คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 [100%]
บทที่ 3
ประตูร้านค่อยๆเปิดออกในยามเช้าอีกครั้ง แสงสีส้มค่อยๆสาดเข้าไปภายในร้านเล็กน้อย พอให้เห็นว่าอะไรอยู่ตรงไหนก่อนจะปรากฏร่างคนทั้งสี่ที่เดินเข้ามาเพื่อเตรียมเปิดร้านอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาสิบโมงกว่า ร้านก็ถูกเปิดเพื่อต้อนรับลูกค่าเฉกเช่นปรกติ
ประตูร้านค่อยๆเปิดออกในยามเช้าอีกครั้ง แสงสีส้มค่อยๆสาดเข้าไปภายในร้านเล็กน้อย พอให้เห็นว่าอะไรอยู่ตรงไหนก่อนจะปรากฏร่างคนทั้งสี่ที่เดินเข้ามาเพื่อเตรียมเปิดร้านอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาสิบโมงกว่า ร้านก็ถูกเปิดเพื่อต้อนรับลูกค่าเฉกเช่นปรกติ
“เจ๊..”
เสียงทุ้มของณัฐวุฒิดังขึ้นหลังจากเปิดร้านเสร็จ ทำให้คนที่กำลังทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองคนที่ส่งเสียงเรียก
“ว่าไง”
“ผมควรจะทำยังไงให้ภัสเลิกลวนลามผม”
อภิญญามองเขา ก่อนจะหลุดขำออกมากับคำถามทื่อๆเช่นนี้
“ไม่ขำนะเจ๊ ผมซีเรียส!” ณัฐวุฒิยังคงเสียงหนักแน่น
“วิธีน่ะง่ายจะตายไปนัท แต่เรานั่นแหละที่ไม่ทำ”
ณัฐวุฒิยังคงตีหน้างุนงง ในขณะที่เจ้าของร้านสาวกวักมือเขาเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะกระซิบอะไรบางอย่างให้เขาฟัง
ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างสนใจ ไม่นานนักเขาก็ตกลงใจที่จะใช้วิธีของเธอ
รอก่อนเถอะ ปภัสรา วันนี้เธอเสร็จฉันแน่!!
**********************************************************
เสียงพูดคุยของศริดาและปภัสราดังขึ้นหลังจากประตูร้านถูกเปิด หญิงสาวทั้งสองคุยกันอย่างถูกคอ ทว่ากลับถูกขัดเสียก่อน
“มาถึงก็เสียงดังกันเลยนะ”
ธนวันต์ หรือ วันต์ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พูดขึ้น ในขณะที่หญิงสาวอีกคนก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาทำงาน
“นี่ก็เจ้าแม่เลทตลอด”
เสียงของธนวันต์ยังคงพูดออกมา ในขณะที่ ปกรณ์ พยักหน้าเห็นด้วย
“ยุ่งอะไรด้วยล่ะวันต์ ไอ้หน้าหนอนด้วย คนเขากำลังคุยกันถึงความหมายของดอกไม้ต่างๆ พวกแข็งกระโด๊กที่เอาแต่พูดกัดคนอื่นอย่างพวกนายจะมาเข้าใจได้ไงยะ!”
ศริดาจงใจเน้นคำว่า ‘กัด’ ไปทาง ปกรณ์ ก่อนจะทำตัวเป็นผู้มีความรู้ขึ้นมา
“พี่ภัสน่ะ เก่งมากเลยนะ รู้ความหมายของดอกไม้ตั้งเยอะ! ถามปุ๊ป ตอบได้ปั๊ป ตอนนี้ฉันเองก็เข้าขั้นเทพแล้วนะยะขอบอก”
“หน้าอย่างพี่ภัสเนี่ยนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะรู้ภาษาดอกไม้”
สุพรรษาพูดพลางจัดแจงวางกระเป๋าลงในตู้เก็บของ อย่างรีบร้อน ในขณะที่ปภัสรารู้สึกอยากเตะก้นเด็กแถวนี้ชอบกล
“แซวเล่นน่าพี่ภัส รักหรอกถึงหยอกเล่น”
“แล้วทำไมถึงมาสาย”
เสียงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น แต่ยังไม่มีใครรู้ตัวว่าภัยกำลังจะมาเยือน สุพรรรษาจึงยังเล่นมุกตอบกลับไป
“ก็แหม... มัวแต่ไปปลูกปะการังดำน้ำทำสวนเล่นโยคะมาอ่ะ”
พูดจบเธอก็รีบจัดแจงแต่งตัว แต่แล้วเสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“งั้นลาออกไปปลูกปะการังดำน้ำทำสวนเล่นโยคะเลยมั้ย?”
ทุกใบหน้าหันกลับไปมองต้นตอเสียง ก่อนจะรีบลุกขึ้นทำการทักทายเจ้าของร้านพลางหัวเราะแหยๆ และเดินแยกย้ายไปทำงานกันทันที
อภิญญาเดินกลับไปนั่งทำงาน ในขณะที่ทุกคนเข้าประจำที่เตรียมทำงานอีกครั้ง
อาหารต่างๆถูกส่งต่อไปถึงลูกค่าที่พากันทยอยเข้ามาอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่เที่ยงจนถึงช่วงทุ่มกว่าๆ คนทำอาหารทั้งหลายแทบจะพากันสลบเพราะวันนี้ลูกค่านั้นเยอะจนไม่ได้พักกัน แน่นอนว่ารวมไปถึงเหล่าบริกรทั้งหลายที่เมื่อถึงเวลาปิดร้านแล้วต่างก็พากันขอนั่งพักสักครู่ เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยกับงานที่ทำมาทั้งวัน
ปภัสราเดินออกจากมาครัวเมื่อทำงานของตนเสร็จ เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะในสุดของมุมๆ พลางยกมือขึ้นมาพัดป้อยๆด้วยความร้อนจากสภาพอากาศ
พลันดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วต้องโตหนักกว่าเดิม เธอรีบมุดลงไปใต้โต๊ะ และรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจนหัวชนขอบโต๊ะ
“โอ๊ย!”
หญิงสาวยกมือขึ้นมาลูบหัวเบาๆเหมือนต้องการให้ตนทุเลาความเจ็บ ปากบ่นพึมพำเบาๆถึงเรื่องความซวยของตน ก่อนจะลุกขึ้นอีกครั้งและเดินออกมาจากบริเวณนั้น เวลานี้ใจอยากจะกลับไปพัก ทว่าเมื่อออกมาพบกับณัฐวุฒิที่เพิ่งทำงานเสร็จความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป
ใบหน้าสวยคมยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เธอรีบเดินไวๆไปขวางเขา ก่อนจะเอ่ยวลีติดปากออกมาอีกครั้ง
“นัท ขอเขี่ยหัวนมหน่อยสิ”
หญิงสาวพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี ในใจนึกสนุกที่จะได้เห็นคนแถวนี้ยืนกรี๊ดลั่นอีกรอบ แต่ผลกลับกลายเป็นว่า ชายหนุ่มยังคงยืนยิ้มร่า ยังผลให้คนที่ขอเริ่มรู้สึกหนาวๆร้อนๆชอบกล และถึงกับอ้าปากค่างเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“ได้สิ แต่แลกกันนะ ภัสจับของเรา เราจับของภัส ภัสเขี่ยเรา เราเขี่ยกลับ โอเคนะ เอ้า ลุยเลย!”
ปภัสราส่ายหัวไปมา ขาทั้งสองค่อยๆก้าว แต่เธอยังคงทำใจดีสู้เสืออยู่
“ไม่เอาน่านัท เราจะให้นัทจับได้ไง เราเป็นผู้หญิงนะ น่านัท ขอเขี่ยหัวนมหน่อย”
“ได้ แต่เราขอเขี่ยของภัทก่อน มาๆ ขอเขี่ยหัวนมหน่อย” ปภัสราอ้าปากค่าง แหงล่ะ! เธอไม่เคยเจอเขามารูปแบบนี้ แถมยังใบหน้าที่เขาทำอีกล่ะ บอกตรงๆ หื่นโคตร!!
“นัท! ไม่ได้ไง! เราเป็นผู้หญิง”
“อะไรภัส ขอจับแค่นี้ไม่ได้หรอ เออ! ใช่ซี้! ขอจับแค่นี้ไม่ได้ ใช่ซี้ งั้นไม่ต้องมาคุยกับเราเลยนะ”
ปภัสราแทบจะเป็นลม ชายหนุ่มเล่นเอาคำของเธอมาย้อนเสียหมด จนเธอตามไม่ทัน แล้วเธอควรจะสวนกลับไปยังไงกันเล่า!!
“ว่าไงภัส เออ ใช่ซี้ๆ งั้นเรากลับละนะ ขอจับแค่นี้ก็ไม่ได้”
พูดจบเขาก็เดินจากไปด้วยมาดกลั้นขำ ส่วนปภัสรารีบวิ่งตามออกไปพลางพูดอีกครั้ง
“น้าทท ขอจับ...”
ไม่ทันจะพูดจบ ณัฐวุฒิก็ตอกกลับไปทันที
“ภ้าสสส เราขอจับนมหน่อยสิ ไม่งั้นเราไม่ให้เขี่ยหรอกนะ”
พูดจบเขาก็ปลดกระดุมเม็ดแรกและปลดเสื้อลงเล็กน้อยโชว์ไหล่ พลันทำหน้าเขินอายและแอบมองเธออย่างเขินอาย
แต่ในสายตาของปภัสราแล้ว ท่าของเขาอย่างสตรอเบอร์รี่เลย!!
“ว่าไงภ้าสส” เขาจงใจลากเสียง “ขอจับนมหน่อย เราให้จับกลับทันทีเลยนะถ้าภัสให้เราจับนะ นี่ปลดกระดุมรอแล้วนะเนี่ย อ้อ! ใช่ซี้ ขอจับนิดจับหน่อยไม่ให้หรอ ใช่ซี้”
ปภัสราถอยหนีออกมา เธอส่ายหัวไปมาราวกับไม่เชื่อสายตาและหูของตน ก่อนจะวิ่งหนีไปพลางตะโกนไปพลาง
“ม้ายยย!! นัทกลายเป็นไอ้หื่นไปแล้ววว!!”
ชายหนุ่มหัวเราะออกมาดังลั่น วิธีของอภิญญาใช้ได้ผลจริงๆ และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะเริ่มตอบกลับเธอยังไง
“ไว้เจอกันยกหน้า ยัยหื่น!!!”
**********************************************************
เสียงจ้อกแจ้กในร้านดังขึ้นหลังจากพนักงานเริ่มเข้างานกันเกือบครบ แต่แล้วก็ต้องเงียบเมื่อพบว่าลูกค่าคู่แรกเปิดประตูเข้ามาแล้ว
“เจ้าของร้านอยู่มั้ย”
เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเดินเข้ามาในร้านด้วยสีหน้านิ่งเฉยพร้อมกับหญิงสาวอีกคนดังขึ้นถามสุพรรษา ซึ่งเธอเองก็จำได้ว่า เขาเป็นลูกค่าที่มารับประทานอาหารเมื่อวานช่วงหัวค่ำ
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณ”
บริกรสาวเริ่มสอบถามอย่างสุภาพ ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับคือการตวาดจากหญิงสาวที่มาด้วยกัน
“ยุ่ง! พวกเราจะมาคุยกับเจ้าของร้าน เธอเป็นเจ้าของรึไงยะ!!”
คำพูดของเธอทำให้สุพรรษาอยากร้องไห้และรีบออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้น ธนวันต์เองก็ได้ยินประโยคที่เขาต่อว่าหญิงสาวเต็มสองหู เวลานี้เขาอยากเข้าไปตบปากผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้า ที่กล้ามาว่าผู้หญิงที่ตนชอบอยู่
มือเล็กดึงชายเสื้อของธนวันต์เอาไว้ ก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างต้องการห้ามว่าไม่ให้มีเรื่อง
“รอสักครู่นะคะ”
คราวนี้เป็นเสียงของศศิกานต์ หรือ กานต์ สาวรุ่นพี่ผู้ริเริ่มการเรียกณัฐวุฒิว่า ‘หมั่นโถว’ เธอยิ้มให้กับลูกค่าอย่างสุภาพ และปล่อยมือออกจากเสื้อของชายหนุ่ม ก่อนจะเริ่มโทรตามอภิญญา
เสียงพูดคุยและบอกเล่ารายละเอียดหลุดออกจากปากบาง ไม่นานโทรศัพท์ก็ถูกตัดสายไป ศศิกานต์จึงหันกลับมารับหน้าอีกครั้ง
“ตอนนี้คุณอภิญญากำลังเดินทางมาค่ะ คุณลูกค่ามีอะไรให้ช่วยหรือคะ กานต์จะได้รับเรื่องไว้ให้ก่อน”
“เมื่อวานผมลืมมือถือไว้ที่นี่” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส แม้จะพูดยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ และน้ำเสียงดูเหมือนจะสั่นๆเสียด้วย “ผมโทรเข้าเบอร์ผมหลายรอบแล้ว แต่มันไม่ติด”
ศศิกานต์จ้องหน้าเขาเพียงครู่ ก่อนจะนำกำปั้นไปทุบบนฝ่ามือเล็กๆราวกับคิดอะไรออก
“คุณที่นั่งอยู่บริเวณโต๊ะสิบห้าสินะคะ กานต์จำได้เพราะคุณหล่อ ดูจากมาดแล้วเหมือนเจ้าพ่อเซี้ยงไฮ้แบบเป๊ะเวอร์!”
ศศิกานต์พูดด้วยรอยยิ้มร่า ใช้คำชมหวังให้อีกฝั่งหายโมโหเบาๆ และมันใช้ได้ผลดีเสียด้วย เพราะฝั่งคนถูกชมเบนหน้าหลบทันทีด้วยไม่อยากให้ใครเห็นว่าตนนั้นกำลังหน้าแดงอยู่
ศศิกานต์นั้นพอจะดูออก เพราะหูของเขานั้นก็แดงแปร๊ดตามใบหน้า แต่ที่เตะตานั้นน่าจะเป็นบลูทูธที่ติดอยู่ที่ใบหูเขามากกว่า
แต่ผู้ชายตรงหน้านี้.. มองๆแล้ว เหมือนเม่นมากๆ ดูอันตราย แต่ก็ขี้อายอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่แล้วก็ต้องหยุดความคิด เพราะเหมือนเธอจะได้ยินเสียงคนพูดออกมาด้วยคำพูดที่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ตนอาจจะหูแว่วไปเองก็ได้
“นี่ร้านอาหารหรือสถานที่ขายตัวกันแน่ยะ! ถึงได้มีผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายมายืนอ่อยผู้ชายถึงที่ขนาดนี้”
ศศิกานต์ตาโตกับคำพูดของเธอ แต่แล้วใบหน้าสวยหวานก็ยิ้มอีกมาอีกครั้งก่อนจะพูดต่อ
“กานต์แค่ชมเองนะคะ มันคงจะเป็นบาปสินะคะที่กานต์ดันเกิดมาแล้วช่างสวย เซ็กซี่ หุ่นดีเสียนี่กระไร แถมยังเป็นคนน่ารัก พูดเก่ง เฮ้อ... สาธยายมากแล้วก็กลัวจะรับกันไม่ได้นะคะ แต่ไม่เป็นไรนะคะทุกคน กานต์เข้าใจได้ค่ะว่าทุกคนกำลังเครียด กานต์ก็แค่อยากจะลองพูดยาวๆในสถานการณ์ตึงเครียดนี่ดูเฉยๆ อ้อ! ขอตอบคำถามนะคะหลังจากพูดอะไรมายืดยาวขนาดนี้ ที่นี้ร้านอาหารค่ะ ไม่ใช่ที่ขายตัว แต่ถ้าคนตรงหน้าหล่อจนน่าอ่อยขนาดนี้ ใครไม่เอา กานต์เอานะคะ”
ศศิกานต์พูดพลางขยิบตาให้ตามประสาสาวอารมณ์ดี แต่มันกลับไปเพิ่มดีกรีความโมโหให้แก่หญิงสาวตรงหน้า ทว่าชายหนุ่มกลับพยายามกลั้นขำสุดฤทธิ์
“นี่แก!”
“หยุด!! ผมแค่มาถามหามือถือ คุณก็เงียบปากเสียทีเกศินี หนวกหู!”
เขายังคงวางมาดได้เป็นอย่างดี ในสายตาของศศิกานต์ จากการแต่งตัว การใช้คำพูดและการวางท่า รวมถึงรถที่จอดอยู่ด้วยแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นคนต่างชาติ เพราะหน้าคล้ายหมั่นโถวประจำร้าน แต่หล่อกว่ามากแค่นั้น
“ปรกติร้านเราหากใครเจออะไรที่ลูกค่าลืมไว้จะรีบมาแจ้งนะคะ เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ ยังไงกานต์จะลองสอบถามให้ก่อนถ้าหาไม่เจอจริงๆ เอาโนเกียอาม่าของกานต์ไปใช้ก่อนมั้ยคะ รับรองใช้ทนใช้นานในเครื่องเดียว ที่สำคัญ ไหนๆจะเอาไปแล้วก็ขอใจแลกเบอร์โทรเลยละกันนะคะ”
ศศิกานต์โพล่งออกมาอีกครั้งโดยไม่คิดมากว่าจะมีใครอาละวาดหรือไม่ อาจเพราะเธอคิดว่า ตนควรจะเล่นมุกอะไรให้ขำในสภาวะตึงเครียดนี่เสียหน่อย แล้วค่อยรออภิญญามาเคลียร์เองทีหลัง
เสียงประตูร้านถูกเปิดออกอีกครั้ง ก่อนจะปรากฏร่างของอภิญญาและปภัสรา ซึ่งไปซื้อของด้วยกันมา
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?”
“จะเรื่องอะไรล่ะยะ ก็พนักงานร้านหล่อนอ่อยแฟนฉันน่ะสิ!!”
“อะไรนะคะ!!?”
**********************************************************
สวัสดีค่ะ สริมนเองนะคะ ^_^
วันนี้ขอฝากนิยายเรื่อง เบญจมาศลวงรัก ซีรีย์ Blossom LOVE ด้วยนะคะ
หลังจากที่หายเข้ากลีบเมฑไปนานพอสมควร
สำหรับท่านใดที่อ่านนิยายเรื่องนี้แล้ว ก็ขอให้สนุกและมีความสุขมากๆนะคะ หวังว่านิยายเรื่องนี้จะทำให้ท่านๆมีความสุขกัน
และตอนนี้นิยายเรื่องนี้มีแบ E-Book แล้ว สำหรับท่านใดที่ต้องการตามต่อ สามารถตามลิ้งที่อยู่ในเพจสริมนไปต่อได้เลยเด้อ
ขอบคุณด้วยใจค่ะ
รัก
สริมน ^_^
ความคิดเห็น