ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( fic ★ infinite ) ` kiss

    ลำดับตอนที่ #11 : 10th kiss - I'm lieing

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.09K
      1
      18 ธ.ค. 55




    กระเป๋าใบใหญ่ถูกเหวี่ยงลงกับพื้นทันทีที่ก้าวเข้ามาใน บ้านของตัวเอง ตามมาด้วยร่างบางที่ทิ้งตัวลงกับพื้นเช่นเดียวกัน มรสุมทางอารมณ์ลูกใหญ่ตั้งแต่ตอนเช้าทำให้ซองยอลหมดแรงจะทำอะไรทั้งสิ้น พาตัวเองกลับมาถึงบ้านได้ก็ดีถมเถ แรงจะตะโกนบอกซองกยูว่าตนกลับมาถึงบ้านเรียบร้อยยังไม่มีด้วยซ้ำ จากเสียงน้ำไหล พี่ชายคงกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หลังบ้านโน่น รอเข้ามาในบ้านก็คงพบเขานอนอยู่เองนั่นล่ะ แต่จะในสภาพหลับหรือตื่นยังไม่แน่ใจเท่าไรนักเพราะตอนนี้ตาของอีซองยอลช่าง หนักอึ้งเช่นเดียวกันกับสมองที่หนักและปวดหนึบ อาจเพราะละอองฝนที่กระเซ็นใส่เขาตอนขากลับจากมหาวิทยาลัย

    ในที่สุดเปลือกตาสีอ่อนก็หลับลง ซองยอลปล่อยให้ความคิดไหลไปเรื่อยเปื่อย ภาพของเหตุการณ์ระหว่างเขากับมยองซูเมื่อเช้าไหลผ่านมา ริมฝีปากคลี่ยิ้มจางเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ก็มันตลกจริงๆนี่นา มยองซูน่ะที่ตลก... จะกลับมาทำไมในเมื่อตัวเองมีคังโซยูแล้ว เลือกคังโซยูไปแล้ว จะมาเห็นค่าเขาตอนนี้หรือ? มันไม่สายไปหน่อยหรือไง มยองซูหวังจะให้เขาหยุดอยู่ที่เดิมจนกว่าตัวเองจะสำนึกได้แบบนั้นน่ะเหรอ? ตลก...
     




    “ทำไมมานอนเอาตรงนี้ล่ะ?” เสียงของซองกยูดังขึ้น ปลุกให้ซองยอลลืมตาและพบกับใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังส่งยิ้มอบอุ่นมาให้เขา เช่นเดิม มือเล็กของซองยอลยกขึ้นมาทาบหัวใจตัวเองช้าๆ ทำไมนะ เขาถึงไม่ใจเต้นกับรอยยิ้มนี้ ทำไมมันต้องคอยแต่จะเต้นเวลาอยู่ด้วย..หรือแม่แต่แค่คิดถึงมยองซู หากใจของเขาเต็มไปด้วยซองกยูคนนี้ก็คงดี คงไม่ต้องคิดมากแบบนี้ ทุกอย่างคงลงล็อคกว่านี้มาก


    “หมดแรงมากเลย ฮยองอุ้มไปข้างบนหน่อย v0v”



    “กี่ขวบแล้วหืม?”



    “เชอะ! เอ้อ ฮยอง ดอกไม้นั่นสวยมากเลย ซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ?” ซองกยูมองตามนิ้วเรียวที่ชี้ไปยังดอกคาร์เนชั่นสีแดงที่เขาซื้อไว้ และไม่เคยถูกมอบให้กับเจ้าของของมัน จริงๆมันควรจะอยู่ในถังขยะซักที่ เพียงแต่ซองกยูเผลอลืมโยนมันทิ้ง จนซองยอลเหลือบไปเห็นมันเข้าในที่สุด



    “ก็... ซักพักแล้ว มันเริ่มเหี่ยวแล้ว เดี๋ยวจะเอาไปทิ้ง”



    “ใจร้าย ฮยองจะทิ้งดอกไม้ได้ลงหรอฮะ?”



    “ค่อยไปซื้อดอกใหม่ก็ได้นี่นา”



    “ไม่เอาอ่ะ ผมขอละกัน เดี๋ยวแห้งแล้วเอาไปทับกระดาษน่าจะสวยด้วย” ร่างเล็กลุกขึ้นไปหยิบดอกไม้สีแดงออกมาจากแจกัน ภาพเด็กผู้ชายหน้าหวานที่กำลังดมเล่นและมองดอกไม้อย่างตื่นเต้นช่างเป็นภาพ ที่สวยเกินกว่าที่ซองกยูจะละสายตาไปได้ เขาแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าระหว่างดอกไม้กับซองยอล อันไหนสวยกว่ากันแน่


    “ขอนะฮะ :)” ซองกยูพยักหน้าเบาๆ เด็กน้อยยิ้มกว้างด้วยความดีใจและวิ่งมากอดพี่ชายเบาๆแทนคำขอบคุณ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนตัก หลับตาพริ้มและกอดดอกไม้ไว้แนบอก ริมฝีปากคลี่ยิ้มจางๆแม้แต่ตอนหลับ



    “เหนื่อยหรอทำไมเอาแต่จะนอนอย่างเดียวเลย”



    “นิดหน่อยฮะ มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อยน่ะ...”



    “เล่าให้ฟังได้ไหม?”



    “มันเป็นเรื่องไร้สาระน่ะฮะฮยอง อย่าใส่ใจเลย”



    “………………….”



    “ฮยองฮะ สมมติว่าฮยองรักคนคนนึงมากๆ แต่การรักเค้าทำให้ฮยองเจ็บมากๆ...”



    “………………….”



    “เค้าคนนั้นเคยปฏิเสธหัวใจฮยองแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขากลับกลับมา... และทำท่าทางอยากขอคินดีกับฮยอง”



    “………………….”



    “ฮยองจะให้อภัยเค้ามั้ยฮะ?”
    ซองกยูหันมองคนที่นอนอยู่บนตัก ซองยอลยังคงระบายยิ้มบางบนมุมปาก เปลือกตาสีอ่อนยังคงหลับลงและเล่าเรื่องราวน่าเศร้าด้วยท่าทางธรรมดา ...เด็กคนนี้เจ็บมากจนชาไปแล้วสินะ
    มือใหญ่ลูบผมนิ่มของซองยอลเบาๆ การปลอบคงเป็นสิ่งเดียวที่เขารู้จักและทำได้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร คำตอบของคำถามที่ซองยอลถามนั้น ดูเหมือนจะเป็นคำถามที่ง่าย แต่ไม่รู้ทำไม มันถึงยากนักสำหรับซองกยู

    เขาควรจะตอบว่าอะไรกัน ... ซองกยูรู้ดีว่ามันไม่ใช่คำถามไร้สาระธรรมดา แน่นอนว่ามันคือคำถามที่ซองยอลกำลังต้องตัดสินใจ ซองกยูอิจฉาคนคนนั้นเหลือเกิน คนที่ซองยอลรักมากมายขนาดนั้น แต่ทำไม คนคนนั้นจึงไม่ยอมเห็นค่าซองยอลบ้าง

    เขาควรจะตอบว่าอะไร?
    หากตอบว่าให้อภัย จะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนคนนั้นจะไม่ทำให้คนตัวเล็กเสียใจอีกเป็นครั้งที่สอง จะมั่นใจได้อย่างไรว่าหัวใจของซองยอลจะไม่ถูกทำร้ายซ้ำรอยแผลเดิม
    และหากตอบว่าไม่ให้อภัย มันจะดูเป็นการเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่าที่ไม่ยอมยกซองยอลให้ใคร ที่ไม่อยากให้ซองยอลต้องไปเสี่ยงโดนทำร้ายจนเจ็บปวดอีก


    แต่ว่า...หากตอบแบบนั้น จะทรมานซองยอลหรือเปล่า?
    เลือกแบบไหน... ก็เจ็บทั้งสองทาง



    “ฮยองคิดอยู่หรือเปล่าฮะ? ผมควรจะให้อภัยเค้ามั้ยฮะ?”



    “ฮยอง... ไม่รู้”



    “เชอะ ผมนึกว่าฮยองจะช่วยได้ซะอีก ~”



    “รักเขา มากขนาดไหนกันล่ะ?” เสียงทุ้มโพล่งถามออกไป



    “มาก..... จนลบออกไปไม่ได้”



    “ถามใจตัวเองเถอะซองยอล อยากให้เขาอยู่แค่ในใจ หรืออยากให้เขามาอยู่ข้างๆกายด้วย”




    คำพูดของซองกยูซึมเข้าไปในสมองของเด็กชาย คำพูดนั้นบีบรัดหัวใจของซองยอลจนแทบหายใจไม่ออก
    อยาก... เขาอยากให้มยองซูอยู่ข้างๆ แต่เขายังไม่มั่นใจ ว่ามยองซูอยากทำแบบนั้นด้วยหรือเปล่า ท่าทางของมยองซูกำลังบอกอะไร ที่บอกว่า ‘เหมือนเดิม’ หมายความว่าอะไร หมายความว่าอยากให้เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแบบนั้นหรือ? แสดงว่ามยองซูไม่เคยคิดเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อน หรือของเล่น แบบนั้นสินะ

    ไม่เคย... ซองยอลไม่เคยเข้าใจท่าทางของมยองซูเลย



    โทรศัพท์ของซองยอลแผดเสียงทำลายความเงียบในบ้าน เจ้าตัวลุกเดินไปหยิบและพบกับเบอร์แปลกที่ไม่เคยเห็น



    “อีซองยอลพูดฮะ”

    ซองกยูมองคนที่ยืนคุยโทรศัพท์ คิ้วเรียวขมวดเป็นปมน้อยๆ ซองยอลหันมามองเขาเล็กน้อยก่อนจะก้มหัวน้อยๆและเดินเลี่ยงออกไปคุยโทรศัพท์ นอกบ้าน ซองกยูแอบมองเห็นแววตาของซองยอล ดวงตากลมถูกฉาบไปด้วยแววตาเย็นชาและเจ็บปวดน้อยๆ


    ...เขาคนนั้นเหรอ?

    นี่ซองกยูต้องทนเห็นซองยอลเจ็บอีกกี่ครั้ง แล้วหัวใจของเขาจะต้องถูกทำร้ายเมื่อเห็นคนที่รักเจ็บปวดไปอีกนานเท่าไหร่?














    .

    .




    (มยองซูโอป้าเป็นแฟนฉันนะคะ ทำตามใจชอบแบบนี้มันไม่น่าเกลียดไปหน่อยหรือไง)



    ซองยอลเบะปากและกรอกตาพลางฟังเสียงแสบหูของคังโซยูที่โทรมาวีนเขาเรื่องที่ จูบกับแฟนหล่อนเมื่อเช้านี้ เขาไม่ได้สนใจเธอสักนิด ออกแนวจะตลกกับท่าทางของโซยูซะมากกว่า จากน้ำเสียงแล้วหล่อนคงจะเหวี่ยงน่าดู สงสารมยองซูเหมือนกันที่ต้องมารับแรงเหวี่ยงจากโซยูแบบนั้น


    (ฉันอุตส่าห์เคารพโอป้าในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทมยองซูโอป้า แต่โอป้ามาทำแบบนี้กับฉันหรอคะ?)



    (มยองซูโอป้าเป็นของฉัน กรุณาเข้าใจด้วยนะคะ ช่วยอยู่ห่างๆเขาทีเถอะ)



    (โอป้า...ซองยอลโอป้า!)



    “พูดจบหรือยัง?”



    (ซองยอลโอป้า……….!!)



    “แฟนเธอต่างหากที่เป็นคนจูบก่อนถามใครดูก็ได้... น่าสงสารนะคังโซยู เธอเป็นแฟนภาษาอะไรกันที่ทำให้มยองซูเบื่อจนต้องกลับมาง้อฉันแบบนี้”



    “คิดดูดีๆสิคังโซยู... ถ้าคนแฟนเจ๋งจริงน่ะ มยองซูคงไม่ต้องไปหาคนอื่นหรอก จริงมั้ย?”
    ตัดสายทิ้ง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ซองกยูหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เหลือแต่ดอกคาร์เนชั่นที่วางอยู่บนโต๊ะ ซองยอลหยิบมันมาดมเล่นและพยายามเอื้อมมือไปหยิบแจกันเพื่อจะนำมาใส่ดอกไม้ หากแต่ไม่ได้ละสายตาออกจากสิ่งแสนสวยสีแดงสดในมือ ทำให้เผลอปัดแจแก้วล้มลง ซองยอลรีบวางดอกไม้ลงทันที
    น้ำในแก้วหกเลอะกองจดหมายและกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ
    มือเรียวลนลานหาผ้ามาซับและค่อยๆหยิบซองจดหมายกับกระดาษที่เปียกไปผึ่งไว้ในที่แห้ง ดีที่น้ำนั้นไม่ได้ซึมและหกเลอะกระดาษทั้งหมด
    ซองยอลเหลือบไปมองของที่วางอยู่บนโต๊ะ กระดาษที่ถูกพับเป็นสามส่วนใบหนึ่งวางอยู่แต่ไม่ถูกน้ำเองจากโดนกองซอง จดหมายทับไว้ ตากลมเบิกกว้างทันทีที่ได้อ่านรายละเอียดที่เขียนบนกระดาษ น้ำตาชื้นร่วงผล็อยและไหลลงมาอาบแก้มเนียน



    กยูฮยอง... ไม่คิดจะบอกกันซักคำเลยหรือไงกันนะ ?












    .


    .

    เมื่อเช้านี้ซองยอลออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ก่อนที่ซองกยูจะตื่น เขายึดกระดาษที่พบเมื่อคืนไว้กับตัวและอ่านมันซ้ำไปมาตลอดคืน ไม่ว่ายังไงซองยอลก็คิดไม่ตกว่าทำไมซองกยูถึงทำแบบนี้แถมไม่บอกเขาสักคำ ตอนนี้ก็เช่นกัน สวนหย่อมเล็กๆหลังมหาวิทยาลัยที่มักไม่ค่อยมีใครเข้ามาถูกใช้เป็นสถานที่ให้ ซองยอลนั่งคิดเรื่องโน่นนี่ มีเรื่องให้เขาคิดไม่ตกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องมยองซูและซองกยูฮยอง ทำไมชีวิตเขามันวุ่นวายขนาดนี้นะ?
    เสียงเท้าย่ำลงบนพื้นหญ้าบอกให้ซองยอลรู้ถึงการมืเยือนของใครคนหนึ่ง ซองยอลมองนาฬิกข้อมือของตัวเองซึ่งบอกเวลาใกล้บ่ายแก่ ท้องเริ่มร้องเพราะยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยง ขนมปังหนึ่งแผ่นเท่านั้นทำให้ซองยอลสามารถอยู่ได้จนถึงตอนนี้ ทำไงได้ เขาไม่มีอารมรณ์จะกินอะไรก็เพราะมัวแต่นั่งคิดเนี่ยล่ะ มือเล็กจัดการเก็บของใส่กระเป๋าโดยไม่ได้สนใจคนมาใหม่ จนอีกคนต้องเอ่ยทักขึ้นเสียเอง


    “ซองยอล...”
    เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งกระซิบเบาๆ เสียงนั้นทำให้ซองยอลต้องชะงักมือกับการเก็บของและเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนอยู่


    ...มยองซูนั่นเอง



    “สวัสดี”



    “เอ่อ เมื่อคืน โซยู โทรไปรบกวนนายหรือเปล่า? ขอโทษจริงๆนะ”



    “เธอหึงนายกับฉันน่ะ คุยกันเรียบร้อยหรือยัง?”



    “………………….”
    ตาคมน่าหลงใหลของมยองซูหลุบเสมองลงต่ำ ริมฝีปากสวยเม้มแน่นเมื่อซองยอลถามคำถามนั้นออกไป



    “คุยกันไม่รู้เรื่องหรือไง... ก็บอกโซยูไปสิว่านายไม่ได้คิดอะไรกับฉัน เราไม่มีอะไรกัน”



    “ถ้าฉันไม่ได้คิดแบบนั้นล่ะซองยอล ถ้าฉันคิดอะไร...กับนายล่ะ”
    มยองซูแค่นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มเศร้าๆ ดวงตาคมตวัดช้อนมองซองยอลอย่างมีความหมาย สายตานั้นปกคลุมไปด้วยความเจ็บปวดที่ทำเอาหัวใจของซองยอลกระตุกวูบอย่างเจ็บ ปวดเช่นกัน
    ระยะห่างระหว่างคนสองคนลดน้อยลงเรื่อยๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีริมฝีปากร้อนของมยองซูก็กดจูบลงบนแก้มป่องเบาๆก่อนจะเลื่อน ประกบมาบนริมฝีปากนิ่มของซองยอลอย่างถนุถนอม สัมผัสร้อนแทบละลายซองยอลให้กลายเป็นของเหลวตรงนั้น มันหวานละมุนจนไม่อยากละออกไป มยองซูค่อยๆผละออกและจ้องลึกเข้าไปในตาซองยอล มือใหญ่ปัดผมที่ปรกใบหน้าหวานออกอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปของมยองซูจะคลี่ยิ้มอบอุ่นและมอบมันให้กับซองยอล



    “พูดมันออกมาสิ ฉันอยากได้ยินชัดๆนะมยองซูอา”
    ซองยอลยกแขนเรียวโอบรอบคอมยองซูไว้และกระซิบข้างหูอีกคน ร่างสูงกอดเอวบางไว้และรั้งร่างของซองยอลให้ใกล้ขึ้นหว่าเดิม ก่อนจะกดจูบบนริมฝีปากอ่อนนุ่มอีกครั้ง



    “บอกแบบนี้ไม่ได้หรือไง”



    “ไม่ได้ ...พูดนะมยองซู ฉันอยากได้ยินมัน”



    “ก็ได้...”



    “:)”



    “ฉันรักนาย”



    “รักใครนะ?”



    “รักอีซองยอล”



    “แล้วคังโซยูล่ะ?”



    “ฉันไม่ได้รักเธอ ไม่ได้รักแต่แรก และไม่เคยจะรัก ขอโทษที่ไม่รู้ตัวตั้งแต่แรก...”



    “อา... ฉันเข้าใจแล้ว……………………… คังโซยู เธอเข้าใจหรือยังล่ะ? :)”
    ซองยอลกดยิ้มร้ายและหันไปมองที่มุมๆหนึ่งไม่ไกลจากสวนที่เขายืนอยู่ คังโซยูแอบตามมยองซูมา และซองยอลก็เห็นตั้งแรก ตอนแรกเขาแค่จะแกล้งให้โซยูหึงปรี๊ดแตกมากกว่าเดิม แต่มยองซูกลับสารภาพอะไรดีๆออกมาทำให้ทุกอย่างสนุกขึ้นกว่าเดิมในสายตาซองยอ ล
    โซยูเดินออกมาจากที่ซ่อนและมองมยองซูอย่างเจ็บปวด หยดน้ำตาไหลอาบแก้ม เครื่องสำอางถูกหยดน้ำชะล้างจนเลอะไปหมด เนื้อตัวสั่นเทาเพราะแรงสะอื้น มยองซูเบิกตากว้างอย่างตกใจและหันมองซองยอลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิด หวัง



    “โซยู.......”



    “ขอบใจที่รักฉันนะมยองซู แต่น่าเสียดาย... ฉันยังคงเชื่อคำพูดของนายไม่ได้ เผื่อวันหนึ่งนายเกิดคิดได้ว่าไม่รักฉันเหมือนที่ทำกับโซยูจะเป็นยังไง? มันคงน่าเศร้าใช่มั้ยล่ะ?”



    “ฉันไปก่อนนะ :)”

    กดจูบลงข้างแก้มมยองซูทีหนึ่งก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปจากสวนนั้น ใบหน้าหวานมียิ้มร้ายแต้มอยู่ นี่สินะความรู้สึกของคนคุมเกม สนุกอย่างนี้นี่เองมยองซูถึงชอบมันนัก :) ขอบคุณที่สอนให้ฉันรู้จักและได้ลิ้มลองมันนะคิมมยองซู










    .



    .










    “กลับมาแล้วครับ”
    ซองยอลตะโกนส่งเสียงบอกคนที่อยู่ในบ้าน ซองกยูที่นั่งอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือหันมองเขาด้วยท่าทางกังวลหน่อยๆ

    ...หากระดาษนั่นอยู่แน่ๆ



    “ซองยอล เอ่อ เห็นกระดาษที่พับเป็นสามส่วนไหม?”



    “ไอ้เนี่ยหรอฮะฮยอง?” ซองกยูมองกระดาษที่ซองยอลเพิ่งหยิบมาจากในกระเป๋า ที่เขาสังหรณ์ใจนั้นเป็นความจริง ซองยอลเจอมันเข้าจนได้...



    “ใช่ ซองยอลฮยองไม่ได้จะ...”
     



    “ฮยองมีเรื่องต้องอธิบายกับผมแน่ฮะ เพียงแต่... ไอ้ใบนี่น่ะ พอจะหาเพิ่มอีกซักใบได้มั้ยฮะ?”


     


    ---------------------------------------------------------------------------------------

    ; woopwoooopppp !! สวัสดีค่ะ :D คิดถึงจังเลยย
    แวะเอาตอนที่สิบมาลงให้ จะบอกว่าตอนหน้าจบแล้วน้าา
    ขอบคุณหลายๆคนที่ติดตามม
    ปล. ใครที่สั่งรวมเล่มไว้พรุ่งนี้พลอยจะไปหิ้วหนังสือแล้วนะคะ!
    ใครสั่งแล้วก็นอนรอหนังสือไปส่งได้เล้ยยยยยยยย!!
    แล้วเจอกันตอนจบนะคะ :*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×