วันหลังถ้าจะหายไปบอกด้วยล่ะ....ถือว่าฉันขอ"
    เผลอทำหมอนี่เป็นห่วงซะได้....ผมเข้าสวมกอดคนตัวสูงเพื่อจะปลอบโยนเขา แจ๊คเองก็กอดผมแน่นไม่ต่างกัน หมอนี่โคตรติ๋มเลย
    "ขอโทษที่ทำนายกังวลนะ"





    ขอบตาเขาดำอย่างกับไม่ได้นอน จะไปว่าเขาก็ไม่ได้ผมเองก็ยังไม่ได้นอนเหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมทานอาหารบ้านเขาซึ่งแจ๊คทำอาหารเป็นเพราะอยู่ตัวคนเดียว ส่วนผมครั้งสุดท้ายที่ทำอาหารผมทำไฟไหม้แล้วก็โดนแม่ด่า=_=^
    และผมกินเสร็จก่อนเขาอีกแล้ว...
    "นายเคยแต่งงานมาก่อนรึเปล่า?"
    เมื่อบรรยากาศมันเงียบผมเริ่มบทสนทนากับคนตรงหน้าที่กินอยู่ เขาตอบโดยการส่ายหัวทันที
    "ฉันดูเหมือนพ่อหม้ายเมียตายรึไง?"
    แจ๊คพูดติดตลกแต่ขอโทษ ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ผมจึงผงกหัวแทนคำตอบ
    "เอาจริงดิ?"
    "ก็นายทั้งมีฐานะ มีชื่อเสียง ทำอาหารก็อร่อย มารยาทงามแถมอายุนายก็ขนาดนี้แล้ว"
    สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหลายแหล่คือปัจจัยที่จะมีคนมาเข้าหาเขา แจ๊คส่ายหัวยิ้มๆ
    "ทั้งหมดมันฟังดูเหมือนชมนะแต่...นายจะบอกว่าฉันแก่เหรอ?"
    "ก็อายุนายกำลังจะขึ้นเลข4
    "หึ ก็รอแต่งกับนายล่ะมั้ง:)"
    เขาว่าพลางยักคิ้วอย่างมั่นใจ หมอนี่เป็นผู้ชายคนแรกเลยที่ทำอะไรแบบนี้แล้วผมไม่ขยะแขยง อันที่จริง ผมออกจะประหม่าซะด้วยซ้ำ•\\\•
    "รีบกินเถอะ นายต้องวาดรูปต่อไม่ใช้รึไง"
    "นั่นเป็นสิ่งที่นายจะพูดเวลาประหม่าสินะ:)
    "หนวกหูน่า=\\\="
    เริ่มเกลียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาแล้วนะเนี้ย กลับไปติ๋มแบบเดิมซะไอ้บ้าเอ้ย! ผมหยิบหนังสือพิมพ์ของวันนี้เข้ามาอ่านโดยหวังว่ามันจะไม่ทำให้ผมประหม่า แต่ข่าวที่ขึ้นหน้าหนึ่งตอนนี้ก็มีแต่เรื่องของThe Ripper พอนึกถึงมันก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาเลย
    "เห้อ...พวกตำรวจยังจับThe Ripperไม่ได้เลย"
    "แย่จัง...นายอยากให้จับได้เร็วจะได้ไม่ต้องมาเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันสินะ:)"
    "ไม่ใช่แบบนั้น! มะ...หมายถึง--"
    แจ๊คหัวเราะน้อยๆให้กับท่าทีกระโตกกระตากของผมที่กลัวว่าเขาจะเสียใจ นั่นคงแสดงได้ชัดเจนว่าผมแคร์หมอนนี่ขนาดไหน
    "ฮะๆๆ"
    "อย่าแกล้งกันสิ(= =**)
    เมื่อแจ๊คกินเสร็จผมก็ทำตัวเป็นผู้อยู่อาศัยที่ดี
    "เดี๋ยวล้างให้ นายไปทำงานต่อเถอะ"
    ผมลุกขึ้นแล้วเก็บจานให้เขาก่อนจะเอามันไปวางบนซิ้งล้างจานแล้วเริ่มเปิดน้ำ
    "ให้มาเป็นบอดี้การ์ดไม่ใช่คนใช้:)"
    แจ๊คพูดติดตลกในขณะที่ตามผมเข้ามาในครัว
    "ก็ไม่ได้ทำให้ในฐานะคนใช้ซักหน่อย นายทำให้กินฉันก็เป็นคนล้างคล้ายๆกับ...หารค่าอาหารไง"
    ผมยักไหล่
    "ก็แฟร์ดี ฉันชอบนะ:)"
    จานแค่สองใบใช้เวลาล้างไม่นานแต่แจ๊คเริ่มทำให้ผมรู้สึกแปลกๆเมื่อเขาจ้องผมมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
    "มีอะไรรึเปล่า--"
    "...."
    เวร! เขาเข้ามาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!? พึ่งรู้ตัวว่าหมอนี่อยู่ข้างหลัง ฝีเท้าเบาชะมัดเลย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเขาเริ่มเข้ามาสูดดมตัวผมก่อนจะจุมพิตตรงซอกคออย่างหนักหน่วงซ้ำๆ นั่นสินะ สถานะของผมกับแจ๊คเปลี่ยนไปเพราะการตัดสินใจอันบ้าบิ่นของผม
    "อือ....แจ๊ค..."
    ฟันเขาคมขนาดนี้เลยเหรอ...คนตัวใหญ่กดฟันลงมาที่ต้นคอจนร่างผมกระตุกเกร็งขึ้นมา มือหนาอุณหภูมิต่ำลูบไปตามแผ่นหลังของผมที่ยังเป็นแผลอยู่ และมันเจ็บ!!
    "อึก!"
    ผลัก!!
    เขาเซถอยหลังไปสองสามก้าว ผมเผลอผลักเพราะมือเขามาโดนแผลที่หลัง
    "นาอิบ?"
    ".....เราทำกันวันอื่นได้ไหม?"
    "หลังของนายเป็นแผล?"
    ดูเหมือนผ้าพันแผลใหม่แค่จับก็รู้เลยเขาถึงได้ดูออก
    "...ใช่"
    "เกิดอะไรขึ้น?"
    เขาที่ดูเป็นห่วงเป็นใยทำให้ผมรู้สึกแย่ที่บอกไม่ได้ เออ ให้ตายสิ...
    "มันไม่มีอะไรหรอก"
    "....."
    "....."
    แจ๊คดึงผมเขาไปกอดซะอย่างนั้น ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าเขาชอบผมแต่เขาอยู่กับผมไม่ถึงเดือนนะ 
    เฮ้อ... หมอนี่ใจง่ายชะมัด...แต่ผมก็ไม่ได้เกลียดที่เขาเป็นแบบนี้หรอก อีกอย่างเขาตอนที่เป็นแบบนี้ก็น่ารักดี






    รูปที่เขาวาดดูดีขึ้นมากเลยเขาบอกว่ามันมันใกล้เสร็จแล้วเมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านี้=_=; เอาเถอะ บางที2ชั่วโมงมันอาจจะน้อยสำหรับจิตกรก็ได้....ตลอดเวลาที่วาด เขาเงียบตลอดเลยคงกำลังใช้สมาธิอยู่สินะ
    .
    เวร เปลือกตา....หนักชะมัดแต่ทุกๆครั้งที่หลับตาและกำลังจะนอน ความรู้สึกขยะแขยงตอนที่....ตอนที่มีอะไรกับมันต่อหน้ามาร์ธ่ามันยังวนอยู่ในหัว....บ้าชิบ...
    อย่าไปนึกถึงมันสิ...
    ".....!!!"
    เสียงฮัมเพลงของแจ๊คทำให้ผมสะดุ้งโหยง....ไอ้ฆาตกรนั่น มันให้ผมหลอนได้ขนาดนี้เลยรึไงกัน...
    "ฉัน....ขอตัวไปนอนก่อนนะ"
    "นี่นายยังไม่ได้นอนเหรอ?"
    "....."
    ผมผงกหัว แจ๊คยิ้ม เขาวางจานสีและพู่กันลงแล้วเข้ามาหา
    "นอนด้วยสิ"
    ".....?"
    "เมื่อคืนนี้ฉันก็ไม่ได้นอนเหมือนกัน:)"
    เขาก็ไม่ได้นอนเหรอ? 
    "ทำไมถึงไม่นอนล่ะ?"
    "รอนายกลับมานั่นแหละ:)"
    "....โทษทีนะ"
    "รับผิดชอบด้วย ข้อหาทำฉันเป็นห่วง"
    "อยากให้ทำอะไรล่ะ?"
    แจ๊คเชิ่ดคางผมที่นั่งอยู่ให้มองหน้าเขาตรงๆ
    "ขอนอนห้องนายได้ไหม?"
    เตียงผมในห้องเขาไม่ได้กว้างมากแต่นอนสองคนก็พอได้ อีกอย่าง...
    "ก็มันบ้านนายนี่"
    .
    .
    แจ๊คหลับไปแล้ว...เขากอดผมจากด้านหลังอยู่ด้วย....เอาเข้าจริงๆผมกับแจ๊คถึงจะเคยมีอะไรกันตรงโซฟาแต่ก็ไม่เคยนอนกอดกันกลมแบบนี้อีกอย่าง....ผมมีอะไรกับเขาก็เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะรอดกลับมา ลมหายใจรดต้นคอก็ทำผมนอนไม่ได้เลย บ้าเอ้ย....
    ....พลิกตัวหันไปหาเขาน่าจะดีกว่า
    "...."
    ผมทำโดยหวังว่ามันจะช่วยให้ลมหายใจเย็นเฉียบนี่ไม่โดนคอผมและไม่ทำให้ประหม่า แต่พอได้มองหน้าเขาตรงๆมันดันทำให้ใจเต้นกว่าเดิมนี่สิ หลับตาไว้ๆ....เดี๋ยวก็หลับไปเอง---
    "!!!!"
    จุมพิตบนหน้าผากทำผมสะดุ้ง เขายังไม่ได้หลับเหรอ!?
    ยอมรับเลยว่าเขาแกล้งหลับได้เนียนเพราะผมเชื่อสนิท=[]=
    "ฮะๆๆ"
    "นะ...นายไม่นอนอีกเหรอ"
    "ก็จะรอดูว่านายจะลวนลามฉันอีกรอบตอนที่หลับไหม:)"
    "ไม่ทำหรอกน่า! อีกอย่างตอนนั้นฉันไม่ได้จะลวนลามนายนะ!!"
    ผมว่าพลางลุกขึ้นนั่งแจ๊คเองก็ค่อยๆลุกขึ้นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะที่กำลังหยอกผมอยู่
    "ฮะๆ เชื่อแล้ว นายล่ะทำไมยังไม่นอน"
    เยี่ยมไปเลย...จะตอบเขายังไงล่ะ
    "....แค่ไม่ชินที่มีคนมานอนใกล้ๆน่ะ"
    "นี่นายยังซิงอยู่เหรอo_O"
    ผมกุมขมับก่อนจะพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง
    "ไม่ใช่--- ก็ได้ ไม่ชินแค่กับผู้ชาย....นายทำฉันประหม่า"
    ไอ้บ้าเอ้ย....
    "มีอะไรกันไปแล้วแต่ก็ยังประหม่าเนี้ยนะ?"
    ตลอดสองวันก่อนเริ่มเกมการเป็นแฟนกับเขามันก็ไม่เลวแต่ครั้งนั้นที่มีอะไรกับเขามันเป็นครั้งแรกเลยที่ได้ลองกับผู้ชายด้วยกันตอนนั้นไม่กล้าสบตาเขาเลย ถ้าผมจะยังประหม่าต่อให้มีอะไรกับเขาไปแล้วก็คงไม่แปลกหรอก
    "....." 
    มือเขาขยับมาหยิกแก้มผมเบาๆอย่างหยอกล้อ น่าแปลกที่ตอนนี้มือของแจ๊คไม่เย็นและนั่นก็ทำให้หน้าผมร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม ริมฝีปากอุ่นประทับลงมาอย่างอ่อนโยน ไม่ได้หนักหน่วงและเร้าร้อนเหมือนก่อนหน้านี้ ทันทีที่ถอนจูบคนตัวใหญ่ดูก็สับสนแปลกๆ เขาอ่าปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรซักอย่างแต่เจ้าตัวก็ถอนหายใจออกมาแล้วลูบหน้าตัวเอง
    "....เป็นอะไรเหรอ?" 
    สายตาที่ทรงเสน่ห์จ้องมองมาที่ผมอย่างไม่ลดละ มือผมเกาะบ่าหนาแล้วเลือนลงมาสัมผัสตรงอกหนา พระเจ้า....หัวใจเขาเต้นรัวเลย
    "นายเองก็ประหม่าสินะ?"
    "...."
    ร่างสูงดึงผมเข้าสวมกอดแน่นโดยที่เขาไม่พูดอะไรซึ่งผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่เมื่อกี้....เขาคิดจะพูดอะไรนะ...

     วันต่อมา
    "ฉันต้องไปดูเธอหน่อยน่ะ จะกลับมาเฝ้ายามให้นายก่อน1ทุ่มนะ"
    เมื่อผมบอกแบบนั้นแจ๊คก็ยิ้มเหมือนเข้าใจ ที่ต้องมาเยี่ยมมาร์ธ่าที่โรงพยาบาลเพราะยังเป็นห่วงอาการของเธออย่างน้อยๆก็ควรจะไปดูซักหน่อย ผมมาหามาร์ธ่าทุกวันเป็นเวลาสองอาทิตย์เพราะยัยนั่นยังเดินเองไม่ได้ ถึงที่นั่นจะมีพยาบาลคอยช่วยแต่ไม่ว่ายังไงผมก็เป็นห่วงเธอนี่นา
    จนกระทั่ง..
    "วันนี้นายก็จะไปหาเธอสินะ"
    "ใช่ ทำไมเหรอ?"
    "....."
    แจ๊คกุมมือผมไว้ก่อนที่ผมจะได้ออกไปจากบ้านเขา
    "ไม่ไปไม่ได้เหรอ"
    "หา...นายเป็นอะไร?"
    "....นายก็ไปทุกวันแล้ว ไม่ไปซักวันไม่เป็นไรหรอก"
    ผมถอนหายใจเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแจ็คแต่ วันนี้เป็นวันที่เธอเริ่มฝึกเดินผมต้องไปจริงๆ
    "คือ....เธอเริ่มฝึกเดินวันนี้น่ะ จะไม่ให้เป็นห่วงไม่ได้หรอก"
    "....."
    "มีเหตุผลอะไรอะไรรึเปล่า? หรือว่านายหึง?"
    "...."
    แจ๊คไม่ตอบ ผมคาดหวังให้เขาควรจะพูดว่า'เปล่าหรอก'หรือไม่ก็'ใช่ฉันหึง' อะไรแบบนี้ยังจะดูปกติมากกว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ในช่วง2-3วันนี้เขาดูแปลกไปนะหมอนี่ดูไม่เป็นตัวเองเลย สุดท้ายแล้วแจ๊คก็ยอมปล่อยให้ผมไปหามาร์ธ่าจนได้

    2อาทิตย์ต่อมา
    ยังไงซะก็บอกแจ๊คไว้แล้วว่าจะมาหามาร์ธ่าแจ๊คเองก็เข้าใจดีเพราะผมมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลบ่อยๆ ไม่สิ ทุกวันเลยต่างหาก ท่าทางผมยังคงต้องเป็นบอดี้การ์ดให้แจ๊คไปอีกนานเพราะพวกตำรวจไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับThe Ripper เลย 
    วันนี้เป็นวันที่มาร์ธ่าออกจากโรงพยาบาล โอ๊ะ....นั่นไง...
    "วันนี้เป็นไงบ้าง?"
    "เคยดีกว่านี้แต่ก็ดีขึ้น นายล่ะ?"
    "ก็ดี"
    ร่างบางผงกหัวเธอเริ่มออกตัวเดินด้วยขาเทียมอย่างไม่เต็มร้อยนักผมจึงเข้าไปช่วยพยุง มาร์ธ่ามองผมด้วยสีหน้าหมองๆแต่เธอเองก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจาก...
    "ขอบคุณ....หมายถึงสำหรับทุกๆอย่างเลย" 
    ดูก็รู้ว่าเธอพยายามไม่พูดถึงสิ่งที่ผมโดนเพื่อให้เราได้รอด
    "ไม่เป็นไรน่า"
    ทหารเรือสาวเงียบไปเพราะนอกจากป้ายหลุมศพที่เปลี่ยนไปแล้วเราก็ยังไม่มีอะไรยืนยันเลย ว่าเฮเลน่ากับเทรซี่จะกลับมามีชีวิต นั่นหมานถึงเราอาจจะเหนื่อยเปล่า...
    "จำร้านที่ฉันสั่งเหล้าให้นายได้ไหม?"
    "อืม"
    "พาไปหน่อยสิ
    "เธอดื่มได้เหรอ?"
    "เหล้านี่แหละคือยาแก้ปวดที่ดี"
    "หึ ขี้เมา"
    ผมไม่มีเหตุผลที่ปฏิเสธเธอ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้พยุงยากด้วยจากโรงบาลจนถึงร้านนั่นเองก็ไม่ไกลมาก--
    "....."
    เราเดินออกจากโรงบาลมาไม่ไกลก็มีสาวตาบอดคนนึงกำลังเดินผ่านหน้าผมกับมาร์ธ่าไป....และผมกับมาร์ธ่ารู้จักเธอดี พระเจ้าเราทั้งคู่ยิ้มออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดเพราะไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า
    "เฮเลน่า!"
    มาร์ธ่าทิ้งผมแล้วเดินกะเผลกเข้าไปหาเฮเลน่า ร่างบางเข้าสวมกอดสาวตาบอดถือไม้เท้าด้วยรอยยิ้ม ส่วนผมได้แต่ยิ้มตามเพราะอย่างน้อยเราก็ไม่ได้เหนื่อนฟรี
    "เธอกลับมาแล้ว!"
    "คะ...ใครเหรอคะ?"
    ดูเหมือนเฮเลน่าจะงงๆอยู่ก็เธอตาบอดนี่นะ
    "ฉันเอง...มาร์ธ่าไง! เธอเจอฉันตอนที่เข้าร่วมเกมนั่นไง!"
    แม่สาวตาบอดดูตื่นกลัวเธอค่อยผละออกจากมาร์ธ่าแล้วออกปากถามอย่างฉงน
    ".....เกม...อะไรเหรอคะ?"
    "....."
    "....."
    ผมกับมาร์ธ่าเข้าใจแจ่มแจ้งเลยแฮะ ถึงยัยนี่จะกลับมามีชีวิต แต่ก็จำเรื่องที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์นั่นไม่ได้สินะ...
    "ขอตัวนะคะ"
    "...."
    "อย่างน้อยเธอก็กลับมามีชีวิตนะ"
    ผมตบบ่ามาร์ธ่าเบาๆเพื่อปลอบแต่ดูเหมมือนมาร์ธ่าจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
    หมับ!
    แม่ทหารเรือสาวเข้าไปคว้ามือของเฮเลน่าไว้
    "ปะ...ปล่อยนะคะ!"
    "พอเถอะน่ามาร์ธ่า"
    เมื่อพยายามเข้าไปห้ามมาร์ธ่าก็ไม่ฟังเลย
    "ที่บ้านเธอฐานะไม่ค่อยดีใช้ไหมล่ะ เธอกำลังต้องการเงินไปเรียนต่อ"
    สาวตัวเตี้ยขมวดคิ้วเป็นโบว์ เธอคงแปลกใจที่มาร์ธ่ารู้เรื่องนี้สาวตาบอดหยุดทำท่าจะขัดขืนแล้วยอมไปกับเราในที่สุด เราตัดสินใจเข้าไปคุยกันในร้านที่ผมกับมาร์ธ่าเจอกันครั้งแรกรอบนี้เจ้บอกว่าจะเลี้ยงซะด้วย 
    ..
    .
    "คุณจะบอกว่าฉันตายไปแล้วสินะคะ"
    เธอว่าพลางจิบโกโก้ร้อนที่มาร์ธ่าเลี้ยง
    "ตอนนั้นฉันผิดเองล่ะที่ไม่ช่วยเธอ"
    ผมเสริมพลางจิบกาแฟ คือความจริงผมอยากสั่งวิสกี้แต่ผมต้องทำงานต่อนี่สิ
    "ให้ฉันเป็นคนส่งเสียเธอเรียนได้รึเปล่า?"
    มาร์ธ่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่อะไรที่กระทันหันแบบนั้นเฮเลน่าจะตกใจก็ไม่แปลก
    "เอ๋....ทำไมอยู่ๆก็--"
    "....ให้ฉันได้ทำเถอะน่า บ้านเธออยู่ไหนล่ะฉันจะไปส่ง"
    "ใจเย็นๆสิ มาร์ธ่า"
    เมื่อมาร์ธ่าเริ่มเข้าหาเธอมากจนเกินไปเฮเลน่าที่ดูกลัวๆก็ส่ายหัว
    "ขอบคุณ....แต่ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องไว้ใจคุณน่ะค่ะ"
    "...."
    เฮเลน่าลุกขึ้นเธอกำลังจะเดินหนีแต่มาร์ธ่าจับแขนเธอไว้อีกแล้ว ถ้ามียัยนี่เป็นเมียเก่าผมว่าน่ากลัวแน่ๆ=_=
    "งั้นสัญญากับฉันสิว่าเธอจะไม่ตอบรับคำชวนไปเล่นเกมนรกนั่นจากจดหมายแปลกๆที่เธอได้รับ"
    "....."
    เฮเลน่าสบัดแขนของมาร์ธ่าทิ้ง ก่อนจะจากไป ทหารเรือสาวกุมขมับเธอดูจิตตกสุดๆไปเลยแฮะ
    "ไม่เป็นไรน่าอย่างน้อยก็ได้เตือนเธอนะ"
    "....."
    ดูเหมือนผมจะปลอบเธอไม่ได้เรื่องเท่าไหร่
    "ไม่เอาน่า เธอทำหน้าเหมือนคนอกหักเลยนะ"
    มาร์ธ่ามองผมด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะถาม
    "นายดื่มเหล้าได้ไหม?"
    "ได้"
    "งั้นดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย"
    ชัดเลย มาร์ธ่ากำลังอกหัก=_=^ ผมตั้งใจว่าจะไม่ดื่มจนตัวเองเมา จะได้อุ้มยัยนี่ไปส่งโรงแรมได้ตอนที่ยัยนี่เมาหนักๆ
    "ก็ได้....แต่ห้ามเกิน1ทุ่มนะ ฉันต้องไปทำงาน"




    =========
    ขอมอบรางวัลตุ๊กตาทองให้แจ๊คด้วยนะคะ แหม....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×