ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FICTION TWST : Odinary girl in WONDERLAND [ OC ]

    ลำดับตอนที่ #39 : ม่านละครที่สอง : The missing clue (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.41K
      190
      1 พ.ย. 63



    "ขอร้องล่ะ ช่วยทำเจ้าลาเวนเดอร์เคลือบน้ำตาลให้ทีสิ
    เขาว่ากันว่าถ้าคนป่วยได้ทานของที่ชอบจะช่วยทำให้แข็งแรงขึ้นน่ะ"

    -เทรย์ โคลเวอร์

    "เบาะแสที่หายไป"

    ***



    ห้องนอนของเทรย์ - เวลาฟ้ายามเย็นแสนสดใส



    แอ๊ดด..

    "รุ่นพี่เทรย์!"

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นอย่งนิ่มนวลพร้อมเสียงตะโกนของเด็กสาวที่พรวดพราดเดินเข้ามาภายในห้องด้วยความรีบร้อน(ก่อนจะตามด้วยกริมม์ ดิวซ์ และเอซที่เร่งฝีเท้าตามเธอมา) นัยน์ตาสีน้ำข้าวมองไปยังร่างของเทรย์ที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง

    "โอ๊ะ เอดิวซ์คอมบิชั่น กริมม์แล้วก็มารีจังมากันแล้วอย่างงั้นแล้วหรอ?" เคเตอร์เอ่ย

    เอซกับดิวซ์ทำสีหน้างุนงง ก่อนที่ไม่นานนักจะพยายามพูดอะไรออกมา

    "มาแล้วเหรอพวกนาย?" ทว่าน้ำเสียงจากพ่อครัวแห่งฮาร์ทสลาบิวท์เอ่ยชิงตัดหน้าไปเสียก่อน

    เทรย์นั่งอยู่บนเตียง สองขาที่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนราวกับกำลังพักฟื้นขาของเขาอยู่ ขณะที่ข้างๆเตียงนั้นมีร่างของริดเดิ้ลและเคเตอร์ที่กำลังนั่งเฝ้าร่างของชายหนุ่มพ่อครัวประจำฮาร์ทสลาบิวท์ สีหน้าของเขานั้นดูท่าทางไม่ค่อยจะสู้ดีเสียเท่าไหร่นัก บางทีแล้วอาจจะเป็นเพราะเขาขาแพลงเกินกว่าที่จะลุกออกจากเตียงไหว

    มารีตัดสินใจทักทายพวกเขาทั้งหมดก่อน

    "สวัสดีครับรุ่นพี่" เด็กสาวเอ่ย ฉีกยิ้มขึ้นบางๆก่อนที่จะเอ่ยถามจุดประสงค์ที่ให้ตนมายังที่นี่ "รุ่นพี่เทรย์อาการเป็นยังไงบ้างครับตอนนี้?"

    "อาการของเทรย์ก็ดีขึ้นมาเยอะบ้างแล้วล่ะ" ริดเดิ้ลเอ่ยด้วยสีหน้าคล้ายราวกับรู้สึกผิด สองมือที่วางอยู่บนหน้าตายามที่เด็กหนุ่มกำลังนั่งเก้าอี้กำหมัดแน่น "แต่..."

    "แต่อะไรล่ะ หรือว่าเจ้าแว่นไปโดนอะไรสาหัสสาการมา?" กริมม์ขมวดคิ้ว

    ดวงตาสีอำพันมองตรงมา

    "ก้าวลงบันไดพลาดน่ะ ดีที่ยังจับราวเอาไว้ได้อยู่" เขาเอ่ย "แต่เท้าข้างขวาเองก็ดันแพลง---คงจะต้องใช้ไม้พยุงไปก่อน"

    "เอ๋ นั่นมันบาดเจ็บหนักเลยไม่ใช่หรือครับ!?" ดวงตาสีน้ำเงินเหลือบมรกตของดิวซ์เบิกตากว้าง ท่าทางของเขาดูตกใจยามเมื่อได้ฟังเช่นนั้น

    เด็กสาวขมวดคิ้วเล็กๆบนใบหน้าของหล่อน

    "ปีนี้อาจจะลงแข่งแม็กกิ๊ฟไม่ได้แล้วล่ะ" เขากล่าวเช่นนั้น ใบหน้าท่าทางดูราวกับจะเสียดายออกมา

    เธอก็พอเข้าใจความรู้สึกของเขาอยู่บ้างหรอก

    นั่นสินะ---การแข่งกีฬาภายในโรงเรียนคงถือเป็นเรื่องสนุกสนานสำหรับทุกๆคนภายในโรงเรียน เด็กสาวคิดเช่นนั้น นัยน์ตาสีน้ำข้าวหลุบตาต่ำลง ...พอมาเป็นแบบนี้ไม่แปลกเลยที่จะรู้สึกแย่กัน

    ถ้าฉันมีพลังฟื้นฟูร่างกายของคนอื่นได้แล้วล่ะก็จะเป็นประโยชน์มากกว่านี้หรือเปล่านะ?

    "ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็คงจะไม่ทำอยู่แล้วเชียว" สีหน้าของกริมม์ดูเอือมระอา คิ้วของเจ้าปีศาจตัวน้อยขมวดกันก่อนที่จะหลับตาลง พ่นลมหายใจแล้วส่งทูนากระป๋องที่เก็บเอาไว้วางใส่ลงบนมือของชายหนุ่มเรือนผมสีเขียวแมกไม้ "อ่ะนี่ทูน่ากระป๋อง หายไวๆนะเจ้าแว่น"

    ชายหนุ่มเกาแก้มของตน

    "ฮะๆ" เสียงหัวเราะถูกเปล่งออกมาจากปากของเทรย์ที่ขยับยิ้มอยู่ มือนั้นรับทูนากระป๋องมาอย่างทะนุถนอม "ขอบใจนะ"

    มือของชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ภายในห้องม้วนปอยผมสีส้มเหลืองของตนเอง

    "โธ่ น่าเสียดายจังเลยนะ" เคเตอร์เอ่ยขึ้นมา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเสียดายอย่างเห็นได้ชัดยามที่นัยน์ตาสีมรกตจับจ้องมองไปยังคนภายในห้องโดยเฉพาะเทรย์ที่ยังยิ้มแห้งอยู่ "เทรย์เขาเป็นผู้เล่นที่มีฝีมือมากเลยนะ อุตส่าห์ซ้อมหนักขนาดนี้แท้ๆแต่ก็ต้องโดนคัดออกอีกแล้ว"

    ดวงตาของเอซกับดิวซ์เบิกกว้าง

    " " หา คัดออก!? " "

    "นี่พวกเธอเสียงดังอะไรกัน!?" ริดเดิ้ลเอ่ยเสียงตะโกนขึ้น ใบหน้านั้นฉายแววไม่สมอารมณ์ชั่วครู่ขึ้นมาก่อนจะกลับมามีทีท่าอ่อนลง น้ำเสียงแผ่วเบากว่าเดิมมากนัก "นี่มันห้องผู้ป่วยนะ..."

    มารีมองใบหน้าของอีกฝ่ายราวกับฉายแววความรู้สึกผิดออกมา ชั่วขณะหนึ่งมันทำให้เธอนึกถึงเบนจามินอย่างน่าประหลาด

    เด็กสาวกลั้นอาการถอนหายใจของตนเองเอาไว้ เธอรู้ดีว่าสิ่งที่ควรทำตอนนี้ไม่ควรทำราวกับว่าอีก่ยเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจ

    "นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมารู้สึกผิดหรอกนะ ถึงจะไม่รู้ก็เถอะว่ารุ่นพี่ไปทำอะไรมา" มารีกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มือนั้นวางลงที่มือของริดเดิ้ลเบาๆราวกับจะปลอบโลม "แต่ตอนนี้พวกเราต้องทำให้เขาฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติไวที่สุดก่อน"

    "ฉันเห็นด้วยกับมารีนะ นี่ไม่ใช่ความผิดของนายหรอกริดเดิ้ล" ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น

    หัวหน้าหอฮาร์ทสลาบิวท์เม้มริมฝีปากของเขาด้วยท่าทางที่โศกเศร้า

    "แต่ว่า...เรื่องที่เทรย์บาดเจ็บมันเป็นความผิดของผมนี่น่า"

    "หมายความว่ายังไงเหรอครับ?" เอซเอ่ยถามขึ้น ใบหน้าของลูกหอฮาร์ทสลาบิวท์ปีหนึ่งจ้องมองด้วยความสงสัยใคร่รู้ต่อเรื่องราวทั้งหมดนี้

    เด็กสาวมองไปยังร่างของเด็กหนุ่มที่เริ่มอ้าริมฝีปากเปล่งคำพูดออกมา ดวงตานึกย้อนกลับไปยังวันวาน

    "พอดีว่ามีเรื่องที่ต้องจัดการ ตอนกลางวันเลยต้องไปที่ห้องของปีสาม...แล้วตอนนั้นน่ะ-"



    "ผมอาจจะมาช้าหน่อยนะ" ริดเดิ้ลเอ่ยขณะที่ร่างของเด็กหนุ่มอยู่ที่บันได เมื่อนั้นถือกองเอกสารเอาไว้เสียเกือบถึงศีรษะ "เริ่มซ้อมเมจิกเคิลกิ๊ฟไปก่อนได้เลย"

    "เข้าใจแล้ว" เทรย์พยักหน้า 

    ฝีเท้าของเด็กหนุ่มเรือนผมสีแดงกำลังจะก้าวขึ้นขั้นบันไดไปยังห้องของเหล่าชั้นปีสาม ทว่าเท้าของริดเดิ้ลก็เกิดอาการเคลื่อนไหวผิดจังหวะจนร่างของเด็กหนุ่มเรือนผมสีแดงกุหลาบเสียการทรงตัว ดวงตาสีเงินเข้มเบิกตากว้างขณะที่กองเอกสารนั้นร่วงหล่นกระจัดกระจายไปตามแรงโน้มถ่วง

    ร่างของเทรย์พุ่งเข้ามา

    "ริดเดิ้ล!!"


    "เทรย์เข้ามารับผมตอนที่กำลังจะร่วงตกจากบันได เลยได้รับบาดเจ็บแทนผม" ริดเดิ้ลเอ่ยเล่า นัยน์ตาสีเงินราวปรอทหลุบตาต่ำลงขณะที่ศีรษะก้มลงราวความรู้สึกผิดถาโถม มือนั้นเผลอกำแน่นขึ้นชั่วขณะ

    "ดีกว่านายต้องมาบาดเจ็บนะ" นัยน์ตาสีอำพันมองไปยังร่างของเด็กหนุ่มเรือนผมสีกุหลาบ เทรย์นั้นกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่วาดรอยยิ้มราวกับกำลังปลอบโลม "ข้อเท้าฉันแค่แพลงเอง นายไม่ต้องคิดมากหรอก"

    "แต่ว่า..." น้ำเสียงของริดเดิ้ลแผ่วเบาก่อนจะกลืนหายลงไปภายในลำคอ

    วินาทีนั้นที่เอซหันมาสบสายตาของเธอ

    "มารี แบบนี้มัน..."

    เด็กสาวพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบกลับให้รู้ว่าสิ่งที่เอซคาดคิดนั้นเป็นสิ่งที่เริ่มจะเอนเอียงไปทางความจริงเข้าเสียแล้ว

    "เอาน่าๆ อย่าคิดมากไปเลยริดเดิ้ล" เทรย์เอ่ยขึ้นมายามเห็นใบหน้าของริดเดิ้ลยังคงฉยแววโศกเศร้า "จริงสิ บางทีแล้วถ้าช่วยทำขนมอะไรสักอย่างให้ฉันทาน ฉันอาจจะอาการดีขึ้นก็ได้นะ"

    สายตาของเขาเบือนมองไปทางมารีที่เลิกคิ้ว

    เด็กสาวเลิกคิ้ว

    "มีอะไรหรือครับ?"

    เธอมองเทรย์ที่กล่าวด้วยใบหน้าที่ราวกับจะอ้อนวอน

    "ขอร้องล่ะ ช่วยทำเจ้าคัพเค้กลาเวนเดอร์เคลือบน้ำตาลให้ทีสิมารี"

    มารีขมวดคิ้ว

    "แต่ไม่ใช่ว่าผู้ป่วยเนี่ยเขาต้องกินของที่มีคุณประโยชน์มากนี้หน่อยเหรอรุ่นพี่?" หล่อนกล่าวขณะที่เปลี่ยนมาเป็นการกอดอก "อย่างเช่นพวกผักหรืออะไรแบบนั้น?"

    ชายหนุ่มกระแอมขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

    "ฉันได้ยินมาว่าถ้าคนป่วยได้ทานของที่ชอบจะแข็งแรงขึ้นน่ะ" เขากล่าวออกมา เด็กสาวเลิกคิ้วงุนงงมากกว่าเดิมท่ามกลางความเงียบสงัดของทั้งห้อง "เพราะงั้นเลยอยากจะขอร้องนาย นอกจากนายแล้วคนที่ทำเจ้านี่ได้อร่อยก็มีไม่เยอะแล้วล่ะ"

    มารีมองด้วยสายตาฉงน

    "เอ๋...จริงเหรอ เรื่องที่ว่าถ้าคนป่วยได้กินของที่ชอบจะแข็งแรงขึ้นเลยน่ะ?"

    เทรย์ส่งยิ้ม

    "จริงสิ"

    เอซกับดิวซ์มองหน้ากันไปมา แม้แต่ริดเดิ้ลยังมีสีหน้าที่ดูประหลาดใจ---แม้กระทั่งเคเตอร์เองก็ยังมองด้วยสีหน้าประหลาดไปพักหนึ่ง

    เด็กสาวลูบคางครุ่นคิด จะว่าไปตลอดสิบเจ็ด(หรือสิบแปดนะ...)ปีที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยนอนซมติดเตียงนอกจากตอนประจำเดือนมาเลยสักนิด เบนจามินยิ่งแล้วใหญ่ไม่เคยป่วย สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ทุกประการจนไม่น่ากังวลเลย หยูกยานอกจากยาแก้ปวดเธอก็ไม่เคยซื้อมากินด้วยสิ

    หรือที่แล้วเทรย์จะพูดจริงกันแน่นะ ที่ว่าของชอบก็เป็นยาได้?

    "เข้าใจแล้ว ของที่ชอบก็เป็นยาได้สินะ" มารีเอ่ย ท่าทางที่ดูเชื่อสนิทใจนี้ทำให้ใครหลายๆคนแทบไม่กล้าขัดยามเห็นสีหน้าจริงจังที่ปรากฏออกมาของหล่อน(ส่วนเคเตอร์กลั้นขำสุดชีวิต) "เดี๋ยวจะทำให้---พูดมาเลยว่าอยากทานอะไร"

    เทรย์ฉีกยิ้มกว้าง เหมือนว่าด้วยเหตุผลบางประการเขาจะล่อลวง(?)มารีได้สำเร็จ

    "ฉันอยากทานคัพเค้กที่ข้างบนเป็นลาเวนเดอร์เคลือบน้ำตาลน่ะ"




    ห้องครัวหอฮาร์ทสลาบิวท์ - เวลาฟ้ายามเย็น



    "ที่จริงแล้วรุ่นพี่ไม่จำเป็นต้องมาช่วยผมก็ได้นะครับ" เด็กสาวเป็นฝ่ายเอ่ย มือข้างหนึ่งถือไม้ตีที่กำลังทำการตีครีมอยู่ "ของแบบนี้ผมทำคนเดียวก็ได้-"

    "แต่มันก็ประหยัดเวลามากกว่าใช่ไหมล่ะ?" เจ้าของเรือนผมสีกุหลาบเข้มกับนัยน์ตาสีเงินเอ่ย มือนั้นใช้ไม้ตีคนแป้งที่ถูกผสมเข้ากันอย่างดีเตรียมใส่ลงในแม่พิมพ์ "อีกอย่างผมเองก็อยากทำของที่เทรย์ชอบให้เขาได้ทานด้วย..."

    เด็กสาวฉีกยิ้มบางออกมา

    หลังจากที่หล่อนตัดสินใจรับคำขอของเทรย์ที่อยากจะทานสิ่งที่ตัวเองชอบ มารีจึงได้ตัดสินใจตรงมายังห้องครัวพร้อมกับริดเดิ้ลที่เอ่ยปากออกมาภายในเวลาไล่เลี่ยกันว่าจะช่วยเด็กสาว(ที่แฝงตัวเแ็นผู้ชาย)ผู้นี้ทำคัพเค้กอย่างที่เทรย์นั้นต้องการรับประทาน

    สุดท้ายแล้วเมื่อเป็นแบบนั้นเรื่องจึงออกมาเป็นเช่นนี้นี่แหละ

    "รุ่นพี่โรสฮาร์ทเนี่ยเป็นเพื่อนที่ดีจังเลยนะครับ" หล่อนกล่าวเช่นนั้นขณะที่ตีครีมสำหรับตกแต่งคัพเค้กให้พอเหมาะ สายตาจ้องมองไปยังครีมสีขาวนวลภายในถ้วย "เด็กดีกว่าที่คิดเสียอีก"

    เปลี่ยนแปลงไปจากวันนั้นขึ้นเยอะเลย

    "ผมโตกว่าเธออีกนะมารี" เด็กสาวอยากจะหัวเราะออกมาเบาๆยามเมื่อเขาเอ่ยออกมาเช่นนั้น นัยน์ตาสีเงินปรอทของริดเดิ้ลหันมองใบหน้าของเธอ "แล้วก็...เพราะว่าเทรย์เป็นเพื่อนคนสำคัญ ถ้ามีเรื่องไหนที่ช่วยได้ผมก็อยากจะช่วย"

    มารีเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง

    "แบบนั้นนี่เอง ยอดเยี่ยมมากจริงๆนะครับ"

    ริดเดิ้ลยังคงมองไปยังใบหน้าของรุ่นน้องที่ยังคงอยู่ข้างกายตน ความรู้สึกแปลกไปปรากฏขึ้นมายามเมื่อมองเห็นแววตาที่ดูเรียบนิ่งของเด็กสาวแม้ว่าใบหน้าของมารีจะยังคงฉีกยิ้มอยู่เช่นนั้นก็ตาม

    ด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ปรากฏอยู่ภายในหัวใจ หัวหน้าหอแห่งฮาร์สลาบิวท์ก็เผลอเอื้นเอ่ยคำถามนั้นออกไป

    "แล้วเธอล่ะ...เธอมีคนสำคัญรึเปล่า?"

    มารีเผลอปล่อยไม้ตีของหล่อนลงไปอยู่ภายในถ้วย

    "...เอ๊ะ?"

    ริดเดิ้ลมองตนเองด้วยสีหน้าตกใจเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดคำถามประหลาดออกไปเสียแล้ว นัยน์ตาสีเงินของเขามองใบหน้าของเด็กสาวที่ชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง---ใบหน้าที่เรียบนิ่งไม่คุ้นเคยปรากฏสู่สายตาของเขา ก่อนที่ไม่นานนักมารีจะเริ่มจับไม้คนแล้วตีครีมต่อ ทว่าจังหวะที่ตีนั้นช่างเชื่องช้าผิดจากเมื่อกี้มากนัก

    เขารู้ตัวทันทีว่าได้ถามคำถามบางอย่างที่ไม่ควรจะถามไปเสียแล้ว

    "ขะ ขอโทษนะ" ริดเดิ้ลเป็นฝ่ายเริ่มกล่าวขอโทษ ใบหน้านั้นฉายแววรู้สึกผิดขึ้นยามมองไปยังมารีที่อยู่ใกล้กัน "ผมไม่ควรจะถามเธอแบบนั้นเลย...-"

    เด็กสาวเอ่ยเสียงแผ่ว

    "ไม่เป็นไรครับ นี่น่ะไม่ใช่คำถามสำคัญอะไร... แน่นอนว่าคนสำคัญก็ต้องมีอยู่แล้วล่ะครับ-" 

    ใช่แล้ว ไม่เป็นไรหรอก...คนสำคัญของฉันน่ะก็คือเบนจามิน นัยน์ตาสีขาวจ้องมองครีมที่ดูจืดชืดไร้สีสันเฉกเช่นเธอ เบนจามินเพียงหนึ่งเดียวของฉัน น้องชายของฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน

    คนสำคัญที่อยู่กับฉัน

    "มารี---ช่วย...มีชีวิตอยู่...ต่อไปด้วยนะ-"


    "มีน้องชายอยู่หนึ่งคน..."

    ทั้งๆที่เอ่ยเช่นนั้นออกมา แต่ความทรงจำกลับปรากฏภาพในวันวานของเด็กสาวเรือนผมสีดำที่ส่งยิ้มให้เธอ

    พี่...ไดอาน่า

    ทั้งๆที่พี่รังเกียจสัตว์ประหลาดเช่นฉัน แล้วทำไมถึงอยากให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยล่ะคะ?

    ถ้าในตอนนั้นพี่รู้ถึงตัวตนที่ฉันเป็น...ในตอนนั้นพี่น่ะ-

    จะยังพูดคำว่า..."ช่วยมีชีวิตอยู่ต่อไป" อีกหรือเปล่าคะ?

    "แล้วก็...มีพี่สาวที่รู้จักอยู่อีกหนึ่งคน ทั้งเป็นคนที่ใจดี...-"

    ฉันในตอนนี้น่ะไม่เข้าใจเอาเสียเลย

    "แล้วก็นะ--"

    จะทั้งความปรารถนาที่คุณอยากให้สัตว์ประหลาดนั้นหายไป หรือแม้กระทั่งความต้องการสุดท้ายของคุณที่ฉุดรั้งฉันเอาไว้

    นัยน์ตานั้นเฝ้ามองลงไปที่ครีมสีขาวที่หยุดคนไป

    "เป็นคนที่ทำขนมแแล้วก็อาหารเก่งมากเลยล่ะ"

    แล้วฉัน...จะต้องทำแบบไหนกันล่ะ?

    แบบไหนล่ะ?

    ริมฝีปากคลี่ยิ้ม นัยน์ตานั้นหลุบตาต่ำลงขณะที่หัวใจส่งเสียงกรีดร้องออกมา

    "เหมือนกับรุ่นพี่เทรย์"

    แบบไหน...ถึงจะถูกต้องสำหรับฉันกัน

    การที่สุดท้ายก็ยอมแลกชีวิตอันมีค่าของคุณเพื่อปกป้องฉันถือเรื่องที่สมควรแล้วจริงๆหรือคะ พี่ไดอาน่า?

    "อ่า แบบนั้นนี่เองสินะ" ใบหน้าของริดเดิ้ลวาดยิ้มขึ้นมา สำหรับมารีแล้วนั่นช่างเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน "ถ้าเกิดว่าพี่สาวของเธอมาคงจะต้องขอบคุณเสียหน่อยแล้วสิ"

    มารีเลิกคิ้วด้วยใบหน้างุนงง

    "ทำไมหรือครับ?" 

    ริดเดิ้ลยังคงสีหน้าไร้เดียงสานั้นเอาไว้ขณะที่ยิ้มแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

    "ก็เพราะว่าเธอน่ะช่วยพวกเราเอาไว้มากเลยนี่น่า เพราะอย่างงั้นแล้ว...ก็ต้องขอบคุณคนที่สอนเธอด้วยนี่?"

    "..."

    เขาไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย

    เพราะไม่รู้อะไรถึงกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสาแบบนั้น แล้วเธอคนนี้จะไปกล้าบอกเขาได้อย่างไรกัน

    มารีคลี่ยิ้มบาง

    "นั่นสินะ...-"

    ว่าพี่ไดอาน่าของเธอนั้น...-

    "พี่ไดอาน่าคงจะดีใจมากแน่ๆเลยล่ะ"

    ได้ตายต่อหน้าต่อตาไปตั้งแต่ที่เธออายุแปดขวบแล้วนี่น่า



    ***

    ห้องของเทรย์ - เวลาฟ้ายามค่ำ


    "สุดยอ---ด!? ผลงานอย่างกับปาร์ติชิเย่ร์เลยอ่ะ!" เคเตอร์ร้องเสียงหลงยามเห็นคัพเค้กชิ้นหนึ่งที่วางอยู่บนจานสีขาวใบใหญ่ "นี่ๆ มารีจัง ริดเดิ้ลจัง ฉันขอถ่ายหน่อยนะ!"

    มารีมองคัพเค้กของตนที่เรียงกลีบลาเวนเดอร์เคลือบน้ำตาลให้กลายเป็นกุหลาบขนาดใหญ่

    "นี่มันใช่เรื่องสุดยอดตรงไหนเหรอครับ?" หล่อนร้องเอ่ย กวาดสายตามองไปยังคัพเค้พของตนที่ถูกตกแต่งให้กลายเป็นดอกกุหลาบด้วยกลีบลาเวนเดอร์เคลือบน้ำตาล แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ผลงานออกมาดูดีได้ต้องเป็นครีมของเธอที่ทาลงไปก่อนจะนำไปติดเหมือนกาวอยู่แล้ว "นี่ออกจะเป็นการตกแต่งพื้นๆทั่วไปนี่น่า?"

    ในยุคของเธอเทคนิคนี้ก็มีสอนถมเถอยู่ภายในอินเตอร์เน็ตเสียด้วยซ้ำ...ไม่สิ- ต่อให้จะเป็นในยุคเสียสมัยเมื่อสิบยี่สิบปีก็คงมีให้เห็นภายในสิ่งที่ถูกเรียกว่ายูทูปอยู่แล้ว

    จะว่าไปยูทูปเนี่ยก็เป็นแอพพลิเคชั่นที่ตกยุคไปตั้งนานแล้วนี่นะ-

    "ทั่วๆไป?"  ริดเดิ้ลมองด้วยสีหน้างุนงง "การตกแต่งแบบนี้ถือเป็นเรื่องทั่วๆไปเหรอ?"

    เทรย์แทบอยากจะกุมขมับนัก

    "ไม่ใช่ทั่วไปแล้วแบบนี้" ชายหนุ่มผู้มักกล่าวเสมอว่าตนเป็นคนธรรมดาเอ่ยหลังเฝ้ามองกุหลาบลาเวนเดอร์ที่เปล่งประกาย "เจ้านี่ดูสวยจนฉันไม่กล้ากินเลย"

    "เอ๋ นี่รุ่นพี่ไม่อยากทานจริงเหรอ?" มารีเอียงคอมองด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ ใบหน้าที่เหมือนผู้หญิงทำให้ทุกๆคนแทบจะขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อเตือนว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย(แต่ก็เป็นผู้ชายเก๊นี่แหละ) "ไหนบอกว่าของชอบมันเป็นหยูกยาไง?"

    "นี่สรุปเชื่อสนิทใจเลยจริงดิ...?" เอซพึมพำเสียงเบาจนมารีไม่อาจได้ยิน

    "ผมว่าปล่อยมารีเขาไปอีกสักพักแล้วค่อยบอกดีกว่านะ..." ดิวซ์เอ่ยกับอีกสองคน ท่าทางแล้วยังฝังใจกับความเชื่อตลอดสิบหกปีของตนเองไม่หาย

    "ข้าว่าปล่อยไปก่อนเถอะ" กริมม์กอดอกมอง

    ชายหนุ่มเรือนผมสีเขียวแมกไม้ผู้ได้หลอกรุ่นน้องของตนให้เชื่อได้อย่างสนิทใจกระแอมราวกับจริงจัง ขณะที่มือนั้นถือส้อมสีเงินพร้อมทานคัพเค้กสุดหรูหราตรงหน้า

    "แฮ่ม ถ้าอย่างงั้นฉันจะเริ่มทานเลยล่ะนะ" กล่าวพลางใช้ส้อมตัดคัพเค้กขึ้นมาก่อนจะนำเข้าปากไป

    สีหน้าของริดเดิ้ลดูลุ้นระทึกขณะที่มารีมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    ดวงตาของเทรย์เบิกกว้าง

    "รสชาตินี่มันอะไรกัน..." เขากล่าวเสียงเบา แววตานั้นเป็นประกาย มารีมองผู้ป่วยที่จู่ๆก็ใช้ส้อมตักคัพเค้กทานเพิ่มขึ้นอีก "ทั้งครีมสีขาวที่ตัดเลี่ยน มีรสชาติของเลม่อน ตัวแป้งเองก็นุ่มละลายในปาก---แล้วไหนจะลาเวนเดอร์เคลือบน้ำตาลนี่ทำได้หวานพอดี แถมยังมีน้ำตาลที่เคี้ยวเพลินอีกต่างหาก"

    มารีกระพริบตา

    "เรื่องแป้งน่ะต้องขอบคุณรุ่นพี่โรสฮาร์ทนะครับ" เธอเอ่ยแววตานั้นฉายความชื่นชมออกมาเมื่อริดเดิ้ลหันศีรษะมามองเธอ "เขาทำได้ดีมากเลยล่ะ ฝีมือคงจะพัฒนาขึ้นแล้ว"

    ริดเดิ้ลเอ่ยตอบด้วยท่าทีราวกับขัดเขิน

    "แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าทำตามวิธีและได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก็ต้องทำได้อยู่แล้วสิ" เด็กหนุ่มเรือนผมสีกุหลาบเข้มเอ่ย ไม่นานนักรอยยิ้มก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของริดเดิ้ล "ถ้าเทรย์ชอบผมก็ดีใจแล้วล่ะ"

    "ขอบคุณมากทั้งสองคน" เทรย์ฉีกยิ้ม

    "นี่มารี นายยังพอมีคัพเค้กเหลืออยู่ไหมน่ะ?" เอซเอ่ยถามขึ้น มารีมองใบหน้าของชายหนุ่มที่มีสีหน้าอยากรู้อยากลองเสียเหลือเกิน ซ้ำยังพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอีกต่างหาก "พอเห็นรุ่นพี่เทรย์ทานขึ้นมาก็ชักจะหิวแล้วสิ แถมฉันเองยังไม่ได้ทานอะไรเลยด้วย-"

    "ข้าเองก็อยากทานเจ้าคัพเค้กนั่นเหมือนกัน!" กริมม์เอ่ย

    "เดี๋ยวสิพวกนาย ไปขอแบบนั้นมันไม่ดีนะ!" ดิวซ์รีบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน ถึงแบบนั้นแววตาก็มองไปเทรย์ที่กำลังทานคัพเค้กต่อหน้าสต่อตา

    มารีฉีกยิ้มราวกับคาดเดาเอาไว้แล้ว

    "แล้วคิดว่าฉันจะไม่ทำมาเผื่อพวกนายด้วยรึไง?" หล่อนเอ่ยเช่นนั้น มองใบหน้าของทั้งสามคนที่แววตาเปล่งประกายราวกับเด็กน้อยที่พบว่าคุณแม่ซื้อขนมที่ชอบมาให้ทาน "ถ้างั้นตอนนี้ออกไปกันเถอะ ออกไปทานข้างนอกแล้วปล่อยให้เทรย์...หมายถึงรุ่นพี่เทรย์พักก่อนดีกว่า"

    "จริงด้วย ตอนนี้ปล่อยเทรย์คุงพักก่อนดีกว่าเนอะทุกคน" เคเตอร์กล่าวพลางขยิบตา ร่างของชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่อยู่ไม่ห่างจากริดเดิ้ลเสียเท่าไหร่ "พวกเราเองก็ไปทานคัพเค้กของมารีจังกันบ้างดีกว่า"

    "อ่า...นั่นสินะ" ร่างของริดเดิ้ลลุกออกจากเก้าอี้เยี่ยมคนป่วย ดูท่าว่าเด็กหนุ่มจะตัดสินใจปล่อยให้เพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญของตนพักผ่อนเพื่อจะได้หายดีไวๆเสียก่อน "ถ้างั้นพวกผมไปก่อนนะเทรย์"

    "อ่า ไว้เจอกันนะ" ชายหนุ่มเรือนผมสีเขียวแมกไม้เอ่ย

    เสียงปิดประตูห้องจากฝีมือของริดเดิ้ลดังขึ้นยามเขาเป็นคนสุดท้ายที่ได้เดินออกจากห้องนอนของเทรย์ไป

    ท้ายที่สุดยามประตูได้ปิดลง ห้องของเขาก็กลับมาเงียบสงัดขึ้นอีกครา


    ***

    ห้องนั่งเล่นฮาร์ทสลาบิวท์ - เวลายามฟ้าค่ำ



    "เอาล่ะ คัพเค้กมาแล้วนะ" เด็กสาวเอ่ยขณะที่มือนั้นถือถาดคัพเค้กพร้อมจานกับส้อมจำนวนหกใบ ก่อนจะวางลงที่โต๊ะนั่งเล่นของหอฮาร์ทสลาบิวท์ "ส่วนรุ่นพี่เคเตอร์หยิบอันแถวบนฝั่งซ้ายสุดไปได้เลย ถือเป็นกรณีพิเศษน่ะ"

    "โอเคมารีจัง!"

    ร่างของเด็กสาวนั่งลงใกล้กับกริมม์หลังจากที่ไปหยิบถาดคัพเค้กมาจากห้องครัว มือของหล่อนหยิบคัพเค้กที่ยังไม่หายอุ่นดีออกมาจากถาดคนแรก ก่อนจะตามด้วยกริมม์ เอซ ดิวซ์ ริดเดิ้ลและเคเตอร์ที่มีท่าทีลังเลเล็กน้อยเป็นลำดับสุดท้ายที่หยิบคัพเค้กใส่จานของตนเองไป

    "มารีจังเนี่ยทำออกมาหน้าตาน่าทานทุกอันเลยนะ งานเนี๊ยบจัง" ชายหนุ่มรุ่นพี่แห่งหอฮาร์ทสลาบิวท์กล่าว "ไม่สนใจเปิดแอคเค้าท์มาจิคาเมะที่เกี่ยวกับขนมหน่อยเหรอ?"

    เด็กสาวเลิกคิ้วมอง

    "แอคเค้าท์มาจิคาเมะที่เกี่ยวกับขนมเหรอครับ?"

    "ใช่ๆ! ถ้ามารีจังเปิดล่ะก็ฉันจะรีบไปกดติดตามคนแรกเลย" เคเตอร์เอ่ยด้วยประกายตาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน "ถ้าเกิดว่าเปิดแล้วอัพเดตอย่างสม่ำเสมอจะต้องมีคนมาติดตาามเยอะมากแน่ๆ ถือว่าทำเป็นงานอดิเรกไง! แล้วก็อาจจะขายขนมได้เงินด้วยนะ"

    เด็กสาวเหงื่อตก

    ขายขนมหรือ? เปิดแอคเค้าท์มาจิคาเมะที่เกี่ยวกับขนมหรือ? เรื่องนั้นไม่ทันได้คิดมาก่อนเลย---ซ้ำที่นี่ยังไม่ใช่โลกของเราด้วยอีกต่างหาก มารีใคร่ครวญอยู่ภายในใจ แต่ว่าเรื่องทำขนมแล้วถ่ายรูปน่ะ เราเองก็...---

    "เอ่อคือ...เรื่องนั้นน่ะ---ไว้จะไปเก็บพิจารณาก็แล้วกันนะครับ"

    เสียงส้อมที่เปื้อนเศษแป้งคัพเค้กจากการตัดถูกวางลงบนจานสีขาวนวล เป็นฝีมือของริดเดิ้ลนั่นเองที่เรียกความสนใจจากทุกๆคนหลังจากที่เขาพึ่งจะทานคัพเค้กไปอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้ามีความสุขที่เปลี่ยนกลายเป็นสีหน้าจริงจัง

    "เอาล่ะ ก่อนอื่นมาเข้าประเด็นหลักก่อนไหม?" หัวหน้าหอแห่งฮาร์ทสลาบิวท์เอ่ย "เคเตอร์---นายน่ะมีบางอย่างที่อยากจะถามจากมารีอยู่ไม่ใช่หรือไง?"

    เคเตอร์ฉีกยิ้มขณะที่เด็กสาวเลิกคิ้ว

    "จับสังเกตฉันได้ดีเลยริดเดิ้ลจัง ฉันมีอะไรที่อยากจะถามมารีจังอยู่เต็มไปหมดเลยล่ะ" ชายหนุ่มเรือนผมสีส้มเหลืองเอ่ย นัยน์ตาสีมรกตสบตากับดวงตาสีน้ำข้าวของมารีที่แฝงไปด้วยความสงสัย "เรื่องที่เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บภายในวันนี้ของเทรย์ แล้วก็เรื่องสำคัญอีกเรื่องที่อยากจะถามมารีจังกับกริมม์จังด้วย"

    "อีกเรื่องที่สำคัญ-" เด็กสาวเลิกคิ้ว---มีอะไรที่สำคัญไปกว่าเรื่องอาการบาดเจ็บของเทรย์ด้วยหรือ? "มันคือเรื่องอะไรหรือครับรุ่นพี่?"

    "นั่นสิ ข้าไม่เห็นเลยว่าจะมีอะไรสำคัญไปกว่าตามสืบเรื่องประหลาดพวกนี้น่ะ" เจ้าปีศาจน้อยเอ่ยเสริมหลังจากละมือจากคัพเค้กที่รับประทานใกล้จะหมดแล้ว ก่อนประโยคหลังกริมม์จะเอ่ยพึมพำเสียงเบา "แถมถ้าสืบไม่ได้พวกข้าก็จะลงแข่งเมจิกเคิลชิฟไม่ได้อีกต่างหาก"

    เคเตอร์ฉีกยิ้มกว้าง

    และสุรเสียงร่าเริงที่เขาเอ่ยออกมาก็ทำให้ทั่วทั้งห้องนั่งเล่นเงียบสงัด

    "สนใจจะมาค้างที่หอฮาร์ทสลาบิวท์คืนนี้ไหมมารีจัง กริมม์จัง?"


    ***

    สาส์นจากไรท์

    : สวัสดียามเที่ยงคืนค่ารีดเดอร์ทุกๆท่าน ช่วงนี้สบายดีไหมคะ? หนาวหรือเปล่า? ได้ลอยกระทงหรือว่าได้ลอยกระทงออนไลน์แบบไรท์--แฮ่ม(กระแอม) แล้วก็ นอกจาากลอยกระทงแล้วก็ขอกล่าวสุขสันต์วันฮาโลวีนแบบย้อนหลังนะคะ!

    สำหรับตอนนี้เป็นตอนที่จะเขียนปูเอาไว้เพื่อไปต่อเนื้อหาภายในตอนหน้าได้สะดวกยิ่งขึ้น ไรท์เองก็อยากจะรีบทำตอนต่อๆไปให้เสร็จเพราะจะได้เปิดปฐมบทเสริมพิเศษกันสักทีหลังจากที่ไรท์รอมานาน(หักนิ้วรอ)

    แล้วก็เนื้อเรื่องช่วงนี้จะออกเฉื่อยๆหน่อยนะคะ แต่ไรท์จะพยายามใส่อะไรตื่นเต้นๆให้เพื่อไม่ให้มันน่าเบื่อเกินไป(ซึ่งก็คิดได้หลายฉากเลยล่ะ หึหึหึ!) และคิดว่าเนื้อหาบทที่สองอาจจะไปเร็วว่าบทที่หนึ่งนะคะ แต่ช่วงนี้ไรท์จะคิดอัพช้าหน่อยเพราะอาจจะย้อนกลับไปอ่านนิยายของตะัวเองเพื่อเก็บรายละเอียด---

    สำหรับเนื้อหาตอนพิเศษช่วงฮาโลวีน(เลิกลั่ก) ไรท์คิดว่าไรท์อาจจะไม่ได้แต่งหรือแต่งดีเลย์มากๆนะคะเพราะช่วงนี้ไม่ว่างเลย แถมเนื้อเรื่องหลักยังไม่ได้ไปไกลเสียเท่าไหร่ อย่างไรกว่าจะได้แต่งตอนพิเศษหรือตอนเนื้อหาอีเว้นท์คงจะต้องรอช่วงเนื้อหาบทของหออาซูลเลยค่ะ(ปาดเหงื่อ) สำหรับวันนี้คงจะมีเพียงแค่นี้ที่อยากจะนำมาแจ้งกัน ยังไงช่วงวันหยุดนี้ก็ขอให้สนุกสนานกันนะคะ!

    ปล. ผ่านมาถึงเกือบจะสี่สิบตอนแล้วหรือคะเนี่ย ทำไมไรท์รู้สึกว่ามันดูไม่ได้นานขนาดนั้นเลย(ปาดเหงื่อ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×