ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [IdentityV] Naib x Jack

    ลำดับตอนที่ #3 : ความผิด(แก้บทพูด+แก้คำผิด)

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 62


    ตื่นตอนเที่ยงเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน หิวชะมัด...เมื่อล้างหน้าเสร็จผมลงไปหาแจ๊ค ซึ่งเขาก็ยังวาดรูปอยู่ที่เดิมไม่กวนน่าจะดีกว่า...
    "อรุณสวัสดิ์....หรือว่าสวัสดีตอนบ่ายดีล่ะ:)"
    นี่ผมว่าผมเงียบแล้วนะ มันไปรบกวนสมาธิเขารึเปล่าเนี้ย...
    "โทษที ไม่ได้ตั้งใจจะกวนนะ"
    "คิดมากน่า ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรให้นายเลย:)"
    รูปที่แจ๊ควาดเป็นรูปเดียวกับที่เขาวาดเมื่อวานตอนนี้มันดูดีขึ้นมากๆเลยเสียงวางพู่กันและจานสีเบาๆเตะหูก่อนแจ๊คจะเข้ามาหา ในขณะที่ผมกำลังชงกาแฟในครัว
    "ไปหาอะไรกินข้างนอกไหม?"
    "นายวาดรูปเสร็จแล้วเหรอ?"
    "ฮะๆยังหรอก ฉันวาดเพื่อรอนายตื่นนั่นแหละเราจะได้ไปหาอะไรกินกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง^^"
    ใจดีจังแฮะ ให้เงินเดือนแล้วยังเลี้ยงอาหารเช้าอีก
    "ก็ดีนะ"



    กริ้ง!
    เสียงกระดิ่งดังขึ้นเมื่อเราเปิดประตูเข้าร้านไป ทันทีที่เข้าร้านแจ๊คถอดหมวกทรงสูงของเขาออก ผมเองก็ฮูดเช่นกัน ในWhitechapel* แจ๊คบอกว่าร้านนี้อร่อยที่สุดแล้วและผมเชื่อเขาเพราะผมเองก็พึ่งมาลอนดอนครั้งแรก
    "นายอยากลองพายร้านนี้ไหม?"
    "จะเอาของหวานให้แล้วเหรอ?"
    "ฮะๆ ชาวต่างชาติก็มักจะคิดว่าพายเป็นของหวานนะแต่มันเป็นของคาวได้ อยากลองไหม?"
    "...."


    มันเป็นพายเนื้อวัว....อร่อยแฮะถึงจะชินกับอาหารเนปาลมากกว่าแต่อาหารที่นี่ก็ไม่เลว
    "นายชอบรึเปล่า?"
    "อือ"
    ของแจ๊คเป็นขนมปังเบค่อนและไข่เขาทานได้ช้ามากผมทานเกือบจะหมดแล้วเขาก็ยังทานได้ครึ่งเดียวอยู่เลย อาจจะเป็นเพราะผมชินกับการกินอาหารในค่ายทหารไปแล้ว อาหารที่นั่นมันห่วยแตกและมีเวลากินที่จำกัด ครั้งสุดท้ายที่ได้กินของอร่อยก็คงจะเป็นอาหารฝีแม่ถ้าไม่รวมมื้อนี้ที่แจ๊คเลี้ยง
    "นายกินเร็วจังนะ"
    ใช่...ผมรู้ เร็วมาก
    "โทษทีมันเสียมารยาทรึเปล่า?"
    "หึ เปล่าหรอก:)"
    "ตอนอยู่ที่ค่ายทหาร จะกินอาหารแต่ละมื้อมันจำกัดเวลาน่ะก็เลยชินกับมันไปซะแล้ว"
    แจ๊คผงกหัวเพื่อบอกว่าเขาเข้าใจเพราะปากเข้าไม่ว่างตอบ 
    "นายเอาแต่วาดรูป ไม่เบื่อเลยเหรอ?"
    ผมถามตอนที่เขากลืนอาหารในปากไปแล้ว รอยยิ้มมีเสน่ห์ถูกส่งมาให้ก่อนจะตอบอย่างเป็นมิตร
    "เบื่อสิ...เบื่อมากเลยล่ะ"
    นี่ผมคิดไปเองหรือว่าน้ำเสียงเขามันเย็นยะเยือกแปลกๆเวลาที่เขาพูดแบบนั้น
    "แล้วนายทำยังไงตอนที่เบื่อเหรอ?"
    "ฮะๆ ก็เดินเที่ยวล่ะมั้ง"
    แจ๊คกินเสร็จ เขาจิบน้ำ เช็ดปากแล้วหยิบหมวกขึ้นมาสวม มารยาทอย่างงาม เข้...
    "นายมาเดินเที่ยวด้วยกันหน่อยไหมฉันเบื่ออีกแล้ว^^?"
    แน่นอนผมก็ต้องไปอยู่แล้วเพราะมันเป็นงานในการคุ้มกันเขา 
    "เคยทำผิดกฏหมายมาก่อนรึเปล่า?"
    ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆคนข้างๆก็เริ่มบทสนทนาแบบนั้นขึ้นมา
    ".....ไม่นี่"
    แน่นอนว่าใครๆก็ต้องโกหกอยู่แล้วจะให้ผมพูดว่า ตอนนั้นเป็นทหารเนปาลมันรายได้น้อยก็เลยรับจ้างทำงานสกปรกให้ประเทศอื่นบ้างเพราะเห็นแก่เงิน มันก็ไม่ใช่นี่ถูกไหม? แต่ก็เพราะว่าอยากเลิกทำงานสกปรกนั่นแหละถึงได้ยอมเข้าร่วมเกมบ้าๆนั่น
    "นายถามทำไม?"
    ผมถามคืนบ้างแจ๊คยักไหล่ก่อนจะยิ้มแห้งๆ
    "แค่ชวนคุย...อันที่จริงฉันเคยนะ"
    "นายทำอะไรล่ะ?"
    "ก็ซื้อของในตลาดมืดน่ะ"
    "หึ ไม่กลัวฉันบอกคนอื่นรึไง"
    ผมถามพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์เป็นการหยอกเขาเล่นๆ เจ้าตัวส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
    "ฉันไว้ใจนายนะ นายดูเป็นคนดี"
    "...."
    ไอ้หมอนี่ โคตรติ๋มเลย ผมเนี้ยนะน่าไว้ใจ?
    "ไว้ใจคนอื่นง่ายไปแล้ว"

    เราเดินไปตามทางระหว่างนั้นผมก็ฟังเสียงของแจ๊คที่ฮัมเพลงอยู่ตลอดจนกระทั่งเราเดินผ่านโบสถ์ที่ดูคุ้นตาเอามากๆสำหรับผม...


    "....."
    โบสถ์นั่น...
    ...เหมือนทุกอย่างมันหยุดนิ่งไปหมด ผมจำโบสถ์แดงนี่ได้นะแต่ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่...
    "....หืม?"
    แจ๊คหันมามองผมที่อยู่ๆก็หยุดนิ่งไปและจ้องโบสถ์นี่ไม่ละสายตา เขาเอียงคอด้วยท่าทีติ๋มๆของเขาก่อนถามผมเสียงเรียบ
    "นายดูหน้าซีดนะ"
    "....."
    "ว่าแต่...นายรู้จักโบสถ์นี่รึเปล่า...?"
    เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกตื่นตระหนกเหมือนกินปูนร้อนท้อง เจอไอ้ฆาตกรนั่นก็แย่พอแลัวรอบนี้เจอทั้งโบสถ์นี่อีก นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรวะเนี้ย!?
    "ก็...ตอนเด็กๆฉันมาทีนี่บ่อยนะ มันเคยสวยกว่านี้ ตอนนี้มันถูกทิ้งให้ร้างไปแล้ว:)"
    "....ฉันขอเดิน...ไปรอบๆที่นี่ได้ไหม...คนเดียว"
    "สนใจสินะ^^ งั้นอีกสามสิบนาทีเจอกันตรงนี้นะฉันจะไปแวะร้านตุ๊กตาแก้วที่หัวมุม"
    ผมผงกหัวเมื่อแจ๊คเดินไปจนลับสายตา ก็ถึงเวลาเดินเข้าไปในโบสถ์นี่แล้วเริ่มสำรวจ มันดูเหมือนโบสถ์ปกติไม่มีที่แขวนคอไม่มีเครื่องถอดรหัส ไม่มีเลือดของเทรซี่ มาร์ธ่าหรือ....เฮเลน่า ป้ายหลุมศพเองก็ไม่ได้เก่าเหมือนตอนนั้น.... 
    พอสำรวจด้านในโบสถ์มันดูสวยและปกติดีแต่มันไม่ปกติตรงชื่อบนป้ายหลุมศพสองอันนี้ตรงหลังโบสถ์นี่สิ
    "....เวร..."

    [Helena Adams]
    หลุมศพของ....เฮเลน่า...

    [Tracy Reznik]
    พระเจ้า...เทรซี่....

    พวกเธออยู่ในหลุมไปแล้ว.... 
    การตายของเทรซี่และเฮเลน่าเป็นเรื่องที่ฝังใจผมมาตลอด....ฝันเห็นเห็นพวกเธอทรมาณทุกคืนแต่ก็ต้องมานั่งปลอบตัวเองว่ามันไม่ใช่ความผิดผม....และผมจะทำแบบนั้นอีกเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียสติไปมากกว่านี้
    "...."
    มะ...ไม่หรอก....มันไม่ใช่ความผิดผมซักหน่อย....ไม่ใช่...ไม่ใช่....
    มันไม่ใช่ความผิดผมนะ...
    "เธอร้องขอให้นายช่วยแทบตายเลยนะรู้ไหม?"
    "!!!!"
    เสียงกระซิบที่ข้างหูทำให้ผมถึงสะดุ้งแล้วล้มลง ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นร่างสูงใหญ่ของไอ้ฆาตกรนี่ก็คร่อมเอาไว้ก่อนจะล็อคมือจนไม่สามารถขยับได้ เคยคิดว่ามันจะเคลื่อนไหวในตอนกลางคืนให้ตายสิ!! ตอนนี้ต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ! ผมไม่เคยรู้สึกตัวเลยเวลาที่มันเข้ามาใกล้ ไอ้โรคจิตนี่มันหายตัวได้รึไงวะ!? ในตอนนี้ร่างกายมันสั่นไปด้วยความกลัวและความโกรธปนกันมั่วไปหมด ผมหยิบมีดพกขึ้นมาไม่ได้ด้วยซ้ำ เวร!!!
    "กะ...แก!?"
    "ฮะๆๆ โกรธฉันขนาดเลยเหรอ?"
    ถึงจะมองไม่เห็นหน้าเขาในตอนนี้แต่เดาว่ามันคงเยาะเย้ยผมอยู่แน่ๆ แม่งเอ้ย!!
    "เฮ้อ...ตอนนั้นยัยตาบอดขอให้นายมาช่วย แหกปากจนน่ารำคาญเลยนะรู้ไหม:)"
    "เพราะแกฆ่าเธอไม่ใช่รึไง!?"
    ไม่ใช่....มันไม่ใช่ความผิดผม!
    "หืม....เมื่อกี้แกว่ายังไงนะ? ฮ่าๆๆๆ!!!"
    ผมกัดฟันไปด้วยความโมโหกับเสียงหัวเราะอันน่ารังเกลียดนี่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก
    "แกหัวเราะอะไรวะ!!?"
    "พระเจ้า แกมันน่าสมเพชสิ้นดี นี่แกโทษฉันเหรอ โทษฉันที่เป็นผู้ล่าน่ะนะ? หน้าที่นายต่างหากที่ต้องช่วยเธอ....ที่ทำอยู่ตอนนี้นายก็แค่พยายามไม่โทษตัวเอง โอ้ววว~ ใช่ไหมล่ะ? ฉันเดาถูกรึเปล่า?"
    "หุบปาก....หุบปาก!!"
    "โทษฉันให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะ? มันทำให้นายรู้สึกดีขึ้นใช่ไหม?"
    "....หนวกหู!!"
    "ฮ่าๆๆๆ!!! แกโทษทุกๆอย่างรอบๆตัวแกเพื่อให้ตัวเองดูสูงขึ้น แม้แต่เรื่องที่แกฆ่าเด็ก9ขวบ แกก็ยังจะโทษนายจ้างของแก ถามจริงๆเลยนะ"
    ใบหน้าที่ถูกปกปิดโดยหน้ากากสีขาวยื่นเข้ามาใกล้ๆแล้วจะซิบข้างหูเพื่อบังคับให้ผมต้องฟังสิ่งที่มันพูดแม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตาม
    "ทำไมตอนนั้นแกไม่สงสัยเลยล่ะ ว่าทำไมนายจ้างแกถึงไม่ลงมือทำงานง่ายๆแบบนั้นด้วยตัวเอง?"
    "...."
    "เร็วเข้าสิ~~ ตอบฉันหน่อยนะ~"
    "...."
    "หึ แกรู้อยู่แกใจว่างานที่แกทำมันสกปรก แต่แกมองข้ามมัน เพราะแกสนแค่เงิน แล้วยังมาเสร่ออยากจะเป็นคนดีเข้าร่วมเกมนั่นเพื่อล้างประวัติตัวเอง โดยหวังจะได้เริ่มต้นใหม่อย่างสวยหรู"
    "...."
    "ฉันพูดถูกไหม:)"
    มันพูดถูก ในตอนนี้มันไม่ได้ล็อคร่างของผมไว้ด้วยซ้ำแต่ผมกลับไม่สามารถลุกขึ้นมาหยิบมีดแล้วสู้กับมันได้ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีแรงแต่...
    เป็นเพราะผมรู้ตัวแล้วว่าตัวเองไม่คู่ควรจะทำแบบนั้น ผมมันไม่คู่ควรกับชีวิตที่สวยหรูในหัวเลย...
    "โอ้....นายร้องไห้ซะแล้ว โถ่ๆๆ"
    "...."
    "ฉันล่ะสงสารนายจริงๆ ไม่ต้องห่วงนะ....อีกเดี๋ยวฉันจะให้ในสิ่งที่นายสมควรได้เอง"
    ไอ้ฆาตกรใช้มือเรียวเชิดคางผมขึ้นก่อนจะง้างกรงเล็บเตรียมตัดคอผมให้ขาด ในตอนนั้นแทนที่จะต่อสู้ผมกลับหลับตาลงแล้วน้อมรับในสิ่งที่ตัวเองสมควรได้....
    ความตาย....
    "....."
    "ฮึก..."
    "ไม่ดีกว่า....มันเบื่อเกินไป"
    "...."
    "ฉันว่าฉันรอดูนายทรมานดีกว่าที่จะเห็นนายตายไปเฉยๆ:)"
    มันค่อยๆใช้กรงเล็บกรีดคอผมให้เป็นทางยาวก่อนจะลุกออกไป ปล่อยให้ผมนอนอย่างนั้น....
    มันแค่ทำให้คอผมเป็นแผล...ไม่ได้ฆ่า... 
    ในตอนนี้ได้แต่คิดว่าควรจะดีใจรึเปล่าที่รอดกลับมา ผมนั่งมองหลุมศพที่สลักชื่อของเฮเลน่าและเทรซี่แล้วด่าตัวเองว่าไอ้งั้งๆอยู่นานจนกระทั้ง...

    "เอ่อ....นายทำอะไรน่ะ?
    น้ำตาที่คลออยู่ถูกเช็ดอย่างลวกๆก่อนจะคุยกับแจ็คโดยที่ไม่หันไปสบตาเขา
    "ไง..."
    การพยายามทำให้เสียงตัวเองไม่สั่นมันยากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่...
    "นายร้องไห้?"
    "เปล่า"
    "เกิดอะไรขึ้น?"
    "บอกว่าเปล่าไง!!"
    "...."
    "...."
    ผมหายใจช้าๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันไปหาเขาเพื่อขอโทษ
    "ขอโทษที่ตะคอกนะ..."
    แจ๊คยิ้มอย่างอ่อนโยนเขาเข้ามาใกล้ๆราวกับไม่ถือโทษอะไร
    "ไม่เป็นไร.... :)"
    "....."
    "....."
    "...นายอยากลองกอดคนที่ตัวเย็นๆอย่างฉันไหม? บางทีมันอาจจะช่วยได้"
    ทันทีที่ร่างสูงอ้าแขนด้วยท่าทีติ๋มๆอย่างเขามักจะทำ ผมเอาหัวชนกับอกกว้างของแจ๊คก่อนที่เจ้าตัวจะโอบกอดผมเอาไว้ นั่นยิ่งทำให้บ่อน้ำตามันไหลราวกับเขื่อนแตก
    "ฮึก..."
    "ไม่เป็นไรแล้วนะ ฉันอยู่นี่:)" 





    มือเย็นเฉียบกำลังใช้ผ้าพันแผลพันรอบคอผมอย่างประณีประนอมไม่ให้มันแน่นเกินไปจนรัดคอผม
    "...."
    "ใครทำร้ายนายเหรอ?"
    "....."
    "ฉันรู้มันพูดยากนะ แต่ฉันแค่อยากจะช่วยนายบ้างก็เท่านั้น"
    "....ขอบคุณ"
    ผมสบตาคนตัวใหญ่ตรงๆแล้วพูดมันออกมา แจ๊คยิ้มอย่างสุภาพบุรุษมันดูอ่อนโยนและทำให้สบายใจเสมอ
    "ไม่ใช่แค่เรื่องทำแผลให้นะ....หมายถึง--"
    "ฉันรู้"
    "อืม..."






    *เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
    Whitechapel คำนี้อ่านว่า ไวต์ ชา เปล ไรท์ไม่แน่ใจว่าเขียนคำนี้ในภาษาถูกรึเปล่าแต่ถ้าให้ตรงๆมันแปลว่าโบสถ์สีขาว ประเด็นคือWhitechapelเป็นย่านคนจนในLondon(ลอนดอน) ที่ในปี1888เกิดคดีJack The Ripper ขึ้น
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×