คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Hysterie Of Love (ตอนที่9)
Hysterie Of Love (ตอนที่9)
(ความจริง)
ห้องรับแขก ณ.คฤหาสตระกูลโจ
“ซองมินมานั่งก่อนสิ ^^ ” ฮันกยองยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ซองมิน
“พี่มีอะไรกับผมหรอครับ ถึงต้องมาคุยกันสองคนแบบนี้หนะ” ซองมินนั่งพร้อมกับถามกลับด้วยความสงสัยอย่างมากมาย
“พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเราหนะ มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนๆนึงเลยนะ”ฮันกยองพูดด้วยสีหน้าวิตกกลัวว่าเมื่อเขาบอกความจริงกับซองมินไปแล้วซองมินจะไม่ยอมช่วยคยูต่อไป
“แล้วมันเรื่องอะไรละครับพี่ก็บอกผมมาซักทีสิ ผมอยากรู้แล้วนะครับ ^^ ” ซองมินพูดด้วยสีหน้าที่ตรงข้ามกับจิตใจของเขาในตอนนี้มากเพราะหน้าตาของเขาดูอ่อนโยนและอบอุ่น แต่ในจิตใจของเขาตอนนี้มันเรียบเฉยและเย็นชาดั่งภูเขาน้ำแข็งไปแล้ว
“เอ่อคือ พี่..........เอ่อคือ..............พี่อยากบอกเรื่องของเอ่อ..” ฮันกยองพูดติดๆขัดๆด้วยความกังวล
“เรื่องของอะไรละครับพี่ฮัน เอ่อคือ....เอ่อคืออยู่นั่นแล้วเมื่อไหร่ผมจะรู้เรื่องละครับ”
“พี่จะบอกเรื่องที่เกี่ยวกับคยูฮยอนหนะ คือคยูมันเป็นโรคร้ายชนิดหนึ่งซึ่งมันต้องการคนดูแลเป็นพิเศษ แล้วที่มันทำไม่ดีกับนายสารพัดหนะมันแค่อยากรู้ว่าถ้าอาการของมันกำเริบนายจะรับไหวรึป่าว และที่มันดูเย็นชาและร้ายกาจกับทุกคนหนะ คยูมันก็แค่อยากปกปิดความอ่อนแอที่มีก็เท่านั่น
แล้วคนที่มันอยากให้ดูแลและอยู่ข้างๆมันมากที่สุดก็คือนายนะซองมิน พี่ก็อยากบอกกับนายแค่นี่แหละพี่อยากให้นายเข้าใจคยูมันซักทีพี่รู้สึกสงสารน้องพี่หนะ” ฮันกยองบอกความจริงกับซองมิน
“พี่ฮันครับแล้ว คยูเขาเป็นโรคอะไรครับ”
“ฮิสทีเรีย ชนิดขาด sex ไม่ได้หนะ”
“ห๊า!!!! ฮิสทีเรีย ชนิดขาด sex ไม่ได้” ซองมินเมื่อได้ยินชื่อของโรคที่คยูเป็นก็ตกใจมากเพราะเขาไม่เคยรู้จักกับโรคนี้มาก่อน คยูนายเป็นโรคร้ายหรอกหรอ แต่ทำไมนายไม่บอกชั้นละที่นายดูเย็นชาและร้ายกาจนายแค่อยากปกปิดความอ่อนแอจริงๆหนะหรอ? เรื่องราวต่างๆที่ได้ฟังมาจากฮันกยองทำให้ในหัวของซองมินมีแต่คำถาม และมันเป็นคำถามที่ยังคงต้องค้างคาอยู่อย่างนั่นในตอนนี้ซองมินรู้สึกสับสนอย่างมาก เขารู้สึกสงสารคยูแต่อีกด้านของใจเขาก็คิดที่จะแก้แค้นคยู
“ซองมิน ซองมิน ซองมิน ....ซองมิน!!! ” ฮันกยองเห็นซองมินเงียบไปจึงเรียกซองมิน
“คะ...ครับ”
“นายเหม่ออะไรอยู่หนะ คิดอะไรอยู่มีอะไรไม่สบายใจรึป่าวบอกพี่ได้นะ”
“ป่าวครับ ผมแค่สงสัยกับโรคที่คยูเป็นหนะครับ คยูเขาเป็นเพล์บอยหรอครับเขาถึงได้เป็นโรคนี้หนะ” ซองมินถามฮันกยองเพราะตัวเขาอยากรู้มากว่าคยูเป็นโรคนี้ได้ยังไง
“ป่าวหรอกคยูหนะโชคร้ายมากนะ ความจริงแล้วคยูหนะก่อนหน้าที่เขาจะเป็นโรคเขายังบริสุทธิ์อยู่แต่เพราะเขากินอาหารที่มีเชื้อโรคที่เป็นพาหะของโรคนี้เข้าไป เขาเลยเป็นโรคนี้จากนั้นเขาก็น่าสงสารมาก คยูหนะมันยังเกลียดตัวเองเลยที่เป็นโรคแบบนี้หนะพี่ก็ไม่รู้จะบอกมันยังไงดีเลยอยากให้นายช่วยดูแลคยูมันหน่อย มันน่าสงสารมากเลยนะ” ฮันกยองพูดด้วยความสงสารน้องชายจับใจเขาอยากให้ซองมินเข้าใจคยูและช่วยดูแลคยูมาก เพราะซองมินเป็นคนเดียวที่ดูแล้วจะช่วยคยูได้
“ครับ ผมจะช่วยดูแลน้องชายของพี่ฮันนะ แต่แค่3เดือนตามที่ตกลงไว้นะครับ” ซองมินยื่นข้อเสนอที่ฮันกยองไม่มีสิทธิที่จะเลือกแล้ว แต่ในตอนนี้สำหรับฮันกยอง 3เดือนมันอาจจะทำให้ซองมินเข้าใจอะไรหลายๆอย่างในตัวคยูก็ได้
“อืม ตกลงเอาเป็นว่าซองมินอยู่ที่นี่เพื่อจะดูแลคยู 3เดือนนะ”
“ครับ ^^ ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โรงพยาบาลโซล
“เย้ๆ ดีใจจังเลยได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว” เสียงใสๆของจองซูที่ตะโกนออกมาเหมือนเด็กๆ
“นี่! นายจะบ้ารึไงหนะเบาๆหน่อยก็ได้ชั้นอายเขา”ฮีชอลเพื่อนรักบอกจองซูอย่างดุๆ
“ก็คนมันดีใจนินอนอยู่ในโรงพยาบาลตั้งหลายอาทิตย์แนะ มันน่าเบื่อจะตายไป” จองซูพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงแบบที่ฮีชอลไม่ได้ยินเสียงแบบนี้จากจองซูตั้งแต่เขามาเฝ้าจองซูที่โรงพยาบาลเลย
“อ๊ะ.....” ฮีชอลร้องขึ้นเมื่อมีร่างหนึ่งมาชนเขาอย่างจัง
“เอ่อ ขอโทษนะครับผมไม่ทันมองอะ”
“โอ้ย ทำไมไม่หัดดูทางซะบ้าง เดินชนคนอื่นไปทั่วเลยนี่ถ้าชั้นกระดูกกระเดี้ยวหักจะทำไงละเนี้ยห๊ะ!” ฮีชอลโวยวายลั่นโรงพยาบาล
“อ่า ผมก็ขอโทษแล้วนิครับจะเอาอะไรอีก แล้วอีกอย่างคุณก็ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้นซักหน่อยนิ” ร่างสูงพูดปรามฮีชอลอย่างอายๆเพราะตอนนี้ทั้งหมอ พยาบาล คนไข้ มองมาทางเขาทั้งสามเป็นตาเดียว (ไรเตอร์:อิอิ อย่าลืมนะคะว่ามีจองซูอยู่ด้วยหนะ)
“อ่าวพูงี้ก็สวยหนะสินายหนะชนชั้นถึงชั้นไม่เป็นไรยังไงนายก็ต้องรับผิดชอบนะ”
“อ่า แล้วคุณจะให้ผมรับผิดชอบยังไงครับ รีบบอกมาผมจะรีบไปทำธุระนะ”
“เอางี้นายช่วยไปส่งชั้นกับเพื่อนที่บ้านหน่อยได้ป่าวละหึ~” ฮีชอลพูดเชิดหน้าใส่ชายร่างสูง
“ตอนนี้หนะหรอ คือผมไม่ว่างอะครับเอาไว้วันหลังเดี๋ยวผมจะนัดคุณไม่เลี้ยงมื้อค่ำนะครับนี่นามบัตรผมครับ ผมต้องไปทำธุระก่อนหนะ” ชายร่างสูงบอกก่อนจะหันหลังเดินไป แต่เขายังไม่ทันที่จะก้าวท้าวไปไหนไกลก็มีเสียง
“โอ้ยๆๆๆๆ ช่วยด้วยครับเขาคนนั้นชนผมอย่างแรงแล้วไม่รับผิดชอบครับ” ฮีชอลโวยวายดังกว่าเดิมแล้วชี้ไปทางชายร่างสูงคนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายร่างสูงเดินกลับมาทางฮีชอลและจองซูและก็เข้ามาลากฮีชอลออกจากโรงพยาบาลไป
อ่าในที่สุดก็มีเวลามาอัพซักทีคะ
ต้องขอโทษผู้อ่านทุกคนนะคะที่ทำให้รอนาน
คือช่วงนี้ไรเตอร์ติดกิจกรรมของมหาวิทยาลัยอะคะ
เลยไม่มีเวลามาอัพซักทีแต่คราวนี้จะมาอัพบ่อยๆนะคะ
จะไม่ให้รอนานนักคะ
P.s. ตอนต่อไปจะเป็นไง ขอ 20 เม้นนะคะ แอบเพิ่มอิอิ
นุ่นเราขอติดตอน10ไว้ก่อนนะแล้วะรีบมาอัพลงให้เม้นให้ด้วยนะ
ความคิดเห็น