ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hysteria Of Love [KYUMIN]

    ลำดับตอนที่ #11 : Hysterie Of Love (ตอนที่9)

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 52


    Hysterie Of Love (ตอนที่9)

     

     

    (ความจริง)

     

     

     

              ห้องรับแขก  ณ.คฤหาสตระกูลโจ

     

     

    ซองมินมานั่งก่อนสิ ^^ ” ฮันกยองยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ซองมิน

     

     

    พี่มีอะไรกับผมหรอครับ ถึงต้องมาคุยกันสองคนแบบนี้หนะ ซองมินนั่งพร้อมกับถามกลับด้วยความสงสัยอย่างมากมาย

     

     

    พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเราหนะ มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนๆนึงเลยนะฮันกยองพูดด้วยสีหน้าวิตกกลัวว่าเมื่อเขาบอกความจริงกับซองมินไปแล้วซองมินจะไม่ยอมช่วยคยูต่อไป

     

     

    แล้วมันเรื่องอะไรละครับพี่ก็บอกผมมาซักทีสิ ผมอยากรู้แล้วนะครับ ^^ ” ซองมินพูดด้วยสีหน้าที่ตรงข้ามกับจิตใจของเขาในตอนนี้มากเพราะหน้าตาของเขาดูอ่อนโยนและอบอุ่น แต่ในจิตใจของเขาตอนนี้มันเรียบเฉยและเย็นชาดั่งภูเขาน้ำแข็งไปแล้ว

     

     

    เอ่อคือ พี่..........เอ่อคือ..............พี่อยากบอกเรื่องของเอ่อ.. ฮันกยองพูดติดๆขัดๆด้วยความกังวล

     

     

    เรื่องของอะไรละครับพี่ฮัน เอ่อคือ....เอ่อคืออยู่นั่นแล้วเมื่อไหร่ผมจะรู้เรื่องละครับ

     

     

    พี่จะบอกเรื่องที่เกี่ยวกับคยูฮยอนหนะ คือคยูมันเป็นโรคร้ายชนิดหนึ่งซึ่งมันต้องการคนดูแลเป็นพิเศษ แล้วที่มันทำไม่ดีกับนายสารพัดหนะมันแค่อยากรู้ว่าถ้าอาการของมันกำเริบนายจะรับไหวรึป่าว และที่มันดูเย็นชาและร้ายกาจกับทุกคนหนะ คยูมันก็แค่อยากปกปิดความอ่อนแอที่มีก็เท่านั่น

    แล้วคนที่มันอยากให้ดูแลและอยู่ข้างๆมันมากที่สุดก็คือนายนะซองมิน พี่ก็อยากบอกกับนายแค่นี่แหละพี่อยากให้นายเข้าใจคยูมันซักทีพี่รู้สึกสงสารน้องพี่หนะ ฮันกยองบอกความจริงกับซองมิน

     

     

    พี่ฮันครับแล้ว คยูเขาเป็นโรคอะไรครับ

     

     

    ฮิสทีเรีย ชนิดขาด sex ไม่ได้หนะ

     

     

    ห๊า!!!! ฮิสทีเรีย ชนิดขาด sex ไม่ได้ ซองมินเมื่อได้ยินชื่อของโรคที่คยูเป็นก็ตกใจมากเพราะเขาไม่เคยรู้จักกับโรคนี้มาก่อน คยูนายเป็นโรคร้ายหรอกหรอ แต่ทำไมนายไม่บอกชั้นละที่นายดูเย็นชาและร้ายกาจนายแค่อยากปกปิดความอ่อนแอจริงๆหนะหรอ? เรื่องราวต่างๆที่ได้ฟังมาจากฮันกยองทำให้ในหัวของซองมินมีแต่คำถาม และมันเป็นคำถามที่ยังคงต้องค้างคาอยู่อย่างนั่นในตอนนี้ซองมินรู้สึกสับสนอย่างมาก เขารู้สึกสงสารคยูแต่อีกด้านของใจเขาก็คิดที่จะแก้แค้นคยู

     

     

    ซองมิน ซองมิน ซองมิน ....ซองมิน!!! ” ฮันกยองเห็นซองมินเงียบไปจึงเรียกซองมิน

     

     

    คะ...ครับ

     

     

    นายเหม่ออะไรอยู่หนะ คิดอะไรอยู่มีอะไรไม่สบายใจรึป่าวบอกพี่ได้นะ

     

     

    ป่าวครับ ผมแค่สงสัยกับโรคที่คยูเป็นหนะครับ คยูเขาเป็นเพล์บอยหรอครับเขาถึงได้เป็นโรคนี้หนะ ซองมินถามฮันกยองเพราะตัวเขาอยากรู้มากว่าคยูเป็นโรคนี้ได้ยังไง

     

     

    ป่าวหรอกคยูหนะโชคร้ายมากนะ ความจริงแล้วคยูหนะก่อนหน้าที่เขาจะเป็นโรคเขายังบริสุทธิ์อยู่แต่เพราะเขากินอาหารที่มีเชื้อโรคที่เป็นพาหะของโรคนี้เข้าไป เขาเลยเป็นโรคนี้จากนั้นเขาก็น่าสงสารมาก คยูหนะมันยังเกลียดตัวเองเลยที่เป็นโรคแบบนี้หนะพี่ก็ไม่รู้จะบอกมันยังไงดีเลยอยากให้นายช่วยดูแลคยูมันหน่อย มันน่าสงสารมากเลยนะ ฮันกยองพูดด้วยความสงสารน้องชายจับใจเขาอยากให้ซองมินเข้าใจคยูและช่วยดูแลคยูมาก เพราะซองมินเป็นคนเดียวที่ดูแล้วจะช่วยคยูได้

     

     

    ครับ ผมจะช่วยดูแลน้องชายของพี่ฮันนะ แต่แค่3เดือนตามที่ตกลงไว้นะครับ ซองมินยื่นข้อเสนอที่ฮันกยองไม่มีสิทธิที่จะเลือกแล้ว แต่ในตอนนี้สำหรับฮันกยอง 3เดือนมันอาจจะทำให้ซองมินเข้าใจอะไรหลายๆอย่างในตัวคยูก็ได้

     

     

    อืม ตกลงเอาเป็นว่าซองมินอยู่ที่นี่เพื่อจะดูแลคยู 3เดือนนะ

     

     

    ครับ ^^ ”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

                    โรงพยาบาลโซล

     

     

     

    เย้ๆ ดีใจจังเลยได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เสียงใสๆของจองซูที่ตะโกนออกมาเหมือนเด็กๆ

     

     

    นี่! นายจะบ้ารึไงหนะเบาๆหน่อยก็ได้ชั้นอายเขาฮีชอลเพื่อนรักบอกจองซูอย่างดุๆ

     

     

    ก็คนมันดีใจนินอนอยู่ในโรงพยาบาลตั้งหลายอาทิตย์แนะ มันน่าเบื่อจะตายไป จองซูพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงแบบที่ฮีชอลไม่ได้ยินเสียงแบบนี้จากจองซูตั้งแต่เขามาเฝ้าจองซูที่โรงพยาบาลเลย

     

     

    อ๊ะ.....  ฮีชอลร้องขึ้นเมื่อมีร่างหนึ่งมาชนเขาอย่างจัง

     

     

    เอ่อ ขอโทษนะครับผมไม่ทันมองอะ

     

     

    โอ้ย ทำไมไม่หัดดูทางซะบ้าง เดินชนคนอื่นไปทั่วเลยนี่ถ้าชั้นกระดูกกระเดี้ยวหักจะทำไงละเนี้ยห๊ะ!”  ฮีชอลโวยวายลั่นโรงพยาบาล

     

     

    อ่า ผมก็ขอโทษแล้วนิครับจะเอาอะไรอีก แล้วอีกอย่างคุณก็ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้นซักหน่อยนิ ร่างสูงพูดปรามฮีชอลอย่างอายๆเพราะตอนนี้ทั้งหมอ พยาบาล คนไข้ มองมาทางเขาทั้งสามเป็นตาเดียว (ไรเตอร์:อิอิ อย่าลืมนะคะว่ามีจองซูอยู่ด้วยหนะ)

     

     

    อ่าวพูงี้ก็สวยหนะสินายหนะชนชั้นถึงชั้นไม่เป็นไรยังไงนายก็ต้องรับผิดชอบนะ

     

     

    อ่า แล้วคุณจะให้ผมรับผิดชอบยังไงครับ รีบบอกมาผมจะรีบไปทำธุระนะ

     

     

    เอางี้นายช่วยไปส่งชั้นกับเพื่อนที่บ้านหน่อยได้ป่าวละหึ~” ฮีชอลพูดเชิดหน้าใส่ชายร่างสูง

     

    ตอนนี้หนะหรอ คือผมไม่ว่างอะครับเอาไว้วันหลังเดี๋ยวผมจะนัดคุณไม่เลี้ยงมื้อค่ำนะครับนี่นามบัตรผมครับ ผมต้องไปทำธุระก่อนหนะ ชายร่างสูงบอกก่อนจะหันหลังเดินไป แต่เขายังไม่ทันที่จะก้าวท้าวไปไหนไกลก็มีเสียง

     

    โอ้ยๆๆๆๆ ช่วยด้วยครับเขาคนนั้นชนผมอย่างแรงแล้วไม่รับผิดชอบครับ ฮีชอลโวยวายดังกว่าเดิมแล้วชี้ไปทางชายร่างสูงคนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายร่างสูงเดินกลับมาทางฮีชอลและจองซูและก็เข้ามาลากฮีชอลออกจากโรงพยาบาลไป

     

     

    อ่าในที่สุดก็มีเวลามาอัพซักทีคะ

    ต้องขอโทษผู้อ่านทุกคนนะคะที่ทำให้รอนาน

    คือช่วงนี้ไรเตอร์ติดกิจกรรมของมหาวิทยาลัยอะคะ

    เลยไม่มีเวลามาอัพซักทีแต่คราวนี้จะมาอัพบ่อยๆนะคะ

    จะไม่ให้รอนานนักคะ

    P.s. ตอนต่อไปจะเป็นไง ขอ 20 เม้นนะคะ แอบเพิ่มอิอิ

    นุ่นเราขอติดตอน10ไว้ก่อนนะแล้วะรีบมาอัพลงให้เม้นให้ด้วยนะ

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×