คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : sweetMafia : C.3 --100%--
.
.
.
C.3
.
.
.
(ลงฉาก +++CUT+++ ที่ถูกตัดไปเรียบร้อยแล้วนะคะ
ตามหาฉากนี้ได้ที่ คอมเม้นที่ 10 ของตอนนี้ ^^)
ติณลืมตาที่หนักอึ้งอย่างช้าๆ พยายามจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องล้มตัวลงท่าเดิมในทันที เจ็บชะมัด
ติณพยายามฝืนลุกอีกครั้งเพื่อไปเข้าห้องน้ำ นับว่ามันยังใจดีกับเขามากห้องเล็กที่มันว่าเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว
ติณเดินเข้าไปในห้องน้ำเปิดฝักบัวราดน้ำให้ทั่วตัว หวังเพียงเพื่อจะล้าง ล้างกลิ่นอายที่ติดตัวเขาออกให้หมด ล้างคราบหรืออะไรที่มันเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงความย่อยยับในศักดิ์ศรีของเขาที่แทบไม่เหลืออีกต่อไป
ทำไมต้องทำร้ายเขาขนาดนี้ ทั้งๆที่เขาไม่ได้เป็นคนขโมยกระเป๋าใบนั้นซักหน่อย เขาแค่มาเดินเล่นยามเย็นที่ถนนคนเดินแค่นั้น เห็นชายคนหนึ่งวิ่งตรงมาทางเขาด้วยท่าทีรีบร้อนเหมือนหนีอะไรมาซักอย่าง บางอย่างในตัวเขามันบอกให้คว้ากระเป๋าในมือผู้ชายคนนั้นเอาไว้ เขาจัดการสกัดขาโจรแล้วช่วงชิงกระเป๋ามาอยู่ในมือ เมื่อเห็นว่ามันมีท่าทีจะแพ้เขา ไอ้โจรตัวดีก็วิ่งหนีไป ทั้งๆที่เขาก็ยังแอบงงอยู่เหมือนกัน นี่มันไม่ทำร้าย หรือ พยายามแย่งกระเป๋าคืนเลยเหรอ
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไร ชายชุดดำสองคนที่มีสิงห์ติดอยู่ที่อกเป็นเข็มกลัดสีทอง ก็เข้ามารวบตัวเขาทั้งๆที่เขายังไม่ทันได้ทำอะไร จะพยายามดิ้นแค่ไหนก็ไม่เป็นผล เกียจร่างกายตัวเองชะมัด ไม่นานใครอีกคนก็เดินมา มันพยายามยัดเยียดความเข้าใจผิดคงรั้งนี้ให้เป็นความผิดของผมโดยตรง ทั้งๆที่ผมพยายามจะอธิบายหลายครั้งแต่ก็อย่างที่เข้าใจกัน...มันไม่เกิดผลกับคนไร้จิตใจอย่างนั้นหรอก แถมหมอนั่นยังพยายามดึงแก๊งพยัคฆ์เข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องนี้อีกด้วย
ยังดีที่เขายังไม่ทำพิธีสาบานตน เรื่องผู้ขึ้นครองแก๊งใหม่คงยังไม่ทันได้กระจายข่าวไปไกลซักเท่าไหร่ ไอ้หมอนี่มันถึงยังไม่รู้ เพราะเท่าที่คำนวณจากการเจอกันครั้งแรก ก็พอจะเดาออกว่าตำแหน่งในแก๊งของมันนั้นคงไม่ใช่ตำแหน่งเล็กๆ และก็คงไม่ยากเกินไปสำหรับแก๊งสิงห์ที่กำลังโดนหมายปองจากแก๊งของเขาที่จะพอหาข้อมูลได้ว่า ใครผู้ขึ้นครองแก๊งตัวจริงกันแน่ แต่เขาจะคิดว่านี่คือโชคของเขาก็แล้วกัน ที่ทำให้เขาเข้าใกล้สิงห์ได้รวดเร็วขนาดนี้
แม่ครับ แม่กำลังช่วยติณใช่ไหม ติณถึงได้เข้าใกล้แก๊งสิงห์เร็วขนาดนี้
สิ่งที่ตัวเขาได้เสียไป แม้มันจะเอากลับคืนมาไม่ได้ก็ใช่ว่าความเจ็บช้ำที่มีจะหายตามไป... แค่อยากให้สิงห์รับรู้เอาไว้บ้างว่าการมาปลุกพยัคฆ์ให้ตื่น มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง!!! ถ้าสิงห์อยากจะลองดี เขาก็กล้าจะทำให้เห็นเช่นกัน
“มึงอาบน้ำนานเกินไปแล้ว ให้เวลาอีกสามนาทีถ้ามึงไม่ยอมออกมา กูจะเข้าไปอาบให้เอง"
เสียงเรียกจากสิงห์ทำให้ติณรีบปิดน้ำจากฝักบัว คว้าผ้าเช็ดตัวในลิ้นชักเคาท์เตอร์หน้ากระจกในห้องน้ำมาพันตัวลวกๆไว้ก่อน ก็เขาไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนนี่...
“นึกว่าตายไปแล้วซะอีก นี่เสื้อผ้ามึง ใส่ไปก่อน”
ติณมองชุดที่สิงห์ยื่นให้แล้วถอนหายใจ
“เป็นบ้าอะไร อยู่กับกูแล้วจะตายหรือไง”
สิงห์คว้าคางเรียวของอีกคนมาบีบไว้แน่น จนร่างบางต้องเอามือมาดึงมือสิงห์ไว้เพื่อลดแรงบีบลงบ้าง
“เจ็บนะ!!!”
“เจ็บก็ดี!! จะได้ไม่กล้าหือกับกูอีก ที่นี่เป็นที่ของสิงห์ ถ้ำนี้เป็นของสิงห์ ไม่ใช่ของพยัคฆ์ อย่าคิดว่าจะหนีไปไหนได้ จำเอาไว้!!”
พูดจบสิงห์ก็สะบัดมือแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ติณยืนสกัดกลั้นน้ำตาเอาไว้กับคำพูดเมื่อซักครู่
เขาไม่ได้อยากทำลายศักดิ์ศรีของพยัคฆ์ เขาแค่ต้องการมาเพื่อหาความจริง และทำให้พยัคฆ์กลับมาโด่งดังเช่นเมื่อก่อนแค่นั้นเอง...
ติณสวมชุดที่ใหญ่กว่าร่างตัวเองอยู่มากโขเดินออกมานอกห้อง ด้านในบ้านเงียบสงัด บ่งบอกว่าภายในบ้านหลังนี้นอกจากเขาแล้วก็คงมีแค่ไอ้บ้าอำนาจอยู่กันแค่สองคนเท่านั้นละมั้ง
ติณเดินสำรวจบ้านไปเรื่อยเข้าห้องนู้นออกห้องนี้ นับว่าบ้านหลังนี้ออกแบบได้ดีมาก เขาชอบห้องนั่งเล่นมากที่สุด ตรงกลางห้องจะมีโซฟาวางกลางห้องสองตัววางชนด้านหลังผนักพิงชนกัน ด้านหนึ่งหันไปทางทีวีจอใหญ่มีดีวีดีวางระเกะระกะอยู่หลายเรื่อง ส่วนอีกตัววางหันหน้าไปยังบานกระจกใสที่มองเห็นสระว่ายน้ำได้ชัดเจน
...เขาชอบว่ายน้ำ...
“ออกมาก็ดีแล้ว ทำอาหารให้กูกินหน่อย อย่าทำตัวไร้ประโยชน์ไปวันๆ”
เสียงจากร่างสูงดังขึ้นทางด้านหลัง ติณหันไปมองเพียงชั่ววินาทีก็หันกลับอย่างรวดเร็ว ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากสนใจ...
“บอกว่าให้มาทำกับข้าวไง หูหนวกเหรอ!!”
“ไม่ได้หูหนวก กูแค่ไม่อยากทำ”
คำพูดของร่างบาง ทำให้สิงห์ถึงกับฉุนในอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบ ทำไมชอบขัดใจนักวะ...
“อยากอยู่สบายๆก็ไปอยู่ที่พยัคฆ์นู่น หรือต้องให้กูย้ำว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วมึงมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”
คำพูดของสิงห์ทำให้ติณต้องกัดปากแน่นข่มอารมณ์ความโกรธไว้ ท่องไว้ในใจว่าไม่ใช่ที่ของเรา ไม่ใช่วันของเรา...
ติณเดินหลบร่างสูงไปยังห้องครัวใช้เวลาเดินหาไม่นานเพราะเขาก็เดินสำรวจบางที่มาแล้ว และอีกอย่างบ้านหลังนี้ก็ไม่ได้ใหญ่มากเท่าไหร่ คงจะเหลือแค่ชั้นสองล่ะมั้งที่เขายังไม่ได้ขึ้นไปดู
ติณเปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรพอจะทำอาหารได้บ้าง เขาทำอาหารเป็นบ้างบางอย่างอาจไม่ถึงกับอร่อยมากแต่ก็พอกินได้ ไม่ตายหรือคายทิ้งในทันที เขาชอบทำอาหารเพราะพ่อชอบทำ ตอนเป็นเด็กเขาชอบมากวนพ่อในห้องครัวบ่อยๆ แม้ว่าบ้านเราจะมีแม่บ้านแต่พ่อก็ชอบเข้ามาทำอาหารเองอยู่เสมอ จากที่เขาเข้ามากวนก็กลายมาเป็นลูกมือซะงั้น
เขาทำอาหารไทยได้เยอะที่สุด เพราะพ่อชอบทานอาหารไทย...มันเป็นอาหารโปรดของแม่... ติณทำข้าวผัดหมูง่ายๆขนาดพอดีสองจานเขากับสิงห์ แต่เขาชอบที่จะกินเผ็ดมากกว่ารสชาติข้าวผัดธรรมดา เลยกลายเป็นว่าในจานของเขาเองมีการผสมพริกป่นเข้าไปด้วย สีสันเลยดูสดใสน่ากินขึ้นมาหน่อย
ติณถือจานมาวางไว้ให้อีกคนที่หน้าทีวี สิงห์ทำเพียงแค่ปรายตามองนิดหน่อยแล้วหันไปดูทีวีเหมือนเดิม ติณเห็นว่าเจ้าบ้านเป็นเช่นนั้นก็จะเดินกลับเข้าไปกินข้าวของตัวเองในห้องครัว ไม่อยากมานั่งข้างๆกันให้มันเสียบรรยากาศ
“ไปเอาจานมึงมานั่งกินที่นี่”
สิงห์พูดออกมาโดยที่สายตายังจับจ้องทีวีอยู่ ติณจะทำอะไรได้นอกจากเดินไปหยิบจานมานั่งกินข้างๆพ่อสิงโตตามคำสั่ง
ไม่เคยมีใครบอกหรือไงว่าพูดกับคนอื่นแล้วไม่ยอมมองหน้าเนี่ยมันเสียมารยาทมากเลยนะ...
ติณก็ได้แต่บ่นกะปอดกะแปดไปตามทาง
“ทำไมของกูไม่เหมือนของมึง...มึงกินอะไร”
“ข้าวผัดเหมือนกันนั่นแหละ”
เขาหันมาตอบคนข้างๆแล้วก็หันไปสนใจทีวีต่อ เขาชอบดูหนังเรื่องที่มันเปิดอยู่ เรื่องthe fast เขาอยากจะขับรถเก่งๆแบบดอมบ้าง แต่แน่นอนว่าความฝันของเขาด้านนี้โอกาสความเป็นไปได้คงเป็นศูนย์ เขาขับรถไม่เป็นเพราะไม่มีใครยอมสอนให้ ทุกคนห่วงแต่ความอันตรายของเขา แต่เขาคิดว่าทุกคนกลัวเขาหนีเที่ยวมากกว่า
“มันไม่เหมือนกัน”
“ก็ผัดกระทะเดียวกันจะไม่เหมือนกันได้ไง”
เขาตอบอีกคนไปส่งๆ เพราะตอนนี้เขาสนใจหนังมากกว่าสิ่งไหน แต่พอหนังกำลังใกล้ถึงจุดสำคัญ หน้าจอทีวีกลับถูกปิดด้วยฝีมือใครบางคนซะงั้น จะเป็นใครไปได้ล่ะ...
“กูจะกินแบบมึง ไม่เอาแบบนี้”
ติณมองร่างสูงแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ แค่เรื่องข้าวมันยังเกี่ยงเขาอยู่ได้ ท่าทางจะประสาท
ติณเดินเข้าไปปรุงรสจานข้าวของอีกคนให้เป็นเหมือนกับของเขา แล้วเอามาให้ร่างสูง ช่วงเวลาการกินข้าวของทั้งคู่ ผ่านไปเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เสียงส่วนมากก็คงจะเป็นเสียงสูดน้ำมูกของสิงห์ที่ตอนนี้หน้าแดงลามไปเกือบถึงหู เหงื่อผุดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดูก็รู้ว่าหมอนี่มันกินเผ็ดไม่ได้
“เผ็ดก็ไปกินน้ำ มึงจะมานั่งทนทำไม”
สิงห์มองหน้าร่างบางนิดหน่อย แล้วลุกเดินเข้าไปในครัวเพื่อดื่มน้ำตามคำแนะนำของอีกคน ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้วิธีแก้เผ็ด แต่แค่ไม่อยากเสียฟอร์มนิดหน่อย
ร่างบางเดินถือจานข้าวเข้ามาในห้องครัวถามสิงห์ว่าอิ่มแล้วหรือยังจะได้เก็บจาน สิงห์ก็พยักหน้าตอบไป
พูดไม่ได้...อมน้ำอยู่...
ติณเขี่ยเศษอาหารทิ้งแล้วเอาจานแช่ในอ่างล้างจาน สิงห์เห็นแบบนั้นก็รีบกลืนน้ำลงคอทันที
“มึงทำ มึงก็ต้องล้าง จะรอใครมาล้างให้”
ติณหันมามองร่างสูงแล้วก็ถอนหายใจ หมุนตัวกลับไปทำอย่างที่ถูกสั่ง
“ที่นี่ไม่มีแม่บ้าน ทุกอย่างในบ้านหลังนี้มึงต้องจัดการหมด งานบ้านงานครัวทุกอย่างมึงต้องเป็นคนรับผิดชอบ เคยได้ยินไหม อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น น่ะ”
“ทำไมต้องเป็นกูด้วย”
ติณถามอย่างอดไม่ได้ นี่เขามาอยู่ที่นี่ในฐานะคนรับใช้ใช่ไหม??
“คนของพยัคฆ์จะมาทำตัวเสมอสิงห์ก็คงจะไม่ใช่ มองไปรอบตัวบ้างที่นี่ไม่ใช่ที่ของพยัคฆ์ อย่ามาเล่นตุกติกหรือคิดต่อรองซะให้ยาก”
“แล้วเมื่อไหร่ที่กูจะได้ออกไปจากที่นี่ซักที”
“หึ...เมื่อไหร่ที่กูพิสูจน์ได้ว่าไอ้แก๊งแมวเหมียวของมึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็เมื่อนั้นแหละ หรือว่า....อ๋อ...ติดใจ อยากเป็นเมียกูต่องั้นเหรอ”
คำพูดสุดท้ายของสิงห์ทำเอาติณหน้าแดงขึ้นอย่างไร้สาเหตุ
“ทุเรศ ใครจะไปคิดเรื่องต่ำๆแบบนั้น”
“เหรอ...ต่ำ... แต่ก็เห็นครางทุกที อย่าคิดว่ากูมองไม่ออกว่ามึงไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน ไม่ว่าจะข้างหน้า หรือ ข้างหลัง”
สิงห์ใช้สายตาโลมเลียร่างบาง เดินเข้าไปประชิดทางด้านหลัง ทั้งๆที่ร่างบางล้างจานอยู่เขาก็ทั้งจูบทั้งหอม
ยิ่งจูบก็ยิ่งหอม...
“มึงอย่ามาทำแบบนี้นะ ออกไปให้ไกลเลย ไม่งั้นกูจะเอาจานฟาดให้หัวแตกเลยคอยดู”
สิงห์เริ่มสติหลุด ความหอมจากร่างบางยั่วอารมณ์เขาให้เกิด สบู่กลิ่นนี้เขาก็ใช้อยู่แต่ไม่เห็นจะหอมเหมือนร่างเล็กตรงหน้าเลย ยิ่งสูดกลิ่นก็ยิ่งหยุดยาก ผิวเนียนๆกับกลิ่นหอมทำเอาเขาห้ามใจไม่ไหว
“ชอบซาดิสต์หรือไง กูจัดให้ได้นะ”
ติณพยายามดิ้นหนีร่างสูงที่กอดรัดเข้าจากทางด้านหลัง เมื่อมือของอีกคนเริ่มมาลูบไล้ที่หน้าอกผ้าเสื้อยืดตัวใหญ่ของเขา
“พูดบ้าๆ ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นกูจะกัดมือมึงขาดเลยคอยดู”
ติณก้มหน้าลงไปหมายว่าจะกัดมือร่างสูงที่ไม่ยอมหยุดลวนลามเขาจริงๆ แต่สิงห์ก็ไหวตัวทันรีบช้อนตัวร่างบางอุ้มมานั่งบนเคาท์เตอร์ห้องครัวแล้วแทรกตัวเข้าตรงกลางระหว่างขาของร่างบางทันที ส่วนติณกว่าที่จะรู้ตัวว่าเสียรู้ให้อีกคนก็ไม่ทันการแล้ว เมื่อร่างสูงเริ่มรุกหนักมากขึ้น
“ปล่อยกูนะเว้ย”
“รำคาญวะ... เก็บปากไว้ครางเรียกกูก็พอ”
*ดิทคำผิดครั้งแรก 3/10/13
...................................................................................................................
สรุปว่า พยัคฆ์ ของเราในตอนนี้ มันกลายเป็น แมวเหมียว เชื่องๆไปซะแล้วแหะ > <
กลับมาแล้ว >/////< รอบนี้มาช้า ขออภัยค่า - /\ -
พรุ่งนี้จะมาดิทคำผิดให้อีกที เพราะว่าตอนนี้รีบลงมาก มาติวหนังสือบ้านเพื่อน ขโมยคอมมันใช้ >,<
จะกลับมาลงตอนหน้าให้วันที่ 14 นะคะรอสอบเสร็จก่อน เดือนนี้มันเดือนแห่งความวุ่นวายเราจริงๆ งานเยอะมาก TT
ขอบคุณนักอ่่านทุกคนที่หลงกดผิดเข้ามาอ่านกันทุกคนนะคะ ^ ^
.......................................................................................
คนที่แอดเฟบนิยายเราเอาไว้ เราส่งข้อความวิธีการตามหาฉาก CUT ไปให้แล้วนะคะ ^ ^
ฝากถึงคนอื่นๆด้วยกันเลยนะ ส่วนมากเราจะบอกข่าวสารในเด็กดีซะมากกว่า
ยังไงก็แอดเฟบกันไว้ดีกว่านะคะ เพราะถ้าหากว่าโดนแบนขึ้นมาจะได้กระจายข่าวกันได้ ^ ^
เนื้อหาที่เหลือ...ก็เหมือนเดิมค่ะ...coming soon ไม่นานเกินรอ ^ ^
ความคิดเห็น