ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (One Direction) Gemero หล่ออย่างผมนี่แหละฮีโร่

    ลำดับตอนที่ #4 : ✿เมื่อ 18 ปีได้เลยผ่าน✿

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 57


    ตอนที่ 3 เมื่อ 18 ปีได้เลยผ่าน

                    “แม่….. ลูอิสเอากางเกงในผมไปซ่อน อีกแล้ว” เสียงเด็กหนุ่มผมหยิกหยองสีน้ำตาลร้องลั่นบ้าน เขาวิ่งลงบันไดบ้านพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กที่ห่มท่อนล่างไว้ แต่หารู้ไม่ว่าสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ ภาพที่พวกเขาได้เห็นตรงหน้าทำเอาทุกคนหัวเราะจนสำลักข้าวกันเป็นแถบๆ

                    “แฮร์รี่ ทุเรศน่า ขึ้นไปแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วลงมากินข้าวเร็วๆ” หนุ่มหล่อเครางามผมดำคนเดียวของบ้านเอ็ดตะโรน้องชายยกใหญ่

                    “เซน นายก็บอกให้บูแบร์เอากางเกงในมาคืนฉันสิ ฉันจะได้แต่งตัวไปทำงานสักที วันนี้มีถ่ายแบบแต่เช้าด้วย”

                    “เลิกเรียกฉันว่าบูแบร์สักที แล้วนายทำไมถึงคิดว่าฉันเอากางเกงในสุดรักของนายไปหล่ะ” ลูอิสพูดไปซดซุปแครอทของโปรดเขาไป

                    “ก็เพราะไม่มีใครเข้ามาในห้องของฉันได้ นอกจากนาย เพราะนายชอบควบคุมประตูให้เปิดออกได้เอง และก็ควบคุมกางเกงในฉันให้มันลอยไปซ่อนได้ไง” แฮร์รี่พูดด้วยอารมณ์ฉุน ลูอิสส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะน้องชายของตัวเองเดาทางถูกต้องทุกข้อ ทำให้เขาหมดสนุก เขาจึงชูมือขึ้นมา หลังจากนั้นกางเกงใน 12 สี 12 ตัวของแฮร์รี่ก็ส่งคืนสู่เจ้าของ แต่กลับยิ่งทำให้ทุกคนสำลักอาหารอีกรอบ เพราะเมื่อแฮร์รี่กระโดดหยิบกางเกงในของตัวเองทั้ง 12 ตัว ผ้าขนหนูผืนบางๆ ก็ได้วางแผ่ลงพื้น

                            หนุ่มผมบรอนซ์ทอง ไนออล ฮอแรน เด้งตัวขึ้นจากโต๊ะและคำรามลั่น ทำเอาสลัดผักของเลียมหกระเนระนาด

                    “แฮร์รี่ นายทำให้ฉันกินพายฟักทองไม่อร่อย นายต้องชดใช้ให้ฉันอีก 10 เท่า

    ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………...

                    “พ่อไซม่อน แม่แอน พวกเราไปทำงานก่อนนะคร้าบบบบ…” ทั้ง 5 หนุ่มพูดเป็นเสียงเดียวกัน ทั้งหมดต่างผลัดกันหอมแก้ม แอน ค็อกซ์ เรียงตัว

                    “เลียมรักแม่ครับ”

                    “ฉันรักแม่มากกว่า”

                    “หุบปากน่าลูอิส ไนออลรักแม่ที่สุดครับ”

                    “ดูแลบ้านดีๆ นะครับ”

                    “หลบไปเซน ฉันยังไม่ได้จุ๊บแม่เลย”

                    ทุกคนเข้ามารุมล้อมคุณแม่ที่น่ารักของพวกเขาอย่างนี้เช่นทุกวัน และมักนั่งรอคำอวยพรก่อนไปทำงานทุกครั้ง ซึ่งวันนี้ก็ไม่ได้ผิดแปลกไปจากทุกวันมากนัก

                    “ลูกๆ ทุกคน ไปทำงานดีๆนะ และอย่าลืม สร้อยที่ลูกต้องเอาติดตัวไปด้วย สร้อยที่พ่อแม่ให้ลูกๆใส่ มันจะนำลูกไปหาสิ่งที่คล้ายกัน เพื่อพอรวมกันครบทั้ง 5 มันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเริ่มต้นอีกครั้ง” แอนเอาสร้อยที่ประดับจี้พลอยหลากสี 5 เส้นแขวนใส่คอลูกๆ ทั้ง 5 คน แฮร์รี่ทำปากเบ้ทันที แล้วพูดเสียงอ่อยๆว่า

                    “แม่ฮะ เราใส่ออกไปทุกวัน แม่บอกว่ามันจะเรืองแสงถ้าเจอสิ่งที่เราต้องการ แต่ผมก็เห็นมันเรืองแสงตลอดเวลาที่พวกเราใส่ แต่ก็แค่นั้น ไม่เห็นเจออะไรที่แม่ว่าเลย ผมว่าเราเลิกหวังเหอะครับ แล้วการปกป้องเมืองที่แม่ว่า ผมมันไร้สาระ สภาพอากาศแปรปรวน แผ่นดินไหวแค่ตอนปีสองปีเองไม่ใช่หรอครับ ที่แม่เล่าให้พวกเราฟัง แต่ตอนนี้ก็ปกติดีแล้วนิครับ”

                    “ใช่ลูก มันปกติดีแค่ตอนนี้ ลูกจะเชื่อหรือเปล่าแม่ไม่รู้ แต่แม่เชื่อในปรากฏการณ์ แม่เชื่อ ลูกแค่ทำตามที่แม่บอก แล้วลูกก็จะเห็นเองว่ามันมากกว่าที่ลูกคิด”

                    “ครับ… งั้นพวกผมไปทำงานก่อนนะครับ” ทุกคนลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากประตูบ้านไป

                    “ถึงพี่ๆ เขาจะไม่เชื่อในปรากฏการณ์ แต่แอลเชื่อนะคะ” เสียงเด็กสาววัย 17 ปีปรากฏขึ้นพร้อมกับการกระโจนเข้าสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ เธอผู้เป็นเด็กสาวที่ไม่เคยมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่ในใบหน้าแสนน่ารักของเธอ แม้จะอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นที่มีแม่แอน คอกซ์ และพ่อไซม่อน โคเวลล์ และพี่ๆ ที่คอยดูแลเหมือนไข่ในหิน อาจยกเว้นแฮร์รี่พี่ชายแท้ๆที่ไม่ค่อยดูดำดูดีกับเธอเท่าไร หลายคนคิดว่าแอลเบอร์ตา โคเวลล์มีเรื่องราวอะไรในใจ หรือแท้จริงแล้ว สาวน้อยผมหยิกหยองสีน้ำตาลคล้ายพี่ชายของเธอ เธอแค่ยิ้มไม่เป็นเท่านั้นเอง

    ………………………………………………………………………………………………………………..

                    ลูอิสขี่มอเตอร์ไซค์รุ่นลายครามลิมิเต็ดสีเลือดหมูพาน้องชาย “ไนออล” ไปยังภัตตาคารกรีนส์เนอรัล ที่ทำงานของผู้เป็นน้องชายพร้อมกับส่งจดหมายไปยังบ้านหลังต่างๆระหว่างทางตามหน้าที่การงานประจำวันของลูอิสเอง

                    “ถึงแล้ว หมูพลุ้ย” ลูอิสเรียกฉายาน้องชายนักกินโอลิมปิก ไนออลทำหน้ามุ่ยแล้วลงจากลง

                    “ขอบคุณบูแบร์ แบร่..” ไนออลแลบลิ้นปลิ้นตาให้ผู้เป็นพี่ชาย แล้วรีบวิ่งเข้าสู่ประตูภัตตาคารอันโอ่อ่าทันทีทันใด เมื่อก้าวเข้าประตูก็เห็นทุกคนยืนเรียงกันอย่างกับกษัตริย์แห่ง 5 แคว้นจะเสด็จ

                    “ไนออล รีบมายืนเข้าแถวเร็ว ต้อนรับเจ้าของภัตตาคารคนใหม่” สิ้นเสียงเพื่อนร่วมงาน ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของเขาเลยคือ แค่เปลี่ยนเจ้าของร้านต้องต้อนรับกันใหญ่โตขนาดนี้เลยหรอ

                            “อ่าว แล้วใครจะมาเป็นเจ้าของภัตตาคารกรีนส์เนอรัลแทนคุณอัลเบิร์ต กรีน หล่ะ” เขาถามด้วยความสงสัย และเหมือนเพื่อนร่วมงานของเขารอคำถามนี้มานานแล้ว

                    “คุณอัลเบิร์ต กรีน อายุอานามก็มากแล้ว และกำลังจะขยายสาขาไปลอนดอน เขาเลยมอบสาขาที่คาลดิโอนี่นี้ให้ลูกสาวเขาดูแล เป็นของขวัญวันเกิดลูกสาวอายุครบ 20 ปีด้วย โอ๊ย ถ้าฉันมีพ่อแบบนี้ รักตายเลย นั่นไง เธอมาแล้ว” ไนออลหันขวับทันทีที่ได้ยินเพื่อนร่วมงานบอกให้มองไปยังเจ้านายคนใหม่ของเขา ตาของเขาหรี่เล็กลงทันทีที่ได้เห็นเจ้าของร้านคนใหม่ เธอไม่มีออร่าเจ้าของกิจการแม้แต่นิดเดียววววว… ตัวเตี้ย! ใส่เสื้อยืดกับเอี๊ยมเด็ก! หน้าอกก็แบน!  หน้าตาห่างไกลกับคำว่าน่าเกรงขาม! อะไรรรรรเนี่ยยยยยย…..

                    “สวัสดีคุณเอมี่ กรีน” ทุกคนในร้านพูดคำที่เตรียมกันไว้ ยกเว้นไนออล เมื่อสาวเจ้าเห็นลูกน้องหนึ่งคนไม่ยอมให้ความเคารพเธอ สัญชาตญาณก็บ่งบอกให้ทำอะไรกับลูกน้องบ้าคนนี้สักที

                    “เฮ้ ทำไมนายไม่พูดหล่ะ สวัสดีคุณเอมี่ กรีน พูดสิ” สาวน้อยเจ้าของร้านคนใหม่เดินดุ่มเข้าไปกระชากเสื้อและคำรามทันทีที่เห็นหนุ่มผมบรอนซ์ขัดใจ

                    “ตลกละ สาบานว่านี่คือเจ้านายใหม่ของผม เป็นเจ้าของร้านอาหารแต่ทำอาหาร สั่งงานลูกน้องไม่ได้เรื่องผมก็ไม่โอเคนะ” ไนออลส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แต่มันกลับสร้างอารมณ์ฉุนให้เอมี่อย่างฉุดไม่อยู่

                    “เอาซิ๊… นายก็มาแข่งกับฉันดูไหมหล่ะ เดี๋ยวช่วงบ่ายบริษัทของครอบครัวสมิทจะมารับประทานอาหารที่นี่ ใครทำให้พวกเขารับประทานอาหารที่ตัวเองทำได้หมดก่อน คนที่แพ้ต้องทำอะไรก็ได้ที่คนชนะสั่ง ตกลงไหม… โอเค ตามนั้น”

                    “เฮ้ นั่นมันมัดมือชกนี่” ไนออลเอ็ดตะโรลั่นร้าน พนักงานคนอื่นมองสองคนท้าแข่งด้วยอาการงงๆ และแอบเอาใจช่วยไนออลให้ชนะ เพราะรู้กันอัตโนมัติว่าถ้าเอมี่ กรีน เจ้าของร้านคนใหม่ชนะ คงจะสั่งให้ไนออลออกจากร้านเป็นแน่….

    ………………………………………………………………………………………………………………..

                    ในที่สุด เวลาที่ครอบครัวสมิทจะมารับประทานอาหารก็มาถึง ประตูสีขาวแวววาวเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของคุณแซ๊ค สมิท บริวารที่น่าเกรงขาม และลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของเขา รวมทั้ง…

                    “เฮ้ เลียม นายเป็นบอดี้การ์ดให้ครอบครัวสมิทหรอ ? ” ไนออลวิ่งออกมาจากห้องครัวเมื่อสายตานกอินทรีย์ของเขามองเห็นพี่ชายตนเองในระยะไกลมากกก… และเสียงกระโตกกระตากของเขาก็ทำให้ทั้งเลียม ทั้งแขก ทั้งพนักงาน รวมถึงเจ้าของร้านคนใหม่ต่างตกใจมองมาที่ไนออลกับใหญ่ แต่ยังไม่ทันที่ไนออลจะวิ่งไปถึงตัวเลียม ก็โดนเอมี่ฉุดให้กลับเข้าไปในครัวจนได้ …เฮ้อ  ฉันอยากวิ่งเร็วเหมือนเซนก็ตอนนี้แหละ

                    “นี่ นายจะบ้าหรอ แค่เจอพี่ชายตัวเองทำอย่างกับเจอคู่เกย์ที่พลัดพรากกันมานาน ตอนนี้สิ่งที่นายต้องทำคือเตรียมตัวทำอาหารให้ครอบครัวสมิทและลูกน้องของเขา” เอมี่คำรามลั่น ทำเอาไนออลหงอยไปพักนึงแล้วเข้าไปประจำที่เตาของตัวเอง พลางบ่นขมุบขมิบลับหลังเอมี่ กรีน ส่วนเอมี่ก็เข้าไปรับออเดอร์ครอบครัวสมิทด้วยตัวเองในห้อง VIP อันโอ่อ่า ข้างในเป็นโต๊ะที่ทำจากกระจกสีเหลี่ยมสีดำมันเงา ประดับตกแต่งด้วยเก้าอี้กำมะหยี่สีครีมกว่า 10 ตัว บนโต๊ะจัดเตรียมช้อนส้อม และผ้ากันเปื้อนที่พับเป็นรูปหงส์สง่า บนเพดานห้อยโคมไฟคริสตัลราคาแพง  

                    “สวัสดีค่ะคุณสมิท ทางเราเป็นเกียรติมากที่คุณสมิท ประธานสัมปทานน้ำมันขนาดใหญ่แห่งเพริดอตและครอบครัวของคุณมารับประทานอาหารที่ร้านกรีนส์เนอรัลของเรา คุณสมิทจะรับอะไรดีคะ” เอมี่กล่าวต้อนรับอย่างสุภาพนิ่มนวลต่างจากตอนที่คุยกับลูกน้องตัวแสบของเธอมาก เธอมองคุณแซ๊คกับลูกสาวของเขาเลือกเมนูอาหารอย่างใจจดใจจ่อ พร้อมจ่อปากกาลงบนกระดาษเขียนเมนูเตรียมพร้อม

                    “ฉันเอาเนื้อวัวอบและยอร์กเชียร์พุดดิ้ง แล้วก็ชาบัตเตอร์สก๊อต แล้วลูกเอาอะไร” เอมี่จดอย่างตั้งใจ พร้อมกับเงี่ยหูฟังลูกสาวของคุณสมิทสั่งอาหาร

                    “ดีเลย ร้านนี้มีอาหารอังกฤษ ฉันกินอาหารอเมริกันจนเอียนจะแย่ เอาอะไรดีหล่ะ น่ากินทุกอย่างเลย …งั้นเอา เพนเน่ซีฟู้ด แล้วก็ดาร์จิลิ่ง จัมเปอร์ ขอโยเกิร์ตธรรมชาติอีกถ้วยด้วยนะ” ลูกสาวของคุณสมิทสั่งอาหารอย่างตื่นเต้น เหมือนกับว่าไม่เคยรับประทานอาหารอังกฤษมาก่อน ส่วนคุณสมิทก็เรียกให้ลูกน้องของเขาสั่งอาหารกันตามสบาย ทำเอาเอมี่จดออเดอร์ไม่ทัน จึงเรียกให้พนักงานคนอื่นๆช่วยกันจด จนเมื่อสั่งอาหารกันครบทุกคน เอมี่ก็นำออเดอร์ไปส่งในห้องครัว เมื่อเอมี่เดินออกไปจากห้อง VIP คุณแซ๊ค สมิท ก็ประชุมกับลูกน้องของเขา พร้อมกับลูกสาว

                    “ที่ฉันเรียกทุกคนมาในวันนี้ เพราะว่าฉันจะให้ทุกคนได้ต้อนรับลูกสาวของฉันที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกา โซเฟีย สมิท” ลูกน้องต่างปรบมือกันอย่างเกรียวกราว โซเฟียยืนขึ้นโค้งตัวอย่างสง่าราวกับเป็นเจ้าหญิง

                    “ตอนนี้ โซเฟียก็ย้ายมาอยู่กับฉันถาวรแล้ว ฉันเกรงว่าเมื่อลูกสาวของฉันออกไปพบปะผู้คนภายนอก อย่างที่เรารู้ๆกันดี พวกคู่แข่งทางธุรกิจ และโจรร้ายก็คงจะเห็นหนทางในการทำร้ายดอกไม้ของฉัน เพื่อทำให้ฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สิ่งที่ฉันต้องการตอนนี้คือ…. บอดี้การ์ดประจำตัวโซเฟีย” สิ้นคำคุณสมิท โซเฟียไม่พอใจจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่คุณสมิทจับไหล่กดลงแล้วกระซิบกันอย่างเบามาก

                    “ไม่สุภาพโซเฟีย”

                    “พ่อคะ ฉันดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องการบอดี้การ์ด”

                    “ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่โซเฟีย ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพ่อ เลิกคิดเรื่องนั้นแล้วเชื่อฟังฉันโดยดี” คนเป็นพ่อยื่นคำขาดจนโซเฟียต้องยอมจำนน นั่งบนเก้าอี้แล้วปิดปากเงียบตลอดการสนทนา

                    “เลียม” เมื่อคุณสมิทเรียกชื่อเขา หนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มกล้ามล่ำก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างองอาจ และขานรับเจ้านายของเขาด้วยเสียงที่มั่นใจ

                    “ครับคุณสมิท”

                    “ในบรรดาบอดี้การ์ดทั้งหมดของฉัน ฉันไว้ใจเธอที่สุด ดูแลลูกสาวฉันให้ดีๆ ถ้าลูกสาวฉันมีรอยขีดข่วนแม้แต่ปลายเล็บ เธอคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เสียงในห้องอาหารเงียบกริบไปในทันที จนเป็นเลียมที่มาทำลายความเงียบชวนอึดอัดนี้

                    “ผมจะดูแลคุณหนูสมิทให้ดีที่สุด ดูแลให้ดียิ่งกว่าชีวิตของผมเองครับ”

                    สิ้นเสียงของเลียม พนักงานเสิร์ฟก็ยกอาหารมาเป็นขบวน กลิ่นอบอวนทั่วห้อง เมื่อทุกจานประจำที่ นาทีแห่งการสังสรรค์ก็มาถึง เด็กเสิร์ฟทั้งหลายคอยเติมน้ำ เสิร์ฟอาหารเรื่อยๆ ดูแลบริการอย่างดี ส่วนเอมี่และไนออลก็ยืนอยู่ข้างๆกันรอดูว่าศึกเจ้านายลูกน้องครั้งนี้ ใครจะเป็นฝ่ายชนะ

    ………………………………………………………………………………………………………………..

                    เวลาผ่านไปสักพัก คุณสมิทรับประทานเนื้อวัวอบและยอร์กเชียร์พุดดิ้ง จนเหลือคำสุดท้าย ในขณะที่โซเฟียก็รับประทานเพนเน่ซีฟู้ดเหลือแค่กุ้งตัวสุดท้ายเหมือนกัน โซเฟียจิ้มส้อมของตัวเองลงไปยังเนื้อวัวคำสุดท้ายของผู้เป็นพ่อแล้วจิ้มกุ้งของตัวเองไปด้วย แล้วรับประทานพร้อมกัน คุณสมิทติติงลูกสาวในกิริยาที่ไม่ค่อยเหมาะสม แต่โซเฟียไม่สนใจ ส่วนไนออลและเอมี่ที่ลุ้นในทุกคำของสองพ่อลูก ต่างฉงนสงสัยว่าตกลงใครเป็นผู้ชนะกันแน่ ในเมื่ออาหารหมดพร้อมกัน

                    “ขอโทษนะคะ ฉันขอเพิ่มจานเนื้อวัวอบและยอร์กเชียร์พุดดิ้งค่ะ” โซเฟียสั่งอาหารเพิ่มอย่างอารมณ์ดีไม่สนใจแคลอรีในร่างกาย คุณสมิทเห็นลูกสาวมีความสุขก็อดอมยิ้มไม่ได้ เขาชูสองนิ้วให้เอมี่ที่จดออเดอร์อย่างไม่สบอารมณ์ เธอและไนออลเดินออกจากห้องอาหารไปยังห้องครัวซึ่งไม่ไกลกันเท่าไร

                    “ฮ่าฮ่าฮ่า ขอเพิ่มอีก 2 จาน แสดงว่าเนื้อวัวอบและยอร์กเชียร์พุดดิ้งที่ฉันทำคงจะอร่อยเหาะไปเลยสินะ สองพ่อลูกลืมสั่งเพนเน่ซีฟู้ดไปสนิท คงไม่ต้องบอกนะว่าใครเป็นผู้ชนะ โว้วววว… ทีนี้ฉันจะให้เธอทำอะไรดีหล่ะ คุณเจ้านาย” ไนออลเยาะเย้ยอย่างผู้ชนะ เอมี่รู้สึกอย่างจะรัวต่อยลูกน้องจอมยียวนคนนี้นัก แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนี้เธอยืนอยู่ในตำแหน่งของผู้แพ้

                    “เอาสิ ฉันให้ฉันทำอะไรก็รีบพูด”

                    “เก็บไว้ยามจำเป็นดีกว่า” ไนออลเดินส่ายมือเต้นรำอย่างอารมณ์ดี เดินไปที่เตาทำเนื้ออบออเดอร์ครอบครัวสมิทสุดฝีมือ ไม่สนใจหญิงสาวที่กำมือด้วยความรู้สึกเจ็บใจ

    ……………………………………………………………………………………………………………….
    เย้ๆ จบอีก  ตอน อย่าลืมคอมเม้นต์ให้กำลังใจไรต์เยอะๆนะคะ 
    . MINOR


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×