ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Overwatch Genji x Hanzo x doomfist (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : สารภาพรัก

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 62


    "ว้าว~ในที่สุดคุณชิมาดะก็ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยซักที"
    เทรเซอร์เข้ามาทักทายฮันโซอย่างร่าเริงแต่คำพูดเธอก็ตะหงิดใจเขานิดๆ
    "หมายความว่ายังไง?"
    "ก็เมื่อวานเห็นว่าใส่เสื้อไม่เรียบร้อยนี่"
    เขาใส่กิโมโนไม่เรียบร้อยสินะ แต่ที่วันนี้ทำเป็นต้องใส่ดีๆก็เพราะต้องการปิดรอยที่ไอ้เด็กนั่นทำไว้น่ะสิ จะอธิบายแบบนั้นก็ไม่ได้ซะด้วย
    "มันร้อน"
    "แล้ววันนี้ไม่ร้อนเหรอ?"
    ลีน่าแค่อยากชวนคุยไปตามประสาเธอหารู้ไม่ว่านั่นทำให้ฮันโซอึดอัด
    "เลิกเรียกข้าว่าคุณชิมาดะเถอะ"
    การเปลี่ยนเรื่องก็ช่วยได้มากเลย เทรเซอร์ยิ้มร่าเมื่อฮันโซดูไม่ถือตัวเท่าไหร่
    "ได้เลยฮันโซ"
    เธอชกไหล่เขาเบาๆก่อนจะตรงไปหาเกนจิที่พึ่งกลับมาหลังดูแลเสาไฟให้วินสตัน
    "กิ่งไม้เยอะมากไหม?"
    วินสตันถาม
    "เยอะมากเลยล่ะ"
    เกนจิโกหกส่งๆแล้วตรงไปหาพี่ชายด้วยใบหน้าเคืองๆที่อยู่ใต้หน้ากากเหล็ก
    "ท่านพี่ถูกทำอะไรบ้างตอนที่ถูกจับไปรึ?"
    เขาพยายามอย่างมาเลยไม่ให้เสียงตัวเองดูเหมือนโกรธ ยินดีด้วยความพยายามนั้นเป็นผล
    "เขาไม่ได้ทรมานอะไรข้าหรอก...แค่สั่งให้ฆ่าผู้หญิงคนนึง...."
    ใบหน้าของฮันโซบอกชัดเจนว่ารู้สึกผิดซึ่งเทรเซอร์เองก็เป็นคนนึงที่เห็นใจส่วนวินสตันที่ฟังอยู่ก็ได้คำตอบเรื่องศพของพนักงานสาวในบริษัทวิสก้า
    "ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ...อันที่จริง--"
    "มีอะไรอีกรึเปล่า?"
    ดูเหมือนเกนจิจะยังอยากรู้มากกว่านี้ต่างจากลีน่าที่กำลังเห็นใจ หรือว่าเขาต้องการจะตอกย้ำพี่ชายตัวเองกันแน่นะ...
    "....ข้าก็ไม่เข้าใจอคานเด้เหมือนกัน วันต่อมาก็เลี้ยงข้าว...แล้วก็สาเก"
    "เลี้ยงข้าว?"
    เทรเซอร์ขมวดคิ้วเป็นโบว์
    "เอาจริงดิ? งั้นพวกทาลอนกินข้าวกันยังไงเหรอ? มีอาหารในฐานทัพหรือไปหาเอากันเอง?"
    คราวนี้ลีน่าอยากรู้บ้างแล้ว เธออยากได้ข้อมูลของพวกทาลอนให้ได้มากที่สุดไม่ต่างจากวินสตัน
    "หมอนั่นพาออกมากินข้างนอกน่ะ"
    "แค่สองคนเหรอ?"
    เกนจิถามซึ่งฮันโซก็ผงกหัว
    "แปลว่านายรู้ฐานทัพของพวกทาลอนสินะ!?"
    นั่นล่ะที่ลีน่าอยากรู้
    "ไม่หรอก ทุกครั้งที่เข้าออกฐานข้าจะโดนปิดตา แถมทางที่จะเข้าก็ซับซ้อนด้วย"
    ดูมฟิสท์ไม่ได้โกหกเนียนหรอกแต่ฮันโซไม่ได้เห็นทางเข้าจริงๆเขาเลยเชื่อได้แค่นั้น
    "รักษาความลับดีเป็นบ้าเลย พวกนั้น"
    วินสตันที่ฟังอยู่ก็ถอนหายใจเพราะไม่ได้ข้อมูลอะไรจากฮันโซเลยเขาเปิดข่าวเพื่อดูความคืบหน้าของคดีที่ดูมฟิสท์โดนจับไป
    [ไม่ว่ายังไงก็ตาม ถึงแม้ว่าสังคมจะไม่เห็นด้วยในเรื่องของการประกันตัวดูมฟิทส์ในครั้งนี้แต่ทุกๆอย่าง ก็ถูกต้องตามกฏหมาย]
    ดูเหมือนข่าวที่ดูจะไม่ใช้ข่าวดีซักเท่าไหร่
    "....."
    แผนของดูมฟิสท์สำเร็จลุล่วง กฏหมายทำอะไรพวกทาลอนไม่ได้เลย
    "....อะไรกัน"
    ".....เวรเอ้ย"
    ตุบ!
    คนที่ออกความเห็นให้ฆ่าดูมฟิสท์อย่างเกนจิหัวเสียสุดๆ เขาเดินผ่านฮันโซพร้อมกับกระแทกไหล่อย่างตั้งใจซึ่งฮันโซที่รู้สึกผิดอยู่เลยไม่ได้โมโหกับสิ่งที่เกนจิทำ ส่วนเทรเซอร์กับวินสตันเองดูสิ้นหวังลงไปเลย
    "นี่มันแย่กว่าที่คิดซะอีก"
    "จะมีกฏหมายไว้ทำไมกันนะ..."
    สิ่งที่พวกเขาต้องคิดก็คือ จะบอกกับไรน์ฮาร์ดเหมยและบริกริตยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาคงกำลังฝึกซ้อมกันอยู่....ส่วนฮันโซตามเกนจิไป เขาที่มีอีโก้สูงไม่รู้หรอกว่าควรจะพูดอะไรให้เกนจิหายโกรธแต่ความรู้สึกผิดก็พาเขามา 
    เกนจิมาอยู่ที่หน้าผาสูงข้างๆหอคอยWP-G วิวสวยบรรยากาศดียามเย็นแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เกนจิเย็นลงเลย
    "ข้าไม่รู้เรื่องที่อคานเด้จะถูกปล่อยมาแบบนี้"
    นั่นเป็นประโยคแรกที่ฮันโซบอกกับน้องชายตัวเอง
    "แต่ท่านพี่ก็รู้ว่าคุกขังเขาไม่ได้นาน"
    "นี่โกรธเพราะข้าขอให้ไว้ชีวิตหมอนั่นสินะ ถ้าเจ้าฆ่าเขาในตอนนั้นข้าก็จะยังอยู่กับพวกทาลอนตามที่ข้าเคยสัญญากับพวกเขาไว้"
    "มีสัจจะดีจังเลยนะท่านพี่ งั้นทำไมไม่ยอมรับมาตรงๆล่ะ เหตุผลที่อยากให้ข้าไว้ชีวิตดูมฟิสท์น่ะ"
    "....ข้าคิดว่าทำให้เจ้าเข้าใจได้แล้วซะอีก"
    เกนจิเข้าใจว่าฮันโซกำลังมีความสัมพันธ์ที่ไม่อยากให้ใครรู้กับดูมฟิสท์นั่นเป็นสาเหตุที่พี่ชายเขาไม่อยากให้ดูมฟิสท์ถูกฆ่าแต่หารู้ไม่ว่ารูปที่ซอมบร้าให้ดูเป็นตอนที่ฮันโซเมาหลับไม่รู้เรื่องแต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเกนจิโกรธเพราะคิดว่าฮันโซโกหกต่อเขา
    "จะบอกว่าข้างี่เง่าสินะ"
    ใช่แล้วล่ะ ฮันโซคิดว่าเกนจิงี่เง่า
    "....ก็เคยคิดว่าเจ้าเลิกเป็นแบบนั้นแล้ว"
    "ทำไม ท่านพี่คงชอบที่อยู่กับพวกทาลอนสินะ?"
    "ข้าไม่ชอบทำงานร่วมกับใครทั้งนั่นแหละ ไม่ว่าจะพวกทาลอนหรือโอเวอร์วอช"
    "....."
    "ถ้ายังไม่เลิกตัดสินข้าแบบนั้นข้าจะเมินเจ้าล่ะนะ"
    น้ำเสียงเรียบเฉยทำให้เกนจิรู้สึกว่าเขาเป็นฝ่ายผิดซะเอง ตอนนี้เขากลับไปอยู่ในจุดเดิมอีกครั้ง จุดที่เคยถูกมองว่าเป็นเด็กงี่เง่าและถูกเมินจากพี่ชาย
    "ให้ตายสิ....ขอโทษนะเกนจิ ข้าคงจะผิดปกติเพื่อเจ้าไม่ได้หรอก"
    แต่อาการงี่เง่าของเกนจิก็ทำให้ฮันโซได้คำตอบเร็วขึ้น
    "ท่านพี่...ข้า...ได้โปรดยกโทษให้ข้า..."
    หัวใจแตกสลาย เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าครั้งแรกที่โดนฮันโซปฏิเสธซะอีก ในตอนนั้นฮันโซปฏิเสธเพราะตระกูลแต่ไม่ใช่กับครั้งนี้....นั่นแหละที่น่ากลัว
    "ยกโทษ? ...เรื่องอะไรล่ะ"
    "ข้าจะไม่งี่เง่าอีกแล้ว"
    เกนจิทำให้พี่ชายใจอ่อนได้อีกครั้ง....อันที่จริงก็ทำได้ทุกครั้งแหละ
    ".....ข้าจะออกไปเดินเล่นหน่อย....คนเดียว"
    "อืม..."
    ดูเหมือนท่านพี่ของเขาต้องการเวลาคิด ชิมาดะคนน้องเงียบปากทันทีเพราะเขารู้ดีว่าถ้าเซ้าซี้พี่ชายคงรำคาญแน่ๆ
    .
    .
    .
    .
    .
    การออกมาอยู่คนเดียวเป็นสิ่งที่ฮันโซชอบทำนักล่ะ มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่เขาจะเข้าสังคมไม่เก่งแต่มันก็ไม่แปลกเช่นกันถ้าเกนจิจะแอบสะกดรอยตามโดยที่ครั้งนี้ออกห่างมากขึ้นเพราะฮันโซรู้ตัวเก่ง....ใช่ เกนจิแกมันสโตกเกอร์น่ารังเกียจ....ดูเหมือนพี่ชายเขาจะแค่มาเดินเล่นจริงๆแต่เขาที่พกธนูแบบนั้นทำให้คนรอบข้างมองเหมือนกันว่าเจ้าตัวไปฆ่าใครมาอย่างนั้น จะไปว่าก็ไม่ได้เกนจิก็มีดาบติดหลังอยู่ไม่ใช่รึไง
    "ลุงคะ!"
    เด็กผู้หญิงคนนึงเข้ามาหาฮันโซเธอดึงชายเสื้อเขาเพื่อเรียก ฮันโซอึ่งไปซักพักเพราะเขากำลังทำตัวไม่ถูก
    "มีอะไร?"
    บางทีเขาก็กระด้างเกินกว่าจะพูดจาอ่อนหวานกับเด็กสาว
    "หนูหลงทางน่ะค่ะ"
    "พ่อแม่อยู่ไหนล่ะ?"
    แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เมินนะ เด็กน้อยชี้ไปที่ตรอกมืดๆ ในเวลาใกล้ค่ำแบบนี้ฮันโซจะปล่อยให้เด็กน้อยเดินไปคนเดียวไม่ไหว
    "พวกเขาให้หนูรอนี่แล้วเข้าไปในนั้น..."
    เด็กนี่โกหกไม่เนียนเอาซะเลยส่วนฮันโซก็ไม่ระแวงอะไรกับเด็กตัวเล็กๆหรอกเขาเดินตามเด็กสาวเข้าไปในตรอกมืดๆนั้นจนกระทั่งได้เจอกับคนผิวเข้มที่ตอนนี้อยู่ในชุดธรรมดา นั่นไม่สำคัญเท่า...เขาติดอาวุธอยู่! ทันทีทั้งคู่เจอกันเด็กสาวคนนั้นวิ่งออกไปจากตรงนี้ทันทีราวกับว่ารู้งานสุดๆ ฮันโซพึ่งรู้ตัวว่าติดกับของอคานเด้เขายิงธนูใส่โดยไม่ต้องคิดนาน และพยายามรักษาระยะห่างเอาไว้ไม่ให้ร่างใหญ่เข้าประชิดตัว ดูมฟิสท์ที่โจมตีระยะใกล้ควรจะเข้าประชิดและจู่โจมฮันโซแต่เขาไม่ได้ทำแบบนั้น คนผิวเข้มแค่ใช้ถุงมือนี่ป้องกันลูกธนูที่ถูกยิงเข้าใส่เท่านั้น
    "ฉันไม่ได้มานี่เพื่อสู้กับนายนะ"
    "...."
    ดูเหมือนชิมาดะฮันโซจะไม่สนเท่าไหร่ อคานเด้จึงต้องออกห่างจากฮันโซพอสมควรเพื่อให้ชิมาดะยอมหยุดยิงแต่ถึงอย่างนั้นเข้าก็ยังง้างธนูอยู่ ดูมฟิสท์ลองเสี่ยงอีกครั้งโดยการถอดถุงมืออาวุธแสนจะทรงพลังของเขาทิ้งไว้แล้วเดินเข้าไปหาโดยให้ฮันโซเห็นแขนที่ขาดด้วนของเขาชัดๆ ชิมาดะคนพี่กัดฟันกรอด....เขายิงธนูเฉียวแขนอคานเด้ไปลูกนึงเพื่อเตือนเบาๆเลือดจากแผลที่ถูกธนูเฉียวไหลเป็นทางยาว
    "สวมมันกลับไปซะอคานเด้!"
    เขาไม่อยากทำร้ายคนพิการแขนขาดที่ไร้อาวุธ เพราะงั้นฮันโซถึงอยากให้อคานเด้สวมถุงมือกลับไปแต่ก็อย่างที่บอกดูมฟิสท์ไม่ได้มาที่นี้เพื่อสู้กับฮันโซ
    "ฉันไปทำอะไรให้นายโกรธรึเปล่า"
    "....."
    อคานเด้ที่ไร้อาวุธเข้าใกล้ฮันโซได้สำเร็จ ฮันโซเองก็ยังไม่ยอมลดธนูลง
    "เจ้าใช้เด็กนั่นล่อข้ามานี่ทำไม มีแผนอะไร?"
    ครั้งที่แล้วเขาต้องรู้สึกผิดเอามากๆต่อพวกโอเวอร์วอชถึงคนที่เจ็บปวดจะไม่ใช่เขาแต่คนที่ทำให้แผนของทาลอนสำเร็จก็คือเขา อีกอย่างแผนของดูมฟิสท์มันแยบยลมาก เขาจึงต้องระแวงไว้ตลอด
    "ก็แค่....มาหา"
    "แผนเจ้าสำเร็จไปแล้วนี่ยังจะต้องการอะไรอีก!"
    "ฉันยังไม่ได้ขอบคุณเลย เรื่องที่นายช่วยเอาไว้น่ะ:)"
    ดูมฟิสท์ไม่ได้โกหกเขาแค่อยากขอบคุณฮันโซจริงๆแต่น่าเสียดาย คนที่โดนลอบฆ่าแทนอาหารเช้าไม่ได้เชื่อใจใครง่ายๆ
    "นั่นก็เพื่อให้ข้าเลิกเป็นเด็กฝึกงานของเจ้าต่างหาก"
    ".....ตอนนั้นฉันคิดไม่ถึงว่าน้องชายนายจะฆ่าฉัน"
    "....."
    "ถ้านายไม่เข้าไม่เข้ามาห้ามฉันคงตายไปแล้ว"
    "...."
    รอบนี้ดูมฟิสท์พูดความจริง พวกทาลอนคิดว่าอย่างมากสุดโอเวอร์วอชก็แค่จับดูมฟิสท์ ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะถูกฆ่าแต่ฮันโซจะเชื่อเหรอ?"
    "ไปเดินด้วยกันหน่อยไหม?"
    "มีแผนอะไรอีกล่ะ ข้าไม่ไปด้วยหรอกนะ"
    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากหนาของคนผิวเข้ม
    "ว่าแต่กับน้องชาย ไปถึงไหนกันแล้วล่ะ:)"
    ในจังหวะที่ฮันโซกำลังคิดว่าควรจะทำยังไง ธนูในมือก็ถูกแย้งไปซะแล้ว แต่ชิมาดะคนโตฝีมือก็ไม่ใช่ขี้ๆ หมัดหนักๆถูกกระทุ้งใส่หน้าท้องดูมฟิสท์ถึงมันไม่สะทกสะท้านต่อเขาเท่าไหร่ก็เถอะ
    อคานเด้โยนธนูทิ้งก่อนร่างเล็กจะถูกล็อกแขนทั้งสองข้างไพล่หลังหน้าติดกำแพง ตอนนี้ฮันโซไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้เลย เกนจิที่แอบดูอยู่คงจะลงไปช่วยตั้งนานแล้วแต่เขารู้ว่าดูมฟิสท์จะไม่ทำอะไรฮันโซแน่ๆถึงได้รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
    "ดื้อจังเลยนะ"
    "อยากจะทำอะไรก็ทำซะสิ"
    "ก็บอกว่าไม่ได้มาเพื่อสู้....แค่อยากมาหา"
    ฮันโซถูกปล่อย อคานเด้หยิบธนูคืนให้ก่อนจะยิ้มเยาะ
    "เห็นไหม ฉันไม่เป็นอันตรายซักหน่อย....มันไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น"
    "....."
    ชิมาดะคนพี่เก็บธนูในขณะเดียวกันอคานเด้ก็สวมถุงมือหลับไป ผู้นำของทาลอนคนนี้เขาเกลียกล่อมได้เก่งจริงๆนั่นแหละ
    "....เดินเล่นกันเถอะ"
    "เดี๋ยว"
    "....."
    ฮันโซดึงริบบิ้นที่มัดผมตัวเองออก เส้นผมสีดำขลับตกลงมาประบ่า เขาเอาริบบิ้นสีเหลืองทองลายเกล็ดมังกรมาพันรอบแขนผิวสีแทนเพราะมันเป็นแผลที่เขายิงธนูเฉี่ยวไป เอาอีกแล้ว....ฮันโซทำอคานเด้ยิ้มอีกแล้ว
    "...."
    "ขอบคุณ:)"
    "....."
    "วันนี้นายใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยดีนะ"
    "....."
    เทรเซอร์ไม่ใช่คนเดียวที่ทักแบบนี้เมื่อเห็นฮันโซไม่ตอบดูมฟิสท์จึงเปลี่ยนเรื่อง
    "กับน้องชายนายเป็นไงบ้าง"
    อคานเด้เริ่มบทสนทนาระหว่างเดิน
    "ถ้าข้าไม่ตอบเจ้าก็คงเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นสินะ"
    อันที่จริงแล้ว ดูมฟิสบอกเรื่องนี้กับซอมบร้าแล้วก็จ้างให้เธอไปปั่นหัวชิมาดะคนน้องนิดๆหน่อยๆแต่คงจะบอกเรื่องนี้กับฮันโซไม่ได้
    "ถ้านายไม่อยากพูดฉันก็ไม่บังคับ ก็แค่อยากรู้"
    "....."
    ยินดีด้วยอคานเด้เริ่มทำให้ฮันโซไว้ใจได้ในระดับนึงสำเร็จ
    "ข้าไม่อยากทำร้ายไอ้เด็กนั่น ข้าทำร้ายเขามามากพอแล่ว"
    เพล้ง!
     เสียงหัวใจที่แตกสลายของเกนจิ ฮันโซแค่สงสารเขาเหรอ?....แค่รู้สึกผิดเหรอ?
    "ใจดีกว่าคิดนะเนี้ย:)"
    "หุบปาก"
    "ฮะๆ ดีดจังนะ"
    "...."
    "แปลว่านายจะยัง...ต่อกับน้องชายนายอยู่เหรอ?"
    "....ข้าไม่รู้ เจ้าล่ะคิดว่าไง"
    คนตัวใหญ่ยิ้ม เขาคิดว่าคนตัวเล็กจะดีดใส่ตลอดแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฮันโซอยากรู้ความเห็นของเขา
    "นายน่าจะเลิกทำซะนะ"
    "มันคงจะผิดปกติสินะ"
    "หึ เปล่า....ต่อให้นายผิดปกติ ฉันก็ไม่รังเกียจหรอก"
    ฮันโซขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจอคานเด้เองก็เริ่มประหม่า....เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้วมันเหมือนกับว่าฮันโซเป็นคนเดียวที่สามารถปลุกความรู้สึกแบบนั้นของเขาออกมาได้ เขาหลงรักความมีสัจจะและห้าวหารของคนตรงหน้า มันมากกว่าความงดงามที่เจ้าตัวมีซะอีก
    "งั้นทำไมถึงอยากให้ข้าเลิกทำล่ะ?"
    "...."
    มือหนารวบท้ายทอยคนตัวเล็กก่อนจะก้มลงประกบริมฝีปากแต่ฮันโซที่ไหวพริบดีก็รู้ว่าอคานเด้จะทำอะไร เขาจับไหล่สีแทนก่อนผลักเบาๆทันที
    "ข้า...ไม่ได้คิดไว้แบบนี้"
    "....งั้นเหรอ"
    การโดนปฏิเสธไม่ได้ทำให้อคานเด้เสียใจเขาไม่ได้สารภาพรักเพื่อให้ฮันโซรับรักเพราะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวจะปฏิเสธ ที่เขาสารภาพรักเพราะต้องการให้ฮันโซไว้ใจต่างหาก
    "ไม่เป็นไรหรอก"
    "....."
    "ไว้เจอกันนะ"
    อคานเด้โบกมือลา ฮันโซในตอนนี้เขารู้สึกอึ่งๆที่โดนสารภาพรักและรู้สึกผิดนิดๆที่ปฏิเสธอคานเด้แต่ก็ต้องรีบกลับไปที่WP-Gเพราะกลัวว่าเกนจิจะเป็นห่วงเอาโดยที่หารู้ไม่ว่าเกนจิดูเขาอยู่ตลอด 
    "กลับมาแล้วเหรอท่านพี่"
    'วินสตันๆๆ!!'
    'ไม่เอาน่าไรน์ฮาร์ด!!'
    ตอนนี้เกนจิอยู่ในฐานทับก่อนแล้ว เสียงดังมาจากอีกห้องหนึ่งเหมือนเชียร์อะไรกันซักอย่าง
    "อือ"
    "ริบบิ้นไปไหนล่ะ?"
    "ข้าเอาไปพันแผลให้อคานเด้"
    "ดูมฟิสท์?"
    "เออ"
    ในตอนนี้เกนจิไม่รู้ควรจะดีใจที่ฮันโซพูดความจริงหรือโกรธดี
    "ไปเจอกับหมอนั่นเหรอ?"
    "ใช่ หมอนั่นบอกว่าอยากมาหาน่ะ"
    "...."
    [ไรน์ฮาร์ดเป็นฝ่ายชนะ]
    สิ้นเสียงอติน่าเสียงเฮก็ดังก้อง
    'เย้!!'
    "เสียงดังอะไรกัน?"
    ฮันโซเริ่มสงสัย
    "วินตันกับคุณไรน์ฮาร์ดงัดข้อกันอยู่ ไปดูด้วยกันไหม?"
    คิ้วฮันโซขมวดเป็นโบว์เมื่อวานนี้ทุกคนยังดูซึมอยู่เลย แต่ก็ดีแล้วล่ะ....เกนจิกับพี่ชายเข้าไปในห้องนั่นเล่นที่ทุกๆคนอยู่
    "ไง! พวกนายพลาดดูคุณไรน์ฮาร์ดกับวินสตันงัดข้อกันนะ"
    ทั้งคู่นั่งข้างๆเหมยและสโนว์บอลเพราะมันเป็นที่เดียวที่ว่าง
    [วินสตันแพ้ราบคาบ]
    "เงียบน่าอติน่า"
    "ฮะๆๆ"
    ทุกคนหัวเราะให้กับหน้าบูดๆของวินสตันไรน์ฮาร์ดยิ้มก่อนจะบอกกับเจ้าลิง
    "ฮะๆ อีกไม่นานฉันก็คงงัดข้อไม่ไหวแล้วล่ะ"
    "ดูก็รู้น่าตาเฒ่า"
    บริกริตเสริมผู้สูงอายุยิ้มก่อนจะถอนหายใจ
    "ว่าแต่ไรน์ฮาร์ดมีเรื่องมาเล่ารึเปล่า? ฮันโซยังไม่เคยฟังเลย"
    เมื่อลีน่าเห็นไรน์ฮาร์ดดูซึมลงอีกเธอก็ให้เขาทำในสิ่งที่ชอบทำที่สุด ฮันโซจึงได้คำตอบว่าทำไมไรน์ฮาร์ดถึงหายซึมง่ายนัก เพราะมีทุกคนอยู่ข้างๆนี่เอง
    "ฮะๆมีสิ อะแฮ่มๆ"
    เมื่อคนตัวสูงใหญ่กระแอม ทุกๆคนก็ตั้งหน้าตั้งตาฟังอย่างตั้งใจ
    "นี่เป็นเรื่องของคู่สามีภรรยาที่อยู่กินกันมานาน แต่แล้ววันนึงสามีก็สงสัยว่าภรรยาของเขามีชู้"
    "....."
    "วันต่อมาสามีก็ทำท่าทีเหมือนว่าจะไปทำงานปกติแต่กลับแอบดูอยู่หน้าบ้านแทน และก็เป็นอย่างที่เขาคิด....ภรรยาเขาพาชายอื่นเข้าบ้าน!"
    "อู้ววว"
    เหมยดูจะอินกับเนื้อเรื่องได้เร็วมากนั่นทำให้ตาลุงยิ้มแล้วเล่าต่อ
    "สามีรีบขึ้นไปบนห้องนอนที่อยู่ชั้นสองเขาเห็นภรรยานอนแก้ผ้าอยู่คนเดียวบนเตียง เขาจึงพยายามหาตัวชู้ที่น่าจะอยู่ในห้องแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ พอเขามองลงไปนอกหน้าต่าง เขาก็พบกับชายคนนึงมองซ้ายมองข้างอยู่หน้าบ้านเขา ด้วยความโมโหสามียกตู้ที่หนักกว่าตัวเองโยนใส่ชายที่อยู่ข้างล่างตายคาที่"
    "หึงโหดชะมัด"
    เทรเซอร์เอนตัวอิงบนโซฟา
    "แต่ทำแบบนั้นก็ทำให้สามีหัวใจล้มเหลวและตาย"
    "....."
    "เมื่อสามีกลายเป็นวิญญาณเขาได้เจอกับผีอีกสองตัวเขาจึงถามผีสองตัวนั้นว่าเป็นอะไรตาย"
    บริกริตยักไหล่เมื่อรู้สึกเหมือนเรื่องกำลังออกทะเลแต่ไรน์ยังคงเล่าต่อ
    "ผีตัวแรกบอกว่าเขามาส่งหนังสือพิมพ์จากนั้นก็โดนตู้ร่วงลงมาทับตาย"
    "เดี๋ยวนะ...?"
    เหมยถึงกับกุมขมับแต่ก็ฟังต่อ
    "ผีสามีก็บอกว่าเขาโยนตู้ใส่ชู้เมียเขาทำให้หัวใจล้มเหลวตาย ทั้งคู่หันไปหาผีตัวสุดท้าย ผีตัวสุดท้ายบอกว่าเขาแอบอยู่ในตู้"
    "ฮ่าๆๆ"
    ทุกๆคนในวงหัวเราะในตอนนี้เรื่องของไรน์ฮาร์ดคงเป็น กำลังใจเดียวที่จะทำให้โอเวอร์วอชสามารถลุกขึ้นยืนหยัดต่อกรกับทาลอนได้ในตอนนี้น่ะนะ....










    ที่เห็นอยู่คืองานHalloweenตอนที่โอเวอร์วอชยังรุ่งเรืองตอนนั้นไรน์ฮาร์ดจะเป็นที่เล่าเรื่องผี ในรูปมีอานา แมคครี ไรน์ฮาร์ด แจ็ค(Soldier76) แองเจล่า(เมอร์ซี่) แล้วก็ท็อปจอร์น ซึ่งเกบ(รีปเปอร์)ก็โผล่มาตอนจบแกล้งไรน์ฮาร์ดให้ตกใจจนแกเป็นลม จากที่ฟังเกบพูดดูเหมือนทุกๆฮาโลวีนไรน์ฮาร์ดจะเป็นคนเล่าเรื่องผีทุกปี 
    ไรท์ค่อนข้างรักไรน์ฮาร์ดพอสมควรบทแกก็จะเยอะหน่อยๆนะคะ

    อันนี้สำหรับคนที่อยากอ่านเต็มๆ
    https://masteroverwatch.com/news/65-overwatch-halloween-skins-teaser-via-comic-9-junkenstein


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×