คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทโหมโรง : Marie in wonderland
“จับมือในกระจกเอาไว้เถิด
ให้มันพาเธอไป…นำพาไป
สู่แดนมหัศจรรย์ที่ผิดเพี้ยน”
???
***
มารี เอเกอร์กล่าวขานว่าตัวเองคือเด็กสาวธรรมดา เพราะเธอนั้นแสนจะธรรมดา
“มารี มาช่วยฉันยกลังพวกนี้ไปที่หลังร้านที!”
เธอก็แค่ยกลังใส่ขวดน้ำสูงเลยศรีษะของเธอได้
“มารีขอร้องล่ะ วันนี้อยู่กะดึกแทนผมให้ทีนะ!”
เธออดหลับอดนอนได้มิรู้เบื่อ
“มารี!”
“คุณมารี!”
และ…
“มารี วันนี้เธอต้องอยู่เฝ้าร้านสะดวกซื้อคนเดียวนะ ไหวใช่ไหม?”
“คะ…อ๋อ ไหวค่ะผู้จัดการ ไหว!”
คุณผู้จัดการที่เป็นชายวัยกลางคนทำได้เพียงมองเธอด้วยสายตาประเมิน จากนั้นก็ตัดสินใจยื่นกุญแจร้านสะดวกซื้อให้กับเธอที่ใส่ชุดพนักงานร้านอยู่เพียงคนเดียวภายในเวลาตีสอง
เธอโค้งให้เขาที่เดินออกจากร้าน แถมไม่วายหันกลับมาพูดว่า"ฝากล็อคร้านด้วยนะ!" ก่อนจะขับรถจากไป
ให้ตายสิ วันนี้สาวน้อยธรรมดาอย่างเธอก็ต้องทำตัวเป็นยอดมนุษย์กะดึกอีกแล้ว
มารีอยากถอนหายใจขณะที่มองออกไปข้างนอกร้าน เธอไขกุญแจออกมาจากโซนคิดเงินเพื่อไปจัดการกับของภายในชั้นวางสินค้า ขณะที่เมินรถหรูของผู้จัดการที่เขาถ่อไปซื้อมาจากกรุงนิวยอร์ค พอได้มาก็มาอวดคนทำงานงกๆอย่างเธอกับพนักงานจนโดนนินทาไปหนหนึ่ง
“พรุ่งนี้สำหรับคนที่ทำงานกะดึกติดกันสองคืนจะมีโบนัสคูณสองให้เพิ่ม” เด็กสาวในชุดพนักงานพึมพำเสียงเบา มือของเธอตั้งขวดน้ำอัดลมยี่ห้อดังอย่างโพล่าไม่ให้ล้มเป็นโดมิโน่ “ฉันจะได้เอาเงินพวกนี้ไปจ่ายค่าเทอมไฮสคูลให้เบนจามินซักที”
โอ้เบนจามิน…น้องชายสุดน่ารักของเธอ ภาพใบหน้าของเขาปรากฏขึ้นมาลางๆทำให้เธอจนชวนยิ้มบางออกมา
เขาต้องดีใจแน่ถ้าปีนี้เขาจะได้เข้าไฮสคูลอย่างที่เฝ้าฝันเอาไว้เสียที
แกร๊ก…ตี๊ด-
[ “ข่าวต่อไป… อาชญากรชื่อดัง แคสเปอร์ แบล็ก วัยสามสิบสองปีได้ถูกจับกุม หลังจากการใช้พะ---” ]
“โทรทัศน์มาเปิดเอาตอนไหนล่ะเนี่ย?” พนักงานร้านสะดวกซื้อเพียงหนึ่งเดียวในย่านชานเมืองถอนหายใจ เด็กสาวเงยหน้ามองการรายงานข่าวจากโทรทัศน์ถึงอาชญากรที่เลื่องลือเมื่อเดือนสองเดือนที่ผ่านมาเรื่องการสังหารผู้คน “อื้ม แต่ในที่สุดเจ้าหมอนี่ก็โดนจับแล้วสินะ ก็ดี---คนแบบนี้มักจะทำให้พวกเราโดนเหมารวมเสียๆหายๆไปด้วยนินะ”
น่าเสียดายนักที่เด็กสาวไม่รู้ว่าทำไมโทรทัศน์ที่ผู้จัดการปิดไว้จู่ๆก็ดันเปิดขึ้นเสียนี่ แต่มารีก็ตัดสินใจเปิดคาเอาไว้เช่นนี้แหละ อยู่คนเดียวเงียบๆภายในร้านสะดวกซื้อที่ไร้ลูกค้ามันเหงาจะตายไป
[ “ถัดจากข่าวอาชญากรรมพวกเรามาฟังข่าวสบายๆกันดีกว่ารับท่านผู้ชม และสำหรับข่าวนี้คงทำให้เหล่าแฟนคลับดิสนี่ย์ใจเต้นกันเป็นแถบเชียว เพราะในตอนนี้ดิสนีย์ประกาศพอร์ตเกมคิงด้อมฮาร์ทตั้งแต่ภาคแรกถึงภาคสามลงในเครื่องVRแล้วครับผม” ]
[ “ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีอะไรอย่างงี้นะคะ และนอกจากเกมคิงด้อมฮาร์ตแล้ว พวกเขาตัดสินใจจะพอร์ตเกมอื่นๆลงไปด้วย---แต่ว่าอย่างไรแล้วก็ต้องรอติดตามกันต่อไปนะคะ” ]
ดิสนีย์ อ่าใช่…เธอจำได้อยู่ว่าดิสนีย์นั้นมีเงินและชื่อเสียงมากมาย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะตัดสินใจพอร์ตเกมลงในเครื่องVRแล้ว
“ถ้าเบนจามินมาเห็นคงดีใจ” มารียิ้มแก้มปริ ดูท่าคงจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกน้องชายของเธอเสียแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานเด็กสาวก็ไล่จัดข้าวของสินค้าภายในร้านสะดวกซื้อจนเสร็จ เธอแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ติดว่าเธอยังอยู่ภายในเวลางาน(และได้โบนัสด้วย!) เธอที่มองไม่เห็นแม้เงาของสิ่งมีชีวิตใดๆนอกร้านสะดวกซื้อจึงตัดสินใจกลับเข้าโซนห้องพักพนักงานเพื่อไปล้างหน้าล้างตาให้สะอาดเตรียมทำงานกะดึกนี้ต่อ
เด็กสาวเลี้ยวผ่านห้องพักพนักงานไปยังห้องน้ำส่วนตัวของฝั่งพนักงานแบบเธอ ใบหน้าของเด็กสาวเรือนผมสีขาวและดวงตาสีขาวเทาซีดสะท้อนอยู่บนกระจก มือสีซีดของเด็กสาวเปิดก็อกน้ำให้ไหลออกมาขณะที่มือสองข้างของเธอรองรับน้ำเอาไว้ก่อนจะจัดการล้างหน้าล้างตาให้สะอาดเสีย
มารีมองใบหน้าของเธอที่สะท้อนผ่านกระจกขณะที่มือเลื่อนไปปิดก็อกน้ำตามความเคยชิน เธอมองร่างของเธอที่ซีดราวกับกระดาษไร้รอยขีดเขียนหรือสีสันใดๆแต่งแต้ม เป็นเหมือนภาพร่างที่พระเจ้ายังวาดไม่เสร็จแต่ก็จัดการวาดตัวตนของเธอลงไปเพื่อให้มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้เสียมากกว่า
ยิ่งใบหน้าไม่ยิ้มก็ยิ่งไร้ชีวิตชีวา ใบหน้าที่เป็นแบบนั้นของเธอทำให้ในภายวัยเด็กของเธอไม่ใสสะอาดเสียเท่าใดนัก แต่เธอก็ผ่านมาได้เพราะมีเบนจามินเคียงข้าง
อ่า…เบนจามินของเธอ
เบนจามิน-
หวืด…---
“เอ๊ะ ตายแล้ว…นี่ฉัน---?” เผลอเหม่อไปหรือ แล้วทำไมตรงกระจกห้องน้ำมันถึงได้กลายเป็นสีดำไปเสียล่ะ?
มารีที่คล้ายพึ่งได้สติกลับมาเผลอปรากฏใบหน้างุนงงออกมาเสียมิได้ยามเมื่อกระจกที่บัดนี้เคยสะท้อนภาพของเธอนั้นกลายเป็นว่าถูกย้อมด้วยสีดำจนหมดสิ้น เด็กสาวนำมือที่เปียกชุ่มหมายจะนำมาเช็ดกระจกให้สีดำพวกนี้หายไป แต่ไม่ว่าจะขัดถูแรงแค่ใดก็ไม่สามารถทำให้สีดำพวกนี้ที่ย้อมกระจกได้หายไป
แย่แล้ว…แบบนี้ต้องไปหาผ้ามา!
เธอเริ่มรู้สึกกังวลและไม่สบอารมณ์ที่เจ้ารอยสีดำพวกนี้ไม่หายไปตามที่เธอต้องการ เด็กสาวเม้มปากท่าทางดูวิตก---และเมื่อเธอตัดสินใจหันหลังเพื่อจะไปนำผ้ามาเช็ด เสียงๆหนึ่งก็รั้งเธอเอาไว้
‘พี่สาว…’
ดวงตาของเด็กสาวเบิกตากว้าง ร่างของเธอที่หันหลังให้กลับกระจกนิ่งค้าง
จากนั้นไม่นานชื่อของเด็กคนนั้นก็เปล่งออกมาจากริมฝีปากอย่างเผลอตัว
“บะ…เบนจามิน?”
เธอหันหลังกลับไป---น่าแปลกใจที่กระจกสีดำนั้นค่อยๆปรากฏรูปหน้าของใครบางคนขึ้นมา เธอมอง จ้องไปยังร่างของใครซักคนที่ปรากฏเงาสีขาว ขาเผลอไผลก้าวเข้าไปที่ด้านหน้ากระจกอย่างลืมตัวแม้ว่าเสียงในใจจะดังก้องเป็นร้อยๆครั้งว่า“นั่นน่ะไม่ใช่เบนจามินของฉันเสียหน่อย”
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น…
นั่นก็เบนจามินมิใช่หรือ?
มือของเธอค่อยๆสัมผัสกับกระจกสีดำทมิฬอย่างแผ่วเบา ใบหน้าของเธอค่อยๆฉีกยิ้มขณะที่สติเริ่มเลือนลางไปพร้อมกับร่างของเด็กสาวที่กำลังราวกับถูกดึงเข้าไปภายในกระจกอย่างไรอย่างงั้น
เสียงกุญแจร้านสะดวกซื้อตกกระทบลงพื้น จากนั้นเสียงช็อตไฟฟ้าของกล้องวงจรปิดก็ดังขึ้น ไฟที่ห้องน้ำพนักงานดับไปชั่วขณะก่อนที่จะกลับมาติดอีกครั้ง
แสงสว่างส่องกระทบไปทั่วห้องน้ำพนักงาน เป็นหลักฐานว่ามีคนอยู่ที่นี่
แต่น่าแปลกที่กลับไม่มีใครอยู่เลย
ความคิดเห็น