คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่1 เปิดเทอมใหม่
ตอนที่1 เปิดเทอมใหม่
(ผู้กำกับ: อ่ะ พร้อมนะ 3.2.1. แอคชั่น!)
ร่างบางในชุดเครื่องเเบบนักเรียนชาย
ม.ปลาย เดินมาพร้อมกับหญิงสาวร่างเล็กในชุดนักเรียนม.ต้น ที่เป็นน้องสาวของเขาเอง
“อากาศประเทศไทยหนาวจริงนะ
เฮอะ”
อากาศที่ร้อนอบอ้าวจน
‘ต้น’ ชายหนุ่มม.ปลายเอ่ยพูดประชดออกมา
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งของการมาโรงเรียน
แน่นอนว่าสภาพอากาศของเมืองไทยเป็นยังไงก็อย่างงั้น
“พี่ก็รู้นี่ว่าอากาศประเทศเรามันไม่ปกติ
ก็ยังจะพูดประชดอยู่นั่น” น้องสาวของเขาที่มีนามว่า ‘ตาล’เอ่ยขึ้น
“เอาเถอะ
รีบไปโรงเรียนก่อนจะสายดีกว่านะ
การเปิดเทอมของโรงเรียนใหม่ในวันแรกไปสายมันจะไม่น่าดีนะ”
ต้นก่อนจะรีบพาน้องเดินไปให้ถึงโรงเรียนโดยเร็วเพราะนี่ก็เจ็ดนาฬิกาแล้ว
กว่าจะเดินไปถึงก็ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ
“อ๋า
ดีนะเนี่ยที่มาทันถ้าช้ากว่านี้คงโดนทำโทษตั้งแต่วันแรกแล้ว” ตาลเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทีเหนื่อยหอบไม่น้อย
เพราะอะไรน่ะเหรอ
ก็เพราะว่าระหว่างการเดินทางมาโรงเรียนเจอคนโดนรถชนน่ะสิ!
แถมเป็นการชนแล้วหนีอีก
ทั้งสองคนเลยพาคนๆนั้นส่งโรงพยาบาลใกล้ๆแถวที่เกิดเหตุเลยทำให้มาช้าเล็กน้อย
แต่ก็ทันเวลา
“นั่นดิ เฮ้อ
เกือบไป พี่ว่าไปดูบอร์ดก่อนดีกว่าไหมว่าเราอยู่ห้องไหนอะ” ต้นบอกก่อนจะเดินนำไปที่ที่มีคนมุงเยอะอยู่พอสมควร
เมื่อถึงบอร์ดก็สาดสายตามองหาชื่อน้องสาวและของตัวเอง
รายชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2 ห้อง 3 ห้องประจำ 612
1..
2..
.
.
41. โศภิษฐ์…
“ตาล
ตาลอยู่ห้องม.2 ห้อง3 นะ ห้อง 612” ต้นบอกตาล
ตาลพยักหน้าก่อนจะพูด
“ขอบคุณค่า
ถ้างั้นน้องไปก่อนนะ เจอกันตอนเย็นนะ พี่เองก็หาชื่อตัวเองให้เจอเร็วๆล่ะ”
“อืมๆ”
ร่างบางมองแผ่นหลังของน้องสาวที่เดินขึ้นตึกเรียนไปแล้วจนลับสายตาก็หันมามองบอร์ดหาชื่อตัวเองต่อ
รายชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 11 ห้องประจำ 254
1..
2..
.
.
42. พีรพัฒน์...
“โอเค หาเจอละ” ร่างบางกลับหลังหันแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องประจำของตัวเองก่อน
ระหว่างเดินไปก็คิดใน ว่าชั้น5 เลยเหรอ ได้ขึ้นบันไดขาลากแน่
ลิฟต์ก็ดูเหมือนนักเรียนจะใช้ไม่ได้ด้วย
ร่างบางเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆจนถึงชั้นที่สี่ด้วยสีหน้าซีดๆเล็กน้อยเพราะความเหนื่อย
เขาเดินเกาะราวบันไดแล้วเดินต่อไป
เมื่อเห็นเลขห้าที่แปะอยู่ตรงชั้นห้าที่ผนังเขาดีใจที่เดินจะถึงแล้ว
เมื่อเท้าเหยียบพื้นชั้นที่ห้าเขาก็หงายหลังไปด้วยความหน้ามืดกระทันหัน
ฟึ่บ!
ร่างบางรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อร่างกายของตนกำลังถูกร่างสูงรับไว้ทันก่อนที่จะตกบันไดท่ามกลางสายตาของนักเรียนชายและหญิงบริเวณนั้น
“นี่นาย
เป็นอะไรไหม” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นมาจากคนที่รับร่างเขาไว้
“อะ
ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ ขอบคุณที่ช่วยรับผมไว้ครับ”
ร่างบางขอโทษขอโพยร่างสูงนั้นก่อนเอ่ยขอบคุณตามมา
“นายไม่เป็นอะไรแน่นะ
จะไปห้องพยาบาลรึเปล่า เดี๋ยวฉันพาไป”
“ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับ”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะนะ
ว่าแต่นายเป็นเด็กใหม่ สินะ หน้าไม่คุ้นเลย”
“ครับ”
“งั้นเดี๋ยวฉันพาไปส่งที่ห้อง
อยู่ห้องไหนล่ะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ
ห้องประจำอยู่254 เอง ผมไปเองได้” ร่างบางเดินไปทางห้องประจำของตน
พร้อมกับร่างสูงที่เดินตามมา
“อ่อ
ตอนนี้นายยังไม่มีเพื่อนสินะ งั้นฉันขอเป็นเพื่อนนายคนแรกละกัน ฉันชื่อทีม
ยินดีที่ได้รู้จัก นายล่ะ”
ร่างบางมองคนที่พึ่งแนะนำตัวให้เขาได้รู้จักทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้อยากจะรู้จักสักเท่าไหร่
แต่ถึงจะคิดยังงั้นก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อเขาแนะนำมาเราก็ต้องแนะนำตอบ
เป็นมารยาทล่ะนะ
“ชื่อต้นครับ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
“กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหม”
“ไม่เป็นไรครับ”
“เอาน่า
เอาเป็นว่าเดี๋ยวตอนกลางวันฉันจะมาหาละกัน อย่าไปเดินหลงที่ไหนกว่าฉันจะมาล่ะ อะ
ถึงห้องนายละ โชคดีนะ”
เขาพูดทิ้งท้ายไว้แบบนั้นก่อนจะเดินกลับไปทางบันไดแล้วขึ้นไปชั้นต่อไป
การที่มาชวนเองตกลงเองแบบนี้เป็นสิ่งที่ต้นไม่ชอบเลยสักนิด
เพราะมันเหมือนการบังคับน่ะนะ แล้วจะใส่ใจทำไมในเมื่อยังไงๆเขาก็ไม่คิดทำตามอยู่แล้ว
พอคิดได้ดังนั้นก็ส่ายหัวไปมาเพื่อไล่สิ่งที่เพิ่งเจอเมื่อกี๊มาก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนไป
พักกลางวัน
ตอนนี้ร่างบางกำลังนั่งจับกลุ่มคุยเล่าเรื่องตลกกับเพื่อนๆ
ที่ม้าหินหลังอัฒจันทร์สีม่วงที่ด้านข้างโต๊ะมีต้นไม้สูงบังแดดยามเที่ยงไว้ ลมก็เย็นสบายดีถึงจะเป็นฤดูร้อนก็ตาม
และในตอนนี้เขาได้เพื่อนใหม่ทั้งหมดสี่คน
ซึ่งในสี่คนนี้มีเด็กเก่าที่จบม.3 จากโรงเรียนนี้แล้วต่อม.4
ที่นี่เหมือนเดิมและเด็กใหม่ที่มาจากโรงเรียนอื่นเหมือนกัน
“ฮ่าๆๆ จริงดิ
แล้วไงต่อๆ” ‘แพรไหม’
พูดด้วยท่าทางที่อยากฟัง ‘เพื่อน’ เล่าต่อ
“เดี๋ยวฉันมานะ” ต้นลุกขึ้นจากเก้าอี้ม้าหินที่นั่งอยู่แล้วเดินอ้อมออกมา
“อ้าว
ต้นจะไปไหนอะ ไม่ฟังให้จบก่อนล่ะ” แพรไหมถาม
“เข้าห้องน้ำน่ะ”
“อ๋อ ได้ๆ
ให้ไผ่ไปเป็นเพื่อนป่าว ไผ่เป็นเด็กเก่าน่าจะรู้ทาง”
“เฮ้ย
ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวไปเอง พวกนายนั่งฟังเรื่องที่เพื่อนเล่าต่อเถอะ”
“อย่าไปเดินหลงที่ไหนล่ะ
อ้อใช่ๆ ระวังเจอพวกนักเลงโรงเรียนล่ะ จะอยู่แถวๆห้องน้ำที่ไหนสักแห่ง
พวกนั้นย้ายที่สิงสถิตไปเรื่อย แต่ที่ปลอดภัยไปเข้าแถวๆห้องปกครองดีสุด” ปิ่นบอกเตือน
“หะ
โรงเรียนนี้มีนักเลงด้วยเหรอ” ต้นถามด้วยท่าทางใสซื่อมาก
เพราะดูจากประวัติโรงเรียนแล้ว โรงเรียนนี้ดีที่สุดในกรุงเทพแล้วนะ
เรื่องพวกตบตีชกต่อยก็ไม่ได้ยินว่ามี
“มันก็มีกันทุกโรงเรียนแหละมั้ง
จะไปเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ ไปไป๊”
“ครับๆ แหม
ไล่กันเลยนะ”
ต้นเดินออกมาจากกลุ่มแล้วเดินหาห้องน้ำใจก็ว่าจะไปทางห้องปกครองตามที่ปิ่นเตือนแต่มันไกลเกิน
โรงเรียนนี้ใช่ว่าจะเล็กๆนะ อีกอย่างการที่เขาจะเจอนักเลงกลุ่มนั้นมันคงไม่เหมาะเจาะขนาดนั้น
ไม่มีทางซะหรอก
แต่บรรยากาศโดยรอบมองดูรวมๆแล้วดีไม่น้อย มีความเป็นธรรมชาติดี
ร่างบางหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อดูเวลา
เวลาพักเหลืออีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะเข้าเรียนในคาบต่อไป
ระหว่างนี้ก็เดินไปห้องน้ำหลังอาคารสาม ซึ่งเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดตอนนี้ พอมาก็รู้สึกโชคดีที่ไม่มีนักเลงพวกนั้นอยู่
เขาเดินกลับออกมาหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ ล้างมือล้างหน้าให้เรียบร้อย
มือล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดแล้วหมายจะเดินกลับไปที่ม้าหิน
แต่เพราะกำลังเช็ดหน้าอยู่ทำให้ไม่ทันได้มองว่ามีใครกำลังเดินสวนมาจึงทำให้ชนกับนักเรียนกลุ่มนั้นอย่างจัง
ปั่ก!
“เฮ้ย!
เดินทำไมไม่ดูตาม้าตาเรือวะ ตาบอดรึไง” นักเรียนชายคนหนึ่งที่โดนชนเอ่ยขึ้น
“ผมขอโทษครับ
ไม่ได้ตั้งใจ อะ” ต้นเงยหน้าขึ้นกล่าวคำขอโทษแต่ก็ต้องชะงัก
เพราะลักษณะท่าทางดูแล้วนักเรียนกลุ่มนั้นเหมือนจะเป็นนักเลงอย่างที่ปิ่นพูด
ทำให้ต้นเหงื่อตกทั้งๆที่พึ่งจะเช็ดหน้าไป
“มองไร
จ้องหน้าหาเรื่องเหรอ!”
“เปล่าครับ
ขอโทษครับ ผมขอตัวนะครับ” ต้นเดินเลี่ยงออกมาจากคนกลุ่มนั้น
แต่ทว่า
หมับ!
ข้อมือขาวถูกคว้าด้วยคนที่สูงกว่าเขาพร้อมพูดจาหาเรื่องใส่
“เดินชนลูกพี่ฉันแล้วคิดหนีเหรอ”
“อะไรกันครับพวกคุณน่ะ
ผมก็ขอโทษไปแล้วไง”
“แค่ขอโทษมันไม่พอหรอกไอน้อง
ดูท่าเป็นเด็กใหม่ด้วยล่ะสิ ต้องสั่งสอนหน่อยละกัน”
“ปล่อยนะเว้ย!” ร่างบางสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดจากมือนั้นแต่ไม่เป็นผล
ยิ่งสะบัดออกเขายิ่งบีบข้อมือแรงขึ้นแล้วกระชากไปที่แท็งก์น้ำหลังห้องน้ำ
“ลูกพี่
ไอนี่มันหน้าตาน่ารักใช่เล่นนะ อย่างกับผู้หญิงแน่ะ มันน่านัก”
“น่าอะไร!
ฉันเป็นผู้ชายนะ ปล่อย!!”
“โอเคๆ
ปล่อยแล้วๆ หึ” คนที่พาต้นมาปล่อยมือจากข้อมือขาวของต้นก่อนจะผลักไปหากำแพง
“พวกแกออกไปเฝ้าทางให้ที
ฉัน‘อยากได้’คนนี้
ไว้เสร็จจะเรียกต่อ อยากรู้เหลือเกิน ว่ารสชาติของผู้ชายมันจะต่างกับผู้หญิงไหม
ฮ่าๆๆ”
“อะไรกันลูกพี่
ผมขอก่อนไม่ได้เหรอ”
“ไม่
ไปเฝ้าทางไป! ก่อนที่ไอพวกกรรมการนักเรียนจะมา”
“ครับๆ”
คนที่คาดว่าเป็นลูกน้องของคนร่างใหญ่เดินออกไปสองคน
ทำให้ตอนนี้เขาอยู่กับคนที่เรียกได้ว่าเป็น ลูกพี่ กันสองต่อสอง ตอนนี้ต้นทำได้เพียงถอยหนีไปด้านข้างๆ
ถ้าจะให้ถอยหลังไปคงทำไม่ได้แล้ว เพราะติดกำแพง
ต้นหลับตาตั้งสติคิดหาทางหนี
แต่ทว่าคงหนีได้ยากถ้าหนีตรงนี้ได้ ก็หนีไม่ได้เพราะมีคนของคนร่างใหญ่เฝ้าทางอยู่
จะทำยังไงดี โทรศัพท์ก็ไม่มีเบอร์พวกปิ่นด้วย
“คิดจะหาทางหนีเหรอน้องสาว
ฮ่าๆ ไม่มีทางหรอกนะ” ชายร่างใหญ่พูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วเดินมาทางเขาด้วยสายตาหื่นกาม
“ใครเป็นน้องสาวกัน
สายตาเสียรึไง ไม่เห็นเหรอว่าเป็นฉันผู้ชายน่ะ อีกอย่างนะถ้าฉันมีพี่แบบนาย
ไม่มีมันซะยังจะดีกว่า!”
ตอนนี้ต้นเริ่มอารมณ์ไม่ดี
การที่มองเขาว่าเป็นผู้หญิงน่ะ ก็ไม่อะไรหรอกเพราะหน้าตาส่วนใหญ่ได้มาทางแม่ล้วนๆ
แต่เขาเกลียดรอยยิ้มนั้นยิ่งกับสายตายิ่งรังเกียจเข้าไปใหญ่
“ปากดีซะจริงนะนาย!” ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาด้วยอารมณ์โมโหพร้อมกับบีบกรามของร่างบางอย่างแรง
เชื่อได้เลยว่าไม่เคยมีใครพูดจาแบบนี้ใส่เขา
“จะ เจ็บ ปล่อย”
“คงไม่ได้หรอกนะ
อยากจะรู้จริงๆ ปากดีๆแบบนี้มันให้ความรู้สึกยังไง” ว่าแล้วเขาก็หมายจะก้มหน้าลงมาจูบร่างบางที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้
มือที่พยายามพลักออกก็ทำไม่ได้ เพราะเขาแรงเยอะกว่าเขามาก แต่
“เฮ้ย ลูกพี่
ก.น. มา! หนีเร็ว”
“ฮึ่ย อะไรวะ
ฝากไว้ก่อนเถอะเอ็งน่ะ” ว่าแล้วก็ผลักต้นอย่างแรงจนศีรษะกระแทกกำแพง
แล้วหลบหนีไป
ต้นทรุดตัวลงด้วยอาการมึนก่อนจะสลบไปเพราะหัวกระแทกกำแพงแรงไม่น้อยจนทำให้กลุ่มคนที่ได้ชื่อว่า
ก.น. หรือกรรมการนักเรียนตกใจ พร้อมกับอุ้มไปส่งห้องพยาบาล
กว่าจะได้สติก็บ่ายสามโมงกว่าเกือบสี่โมงแล้วทำให้ตาลที่เลิกเรียนแล้วมาดูอาการพี่ชายของตน
“พี่ต้น
พี่เป็นไงบ้าง” ตาลถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงมากเนื่องจากต้นนั้นร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่
“ตาล...
แล้วไอพวกนั้นล่ะ! โอย..” ต้นลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงทำให้เกิดอาการหน้ามืดเล็กน้อย
พร้อมถามออกไปเกี่ยวกับบุคคลที่จะมาทำร้าย
“โดนเรียกผู้ปกครองน่ะ
แล้วก็เหมือนจะโดนพักการเรียนด้วยเห็นว่ากระทำผิดบ่อยหลายครั้งเกินที่จะให้อภัยน่ะ
ตอนนี้ทางกรรมการนักเรียนกับครูฝ่ายปกครองน่าจะคุยกันอยู่มั้ง”
“อ๋อ.. เฮ้ย
จะสี่โมงแล้วเหรอเนี่ย” ต้นเหลือไปเห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังของห้องพยาบาล
“อือ
กลับกันเถอะพี่ ยังไงนี่ก็เลิกเรียนแล้ว”
“นั่นสิ”
ต้นลงจากเตียงพร้อมจัดผ้าปูเตียงของห้องพยาบาลให้เรียบร้อยก่อนจะออกจากห้องไป
ห้องพยาบาลนี้แบ่งเป็นสองส่วนนะ ส่วนแรกคือเข้ามาแล้วจะเจอครูพยาบาลอยู่แล้วก็มีที่ให้ทำแผล
ทานยา อีกส่วนหนึ่งเป็นห้องไว้สำหรับนอนพัก
หลังจากที่ต้นและตาลออกจากห้องพยาบาลแล้วก็เดินทางกลับบ้าน
เดินไปได้ครึ่งทางก็ได้ยินเสียงแตรรถที่ดังมาแต่ไกล
ปี๊นนนนน ปี๊นนนนนน!
“โอ๊ย
จะบีบแตรอะไรนักหนา รำคาญ” เด็กสาวร่างเล็กเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญใจนัก
ก่อนจะสะบัดหน้ามองไปที่ถนนว่ารถคันไหนบีบแตร
ปี๊นนนนน!
“เอาน่ะตาลใจเย็นๆ”
“จะบีบแตรอะไรกันนักหนานะ
ถนนรถก็โล่งไม่ใช่รึไง” เด็กสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะผ่อนออกมาด้วยความเหนื่อยใจ
ทั้งสองคนพี่น้องหยุดเดินแล้วมองรถลีมูซีนสีดำที่บีบแตรเมื่อกี๊ที่อยู่ๆ ก็จอดรถเลียบฟุตบาท
ประตูรถถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างสูงคนหนึ่งที่ร่างบางคุ้นหน้าอยู่
จะใครซะอีกล่ะ
ก็คนที่เขาไม่อยากรู้จักแต่ก็ยังมาแนะนำตัวไง เอ.. เขาชื่ออะไรนะ ทีมรึเปล่านะ
“เอ๊ะ อ้าว
นั่นพี่ประธานนักเรียนนี่นา”
“หะ เมื่อกี๊ตาลพูดว่าไงนะ” เด็กหนุ่มเอ๋อกินไปนิดนึงพร้อมถามน้องตน
“พี่ประธานนักเรียนไง
อ้อ พี่คงยังไม่รู้จักสินะ พี่คนนี้อะเขาเป็นคนอุ้มพี่มาที่ห้องพยาบาลเองแหละ”
“หา?? อุ้ม”
“ใช่ค่ะ”
เด็กหนุ่มน่าขึ้นสีเล็กน้อยไม่ใช่เพราะอะไรหรอก
เพราะอาย!
เขาโดนอุ้มเชียวนะ แล้วทางที่ห้องน้ำตรงนั้นกว่าจะถึงห้องพยาบาลมันก็ไกลอยู่นะ
แล้วคือมันต้องผ่านโรงอาหารด้วยไง
ต้นสะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อให้หน้าหายแดง
ร่างสูงที่ลงมาจากรถเมื่อครู่ก็มาอยู่ตรงหน้าเขา
“ต้น
เมื่อเช้าฉันบอกว่าตอนกลางวันให้รอก่อนไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่รอล่ะ”
ก็นะ คนอย่างต้นน่ะ
ไม่ชอบให้ใครมาสั่งหรือบังคับนี่นะ จะไม่รอก็ไม่แปลกหรอก
“ผมก็มีเพื่อนของผมน่ะสิ
แล้วเรื่องอะไรที่ผมต้องทำตามที่คุณบอกครับ”
“อ้าว
พวกพี่รู้จักกันอยู่แล้วหรอกเหรอ พี่ต้น ทำไมพี่ไม่บอกน้องเล่า!” ตาลถามขึ้นมาอย่างงงๆ
ซึ่งต้นก็ไม่ได้บอกอะไรน้องกลับไป
“ครับ
พวกพี่รู้จักกันเมื่อเช้าน่ะ” ร่างสูงตอบแทน
“แล้วมีอะไรไม่ทราบครับ”
“ก็ไม่มีอะไร
แค่จะไปส่งให้ที่บ้านน่ะ”
“ไม่ล่ะครับ
รบกวนเปล่าๆ ขอโทษนะครับ”
ต้นจับมือน้องสาวพร้อมเดินออกมาจากตรงนั้นทันทีเพื่อกลับไปที่บ้านของพวกเขา
“ทำไมพี่ปฏิเสธไปอะ” ตาลถาม
“พี่ไม่อยากรบกวนอะไรมากน่ะ
เดี๋ยวจะเคยตัว”
“แค่ครั้งเดียวเอง
ไม่เห็นเป็นไร”
“ไม่ล่ะ”
“เฮ้อ” ตาลถอนหายใจกับการปฏิเสธความหวังดีที่พี่ประธานให้มา
แต่ตาลเชื่อว่าพี่ชายคงไม่อยากจะรับความหวังดีนั้นเพราะเหตุการณ์ต่างๆ
ที่พี่ของตนเคยประสบมา เลยทำให้นิสัยพี่ตัวเองเปลี่ยนไปขนาดนี้
.
.
.
(ผู้กำกับ: เอ้า! คัทๆๆ
วันนี้ทำดีมาก เลิกกองได้!)
(ทุกคนในกอง: ขอบคุณค่ะ/ครับ)
---แถมท้ายเบื้องหลังการถ่ายทำ---
ไรท์: วันนี้เราซื้อขนมมาฝากนะ
หยิบไปคนละชิ้นเลย
นักเลงทั้งสาม: โหว ของดี
ขอบใจนะ //เตรียมหยิบเค้กส้มไปแต่โดนไรท์ตีมือก่อนหยิบคนละที. อ้าว ไรท์ ทำไมทำงี้
ไรท์: โทษที
เราลืมซื้อให้สำหรับพวกนายสามคน วันนี้อดไปนะ
นักเลง1: เพราะไร
ไรท์: นายทำร้ายลูกที่น่ารักของชั้น
นักเลง2: ได้ข่าวว่ามันเป็นบท
ไรท์: ก็ไม่ได้บอกให้ทำแรงขนาดให้สลบไปจริงๆนี่! เห็นมั้ย ฉากหวานๆ หายเลย
นักเลง3: งั้นพวกเราผิดสินะ
ไรท์: ใช่!
นักเลง2: อืม
ขอโทษละกัน แต่ว่าถ้าพวกเราไม่ได้กิน ไรท์ก็ต้องไม่ได้กินเช่นกัน
//หยิบเค้กของไรท์ไปแล้วเอาไปทิ้งถังขยะ
ไรท์: …… ขนมของฉัน...
//วิ่งไล่ตบตีพวกนักเลงสามคนนั้นแล้วหายไป
---
ทีม: ต้น เอาขนมไร
ต้น: เอาชูครีม!!
ทีม: เอาไป
ตาล: //หยิบแยมโรลไปกิน
ทีม: ตาล
ระวังอ้วนนะ
ตาล: ไม่อ้วนหรอกน่า!
ทีม: ต้น
ครีมเลอะปากหมดแล้ว // เอื้อมมือไปเช็ดครีมออกให้
ไรท์: //กดชัตเตอร์รัวๆ เฮ้ย! //วิ่งหนีต้นกับทีม
ต้น: ไรท์! ถ่ายทำไมมมม
//วิ่งไล่ไรท์
---Talk Me---
เย่ จบไปแล้วกับตอนที่ 1 นะคะ เขียนไปแบบเพลินๆ สไตล์ตามใจฉัน~~ ทำไมรู้สึกนักเลงมันเด่น.... ช่างมัน-- //โดนตบ พระเอกเราถึงจะบทน้อยในช่วงแรก แต่ช่วงหลังก็ใช่ว่าจะเบาน้า อิอิ--
อาจจะงงนิดสำหรับเนื้อเรื่องที่ต่อจากบทนำ คืองี้หลังจากที่พวกต้นย้ายบ้านมาอยู่อีกบ้านนึงแล้วก็เลยทำให้ต้องย้ายโรงเรียน เพื่อที่จะได้ไปมาสะดวก ลูกเขยก็จะได้อยู่ใกล้ๆมือขุ่นแม่ด้วย.. ส่วนเรื่องประวัติส่วนตัวของตัวละครเจนคิดไว้ว่าจะทำเป็นตอนพิเศษเน้อ
เอาเป็นว่าใครมีข้อแนะนำ
หรือจะติการเขียนของเจนก็ได้นะคะ เจนไม่ว่า
เจนจะนำไปปรับปรุงและพัฒนาตัวเองเรื่อยๆค่ะ
1 comment = 1
กำลังใจให้ไรท์เตอร์นะคะ^^
ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ
ความคิดเห็น