ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( fic ★ infinite ) ` hello strangiete

    ลำดับตอนที่ #13 : ★ 11TH RIOT

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 699
      0
      22 มิ.ย. 56

       R I O T   11 TH
     

     


       “นายอยู่ที่ไหนแล้ว

                (หน้าร้านแล้วเนี่ย รีบจัง)

    แอลชะเง้อคอมองไปนอกร้านตามที่ได้ยินในสาย เมื่อเห็นร่างบางที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงกระดาษในอ้อมกอดแล้วจึงตัดสายโทรศัพท์ มองผ่านกระจกร้านแอบเห็นคนปลายสายมองโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะค้อนใส่แวบหนึ่ง คงจะเพราะจู่ๆแอลก็ตัดสายไป แต่จั้วก็ไม่ได้โกรธหรือแม้แต่จะสะทกสะท้านอะไร เอี้ยวตัวไปหยิบก่อนของขวัญของตัวเองออกมาวางไว้บนตัก ของขวัญของเขาออกจากล่องใหญ่เสียหน่อย มันเป็นของที่แอลไปเจอระหว่างเดินหา เห็นแวบแรกก็นึกถึงซองยอลเลยทันที หึๆ หวังว่าเด็กน้อยอีจะชอบมัน J

                ไหนๆ ของขวัญฉันล่ะ... อู้หู อันนั้นอะนะ กล่องใหญ่อะ!”

    ซองยอลกล่าวทวงของขวัญก่อนอย่างแรกเมื่อเห็นหน้าแอล แอลยกกล่องขนาดใหญ่นั่นออกมายื่นให้ และกันกับของขวัญที่ซองยอลวางไว้ให้บนโต๊ะ เสียงใสอุทานอย่างตื่นเต้นพร้อมกับยิ้มจนตาปิดเหมือนเด็กๆ จับกล่องพลิกไปพลิกมาหมุนไปหมุนมา และเขย่าๆฟังเสียง แอลนึกดีใจที่เขาไม่ได้เลือกหยิบอะไรที่มันแตกหักง่ายๆมา ไม่อย่างนั้นมันคงได้กลายเป็นเศษซากตั้งแต่ยังไม่ได้แกะออกจากกล่องดี

                เอาล่ะ เปิดพร้อมกันสิซองยอลกอดกล่องเอาไว้ รอให้แอลดึงกล่องของขวัญที่ซองยอลซื้อให้ออกมาจากถุงกระดาษ แล้วทั้งคู่ก็ต้องตกใจก่อนจะหัวเราะเนื่องจากริบบิ้นที่ห่อของขวัญทั้งสองนั้น เป็นลายก้อนเมฆสีฟ้าบนพื้นสีขาวแบบเดียวกัน

     

    ซองยอลนึกขำไม่คิดว่าแอลจะเลือกลายน่ารักแบบนี้

    แอลนึกขำคิดไว้แล้วว่าซองยอลต้องชอบลายเด็กแบบนี้

     

    สองคนมองหน้ากันครู่หนึ่งพร้อมอมยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ซองยอลเบนสายตาไปแกะของขวัญต่อ มือบางค่อยๆแก้ปมริบบิ้น และแกะกระดาษห่ออย่างระมัดระวัง ส่วนแอลเมื่อแก้ปมริบบิ้นได้แล้ก็ลงมือฉีกกระดาษแควกอย่างติดนิสัย ซองยอลได้ยินเสียง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันก็แค่กระดาษห่อถูกๆที่ทางร้านแถมให้

     

                หมอนเบ็นเท็น ฮ่ะๆ ขอบใจนะ

    ซองยอลที่แกะเสร็จห่อนเพราะของขวัญูกห่อไว้แค่ชั้นเดียวกล่าว กอดหมอนทรงกลมมีลายปักด้วยผ้าสักลาดแบบแฮนด์เมดรูปเด็กชายที่รู้จักกันในนาม เบนเท็นตัวละครที่เห็นได้บ่อยบนหลอดยาสีฟันของซองยอล สารภาพตามตรง ซองยอลไม่ได้ชอบมันขนาดนั้น แค่ชอบซื้อมาแหย่ให้แอลบ่นว่าเขาเป็นเด็กเฉยๆต่างหาก ฟังดูแปลกๆดีใช่ไหม แต่เวลาแอลบ่นเหมือนคนแก่มันก็น่ารักแปลกๆ เจ้าของห้องมักทำตัวเหมือนเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่จริงๆแล้วแอลนั้นมีมุมมซนๆเหมือนเขาอยู่ไม่น้อยเช่นกัน


     

                ฉันสั่งให้นูนาปักให้แบบด่วนเชียวนะ ดีที่มันมีลายเหลืออันเดียวพอดี


    แอลโวพร้อมกับยักคิ้วให้ซองยอลสองจึ้ก คนทีได้รับยิ้มหน้าบานพร้อมกอดหมอนแน่นและเอาแก้มนุ่มๆซบลงไป

     

                อะไรบ้างเนี่ย ดาวเรืองแสง แชมพู ยาสีฟัน อะไรของนายเนี่ย?” แอลหยิบของออกมาทีละชิ้น มองมันและหัวเราะ มีแพ็คดาวเรืองแสงหนึ่งถุง แชมพูและยาสีฟันแบบที่คนปกติเขาใช้กันทั่วไป

     

                ฉันซื้อมาคืนน่ะ โทษที่ที่แกล้งให้นายใช้ยาสีฟันเบ็นเท็นเจ้าของกล้องส่งยิ้มให้อีกคนตรงหน้าและได้ยิ้มกลับคืนมาเช่นกัน ซองยอลเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องริบบิ้นและปรากฏว่าพวกเขาซื้อมันมาจากร้านเดียวกันแต่ไม่ได้เจอกัน ริบบิ้นรูปเมฆที่ทั้งซองยอลและแอลไม่ได้ตั้งใจเลือกเท่าของขวัญในกล่อง แต่กลับรู้สึกว่ามันพิเศษขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

    ต่างคนต่างแอบเก็บเส้นเชือกผ้าลายน่ารักนั้นไว้ โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้

     

                ด้วยความที่พลังงานไปกับการเลือกของ แอลจึงตัดสินใจสั่งพาร์เฟ่ต์มาอีกแก้ว แต่ก็ตกลงว่าจะให้ซองยอลช่วยกิน

     

                กินหมดคนเดียวตอนเนี้ย...อ้วนแน่แอลว่าอย่างนั้น

     

                ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่พาร์เฟต์ถูกยกมาเสิร์ฟ ช้อนเงินยาวๆของสองคนกระทบกันบ่อยๆผลจากการแย่งสตรอเบอร์รี่กันไปมา แม้มันจะมีอยู่มากในถ้วยก็ตาม แย่งมันตั้งแต่ลูกแรกจนถึงลูกสุดท้าย ในที่สุดคนที่ได้ผลไม้สีแดงฉ่ำที่ซ่อนอยู่ลึกสุดของแก้วทรงสูงก็คือเจ้าของห้อง มยองซู

                คนที่แย่งไปได้งับสตรอเบอร์รี่และทำแก้มป่อง วิปครีมที่ติดมาด้วยเลอะขอบปากได้รูป คราวนี้เป็นซองยอลบ้างที่ขำเพราะท่าทางอนุบาลของแอลที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก

     

                ปากเลอะแล้วซองยอลยิ้มล้อและชี้นิ้วที่ขอบปากตำแหน่งเดียวกับที่เลอะที่ริมฝีปากของแอล เจ้าตัวพยายามลากทิชชู่ไปเรื่อยแต่ก็ไม่โดนซักที

                นายนี่...ก็บอกว่าตรงนี้ๆคนใบ้พยายามใบ้ตำแหน่งต่อแต่แอลก็ยังไม่พบ ในที่สุดเด็กกินเลอะก็เอ่ยปากให้ซองยอลช่วย

    ไม่รู้อะไรเข้าสิง เขาเกิดลองอยากอ้อนเป็นเด็กแบบนี้ซองยอลทำบ้างก็เท่านั้น

     

                เช็ดให้หน่อยดิคิ้วบางเลิกขึ้นอย่างงงๆเพราะคำกึ่งขอร้องของแอล ฟันขาวพยายามขบริมฝีปากซ่อนยิ้มที่กำลังจะเผยออกมาให้เห็น เอื้อมมือไปหยิบทิชชูบนโต๊ะและเช็ดคราบครีมสีขาวออกให้แอลเบาๆ เสี้ยววินาทีนั้นซองยอลรู้สึกอุ่นตั้งแต่ปลายนิ้วขึ้นมาถึงใบหน้ารวมไปถึงทั้งหัวใจ

    เป็นวินาทีที่เงียบซักพัก มีเพียงเสียงเต้นตึกตักภายในคนสองคนและคำอธิษฐานไม่ให้อีกฝ่ายได้ยินเสียงนั้น กับรอยยิ้มที่เผยบนใบหน้า

     

     

    โดยไม่รู้เลยว่ามันจะถูกพรากไปภายในเวลาต่อมา

     

     

                แอลฮยอง

    เสียงเย็นเยียบของบุคคลที่สามดึงทั้งซองยอลและเจ้าของชื่อให้หันไปมอง เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนแบบเดียวกับซองยอล เจ้าของตำแหน่ง แฟน ของแอลยืนอยู่ข้างร่างสูง เพิ่งเอ่ยชื่อแอลหยกๆหากแต่สายตาคมนั้นจิกมองซองยอล แก้วตานั้นวาวโรจน์และเต็มไปด้วยความรังเกียจที่แสดงออกชัดเจน

     

                อะ...อ้าว ซองจง มาทำอะไร

    แอลถามขึ้นด้วยท่าทางตกใจเอาเรื่อง รีบยืนขึ้นและแตะข้อมือซองจงเบาๆ แต่กลับถูกสะบัดออกอย่างไม่ใยดี ใบหน้าหวานราวกับเด็กผู้หญิงกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะกล่าวตอบ

     

                มาดูแฟนที่แอบมากับคนอื่น แถมยังหวานกันโดยไม่เห็นหัวผมเลย!... ไงล่ะ สำเร็จไปถึงไหนแล้ว แผนที่จะแย่งแอลฮยองมาจากผมน่ะ!!!”

    ซองจงตวาดกร้าวใส่หน้าซองยอลที่นั่งก้มหน้าจนคางชิดอก ซ่อนแววตาที่ไหวระริกและหยดน้ำที่กำลังกลั่น ริมฝีปากเม้มแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น

     

                ซองจง! พูดเรื่องอะไร ให้เกียรติซองยอลด้วย ยังไงเค้าก็เพื่อนพี่!”

    แอลรวบแขนซองจงไว้เมื่อคนรักปรี่เข้าหาซองยอล แม้รู้ว่าซองจงไม่ใช่คนที่ใช้กำลัง หากแต่อยู่ห่างๆกันไว้คงดีกว่า

     

                เพื่อนพี่งั้นเหรอ เพื่อนที่คิดจะงาบเพื่อนตัวเองน่ะสิ! ทำไม อิจฉางั้นสิ อันที่จริงพี่ก็ไม่ได้แย่อะไรนี่ แล้วทำไมไม่รู้จักหาแฟนด้วยตัวเอง!! ทำไมพี่ต้องมาแย่งคนอื่นเค้า มีความสุขมากมั้ยที่เป็นมือที่สาม เป็นคนทำให้คนอื่นแตกกันน่ะ!!!”

     

                คำพูดของซองจงกรีดลึกลงไปในตัวซองยอล บาดกล่องความคิดผิดชอบชั่วดี ความทรงจำเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เขาต้องออกจากบ้านปริและปะทุออก มือที่สาม สิ่งที่ทำให้ซองยอลหนีออกมา สิ่งที่ทำให้เขารังเกียจ สิ่งที่ซองยอลเชื่อว่าพรากทุกอย่างรวมถึงความสุขไปจากเขา สิ่งที่ทำให้แม่ต้องร้องไห้... แต่ตอนนี้ซองยอลกลับเป็นแบบนั้นแทน

     

    อีซองยอล นายกำลังทำอะไรอยู่?

     

                อีซองจง!” แอลคว้าให้ซองจงกันหน้ามามองตน ตาคมฉายแววผิดหวังในตัวคนรัก ซองจงแสยะยิ้ม ว่าแล้วว่าต้องเข้าข้างกัน!

                ดี ถ้าพี่เข้าข้างมันแบบนี้ งั้นพี่ลองฟังนี่ดูหน่อยเป็นไง?” ซองจงใช้ปลายนิ้วกดที่หน้าจอทัชสกรีนบนโทรศัพท์ของตน บทสนทนาที่ถูกอัดเล่นขึ้นแข่งกับความเงียบและเสียงสะอื้นของซองยอล

     

     

    ฮยองฮะ แล้ว...เรื่องแอลฮยองน่ะ ไปถึงไหนแล้วเหรอ?”

    เอ๋ เอ่อ... ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าหรอก ไม่...ไม่มีอะไรเลยล่ะ

    เห จริงเหรอ ฮยองโกหกไม่เป็นเลยรู้ตัวหรือเปล่า?”

    จริงน่า แต่พี่ทำตามที่คยองซูบอกนะ...พะ พี่บอกชอบแอลไปแล้วล่ะ

    แล้วไงต่อฮะ มีอะไรคืบหน้ามั้ย?”

    มะ...ไม่ไง ไม่มี ก็บะ..บอกแล้ว

    โอเคๆ ไม่มีก็ไม่มี งั้นผมปล่อยให้พี่จัดการเองดีกว่า ถ้ามีอะไรค่อยให้ผมช่วย เพราะเอาจริงๆผมกับจงอินเริ่มหมดมุกแล้วอะ

     ไหงงั้นล่ะ คยองซูจะปล่อยเกาะพี่หรอ? แล้วแผนล่ะ ล้มเลิกหรือไง?”

    ผมไม่ได้หมายความว่าล้มเลิก มันก็แค่ผมอยากให้พี่สานต่อเอง มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะ เรื่องหัวใจนะ

    หะ...หัวใจอะไร มันก็แค่แผนที่จะแยกซองจงกับแอลแค่นั้นเอง

    ใช่หรอฮยอง ตอนแรกมันอาจจะใช่แต่ตอนนี้ผมว่ามันเป๋ๆออกนอกเรื่องนั้นมาหน่อยแล้วน้า~”

     ไม่...ไม่ใช่น่า พี่ก็ทำตามแผน ไม่ได้คิดอะไรเสียหน่อย พอสองคนนั้นเลิกกันก็จบ...

     

     

    ซองยอลเบิกตากว้างเมื่อคลิปเสียงนั้นเล่นจนจบ มันเป็นตอนที่เขาพูดกับคยองซูในเช้าวันฝนตกในห้องสมุด แน่นอนหากไม่ใช่คยองซูแล้วย่อมไม่เข้าใจความหมายที่ทั้งสองคนพยายามจะสื่อ ซองยอลไม่ได้หมายความแบบที่พูดเลยซักนิด คยองซูก็รู้ดี หากแต่บุคคลที่สามอย่างซองจงหรือแอล ย่อมไม่คิดแบบนั้น

    แอลหันมาสบสายตากับซองยอลด้วยแววตาผิดหวังไม่แพ้กัน คนที่แข็งแรงกลับรู้สึกเหมือนเข่าอ่อนและไม่มีแรง ไม่คิดว่าคนที่เขาไว้ใจจนเปิดใจ จากคนแปลกหน้ากลายมาเป็นเพื่อนที่แอบเอื้อมแตะหัวใจของเขา จะหักหลังและคิดร้ายกับเขาและคนที่รักได้อย่างนี้ คยองซูก็ด้วย นี่ทุกคนเห็นเขาเป็นตัวตลกงั้นสินะ?

    คนที่โดนมองร้องไห้และส่ายหน้า น้ำตาที่กำลังจะแห้งไหลบ่าเหมือนเขื่อนแตก ความอ่อนแอของซองยอลแสดงออกมามากมายด้วยหยดน้ำตาเหล่านั้น ยิ่งสายตาผิดหวังและกลายเป็นเย็นชาทำให้ซองยอลปวดหนึบไปทั้งใจ สายตานั้นเหมือนคนไม่รู้จักกัน เหมือนวันแรกที่พบ หรืออาจแย่กว่านั้น อย่างน้อยตอนนั้นก็ไม่มีอคติ ผิดกันกับตอนนี้ ร่างบางกล่าวขอโทษเสียงเบาหวิวก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากร้าน วิ่งไปเรื่อยๆเหมือนคนแพ้ที่หนีปัญหา แต่จะทำอย่างไรเมื่อซองยอลไม่สามารถสู้หน้าแอลได้อีกต่อไป คนผิดคือเขาเอง ซองยอลผิดเองทั้งหมด การแทรกกลางระหว่างคนสองคนนั้น ไม่เคยถูก ไม่ว่ากรณีใดๆ

     

     

     

     

     

    จริงอย่างที่ใครหลายๆคนพูด ไม่ว่ายังไงคนเราก็ต้องกลับมาที่จุดเริ่มต้น หากแต่จะต่างกันไปว่าคนคนนั้นจะกลับมาพร้อมความสุขหรือความทุกข์ ในกรณีของซองยอลนั้น เขากลับมาที่จุดเริ่มต้น... ที่บ้านของเขา ด้วยความทุกข์

    ดึกมากแล้วแต่ไปในบ้านก็ยังเปิดอยู่ ซองยอลกดออด ไม่นานลุงคนสวนที่ซองยอลสนิทตั้งแต่เด็กก็เดินงัวเงียมาเปิดประตูให้ ชายชรามองหน้าซองยอลอย่างอึ้งๆแต่ก็ดีใจที่คุณหนูที่ทุกคนเฝ้าตามหานั้นกลับมาที่บ้านอีกครั้ง แม่บ้านอีกคนถูกปลุกให้พาซองยอลขึ้นไปบนห้องและเตรียมของให้ซองยอลได้อาบน้ำพักผ่อน

    หลังจากนั้นไม่นาน ลูกชายคนเดียวของคุณนายแรกตระกูลลีก็มานอนอยู่บนเตียงหนานุ่มที่เขาไม่ได้นอนมานาน ซองยอลพยายามข่มตาหลับ แต่ก็ต้องลืมขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากเมื่อหลับตา ภาพแววตาผิดหวังของแอลยังคงฉายและกลอซ้ำในหัวไปมา พาลจะทำให้น้ำตาที่ถูกล้างไปกับสายน้ำกลั่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง

    ขอโทษนะ...ซองยอลพึมพำกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมากับน้ำตาที่ไหลซึมลงไปบนหมอนสีขาว

     






     

    แสงอาทิตย์ปลุกให้ซองยอลตื่นพร้อมดวงตาที่หนักอึ้งและบวมเป่งจากน้ำตาที่เป็นดั่งเพลงลัลลาบายที่เจ็บปวดซึ่งส่งเขาเข้านอนเมื่อคืนนี้ แม่บ้านเคาะประตูเรียกให้เขาลงไปทานข้าวพร้อมๆกับคุณและคุณนายลี ซองยอลจัดการธุระส่วนตัวและเดินลงไปทานข้าว เขาพยายามปั้นสีหน้าปกติหลายทีหน้ากระจกแต่มันก็ไม่ได้ดูธรรมชาติเลย

     

    ซองยอลอา... ซองยอล!”

    ชายวัยกลางคนใส่สูทดูภูมิฐานผู้เป็นพ่อของซองยอลผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้หลุยส์ดูหรู เดินอ้อมจากหัวโต๊ะมาคว้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปกอด ท่านประทานบริษัทยักษ์ใหญ่เกือบได้หลั่งน้ำตาคาโต๊ะอาหารหากไม่เกรงใจแม่บ้านที่ยืนอยู่ ซองยอลยิ้มบางและกอดตอบพ่อของตน ซบแก้มข้างหนึ่งลงกับบ่าของสูทที่ถูกเสริมด้วยฟองน้ำ สายตาทอดมองเลยไปยังแม่ที่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนเช่นกัน คุณนายอีอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาหน่อยๆด้วยความคิดถึง เธอยืนยิ้มทั้งน้อตามองพ่อลูกกอดกัน เวลาต่อมาซองยอลจึงผละออกจากพ่อและไปให้ความอบอุ่นหญิงสาวตัวเล็กแทน

     

    กลับมาแล้วเหรอลูก

    หญิงสาวเอ่ยถามเสียงสั่นแต่แฝงไปด้วยความสุข มือก็ลูบหลังลูกชายอย่างอ่อนโยน ซองยอลพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ

    ครอบครัวลีทานข้าวอย่างพร้อมหน้ากันอีกครั้งในรอบเกือบเดือน กับข้าวหลายชนิดถูกตักใส่จานซองยอลจนทานแทบไม่หมด เมื่อมื้อข้าวจบลง แม้จะอยากอยู่คุยกับลูกชายเสียหน่อย แต่อีจงยอบก็จำเป็นต้องออกไปทำงาน ทิ้งให้แม่กับลูกอยู่ด้วยกันในวันนี้
     

    หายไปไหนมา หืม?”

    ลีมินอาถามในขณะที่สองแม่ลูกนั่งอยู่ด้วยกันบนโซฟาในห้องของหล่อน ซองยอลนอนหนุนตักกอดเอวแม่อย่างออดอ้อน ทำตัวเป็นลูกชายว่าง่ายให้แม่ลูบผมอย่างเพลินมือ

     

    อยู่กับเพื่อนมาฮะ

    แล้วทำไมยอมกลับมาได้ล่ะเนี่ย คุณพ่อพยายามหาพยายามตื๊อแทบตายไม่ยอมกลับ

    เกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะฮะแม่ เรื่องที่...แย่มากๆ

    เล่าให้แม่ฟังได้มั้ยลูก?”


    ซองยอลลืมตาขึ้นสบกับดวงตาสวยสีน้ำตาลแบบเดียวกันกับเขาไม่ผิดเพี้ยน ดวงตานั้นของแม่สื่อความห่วงใหญ่ต่อลูกชาย ซองยอลพยักหน้า ยันตัวขึ้นนั่งข้างๆแม่ เขาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นไม่ว่าดีหรือร้าย ในขณะที่มือก็พันเส้นผมสีน้ำตาลเป็นลอนสวยของมารดาไปด้วย


     

    ผมทำผิดมากๆเลยใช่มั้ยครับแม่

    เสียงหวานอู้อี้ถามและโน้มตัวลงไปกอดเอวแม่อีกรอบเมื่อเล่าจบ น้ำเสียงนั้นสั่นเครือน้อยๆ ก้อนสะอึกเริ่มก่อตัวขึ้นแต่เมื่อมีอ้อมกอดของแม่แล้ว ความรู้สึกอยากร้องไห้ของซองยอลก็ค่อยๆถูกทำลายไป มินอาฟังเรื่องที่ลูกเล่า และยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน ซองยอลถูกเลี้ยงอย่างประคบประหงม ถูกปลูกฝังให้มองโลกในด้านสวยงาม จนบางทีเธอก็รู้สึกผิด เนื่องจากมันสวยงามและดูขายฝันมากเกินไป ส่วนหนึ่งก็เพราะความรักลูกของจงยอบที่มีมาก จึงทำให้ซองยอลเหมือนนกในกรงหรูหรา และเมื่อวันนึงนกน้อยนั้นเผลอหลุดออกไป ได้ไปพบกับโลกความเป็นจริงด้วยประสบการณ์ของตัวเอง ทำให้มันต้องกลับมาที่กรงอย่างบอบช้ำเล็กน้อยเพราะความอ่อนประสบการณ์ทำให้รับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหว ซองยอลตอนนี้บอบช้ำเพราะการอ่อนประสบการณ์ ด้านความรัก

     

    ใช่ลูก ซองยอลผิด ที่เอาตัวเองไปเกี่ยวกับความรักของคนคู่หนึ่ง ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิด การเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างคนสองคนที่มีความรู้สึกต่อกัน ไม่ว่าสายใยระหว่างคนสองคนนั้นจะบางขนาดไหน ก็ไม่ควรเข้าไป เราอยู่ข้างๆได้ แต่ไม่ใช่ตรงกลาง แม่รู้ว่าซองยอลหวังดีกับเพื่อน แต่มันก็เหมือนบาปสีขาว เข้าใจใช่ไหมลูก?”

     

    แต่แม่รู้นะว่าซองยอลไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น ซองยอลของแม่ไม่ได้จะแย่งใคร ตอนที่พูดน่ะเพราะเขิน...ใช่ไหมล่ะ!” หญิงสาวเอื้อมมือมาหยิกแก้มนิ่มๆของลูกชาย เรียกร้อยยิ้มบางๆให้ผุดขึ้นบนริมฝีปากได้รูป ซองยอลพยักหน้ารับกับทุกสิ่งที่แม่พูด

     

    แม่ฮะ... ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด... ผมชอบเขาไปแล้วจริงๆใช่ไหมฮะ

    ซองยอลช้อนสายตาถามด้วยแววตาซื่อ มือซ้ายยกขึ้นทาบบนอกข้างซ้ายที่เต้นแรงขึ้นเพียงแค่คิดถึงเจ้าของห้องที่เขาไปอาศัยอยู่ แต่เมื่อคิดถึงสายตาเย็นๆของคนคนนั้น หัวใจดวงน้อยก็เต้นช้าลงกะทันหัน

    แอล ผู้มีผลกระทบต่อหัวใจ ลมหายใจ และระบบเลือดของซองยอล คนแรก ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงและช้าลงได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้ลมหายใจกระตุกเหมือนลืมไปชั่วขณะ และทำให้เลือดทั้งหมดไหลไปกองบนใบหน้าเนื่องจากถูกสูบฉีดรุนแรงจากหัวใจ

     

    มินอายิ้มกว้างและตีก้นลูกเบาๆอย่างหมั่นไส้

     

    หนุ่มน้อยของแม่โตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไอกู...

    อะ...อะไรล่ะฮะ

     

    สองแม่ลูกหยอกกันไปมา แม้อายุจะห่างกันไม่น้อยแต่ซองยอลและมินอาก็คุยกันได้ทุกเรื่อง ซองยอลถือเป็นคนติดแม่เอามากๆ ถึงบางครั้งแม่ของเขาจะชอบบ่นเหมือนแม่ๆทั่วไป แต่หากจะหาใครเข้าใจลูกชายคนนี้ได้แล้ว ก็คงไม่มีใครเท่าลีมินอาคนนี้

     

    ถ้ามีโอกาส แม่ว่าไปคุยกับเค้าให้รู้เรื่องนะ อย่างน้อย แม่ก็ไม่อยากเห็นลูกแม่หน้าบูดนะ

    ครับ... ถ้ามีโอกาส

     

    ซองยอลยิ้มหม่นกับตัวเองแวบหนึ่ง มินอาผุดสุกขึ้นยืนลูบผมนุ่มของลูกชายอีกครั้งก่อนจะขอตัวไปจัดการเรื่องเตรียมอาหารเย็นที่สามีโทรมาบอกว่าจะจัดการมื้อใหญ่เลี้ยงต้อนรับลูกชายในวันนี้

     

     

    บรรยากาศบนโต๊ะอาหารค่ำวันนี้ถือได้ว่าคึกคักกว่าเดิม จากที่เคยมีสมาชิคบนโต๊ะเพียงสาม เย็นนี้เพิ่มมาเป็นสี่ ภรรยาอีกคนของคุณลีถูกเชิญมาด้วย เธอเป็นหญิงอายุอานามใกล้เคียงกับแม่ของซองยอล เพียงแต่จะอ่อนกว่าปีสองปี ซองยอลเคยไม่ชอบเธอมากถึงขนาดหนีออกจากบ้านเป็นการประชดเมื่อพ่อพาเธอเข้ามาแนะนำให้รู้จัก ในวันนี้พ่อของเขาก็พาให้เธอมาเจอกับซองยอลอีก หากแต่ความเกลียดชังที่เคยมีนั้นกลับลดลงฮวบฮาบสำหรับซองยอล อาจเพราะเขาเคยสัมผัส เคยยืนอยู่ในตำแหน่งของเธอมาแล้วครั้งหนึ่งก็เป็นได้

    ซองยอลสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างแม่แท้ๆและ
    คุณอาอยู่เรื่อยๆ หญิงสาวสองคนไม่ได้มีท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์ พ่อของเขาก็วางตัวดี ไม่ได้ประคบประหงมใครจนน่าเกลียด อาหารค่ำดำเนินไปด้วยบรรยากาศสบายๆ คุณอาจองฮวาตักอาหารและพยายามพูดคุยกับลูกเลี้ยง เธอเองก็ตกใจเล็กน้อยที่ซองยอลไม่ได้เกลียดชังเธอเหมือนในตอนแรก แม้เธอจะรู้ว่าเด็กชายคงยังไม่สนิทใจร้อยเปอร์เซ็นท์ แต่นั่นก็ทำให้หล่อนโลงใจไปมากโข ซองยอลนั้นดูบริสุทธิ์ เธอคิดว่าเขาคงยังไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ซับซ้อนของพวกผู้ใหญ่

    แต่อีกไม่นานมันก็คงต้องถูกเปิดเผย ซองยอลกำลังจะบัลลุนิติภาวะ และผู้ใหญ่ก็ลงความเห็น
    ...ว่ากรงที่ปกป้องซองยอล ควรจะถูกเปิดออกเสียที

     

     

     

    ซองยอลอา...มินอาแง้มประตูเปิด หลังจากเคาะห้องลูกชายได้สองสามครั้ง เธอก้าวมาหาซองยอลที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง วางแก้วนมสดลงบนโต๊ะเตี้ยๆสำหรับวางโคมไฟ และนั่งลงบนเตียงของลูก

    ขอบคุณนะครับ

    จะนอนแล้วเหรอ

    อ่า...ฮะ แม่มีอะไรหรือเปล่า?”

    แม่...คือ แม่ขอบคุณมากนะซองยอล วันนี้มันไม่ได้แย่ใช่มั้ย แม่หมายถึง บนโต๊ะนั่น ซองยอลไม่ได้โกรธคุณพ่อใช่มั้ยลูก ไม่ได้อึดอัดใช่ไหม?”

     

    ซองยอลยิ้ม เลิกผ้าห่มออกและกระเถิบตัวมากอดแม่แน่น และผู้เป็นแม่ก็กอดตอบเช่นเดียวกัน

     

    ครับ ไม่เป็นไรเลย ต้องถามแม่มากกว่านะ แม่โอเคใช่มั้ย

    แม่ไม่เป็นไรหรอก แม่...ชินตั้งแต่แรกแล้วล่ะ แค่มีซองยอลของแม่ แม่ก็มีความสุขมากแล้ว

     

    มินอาจูบเบาๆที่หน้าผากของลูก เธอดีใจที่ซองยอลไม่ได้เจ็บปวดกับการกระทำของพ่อตัวเองเหมือนเคย ดูได้จากอาการก้าวร้าวต่อต้านที่หายไป ส่วนตัวหล่อนนั้น มันชินตั้งแต่แรกแล้ว มันคือเรื่องธรรมชาติที่อยู่รอบตัว หล่อนคิดแบบนั้นจึงสามารถใช้ชีวิตอยู่กับมันได้

    หญิงสาวส่งแก้วนมให้ซองยอล รอจนเด็กชายของเธอดื่มหมดก่อนจะกล่าวราตีสวัสดิ์และเดินจากห้องไป ส่งซองยอลเข้าสู่ห้วงนิทรา วันที่เหนื่อยอ่อนกำลังจะจบลง...ชั่วคราว

     

     

     

     

    หูฟังสีขาวช่วยปิดกั้นร่างบางจากโลกภายนอกด้วยดนตรีอาร์แอนด์บีเมโลดี้สบายๆปนบีทหนักๆบางคราว ภาพตรงหน้าที่ตากลมสีน้ำตาลเข้ทอดไปค่อยๆเปลี่ยนจากเส้นขีดหลากสีเป็นภาพชัดๆเมื่อความเร็วของรถชะลอลงเพราะเข้าสู่ย่านโรงเรียนแล้ว ซองยอลคว้ากระเป๋ามาสะพายและทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างต่อ เขามองออกไปทางโรงเรียนตรงข้าม ชุดสูทที่เคยแปลกตา แต่ตอนนี้คุ้นเพราะเจ้าของห้องที่ซองยอลเคยอาศัยด้วยนั้นเคยใส่เป็นประจำทุกเช้า และรู้ตัวอีกที สายตาของซองยอลก็ไปพบกับคนคนนั้น เจ้าของสูทสีเทาที่เขาเคยเห็น ร่างสูงโปร่งเดินมาพร้อมกับคนรักข้างกาย รถของซองยอลหยุดลงเพื่อให้คนเหล่านั้นข้ามถนน คนที่อยู่ในเบลเซอรสีเทาโบกมือลาเด็กผู้ชายตัวเล็กที่กำลังเดินรอเข้าไปในโรงเรียน รอจนร่างนั้นหายไปลับตา แล้วจึงยืนรอที่หน้าโรงเรียนเพื่อรอสัญญาณไฟให้ได้ข้ามถนนกลับไป

     

    คุณหนูครับ...คุณหนู...คุณลูงคนขับรถเอ่ยเรียกชื่อคุณหนูของเขาซ้ำๆ ในที่สุดคนถูกเรียกก็คว้าสติกลับมาและหันกลับไปมองอย่างเหลอหลา

    คะ-ครับ

    ถึงแล้วครับ... เดี๋ยวตอนเย็นลุงมารับนะครับ

    ครับ ขอบคุณนะครับซองยอลกล่าวพร้อมผงกหัวให้ชายอายุมากกว่า มือบางกำมือจับแน่นเมื่อเห็นว่าแอลนั้นยืนอยู่ไม่ไกลออกไป ค่อยๆเปิดประตูออก และเดินรุดเข้าไปในโรงเรียน สมองพยายามบอกให้มองเข้าไปในรั้วโรงเรียน หากแต่จิตใต้สำนึกก็ยังสั่งให้ซองยอลเหลือบไปมองแอลที่ยืนอยู่ข้างหน้า แวบเดียวเท่านั้น ก่อนจะหันกลับมาเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัว

     

    แต่หารู้ไม่ คนที่ถูกมองส่วนใหญ่มักจะรู้ตัวเสมอ...
     

     

    ขาเรียวพาซองยอลก้าวเข้าไปในโรงเรียน มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนของตน โรงเรียนของเขาเหมือนเดิม เพียงแต่บรรยากาศที่ซองยอลรู้สึกนั้นเปลี่ยนไป ร่างบางรู้สึกถึงสายตาแปลกๆที่มองเขา นักเรียนหญิงหลายกลุ่มแอบคว้ามือไม้ของพักพวกมาคุยกระซิบเมื่อซองยอลเดินผ่าน นักเรียนชายบางคนก็เช่นกัน มือที่ล้วงกระเป๋ากางเกงของซองยอลความหาโทรศัพท์มือถือในนั้นและกดลดเสียงเพลงที่ฟังอยู่จนเหลือศูนย์ นั่นทำให้เขาได้ยิน เสียงกระซิบกระซาบเบาๆจากคนรอบตัว

     

    แกเห็นรุ่นพี่คนนั้นไหม ที่เดินมาส่งซองจงอะ หล่อเนอะ ได้ยินว่าเป็นแฟนกันแต่ไม่เคยเห็นเลยอะ

    เฮ้ยแก แต่ฉันเคยเห็นนะ คุ้นๆนะแก... เคยเห็นที่ไหนน้า

    อ๋อ แก ฉันนึกออกแล้ว รุ่นพี่หล่อคนนั้นเคยมาตามหารุ่นพี่ซองยอลน่ะ!”

    เออว่ะแก! ฉันเคยเห็นสองคนนั้นเดินกลับพร้อมกันด้วยอะ หรือว่าข่าวลือเรื่องที่คุณหนูลีจะงาบแฟนชาวบ้านมัน...

     

     

    แกรู้ไหม วันก่อนที่ร้านไอศกรีมอะ ฉันอยู่แถวนั้นด้วยนะ!”

    จริงปะๆ แล้วเป็นไงแก มีตบกันมั้ย น่าโดนนะแย่งแฟนชาวบ้านแบบนี้

    หู้ยแก เดี๋ยวเล่าให้ฟัง...

     

     

    เฮ้ยๆ ซองยอลว่ะ

    หือ อยู่มานานแล้ว เพิ่งคิดว่าสวยก็วันนี้ล่ะว่ะ ไม่น่าไปอยากได้เด็กโรงเรียนตรงข้ามเลยนะ กูเนี่ย ไม่ต้องแย่งด้วย โสดสุด

    โสดๆเค้าไม่สนหรอกเว้ย มึงไม่เห็นหรอ

    เออเนอะ ฮ่ะๆ

     

    ซองยอลกำโทรศัพท์ในมือแน่น เขาอยากวิ่งหนี หนีให้ไกลที่สุด... แต่ม่านน้ำตานี่ ทำให้เขาอ่อนแอ จนแทบทำอะไรไม่ได้เลย

     

     

    อีซองจงยืนพาดราวกระจกมองเหตุการณ์ด้านล่าง นักเรียนจับเป็นกลุ่ม และซองยอลที่ถูกล้อมก่อนจะวิ่งหนีออกไปอย่างอ่อนแอ ริมฝีปากสีอ่อนกระตุกยิ้มร้าย สมควร... คนที่แทรกกลางความรักคนอื่น สมควรแล้วที่ได้รับอะไรแบบนี้ หึ J


     

    TBC
     

    (sarnyosp)  เอาล่ะ... ร้าวรานสิ้นดี 55555555555555555555555. นี่ยาวเป็นประวัติการณ์เลยนา ซองจงร้ายเนอะ ฮู้ยยย
    ไร้สาระมาหลายตอนตอนนี้ขอดราม่าแอบแฝงสาระลึกๆเล็กๆบ้างนะคะ ๕๕๕๕ #เชื่อเถอะสาระเป็นอะไรที่หายากมากจากเรา ๕๕
     - ประกาศ! เหลืออีกไม่กี่ตอนจะจบแล้วน้า y w y ตามแผนวางไว้คือสิบห้าตอนจบค่ะ จะพยายามให้มันพอดีเนาะ
    ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่ผลักจนเรามาถึงตอนนี้ได้ ทุกคอมเม้นท์ถึงมันจะสั้นหรือแค่ขอบคุณคำเดียวมันมีค่าสำหรับคนเขียนแบบเรามากน้า :3

    อีกข่าว HSTG , KISS เปิดจองเป็นรูปเล่มแล้วนะคะ โรงพิมพ์แจ้งราคากลับมาแล้ว ใครสนใจ จิ้มเลย :D (รายละเอียดอยู่ในตอนที่ 12 นะคะ)


     

    Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×