ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัตินางในวรรณคดี(แบบละเอียด)

    ลำดับตอนที่ #41 : นางศกุนตลา : ศกุนตลา

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 56


    นางศกุนตลา

     

     

     

     

     

    นางเป็นธิดาของพระฤาษีวิศวามิตรกับนางอัปสรเมนกา

     

    ก่อนที่นางจะกำเนิด พระวิศวามิตรได้ออกบำเพ็ญตบะจนแก่กล้า เทวดาเดือดร้อน พระอินทร์จึงส่งนางอัปสรเมนกาผู้มีความงดงามยิ่งมาใช้ความงามยั่วยวนพระฤาษี จนฤาษีหลงใหลในตัวนางจนได้อยู่กินกัน...

     

     

    นางอัปสรเมนกาให้กำเนิดธิดา ในตอนนั้นพระฤาษีคิดได้จึงขอตัวจากไป เมนกาหมดหน้าที่เพียงเท่านี้จึงจำใจทิ้งธิดาไว้บนโลกมนุษย์

     

     

    ต่อมาพระกัณวะดาบส ผ่านมาพบนางเข้า เกิดเอ็นดูจึงนำนางไปเลี้ยงที่อาศรม ให้นามว่า “ศกุนตลา” หมายถึง นางนก

     

     

    ศกุนตลามีพี่เลี้ยงสาวสองนางเป็นเพื่อน คือ “นางอนุสูยา” และ “นางปิยวาท”

     

     

    เมื่อเติบโตเป็นสาวรุ่น ศกุนตลาได้พบรักกับท้าวทุษยันต์ กษัตริย์แห่งหัสตินาปุระ เมื่อครั้งที่ท้าวทุษยันต์มาช่วยปราบมารที่มากวนใจเหล่าฤาษีได้สำเร็จ

     

     

    ก่อนจากไป...ท้าวทุษยันต์ได้ให้แหวนวงหนึ่งแก่นาง และให้สัญญาว่าจะรับนางเป็นชายา

     

     

    เคราะห์ซ้ำกรรมซัด...วันหนึ่งนางศกุนตลาเกิดป่วยเป็นไข้ ด้วยตรอมตรมที่คนรักจากไป เป็นวันเดียวกับที่ฤาษีทุรวาส (ฤาษีตนนี้ หากใครทำให้พอใจจะมอบพรวิเศษให้ แต่หากใครทำให้ไม่พอใจจะสาปในทันที) มาเยี่ยมเยือนที่อาศรม รออยู่หน้าอาศรมเสียนานไม่มีใครมารับ ก็โกรธ คิดว่านางศกุนตลาไม่เคารพนับถือ จึงสาปนางว่า

     

     

    “ไม่ให้คนรักของนางจำนางได้”

     

     

    นางอนุสูยาและนางปิยวาทมาเห็นตอนที่พระฤาษีสาปเสร็จพอดี จึงเกาะขาขอร้องให้พระฤาษีถอนคำสาปโดยอธิบายว่า “น้องศกุนตลามิได้ไม่เคารพท่าน หากแต่นางกำลังป่วยไข้ ลุกมาต้อนรับไม่ได้”

     

     

    ฤาษีทุรวาสไม่อาจถอนคำพูดได้ จึงให้พรศกุนตลาว่า “หากคนรักของนางได้เห็นของที่ให้ไว้เป็นที่ระลึกก็จะจำนางได้เอง”

     

     

    ตั้งแต่วันนั้น นางศกุนตลาก็เก็บแหวนไว้ไม่ให้ห่างกาย จนมารู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ พระกัณวะดาบสจึงส่งนางไปที่หัสตินาปุระ

     

    เพราะคำสาปอันศักดิ์สิทธิ์ของฤาษีทุรวาส ท้าวทุษยันต์จึงจดจำนางไม่ได้ อีกทั้งระหว่างทางแหวนของศกุนตลาถูกปลากลืนหายไปแล้ว

     

    ท้าวทุษยันต์กล่าวว่าพี่เลี้ยงของนางว่า

     

    “เรายอมรับว่าหญิงสาวผู้นี้งดงามปานนางอัปสร แต่เราไม่เคยรู้จักนางมาก่อน แล้วจะให้เรารับบุตรของนางเป็นบุตรของเราได้อย่างไร”

     

    ศกุนตลาร้องไห้เสียใจที่คนรักจำตนไม่ได้ นางกล่าววาจาว่า “ในเมื่อไม่มีใครต้องการเรา ก็ขอให้เทวดานางฟ้ามารับเราไปเดี๋ยวนี้”

     

    ทันใดนั้น นางอัปสรนางหนึ่งก็มาอุ้มพาศกุนตลาไปต่อหน้าทุกคน (ตอนนั้นพ้นสายตาท้าวทุษยันต์แล้ว)

     

    ต่อมาแหวนวงนั้นได้กลับคืนมาสู่ท้าวทุษยันต์ พระองค์จำทุกอย่างได้ ความรักความห่วงใยที่เคยมีต่อกันกลับมาสู่พระราชหฤทัย พระองค์รำพึงว่า

    “ศกุนตลายอดรัก...พี่ได้ทำร้ายจิตใจเจ้าอย่างแสนสาหัสไปเสียแล้ว...”

     

     

    ภายหลังพระเทพบิดรและพระเทพมารดรบนสรวงสวรรค์ได้ช่วยให้ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง พร้อมกับโอรสตัวน้อยวัยหนึ่งขวบ...

     

    ท้าวทุษยันต์รับศกุนตลาเป็นมเหสีเคียงกาย และให้นามโอรสว่า “ภรต” (เป็นที่มาของคำว่า ภารตะ ในมหากาพย์ภารตะ เพราะท้าวภรตเป็นต้นวงศ์ของพวกปาณฑพและเการพค่ะ^^)






    Talk

    พึ่งมีเวลาว่างค่ะ เลยมาต่อช้า พอดีไรเตอร์พึ่งสอบเสร็จ^^
    ความจริงแล้วรายละเอียดเรื่องนี้เยอะมากค่ะ แต่ไรเตอร์จัดมาให้แค่นี้ เพราะกลัวงง

    จริงๆแล้วฉากที่ท้าวทุษยันต์ปฏิเสธนางศกุนตลามีมากกว่านี้ค่ะ ต่อปากต่อคำกันค่อนข้างรุนแรงด้วย หากอยากศึกษาเรื่องนี้ให้จริงจังมากขึ้น ก็ไปหาอ่านดูนะคะ ตามห้องสมุดน่าจะมี ส่วนที่ร้านหนังสือนี่ก็น่าจะมีขายนะ ไม่มั่นใจเหมือนกัน

    แนะนำเรื่อง ศกุนตลา ว่าเป็นวรรณคดีเรื่องหนึ่งที่สนุกและมีเนื้อหาดีมากๆค่ะ แต่ต้องเตรียมใจอ่านกันนิดนึง เพราะค่อนข้างเศร้า แต่บทกลอนเพราะ สื่อความหมายได้ดี

    รูปนางศกุนตลาค่ะ^^

        


    JoopaJoop©
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×