ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : นางเมรี : พระรถ-เมรี (100%)
นางเมรี เป็นธิดาของพญายักษ์ตนหนึ่ง และมเหสีซึ่งเป็นมนุษย์ เมื่อตอนอยู่ในครรภ์มเหสีพญายักษ์ต้องการเสวยมะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่ (ชื่อนี้จริงๆค่ะ - -*) ที่มีอยู่เพียงที่เดียวคือเมืองคชปุระนคร ของนางยักษ์สนธมารเท่านั้น (มะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่ออกผลปีละครั้ง 1 ผล ต่อ 1 ปี) พญายักษ์จึงไปขอมาจากนางยักษ์สนธมาร นางยักษ์ก็ยินดียกให้...
ต่อมาเมื่อมเหสีพญายักษ์คลอดธิดาฝาแฝดออกมา นางยักษ์สนธมารที่ยังไม่มีลูกจึงมาขอแฝดพี่ซึ่งก็คือนางเมรีไปเลี้ยงดู พญายักษ์เห็นว่านางสนธมารเองก็เป็นม่าย ไม่มีลูก แถมสามีของนางซึ่งก็คือท้าวปทุมยังเป็นเพื่อนเก่าของตนก็เลยอนุญาต...
นางเมรีเป็นครึ่งคนครึ่งยักษ์ มีฤทธิ์สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ เมื่อครั้งวัยเยาว์นางสนธมารได้นำดวงตาของนางสิบสองที่ไปควักเอามามาฝากไว้ให้นางเมรีดูแล และไว้ใจให้นางเมรีดูแลห้องสรรพยาสุดรักสุดหวงของนางด้วย
เมื่อครั้งที่พระรถเสน (บุตรชายของนางเภา น้องคนเล็กของนางสิบสอง) ได้รับมอบหมายจากท้าวรถสิทธิ์ผู้เป็นบิดาให้ไปหามะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่มาให้พระมเหสีเอก พระนางสนธมาลี หรือก็คือนางยักษ์สนธมารที่แปลงกายเป็นมนุษย์มาแก้แค้นเหล่านางสิบสองนั่นเอง!!!
นางสนธมารเขียนสารให้พระรถเสนนำติดตัวไปด้วย ข้างในสารมีใจความว่า "เมรีลูกรัก รถเสนผู้ถือสารนี้...ถ้ามาถึงกลางวันให้กินเสียกลางวัน มาถึงกลางคืนให้กินเสียกลางคืนนะลูกรัก..."
ระหว่างการเดินทาง พระรถเสนได้ขออาศัยที่ศาลาของฤาษีตนหนึ่ง ฤาษีแอบเปิดสารดูก็เห็นว่า พระรถเสนและนางเมรีเป็นคู่กันมา จึงแปลงสารใหม่ให้มีใจความเป็น "เมรีลูกรัก รถเสนผู้ถือสารนี้...ถ้ามาถึงกลางวันให้แต่งเสียกลางวัน มาถึงกลางคืนให้แต่งเสียกลางคืนนะลูกรัก..." แทนใจความเดิม
เมื่อมาถึงคชปุระนคร นางเมรีได้อ่านสารนี้ ก็คิดว่ามารดาส่งคู่ครองมาให้ตนจริง จึงจัดงานอภิเษกระหว่างตนกับพระรถเสนขึ้น พระรถเสนรักนางเมรีมาก ไม่ต่างกับเมรีที่รักพระรถเสนมากเช่นกัน...
วันหนึ่งพระรถเสนคิดถึงแม่กับป้าๆ จึงวางแผนหนีกลับเมือง แถมยังมารู้เสียอีกว่านางสนธมาลีและนางเมรีเป็นยักษ์ พระรถเสนจึงวางแผนมอมเหล้านางเมรีในคืนหนึ่ง ปกตินางเมรีไม่เคยข้องแวะกับสุราใดๆ แต่เพราะรักพระรถเสนมากนางจึงยอมดื่ม...
พระรถเสนแอบเข้าไปในห้องสรรพยาและขโมยยาวิเศษต่างๆ รวมถึงไม้ชี้เป็นชี้ตาย ดวงตาของแม่และป้าๆ และยาทิพย์รักษาตาด้วย...
นางเมรีตื่นขึ้นมาไม่เห็นพระรถเสนก็ตกใจ รีบออกตามหา ในที่สุดก็มาเจอพระรถเสนกำลังควบม้าหนีอยู่ นางร้องห่มร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม ตัดพ้อว่าทำไมถึงหนีนางมา ไม่รักนางแล้วหรือ... (ถึงแกนี้ต้องดูภาพเองอ่ะค่ะ ถึงจะรู้ว่านางเมรีน่าสงสารแค่ไหน ไรเตอร์ไม่อยากบรรยายเพราะเดี๋ยวรีดเดอร์จะเกลียดพระรถเสนกันเข้าไส้เสียก่อนไปหาดูกันเองละกัน - -*)
พระรถเสนเองนั้น ถึงจะสงสารนางเมรีมาก จนเกือบจะชักม้ากลับไปหานาง แต่ก็ยับยั้งชั่งใจได้ จึงโปรยยาวิเศษที่ทำให้เกิด ป่า ภูเขา กองเพลิง หมอกควัน ทะเลกรดลงพื้นทีละถุงๆ
นางเมรีทนฝ่าป่าฝ่าภูเขา และหมอกควันมาพร้อมกับบริวารยักษ์ แต่เมื่อมาถึงกองเพลิงบริวารก็บอกให้นางเมรีถอยเพราะถ้าฝ่าไปมีหวังตายกันหมดแน่...แต่นางเมรีกล่าวขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยวว่า...
"ใครจะกลับก็กลับไป ข้าจะตามเสด็จพี่ไป!" นางเมรีลุยไฟไปเพียงผู้เดียว นางมาจนถึงทะเลกรดก็หมดโอกาสตามไปหาพระรถเสนที่อยู่อักฝั่งของทะเลกรดเรียบร้อยแล้ว...น้ำตานางไหลพรากอาบแก้ม ร่างกายเต็มไปด้วยรอยดำจากการลุยกองเพลิงมา ร่างกายนางมีสภาพอ่อนแรงเต็มที อ้อนวอนให้พระรถเสนกลับมาหานาง (ไปๆมาๆตอนแรกไรเตอร์บอกไม่บรรยาย ตอนนี้มาบรรยายซะงั้นเนอะ - -*) แต่พระรถเสนตอบกลับมาว่า...
"พี่จะกลับไปหาแม่และป้าๆก่อน...น้องเมรีกลับไปก่อนเถอะนะ พี่จะกลับมาหา..."
พระรถเสนกล่าวแค่นั้นก่อนควบม้าจากไปโดยไม่หันกลับมามองเมรีอีก...
นางเมรีแสนเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ นางกล่าววาจาหนึ่งใกล้ทะเลกรดว่า...
"ชาตินี้...น้องติดตามพี่มาด้วยความรัก...จะบุกน้ำ...ลุยไฟ...น้องก็ไม่หวั่น...ขอให้ชาติหน้า...พี่เป็นฝ่ายติดตามน้องบ้าง...และขอให้เรา...ได้ครองคู่กัน...ทุกชาติไป..."
แล้วนางเมรีก็หมดลมหายใจอยู่ ณ ฝั่งทะเลกรดนั่นเอง (มาถึงตอนที่นางเมรีกล่าวก่อนตายแล้วซึ้งอ่ะ T^T)
เหล่ายักษ์บริวารมาพบศพนางเมรีในวันต่อมา และนำศพนางกลับคชปุระนคร...
ฝ่ายนางสนธมารเมื่อรู้ว่ารถเสนกลับมาได้ ก็หัวใจแตกสลายตายไป... พระรถเสนได้ขึ้นครองเมืองต่อจากพระรถสิทธิ์ ผ่านไปหลายปีพระรถเสนก็ไม่เคยคิดมีชายาใหม่ คิดถึงแต่นางเมรี จึงตัดสินใจเดินทางไปคชปุระนครเพื่อรับนางมาอยู่ด้วยกัน...
แต่เมื่อพระรถเสนรู้เรื่องการตายของนางเมรีจากบริวารยักษ์...ก็ร้องห่มร้องไห้ ขอดูศพนางเมรี บริวารยักษ์นำทางไปที่ห้องๆหนึ่ง นางเมรีนอนอยู่บนเตียง รอบกายนางเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ร่างของนางไม่ได้ผุพังไปตามกาลเวลาเลย นางยังคงงดงามเหมือนเดิม...
พระรถเสนร้องไห้กับร่างไร้วิญญาณของหญิงคนรัก พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาที่อาบแก้มว่า...
"เมรี...ชาตินี้พี่ทำร้ายน้องไว้สาหัสเหลือเกิน...พี่สัญญา...ชาติหน้า...พี่จะไม่ทำร้ายน้องอีก..."
แล้วพระรถเสนก็สิ้นใจตายตามนางเมรีไป... สร้างความเสียใจให้แก่ญาติของทั้งสองฝ่าย...
ความรักอมตะของ พระรถ-เมรี ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อเบื้องบนบันดาลให้คำขอของนางเมรีเป็นจริง...ชาติต่อมา พระรถเสนต้องติดตามนางเมรีบ้าง...
วรรณคดีชาติต่อมาของพระรถ-เมรี คือ เรื่อง พระสุธน-มโนราห์
ต่อมาเมื่อมเหสีพญายักษ์คลอดธิดาฝาแฝดออกมา นางยักษ์สนธมารที่ยังไม่มีลูกจึงมาขอแฝดพี่ซึ่งก็คือนางเมรีไปเลี้ยงดู พญายักษ์เห็นว่านางสนธมารเองก็เป็นม่าย ไม่มีลูก แถมสามีของนางซึ่งก็คือท้าวปทุมยังเป็นเพื่อนเก่าของตนก็เลยอนุญาต...
นางเมรีเป็นครึ่งคนครึ่งยักษ์ มีฤทธิ์สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ เมื่อครั้งวัยเยาว์นางสนธมารได้นำดวงตาของนางสิบสองที่ไปควักเอามามาฝากไว้ให้นางเมรีดูแล และไว้ใจให้นางเมรีดูแลห้องสรรพยาสุดรักสุดหวงของนางด้วย
เมื่อครั้งที่พระรถเสน (บุตรชายของนางเภา น้องคนเล็กของนางสิบสอง) ได้รับมอบหมายจากท้าวรถสิทธิ์ผู้เป็นบิดาให้ไปหามะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่มาให้พระมเหสีเอก พระนางสนธมาลี หรือก็คือนางยักษ์สนธมารที่แปลงกายเป็นมนุษย์มาแก้แค้นเหล่านางสิบสองนั่นเอง!!!
นางสนธมารเขียนสารให้พระรถเสนนำติดตัวไปด้วย ข้างในสารมีใจความว่า "เมรีลูกรัก รถเสนผู้ถือสารนี้...ถ้ามาถึงกลางวันให้กินเสียกลางวัน มาถึงกลางคืนให้กินเสียกลางคืนนะลูกรัก..."
ระหว่างการเดินทาง พระรถเสนได้ขออาศัยที่ศาลาของฤาษีตนหนึ่ง ฤาษีแอบเปิดสารดูก็เห็นว่า พระรถเสนและนางเมรีเป็นคู่กันมา จึงแปลงสารใหม่ให้มีใจความเป็น "เมรีลูกรัก รถเสนผู้ถือสารนี้...ถ้ามาถึงกลางวันให้แต่งเสียกลางวัน มาถึงกลางคืนให้แต่งเสียกลางคืนนะลูกรัก..." แทนใจความเดิม
เมื่อมาถึงคชปุระนคร นางเมรีได้อ่านสารนี้ ก็คิดว่ามารดาส่งคู่ครองมาให้ตนจริง จึงจัดงานอภิเษกระหว่างตนกับพระรถเสนขึ้น พระรถเสนรักนางเมรีมาก ไม่ต่างกับเมรีที่รักพระรถเสนมากเช่นกัน...
วันหนึ่งพระรถเสนคิดถึงแม่กับป้าๆ จึงวางแผนหนีกลับเมือง แถมยังมารู้เสียอีกว่านางสนธมาลีและนางเมรีเป็นยักษ์ พระรถเสนจึงวางแผนมอมเหล้านางเมรีในคืนหนึ่ง ปกตินางเมรีไม่เคยข้องแวะกับสุราใดๆ แต่เพราะรักพระรถเสนมากนางจึงยอมดื่ม...
พระรถเสนแอบเข้าไปในห้องสรรพยาและขโมยยาวิเศษต่างๆ รวมถึงไม้ชี้เป็นชี้ตาย ดวงตาของแม่และป้าๆ และยาทิพย์รักษาตาด้วย...
นางเมรีตื่นขึ้นมาไม่เห็นพระรถเสนก็ตกใจ รีบออกตามหา ในที่สุดก็มาเจอพระรถเสนกำลังควบม้าหนีอยู่ นางร้องห่มร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม ตัดพ้อว่าทำไมถึงหนีนางมา ไม่รักนางแล้วหรือ... (ถึงแกนี้ต้องดูภาพเองอ่ะค่ะ ถึงจะรู้ว่านางเมรีน่าสงสารแค่ไหน ไรเตอร์ไม่อยากบรรยายเพราะเดี๋ยวรีดเดอร์จะเกลียดพระรถเสนกันเข้าไส้เสียก่อนไปหาดูกันเองละกัน - -*)
พระรถเสนเองนั้น ถึงจะสงสารนางเมรีมาก จนเกือบจะชักม้ากลับไปหานาง แต่ก็ยับยั้งชั่งใจได้ จึงโปรยยาวิเศษที่ทำให้เกิด ป่า ภูเขา กองเพลิง หมอกควัน ทะเลกรดลงพื้นทีละถุงๆ
นางเมรีทนฝ่าป่าฝ่าภูเขา และหมอกควันมาพร้อมกับบริวารยักษ์ แต่เมื่อมาถึงกองเพลิงบริวารก็บอกให้นางเมรีถอยเพราะถ้าฝ่าไปมีหวังตายกันหมดแน่...แต่นางเมรีกล่าวขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยวว่า...
"ใครจะกลับก็กลับไป ข้าจะตามเสด็จพี่ไป!" นางเมรีลุยไฟไปเพียงผู้เดียว นางมาจนถึงทะเลกรดก็หมดโอกาสตามไปหาพระรถเสนที่อยู่อักฝั่งของทะเลกรดเรียบร้อยแล้ว...น้ำตานางไหลพรากอาบแก้ม ร่างกายเต็มไปด้วยรอยดำจากการลุยกองเพลิงมา ร่างกายนางมีสภาพอ่อนแรงเต็มที อ้อนวอนให้พระรถเสนกลับมาหานาง (ไปๆมาๆตอนแรกไรเตอร์บอกไม่บรรยาย ตอนนี้มาบรรยายซะงั้นเนอะ - -*) แต่พระรถเสนตอบกลับมาว่า...
"พี่จะกลับไปหาแม่และป้าๆก่อน...น้องเมรีกลับไปก่อนเถอะนะ พี่จะกลับมาหา..."
พระรถเสนกล่าวแค่นั้นก่อนควบม้าจากไปโดยไม่หันกลับมามองเมรีอีก...
นางเมรีแสนเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ นางกล่าววาจาหนึ่งใกล้ทะเลกรดว่า...
"ชาตินี้...น้องติดตามพี่มาด้วยความรัก...จะบุกน้ำ...ลุยไฟ...น้องก็ไม่หวั่น...ขอให้ชาติหน้า...พี่เป็นฝ่ายติดตามน้องบ้าง...และขอให้เรา...ได้ครองคู่กัน...ทุกชาติไป..."
แล้วนางเมรีก็หมดลมหายใจอยู่ ณ ฝั่งทะเลกรดนั่นเอง (มาถึงตอนที่นางเมรีกล่าวก่อนตายแล้วซึ้งอ่ะ T^T)
เหล่ายักษ์บริวารมาพบศพนางเมรีในวันต่อมา และนำศพนางกลับคชปุระนคร...
ฝ่ายนางสนธมารเมื่อรู้ว่ารถเสนกลับมาได้ ก็หัวใจแตกสลายตายไป... พระรถเสนได้ขึ้นครองเมืองต่อจากพระรถสิทธิ์ ผ่านไปหลายปีพระรถเสนก็ไม่เคยคิดมีชายาใหม่ คิดถึงแต่นางเมรี จึงตัดสินใจเดินทางไปคชปุระนครเพื่อรับนางมาอยู่ด้วยกัน...
แต่เมื่อพระรถเสนรู้เรื่องการตายของนางเมรีจากบริวารยักษ์...ก็ร้องห่มร้องไห้ ขอดูศพนางเมรี บริวารยักษ์นำทางไปที่ห้องๆหนึ่ง นางเมรีนอนอยู่บนเตียง รอบกายนางเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ร่างของนางไม่ได้ผุพังไปตามกาลเวลาเลย นางยังคงงดงามเหมือนเดิม...
พระรถเสนร้องไห้กับร่างไร้วิญญาณของหญิงคนรัก พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาที่อาบแก้มว่า...
"เมรี...ชาตินี้พี่ทำร้ายน้องไว้สาหัสเหลือเกิน...พี่สัญญา...ชาติหน้า...พี่จะไม่ทำร้ายน้องอีก..."
แล้วพระรถเสนก็สิ้นใจตายตามนางเมรีไป... สร้างความเสียใจให้แก่ญาติของทั้งสองฝ่าย...
ความรักอมตะของ พระรถ-เมรี ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อเบื้องบนบันดาลให้คำขอของนางเมรีเป็นจริง...ชาติต่อมา พระรถเสนต้องติดตามนางเมรีบ้าง...
วรรณคดีชาติต่อมาของพระรถ-เมรี คือ เรื่อง พระสุธน-มโนราห์
***************************
มาลงให้แล้วค่า~
ถ้าใครอยากรู้เรื่องพระสุธน-มโนราห์แล้วไม่อยากรอพลอยอัพก็ไปหาอ่านในเน็ตก่อนก็ได้ไม่เป็นไร^^
ที่พลอยสร้างบทความนี้ขึ้นมา ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าให้เยาวชนรุ่นใหม่สนใจวรรณคดีนะค่ะ
พลอยเองเนี่ยถ้าตอนเด็กๆคุณพ่อคุณแม่ไม่พาไปเที่ยวอุทยาน ร.2 ก็คงไม่ได้สนใจวรรณคดีแบบนี้เหมือนกันค่ะ
วันนั้นที่ไปเที่ยวตอนพลอยอยู่ ป.2 พลอยเห็นรูปปั้นไกรทองกับชาละวันก็ถามคุณแม่ว่า นั่นคืออะไร คุณแม่ก็ตอบว่า เป็นรูปปั้นเรื่องไกรทองของ ร.2 ไกรทองเป็นเรื่องแรกๆที่พลอยอ่านเลยล่ะมั้ง - -*
ก็นะค่ะ...ถ้าใครคิดว่านางเมรีน่าสงสาร ช่วยเม้นท์หน่อยนะค่ะ พลอยอยากรู้ว่าบทความนี้เป็นยังไงบ้าง^^
วันนั้นที่ไปเที่ยวตอนพลอยอยู่ ป.2 พลอยเห็นรูปปั้นไกรทองกับชาละวันก็ถามคุณแม่ว่า นั่นคืออะไร คุณแม่ก็ตอบว่า เป็นรูปปั้นเรื่องไกรทองของ ร.2 ไกรทองเป็นเรื่องแรกๆที่พลอยอ่านเลยล่ะมั้ง - -*
ก็นะค่ะ...ถ้าใครคิดว่านางเมรีน่าสงสาร ช่วยเม้นท์หน่อยนะค่ะ พลอยอยากรู้ว่าบทความนี้เป็นยังไงบ้าง^^
JJ♕
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น