คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ฟิคนรก
ชื่อเรื่อง:[fanfic saint seiya] ฟิคนรก
ประเภท:ดันทุรังฮา...
ช่วงเวลา: บอกไม่ถูกแฮะ
หลังจากภารกิจจับคู่สุดป่วนระหว่างเจ้าซิลฟิคและยัยควีนจบลงผมก็ได้กลับมามีชีวิตที่สุขสงบและเรียบง่ายอีกครั้ง ( พร้อมกับรอยหมัดเล็ก ๆ น้อย ๆจากเจ้าบาซิลิสบ้าเลือด )
ตาผมทอดมองเหม่อไปยังท้องฟ้ามืดดำเบื้องบนทำให้เห็นแสงสว่างวิบ ๆ ปลิวตัดลงกับฉากสีดำอย่างที่รู้ ๆกันว่าเจ้าของแสงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเทพเซอุส เสียงเห่าของเซอร์บิรุสดังก่อนที่เสียงเอ๋งจะตามมาติด ๆ ( สมโดนเตะเข้าให้ล่ะสิ ชิชอบเห่าคนอื่นดีนักคราวก่อนแวบเข้าไปรายงานตัวเกือบโดนขย้ำเข้าให้ ไอ้สุนัขเจ้านายไม่สั่งไม่สอน ) ç เจ้าฟาโรห์นะครับไม่ใช่ท่านฮาเหมือนในภาคลอสแคนวาสโถใครจะกล้าหมิ่นเบื้องสูงกันเล่า
วันนี้ก็คงสุขสงบเหมือนเคยล่ะมั้ง
.
ก็นรกน่ะไม่ค่อยมีอะไรให้ทำหรอกครับงานส่วนใหญ่ก็มีคนเข้าประจำหมดแล้ว ว่าง ๆ ก็เดินตรวจนรกที ( ยกเว้นช่วงสงครามศักสิทธิ์ เกิดขึ้นที โอที กระจาย ) ชีวิตนี้แสนจะสุขสบายเงินเดือนก็เยอะดีแล้วที่ผมได้มาเป็นสเป็คเตอร์ ไม่ได้เป็นเซนต์อย่างชื่อวาเลนไทน์ที่เป็นนักบุญ ตอนเกิดสงครามศักสิทธิ์ขึ้นไปแจมที่แซงค์ทีไรเห็นแต่รอยร้าวตามวิหารที่เพิ่มขึ้นทุกที บางวิหารก็โดนเป่าไปจนไม่เหลือแม้แต่เสา ( ได้ข่าวว่าเซนต์แต่ละคนแทบจะกินแกลบแทนข้าว โถชีวิตแสนอนาถตกอยู่ในห้วงสีม่วงกระจาย ดีใจที่ได้ท่านฮาเดสเป็นเจ้านายถึงแม้ท่านแพนโดร่าจะออกกิจกรรมวิปริตมาบ้างก็ยังถือว่าสุขสงบกว่าแซงค์ล่ะน่า )
รวมพลสเป็คเตอร์
เสียงที่กึกก้องไปทั่วนรกของท่านแพนโดร่าทำให้ผมชะงักกึก
.......ยังไม่ถึง 200 ปีเลยนี่หว่า......
แต่เอาเถอะตามประสาลูกน้องที่ดีฮาร์ปี้ วาเลนไทน์ก็รีบเผ่นไปตามเสียงเรียก
*-*-*-*-*-*-**-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
“ จัดงานฉลอง 1 ผู้ยิ่งใหญ่ 1 ไอเดีย”
เสียงอุทานจากเหล่าชุดเกราะดำ
เหนือขึ้นไปหญิงสาวผมดำยาวพยักหน้าหงึกหงัก เบื้องหลังมีฮาเดสที่นั่งอยู่บนบัลลังค์มือเรียวยกดาบเป็นเชิงขู่ให้เทพผมทองที่ทำท่าจะโผเข้าไปหาอยู่ทุกขณะจิต
.......เอาอีกแล้วกิจกรรมนรกแตกเนี่ย........
“ สามผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นแกนหลักในการจัดงาน ที่ท่านฮาเดส (ชั้นเองที่คิด ) คิดเอาไว้คือเราจะมีการแสดง ของว่าง และบ้านผีสิง เลือกคนช่วยงานได้ตามใจชอบไม่ต้องเอาลูกน้องสายตัวเองก็ได้”
สามผู้ยิ่งใหญ่แต่ละคนเริ่มออกอาการต่าง ๆ กัน
ราดาแมนทิส......คิ้วเดียวที่หมุ่นอยู่แล้วก็ยิ่งขมวดเข้าไปอีก
มีนอส.......หน้าบูดนิดหน่อนคาดว่าที่ท่านแพนโดร่าให้สามผู้ยิ่งใหญ่แยกกันจัดคงจะทำให้อารมณ์บูดหน้าดู
ไออาคอส........ใบหน้าสวยดูเอนจอยกับงานเต็มที่
“ชั้นจะเชิญพวกที่อยู่ข้างบนลงมาร่วม บอกไว้ก่อนว่าถ้าทำเสียชื่อท่านฮาเดสล่ะก็ หึ หึ หึ”
คอสโม่มืดโชติช่วงให้เหล่านักรบดาวมารกรีดร้องในชะตากรรมของตน
.......ซวย อิ๋บอ๋าย..............
“แล้วถ้าใครทำดีล่ะก็จะได้รับเงินโบนัสเพิ่มขึ้นด้วยนะ เพราะฉะนั้นทุ่มสุดตัวเลยนะทุกคน”
หลังจากที่สามผู้ยิ่งใหญ่ประชุมกันเสร็จเรียบร้อยมติก็ออกมาดังนี้
ราดาแมนทิส=บ้านผีสิง
มีนอส=การแสดง
ไออาคอส=ของว่าง
“เสร็จแล้วงั้นชั้นขอเลือกผู้ช่วยนอกจากหน่วยชั้นเพิ่มหน่อยนะ” การูด้า ไออาคอสเดินลัดเลาะตามเหล่าสเป็คเตอร์โดยมีเจ้าฟาโรห์เดินตามต้อย ๆ มีนอสกับราด้าจึงเดินหาบ้าง
ร่างบาง ๆ ของครุฑน้อยเดินวนรอบห้อง ท่ามกลางสายตาหื่น ๆ ของสเป็คเตอร์ชั้นต่ำที่เข้ามาร่วมด้วย
ตาของวาเลนไทน์โฟกัสไปยังคนหัวเงินเล่นแส้ที่ทำท่าดี๊ด๊าอยู่ข้องหน้าเมื่อไออาคอสเดินเข้ามาหา
เปรี๊ยะ
เสียงคอสโมปะทุทำเอาลูกน้องที่มีนอสเลือกไว้ถอยออกมาอย่างหวาด ๆ นู๋กัวง่า T ^ T
ตาของบัลร็อคประสานเข้ากับกริฟฟินรอยยิ้มแห่งผู้ชนะปรากฏขึ้น
.......จูเด็คก้าแตกก็งานนี้ล่ะ........
หากร่างบางก็ทำให้หลายคนคาดการณ์ผิด เมื่อเจ้าตัวเดินวืดผ่านอย่างไม่ใยดีก่อนเดินมาหยุดที่
ที่...
ที่..
ที่!!!
หน้าผมเอง
โอ้วก็อดท่านจะให้กระผมโดนเหยียบตายคานรกรึขอรับบบบบบบบบบบบ / ร้องโหยหวนในใจ
“วาเลนไทน์งานนี้ก็ต้องพึ่งนายอีกแล้วนะ”
ยิ้มหวาน ๆ ส่งให้ทำให้คนรับยิ้มเจื่อน ๆ ตอบ
เมื่อสายตาทิ่มแทงส่งมาจากเบื้องหลังไออาคอส
หนึ่งคือกริฟฟอน มีนอส
อีกหนึ่งบัลร็อค รูเน่ที่ร่วมมือกันโดยไม่ได้นัดหมาย
..........ไม่ตายงานนี้แล้วจะตายงานไหน...........
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หลังจากที่ท่านแพนโดร่าประกาศกิจกรรม ( สิ้นคิด ) เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ก็แยกออกไปทำงาน
เท่าที่ดูแล้วจะขอบอกลักษณะของแต่ละกลุ่ม
การแสดงกลุ่มนี้ดูจะคัดหน้าตาซะหน่อยดังนั้นเจ้ามารูคิโน่ที่หวังจะได้ติดตามนายไปแจ้งเกิดก็กระเด็นไปอยู่บ้านผีสิงตามระเบียบ ( กร๊ากกกกก สะใจโว้ย )
บ้านผีสิงคงไม่ต้องบอกว่าที่นั่นเป็นโซนแบบไหนปกตินรกก็น่ากลัวอยู่แล้ว จับพวกเคหน้าตาดี(น้อย) มาอยู่รวม ๆ กันหันไปเห็นแล้วขนพาลจะลุก
ของว่างที่เป็นกลุ่มที่ชั้นได้ไปอยู่ก็เป็นพวกหน้าตาพอดูได้ถึงหน้าตาดี ก็อ่ะนะงานทำขนมอาหารคงจะไม่ได้ขายหน้าตาอะไรหรอกมั้ง?
เริ่มเตรียมงาน
“อยากจัดงานแบบเลี้ยงของว่าง จิบน้ำชาบรรยากาศสบาย ๆ”
มองกระดาษที่จด ๆ เอาไว้แล้วเงยหน้ามองผู้ร่วมประชุมเฉพาะกิจ
ไอ้เรามองหน้าผู้ร่วมประชุมแล้วก็ถอนหายใจเฮือก ท่านหัวเรือใหญ่ที่บอกความคิดคร่าว ๆ ออกมาให้รับฟังนั่งจ้องตาแป๋ว
คนทำหน้าที่ผู้ช่วยดำเนินงานกลาย ๆ มองลำดับงานในมือ
“ทำของว่าง กับน้ำชาไม่มีปัญหาท่านแพนโดร่าสั่งอุปกรณ์มาให้แล้วแค่ลงมือทำนิดหน่อย”
ทำขนมน่ะไม่ยากหรอกดูหน้าพวกควีนแล้วสอนนิดสอนหน่อยก็น่าจะทำได้ แต่อีกปัญหาใหญ่เนี่ยสิ
“สถานที่จะเอาที่ไหนดี?”
คำถามที่ก่อให้เกิดความเงียบขึ้นทันที
ปราสาทรึก็โดนมีนอสยึดไปทำการแสดงแล้วเรียบร้อย บ้านท่านแพนโดร่าราด้าเข้าไปจัดเตรียมงานแล้ว
“ก็เอาข้างนอกนี่แหละ ใกล้ ๆ ปราสาทง่ายดี”
คำเสนอจากท่านหัวหน้า
“ดูสภาพก่อนนะครับท่านไออาคอส บรรยากาศทมึนมีเสียงมโหรีจากคนตายโหยหวนเนี่ย ขนาดพวกเราที่อาศัยอยู่ยังแทบผวา ไอ้พวกข้างบนที่มันเคยชินกับแสงสว่างอย่าว่าแต่จิบชาเลยคงได้เผ่นกันก่อน”
ฟาโรห์ที่เปิดปากพูดความเห็นที่ทำให้พยักหน้าสนับสนุน อ่านะอยู่เองยังหลอนไอ้พวกที่ไม่ชินมีหวังจับไข้หัวโกร๋นแน่
“เราก็มาปรับปรุงบรรยากาศกันก่อนสิ” ควีนสเป็คเตอร์หญิงเสนอออกมา
“เอาผ้าสีชมพู ลูกโป่งสีชมพู ชุดน้ำชาน่ารัก ๆ สีชมพู โอ้ยเอาทุกอย่างให้เป็นสีชมพูหมดเลยดีกว่า จะได้เพิ่มบรรยากาศสดใสนะนะ ^ ^”
คนมีความรักจะเห็นโลกเป็นสีชมพูจริง ๆ ด้วยสิ = = *
“เดี๋ยวพวกเราก็ไปดูก่อนก็แล้วกันว่าพอจะเสริมอะไรได้มั่ง เลิกประชุม”
การูด้าที่เดินนำตามด้วยวาเลนไทน์ก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อคำถามจากหนุ่มดำ
“ท่านไอไปรู้จักกับวาเลนไทน์เมื่อไหร่กันครับ คุยกันไม่เคยเห็นคุยซะทีแล้วทำไมถึงทำท่าสนิทกันดีแบบนี้ล่ะครับ”
“อ๋อ ก็ชั้นกับวาเลนไทน์เป็นลูกศิษย์ท่านฮิพนอสเหมือนกันเลยสนิทกันไงล่ะ ^ ^”
“เข้าใจแล้วครับ”
นิ่งไปสักพัก
เฮ้ย O[]o!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ทุกคนร้องลั่นเมื่อได้ฟังผ่านหูแล้วเอามาพิจารนาอีกครั้ง
ข่าวใหญ่ในแดนนรก ความลับที่ปิดบังมานานกำลังจะได้รับการเปิดเผย ( เวอร์แล้ว )
“พวกนายตกใจอะไรนักหนาวะ” คำถามจากต้นเหตุความอึ้งเกาหัวแกรก ๆ
......อะไรแค่เป็นลูกศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันมันน่าตกใจนักเรอะไง.........
“ก็ไม่ไงล่ะ เจ้าวาเลนไทน์บอกมาเดี๋ยวนี้นะยะ ความลับอะไรที่แกปิดบังเอาไว้”เจ๊ควีนสติแตกไปแล้ว
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกชั้นน่ะถูกพาตัวลงมาพร้อมกับไออาคอสตั้งแต่ยังเด็กกันอยู่เลย นรกที่มีเด็กอยู่แค่สองคนท่านฮิพนอสกลัวว่าจิตสำนึกจะเอียงหาแกนโลก ( เหมือนพวกแก ) ก็เลยรับชั้นกับไออาคอสเป็นศิษย์ก็แค่เนี้ยแหละ”
“แค่เนี้ย” เจ้าฟาโรห์ร้องโวยออกมา
“ชั้นก็นึกว่าแกอาจจะถูกฆ่าล้างตระกูลตั้งแต่เด็ก เลยหันเข้าหาฝ่ายมืดลงนรกมาเพื่อฝึกวิชาแก้แค้นให้กับพ่อแม่ และท่านไออาคอสก็คือศิษย์พี่ที่แสนจะเก่งกาจมากน้ำใจ ทั้งสองช่วยกันกำจัดศัตรูจนสำเร็จสุดท้ายก็ได้แต่งงานกัน(!!?) จบอย่างมีความสุข” กอร์ดอนเล่าสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาทำเอาเพื่อนทึ่งในความฉลาดของมัน
“ไม่ใช่หนังจีนนะเว้ย แกดูดาบมังกรหยกมากไปป่าววะ”
“มะช่าย ตอนนี้เดชไอ้ด้วนกำลังมาแรงนะ ไม่เชื่อไปถามแฟนทาซอสได้เลย ^ ^ ” เจ้ากอร์ดอนทำเสียงคิกขุ
“เดชไอ้ด้วนบ้านแกสิ อย่าพูดถึงไอ้เทพจั๊กจั่นนั่น รีบ ๆ หาทางคิดด้วยกันเร็วว่ามีที่ไหนในนรกนี่จะจัดงานน้ำชาได้”
เสียงแหวจากฮาร์ปี้ทำให้ทุกคนแตกกระเจิงออกไป
..เดินเลาะโทคิวโทสก็แล้ว....
.......ริมฝั่งแม่น้ำอาเครอนจนขาลาก......
ไอ้สถานที่ที่เหมาะจะหาความสุนทรีน์ในนรกมันไม่มีเลยรึไงโว้ยยยยยยยยยยยยยยย
“เหนื่อยง่ะ”เสียงบ่นจากทุกคน
“นี่นี่ พวกเราไปไล่ที่เจ้าโอฟี่มาจัดสถานที่ดีป่าววะ” เสียงเสนอจากหนุ่มดำประจำกลุ่มที่นั่งจับปีกไออาคอสกระพือให้ลมพัดเบา ๆ ถาม
“ไม่ได้หรอก เจ้าโอฟี่มันผ่อนที่ดินด้วยการเล่นดนตรีให้ท่านฮาเดสฟัง ออกฉโนดไว้เรียบร้อย”
คำชี้แจงจากหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม
“รู้ได้ไงอ่ะควีน” คำถามแบบอัศจรรย์ใจจากเจ้ากอร์ดอนที่อยู่กับเพื่อนสาวมานานจนรู้ว่า นอกจากซิลฟิคแล้วเจ๊ไม่สนสิ่งอื่นใดเลย
“ไปนั่งคุยกับยูริทิสน่ะ ดอกไม้งามในยมโลกอย่างพวกชั้นก็ต้องหาพวกเดียวกันไว้ก่อนสิ”
เอิ่ม........ดอกไม้กินคนล่ะสิไม่ว่า..........
“ว่าแต่ชั้นรู้นะที่ดี ๆ น่ะ”
“ที่ไหนควีน” ครุฑน้อยถามอย่างสนอกสนใจ
สาวใช้กล้วยไม้ไม่ตอบคำจ้ำพรวดนำให้ทุกคนโกยอ้าวตามทันที
เส้นทางที่นำไปแสนทุรกันดารสิ้นดี แต่ไหงทิวทัศน์รอบ ๆ นี้คุ้น ๆ ชอบกลวะ
“ถึงแล้ว ทะดา” มือโบกไปมาอย่างสุดแสนดี๊ด๊า
.......ที่ดีจริง ๆ ด้วยสิ........
ทุกคนที่ตามมาต่างนิ่งค้างในบรรยากาศของสถานที่
.......ผาหินกว้างเรียบเสมอกันอย่างหาไม่ได้ง่ายในแดนนรก ตาดำ ๆ ของวาเลนไทน์ทอดมอง ดอกไม้เล็กกระจายเต็มพื้นที่ กล้วยไม้พันธุ์แปลก ๆโอ้งามแท้ ~ ~ ~ ~ ว่าแต่ตรงนี้มัน............
หลังบ้านตรูเอง!!!!
“ยัยควีน”
“จ๋าจ๊ะวาจัง”
“ทำไมหลังบ้านชั้นมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้!!!!” มือชี้ไปยังทุ่งดอกไม้ อะไรวะเมื่อก่อนที่มันจะให้เราช่วยจับคู่กับซิลฟิดมันไม่มีนี่หว่า = = ;;;
“ก็ตอนนายทำหน้าที่สื่อรักให้ชั้น ไอ้เราว่าง ๆ นอนเล่นรออยู่บ้านนายมันก็เบื่อขึ้นมา เลยปลูกดอกไม้เล่นแถวนี้ล่ะ ”
........ว่าแล้ว.........
“ถึงว่าทำไมเธอถึงทำท่าปากล้วยไม้บ่อย ๆ เพราะมีแหล่งเพาะพันธุ์ใหม่นี่เอง” เจ้ากอร์ดอนทุบมือแสดงอาการรับความรู้ใหม่
“ว่าแต่นายความรู้สึกช้านะ ชั้นทำไว้ตั้งหลายอาทิตย์แล้วนายเพิ่งมารู้ มัวแต่อ่านฟ......ฟิค.....อุ้บ” มืออุดปากไว้ทันควันนี่เธอไม่คิดจะเก็บเป็นความลับเลยใช่ม้ายยยยยยยย
“เอาที่นี่ล่ะ”ไออาคอสเดินชมไปทั่ว ๆ แล้วตัดสินใจ
“หาไม่เอานะ”เจ้าของสถานที่โวยออกมาทันที
......ใครจะไปยอมวะ เดี๋ยวต้องจัดการไอ้ดอกไม้พวกนี้ให้หมด......
“ไม่ได้ที่นี่สุดแสนจะสะดวกสบายบรรยากาศก็ดี ที่สำคัญบ้านนายก็มีครัวด้วย ถ้าปฏิเสธจะไปบอกป้า(?) ว่าไม่ให้ความร่วมมือ”
ชีวิตนี้ชั้นยังซวยไม่พอเรอะงายยยยยยยยยยยยยย
“ยัยควีนแรงน่ะใส่ ๆ เข้าไปหน่อยสิ”
เสียงสั่งจากวาเลนไทน์เจ๊ควีนหันขวับไปมอง
“อะไรวะวาเทนไทน์ขนมปังนะยะ แค่กลิ้งไปกลิ้งมาจุดพลังคอสโมให้นิดหน่อยก็กินได้แล้ว”
อาวล่ะ รู้แล้วถึงความไร้คุณสมบัติแม่ศรีเรือนของยัยเนี่ย
“นวดดี ๆ หน่อยสิ หัดเอาไว้เผื่อซิดฟิดอยากกินขึ้นมา เธอจะได้ทำให้กินไง”
“เพื่อซิลฟิด ย้ากกกกกกก” แล้วเธอก็กระตุ้นพลังคอสโมขึ้นมาเพื่อชายอันเป็นที่รัก ความแรงในการนวดแป้งของเธอทำให้กอร์ดอนยกถาดคุกกี้ออกมาห่าง ๆ ทันที
“วาเทนไทน์ชั้นเพิ่งรู้ตัวตนที่แท้จริงของแกก็วันนี้ล่ะ” มิโนทอรัสพึมพำ
“ว่าอะไรนะ รีบทำมืออย่าหยุดดิ พวกเราเป็นฝ่ายของว่างนะเว้ย”
“ จ...จ๊ะ ^ ^ หูผีชะมัด (- -;;)”
เอาล่ะเราไปดูอีกด้านกันดีกว่า
เสียงพิณดังขึ้นอย่างนุ่มนวล
ร่างบางของการู้ด้า ไออาคอสหลับตาพริ้ม กลางกลุ่มเก้าอี้กับโต๊ะที่ยกเข้ามาตั้งเพื่อเป็นบริเวณให้บริการ
หากเมื่อเสียงเพลงเปลี่ยนไปครุฑน้อยก็ลุกขึ้นตะโกนอย่างหมดความอดทน
“ฟาโรห์ไหงเจ้าเล่นพิณทีไรมันกลายเป็นเพลงสวดศพทุกทีเลยล่ะห๊า”
บีจีแบบอียิปต์ที่ขึ้นมาเบื้องหลังพังลงไปทันที
“ทะ......ท่านไอครับ ผมก็เล่นเป็นแต่เพลงนี้นี่ครับ จะให้ทำยังงายยย T ^ T”
“เป็นนักดนตรีที่งี่เง่าที่สุดเท่าที่มีเลยนะ ฟาโรห์”
ไลร่า โอฟี่ที่เดินเลาะชมงานเข้ามาแขวะ
“ไอ้สว่าง!!!!!”
“นักดนตรีที่ดีมันต้องมีพาวเวอร์ ที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ชม”
เซนต์หนุ่มยักคิ้วกวน ๆ ส่งให้
“อ้าวโอฟี่มาพอดีเลยสอนฟาโรห์เล่นเพลงอื่นหน่อยซิ”
“ท่านไอ........... อย่าปล่อยผมไว้กับเจ้าโอฟีบสิครับบบบบบ”
เสียงโหยหวนจากลูกน้องคนสนิทที่เจ้านายไม่สนใจเดินหนีไปทางครัวทันที
“ไหน ๆ งานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว” เสียงใส ๆ จากไออาคอสถามไปนิ้วของกอร์ดอนชี้ไปยังขนมปัง คุกกี้หลากรสที่วางอยู่เป็นกองย่อม ๆ
มือเรียวหยิบของว่างขึ้นมากินโดยมีสายตาจิกจากฮาร์ปี้หนุ่ม
“ขอกินนิดเดียวเองน่า......นะ ไม่ได้ชิมฝีมือของนายมานานแล้วนี่นาวาเลนไทน์”
“ท่านไออาคอสเคยกินขนมฝีมือวาเลนไทน์มาแล้วหรือคะ”
สาวควีนปาดเหงื่อแต่มือก็ยังนวดแป้งไปไม่หยุดยั้ง ใบหน้าสวยของไออาคอสพยักหน้าเบา ๆ ก่อนหยิบขนมเข้าปากอีกชิ้น
“ว่าแต่วาจังเนี่ยเห็นหน้าแบบนี้ ไม่คิดว่าจะทำขนมเป็นเลยนะ ท่านฮิพนอสสอนมาเหรอ”
หันไปมองวาเลนไทน์ที่กำลังกางตำราเล่มสีดำคุ้น ๆ ตาออกอยู่หน้าเตามือหยิบส่วนผสมลงไปของเหลวในหม้อเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีรุ้งทันควัน
.....อะไรวะในหม้อนั่นน่ะ -- --*
..
“ทะ ทำขนมอะไรอยู่เหรอ” เจ้ามิโนทอรัสถามคำตอบถูกส่งมาด้วยการยื่นหนังสือปกดำให้
มือค่อย ๆ เปิดดูสูตรอาหารโดยมีควีนชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วย
สารบัญที่กางไว้เผยให้เห็น
ยาม่วง
ยาสกัดพลัง
ยาเสน่ห์
เค้กคายความลับ
ยาบอกความในใจ
ไอศกรีมสะกดจิต
“เฮ้ย!!!!!”
อ่านชื่อแต่ละรายการแล้วกอร์ดอนก็ถึงกับมืออ่อนทำหนังสือร่วงลงพื้น
Pandora ‘s menu
ชื่อหนังทำให้ความเงียบเข้าปกคลุมชนิดที่ว่าหากเข็มตกซักเล่มก็คงได้ยิน
นะ.......นี่ มันอะไรกานนนนนนนนนนนนนนนนน
รึว่า รึว่า คนที่สอนวิธีทำอาหารให้วาเลนไทน์คือท่านแพนโดร่า!!!!!!!!!
โอ้ฮาเดสแค่คิดก็สยองแล้วมีคนทำอาหารมหาประลัยนรกแตกเพิ่งขึ้นอีกคนเนี่ย
ท่ามกลางความช็อกไออาคอสที่กินคุ๊กกี้หมดไปกองหนึ่งแล้วเคลื่อนหาเป้าหมายต่อไป
“พวกนายหยุดทำไมลงมือทำงานต่อสิ”
เสียงของฮาร์ปี้ดังขึ้นทำให้กอร์ดอนกับควีนแตกกระเจิงไปทันที
......อะไรวะ ไอ้พวกนี้............
“วะ เลนไทน์ไอ้นั่นมัน”
มือสั่นระริกที่ชี้ไปทางหม้อที่ใส่ของเหลวสีรุ้งในมือหนุ่มผมชมพู
“อ๋อนี่เรอะท่านแพนโดร่าเอายาสกัดพลังมาให้ทำน่ะ บอกว่าจะเอาไปให้พวกที่จะมาเที่ยวกินจะได้ไม่ไปก่อความเสียหายให้กับนรก แต่คงไม่มีใครโง่กินหรอกเนอะสียามันออกจะไม่น่าไว้วางใจกันขนาดนี้”
แต่สิบเท้ายังรู้พลาดนักปราญช์ยังรู้พลั้ง แพนโดร่าที่ปกติจะมีฝีมือการทำอาหารที่ยากบรรยาย บทเจ๊ทำอาหารที่มีสรรพคุณแปลก ๆ ขึ้นมาอาหารนั้นจะอร่อยจนทุกคนต้องอึ้งและขอชิมซักคำ พออาหารทำพิษไม่ตายก็คางเหลือง หวังว่าคงไม่มีคนโชคร้ายขนากนั้นนะ...............
“เฮ้อ” ควีนกับกอร์ดอนถอนหายใจพร้อมกัน
นึกว่าเจ้าวามันจะเป็นแพนโดร่าเบอร์ 2 ไปซะแล้ว
“ว่าแต่ท่านฮิพนอสเนี่ยก็ทำอาหารเก่งเนอะ ว่ากันว่าศิษจะถ่ายทอดความสามารถจากอาจารย์ได้แค่ 60 % เท่านั้นแกที่ป็นลูกศิษยังทำได้อร่อยขนาดนี้ อาจารย์แกจะทำขนมได้อร่อยขนาดไหนนะ”
ไออาคอสเกิดอาการขนมติดคอขึ้นทันใด วาเลนไทน์เกือบทำขวดยาสีรุ้งตกพื้น
“นี่ชั้นพูดอะไรผิดไปเหรอ”ควีนออกอาการงง ๆ
“นินี่ พวกนายไม่รู้หรอกรึว่าคนที่สอนให้แพนโดร่าทำอาหารคือท่านฮิพนอส?” หนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่ถามออกมาทำให้เกิดอาการอึ้งเป็นครั้งที่สอง
ย้อนกลับไปดูคำพูดของควีนนิดนึงนะ
ว่ากันว่าศิษจะถ่ายทอดความสามารถจากอาจารย์ได้แค่ 60 % เท่านั้น
แค่ 60 % ยังเคยทำให้ลูกประคำชากะเปลี่ยนสีทั้ง 108 ลูกมาแล้ว 100% จะขนาดไหนกันวะ!!!!!!!!!
จิ้นเตลิดเปิดเปิงจนช็อกค้างไปทั้งสองคนทำให้วาเลนไทน์มองอย่างรำคาญ
“เกะกะจริง ๆ หลีกไปดิ๊ ขวางทางเข้าออก”
หนุ่มผมชมพูเดินจากไปพร้อมกับทิ้งสองบุคคลที่แข็งค้างไปแล้วและไออาคอสที่นั่งกินขนมเล่นอยู่ในห้องครัวไว้กับความเงียบงัน
“ดีจังนะที่งานเสร็จทัน”
หนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่เดินตรวจบริเวนรอบ ๆ งานพร้อมกับวาเลนไทน์ที่คอยเอาปากกาขีดลงในกระดาษตรวจความเรียบร้อย
“ขนมทำไว้แล้ว ชาเดี๋ยวก็เอามาส่งแล้ว เพลงฟาโรห์ก็เล่นได้เพิ่มสามเพลงยังไงถ้าไม่ไหวเปิดซีดีเอาก็ได้ โต๊ะเก้าอี้พร้อม แต่งานของเราออกจะเรียบง่ายไปหน่อยคงต้องหาอะไรมาเพิ่ม”เคาะปากกากับกระดานเล่นเผื่อคิดไอเดีย
.......ช่างเหอะได้เท่านี้ก็ดีแล้ว...........
“ท่านไอเดี๋ยวผมจะไปเอาชาที่สั่งไว้ก่อนนะครับ”
สฟิงซ์เดินเข้ามาบอก
“เดี๋ยวชั้นไปช่วยยกมาละกัน ไออาคอสห้ามจิ๊กขนมไปกินอีกนะ” คำสุดท้ายหันมาเน้นใส่คนที่ยืนไม่รู้ไม่ชี้
ทันทีที่ร่างทั้งสองหายไปจากสายตา
ไออาคอสที่ใบหน้าหวานสวยประดับได้วยรอยยิ้มและประกายในดวงตาคู่สวย
.......ชั้นจะทำให้แผนกของว่างเป็นแผนกที่เจ๋งที่สุด โบนัสจะต้องเป็นของชั้นหึหึ............
คอสโมแห่งความมุ่งมั่นของร่างบางแผ่ออกมา
“ควีน กอร์ดอน”
ร่างของลูกน้องทั้งสองเข้ามา
“ไปเอาของนั่นมานะ ห่อสีฟ้าที่เก็บไว้ในห้องคอลเล็กชั่นของมารูคิโน่
นั่น”
2.
“ไปเที่ยว.......?” วาเลนไทน์ทวนคำอย่างงุนงง
“งานยังไม่เสร็จเลยนะ”
“น่าน่า อีกแค่นิดเดียวเดี๋ยวฝากฟาโรห์ดูไว้ก็ได้” เสียงอ้อน ๆ จากการูด้าน้อยพร้อมกับส่งสายตาปิ๊งให้
เหอ ๆ มันชักจะไม่น่าไว้ใจนะทำท่าแบบนี้
“ไปนะ น้า..........”
ทอดเสียงอ้อนก็แล้วส่งสายตาสยบเมะ(?) ก็แล้ว ศิษร่วมสำนักก็ไม่มีท่าทีจะยอมไปด้วยง่าย ๆ ( โถไออาคอสสายตานู๋มันสยบเมะได้ แต่วาเลนไทน์เป็นนอมอลนะจ๊ะ)
“วาเลนไทน์แกไปกับท่านไออาคอสเหอะน่า ทางนี้พวกชั้นจัดการเอง”
“ถ้าแกยังไม่ไปล่ะก็ ......” แล้วควีนก็คว้ากระดาษปึกนึงออกมา คนผมชมพูตาเหลือกเมื่อมองเห็นข้อความที่หัวกระดาษ
......นั่นมัน.......
......ฟิคที่ชั้นปริ้นออกมาไว้นี่หว่าแล้วนี่มันตกไปอยู่ในมือยายควีนได้ไง....... (ว่าแต่แกยังไม่เลิกอ่านฟิควายอีกเหรอวะ ยังไม่เข็ดรึไง)
.......รึว่า ยัยนี่คิดจะใช้.......
“ความลับของแกจะต้องถูกเปิดเผย”
ถ้าเป็นผู้หญิงฮาร์ปี้ วาเลนไทน์ก็คงจะร้องกรี๊ดออกมาแล้วแต่นี่ความเป็นผู้ชายและศักดิ์ศรีแห่งดาวนภามันค้ำคออยู่ ก็ได้แต่เดินตามการูด้าต้อย ๆ เหมือนถูกมนต์สะกด
เดินตามไปอย่างไร้ซึ่งสติเมื่อไออาคอสหยุดเดินก็หยุดตามและเมื่อเงยหน้าขึ้น
........บ้านท่านแพนโดร่าก็มาอยู่ตรงหน้าแล้วเรียบร้อย..........
เสียงโหยหวนจากแขกรับเชิญดังมาเป็นระยะ ๆ
ไออาคอสเดินไปต่อแถวรับบัตรแต่บังเอิญรึเปล่าไม่ทราบ เพราะกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้า
พวกเซนต์ทั้งนั้นเลยนี่หว่า!!!!!!
มีพวกหน้าคุ้น ๆ ที่เคยเห็นที่โทคิวโทสอย่างมิโร่ ไอโอเรีย มู และที่สำคัญไอ้เซย่าที่เคยฟาดปากกับมันมาแล้วก็อยู่ที่นี่ด้วยนะสิ
“กลุ่มต่อไปเข้ามาได้แล้ว” เสียงแบบไร้ซึ่งอารมณ์ดังขึ้นประตูหนาหนักก็เปิดออกทันที ไออาคอสรีบดึงมือคนที่ยังค้างอยู่เข้าไปรวมกลุ่มกับเหล่าเซนต์ทันที
“ขอไปด้วยนะ”
............อะ ไออาคอส.......ใจกล้ามาก.................
เสียงประตูปิดดังปังไออาคอสและวาเลนไทน์ที่เข้าไปอยู่ร่วมในกลุ่มเซนต์ก็นิ่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขบวนเริ่มเคลื่อนเปลวไฟแดงเดือดก็โผล่แวบขึ้นมาทันที
มีการสะดุ้งกึกในหมู่เซนต์ขึ้นมานิดหน่อย
“ชั้นไม่อยากมาเลยง่า” เสียงโอดจากอาริเอส มูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน
“ไม่มีใครอยากมาหรอกน่า แต่นี่เป็นคำสั่งท่านอาเธน่าที่ต้องการประกาศศักดาของเหล่าเซนต์ให้สเป็คเตอร์ได้รับรู้ ท่านยังบอกอีกด้วยว่าถ้าใครทำขายหน้าล่ะก็จะโดนตัดเงินเดือน”
พอท่านสง่าพูดอย่างนี้แกะชมพูก็ได้แต่เก็บคำครวญไว้ในใจ ภาพอาจารย์ชิออนที่เข้าไปก่อนปรากฏในห้วงคิด
......ท่านอาจารย์ครับศิษคนนี้คงไม่มีวันได้กลับไปพบท่านอาจารย์แล้ว หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้ผมได้กลับมาเป็นลูกศิษท่านอาจารย์อีกนะครับ.............
ท่ามูที่ดูจะจิตหลุดไปแล้วก็ถูกหลวงพี่ช่าลากให้ตามคนอื่นไปเพราะเจ้าตัวเล่นหยุดค้างไปเสียเฉย ๆ
“ว่าแต่ที่นี่มันก็น่ากลัวจริง ๆ นะ” คาน่อนเอ่ยขึ้นมาแต่เมื่อชายหนุ่มหันหลังกลับไป
....คนอื่นหายไปไหนกันหมด!!!!!!!!........
“ซาง่า” เสียงเรียกแฝดพี่เบา ๆ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมา
“
“
เสียงนับอะไรบางอย่างลอยมาเข้าหู น่อน ๆ ชะงักกึกมองไปมทางมุมมืดที่มีเสียงลอยออกมา
“
“
คิ้วชักหมุ่นลงเมื่อตัวเลขดันนับข้ามไปเสียเฉย ๆ ขนุนก็ทำใจดีสู้ผี เดินย่องเข้าไปทางต้นเสียงแสงไฟสีฟ้า ๆ โผล่พ้นมุมที่ผ้ากางบังไว้ เงาที่ทาบผนังอยู่ไหวยะเยือก
คาน่อนกลืนน้ำลายดังอีกแม้ขาจะสั่นพั่บ ๆ แต่มือก็ยังไม่ปล่อยออกจากหลวงพ่อที่ไปรีดไถจากชากะมาก่อนการทัวร์บ้านผีสิง
“อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ ไปสู่ที่ชอบเถอะ ~ ~ ~ ~ ”
พึมพำแผ่เมตตามือก็กระชากผ้าพรวดมือเรียวเตรียมสาดน้ำมนต์เมื่อเปิดออกไปก็พบกับ
ราดาแมนทิสที่กำลังสูบบุหรี่อยู่!!!!!! ด้านข้างมีจานเปล่าเรียงไว้ หนุ่มคิ้วติดที่อยู่ในชุดขาวแบบญี่ปุ่นเลิกคิ้วมองอย่างงง ๆ
“คาน่อน?” หนุ่มเจมินี่ลืมอารมณ์กลัวไปทันใดเสียงว้ากก็กระหน่ำใส่ราดาแมนทิสทันที
“อะ .....ไอ้บ้า...... แกมาทำแบบนี้ทำไม รู้ไหมชั้นเกือบหัวใจวายตายไปแล้ว”
“ไม่หรอกคาน่อน นายน่ะหัวใจวายไม่ได้หรอก” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
“เพราะหัวใจนาย ......มันอยู่กับชั้นแล้วยังไงล่ะ” มุขเสี่ยว ๆ จากราด้าทำให้คาน่อนแทบหัวทิ่มลง
หากเสียงพรืดจากเบื้องหลังที่ทำให้คนทั้งสองหันหน้าไป
กลุ่มเพื่อนที่กลายเป็นสมาคมหลังเสา ค่อย ๆ ช่วยกันดึงตัวขึ้นมาหลังจากที่พากันสะดุดเพราะมุขรุ่นโดโกของราด้า
“พวกนาย”
ย้อนกลับไปซักห้านาทีที่แล้ว
ไอโอเรียสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือมาสะกิด
“ใครวะบรรยากาศยิ่งหลอน ๆ อยู่เดี๋ยวสาดไลท์นิ่ง พลาสม่าใส่หรอก”
หันไปก็พบกับไออาคอสที่กวักมือเรียกให้มาดูกระดาษที่วาเลนไทน์ถืออยู่
คาน่อนที่เดินนำอยู่ก็ไม่สังเกตเลยว่าทุกคนหยุดเดินไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“อะไร?”
“แผ่นพับแนะนำสถานที่”
จุดต่อไปนิ้วลากลงตามเส้นทาง
.......ผีนับจานราดาแมนทิส............
ทันทีที่รู้ชื่อผีซาง่าที่กำลังจะเรียกคาน่อนเข้ามาก็ถูกไอโอรอสล็อกคอไว้ทันที ตาแช่มก็ไวเอาการมือคว้ากล้องเซตระบบถ่ายในที่มืดโดยมีมิโร่เป็นผู้ช่วย ส่วนคนที่เหลือก็ซุบซิบกันเบา ๆ โดยมีคอสโมม่วงออกมาเป็นฉากหลัง
สเป็คเตอร์ทั้งสองมองภาพนี้ด้วยตวามรู้สึกอันยากบรรยาย
...........น่ากลัวจริง ๆ พวกเซนต์เนี่ย..............
“รู้สึกว่าเซนต์ชักจะถดถอยลงไปทุกทีแล้วนะวาเลนไทน์”
คนฟังก็พยักหน้ารับ
“เมื่อสองร้อยปีก่อนมันก็มีแค่คู่โดโก ชิออนนี่นา”
และเหตุการณ์ก็ดำเนินมาจนถึงราด้าที่ปล่อยมุขเสี่ยวออกมาจนหัวทิ่มกันทั้งแก็งค์
“พวกนายนี่แย่กันจริง ๆ เลย” เสียงบ่นจากขนุนแวดใส่สมาคมหลังเสาที่พากันดันซาง่ามารับหน้า (ซวยจริง ๆท่านง่า)
ราดาแมนทิสที่ละทิ้งหน้าที่ผีออกมาเดินขนาบข้างไปกับคาน่อนแต่มือก็ยังไม่วายหอบจานมาด้วย
กรี๊ดดดดดดด~~~~~~~~~
“ยัยตี้กรี๊ดทำไมวะ” คำตอบก็ถูกส่งออกมันควันเมื่อตัวอะไรบางอย่างคืบคลานรัดมิโร่และอัลเดบารันเข้าไปรวมเจ๊ตี้ทันที
“คามิวช่วยด้วย” พ่อหนุ่มแมงป่องตะกายหนีเจ้าเส้นหยะแหยงตรงหน้า
“นี่มัน”
“อะไรเหรอไอโอเรีย”
“พลังของเจ้าไรมี่ที่มันเคยไปบุกสิบสองปราสาทภาคฮาเดสไง”
“ที่ว่าแกเกือบโดนจับทำเมียใช่ป่ะเรีย” คำถามที่เรียกสายตาอาฆาตจากไอโอเรีย
“อย่าเพิ่งเถียงกันช่วยมี่ที้............... หูจะแตกอยู่แล้ว” เสียงโวยจากมิโร่เรียกสติทุกคนให้หันไปมองทันที
ภาพอโฟรดิเต้ มิโร่ อัลเดที่กำลังถูกรัดไว้ น่าสงสารอัลเดที่โดนรัดมือไว้ทั้งสองข้างทำให้เอามือไปอุดหูตัวเองไม่ได้
ไอโอเรียโดดเข้าไปเตรียมแถลงท่าไม้ตายทันที
....จงลุกโชนขึ้นมาคอสโมแห่งราชสีห์ทองคำ..........
“ไลนิ่งท์ พลาสม่า” เสียงประกาศนามท่าไม้ตายที่ทำให้เกิดความ
เงียบ
เงียบ......
ทำไมมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยวะ [] --*
สิงห์หนุ่มที่กำลังงุนงงที่ท่าไม้ตายไม่ออกอานุภาพก็ถูกรวบเข้าไปในกลุ่มโดนขึงพืดทันที
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
“คอสโมไม่ออกเหรอ ทุกคนลองใช้พลังดูซิ” คำสั่งจากท่านเคียวโกซาง่าทุกคนไม่รอช้ารีบใช้พลังทันที
ผลก็เป็นแบบเดียวกัน
“ช่วยพวกเราด้วย”
กลุ่มที่โดนจับไปเริ่มร้องโหยหวนเมื่อไอ้ขึงพืดมันเริ่มไปแตะส่วนที่ไม่น่าแตะเข้า
เหล่าเซนต์ต่างมองหน้ากันไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงดี
อยากช่วยก็อยากแต่เค้าก็ไม่อยากถูกขึงไปด้วยอ่ะ T^T
คอสโมก็ใช้ไม่ได้ แบบนี้เราจะยังมีทางรอดอยู่อีกเหรอ
“หึ หึ ถึงเวลาที่ข้าจะต้องออกโรงแล้วสินะ” ราดาแมนทิสก้าวออกมาข้างหน้า
“จงดูพลังของไวเวิร์น ราดาแมนทิสผู้นี้”เสียงประกาศกร้าวทำให้คนที่โดนจับอยู่มีความหวังขึ้นมา
..............รอดแล้ว พวกตรูรอดแล้ว..............
ย้ากกกกกกกกกกกกกก
“จานใบที่
เพล้ง
เฮ้ย!!!!!!!!
ทุกคนก็แทบล้มทั้งยืนเมื่อราดาแมนทิสเริ่มขว้างจานในมือออกมา
นี่เหรอพลังของหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่
“ระ.....ราด้า ” คาน่อนเอ่ยชื่อคนที่กำลังเมามันกับการขว้างจาน
“ทำไมนายถึง”
“อ๋อ ไม่รู้ว่าทำไมชั้นก็ใช้คอสโม่ไม่ได้เหมื่อนกัน ^ ^”
แล้วแกเจือกออกมาทำม้ายยยยยยยยยยยย
และราด้าก็ได้กรี๊ดเป็นรายต่อไปเมื่อตัวเองก็โดนลากเข้าไปในกลุ่มที่โดนจับกันอยู่
“ชั้นจะตัดเงินเดือนแก๊ ไอ้ไรมี่ ~ ~ ~ ~ ~” เสียงโหยหวนดังออกมา
“ไม่กลัวก็ท่านแพนโดร่าเป็นคนจ่ายเงินเดือนข้า ไม่ใช่ท่านซักหน่อย”
ท่ามกลางความสิ้นหวังของเหล่าเซนต์
กาแล็คติก้า อิลลูชั่น
กรีด เดอะ ไลฟ์
ท่าไม้ตายของไออาคอสและวาเลนไทน์ก็สาดเข้าไปทันที ทุกคนที่โดนขึงอยู่ก็ตกร่วงลงมาเพราะเจ้าเส้นที่ขึงอยู่มันขาดไปตามพลังของทั้งสอง เป้าหมายคือศูนย์กลางของกลุ่มก้อนนั้น
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เสียงโหยหวนจากเจ้าไรมี่ดังลากยาวจนเสียงเงียบลงคาดว่ามันคงไปที่ชอบ ๆ แล้วเรียบร้อย
“แค่นี้ก็เรียบร้อย ฟู่” ไออาคอสว่าแล้วก็หันเข้าไปฉุดเพื่อนให้ลุกขึ้นยืน
“นายนี่ทำเสียชื่สเป็คเตอร์หมด”
“ทะ......ทำไมพวกนายถึงใช้คอสโมได้ล่ะ อ๊ะ” คำถามจากไอโอเรียที่ค่อยลุกขึ้นจากพื้นแต่วาเลนไทน์ที่นิ่งอยู่หลังจากปล่อยท่าไม้ตายออกไปก็ได้ยกมือขึ้นให้เป็นเชิงเงียบ
“ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ ขอถามหน่อยตอนมานี่พวกนายได้กินอะไรเข้าไปรึเปล่า?”
“ไอศกรีมเรนโบว์ ของแจกฟรีหน้างาน”
..........ชัดเจนเลย สาเหตุที่ทำให้ใช้คอสโมไม่ได้เนี่ย...........
........ว่าแต่ราดามันทิสทำไมถึงพลอยติดร่างแหไปด้วยวะ..............
“พวกนายคงไม่รู้สินะ ว่าพวกนายได้ลิ้มรสไอศกรีมผีมือแพนโดร่าเข้าไปแล้ว”
ห๊า..........................o[]O
“ไม่จริงนี่ชั้นกินเข้าไปมันก็อร่อยดีนี่นา” ราดาแมนทิสเอ่ยออกมาอย่าง
ไม่อยากจะเชื่อ ถ้าเป็นของฝีมือแพนโดร่าน่ะจะต้องเอะใจตอนกินเข้าไปบ้างสิ แล้วไอ้อาการเป็นกรดของอาหารที่หยดลงพื้นแล้วจะส่งเสียงฟู่เนี่ยที่เป็นตัวบ่งบอกมันหายไปไหนกัน
“นายก็น่าจะรู้นะราด้าว่าของที่แพนโดร่าทำอันไหนที่มีสรรพคุณแปลก ๆ อาหารมันจะอร่อยเลิศขึ้นมาทันทีทันใด”
“แล้วพวกเราจะรอดจากไอ้บ้านผีสิงเนี่ยได้ยังไง!!!!!!” เสียงโวยจากกลุ่มโดนขึงพืด
.......มะ.....ไม่เอาแล้วนะ แค่ไอ้ไรมี่ก็จะไม่ไหวแล้ว............
“เรื่องนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก ก็เรามีหัวหน้าของบ้านผีสิงอยู่ทั้งคนนี่นา” คาน่อนเอ่ยออกมาแล้วความหวังของทั้งหมดก็วูบไป
“ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าเค้าจัดงานกันแบบไหน พอดีโยนให้พวกลูกน้องทำน่ะ เพราะฉะนั้นจะมีกับดักหรือผีแปลก ๆ โผล่มาชั้นก็ไม่รู้ด้วย”
........แกเป็นหัวหน้าภาษาอะไร....................
ความคิดเห็น