ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sweetmafia (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : sweetMafia : C.1

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 56


    the. kitta




    .
    .
    .
    C.1
    .
    .
    .


     

    “เอายังไงครับคุณติณ จะไปที่แก๊งก่อน หรือไปคฤหาสน์ก่อนดีครับ”

     

    ผมมองหน้า ปฏิวัติ ลูกน้องคนสนิท หรือที่ผมมักจะเรียกเขาบ่อยๆว่า เฮียปัฐ  แต่จะว่าเป็นลูกน้องคนสนิทก็ไม่เชิงจะถูกสักเท่าไหร่ เพราะเฮียปัฐนั้น เป็นทุกอย่างของผมก็ว่าได้

     
    ผมโตมาพร้อมกับเฮียปัฐ สนิทกับเฮียปัฐ และเฮียติ พี่ชายคนเดียวของผมพอๆกัน เพราะเราสามคนโตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์มันแน่นแฟ้นยิ่งกว่าพี่น้องจะเป็นเสียอีก


    “ติณฟังเฮียนะ...จะไม่มีใครทำอะไรติณได้ถ้าเฮียยังยืนอยู่ตรงนี้”

     

     ร่างสูงโปร่งที่นั่งข้างๆ จับใบหน้าผมให้ได้ระดับ แล้วจ้องลึกเข้ามาในดวงตา สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ผมรู้ว่าในตอนนี้ เขาคือเฮียปัฐของผมแล้วจริงๆ ไม่ใช่ปฏิวัติมือขวาของ ติณ หัวหน้าแก๊งพยัคฆ์คนใหม่อีกแล้ว...

     

    ... ใช่ครับ.... ผมตอบรับคำขอของพ่อ อดีตหัวหน้าแก๊งพยัคฆ์ทั้งที่ไทยและฮ่องกง พ่อของผมท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ท่านไม่ได้อยากมาเป็นแบบนี้เลย แต่เพราะดันไปหลงรักลูกสาวแก๊งใหญ่ในเยาวราชซะก่อน อากงเขาไม่ชอบพวกฝรั่ง
    ทั้งๆที่พ่อพยายามพูดหลายครั้งว่าพ่อมีเชื้อคนจีนห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะคุณย่าเป็นคนอังกฤษและคุณปู่เป็นคนฮ่องกง
    แต่อากงก็ยังไม่ยอมยกลูกสาวให้ เลยต้องพึ่งพาอาศัยบุญบารมีของครอบครัวที่เป็นมาเฟียอันดับต้นๆของฮ่องกงอยู่แล้ว มาสานสัมพันธ์ กับหงส์ของแก๊งพยัคฆ์

    แต่เหมือนกับโชคชะตาจะรังแกพวกเรามากเกินไป พาหงส์ของพวกเราจากไปตั้งแต่ผมอายุได้เพียงเจ็ดขวบ
    เหตุการณ์ในงานศพของแม่นั้น ผมยังจำได้ดีจนทุกวันนี้...

     

    จำได้ดีทุกคำพูด ที่ทุกคนดูถูก เหยียดหยามศักดิ์ศรีของพ่อ


    “ลื้อมันไม่สมควร อาวิล อั๊วคิดอยู่แล้ว ว่าไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวอย่างลื้อมันจะไปได้ซักกี่น้ำ หึ!!! สะใจลื้อหรือยัง ลูกสาวคนเดียวของอั๊วอีตายไปแล้ว หงส์ฟ้าของพยัคฆ์อีบินหายไปแล้ว!!!!


    “ผมไม่ขอแก้ตัวครับ ผมยอมรับทุกอย่าง”


    “เพราะลื้อมันดื้อด้านแบบนี้ไง!!! เพราะแบบนี้ไงอาหงส์อีถึงได้จากไปไกลแบบนี้!!! ขนเอาทุกสิ่งทุกอย่างของลื้อออกไปให้หมด อั๊วไม่มีวันให้อภัยคนที่มันฆ่าลูกสาวอั๊วเด็ดขาด!!! ออกไป!!!!

     

    แม้ในงานศพของแม่ พวกเราก็ไม่ได้รับสิทธิที่จะเข้าร่วมในงานด้วย...น้ำตาลูกผู้ชายของพ่อไหลลงอาบแก้มไม่หยุด
    แม้ทั้งผมและพี่ชายจะช่วยกันลบมันออกสักเพียงใดก็ตาม...

     

     พ่อทำงานหนักมากขึ้น วางอำนาจ ฟื้นฟูแก๊งที่ฮ่องกงให้กลับมามีอำนาจยิ่งใหญ่และกว้างขวางมากขึ้น และไปรวมกับแก๊งพยัคฆ์ที่ไทยด้วย... เพราะตามหลักแล้ว พ่อคือคนที่จะต้องดูแลแก๊งต่อจากอากง แม้เขาจะไม่ยอมรับพ่อของผม
    แต่เขาก็ต้องเคราพกฏอย่างห้ามไม่ได้

     

    และในเวลานี้...มันก็ถึงเวลาของผมแล้ว   ผมจะทำให้ทุกคนที่นี่รู้ว่า แม้ผมจะขาดหงส์คอยเลี้ยงดู แต่เสือใหญ่ก็รักลูกและสามารถเลี้ยงดูได้ไม่ต่างจากหงส์เช่นกัน...

     

    ...เขาจะต้องเห็นความดีของพ่อ...เขาจะต้องยอมรับพวกเรา!!!


    “ไปหาอากงก่อน  แล้วเรียกทุกคนในแก๊งเข้าประชุม”
     

    เฮียปัฐบีบมือผมเบาๆ รอไม่นานเครื่องบินลงจอดพอดี ผมเดินตามบุคคลชุดดำที่ดูไม่คุ้นหน้าคุ้นตาไปขึ้นรถที่เตรียมไว้ เฮียปัฐคุยกับบุคคลเสื้อดำอยู่นอกรถซักพัก ก็ขึ้นมานั่งด้านข้างคนขับในรถคันที่ผมนั่ง


    “คุณติณครับ รถมีทั้งหมดสามคัน มีมือแม่นปืนอยู่ประจำทุกคันเรียบร้อย และมีคนสนิทจากฮ่องกงที่ตามเรามาห้าคนกระจายอยู่ทั้งสองคัน เพื่อคอยคุ้มกันคุณติณหากเกิดอะไรขึ้น และตอนนี้ผมประสานงานกับคุณตงแล้วให้เรียกประชุมทุกคนในแก๊ง ซึ่งเรามีเวลาเหลือเพียงสามชั่วโมงในการเดินทางไปพบท่านฉางที่คฤหาสน์ครับ”

     

    เฮียปัฐรายงานทุกอย่างให้ผมทราบเรียบร้อยแล้วจึงส่งสัญญาณให้รถออกตัวได้

     

    ผมเอาแต่นั่งนิ่งมองวิวข้างทางไปเรื่อย...นับจากเหตุการณ์เมื่อเจ็ดขวบในครั้งนั้น ผมก็ไม่ได้กลับมาที่ไทยอีกเลย
    นี่เป็นครั้งที่สองของผม...ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีเมฆสีขาวปะปนอยู่ประปราย

     

    ...แม่ครับ...ถ้าแม่มองดูติณอยู่จากบนนั้นอย่างที่พ่อบอกไว้...แม่ช่วยติณหน่อยนะครับ...ติณกลัวเหลือเกิน...

     

    ใช้เวลาเพียงไม่นาน รถก็เลี้ยวเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่จอดตรงประตูด้านหน้าพอดีกับที่หญิงสาวที่ดูมีอายุมากพอสมควรเดินตรงมา


    “ติณ!! นั่นติณหรือเปล่า!!!..ติณใช่ไหม!!! มาหาอาม่าเร็วลูก”
     

    ผมเดินเข้าไปหาอาม่า ท่านเป็นหญิงสาวที่ดูแก่ชราไปตามวัย แต่ก็ความแก่ก็ไม่ได้พรากความสวยที่ยังคงหลงเหลืออยู่ออกไปเลย ท่านเป็นสาวชราที่ยังดูสวยอยู่ในสายตาผม


    “โตแล้วหล่อขึ้นมากเลย...ติณให้เด็กยกของขึ้นห้องเลยนะ อาม่าเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว พ่อเราโทรมาล่วงหน้าว่าจะให้เรามา อาม่าก็ดีใจมากเลย...กินข้าวหรือยังลูก กินข้าวกับอาม่าก่อนนะ เดี๋ยวค่อยไปที่สมาคมนะติณ”
     

    ผมพยักหน้ายิ้มๆให้กับอาม่าไป ไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไหร่...ผมไม่ได้เตรียมตัวมารับมือกับสถานการณ์แบบนี้...


    “ติณกินเยอะๆนะลูก อย่ามัวทำแต่งาน ตาวิลให้ลูกทำแต่งานหรือเปล่าหื้ม ถึงได้ผอมบางได้ขนาดนี้”


    “พ่อไม่เคยบังคับผมเลยครับ! ที่นั่นเรามีความสุขดี...”
     

    ผมเผลอกระแทกเสียงไปอย่างลืมตัว...จนเฮียปัฐยื่นมือมาแตะที่ข้อศอกผมเป็นเชิงปราม....เอ่อ....คือผมไม่ได้ตั้งใจนะ...


    “ติณ...อาม่าไม่รู้ว่าเราคิดแบบไหนกับที่นี่นะ เพราะเราเจอกันแค่เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ติกับติณในความทรงจำของอาม่า คือเด็กน่ารัก ทั้งสองคนน่าเอ็นดูมาก อาม่าไม่เคยโทษหรือโกรธพ่อเราเลย อาม่าเข้าใจ...
    แต่อย่ากั้นกำแพงใส่อาม่า ติณต้องขึ้นครองแก๊งแล้ว ทำใจให้สบาย อย่าไปคิดเลยหยุมหยิมพวกนี้เลย กินข้าวดีกว่า ที่แก๊งตอนนี้เริ่มระส่ำระส่าย หากข่าวแพร่งพรายออกไปว่าเรามีปัญหากันเองมันจะไม่ดี ยิ่งแต่จะสร้างปัญหาให้ติณเพิ่ม อาม่าขอนะ เรื่องมันนานมามากแล้ว ติณทำเพื่ออาม่านะลูก... ”

     

    รอยยิ้มของอาม่า ทำให้ผมต้องยิ้มตอบไปด้วยทิฐิที่ลดลงกว่าในครั้งแรกมาก...
    นี่สินะ ที่พ่อบอก ว่าที่นี่ยังเหลือคนที่รักเราอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รักพ่อ แต่ตัวแทนที่หงส์ได้ฝากเอาไว้...จะทำให้พวกเขาจะไม่มีทางตัดเราขาด...

     

    หลังจากที่ทานอาหารกับอาม่าเสร็จ ผมก็ขอตัวไปที่สมาคมเพื่อดำเนินการประชุมของแก๊งขึ้น...นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมกังวลไม่แพ้กัน เพราะผมจะเจอปัญหาไม่ไว้ใจบ่อยมาก เด็กอ่อนประสบการณ์ในสายตาของคนที่อายุห้าสิบหกสิบย่อมถูกประเมินต่ำอยู่แล้ว แต่ผมก็มั่นใจในฝีมือของผมเช่นกัน เพราะผมก็ไม่เคยเป็นรองใคร...

    นี่เลยเป็นเหตุผลที่ผมต้องทำตัวนิ่งต่อหน้าคนหมู่มาก เพื่อสร้างความน่าเกรงขาม ทั้งๆที่ผมอยากจะหลุดเก๊กจริงๆ ผมอยากวิ่งก็ทำไม่ได้ เพราะต้องเดินอย่างวางมาด... สาบานได้ว่าผมไม่ได้ชอบหรือรักมันเลยสักนิดเดียว
    !!!!!!


    “นี่เป็นประวัติของหัวหน้าใหญ่แต่ละฝ่ายของแก๊งเราครับ”
     

    ผมรับซองน้ำตาลมาจากเฮียปัฐ แล้วนั่งอ่านไปพลางๆบนรถ แต่ละคนดูจะเล่นด้วยยากทั้งนั้น ...อ่า...มองเห็นความลำบากมากองอยู่ตรงหน้าซะแล้วสิ...


    “ปฏิวัติ สั่งให้เอากระเช้าดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับภรรยาคุณกมลที่ภัคตาคารเปิดใหม่ของเขาด้วยนะ และของภรรยาคุณวิเชียรด้วย”
     

    ผมออกคำสั่งกับเฮียปัฐแล้วเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ตามที่ลูกน้องนำมา ทันทีที่ผมเดินเข้ามา เสียงคุยกันก็เงียบลงทันที ทุกคนต่างจ้องผมอย่างประเมินค่า...เบื่อสายตาแบบนี้จัง เบื่อเวลาถูกมองโดยสายตาดูถูกแบบนี้...


    “สวัสดีครับทุกท่าน ผมติณ ลูกชายคนเล็กของคุณวิล หัวหน้าแก๊งพยัคฆ์”
     

    ความเงียบ..อาจทำให้ใครบางคนสูญเสียความมั่นใจ  แต่ไม่ใช่ผม...


    “ทุกท่านอาจจะได้ทราบข่าวมาบ้างแล้ว ถึงการเปลี่ยนแปลงของทางแก๊งใหญ่ที่ฮ่องกง ผมจะเข้ามารับช่วงต่อจากพ่อ ดูแลกิจการของพยัคฆ์ทั้งหมดที่นี่ รวมทั้งคุมอำนาจของพยัคฆ์เอาไว้ด้วยหวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะครับ”


    “ผมขออนุญาตนะครับ เราเข้าใจว่านายใหญ่คงไม่อยากให้พยัคฆ์ระส่ำระส่ายหลังจากเปลี่ยนอำนาจแล้ว แต่การเปลี่ยนรวดเร็วขนาดนี้ ผมว่าอาจมีหลายคนในแก๊งของเราเห็นด้วยน้อยเกินไป คุณติณจะไม่ทำอะไรสักอย่างเหรอครับ”
     

    เสี่ยตุงแสดงความคิดเห็นบ้าง ซึ่งดูเหมือนทุกๆคนจะเห็นด้วย พยักหน้าตามๆกัน


    “ผมทำแน่ครับ เพราะเหตุนี้ผมเลยต้องเรียกทุกท่านมาประชุมด่วนในวันนี้ ผมยังไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าผมมาที่นี่เพื่อมารับตำแหน่งพยัคฆ์คนล่าสุด พยัคฆ์ในรุ่นก่อนเรามีอิทธิพลมาก พ่อทำให้พยัคฆ์มีชื่อเสียงโด่งดังจนติดอันดับสี่แก๊งผู้ยิ่งใหญ่ของที่นี่ได้ แต่ตอนนี้ผมทราบข่าวมาว่าแก๊งสิงห์ข่มกิจการบางส่วนของเราเอาไว้ นั่นผมยอมไม่ได้ มีบางคนในแก๊งเรารับใช้สิงห์”
     

    สิ้นเสียงของผม เสียงฮือฮาก็ดังขึ้น


    “เป็นไปไม่ได้หรอกครับคุณติณ ใครกันที่กล้าท้าทายอำนาจเสือใหญ่ได้”
     

    เสี่ยวิเชียรพูดขึ้นบ้าง


    “นั่นสิครับ   ใครกันที่กล้าทรยศเสือใหญ่อย่างพ่อได้”


    “ถ้าอย่างนั้น เราต้องป้องกันความปลอดภัยมากขึ้นเป็นพิเศษ และสืบหาหนอนในแก๊งเราให้ได้ ผมเชื่อว่ามันอยู่ใกล้มือเราแน่ๆ”
     

    เสี่ยกมลพูดขึ้น ทุกคนพักหน้าตามๆกัน


    “แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นนะครับคุณติณ ถ้าสิงห์คิดจะแหย่เราจริงๆ ผมคิดว่าอาจไม่ใช่คนของพยัคฆ์ สิงห์อาจส่งหนอนมันเข้ามาในแก๊งเรา  เพราะพยัคฆ์ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ๆ พวกเราซื่อสัตย์”
     

    เสี่ยโจวแย้งขึ้นบ้าง


    “อาจเป็นไปได้อย่างที่ทุกท่านพูดมา ผมจะรับงานนี้เอง สิงห์จะต้องรู้ว่าการมาแหย่เสือไม่ใช่เรื่องควร ผมจะกลับมาทำให้ทุกคนรู้ว่าตอนนี้เสือได้ตื่นแล้ว ผมอยากขอให้ทุกท่าน กลับไปคุมแก๊งทางฝั่งของตัวเองบอกว่าลูกพยัคฆ์กำลังจะกลับมาครองแก๊ง ปล่อยข่าวลือให้ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องคนไม่ซื่อสัตย์ ผมจะนำมันกลับมาลงโทษในวันที่ผมขึ้นครองแก๊งครั้งแรกด้วยตัวของผมเอง”


    “ผมเห็นด้วยครับ ถ้าคุณติณทำอย่างที่พูดมา มันจะเป็นการคำรามของเสืออย่างเรา คนในแก๊งที่เหลือจะนับถือ และคงไม่มีใครกล้าเคลือบแคลงสงสัยในตัวคุณติณ”
     

    เสี่ยโจวพูดและหันไปหาทุกคนที่เหลือ ที่เห็นด้วยอย่างที่เขาพูด


    “ครับ ผมต้องขอให้ทุกคนช่วยด้วยอีกแรงหากมีอะไรที่ผมยังไม่เข้าใจ เพราะผมยังอ่อนประสบการณ์กว่ามากเมื่อเทียบกับทุกท่านแล้ว เอาเป็นว่า ในช่วงนี้ คุณปฏิวัติจะดูแลพยัคฆ์แทนผมไปก่อนชั่วคราว ปัญหาทุกอย่างปฏิวัติจะจัดการแทนผมได้ ขอให้ทุกท่านไว้ใจ”

     

    ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย และเมื่อผมเห็นว่าทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยดีแล้ว จึงได้ขอตัวกลับจากสมาคม สิงห์ก็สิงห์เถอะ คิดจะมาเล่นกับเสือ ก็ต้องลองกันซักตั้ง!!!...

     

    ผมกลับเข้ามาที่คฤหาสน์อีกครั้ง  เตรียมตัวย้ายออกไปอยู่คอนโดที่เฮียปัฐจัดการซื้อเอาไว้ให้ อาม่ายังคงยืนยันไม่เห็นด้วยกลับการที่ผมจะออกไปอยู่คนเดียวโดยปราศจากคนดูแล...มาเฟียอย่างเรามันอันตราย...


    “คุณนั่งเฉยๆก่อน อาติณ ลื้อตามอั้วมาข้างบน”
     

    ผมลุกขึ้นยืนเดินตามอากงไปทางด้านขวาของคฤหาสน์ ท่านเปิดประตูบานที่สองเข้าไป ผมเดินตามแล้วยืนนิ่ง
    ไม่ได้แสดงความกลัวออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย...ผมจะไม่มีทางยอมแพ้...


    “ลื้อคิดจะทำอะไร อาอันอีบอกอั๊วมาหมดแล้ว ว่าลื้อนัดประชุมที่สมาคม เกี่ยวกับเรื่องของสิงห์ใช่ไหม”


    “ใช่ครับ”
     

    ผมตอบรับเสียงหนักแน่น


    “ลื้อเหมือนอาหงส์มาก มากจนอั๊ว...”
     

    อากงเว้นวรรคไปไม่ยอมพูดให้จบ ท่านหลับตาเหมือนกำลังข่มใจ ทั้งเหนื่อย และอ่อนล้า


    “ลื้อมันดื้อด้าน หยิ่งในศักดิ์ศรีเหมือนพ่อลื้อ แต่อั๊วเห็นบางอย่างในตัวลื้อ เอาสิ ลื้อทำได้อั๊วจะยอมรับพ่อลื้อเช่นเดิม”


    “อากงรู้ว่าผม...ต้องการ...แบบนี้เหรอครับ”
     

    ผมตกใจนิดหน่อย ที่อากงมองผมขาดได้ขนาดนี้ เจอกันครั้งแรกไม่เท่าไหร่เอง


    “หึ!!...ลื้อกับอั๊วมันกระดูกคนละเบอร์กัน อาติณ อั๊วจะไม่ขัดขวางลื้อ แต่จะคอยมองดูลื้ออยู่ตลอด  ลื้อเปรียบเหมือนอาหงส์ แม่ของลื้อ อั๊วไม่รักพ่อลื้อ ใช่ว่าเลือดเนื้อของอั๊วเองอั๊วจะไม่รัก จำไว้ว่าพยัคฆ์ไม่เคยยอมแพ้ใคร ลื้อมีทั้งเลือดของอาหงส์และเลือดของเสือใหญ่ในตัว  ลื้อเป็นลูกหลานของพยัคฆ์ จำเอาไว้อาติณ”
     

    สิ้นจากคำพูดของอากง ผมก็ลงมาทางอาหารมื้อเย็นกับอากงและอาม่าที่ห้องโถงด้านล่าง รวมทั้งเฮียปัฐก็ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย


    “ติณ ไปศาลเจ้ากับอาม่าก่อนได้ไหม นี่ยังไม่ทันหกโมงดีเลยนะ ไปกับอาม่าหน่อย อาม่าไม่สบายใจเลย อยากให้ติณคิดดีๆก่อนนะลูก”


    “คุณคิดไปเรื่อยมากกว่า อาติณอีมันลูกหลานพยัคฆ์ อีคิดถูกแล้ว”


    “คุณก็เป็นซะแบบนี้ ฉันห่วงหลานนิ ไม่อยากให้เขาต้องมาวุ่นวายกับอะไรแบบนี้อีก หลานฉันบอบบางนะ”


    “อะ..อึก..”
     

    ผมสำลักอาหารในทันที่ที่อาม่าเอ่ยถึงผมว่าบอบบาง ผมก็พอรู้ตัวดีอยู่ ว่าเป็นคนผอมบาง ส่วนสูงก็สู้พี่ชายหรือเฮียปัฐไม่ได้ แถมยังห่างทั้งคู่อยู่มากโข ทั้งๆที่ตัวผมตอนนี้ก็อายุยี่สิบสามแล้ว เห็นทีควรจะปลงเรื่องความสูงได้แล้ว


    “อาม่าอย่าคิดมากเลยครับ ที่ฮ่องกงติณถูกฝึกมาดี สิบคนติณยังสู้มาแล้วเลย เรื่องแค่นี้สบายมากครับ”
     

    เฮียปัฐหัวเราะเบาๆ ทำเอาผมหันไปค้อนให้  ก็พวกเฮียปัฐและเฮียเต๋าพี่ชายผมนั้น ชอบล้อว่า ที่ผมเอาชนะได้
    ก็เพราะว่าพวกมันเห็นหน้าหวานๆของผมแล้วทำร้ายไม่ลงนะสิ...ล้อกันไม่เคยหยุด...ชิ
    !!


    “เฮ้อ.... แต่ยังไงก็ต้องไปศาลเจ้ากับอาม่าก่อนนะติณ ไม่งั้นอาม่าคงไม่สบายใจ”


    “ครับ”


    ......................................


    “มารอนานหรือยังอาจินณิภา เสือใหญ่ไปไหนล่ะถึงได้ปล่อยลื้อมาคนเดียวได้”


    “ไม่นานหรอกค่ะชินแสเล้ง ช่วงนี้เสือต้องเก็บตัวกันหน่อยมีแต่เรื่องแต่ราวกัน”


    “เอาหน่า...ดาวเสือใหญ่เจอลมมรสุมในช่วงใด ช่วงนั้นจะมีดาวเจ้าป่าเคียงคู่มาเสมอ ไม่ต้องกังวลไปหรอก แล้วนั่น...ลูกอาหงส์หรือเปล่า”


    “ใช่ค่ะชินแส...ติณไหว้ชินแสหน่อยลูก”
     

    ชินแสจ้องผมอยู่ซักพัก ไม่พูดอะไรออกมา ทำเพียงแค่ก้มเงยๆจ้องมองใบหน้าผมเท่านั้น


    “คนที่มองหาอยู่ไม่ไกล ปัดเป่าสิ่งกีดขวางซะก่อนจะตัดสินใจ”


    “หมายความว่าไงคะชินแส...ติณหลานฉันจะเป็นอะไรหรือเปล่า” อาม่าพุ่งเข้าใส่คำถามกับชินแสอย่างรวดเร็ว ผมก็ได้แต่นั่งงงถึงความหมายของประโยคเมื่อกี้ ปัดๆเป่าๆอะไรนะ???


    “ไม่เป็นอะไรมากหรอกลื้อวางใจได้ แม้ว่าดวงของอาติณอีจะแย่ แต่ เจ้าป่าจะมาคุ้มครองให้คลาดกับภัยอันตราย”


    “เจ้าป่า???...หรือว่า???...”


    “...ดวงอุ้มสม...”


    “เสือใหญ่ กับ เจ้าป่า เหรอคะชินแส”


    “สิ่งที่เหมือนกลับไม่ใช่ สิ่งที่ใช่กลับไม่เหมือน...อาติณ ลื้อจำไว้นะ ไม่ว่าดวงชะตาจะพาลื้อไปทางใด สิ่งที่ลื้อตัดสินใจจะพาลื้อไปถูกทางเอง อย่าไว้ใจใครแม้คนใกล้ตัว...”

     

    ผมพยักหน้าตอบรับชินแส  แม้ว่าผมจะงงกับคำทำนายชินแสแค่ไหนก็เถอะ... อาม่าคุยกับชินแสไปซักพักก็ขอตัวกลับ ผมส่งอาม่าขึ้นรถ ส่วนตัวเองขับรถอีกคันแยกไปคอนโดคนเดียว ไม่มีใครติดตาม... แต่ยังไม่ทันขึ้นรถผมก็ถูกชินแสเล้งเรียกตัวไว้เสียก่อน


    “อาติณ  อั๊วให้ลื้อ สิงห์พาไปอยู่ถ้ำเดียวกันเลือดตกยางออกก็เรื่องธรรมดา”


    “หะ..เอ่อ..คะ..ครับ”

     

    ผมขึ้นรถแล้วออกตัวมุ่งหน้าไปยังคอนโด พลางสายตาก็เหลือบไปมองสิ่งที่ได้รับมาจากชินแสเล้ง อุปกรณ์ทำแผล?? หมายความว่าไง รวมทั้งคำทำนายบ้าบอเยอะแยะของชินแสอีก ผมถอนหายใจเลิกคิดถึงเรื่องชินแสและตั้งใจขับรถ

    ...พ่อครับ...ติณจะทำให้แก๊งเรากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ให้สมกับเป็นลูกของเสือใหญ่อย่างพ่อ
    !!!....
    พวกที่มันกล้ามาแหย่เสือ ติณจะทำให้พวกมันหัวหดกลับบ้านไปครางหงิงให้ได้เลย!!!...

     

    ชินแสเล้งพูดพร้อมกับยืนมองลูกเสือใหญ่ขับรถออกไปจนลับตา

    “ทั้งเสือทั้งสิงห์ใครจะข่มใครกันแน่...”

     

    ..........................................................................
    ตอนแรกออกมาแล้วค่ะ ตอนนี้มีแต่นายเอกเรา พระเอกเราหายไปไหน??? > <

    เดี๋ยวก็มา ตอนหน้านี่แหละ สัญญาเกี่ยวก้อยกันเลย ^ ^ 

    สุดท้ายนี้....ขอบคุณนักอ่านทุกท่านนะคะ ^ ^ 

    **ดิทคำผิดครั้งแรก 24/9/13
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×