ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( fic ★ infinite ) ` hello strangiete

    ลำดับตอนที่ #18 : ★ 15TH RIOT [END]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 685
      2
      23 ก.ค. 56

     

      . RIOT 15th
    { L A S T    C H A P T E R }

     


    ทางเดินในโรงเรียนเต็มไปด้วยเสียงและความวุ่นวายเล็กๆเมื่อนักเรียนทั้งหมดเลิกเรียน มือใหญ่ยกหนังสือเรียนเล่มโตที่ไม่จำเป็นขึ้นเก็บบนล็อคเกอร์ของตัวเอง เตรียมตัวเพื่อจะกลับบ้าน เวลาสอบมิดเทอมใกล้เข้ามาอีกวันหนึ่งแอลจึงต้องรีบกลับเพื่อจะไปอ่านหนังสือ แม้ว่าเขาไม่อยากจะกลับไปสักนิด กลับไปในห้องที่มีความทรงจำของเขาและซองยอลอวลอยู่ หากแต่เสียงทุ้มที่แอลคุ้นเคยดีก็เรียกให้เขาหยุดการกระทำดังกล่าวและหันไปมองตามต้นเสียง

                แอลฮยอง

                หืม ว่าไงแอลเลิกคิ้วถามรุ่นน้องคนสนิทที่มากับแฟนตาโตตัวเล็กพลางใช้ฝ่ามือข้างที่ไม่ได้หอบหนังสืออยู่กระชับสายกระเป๋าเรียนที่หนักอึ้งไปด้วยหนังสือ

                เอ่อ... ซองยอลฮยองฝากนี่มาให้ฮะซองจดหมายสีชมพูมีตัวอักษรฟ้อนท์หรูสีทองเขียนชื่อคิมมยองซูไว้เป็นภาษาอังกฤษจ่าอยู่ที่หน้าซองถูกยื่นมาให้เจ้าของอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ โดยคยองซู ตาโตๆนั้นเฝ้ามองรุ่นพี่ที่จ้องซองนั้นด้วยสายตาว่างเปล่าจนน่าเป็นห่วง

                ขอบใจนะ พี่ไปล่ะแอลยิ้มแกนๆให้ทั้งสองคนตรงหน้าก่อนจะเดินออกไป ไคและคยองซูโค้งให้เขาน้อยๆและมองตามแผ่นหลังของร่างสูงไปด้วยสายตากังวล ไคเอื้อมมือมาโอบไหล่บางของคนรักและบีบเบา ๆ ให้คยองซูคลายความกังวล เช่นเดียวกับคนตัวเล็กที่ซบหน้าลงบนอกของไคเพื่อห้ามไม่ให้น้ำตาไหลลงมา เขาไม่อยากเห็นพี่ที่รักสองคนต้องเจ็บปวดอีกต่อไป มันจะลงเอยเช่นนี้หรือ ? ทั้งสองได้แต่เฝ้าสงสัยอยู่ห่างๆ

     

                แอลปลดกระเป๋ากีต้าร์ออกจากบ่า หนังสือเรียนตั้งใหญ่ถูกกองไว้บนโต๊ะแก้วหน้าทีวี นัยน์ตาคมจ้องมองซองสีชมพูนั้นไม่วางตาตั้งแต่ได้รับมันมาจากคยองซู นึกโกรธตัวเองลึกๆ ในใจว่าเหตุใดจึงไม่ไถ่ถามที่มาของจดหมายซองนี้จากคยองซูให้ดี ๆ แต่คิดไปคิดมามันก็คงไม่มีประโยชน์ อีกไม่กี่ชั่วโมงซองยอลก็กำลังจะแต่งงานและนั่นคือความจริงที่เขาต้องยอมรับ ปฏิทินบนผนังเตือนให้เขารู้ว่าใกล้แล้วที่จะต้องตื่นจากความฝัน เช่นเดียวกับเข็มนาฦกาที่เคลื่อยคล้อยไปข้างหน้าเรื่อยๆ สามวันที่ผ่านมาเขาเอาจดหมายไปแขวนไว้ให้ซองยอลที่เดิม ในตอนนั้นแค่เห็นว่าจดหมายเหล่านั้นไม่ได้อยู่ที่เดิมอีกต่อไป มยองซูก็ใจชื้นขึ้นมาอีกหน่อย แต่ซองจดหมายสีชมพูที่ถืออยู่นี้ก็ทำให้เขารู้ว่าคิดเข้าข้างตัวเองไปก็ไม่มีประโยชน์ใด

                ริมฝีปากได้รูปเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง มือที่สั่นระริกของแอลแกะซองจดหมายนั้นเปิดอ่าน การ์ดกระดาษแข็งมีรูปเด็กหญิงและชายคู่หนึ่งในชุดแต่งงานยืนอยู่บนเค้กแต่งงานสีหวานดูน่ารักติดอยู่ ด้านล่างมีลายมืออ่านง่ายของซองยอลเขียนไว้อย่างบรรจง



     

                ถึง L

    ขอโทษที่ส่งการ์ดให้นายช้า ถ้าไม่รบกวน ฉันอยากให้นายมาร่วมพิธีด้วย ฉันอยากมีนายอยู่ในช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด นายมีค่าที่สุดกับฉันเสมอนะแอล พิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้า ที่โบสถ์ X ใกล้ๆสวนสาธารณะที่เราเคยเดินผ่าน ด้านหลังมีรายละเอียดอีกหน่อย ลองดูนะ ขอโทษที่ไม่ได้ไปเชิญด้วยตัวเอง ได้โปรดมาเถอะนะ

                                                                                                                เจอกันพรุ่งนี้ 

                ลีซองยอล



     

     

    แอลกลอกตามองขึ้นบนเพื่อห้ามไม่ให้หยาดน้ำอุ่นๆไร้สีหยดลงบนการ์ดที่ซองยอลเขียนให้กับมือ หัวใจปวดราวกับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ หากกระนั้นริมฝีปากของแอลก็ยังฝืนวาดยิ้มบางที่มุมปาก หากซองยอลกำลังจะมีความสุขเขาก็ควรจะมีความสุขไปด้วยแม้มันจะฝืนเต็มทีก็ตาม แอลจัดการเก็บการ์ดนั้นลงซอง ขายาวผุดลุกยืนไปหยุดอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อเชิ้ทสีขาวและกางเกงแสล็คเป็นทางการ พร้อมกับสูทลำลองออกมาแขวนไว้ที่หน้าประตูตู้เสื้อผ้าทั้งน้ำตา สอดการ์ดเชิญไว้ในกระเป๋าตรงอกเสื้อ ใบหน้าคมไร้ที่ติพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เดินต่อไปหยิบเสื้อผ้าและเลยเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ

    ก้านนิ้วดันก๊อกน้ำทำให้สายน้ำไหลลงมากระทบกับศีรษะ ทำให้เส้นผมสีดำสนิทเปียก ไล่ลงมาถึงใบหน้าและตามลำตัว แอลทรุดลงนั่งปล่อยให้หยาดน้ำเย็นๆและหยดน้ำตาไหลรวมกันก่อนลงสู่พื้น ให้เสียงน้ำซ่า ๆ กลบเสียงสะอื้น ชั่วโมงนั้นแอลสัญญากับตัวเอง ว่าเขาจะเข้มแข็งขึ้นในวันต่อไป แม้จะทำได้แค่วันเดียว ขอแค่ให้เขาได้เข้มแข็งให้ซองยอลได้เห็นและสบายใจก็เพียงพอ

    คืนนั้นเสียงกีต้าร์ทำนองเพลงเดิมๆถูกเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดคืน นักดนตรีคนเก่งขมวดคิ้วจนเป็นปม นิ้วเรียวกดทาบบนคอกีต้าร์พร้อมกับหาฟิงเกอร์สไตล์ที่เหมาะสมส่วนริมฝีปาก็คาบดินสอไว้สำหรับจดโน้ตที่ถูกใจเพื่อปรับใช้ในการเล่น แอลขมักเขม่นกับการฝึกเล่นเพลงที่เขาคิดว่าอยากจะเล่นเป็นของขวัญให้ซองยอลในวันพรุ่งนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนแทบจะจำโน้ตบนเส้นห้าบรรทัดได้ขึ้นใจ ในที่สุดทำนองเพลงบัลลาดก็ถูกแปลงเป็นแบบอคูสติครื่นหูหากแต่ซ่อนความเศร้าเล็กๆไว้ตามตัวโน้ต มันถูกบรรเลงวนจนฟ้าใกล้สาง ก่อนที่แอลจะเผลอหลับไปโดยมีกีต้าร์ต่างหมอนข้าง

     


     

    โชคดีที่นาฬิกาปลุกของเขาเสียงดังเอาเรื่องและแอลก็ไม่ได้หลับลึกจนปลุกไม่ตื่น ทำให้เขาสามารถตื่นเช้าเพื่อเตรียมตัวไปงานให้ทันเวลา เขาขยับโบว์หูกระต่ายสีชมพูพาสเทลที่เพิ่งรื้อเจอเมื่อเช้าให้เข้าที ก่อนจะหยิบสูทลำลองมาสวมเป็นลำดับสุดท้าย ยิ้มให้เงาสะท้อนของเด็กหนุ่มร่างสูงในกระจกแล้วจึงเดินออกไปหยิบกระเป๋ากีต้าร์ขึ้นมาสะพาย

    แอลส่งการ์ดเชิญที่มีแผนที่แจกแจงไปโบสถ์ X ให้กับลุงคนขับแท็กซี่ที่พาเขามาส่ง เมื่อมาถึงแอลพบกับผู้คนมากมายที่คลาคล่ำกันอยู่ในตัวโบสถ์ ทุกคนต่างแต่งกายด้วยชุดสีขาวแซมชมพูอ่อนๆ ร่างโปร่งสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่และเดินลงจากแท็กซี่ เขาไม่กล้าที่จะเข้าไปในโบสถ์เนื่องจากกลัวความอ่อนแอที่ไหลเอ่อในตอนนี้ เขาชักไม่มั่นใจแล้วด้วยซ้ำว่าจะสามารถออกไปบรรเลงเพลงที่เตรียมไว้ต่อหน้าใครหลายๆคนได้หรือเปล่า จะทนดูซองยอลกับเจ้าสาวของเขาได้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้

    แอลตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมา ไล่หาเบอร์ที่เมมโมรี่ไว้ที่ท้ายสุดของสมุดรายชื่อและกดโทรออก เสียงสัญญาณดังเตือนว่าเครื่องมือสื่อสารของอีกฝ่ายไม่ได้ปิดอยู่เหมือนเมื่อหลายวันที่ผ่านมา อัตราการเต้นของหัวใจแอลเริ่มแปรเปลี่ยน และเร็วขึ้นอย่างที่ไม่ได้เป็นมาสักพัก...ตั้งแต่ซองยอลไม่อยู่

    (ฮะ...ฮัลโหล แอลอ่า) น้ำเสียงหวานเอ่ยเบาหวิวมาตามสายโทรศัพท์ หากแต่กลับทำให้ใจของแอลเต้นไม่เป็นส่ำ แทบลืมคำพูดที่เตรียมไว้ในสมองเสียสิ้น

    เอ่อ... ฮัลโหล

    (ว่ายังไง มาถึงแล้วเหรอ เข้ามาด้านในสิ ฉันอยู่ในโบสถ์)

    “คือ... ออกมาเจอกันที่ด้านหลังแป๊บหนึ่งได้ไหม” ซองยอลตอบรับคำขอของแอล และขออนุญาตปลีกตัวจากแขกที่พูดคุยอยู่เพื่อเดินไปตามที่อีกฝ่ายนัดแนะ ร่างบางเดินไปตามทางที่แอลบอกคร่าวๆจนมาถึงด้านหลังของโบสถ์ซึ่งเป็นสนามหน้ากว้างๆสีเขียวชะอุ่นและมีต้นไม้ต้นใหญ่ที่ใบของมันเพิ่งจะผลัดเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลิ บางใบก็ร่วงหล่นลงมาปรกคลมพื้นด้านล่างสร้างภาพที่ส่วยงาม หลังต้นไม้ต้นใหญ่ แอลแอบเห็นส่วนหนึ่งของกีต้าร์โผล่ออกมา ยิ้มบางถูกระบายบนใบหน้าสวยหวานของซองยอล เขาก้าวไปยังต้นไม้ต้นนั้นและหยุดอยู่ตรงหน้าแอลที่นั่งอยู่ตรงโคนต้น

    แอลเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเห็นรองเท้าของใครคนหนึ่งตรงหน้า ใบหน้าที่เขาคิดถึงปรากฏในกรอบสายตา ซองยอลในชุดสูทสีขาวและโบว์หูกระต่ายสีชมพูหวานแหววคล้ายๆกันกับของเขายืนอยู่พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า และแววตาที่ทอประกายมีความสุข คนตัวบางทรุดลงนั่งตรงหน้ามยองซูอย่างไม่กลัวว่ากางเกงสีอ่อนจะเปื้อนเลยสักนิด

    ระวังเปื้อนนะ เดี๋ยวเข้าพิธีไม่หล่อแอลเอ่ยเตือนพร้อมยิ้มจาง มือใหญ่เอื้อมออกมาลูบศีรษะกลมแผ่วเบาอย่างลืมตัว ซองยอลจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมสีดำที่บัดนี้มีประกายน้อยๆ และมันทำให้เขาพลอยสบายใจที่แอลดูดีขึ้น ไม่ได้มีสายตาว่างเปล่าโดยสิ้นเชิงอย่างที่เขาเห็นในวันนั้น

    ซองยอลเขยิบไปนั่งข้างๆแอลที่โคนต้นไม้ และพยักเพยิดไปที่กีต้าร์

    พกมาด้วยเหรอ

    อืม... ฉันอยากจะเล่นเพลง เป็นของขวัญให้นายหลังจากที่แอลพูดจบและซองยอลก็ยังไม่ทันจะได้แย้งอะไร บทเพลงก็เริ่มบรรเลง โดยที่สายตาของคนสองคนนั้นประสานกันเช่นนั้น ราวกับว่าแอลจะพยายามส่งผ่านเนื้อเพลงให้ซองยอลรับรู้ แม้ว่ามันอาจเป็นเพลงที่ไม่ควรจะเล่นสำหรับงานแต่งงานสักเท่าไหร่เพราะมันแฝงไปด้วยคำตัดพ้อเล็กๆก็ตาม

    เนื้อเพลงติดหูถูกถ่ายทอดโดยน้ำเสียงทุ้มนุ่มของแอล โดยมีซองยอลร้องคลอไปด้วยเบาๆ เนื้อเพลงเหล่านั้นซึมซับเข้าไปในหัวใจของซองยอล กลั่นออกมาเป็นน้ำตาหยาดเล็กๆที่หยดลงบนกีต้าร์ของแอล เมื่อเพลงนั้นจบลง ซองยอลก็สะอื้นฮั่กจนตัวโยน แอลระบายยิ้มและรั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด กดศีรษะซองยอลแนบอกและวางคางของตนลงไปบนนั้น มือเรียวของซองยอลกอดตอบมยองซูแน่นเหมือนไม่อยากให้ไปไหน นั่นทำให้หัวใจร่างสูงแทบสลาย แม้อยากยื้ออยากของร้องให้ซองยอลไม่ไปไหนหากแต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ เสียงระฆังในโบสถ์ดังขึ้น มันคงใกล้เวลาแล้วที่ต้องจากไป แอลผละออกและพยายามดันซองยอลออกเบาๆ เขาก้มลงมองใบหน้าใสที่เปื้อนไปด้วยหยดน้ำตาก่อนจะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยมันออกแผ่วเบา นัยน์ตาสีเฮเซลหลังม่านน้ำตาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของแอล ก่อนร่างบางจะเป็นคนรัดอีกฝ้ายไว้ด้วยอ้อมกอดเสียเอง

    อย่าไปไหนนะ... ฉันรักนาย

    เสียงอู้อี้ดังออกมาจากริมฝีปากของซองยอล ขณะที่เขาซบหน้าลงกับอกเสื้อของแอลอีกครั้ง มือก็กำเสื้อสูทลำลองสีเข้มจนยับยู่ยี่ไปหมด

    ไม่ได้หรอก... นายเลือกแล้วนะซองยอล นายต้องกลับเข้าไปในงาน มีคนรอนายอยู่นะแอลบังคับเสียงของตนไม่ให้สั่นและบอกซองยอลอย่างใจเย็น พลางลูบเรือนผมนิ่มไปด้วยอย่างปลอบประโลม

    ฉันไม่ปล่อยให้ใครรอหรอก นอกจากนาย... ฉันมีใครไม่ได้ นอกจากนาย...ฮึก ไม่รู้หรอไอ้บ้า!” ซองยอลเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าไร้ที่ติ แววตาสีเลื่อนมาสบกับเขาฉายแววงงงวย มือใหญ่ยังพยายามกดศีรษะซองยอลลงไปซุกกับอก ทำราวกับว่าประโยคที่ซองยอลกล่าวนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ฉันเลือกนายต่างหาก…” ซองยอลละออกมาจากกอดและยิ้มกว้างทั้งน้ำตา แอลขมวดคิ้วจนเป็นปมแน่นทำให้ซองยอลอดไม่ได้ที่จะส่งมือไปนวดที่หัวคิ้วเพื่อให้มันคลายจากกัน

    หือ?”

    ฉันน่ะ ไม่ได้จะแต่งงานกับใคร ไม่มีวันยอมนอกจากคนนั้นจะเป็นนาย รู้ไหม

    แล้วการ์ดนี่ล่ะ แล้วก็งานด้วย?” ริมฝีปากบางของซองยอลหยักยิ้มและกลั้นหัวเราะ แล้วจึงใช้มือเล็กปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะเฉลยทุกอย่างให้คนที่ถามอย่างงงๆได้รู้

    คุณกับคุณนายลีคิดแผนนี้ขึ้นมายังไงล่ะ คุณทายาทคิมกรุ๊ป…” ซองยอลค่อยๆเล่าเรื่องทั้งหมดให้มยองซูฟังตั้งแต่เรื่องที่เขาเพิ่งทราบบนโต๊ะอาหารในวันที่กลับบ้านว่าคิมมยองซูคือทายาทของคิมกรุ๊ปบริษัทที่อยู่ในพาดหัวข่าวเดียวกับลีคอร์ปอเรชั่นซึ่งเป็นบรัษัทของซองยอลว่าเป็นคู่แข่งและไม่ถูกกันอยู่เสมอ หากแต่น้อยคนนักที่อยู่ในวงในและทราบว่าแท้จริงแล้วประธานบริษัททั้งสองนั้นสนิทกันมาก เย็นวันนั้นจู่ๆคุณลีก็พูดถึงชื่อคิมมยองซูขึ้นมาหลังจากสารภาพว่าแอบส่งเลขาไปสืบว่าเพื่อนที่ลูกชายขอไปพักอยู่ด้วยนั้นคือใคร แม้จะเป็นลูกจากภรรยานอกสมรสหากแต่ด้วยความที่ภรรยาผู้ถูกต้องตามกฏหมายนั้นไม่สามารถมีบุตรได้ คิมมยองซูจึงเป็นผู้รับมรดกกิจการอสังหาริมทรัพย์ของบิดาผู้เต็มใจจะหยิบยกให้เพื่อพยายามแก้ไขความผิดในใจที่ปล่อยให้ลูกและภรรยาอีกคนต้องออกจากบ้านไปใช้ชีวิตตามลำพังเพราะญาติผู้ใหญ่ตระกูลคิมไม่ยอมรับ

    ซองยอลถูกต้อนจนต้องยอมสารภาพเรื่องความสัมพันธ์ของเขาและมยองซู นอกจากต้องตกใจที่ทางบ้านสืบทราบเรื่องแล้ว ยังต้องตกใจที่เขาไม่ได้ถูกว่าร้ายอะไรอย่างที่คิด แม้มันจะฟังดูยากที่จะเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มสองคนหากแต่คุณลีก็เลือกที่จะไม่ขัดขวางใดๆ ในเรื่องความรักนั้นไม่มีคำว่าถูกหรือผิดเสมอไป เราไม่อาจตัดสิน ดูถูกหรือกีดกันความรักของคนอื่นหากมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน คุณลียังบอกอีกด้วยว่ามีลูกเขยเป็นคนใกล้ตัวน่ะดี มีเรื่องมีราวอะไรก็จัดการได้ง่ายเพราะผู้ใหญ่สนิทกัน

    การบังคับฝืนใจไม่เคยส่งผลดี พูดกันตรงๆ เหมือนตอนที่พ่อถูกบังคับให้แต่งงานกับแม่เราในตอนแรก และมันก็จบลงด้วยการนอกใจ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพ่อไม่พอใจที่มีซองยอลเลยนะลูกนั่นคือคำที่คุณพ่อของซองยอลสารภาพเมื่อทั้งสองคนอยู่ในห้องทำงานตามลำพัง ซองยอลพยักหน้าอย่างเข้าใจและโค้งลงต่ำขอบคุณบิดาที่เข้าใจ

    ทุกอย่างลงตัวตั้งแต่วันแรกที่ซองยอลกลับบ้านหากแต่เขาก็ยังไม่อนุญาตให้กลับไปบอกข่าวดีกับมยองซู เนื่องจากผู้ปกครองของซองยอลอยากจะลองใจว่าที่ลูกเขยจึงวางแผนกุเรื่องงานแต่งงานของซองยอลขึ้นมาเพื่อจะรอดูว่ามยองซูทำอย่างไรต่อไป

    มยองซูเมื่อได้รับฟังเรื่องทั้งหมดก็คว้าซองยอลมากอดแน่นจนคนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักเพราะรู้สึกเหมือนร่างจะแตกด้วยแรงกอดแน่นๆจากความหมั่นเขี้ยวของแอล

    ตัวแสบ!”

    ฮ่ะๆ ขอโทษนะ ดูซิทำหน้าเศร้าแบบนี้ไม่สมเป็นนายเลยซองยอลแตะฝ่ามือลงบนแก้มทั้งสองข้างของแอล ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆที่ใต้ตาซึ่งดูช้ำกว่าปกติ

    แอลมองเข้าไปในดวงตาสีเข้มกลมโตของอีกฝ่าย และเคลื่อนหน้าเข้าใกล้ขึ้น ๆ จนซองยอลค่อยๆปิดเปลือตาลงเบาๆ และริมฝีปากของสองคนก็แนบสนิทกันในที่สุด กลีบปากสีระเรื่อถูกสัมผัสย้ำๆอย่างโหยหา แขนเรียวยกขึ้นกอดต้นขอของคนตัวสูงและรั้งเข้ามาใกล้กว่าเดิม แอลยกยิ้มแล้วจึงผละริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่งหากแต่ปลายจมูกก็ยังแตะกันเบาๆเช่นเดียวกับหน้าผากของคนทั้งคู่

    แต่งงานกับฉันได้ไหมลีซองยอลเสียงทุ้มเอ่ยเบาๆพอให้ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น ยิ้มกว้างถูกแต่งแต้มบนใบหน้าหวานใสของซองยอล เช่นเดียวกับสีแดงจางๆบนแก้มนวล ลามไปจนถึงใบหู เขาพยักหน้าน้อยๆและโถมตัวกอดมยองซูจนแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายแนบไปกับต้นไม้ใหญ่ แอลกอดตอบแน่นเช่นกันก่อนจะละมือออกเมื่อเห็นต้นดอกหญ้าต้นหนึ่งกำลังออกดอกสีขาวเล็กๆ มือใหญ่เอื้อมไปเด็ดมันมาพร้อมกับต้นผอม ๆ ยาว ๆ ของมัน จัดการพันเป็นวงแล้วจึงดันตัวซองยอลออกน้อยๆ

    ก้านนิ้วนางข้างซ้ายของซองยอลถูกยกขึ้นแนบริมฝีปากได้รูป แอลบรรจงสวมแหวนดอกหญ้าที่มีหัวเป็นดอกไม้เล็กๆแทนแหวนเพชรน้ำดีให้ ผู้รับจ้องมองการกระทำนั้นผ่านม่านน้ำตาแห่งความปิติ เสียงเล็กกล่าวขอบคุณซ้ำๆและได้รับคำตอบกลับมาเป็นคำว่ารักซ้ำ ๆ

    เสียงสองเสียงที่ตะโกนบอกรักกันดังออกมาจากหลังต้นไม้ต้นใหญ่พร้อม ๆ กับเสียงระฆังกังวาลที่อวยพรให้กับหัวใจสองดวงที่ผูกกันเป็นหนึ่ง และจะไม่พรากจากกันนับแต่นั้นจนชั่วนิจนิรันดร์ .

     

    THE END.

     

    ·        หมายเหตุ . เพลงที่มยองซูร้องให้ซองยอล { wedding dress – taeyang }








                s a r n y o s p .    ตอนสุดท้ายแล้วสำหรับคนแปลกหน้าา ตามสัญญานะคะเอามาลงให้จนจบแล้วเนาะ
    ส่วนในเล่มมีสเปให้คู่ละตอนเน่อ :) ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกคนที่ติดตามอ่านจนจบ ขอบคุณทุกวิว ทุกคอมเม้นท์ ทุกคนที่แอดเฟบเอาไว้หรือแวะมาอ่านเรื่องนี้ รวมถึงคนที่ซื้อเก็บไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆจริงๆ เพราะถ้าไม่มีทุกคนฟิคเรื่องนี้ไม่จบแน่นอน
    ขอบคุณมากๆนะคะ

    ปล. แอบแจ้งเรื่องรวมเล่ม ไม่ได้หายไปไหนนะคะ ตอนนี้ส่งโรงพิมพ์เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วัน
    แล้วก็พิมพ์เผื่อสต็อคไว้ด้วยค่ะ ใครสนใจอยากได้จองตอนนี้ยังทันนะ
    หนังสือพิมพ์เสร็จภายในอาทิตย์นี้ค่ะ ได้แล้วเราจะรีบแพ็คไปส่งนะ จะบอกว่าคุ้มมาก ถูกมากเพราะสรุปแล้ว hstg ปาไปสามร้อยกว่าหน้า คือขายราคาต้นทุนกันเลย ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ . เดี๋ยวจะอัพเดทปกให้ดูนะคะ กระซิบว่าในเล่มมีเซอร์ไพรส์ด้วย เย่

    ปลล. ฝากอีกเรื่อง ใครที่อ่านฟิค exo (chanbaek) เราเขียนเรื่องยาวเรื่องใหม่อยู่กับพี่มินา (ไรท์เตอร์ฟิค melt)
    สนใจจิ้มไปอ่านได้เลยค่ะ ` {fic exo} 。p a p i e r ♡ chanbaek

    contact. @_88kraisis


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×