ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FICTION TWST : Odinary girl in WONDERLAND [ OC ]

    ลำดับตอนที่ #25 : ม่านละครที่หนึ่ง : Pawn's rebellion (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.34K
      169
      7 ต.ค. 63




    "ผมเอง...ก็รักท่านแม่ครับ"

    -ริดเดิ้ล โรสฮาร์ท


    "การกบฎของเบี้ย"

    ***
    *คำเตือน มีการพูดถึงความรุนแรง*
    ***



    โรงครัว - เวลายามเย็นใกล้มืด


    "เอาล่ะ" เสียงของเทรย์ดังขึ้นขณะที่พวกเธอยังคงจดจ่ออยู่รอฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัด "สุดท้ายก็โรยไอซิ่ง..."

    มือของชายหนุ่มจัดการโรยผงไอซิ่งลงไปทั่วๆทาร์ตมองบลังค์เกาลัดขนาดยักษ์ที่พวกเธอนั้นทำเสร็จ แววตาของมารีเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นภายในรายละเอียดขนาดยิบย่อยของมัน ขณะที่เอซ ดิวซ์และกริมม์จ้องมันด้วยสายตามันวาว

    หากสงสัยว่าสถานการณ์ก่อนหน้าที่จะมาถึงจุดๆนี้ได้มันเป็นเช่นไรก็คงจำเป็นจะต้องเท้าความเสียก่อน

    หลังจากที่เธอ ดิวซ์และกริมม์กลับมาก็ไม่ได้มีเวลามาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้คนทั้งสองที่รออยู่ภายในโรงครัวของโรงอาหาร เนื่องจากว่าพวกเขาต้องรีบรุดหน้าทำทาร์ตเกาลัดต่อให้เสร็จก่อนที่จะมืดค่ำไปมากกว่านี้ เป็นเพราะเหตุนั้นแล้วแม้แต่ตอนที่มารีนั้นถูกหาเรื่องหรือแม้แต่อดีตของดิวซ์จึงไม่ได้ถูกเอ่ยปากออกมาจากพวกเขาทั้งสามคนเลยสักนิด

    แต่สำหรับเด็กสาว มารีก็คิดว่ามันดีแล้วล่ะที่จะเป็นแบบนี้ต่อไป บางเรื่องเองก็ไม่จำเป็นต้องรู้---แม้ว่าอดีตนั้นจะยังคงเป็นเงาตามติดดิวซ์อยู่ก็ตาม แต่เธอเชื่อว่าเหล่าผู้คนที่เขาจะได้เจอภายในสังคมใหม่ๆก็คงจะต้องเอ็นดูตัวเขาที่เป็นเด็กดีเช่นนั้นแน่

    "เสร็จแล้ว!" เสียงร้องของดิวซ์ที่ดังออกมาด้วยความยินดีดังขึ้น ใบหน้านั้นฉีกยิ้มกว้างขณะที่เปล่งเสียงฮูเร่ออกมา "เท่านี้เหล่าลูกเจี๊ยบที่ไม่ได้เกิดมาก็ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่แล้วสินะ!"

    มารีกระพริบตา ทั้งห้องตกลงสู่ความเงียบสงัด

    "ดิวซ์..." ท่ามกลางงุนงงของเหล่าผู้คน เด็กสาวก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นเมื่อพอจะเดาได้จากบริบทแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังเข้าใจผิดอย่างแรง "คือว่าไข่ไก่ที่พวกเราใช้ไปน่ะมันเป็นไข่ลมนะ"

    "ไข่...ลม?" ใบหน้าของดิวซ์ปรากฏความสงสัยออกมา หากที่นี่มีเอฟเฟ็คหล่อนคงจะได้เห็นเครื่องหมายคำถามที่ลอยอยู่เต็มหน้าของเขาแล้ว

    เสียงคล้ายขบขันหลุดออกมาจากปากของเทรย์

    "ไข่ที่ไม่มีลูกเจี๊ยบน่ะดิวซ์"

    "ไม่มี...ลูกเจี๊ยบ?"

    "อุ๊บ---ฮ่าๆๆ!! นี่นายเชื่อมาตลอดจริงดิว่าไข่ได่มันมีลูกเจี๊ยบจริงดิดิวซ์!" เสียงหัวเราะขำขันของเอซดังขึ้นขณะที่ดิวซ์ทำท่าราวกับว่าวิญญาณได้ออกจากร่างไปแแล้ว "ไม่อยากจะเชื่อ โคตรขะ--อุ๊!?"

    มือของเด็กสาวเคาะศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ

    "อย่าไปล้อเขาแบบนั้นสิเอซ" หล่อนปรายตามองขณะขมวดคิ้ว "มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องขำขนาดนั้นหรอกนะครับ"

    "คร้าบๆ ไม่พูดแล้วก็ได้คร้า---บ" เสียงร้องขานรับราวกับพูดไปทีขจองเอซเอ่ยขึ้น แต่สุดท้ายแล้วเด็กหนุ่มก็หยุดพูดไปจริงๆเมื่อเห็นว่าอาการของดิวซ์ที่พึ่งรู้ว่าสิ่งที่ตนเชื่อมาตลอดนั้นไม่ใช่ความจริงหนักหนาเอาการกว่าที่คิด

    "สิ่งที่ผมเชื่อมาตั้งสิบหกปี..." เสียงอ่อนแรงงึมงำอยู่ภายในลำคอ

    มารีตบบ่าเอาดิวซ์เบาๆราวปลอบใจ(แม้จะรู้ว่าช่วยอะไรไม่ได้เท่าไหร่ก็เถอะ)

    เอซเหยียดของตนเองขึ้นฟ้าราวกับอยากจะสลัดความเหนื่อยล้าจากการทำทาร์ตก้อนยักษ์มโหฬารออกไปจากร่าง แต่ทว่าก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยทำให้เด็กหนุ่มหายเหนื่อยจากการทำทาร์ตเสียเท่าไหร่นัก

    "ใช้เวลาทำของหวานมากไปหน่อย.." เด็กหนุ่มเรือนผมสีแดงแสดกล่าวพร้อมทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ "เหนื่อยแล้วอ่ะ"

    เสียงเปิดประตูจากโรงครัวดังขึ้นพร้อมร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่สาวเท้าเข้ามาภายในห้อง

    "เหนื่อยหน่อยน้า" เป็นเสียงของเคเตอร์ที่พึ่งเข้ามาใหม่(หรือจริงๆอาจจะเล็งไว้แล้วก็ได้ว่าตอนนี้เป็นจังหวะที่พวกเขาทั้งห้าคนทำทาร์ตเสร็จแล้ว) "ทาร์ตเสร็จแล้วเหรอ? ตกแต่งได้น่ารักมากเลย!"

    "อ๊ะ!? นี่รุ่นพี่มาทำอิะไรที่นี่น่ะ?" เสียงร้องตกใจของเอซดังขึ้น มารีเองก็หันไปมองเช่นกัน

    "รุ่นพี่ไดมอนด์มาทานทาร์ตเหรอครับ?" หล่อนกล่าวขณะที่กระพริบตาปริบๆรอฟังคำตอบจากฝั่งของชายหนุ่ม 

    "ฉันก็แค่เข้ามาดูเหล่ารุ่นน้องสุดน่ารักที่ทำงานอย่างหนักยังไงล่ะ! ฮะๆๆ ดูทำหน้าเข้าสิ!" เคเตอร์เอ่ยหัวเราะขณะที่เอซมุ่ยหน้า "ส่วนมารีจังเนี่ยก็รู้ใจฉันเหมือนเดิมเลยนะ!"

    "นี่แสดงว่ามาเพื่อกินทาร์ตจริงๆสินะ!?" เอศกล่าวขณะมองไปยังเคเตอร์ที่ทำหน้าตาชื่นบานยราวกับไม่รู้ไม่ชี้

    "คิดซะว่าตอนนี้ฉันเป็นนักชิมแล้วกันเนอะ?" รุ่นพี่หนุ่มกล่าวพลางขยิบตาไปหนึ่งที

    "น่าๆ ตอนนี้มาลองชิมทาร์ตกันหน่อยไหม?" เสียงของเทรย์ดังขึ้นราวกับระฆังสวรรค์ที่เข้ามาช่วยสงบศึกสงครามที่กำลังพึ่งจะเริ่ม(?) พร้อมกับทุกๆคนที่เข้ามามุงมองเขาเป็นจุดๆเดียว "พวกนายทุกคนชิมทาร์ตที่ทำกันได้เลยนะ"

    " " "เย้!!" " "

    เสียงร้องประสานดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง เด็กสาวมองเห็นภาพเช่นนั้นแล้วก็อดอมยิ้มอย่างช่วยขึ้นมาเสียไม่ได้---บรรยากาศภายในตอนนี้แทบไม่ต่างอะไรกับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอนั้นเคยอยู่อาศัยเลยแม้แต่น้อย 

    "ว้าวว---กลิ่นหอมหวานมากเลย!" เสียงของกริมม์ดังขึ้นราวกับพร้อมกัน "เกาลัดที่มันวาวพร้อมกับครีมนุ่มๆข้างล่าง! จะทานล่ะน้--า!"

    เธอมองไปยังคนอีกสามคนที่ถือช้อนใบเล็กสำหรับตักขนมก่อนที่จะทานเข้าไปภายในเวลาไล่เลี่ยกัน

    "อื้มม แย่แล้ว!" เป็นเสียงที่ดังออกมาจากปากของเอซที่ข้างในมีแต่ทาร์ตมองบลังค์เกาลัด

    "อร่อยจัง!" เสียงของเคเตอร์ดังขึ้นขณะที่ทานทาร์ตมองบลังค์เกาลัดด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย

    "ไม่แค่หวานเท่านั้น! แต่ยังรู้สึกหรูหราด้วย เหมือนมีสวนเกาลัดอยู่ภายในปากเลย!" คำชมของกริมม์ยังคงดำเนินต่อไปขณะที่ทาร์ตยังอยู่ภายในปาก

    "นั่นถือว่าเป็นคำชมหรือเปล่านะ?" เสียงของเทรย์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ยังฉีกยิ้ม ดวงตาสีอำพันละสายตาจากเหล่าคนที่เหลือแล้วมองมายังเด็กสาวที่อยู่ข้างๆไม่ห่างกายไปเสียเท่าไหร่พลางเอ่ยถาม "นายไม่สนใจชิมทาร์ตหน่อยเหรอมารี?"

    เขามองเด็ก(สาว)หนุ่มที่ส่ายหน้า

    "ให้พวกเขาทานน่าจะดีกว่า" ใบหน้านั้นประดับไปด้วยรอยยิ้มบางๆ "ก็ท่าทางดูเหนื่อยขนาดนั้นนี่น่า"

    มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มถูกวางลงบนศีรษะของฝ่ายมารีที่มีความสูงน้อยกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด มือข้างนั้นขยี้ผมเสียจนเรือนผมสีขาวยุ่งเหยิงทำให้เด็กสาวเป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มผู้มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอด้วยความงุนงง

    มืออีกข้างซึ่งไม่อยู่บนศีรษะของเด็กสาวขยับมือยกปากกาเวทมนตร์ขึ้น ปรากฏส่วนหนึ่งของทาร์ตเกาลัดพร้อมกับช้อนตักขนมอยู่ภายในจานใบเล็ก แววตาของเด็กสาวเปล่งประกายยามที่ได้เห็นเวทมนตร์(ที่ไม่ใช่เวทมนตร์ต่อสู้)ต่อหน้าต่อตาของหล่อน มารีมองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยสภาพเรือนผมสีขาวยุ่งเหยิงจากการโดนลูบผมแล้วเอ่ยถามขณะที่นิ้วชี้ของมือข้างขวาชี้ไปยังเจ้าทาร์ตเกาลัดที่ถูกแบ่งไว้อยู่บนจาน

    "นี่รุ่นพี่อยากให้ผมทานมันอย่างงั้นเหรอ?"

    "แน่นอนสิ นายเองก็พยายามอย่างเหน็ดเหนื่อยเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?" เขาระบายยิ้ม "เพราะงั้นลองทานมันสักหน่อยเถอะ"

    ดวงตาสีน้ำข้าวของเด็กสาวฉายแววชั่งใจของตนออกมาอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นแววตาที่ลังเลราวกับกำลังใจครุ่นคิดว่าความพยายามของตนนั้นเหมาะสมกับเจ้าทาร์ตเกาลัดนี้จริงๆแล้วหรือ?

    "จริงสิ นี่เทรย์คุง ลองทำเจ้านั่นดูไหม?" เสียงของรุ่นพี่เคเตอร์ที่ขยับเข้ามาใกล้เธอกับเทรย์ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่อาจทราบได้กล่าวขึ้น "บางทีแล้วมารีจังอาจจะถูกใจก็ได้นะ!"

    เจ้านั่น...เจ้านั่นนี่คืออะไรอ่ะ?

    "คะ...ครับ???" เด็กสาวฉายแววงุนงงออกมา 

    "เจ้านั่นเหรอ...อ๋อ เจ้านั่น" เธอมองชายหนุ่มที่ทำหน้าราวกับนึกอะไรบางอย่างออก ดวงตาสีอำพันหันมองไปมองพวกเธอที่อยู่ภายในระยะสายตาของเทรย์ "พวกนายชอบอาหารอะไรกันหรอ?"

    ใบหน้าของพวกเขาทั้งหมด(ยกเว้นไว้ซึ่งรุ่นพี่)ฉายแววงุนงงอย่างเห็นได้ชัด

    "ของผมเป็นพายเชอร์รี่กับแฮมเบอร์เกอร์" เอซเอ่ย แม้จะสงสัยแต่ก็ยอมเอ่ยตอบ

    เด็กสาวเผลอเหงื่อตก

    แย่ล่ะ...ของที่ชอบ...ถ้าตอบไม่มีแบบนี้ไม่เสียน้ำใจเกินไปหน่อยหรือไงนะ? ต้องตอบสิ ต้องตอบ!

    "อันดับหนึ่งของข้าคือทูน่ากระป๋อง แล้วก็ชีสออมไรซ์" กริมม์เอ่ยด้วยท่าทางกระตือรือร้น เจ้าหางนั่นส่ายดุ๊กดิ๊กไปมาราวกับมีความสุข "เนื้อย่างแล้วก็พุดดิ้ง!"

    ตอบไปอีกคนแล้ว...คิดสิคิด เอาอะไรดี-

    นิ้วของดิวซ์ลูบคางของตน

    "ถ้าให้เลือกคงเป็นออมไรซ์ล่ะมั้งครับ"

    ดิวซ์ก็ตอบไปแล้ว... ดวงตาสีน้ำข้าวของเด็กสาวเผลอฉายแววลนลานอยู่ชั่วครู่ รุ่นพี่ไดมอนด์ใช้เวลาตอบไม่นานแน่ๆ

    "ของฉันเนื้อแกะย่างราดซอสเดียอาโบแหละ" นั่นไง ตอบอย่างรวดเร็วแบบที่เธอคาดการณ์เอาไว้เลย!

    "อ่า---ของฉั...ของที่ผมชอบก็คือ---" ริมฝีปากของเด็กสาวค้างเกร็ง จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องยากสำหรับหล่อนที่จะบอกไปตามตรงว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร ในเมื่ออาหารที่เธอชอบนั้นไม่มีเสียสักอย่าง(อะไรที่กินได้หมดก็กินๆไปเถอะ!...คิดแบบนั้นมาตลอดแล้วจะไปหาของที่ชอบมาทันการได้ยังไงกัน?)

    เอาเถอะ...ลองนึกอะไรดูก่อนล่ะกัน

    ระหว่างที่ลังเลอยู่ชั่วอึดใจจนความเงียบเข้าปกคลุมหัวของเด็กสาว มารีลองหลับตาดูเผื่อจะนึกอะไรสักอย่างออก---เธอลองเดินลึกเข้าไปภายในความทรงจำ อย่างน้อยก็ขอเป็นของที่เคยชอบภายในตอนยังเป็นเด็กก็ได้ ถึงแม้ว่านั่นจะไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบภายในปัจจุบันแต่มันก็ถือว่าเคยเป็นของที่ชอบอยู่ดี

    ลึกลงลึกลงไป ไปยังห้วงความทรงจำที่เธอไม่แม้อยากจะนึกถึง

    เสียงของผู้เป็นพี่สาวในนามผู้มีชื่อว่าไดอาน่าดังขึ้นมาภายในหัวกับความทรงจำที่แสนจะเลือนลางนั่น

    ริมฝีปากของเด็กสาวเริ่มขยับ

    [ "ท๊าด้า! ทาร์ตสตอว์เบอร์รี่ของโปรดของมารีมาแล้วนะ!" ]

    "ทาร์ตสตอเบอร์รี่..."

    พอก่อน หยุดนึกก่อน---

    จะถลำลึกลงไปไม่ได้แล้วนะ

    [ "ฮุๆ ตกใจล่ะซี๊! วันนี้น่ะพี่สาวไปแจ้งที่อยู่ของวายร้ายตัวประหลาดให้กับพวกตำรวจเลยได้รางวัลนำจับมาล่ะ!
    เพราะงั้นเลยได้สตอว์เบอร์รี่ลูกโตกับทำน้ำเชื่อมสตอว์เบอร์รี่แถมลงไปด้วยล่ะน้---า!" ]

    "---ที่ใส่น้ำเชื่อมสตอว์เบอร์รี่ลงไปด้วย"

    สีหน้าของเด็กสาวคลี่แสร้งยิ้ม

    เสียงหัวใจบีบรัดกำลังดังขึ้นเรื่อยๆ

    หยุดนึกไม่ได้แล้ว

    [ "แหม่ๆ ไม่นึกเลยนะว่าตัวประหลาดจะเป็นคุณป้าข้างบ้านอ่ะเนอะมารี!
    แล้วทำไมสีหน้าของเธอถึงซีดแบบนั้นล่ะ-" ]

    ไม่ได้ ไม่ไหวแล้ว!!!

    หยุดเดี๋ยวนี้นะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ หยุดนะ หยุดนะ หยุดนะ หยุดนะ หยุดนะ หยุดนะ หยุดนะ ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ---

    ถ้าไปถึงคำพูดคำนั้นล่ะก็---

    [ "...อย่าบอกนะว่ามารีเองก็เป็นตัวประหลาดเหมือนกันน่ะ?" ]





    "ชอบทาร์ตสตอว์เบอร์รี่เหมือนกับริดเดิ้ลจังเลยนะ มารีจัง!"

    "...เอ๋?" เด็กสาวเงยหน้าราวกับหุ่นเชิดที่ถูกผูกสายขยับขึ้นมาใหม่ กระพริบตาปริบราวกับพึ่งรู้สึกตัวอย่างน่าประหลาด แต่ก็รู้ตัวไวพอจึงเอ่ยชื่อของหัวหน้าหอฮาร์ทสลาบิวท์เสียงเบาราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทักหล่อนเรื่องอะไร "รุ่นพี่โรสฮาร์ทเหรอครับ?"

    "ใช่ๆ ริดเดิ้ลจังนั่นแหละ!" เคเตอร์ขยิบตา "ปกติแล้วชอบทาร์ตสตอว์เบอร์รี่มากเลยล่ะ ถึงแม้จะเห็นเข้มงวดแบบนั้นล่ะก็นะ!"

    "เอาจริงดิ!?" เอซทำสีหน้าตกตะลึงราวกับไม่อยากจะเชื่อ หัวหน้าหอของเขาน่ะหรือชอบทาร์ตสตอว์เบอร์รี่น่ะ!?

    เทรย์ระบายยิ้ม

    "ทาร์ตสตอว์เบอร์รี่---แบบนี้นี่เอง" ใบหน้าของชายหนุ่มขยับยิ้ม มือนั้นหยิบปากกาเวทมนตร์ขึ้นมา---บางทีแล้วเจ้านั่นที่เขากล่าวถึงคงจะเป็นการร่ายมนตร์ "ถ้างั้นจะเริ่มล่ะนะ Doodle suit!"

    ราวกับว่ากำลังร่ายเวทมนตร์ให้เหล่าขนมก็ไม่ปานนัก ละอองแสงสีขาวงดงามพร่างพรายราวกับผงวิเศษแฟรี่ภายในเรื่องปีเตอร์แพนกำลังโรยราลงบนทาร์ตเกาลัดอย่างนุ่มนวล พวกมันเปล่งแสงเรืองรองชั่วแวบหนึ่งก่อนจะจางลงไปภายในเนื้อขนมของแต่ละคน

    "..นี่มัน?" ดิวซ์เอ่ยขึ้นด้วยความงุนงง

    เสียงของเทรย์เอ่ยเชื้อเชิญพวกเขา

    "เอาล่ะ ลองกินทาร์ตอีกทีอยู่สิ"

    ดวงตาของเด็กสาวฉายแววประหลาดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง มือเอื้อมใช้ส้อมจิ้มลงไปแล้วจัดการตักส่วนหนึ่งของทาร์ตเกาลัดนำเข้าปากตามคำเชื้อเชิญของเทรย์ ก่อนที่หล่อนจะเลิกคิ้วเปล่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

    "อื้ม...?"

    รสชาติของทาร์ตสตอเบอร์รี่ราดด้วยน้ำเชื่อมสตอว์เบอร์รี่ เป็นความหวานเปรี้ยวที่หล่อนไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว...บางทีหากได้ทานคู่กับชาใส่นมน้ำผึ้งหรือว่าชาใส่นมและน้ำตาลอาจจะอร่อยขึ้นมามากกว่าเดิมด้วยก็ได้

    เป็นรสชาติที่น่าคิดถึงนัก...

    แก้มของเด็กสาวกลายเป็นสีแดงอ่อนขณะตา ปากเคี้ยวทาร์ตเกาลัดเงียบๆโดยไม่ได้เอ่ยคำพูดใด

    "งั่ม...หื้ม? หื้มมม---???" เอซตัดสินใจนำทาร์ตเข้าปากเป็นคนต่อๆมา ดวงตาสีแสดฉายแววตกตะลึง "นี่มัน...ถึงจะเป็นทาร์ตเกาลัดแต่รสชาติเป็นพายเชอร์รี่นี่น่า!?"

    "งั่ม ถึงรสชาติเหมือนทูน่ากระป๋องเลย...เอ๊ะ" ดวงตาสีฟ้าของมันฉายแววปิติเมื่อสัมผัสได้ถึงรสชาติอีกรสชาติที่ซึมซาบผ่านเข้ามา "อันนี้ก็รสชาติของชีสออมไรซ์นี่น่า! โอ๊ะ---อันนี้ก็ไก่ย่าง งั่มๆ พุดดิ้งก็ด้วย!"

    เคเตอร์ขยับยิ้มขณะที่เริ่มลงมือทานทาร์ตเกาลัด

    "น่าสนุกใช่ไหมล่ะ?" ประโยคถัดมาทำให้เด็กสาวที่กำลังเคี้ยวเงียบๆอยู่เกือบสำลักทาร์ตเกาลัด "ถ้ากินนี่กับชาแล้วก็มีสาวๆด้วยคงจะรู้สึกประทับใจมากเลยล่ะ"

    "สุดยอดไปเลยนะครับ" ดิวซ์เอ่ย มือละจากส้อมและช้อนทานขนม "เปลี่ยนรสชาติอาหารได้เนี่ยคงเป็นเวทย์ประจำตัวของรุ่นพี่โคลเวอร์ใช่ไหมล่ะครับ?"

    เธอมองเทรย์ที่ขยับแว่นขึ้น ท่าทางที่ยิ้มตาปิดราวกับกำลังถ่อมตนด้วยคำพูดและท่าทางทำให้เด็กสาวที่จัดการทาร์ตสตอว์เบอร์รี่(จริงๆก็คือทาร์ตเกาลัด)หันมามองท่าทางเหล่านั้น

    "จริงๆแค่เวทย์เขียนทับองค์ประกอบเท่านั้นแหละ" เขากล่าว ท่าทางแล้วจากพลังนั้นคงจะไม่ได้ใช้ได้แค่กับอาหารแน่เพราะเขาไม่ได้เอ่ยถึงอาหาร "ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรสชาติหรอกนะแต่เปลี่ยนสีและกลิ่นได้ด้วย เพราะเขียนทับตอนสุดท้ายเลยเหมือนกับเป็นการขีดเขียนลวกๆมากกว่า ฉันก็เลยตั้งชื่อให้มันว่าDoodle suitเพราะมันไม่ได้ถาวรด้วยล่ะนะ"

    เหมือนจะพยายามพูดให้ใช้ได้แค่กับอาหาร...แต่จริงๆแล้วคงจะใช้ได้กับอย่างอื่นด้วย เด็กสาวคิด 

    ดวงตาของเจ้าปีศาจตัวนร้อยเปล่งประกาย

    "Doodle suit ของเทรย์ก็เท่ากับว่าความฝันที่จะได้ทานทูน่ากระป๋องของข้าคงไม่ใช่แค่ฝันอีกแล้วสินะ!" มันเอ่ยเช่นนั้น บางทีแล้วคงจะเห็นว่าเจ้าเวทย์นี่มีประโยชน์ต่อการตอบสนองความต้องการของตนเองมากแค่ไหน "สุดยอดกว่าเวทย์ของริดเดิ้ลที่ใช้แกล้งคนซะอีก!"

    ฉันว่าไม่ได้ใช้แกล้งหรอกนะ...เอาเถอะ ให้กริมม์คิดแบบนี้ไปก็คงจะไม่เป็นไร ปล่อยไปแล้วกัน

    "ไม่หรอก...เวทย์ของฉันพอเทียบกับริดเดิ้ลเองก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยหรอกนะ ระดับต่างกันเยอะเลย" เทรย์เอ่ยตอบ ศีรษะของเขาแหงนหน้ามองนาฬิกาที่ประดับอยู่ภายในโรงครัว มองเวลาที่บัดนี้มืดค่ำมามากพอสมควรแล้วจึงตัดสินใจจบบทสนทนา "เอาล่ะ...ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว กลับกันเถอะ---เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเอาทาร์ตไปให้ริดเดิ้ล พรุ่งนี้มีงานปาร์ตี้วันเกิดด้วย อย่าไปสายนักล่ะ"

    เด็กสาวมองไปยังเอซและดิวซ์ที่พยักหน้า ก่อนที่ไม่นานนักใบหน้าของเด็กหนุ่มภายในสภาพที่มีปลอกคอล็อคอยู่จะหันมามองที่เธอ แววตานั้นดูออดอ้อนอย่างไรชอบกล

    "นี่ๆมารี---คืนนี้ฉันขอไปค้างที่หอนายได้อีกหรือเปล่า?" เอซเอ่ย แสร้งทำสีหน้าออดอ้อนเหมือนเด็กพยายามโน้มน้าวใจให้คุณแม่ซื้อขนม "ฉันน่ะโดนรุ่นพี่แสนโหดร้ายห้ามไม่ให้เข้าหอล่ะ เจ็บเหมือนโดนแทงเลย ฮือ---"

    หล่อนทำมือปางห้ามญาติ

    "หยุด หยุดเดี๋ยวนี้---ฉันรับไม่ได้" หล่อนเอ่ยก่อนที่เอซจะขยับยิ้มเป็นปกติ "ช่วยไม่ได้ล่ะนะ จะให้ค้างก็แล้วกัน"

    "รู้อยู่แล้วว่านายน่ะใจดีที่สุดเลยมารี!" หล่อนอยากจะกรอกตามองบนให้อีตานี่จริงๆถ้าไม่ติดที่ว่ายังเก็บอาการได้อยู่

    "เดี๋ยวสิมารี อย่าไปรับหมอนี่เข้ามาง่ายๆสิ!" กริมม์เอ่ย "ถ้าจะนอนที่หอพวกข้าต้องจ่ายทูน่ามาสิบกระป๋อง!"

    "เอ๋---แล้วจะให้ฉันนอนข้างนอกเลยรึไง!?"

    เด็กสาวถอนหายใจเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าดูจะวุ่นวายจนเธอคิดอยากจะเบือนหน้าหนี

    เสียงของเทรย์ถูกเอ่ยขึ้นยุติความขัดแย้งนั้น

    "งั้นก็ให้ดิวซ์ไปอยู่จับตาเอซด้วยดีไหม?" สายตาสีอำพันหันไปมองดิวซ์ที่ทำหน้าเปลกใจพลางชี้มาที่ตนเอง "ในฐานะรองหัวหน้าหอฉันอนุญาตนะ"

    "เทรย์คุงจะตามใจเด็กใหม่เกินไปแล้วน้า" เคเตอร์เอ่ย "นี่มารีจัง ฉันไปด้วยได้ไหม?"

    เด็กสาวขยับยิ้ม

    "เอาสิครับ ถ้ารุ่นพี่ไม่รังเกียจล่ะก็นะ?"

    "หวา---นี่มารีจังอนุญาตด้วยเหรอเนี่ย?" เธอล่ะชอบจริงๆเวลาได้เห็นสีหน้าของคนที่ไปไม่เป็น "ถ้างั้น---"

    มือของเทรย์เอื้อมจับบ่าของเพื่อนสนิทหนุ่ม

    "นายไม่ต้องเลย"

    "ชิ! ปล่อยฉันเลยนะ"

    "ขอโทษที่ทำให้นายต้องลำบากนะมารี" เทรย์เอ่ยขึ้นขณะหันมามองเธอ เด็กสาวส่ายหน้าเชิงไม่เป็นไร "ยังไงก็ขอฝากด้วยนะ"

    "เข้าใจแล้วครับ"

    "พรุ่งนี้เป็นงานปาร์ตี้ที่ไม่มีใครเกิด ฉันจะต้องเอาปลอกคอออกให้ได้เลย!" มือของเด็กหนุ่มชูกำปั้นขึ้นฟ้า "รอก่อนนะหัวหน้าหอ!"

    เด็กสาวฉีกยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นท่าทางมีกำลังใจของเอซที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด

    "นั่นสินะ ต้องพยายาม...-อุ๊บ" 

    เอ๊ะ...?

    มือของเด็กสาวปิดปาก ดวงตาของเด็กสาวเบิกตากว้างยามเมื่อความรู้สึกอยากจะขย้อนสิ่งๆนั้นกลับมาอีกครั้ง---แต่คราวนี้กับทวีความรุนแรงขึ้นราวกับว่ามันกำลังโกรธา เป็นสิ่งที่ชวนให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย แต่ขณะที่ความรู้สึกอยากขย้อนนั่นกำลังจะหายไป...

    ติ๋ง...ติ๊ง...

    เสียง...เสียงนั่นดังขึ้น

    มันทวีขึ้น ทวีคูณเข้าไป

    เจ้าหยดสีดำปรากฏบนฝ่ามือของเธอ น้ำตาหยาดใสเริ่มเอ่อออกมาจากใบหน้ายามความเจ็บปวดทวียิ่งขึ้นไปอีกยิ่งกว่าที่ผ่านๆมาจนชวนคล้ายอยากจะขย้อนออกมาให้มากเสียกว่าเดิม

    เจ็บ... 

    ...กร้วม

    ภาพพร่ามัวไปหมดเลย

    กร้วม กร้วม

    มองไม่เห็น...อะไร---เสียง เสียงเหรอ?

    กร้วม กร้วม กร้วม 

    เป็นเสียงที่แจ่มชัด เสียงที่คราหนึ่งเคยดังก้องภายในหัวของเธอ---

    ร่างของเด็กสาวโซซัดโซเซราวกับเริ่มควบคุมร่างกายของตนเองไม่ได้ เสียงตะโกนตกใจจากใครสักคนดังขึ้นมาเริ่มเห็นปฏิกิริยาตอบโต้ผิดปกติของเธอ มารีได้ยินเสียงของร่างตัวเองที่ล้มลงไปกับพื้นผสานกับเสียงดังกร้วมที่เริ่มจะชัดถี่ขึ้นเรื่อยๆภายในหูของเธอ โสตประสาทของเธอ

    น่าแปลกที่ภาพของเด็กน้อยผมสีกุหลาบคนนั้นปรากฏขึ้นมา ทั้งๆที่ตัวเธอและเด็กคนนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันแม้แต่นิดเดียว

    ภาพตรงหน้านั้นช่างเลือนลางจนมองไม่เห็นอะไร ในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ภาพทั้งหมดนั้นจะตัดไป

    มารีมองเห็นแสงสว่างที่ปรากฏขึ้นมาวูบหนึ่ง

    ที่นั่น ที่แขนขวาของเธอ


    ***


    ริดเดิ้ล โรสฮาร์ทกำลังล่องลอยอยู่ภายในห้วงวัยเด็ก...ไม่สิ บางทีนี่อาจจะเป็นความฝัน?

    เขาภายในวัยเด็กอ่านหนังสือ เรียนหนังสือ มีแต่หนังสือที่กองท่วมหัวสูงเข้าไป---ที่นั่นเขาจับปากกาขนนกราคาแพงขณะข้างๆนั้นคือขวดหมึกสีดำยี่ห้อหรูหรา ขณะที่หน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นสิ่งที่เชื่อมต่อระหว่างเขากับภายนอกที่ตั้งอยู่ ณ ซึ่งข้างหน้าของโต๊ะเรียนหนังสือนั้นถูกปิดม่านสีทึบทึมจนมิอาจมองเห็นซึ่งสิ่งใด

    ที่ม่านนั่นเคยเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างโลกภายนอกกับห้องที่มีแต่หนังสือ แต่บัดนี้เขากลับไม่อาจจะมองเห็นทิวทัศน์บริสุทธิ์ตานั้นได้อีกแล้ว

    เขาทำผิดกฎ เขาโดนลงโทษ

    เขาไม่สามารถทำตามคำสั่งของท่านแม่ได้

    "ริดเดิ้ล ริดเดิ้ล"

    เสียงของท่านแม่ที่ดังขึ้นจากด้านหลังเอ่ยขึ้น

    "ครับ...ท่านแม่"

    ไม่มีแต่คำปฏิเสธ มีเพียงแค่"ครับ ท่านแม่"ที่ถูกเอ่ยออกไปแก่สตรีในชุดเดรสสีดำครึ้ม ใบหน้านั้นถูกปกปิดด้วยหมวกที่เต็มไปด้วยผ้าลวดตาข่ายสีดำ ถูกกุหลาบสีแดงประดับไว้บนหมวกใบเล็ก เรือนผมสีงดงาม ใบหน้าดูที่ยิ้มอยู่เช่นนั้นดูวัยเยาว์ราวกับไม่เคยเสื่อมลงไปตามกาลเวลา

    หญิงสาวผู้เป็นมารดาของเขาฉีกยิ้ม

    "ใช่แล้วริดเดิ้ล เรียนต่อไปแบบนั้นแหละดีแล้ว" มือนั้นพลิกหน้าหนังสือที่มีแต่ข้อความอะไรก็ไม่รู้เต็มไปด้วย ดวงตาของริดเดิ้ลฉายแววพิศวง รู้สึกคลื่นไส้จนอยากจะอาเจียนออกมายามเมื่อใบหน้าของท่านแม่ผู้ที่เขาเคารพนั้นเอนใบหน้าเข้ามาใกล้ตัวเขา เสียงนุ่มนวลยังคงดำเนินต่อไป "ลูกจะได้เติบใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่ดี...ใช่แล้ว ผู้ใหญ่ที่ดี"

    "ครับ ท่านแม่"

    "ใกล้ถึงวันเกิดของลูกแล้วนิใช่ไหม?" ริมฝีปากเอ่ยขยับ ริดเดิ้ลไม้แม้แต่จะกล้าขยับตัวไปไหนราวกับเขาถูกตรึงไว้ที่เก้าอี้ไม้ "แม่จะเตรียมเค้กให้นะ...เค้กสุดวิเศษที่ลูกสมควรได้รับ"

    "ครับ...ท่านแม่"

    มือนั้นเปลี่ยนจากจับหนังสือมากดลงที่บ่าของเขา

    "มันจะเป็นเค้กที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย..." เสียงหวานปานน้ำผึ้งดำเนินต่อไป ใบหน้าของผู้เป็นมารดาฉีกยิ้มหวาน "เจ้าก้อนน้ำตาลไร้ประโยชน์นั่นไม่จำเป็นสำหรับลูกรักหรอกนะ"

    "ครับ...ท่านแม่..." 

    สัมผัสสยดสยองชวนขนหัวลุกเริ่มไต่เลื้อยคลานลงจากบ่าไปทั่วตัว

    "ตอบได้ดีมาก ใช่แล้ว แบบนี้สิถึงจะสมเป็นลูกรักของแม่...ถ้างั้นตอบคำถามอีกข้อให้แม่ฟังชื่นใจหน่อยสิ" สุรเสียงอ่อนหวานจับใจ "พวกทำผิดกฎแกจะต้องจัดการยังไงRิดเDิ้ล?"

    ดวงตาสีเงินของเด็กชายเบิกตากว้าง ความทรงจำยามที่เห็นเหล่าลูกหอได้ทำผิดกฎปรากฏขึ้นมาได้อย่างเด่นชัด

    ความโกรธแค้นตีตื้นขึ้นสุมภายในใจ

    "จะต้องลงโทษพวกมันครับ" เขากล่าว "จะต้องลงโทษพวกมันไม่ให้สิ้นซาก"

    ความเจ็บปวดยังหัวใจตีตื้นขึ้นมา สติสัมปัญชัญญะราวกับกำลังจะอยู่ในห้วงมัวเมา 

    "จะต้องตัดหัวของพวกมัน เสียบประจานถึงสิ่งที่ได้ทำลงไป" เสียงของท่านแม่ผู้เคารพแทรกซึมลงไปภายในสมอง อ้อนแขนเย็นเยียบนั่นเข้าโอบกอดเขาแล้วกล่าวกระซิบข้างหู "จะต้องเฆี่ยนให้ตาย ตัดหัวพวกมันด้วยกรรไกรตัดกิ่งไม้ ควักไส้ของพวกมันออกมา...ให้พวกมันส่งเสียงกรีดร้อง ก้มกราบแนบเท้าของแก"

    เขาเอ่ยเสียงแผ่วเบาตาม

    "ให้พวกมันส่งเสียงกรีดร้อง...ก้มกราบลงแนบเท้าของผม"

    "ใช่แล้วเด็กดี...ถ้าทำแบบนั้นจะไม่มีใครที่ต่อต้านเธอได้อีกแล้ว" ราวกับคำลวงแสนหอมหวานภายในสวนแห่งอีเดน มือของมนุษย์กำลังแปรเปลี่ยนกลายเป็นของเหลวสีดำ ใบหน้าเริ่มะลายกลายเป็นเมือกเหลวดำคล้ำน่าสะอิดสะเอียน "จงกลายเป็นผู้ปกครองกฎของโลกใบนี้ แล้วเมื่อนั้นทุกๆสิ่งจะต้องทำตามกฎของเธอ..."

    ไม่มีใบหน้าของผู้เป็นมารดาอีกแล้ว ไม่มีแม้แต่โต๊ะเรียน ไม่มีแม้แต่หนังสือกองสูงท่วมหัว ทั้งหมดนั่นกลายเป็นหยาดหมึกสีดำคละคลุ้งด้วยกลิ่นสะเอียน แม้กระทั่งริดเดิ้ลเองก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขากำลังจะกลายเป็นอะไร

    เสียงอันอบอุ่นดังขึ้นมาอีกครา

    "แม่รักลูกนะริดเดิ้ล"

    แล้วราชินีโพธิ์แดงก็ตอบกลับเสียงเบา

    "ผมเอง...ก็รักท่านแม่ครับ"

    เจ้าเมือกหมึกสีดำแแสยะยิ้ม---ปากของมันที่เยิ้มไปด้วยหมึกเหลวหนืดมากมายถูกอ้ากว้างแลดูน่าสะอิดสะเอียน เจ้าสิ่งนั้นมองจ้องไปยังร่างของเด็กหนุ่มผู้กำลังหลับไหลด้วยสีหน้าเป็นสุข

    อีกนิดเดียว...อีกเพียงนิดเดียว

    ต้องการมากกว่านี้ ต้องการมากกว่านี้

    แปดเปื้อนมลทิน(Blot)ให้มากกว่านี้เสียสิ เจ้าความโกรธา

    เสียงหัวเราะแผ่วเบาของมันดังขึ้นภายในลำคอ

    และแล้วเจ้าสิ่งนั้นก็บรรจงโน้มตัวลงไปที่ราชินีโพธิ์แดง












    กร้วม


    ***
        
    สาส์นจากไรท์

    : ฮ่า เขียนตอนนี้แล้วโล่งขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ! ในที่สุดหลังจากที่พยายามเขียนมานานและแล้วก็ได้เขียนฉากที่ต้องการสักที ฮูเร่! ต่อจากนี้สถานีต่อไปที่ไรท์อยากเขียนก็คือบทสุดท้ายที่ใกล้เข้ามาแล้วล่ะค่ะ!

    สำหรับบทนี้เป็นยังไงกันบ้างคะ? เอาเป็นว่าถ้าเกิดว่าโทรศัพท์หรืออุปกรณ์สื่อสารของท่านไหนที่คลุมดำนิยายเรื่องนี้ได้ก็รบกวนอย่าบอกสิ่งที่ถูกคลุมดำสีแดงให้แก่ผู้อ่านท่านใดนะคะ(เพราะจริงๆไรท์พิมพ์ชื่อของพี่สาวในนามเอาไว้ภายในนิยายแล้ว) 

    เอาจริงๆแล้วคิดถูกจริงๆที่ตัดสินใจติดแท็กความรุนแรงลงไปภายในนิยาย เพราะเนื้อหาหลังๆต่อจากนี้เองก็มีความรุนแรงโผล่ขึ้นมาเรื่อยๆเลยค่ะ แต่ว่ามีไม่เยอะหรอกเชื่อไรท์สิ!(ทุบอก ไม่ชูสามนิ้วสาบาน)

    จนมาถึงตอนนี้ยังไงก็ขอบคุณสำหรับ190(หรือตะกี้ที่เป็น180+แล้ว)เฟบที่พุ่งขึ้นมาอย่างน่าตกใจด้วยจริงๆนะคะ เอ่อ...จริงๆไรท์ก็ไม่มีอะไรจะตอบแทนให้หรอกนะนอกจากบทพิเศษพี่รูคที่เคยพูดไว้ก่อนหน้า เอาเป็นว่าสักวันในอนาคตถ้าเฟบถึง200ขึ้นเมื่อไหร่ไรท์จะมาเปิดQ&Aให้แล้วกันนะ...เอ๋? น้อยไปเหรอ?
     
    ขอบคุณสำหรับผู้ติดตามที่พาไรท์มาถึงยี่สิบห้าตอนได้จริงๆนะคะ ต่อจากนี้ก็มาก้าวไปสู่หลักสามสิบตอนขึ้นกันเถอะ ไรท์จะพยายามแต่งให้ไปได้ไกลๆเลย ไฟท์โตะ ไฟท์โตะ!

    ปล.หนึ่ง ไม่มีอะไรอยากจะบอกเป็นพิเศษ แต่ถ้าไรท์มาช้าไปนิดหนึ่งโปรดรับรู้ด้วยนะกำลังไปเล่นGenshin impact กับเคลียร์เนื้อเรื่องบทห้าของทวิสเตดนะคะ อ๋อ แล้วก็กาชาตู้ใหม่ของอาร์กไนท์ด้วย เอ่อ...ฟาร์มเฟทกับติดงานด้วย!

    ปล.สอง บทนี้เหมือนเปิดความซวยเฉยๆ เนื้อหาต่อจากนี้ในช่วงบั้นปลายตอนจะมีอะไรอีกเยอะเลยค่ะ ตอนนี้ไรท์เองก็ไม่มีอะไรมากนอกจากฟิน...แฮ่ม มีความสุขที่ได้แต่งตอนนี้ออกมาอย่างมหาศาล

    ปล.สาม การที่เห็นเมนและนางเอกฟิคนี้มีความทุกข์คือความสุขของไรท์ล่ะ!

    ปล.สี่ ตรงคำว่าRิดเDิ้ลไรท์จงใจพิมพ์นะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×